อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 2 วันที่ 1 ม.ค. 58

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 2 วันที่ 1 ม.ค. 58

ทรงพลชะงัก ทราบดีว่าเธอหมายถึงการที่เธอต้องอกหักจากเขานั่นเอง เสหยิบแก้วโสมขึ้นดื่ม กานดาบอกไม่ทันว่ามันร้อน ทรงพลถึงกับสำลักและโสมหกรดเล็กน้อย เธอรีบหยิบทิชชูเช็ดให้ พอดีศุภารมย์เปิดประตูเข้ามาเห็น สองคนจึงผละออกจากกันทันใด

ศุภารมย์ไม่พอใจแต่ไม่พูดอะไรมาก ถามทรงพลว่าตนเข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า ทรงพลปัดว่าไม่มีอะไร แล้วเปลี่ยนเรื่องถามเธอว่ามาหาตนถึงที่นี่มีธุระอะไร


“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว” คำพูดประโยคนั้นทำให้กานดาลุกขึ้นก้มหน้างุดจะเดินออก แต่ต้องชะงักกับเสียงแข็งๆของศุภารมย์ “อ้อ...แล้วโสมที่เธอฝากคุณวิลาวัลย์ซื้อน่ะมันถูกไป ฉันเลยถือวิสาสะสั่งเปลี่ยนเป็นอย่างดีให้ เธอคงไม่ว่าอะไรนะ”

ทรงพลมองแก้วโสมแล้วชะงัก ขณะที่กานดาหน้าชาขึ้นมาทันที ตัดบทว่าไม่มีอะไรตนขอตัว...ทรงพลปั้นหน้าปกติ ถามถึงธุระของศุภารมย์ พอทราบเรื่องก็เดินออกไปที่รถกับเธอพร้อมบ่นอุบว่าแค่ทีมงานกับเมียท่านรัฐมนตรีมาสำรวจพื้นที่ไม่เห็นจะต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย

“หยุดใส่อารมณ์กับฉันเพื่อกลบสิ่งที่คุณทำเอาไว้ดีกว่า”

“คุณพูดอะไรของคุณ”

“คุณไม่รู้จริงๆ หรือจะถามเพื่อให้ฉันรู้สึกดีขึ้นว่าคุณไม่รู้ว่าเมื่อกี้คุณทำอะไรกับกานดา”

“ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่า...”

“ฉันไม่ได้ว่าอะไร” ศุภารมย์สวนเร็วจี๋พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ ทรงพลรู้สึกหวาดกลัวรอยยิ้มนั้น

แต่แล้วเสียงทักทายของใครบางคนทำให้ทั้งคู่

หันขวับไปมอง...กฤษดานั่นเอง เขามาพร้อมสิตาและ ลูกน้องอีกสองสามคน ทรงพลแปลกใจถามกฤษดามาทำอะไร พอได้ยินคำตอบก็นิ่วหน้าสงสัย

“พอดีน้องผมโดนรังแกเมื่อเช้าก็เลยมาดู เผื่อจะมีใครแสดงความรับผิดชอบบ้าง”

“ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น พวกเราไม่มีเวลาเล่นด้วยนะ” ว่าแล้วศุภารมย์จะเดินไป กฤษดารีบกางแขนขวางไว้ ทรงพลแทรกตัวมารับหน้าบอกให้เขาพูดมา

“สิตาโดนพวกคุณทำร้ายเมื่อเช้า”

“ทำร้าย? เธอคงไม่ได้หมายถึงวินใช่ไหม”ศุภารมย์จิกตาใส่สิตา

“เรื่องอะไรวินจะทำร้ายหนู ยายแก่กับนางโสเภณีของมันต่างหาก”

ทรงพลกับศุภารมย์หันมองหน้ากันอึ้งๆ เมื่อรู้ว่าวาสนาพาวรรณิตไปหาทิวัตถ์ แล้วตอบขอบใจที่บอกข่าว สิตาไม่ใส่ใจแต่อยากรู้ว่าพวกเขาจะรับผิดชอบยังไง ศุภารมย์เดือดปุดยอกย้อนว่าก่อนจะถามหาความรับผิดชอบจากตน ทำไมเธอไม่ถามตัวเองดูก่อน กฤษดาฉุนแทนน้องสาวเอ่ยเสียงกร้าวว่าจะมากไปแล้วนะ

“เธอก็รู้ว่าวินรักเธอมาก แต่เธอก็ยังทำร้ายเขา ที่พวกเธอยังยืนอยู่ตรงนี้ได้ ไม่ใช่เพราะฉันเกรงใจพ่อเธอ แต่เพราะฉันไม่อยากทำให้วินเสียใจ”

