อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 12 วันที่ 4 ต.ค. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 12 วันที่ 4 ต.ค. 58

แล้วถ้าไม่ต้องการรับก็ส่งคืนมาได้ ธาดาจึงเปิดประตูเขา ผงะเมื่อเห็นเสี่ยอ๋ากับลูกน้องสามคนยืนจังก้าอยู่หน้าประตู!

เสี่ยยิ้มเยาะถามว่ากลัวตนมากหรือ ไม่ต้องกลัวตนยังไม่ทำอะไรหรอกแค่โผล่มาดูให้รู้ว่าการตามล่าตัวลูกหนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับตน ธาดาบอกว่าตนยังไม่มีเงินและตนก็ยังตามหาน้องสาวไม่เจอ

“เหรอ?... แต่ชีวิตคนเรามันต้องมีลิมิตกันบ้าง ผมให้เวลา 5 วัน ถ้าคุณตามหาตัวน้องสาวไม่เจอ คนของผมจะออกตามล่าเอง เห็นแล้วใช่ไหมว่ามันไม่ยาก แต่ลูกน้องผมมันพวกมือหนักน่ะ ผมกลัวพัสดุจะชำรุดระหว่างการตามล่า ผมจะเสียดายแย่”



“เอาคนอื่นแทนน้องสาวผมได้ไหม”

เสี่ยอ๋าถามว่าใคร มีใครสวยกว่าน้องสาวเขาหรือ หรือจะส่งตัวเองมาแลก เห็นธาดาอึ้ง เสี่ยปรามว่า

“ถือว่าผมให้เกียรติคุณมากแล้วนะคุณธาดาถึงได้ มีทางเลือกให้คุณมากมายอย่างนี้ ห้าวันเท่านั้น เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปนะคุณธาดา” พูดแล้วเสี่ยอ๋าหันเดินออกไป ลูกน้องสามคนรีบเดินตาม

พอขึ้นรถเสี่ยอ๋าโทร.บอกคิมหันต์ เขาถามว่าแล้วธาดาว่ายังไง ช็อกไปเลยหรือ เสี่ยบอกว่าอาการเหมือนคนกลัวตาย แต่ถ้าเราไม่ทำมันก็สบายไป เราต้องกดหัวมันไปเรื่อยๆอย่างนี้แหละ แต่ก็บอกคิมหันต์ว่า...

“แต่คุณคิมหันต์ต้องรีบตัดสินใจนะครับว่าจะเอายังไงต่อ ครบห้าวันแล้วจะให้ทำอะไร ถ้ายื้อไปเรื่อยๆ อย่างนี้ คนของผมเริ่มไม่สนุกแล้วนะครับ...ผมรู้ว่ามันมีผลกระทบกับคนที่คุณรัก แต่คุณต้องเลือกครับคุณคิมหันต์ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด”

“การชดใช้กรรม ยังเป็นความต้องการสูงสุดของผม” เสี่ยบอกว่างั้นก็ต้องรีบว่าจะชดใช้กรรมแค่ไหนถึงจะพอ “ขอเวลาผมตัดสินอีกแป๊บนึง”

“ยังไงก็ระวังกรรมที่จะตกกับตัวคุณเองด้วยนะ คุณคิมหันต์” ทั้งเร่งทั้งเตือนแล้วเสี่ยกดปุ่มเลิกสนทนา

คิมหันต์วางสายโทรศัพท์แล้วบอกชุมสายให้นัดอาจารย์ประสงค์ให้หน่อย ตนอยากรู้ว่าเมื่อไหร่ศาลจะอ่านคำพิพากษา ชุมสายบอกว่าอาจารย์ไม่รู้หรอกเพราะแกไม่ใช่ผู้พิพากษา คิมหันต์ขอร้องให้ช่วยสืบให้หน่อยเอาวันนี้เลย

ooooooo

ธาดาโทร.หามุกรินถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน พอรู้ว่ามุกรินมาอยู่บ้านเก่าของพ่อแม่เราที่คิมหันต์ยึดไปแต่เขายอมให้ตนมาอยู่ที่นี่ได้ ธาดาถามเสียงเครียดว่า

“นี่มุกไปเจอมันอีกเหรอ ยังให้มันมายุ่งเกี่ยวกับเราอีกเหรอมุก”

“ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรมากกว่านี้ค่ะ เขาอยากยกบ้านให้อยู่เฉยๆ มันก็ดีกว่าให้มุกไปอยู่ที่อื่นที่ไม่รู้จักนะพี่ใหญ่”

