อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 1 วันที่ 30 ธ.ค. 57

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 1 วันที่ 30 ธ.ค. 57

ทิวัตถ์มาถึงร้านอาหารตามที่สิตาว่า กลับเห็นเธอนั่งจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์ รู้ทันทีว่าถูกหลอกเคืองมากที่เธอให้เขาเข้ากรุงเทพฯด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เธอพยายามรื้อฟื้นความหลังเมื่อครั้งยังรักกันหวานชื่น เขาขอร้องอย่าพูดเรื่องเก่าๆอีกเลย ในเมื่อเรื่องของเรามันเป็นอดีตไปแล้ว สิตาคร่ำครวญว่ายังรักเขาอยู่

“ถ้าตารักผม ตาคงไม่ทิ้งผมไปหรอก...ขอโทษนะตา ผมต้องกลับแล้ว” ทิวัตถ์พูดจบ จ้ำพรวดๆออกจากร้าน โดยมีสิตาไล่ตามติด พร้อมกับตะโกนเรียกให้เขารอด้วย ลิลินเห็นท่าทางแล้ว ฟันธงว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน รีบสาวเท้าตามไปอีกทอดหนึ่งจนทันกันที่ลานจอดรถ ตรงเข้าไปคล้องแขนทิวัตถ์ เรียกเขาว่าที่รัก แสดงตัวว่าเป็นแฟนของเขายั่วสิตาสุดฤทธิ์ เธอโกรธตัวสั่น กระชากลิลินมาตบ ทิวัตถ์ตกใจรีบเข้าไปห้าม


แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ สิตาจะเข้าไปตบซ้ำ เขาต้องดึงตัวไว้ ลิลินยังกวนประสาทไม่เลิก สิตาแค้นมากกรีดร้องห้างฯแทบแตก ทิวัตถ์เห็นท่าไม่ดี ผลักเธอเข้าไปในรถตัวเอง รีบวิ่งไปนั่งประจำที่คนขับ ก่อนจะมองหน้าลิลินด้วยสายตาเอาเรื่อง แล้วเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว ลิลินมองตามอย่างสะใจ...

ดึกวันเดียวกัน หลังกลับจากร้องเพลงเป็นวันสุดท้าย ลิลินโทร.ไปขอลาออก วางสายไม่นาน ครูใหญ่ก็โทร.มาตามให้เธอไปพบ มีของจะให้ เธอพยายามถามว่าของอะไร แต่ท่านไม่ยอมบอก

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ที่บริษัท เอสพี คอนสตรัคชั่น ขณะทรงพลกำลังคุยกับกานดาเลขาฯหน้าห้องตัวเองถึงของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดคืนนี้ มีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากหน้าห้องทำงานของทิวัตถ์ ทั้งคู่รีบออกไปดู เห็นสิตากำลังอาละวาดใส่พนักงานที่ไม่ยอมบอกว่าทิวัตถ์อยู่ไหน

“พอได้แล้ว สิตา ที่นี่ไม่ใช่บริษัทของพ่อเธอที่เธอคิดจะทำอะไรก็ได้”

สิตาหาว่าทรงพลเข้าข้างพนักงานของตัวเอง เขาพยายามขอร้องอย่างใจเย็นให้เธอกลับไป แต่เธอยืนกรานจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะมีคนบอกว่าทิวัตถ์อยู่ไหน ทรงพลตัดรำคาญเชิญเธอรอตามสบายเพราะคงไม่มีใครบอกว่าลูกชายของตนอยู่ที่ไหน แล้วเดินออกไปกับกานดา สิตามองตามเจ็บใจที่เขาไม่สนใจไยดี...

หลังจากคุยเรื่องคดีกับลูกความเรียบร้อย ปรมัตถ์เหลือบไปเห็นร้านขายเพชร ตัดสินใจเข้าไปดูแหวนเพชรวงสวย พลันคำพูดทวงสัญญาของตัวเองที่พูดกับลิลินเมื่อคืนผุดขึ้นมาในความคิดของเขา

“ตอนนี้มัตทำตามสัญญาแล้ว ลินล่ะ ลินเคยสัญญากับมัตว่าลินจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อไหร่ล่ะลิน”...