สิตากับกฤษดาชะงักเถียงไม่ออก จ้องตามศุภารมย์กับทรงพลที่ผละไปขึ้นรถอย่างไม่ไยดี

“พี่กฤษ...ไหนบอกว่าจะจัดการให้ไง” สิตาโวยวาย

“หุบปากไปเลย ถ้าขืนมีเรื่องในบริษัทของเขา...คิดว่าพ่อจะว่ายังไง” กฤษดาเสียงแข็งใส่แล้วเดินออกไป สิตาหงุดหงิดถึงกับร้องกรี๊ด

ooooooo

หลังจากซ้อมร้องเพลงกับวงดนตรีเสร็จสิ้นลงในช่วงบ่ายเพื่อเตรียมโชว์ในคืนนี้ ลิลินได้รับการติดต่อจากปรมัตถ์ที่ใช้เบอร์ไม่คุ้นโทร.มาหา

ปรมัตถ์บอกตามตรงว่ากลัวเธอไม่รับสายจึงต้องใช้เบอร์อื่น ลิลินรู้แกวว่าเขาจะพูดเรื่องอะไรจึงพยายามตัดบทด้วยการด่วนสรุปว่าตนตัดสินใจแน่วแน่ไปแล้ว และไม่อยากให้เขามาเสียเวลากับตน...ปรมัตถ์เป็นห่วงและเสียใจ มองแหวนในมือแล้วตัดสินใจกดโทร.ไปอีกครั้ง แต่เธอปิดเครื่องตัดขาดการติดต่อเสียแล้ว

คืนนั้น ทิวัตถ์ยังเจ็บใจลิลินไม่หาย นึกถึงเนื้อเพลงที่ได้ยินเธอร้องแล้วความทรงจำในอดีตตอนอายุ 12 ขวบผุดขึ้นมา...เขายืนตรงประตูแอบเห็น ดร.ศรัณย์กำลังทำ การรักษาศุภิสราที่นอนบนเตียงด้วยการกำหนดจิต แต่แล้วการรักษาสะดุดหยุดลงเมื่อเด็กชายทิวัตถ์ทำหนังสือในมือหล่นลงพื้น

“ใครอยู่ตรงนั้น!” เสียงศุภิสราตวาดลั่น

ทิวัตถ์สะดุ้ง หยุดย้อนอดีตและมีอาการปวดหัวเล็กน้อย อนันยชตรงเข้ามาแตะไหล่เขา ถามว่าเป็นอะไรตนเรียกตั้งนานไม่ได้ยิน หรือว่าอาการกลับมากำเริบอีกแล้ว

“เปล่าหรอก”

“เฮ้ย...มีอะไรก็บอกกันได้นะ แล้วฉันก็ไม่แปลกใจเลยถ้าอาการของแกกำเริบ ก็หน้าคุณณิตเหมือนน้าต้อยขนาดนั้น แต่แกไม่ต้องห่วง ฉันจะคอยดูไม่ให้ยายน้อยพาเธอมากวนใจแกอีก สบายใจได้”

อนันยชตบไหล่ราวกับอาทรทิวัตถ์นักหนา แต่พอลับหลังก็แอบจ้องมองมาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์...เขาเดินมาถึงห้องโถงรับแขกเจอทรงพลกับศุภารมย์เพิ่งกลับ พูดเล่นกับแม่อย่างอารมณ์ดี แต่พอทรงพลถามว่าวันนี้ได้ข่าวว่าวาสนาไปที่ออฟฟิศได้เจอกันหรือเปล่า อนันยชถึงชะงัก ตอบรับเบาๆ ศุภารมย์เลยถามจี้ว่าคงเจอวรรณิตด้วย

“ครับ..แต่แม่ไม่ต้องห่วง ผมรู้ว่าอะไรควรไม่ควร แล้วผมก็บอกกับยายน้อยไปแล้วว่าอย่าได้พาเธอมาเจอวินอีก”

“ขอบใจมากนะ ไม่เสียแรงที่น้าไว้ใจ”

อนันยชยิ้มบางๆให้ทรงพลก่อนจะเดินออกไป ศุภารมย์ไม่ค่อยไว้ใจลูกชาย มองตามเหมือนหยั่งรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเขา...

คืนเดียวกัน ลิลินเขียนจดหมายหาแม่ดาด้วยความคิดถึง บอกเล่าว่าจากนี้ไปตนคงไม่ค่อยได้มีโอกาสเขียนถึงบ่อยๆอีกแล้ว เพราะตอนนี้ตนมาอยู่ในที่ที่พ่อเคยอยู่ ตนกำลังจะเริ่มค้นหาความจริง

เขียนเสร็จเธออ่านทวนก่อนพับใส่ซองแล้วเปิดลิ้นชักหยิบกาว เหลือบเห็นซองเอกสารของปรมัตถ์ หยิบขึ้นมาเปิดเห็นเป็นประวัติของบุญช่วย สัจธรรม จึงอ่านอย่างละเอียดด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวังที่ส่องประกาย

ooooooo

เช้าวันใหม่ ที่ห้องครัวในโรงแรมรอยัลเพิร์ล ยายเฟื่องยุ่งวุ่นวายอยู่กับการทำแกงเขียวหวานโดยมีวิชนียืนมองอย่างเป็นห่วงอยู่ด้านหลัง