ธาดาถามว่าคิมหันต์มาอยู่ด้วยหรือเปล่า แล้วมีใครรู้บ้างว่ามุกอยู่ที่นี่ มุกรินบอกว่าคิมหันต์ไม่ได้มาอยู่ด้วยและคนที่รู้ว่าตนอยู่ที่นี่มีแต่ปรารภคนเดียวเพราะตนทำงานกับเขา ถามพี่ชายว่ามีอะไรหรือเปล่า

“พี่รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย พี่คงต้องเปลี่ยนที่อยู่ใหม่แล้วล่ะ พี่เป็นห่วงมุกนะ มุกไปไหนมาไหน สังเกตด้วยว่า มีใครสะกดรอยตามมาบ้างหรือเปล่า ระวังตัวด้วยแล้วกัน แล้วพี่จะติดต่อไปใหม่นะ”

พอวางสายจากธาดา ก็มีข้อความทางไลน์จากปรารภว่า

“วันนี้ไปพบลูกค้ากับพี่นะ ไม่เกินสิบห้านาทีถึงบ้านมุกจ้ะ...พี่รภ”

ฝ่ายธาดา พอวางสายจากมุกริน เขาก็ได้รับข้อความจากแพทย์ว่า

“คุณธาดาครับ คุณหมอณรงค์นัดหมายวันผ่าตัดด่วนเพราะทิ้งไว้นานไม่เป็นผลดีครับ”

ooooooo

แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมุกรินลงจากชั้นบนเจอคิมหันต์นั่งอยู่ที่โถงบ้านแล้ว เธอต่อว่าที่ไม่ทำตามสัญญาที่ว่าจะมาก็จะโทร.มาบอกก่อน คิมหันต์อ้างหน้าตาเฉยว่าหมู่นี้โทรศัพท์สัญญาณไม่ค่อยดี โทร.ไม่ติด

มุกรินต่อว่าอีกว่าเขาบอกว่าไม่มีกุญแจบ้าน คิมหันต์บอกว่าลืมไปว่าตนทำกุญแจสำรองไว้บอกว่าจะยึดไปก็ได้

“ฉันเปลี่ยนแม่กุญแจคงง่ายกว่า” คิมหันต์อาสาจะหาช่างให้ มุกรินบอกว่าอย่าลำบากเลย ก็พอดีปรารภมาถึง ถูกคิมหันต์ประชดว่า มีช่างประจำอย่างนี้นี่เอง ปรารภบอกว่าตนจะมารับมุกรินไปทำงานด้วยกัน คิมหันต์ถามประชดมุกรินว่า

“คุณมีคนขับรถประจำตำแหน่งตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ที่คุณแต่งงานมีครอบครัวนั่นแหละ” ปรารภตอบแทน คิมหันต์ถามว่าเขาชอบรับของเหลือจากตนหรือปรารภฉุนขาดกระชากคอเสื้อคิมหันต์ตวาด “ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เคยเป็นอะไรกับมุกรินมาแค่ไหน คุณก็ไม่มีสิทธิ์พูดจาลบหลู่ดูถูกมุกรินอย่างนี้”

ทั้งคู่โต้เถียงกันรุนแรงจนจะใช้กำลังกัน มุกรินขอร้องปรารภให้พอเถอะ พอปรารภปล่อยมือจากคอเสื้อคิมหันต์ก็ถูกเขาเยาะเย้ยว่าเชื่อฟังคำสั่งผู้หญิงดีมาก ทั้งยังเสียดสีเยาะเย้ยปรารภต่างๆนานาจนปรารภปรามว่าถ้าไม่หุบปากเลวๆล่ะก็ตนไม่ยั้งมือแน่ แล้วทำท่าจะลงมือกันอีก

มุกรินขอร้องให้พออีกครั้ง ปรารภจึงชวนไปทำงานกัน คิมหันต์ทำท่ากวนๆ บอกมุกรินว่าตนจะนั่งรอเธออยู่ที่นี่ กลับมาจะได้คุยกันเป็นการส่วนตัว

แต่ไม่ทันที่ปรารภกับมุกรินจะออกไป ธาดาก็ขับรถมาถึง ความตึงเครียดเขม็งเกลียวขึ้นมาอีก ธาดาต่อว่ามุกรินว่าไหนบอกว่าอยู่คนเดียวไง แล้วทั้งคิมหันต์และธาดาก็พูดเยาะเย้ยเสียดสีกัน