ด้านลิลินแวะไปรับของที่ครูใหญ่จะมอบให้ ปรากฏว่าเป็นกล่องไม้ใบย่อมใบหนึ่ง

“นี่คือสิ่งที่พ่อของเธอฝากครูเอาไว้ พ่อเธอสั่งให้ครูให้เธอเมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่เหมาะสม”

“ทำไมครูถึงให้หนูตอนนี้คะ”

“เมื่อวานครูเห็นแววตาของเธอ ครูก็รู้ว่า ตอนนี้เธอคงจะเจอในสิ่งที่เธอตามหาแล้วใช่ไหม”...

ปรมัตถ์อุตส่าห์ซื้อแหวนเพชรจะมอบให้ลิลินเป็นเซอร์ไพรส์ กลับต้องเจอเซอร์ไพรส์เสียเองเมื่อมาถึงผับที่เธอทำงาน พบว่าเธอลาออกไปแล้ว เขารีบโทร.หา ลิลินกำลังอยู่บนรถทัวร์ เห็นเบอร์ของเขาโชว์หน้าจอตัดสินใจตัดสายทิ้ง มองกล่องไม้ของพ่อที่อยู่บนตัก ก่อนจะเปิดดู เห็นสร้อยดอกลีลาวดีกับรูปถ่าย อดคิดถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้ ตอนนั้นลิลินแค่ 9 ขวบ เห็นตำรวจกำลังฉุดกระชากลากถูพ่อตัวเอง

โดยมีบุญช่วยและเธอยืนตะโกนให้ปล่อยเขาไปแต่ตำรวจไม่ฟัง ลิลินจะวิ่งตามพ่อ ตำรวจมาขวางไว้ดันให้ถอยหลังจนเด็กน้อยล้มลง พ่อของเธอยังคงตะโกนบอกว่าท่านไม่ฆ่าใคร ซ้ำๆอยู่อย่างนั้น

ลิลินหยิบรูปถ่ายของพ่อที่กำลังอุ้มเธอในวัย 9 ขวบขึ้นมาดู “พ่อ หนูจะทวงความยุติธรรมให้กับพ่อ”

ooooooo

บ้านของทรงพลถูกตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับท่านผู้ว่าฯ แขกเหรื่อเริ่มทยอยเข้างานไม่ขาดสาย ล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญในจังหวัด ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่างท่านผู้ว่าฯ และทรงพล ทำให้แขกบางคนริษยานินทาว่าร้ายเขาต่างๆ นานา ได้ยินถึงหูทรงพลและศุภารมย์ที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

“คนพวกนั้นไม่มีค่าพอที่เราจะไปพูดอะไรหรอกค่ะ” ศุภารมย์ปลอบ

ทั้งคู่เลิกสนใจคำนินทาทันทีเมื่อเห็นท่านผู้ว่าฯ และภริยาก้าวเข้ามาในงาน

อีกมุมหนึ่งบริเวณซุ้มอาหาร ทิวัตถ์กำลังช่วยดูแลแขกเรื่องอาหารการกิน เห็นศักดิ์สิทธิ์เดินเข้ามา ก็ร้องทัก นึกว่าจะไม่มางานนี้แล้ว เขาไม่มาไม่ได้ เป็นห่วงยายเฟื่องเชฟใหญ่ของตัวเอง แล้วหันไปมองเธอที่กำลังทำหอยทอดกระทะร้อนด้วยท่าทางงกๆเงิ่นๆเนื่องจากแก่มากแล้ว ทิวัตถ์แนะให้เขารับสมัครเชฟคนใหม่

“โอ๊ย อยากได้ใจจะขาด แต่จะทำไงวะ ยายเฟื่องแกเป็นคนเก่าคนแก่ตั้งแต่ตอนที่พ่อฉันก่อตั้งโรงแรม แล้วพ่อฉันยังกำชับให้ดูแลแกให้ดีอีก” ศักดิ์สิทธิ์มองยายเฟื่องแล้วอดกลุ้มใจไม่ได้ อนันยชถือแก้วไวน์เข้ามาชวนสองหนุ่มออกไปหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า ทิวัตถ์ส่ายหน้า

“แล้วนายก็อย่าไปเลย วันนี้มีแต่แขกผู้ใหญ่ทั้งนั้น ถ้าเกิดแม่ต่ายรู้ว่านายไม่อยู่มันจะไม่ดีนะ”