ยายเฟื่องสงสัยทำไมแกงไม่หอมสักที บ่นพริกแกงไม่ได้เรื่อง วิชนีถามว่ายายลืมอะไรหรือเปล่า แกก็ตอบกลับมาเป็นคนละเรื่องเพราะหูไม่ดี จนวิชนีต้องจับมือแกไปบิดหัวแก๊สที่ยังไม่ได้เปิด นั่นแหละแกเลยถึงบางอ้อว่าทำไมพริกแกงไม่หอมสักที

ไม่นานก็ได้กลิ่นหอมของแกงเขียวหวาน ยาย เฟื่องคุยอวดกึ่งสอนวิชนีว่าคุณหนูของตนชอบทานแกงเขียวหวานสูตรนี้ หญิงสาวฟังแล้วหัวเราะคิกคัก ก่อนจะขยายความเมื่อเห็นแกนิ่วหน้าแปลกใจ

“คุณหนู...ฟังดูแล้วมันน่ารักเกินกว่าจะใช้เรียกนายนั่นนะ คิดภาพตามแล้วยังไง้ยังไงมันก็ไม่ใช่นะยาย”

“ทำยังไงได้ล่ะ ยายเรียกคุณหนูว่าคุณหนูมาตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว มันติดปากไปแล้วล่ะ ว่าแต่เราเถอะ ชื่ออะไรนะ”

วิชนีทำท่าเหนื่อยใจเพราะเพิ่งบอกไปเมื่อสักครู่ คราวนี้เลยให้แกดูปากตนดีๆ แต่แกก็ยังเรียกผิดว่าเป็นชะนี จังหวะนี้ศักดิ์สิทธิ์เดินหน้าบึ้งเข้ามาพร้อม
ถ้วยแกง ถามยายเฟื่องว่าทำอะไรออกไปให้แขกกิน ยายลองชิมฝีมือตัวเองดู

ยายเฟื่องตักชิมแล้วบอกว่าแกงส้มก็รสชาตินี้ ศักดิ์สิทธิ์ทำหน้าละห้อยละเหี่ย บอกว่าที่ยายกินอยู่น่ะเขาเรียกว่าพะแนง แล้วเผลอเสียงดังว่ายายใส่พริกแกงผิดอีกแล้วใช่ไหม

“นี่คุณ มีอะไรพูดกันดีๆก็ได้ ทำไมต้องตะคอกยายแกด้วย”

ศักดิ์สิทธิ์หันขวับมาที่วิชนีทันที “ทำไม...ก็ในเมื่อคนทำผิดก็ต้องว่า ฉันผิดตรงไหน”

“ก็ผิดตรงที่นายไม่มีสัมมาคารวะ ยายแกอายุมากกว่าคุณตั้งเท่าไหร่”

“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับอายุ มันอยู่ที่ความถูกต้อง”

“แต่คุณก็น่าจะพูดกับยายดีๆ”

“ฉันเป็นเจ้าของโรงแรม เจ้าของที่นี่ ฉันจะพูดอะไรยังไงก็ได้ ส่วนผู้ช่วยเชฟอย่างเธอก็พูดจาให้มันดีๆหน่อย”

“เรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งเหมือนกัน”

“นี่เธอย้อนฉันเหรอ หัดให้ความเคารพกันบ้างสิ”

“คุณก็ทำตัวให้มันน่าเคารพก่อนสิ”

เรื่องชักจะบานปลาย เขาและเธอจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร...ผ่านไปสักครู่ ศักดิ์สิทธิ์เดินหน้าตูมบ่นอุบออกมาจากในครัว

“ผู้ช่วยเชฟอย่างเธอมาเถียงฉันได้ยังไง มันจะเกินไปแล้วนะ ไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นเจ้าของโรงแรม”

“รู้ครับ” เสียงปกติดังขึ้น ศักดิ์สิทธิ์ตกใจร้องเฮ้ย บ่นลูกน้องว่าทีหลังมาให้ปกติแบบคนอื่นได้ไหม แล้วโผล่มานี่มีอะไร

“ผมจะเอาเอกสารการสมัครของคุณลิลินกับคุณวิชนีมาให้คุณหนูเซ็นครับ”

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 2 วันที่ 1 ม.ค. 58

ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทโทรทัศน์ : อภิวัฒน์ เล่าสกุล
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง กำกับการแสดง : ตรัยยุทธ กิ่งภากรณ์
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ผลิต : บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ควบคุมการผลิต : ชวลิต พงศ์ไชยยง
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง7 และ 7HD
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง เริ้มออกอากาศตอนแรกในวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
ที่มา ไทยรัฐ