“หยุดเถอะค่ะ หยุดทุกคนเลย กรุณาออกจากบ้านฉันไปให้หมดได้แล้ว พี่รภคะ วันนี้มุกขอลางานนะคะ” ปรารภพยักหน้าแล้วกลับไป มุกรินหันไปทางคิมหันต์ “ส่วนคุณ ถ้าจะใช้สิทธิ์ของการเป็นเจ้าของบ้านมาข่มขู่ถากถางฉันและพี่ชายอย่างนี้ละก็...ฉันจะย้ายออกไป”

“ไม่จำเป็น” คิมหันต์บอกห้วนๆ แล้วเป็นฝ่ายลุกออกไป มุกรินจึงเดินเข้าบ้าน ธาดาเดินตามเข้าไป

ooooooo

ธาดากับมุกรินคุยกันอย่างไม่สบายใจนัก มุกรินถามว่าเขามาแบบนี้ต้องการมาเช็กตนใช่ไหม ธาดาอ้างว่าตนเป็นห่วงเธอกลัวได้รับอันตราย

มุกรินถามว่าอันตรายที่ว่านี้เกิดจากหนี้สินของเขาใช่ไหม เธอขอให้เขาหันมาเผชิญปัญหา หาทางแก้ปัญหาดีกว่าที่จะหนีอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอย่างนี้

“พี่ไม่มีทางเลือก พี่ไม่เคยจนหนทางอย่างนี้มาก่อนเลย ที่ผ่านมาพี่เคยมีพี่มลคอยแก้ปัญหาเรื่องเงิน

เรื่องทองให้ พี่เคยมีดวงดาวคอยเป็นกำลังใจ แต่ตอนนี้ พี่ไม่มีใคร...”

“พี่ยังมีมุกไงคะ”

“แต่พี่ก็ทำให้มุกเดือดร้อนไปด้วย เหมือนที่พี่ทำกับทุกๆคน พี่คือต้นตอของปัญหาทุกเรื่อง...พี่มันชั่ว สันดานเลวอย่างที่ไอ้คิมมันด่าพี่จริงๆ”

มุกรินเสนอให้มาอยู่ด้วยกันที่นี่และเจรจาขอแก้ปัญหากับเขา เราค่อยๆหาทางผ่อนชำระเขาทีละนิดก็ได้ ธาดาบอกว่าเสี่ยคงไม่ยอม มุกรินขอให้ลองดู อย่างน้อยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งแทนที่จะหนีหัวซุกหัวซุนเปลี่ยนเป็นทำงาน หาเงินผ่อนใช้หนี้ยังดูมีอนาคตกว่ากัน

ทันใดนั้นมีเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ธาดาลุกออกไปดูเอง ครู่หนึ่งเขากลับมาบอกมุกรินว่ามีคนมาขอคุยกับมุก

มุกรินถามว่าแล้วพี่ใหญ่ยอมให้เขาเข้ามาหรือ ธาดาบอกว่าเขาบอกว่ามาดี

“ไม่มีใครบอกว่าจะมาร้ายหรอกค่ะ...เขาเป็นใครคะ”

“ฉันเอง มุก” เสียงพักตราแทรกเข้ามา มุกรินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ฉันสัญญาว่า ฉันมาดีจริงๆ” พักตราเอ่ย

ooooooo

ชุมสายนัดอัยการประสงค์มาที่ห้องประชุมออฟฟิศตน คิมหันต์บอกว่าตนต้องการรู้เรื่องการอุทธรณ์ อัยการประสงค์บอกว่าตนยื่นไปเรียบร้อยแล้ว ก็เหลือแค่รอศาลนัดฟังคำพิพากษาเท่านั้น

ชุมสายบอกว่านั่นคือสิ่งที่คิมหันต์กังวล แล้วให้คิมหันต์เป็นคนพูดเองว่าอยากรู้อะไรอาจารย์จะได้ตอบตรงๆ ไม่ต้องผ่านตน คิมหันต์บอกว่าตนกลัวธาดาจะตายก่อนศาลมีคำพิพากษา อัยการประสงค์บอกว่านั่นเท่ากับเขาได้ชดใช้กรรมแล้ว