“มีแกอยู่ทั้งคนเขาจะถามหาฉันทำไม ถ้างั้นใครถามว่าฉันไปไหนก็บอกไม่รู้แล้วกัน” อนันยชกระดกไวน์หมดแก้วแล้วเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี งานเลี้ยงฉลองวันเกิดท่านผู้ว่าฯดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเสี่ยหาญปรากฏตัวขึ้นพร้อมด้วยกฤษดาและสิตา ลูกๆของเขาทั้งๆที่ไม่รับเชิญ เขาคอยพูดแขวะทรงพลอยู่ตลอด จนเกือบจะมีเรื่องกัน ท่านผู้ว่าฯต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยว่าคนกันเองทั้งนั้น ต่างเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ในจังหวัดด้วยกันทั้งคู่ เพื่อความราบรื่นของงานเลี้ยง ทรงพลกับศุภารมย์จำต้องญาติดีกับพวกเสี่ยหาญ...

ขณะที่เสี่ยหาญถือวิสาสะบุกงานเลี้ยงบ้านทรงพลโดยไม่ได้รับเชิญ ลิลินลงจากรถทัวร์ก็ว่าจ้างรถรับจ้างให้ไปส่งโรงแรมที่อยู่ในตัวเมือง โดยไม่เอะใจว่าคนขับรถรับจ้างมีแผนร้ายแอบแฝงอยู่...

ด้านศักดิ์สิทธิ์เห็นบริกรยกหอยทอดกระทะร้อนที่แขกไม่ยอมแตะผ่านหน้าไปก็กลุ้มใจมาก บ่นให้ทิวัตถ์ฟังว่าขืนเป็นแบบนี้ มีหวังชื่อเสียงโรงแรมของตนต้องป่นปี้แน่ แล้วเหลือบเห็นสิตาตรงรี่เข้ามา รีบสะกิดให้เพื่อนรู้ตัว ทิวัตถ์วานเขาถ่วงเวลาเธอไว้ แล้ววิ่งหนี สิตาจะวิ่งตาม ศักดิ์สิทธิ์ช่วยขวางเต็มที่แต่ไม่สำเร็จ

ทิวัตถ์มายืนพักเหนื่อยอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน เผลอเงยหน้ามองไปที่ห้องซึ่งแม่ของเขาตกลงมา รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แต่ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นแม่ยืนหลบๆอยู่หลังต้นไม้ เขาพยายามเพ่งมองให้แน่ใจว่าเป็นท่านจริงๆ แต่ท่านกลับเดินหนี ทิวัตถ์จะเดินตามอยู่ๆ

สิตาโผล่พรวดมาขวางไว้ เขาสะดุ้งเฮือกร้องลั่น

“วิน เป็นอะไรคะ ทำไมเจอตาต้องตกใจด้วยหรือ”

“เอ่อเปล่าหรอก เมื่อครู่นี้ตาเห็นใครผ่านมาแถวนี้ไหม”

สิตาส่ายหน้าแทนคำตอบ ยิ่งทำให้ทิวัตถ์งุนงงสงสัยกับสิ่งที่ตัวเองเห็น

ooooooo

คนขับรถรับจ้างคิดไม่ซื่อ ขับรถออกนอกเส้นทาง พอถึงที่เปลี่ยวทำทีว่ารถเสีย ลงไปเปิดกระโปรงรถดู ทันใดนั้น เขาพุ่งมาที่ประตูรถด้านที่ลิลินนั่ง แต่เธอรอท่าอยู่ก่อนแล้วเปิดประตูกระแทกจนล้มกลิ้ง ยังไม่ทันจะลุกขึ้นก็เจอเธอเล็งปืนใส่ เขาถึงกับจ๋อยสนิท เธอไล่ตะเพิดเขาไปไกลๆถ้าไม่อยากกินลูกปืนแทนข้าว

ลิลินเดินไปยังฝั่งที่นั่งคนขับเพื่อจะสตาร์ตรถ แต่ไอ้จอมหื่นนั่นดันเอากุญแจติดไปด้วย เธอถึงกับเซ็ง...

ระหว่างที่ลิลินต้องค้างเติ่งอยู่บนถนนเปลี่ยว

เสี่ยหาญกับกฤษดาป่วนงานเลี้ยงไม่เลิก ขุดคุ้ยเรื่องการตายของศุภิสราขึ้นมาพูด ก่อนจะทะเลาะกันใหญ่โต วาสนาพาวรรณิตเข้ามาเสียก่อน ทุกคนต่างตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าที่เหมือนศุภิสราของเธอชัดๆ วรรณิตยกมือไหว้ขอโทษทิวัตถ์ที่ทำให้ตกใจ เขามองเธออย่างงงๆ

“ที่สวนด้านหลังน่ะค่ะ ณิตกลัวคุณวินจะตกใจ ก็เลยยังไม่อยากเจอคุณวินตอนนั้น”

ทิวัตถ์ถึงบางอ้อทันที ผู้หญิงที่เขาคิดว่าเป็นแม่เมื่อครู่นี้คือเธอคนนี้นี่เอง ด้วยความที่วรรณิตเหมือน ศุภิสราราวกับแกะ ทำให้อาการปวดหัวของทิวัตถ์กำเริบ ท่านผู้ว่าฯยังงงไม่หายว่าเกิดอะไรขึ้น

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่แม่หนูนี่หน้าเหมือนกับแม่ของคุณทิวัตถ์ราวกับเป็นคนคนเดียวกัน”

ยิ่งมีคนพูดถึงแม่ อาการปวดหัวของทิวัตถ์ยิ่งรุนแรงขึ้น ภาพของแม่ในอดีตผุดขึ้นมาในหัวของเขาเป็นชุด สิตาไม่พอใจที่วาสนาพาผู้หญิงมาให้ทิวัตถ์ดูตัวก็ต่อว่าแรงๆ ทิวัตถ์ปวดหัวหนักทนต่อไปไม่ไหว ต้องเดินหนี สิตาจะตาม เขาขอร้องว่าอยากอยู่คนเดียว แล้ววิ่งไปขึ้นรถ ขับออกไปอย่างรวดเร็ว...

ทรงพลกับศุภารมย์พาวาสนาและวรรณิตไปคุยกันเป็นการส่วนตัวที่ห้องทำงานของทรงพล ศุภารมย์ต่อว่าวาสนาว่าทำอย่างนี้ทำไม ผู้หญิงคนนี้เหมือนศุภิสราเกินไป เธอก็รู้ว่าพวกเราผ่านอะไรมาโดยเฉพาะทิวัตถ์

“ก็ใช่ไง เพราะฉันรู้ไงว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยคิดว่าบางทีพวกเธออาจต้องการแก้ไขสิ่งที่ผิดในอดีตที่ทำไว้กับแม่ต้อยของฉันไง”

ทรงพลขอร้องให้วรรณิตออกไปรอข้างนอกก่อน พวกตนจะขอคุยกันเป็นการส่วนตัว...

ลิลินเดินมาตามถนนที่เปลี่ยวและมืด ได้ยินเสียงรถแล่นมาจากด้านหลัง รีบเอาผ้าพันคอออกมาโบก

ให้สัญญาณจะขอติดรถไปด้วย ทิวัตถ์ขับรถมาด้วยความเร็วสูงละสายตามองมือถือที่มีสายเรียกเข้า เห็นเป็นเบอร์ของสิตาก็เลยไม่สนใจ พอกลับไปมองที่ถนนอีกทีถึงได้รู้ว่ารถตัวเองแล่นกินทางไปในเลนรถสวน

เขาหักพวงมาลัยกะทันหัน รถเสียหลักพุ่งเข้าหาลิลินที่เดินอยู่ข้างทาง เธอทิ้งทุกอย่างแล้วโดดหลบ หัวกระแทกพื้นหมดสติ ทิวัตถ์รีบจอดรถลงไปดู ด้วยความตกใจทำให้อาการปวดหัวมลายไปสิ้น เขาพลิกตัวคนเจ็บขึ้นมาดู ถึงกับชะงัก ครู่ต่อมาลิลินถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แม้อาการบาดเจ็บของเธอจะไม่หนักหนาแค่คิ้วแตก แต่ทิวัตถ์ก็ไม่วางใจ หมอเจ้าของไข้จึงแนะให้รอดูอาการที่โรงพยาบาลสักวันสองวันก่อน

ทันทีที่ลิลินรู้สึกตัว เป็นห่วงกระเป๋าตัวเองมากเปิดประตูห้องฉุกเฉินออกมาถามหา เหลือบเห็นมันวางอยู่ที่ม้านั่งหน้าห้องจัดแจงจะไปหยิบ ทิวัตถ์ซึ่งกำลังยืนคุยอยู่กับหมอเข้าไปคว้ากระเป๋าไว้ได้ก่อน เธอขอคืน เขาจะให้ก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอไม่เป็นอะไร แล้วหันไปทางหมอ

“หมอครับ สองวันน่าจะเห็นอาการใช่ไหมครับ”

หมอพยักหน้ารับคำ ขณะที่ลิลินไม่ค่อยจะชอบ

ใจนักเนื่องจากตัวเองไม่ได้เป็นอะไร...