“เขาใช้ที่ไหน มันตายแบบคนบริสุทธิ์ตาย เราจะปล่อยให้คนดีๆอย่างพี่มลตายฟรีอย่างนี้ไม่ได้ อาจารย์ต้องเร่งศาลหน่อยสิครับ”

“มากไปแล้วนะคุณคิมหันต์ คุณถือสิทธิ์อะไรไปสั่งศาล” คิมหันต์เสียงอ่อนลงว่าตนไม่ได้สั่งแต่ขอร้อง “ขอร้อง? คำร้องทั้งหมดมันอยู่ในสำนวนยื่นอุทธรณ์หมดแล้ว...เราใช้สิทธิ์ของผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมจากศาลครบถ้วนแล้ว ที่เหลือจากนี้ก็อยู่ที่การวินิจฉัยของศาลว่าท่านคิดเห็นอย่างไร”

คิมหันต์ถามว่าเราช่วยเร่งให้เร็วขึ้นหน่อยไม่ได้หรือ เลยถูกอัยการประสงค์อบรมว่า

“ประเทศนี้ไม่ได้มีคดีของคุณคดีเดียวนะคุณคิมหันต์ ศาลท่านต้องพิจารณาคดีอีกมากมาย จะให้จดจ่อแต่เรื่องของคุณคนเดียวได้ยังไง ท่านต้องดูแลความยุติธรรมของคนทั้งประเทศ ถ้าทุกคนคิดถึงแต่ตัวเองแบบคุณ ศาลท่านจะทำยังไงล่ะ ผมจะบอกให้นะ ถ้าสังคมนี้บีบศาลได้บังคับศาลได้ เราก็ไม่ต้องอยู่กันแล้ว”

คิมหันต์นิ่งอึ้งแต่ก็ยังถามว่าเร็วที่สุดเมื่อไหร่ อัยการบอกว่าไม่มีใครรู้ เขาถามอีกว่าแล้วตนจะชนะคดีไหม พออัยการบอกว่าหมอดูที่เก่งที่สุดในประเทศก็ตอบเขาไม่ได้

“ทำไมล่ะ ในเมื่อเราทุกคนรู้อยู่ว่าความจริงคืออะไร คุณอาก็รู้เหมือนผมไม่ใช่เหรอครับ”

“ผมรู้มากกว่าคุณครับ ผมรู้ว่าผมต้องเคารพคำตัดสินของศาล ซึ่งคุณไม่เคยรู้ ไม่เคยยอมรับ ผมจะบอกให้นะ ที่บ้านเมืองมันวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้เพราะคนมันเอาตัวเองเป็นใหญ่ เชื่อแต่ตัวเอง คิดแต่ว่าตัวเองถูกไม่ยอมรับกติกาของสังคม อะไรที่ผิดไปจากความคิดของตัวเองถือว่าผิดหมด ยอมไม่ได้ ต้องยกพวกมาข่มขู่ บีบคั้นมันถึงได้โกลาหลไม่จบไม่สิ้นอยู่จนทุกวันนี้”

ทุกคนในห้องเงียบกริบ คิมหันต์ก็ยังถามอีกว่า “ผมจะชนะคดีไหม”

“ไม่รู้ ผมกลับล่ะ ทีหลังอย่านัดผมมาคุยเรื่องแบบนี้อีกนะคุณชุมสาย” อัยการประสงค์เดินออกไปอย่างหงุดหงิด

ชุมสายมองหน้าคิมหันต์ค่อยๆบอกเขาว่า บอกแล้วว่าใครก็ช่วยไม่ได้ก็ไม่เชื่อ คิมหันต์ก็ยังพูดอย่างมุ่งมั่นว่า

“ไม่เป็นไร ฉันยังช่วยตัวเองได้อยู่” แล้วเดินห่างออกไป โทรศัพท์ถึงเสี่ยอ๋าสั่งเลือดเย็น “ฆ่ามันเลย ผมต้องการเห็นมันตายต่อหน้าผม”

“คุณคิมหันต์ครับ ผมไม่ใช่มือปืนรับจ้างนะครับ ผมอาจจะทำอะไรที่ล่อแหลมได้ก็จริง แต่ไม่เกินเลยไปถึงฆ่าคนตาย อันนี้ผมไม่เอา...ผมว่าคุณใช้เวลาห้าวัน ค่อยๆ คิดวิธีการใหม่เถอะครับ เอาแบบให้สมเหตุสมผลหน่อย เจ๊มลมีบุญคุณกับผมก็จริง แต่จะให้ผมฆ่าคนเพื่อเจ๊มลคงไม่ไหว วิญญาณเจ๊แกก็คงไม่ชอบใจนักหรอกครับ แต่ถ้าคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง ก็ปล่อยให้ผมเป็นน้องเขยมันสักวันสองวันก็โอเคนะ คุ้มเหนื่อยผมแล้วล่ะ” เสี่ยอ๋าหัวเราะร่าแล้วกดตัดสายเลย