หน้าตาที่เหมือนศุภิสราไม่มีผิดเพี้ยน ทำให้ป้าจวนตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นวรรณิตนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกนึกว่าเห็นผี เธอต้องอธิบายว่าเป็นคนไม่ใช่ผี แล้วแนะนำตัวว่าชื่อวรรณิต มากับวาสนา จังหวะนั้นมีเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ป้าจวนรีบไปรับสาย ต้องตกใจรอบสองเมื่อรู้ข่าวทิวัตถ์ประสบอุบัติเหตุรถชน...

ทางด้านศุภารมย์ยื่นคำขาดให้วาสนาพาวรรณิต

กลับไปแล้วอย่าพามาที่นี่อีก เธอต่อรอง น่าจะรอถาม ทิวัตถ์ดูก่อน บางทีเขาอาจจะชอบวรรณิตก็ได้ ศุภารมย์ไม่คิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงหน้าตาเหมือนแม่ตัวเอง และที่สำคัญถ้าเขาชอบวรรณิตจริงๆคงไม่เดินหนีไปอย่างนั้น ยังไม่ทันจะเจรจาความเสร็จ ป้าจวนหน้าตาตื่นเข้ามารายงานเสียก่อนว่า คุณวินรถชน

ooooooo

ด้วยความอคติ ทิวัตถ์กล่าวหาว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ อาจจะแผนของลิลินก็ได้ เธอด่าสวนทันทีว่าเขาช่างเป็นผู้ชายที่น่ารังเกียจที่สุดที่คิดอะไรได้อุบาทว์มาก เขายอกย้อนว่าผู้หญิงที่ลงทุนหอบกระเป๋าตามผู้ชาย น่ารังเกียจกว่า แล้วคาดคั้นให้เธอบอกว่าตามญาติผู้พี่ของตนทำไม ลิลินงง เขาพูดเรื่องบ้าบออะไรกัน

ทิวัตถ์เข้าไปใกล้ๆลิลินเพื่อเค้นเอาความจริง แต่พยาบาลเข้ามาในห้องพักฟื้นเสียก่อน เขาจึงต้องถอยออกห่าง แล้วฝากให้พยาบาลช่วยดูแลคนเจ็บอย่างใกล้ชิด หากเธอออกจากห้องนี้เมื่อไหร่ให้โทร.บอกเขาด้วย ลิลินโกรธที่เขาทำราวกับเธอเป็นนักโทษ ทิวัตถ์ไม่สนใจ คว้ากระเป๋าของลิลินออกจากห้อง

ระหว่างเดินมาตามทาง ทิวัตถ์สงสัยทำไมลิลินถึงเป็นห่วงกระเป๋านัก หยิบมันขึ้นมาจะเปิดดู ทรงพลกับศุภารมย์เข้ามาหาเสียก่อน เขางงว่าท่านทั้งสองมาทำอะไรที่นี่ ได้ความว่าทางโรงพยาบาลโทร.ไปแจ้งว่าเขาถูกรถชน ทิวัตถ์ไม่อยากให้ทั้งคู่เป็นกังวล จึงโกหกว่าเป็นการเข้าใจผิด เขาปวดหัวก็เลยจอดรถนอนพักข้างทาง แต่ตอนนี้หายแล้ว แล้วถามถึงวาสนากับวรรณิต

“แม่บอกยายน้อยไปแล้วว่าต่อไปนี้ห้ามพาหนูวรรณิตมาที่บ้านเราอีก”

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 1 วันที่ 30 ธ.ค. 57

ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทโทรทัศน์ : อภิวัฒน์ เล่าสกุล
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง กำกับการแสดง : ตรัยยุทธ กิ่งภากรณ์
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ผลิต : บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ควบคุมการผลิต : ชวลิต พงศ์ไชยยง
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง7 และ 7HD
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง เริ้มออกอากาศตอนแรกในวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
ที่มา ไทยรัฐ