คิมหันต์นั่งหน้าเครียดหนัก ชุมสายเดินเข้ามาเตือนเพื่อนรักว่า

“ไอ้คิม...ถึงแกจะเป็นเพื่อนสนิท แต่ถ้าแกทำผิดกฎหมาย ฉันก็ไม่อาจถือหางข้างแกได้นะเพื่อน โดยเฉพาะคดีจ้างวานฆ่า”

“เออน่า...ฉันก็พูดด้วยอารมณ์ไปอย่างนั้นแหละ มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ สาสมกว่านี้และกฎหมายที่มีก็เอาผิดไม่ได้ด้วย”

คิมหันต์จิกตาไปข้างหน้า นิ่ง...ลึก!

ooooooo

คืนนี้ คิมหันต์กลับไปถึงบ้านพักตรา เขาเดิน เข้าบ้านเงียบๆ แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเสียงอรรถทักขึ้น

“วันนี้กลับบ้านเร็วดีนี่” คิมหันต์หันไปมองเห็นอรรถนั่งดื่มคนเดียวที่มุมสบายๆ “ไม่ดึกจนเกินไป แสดงว่าเธอมีสัญชาตญาณของความเป็นพ่อแล้ว” คิมหันต์ตอบว่าท่านก็คงมี “ฉันมีความเป็นพ่อมากกว่าที่นายคิดและมีมานานแล้วด้วย...ไม่งั้นฉันคงทำกับนายอย่างที่ผ่านมาไม่ได้หรอก”

“นั่นไม่ใช่สัญชาตญาณของความเป็นพ่อ มันคือสัญชาตญาณของเผด็จการ ของคนเหลิงอำนาจมากกว่า”

“เพิ่งกลับจากบ้านมุกริน?” อรรถถามด้วยน้ำเสียงสดชื่นเบิกบาน คิมหันต์ถามว่าท่านรู้? “ฉันรู้ทุกอย่างที่ฉันอยากรู้” คิมหันต์ถามอีกว่าแล้วพักตรารู้ไหม “ฉันเลือกบอกเฉพาะเรื่องที่ทำให้ยายพักตร์มีความสุข นี่ไงล่ะสำนึกของคนเป็นพ่อ ฉันรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มันมีชีวิตชีวา มีความสุข มีความอบอุ่นมากขึ้นอย่างบอกไม่ถูก”

“หลังจากที่คุณปริมทิ้งท่านไป?”

“หลังจากที่พักตราเปลี่ยนไปต่างหาก” อรรถรินเหล้าให้คิมหันต์ เขาส่ายหน้าปฏิเสธ อรรถพูดต่ออารมณ์ดีว่า “ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหม ว่าผู้ชายโสดอย่างฉันมีความสุขกับการใช้ชีวิตอิสระ ตามใจตัวเอง หัวหกก้นขวิด เตลิดเปิดเปิงไปได้ทุกที่ แต่พันธะเดียวที่เหนี่ยวรั้งฉันไว้จนกว่าฉันจะสิ้นใจ ก็คือพักตรา และวันนี้ ฉันเห็นพักตรามีความสุข มันจึงเป็นสิ่งวิเศษสุดในชีวิตฉัน ซึ่งต้องยอมรับว่ามาจากเธอ เธอเป็นส่วนสำคัญ เพราะฉะนั้น ช่วยทำตัวอย่างนี้ให้ตลอดไปนะ ไอ้ลูกชาย”

คิมหันต์บอกว่าตนไม่รับปาก อรรถพูดอารมณ์ดีว่าลองหน่อยน่า แล้วเร่งให้ขึ้นไปหาพักตราก่อนเพราะเธอมีข่าวดีรอที่จะบอกเขา คิมหันต์ทวนคำเชิงถาม “ข่าวดี?”

“โคตรดีเลยล่ะ...ให้เขาบอกเธอเองดีกว่า”

ooooooo

คิมหันต์ขึ้นไปที่ห้องนอน เห็นพักตราในชุดบางเบา สวย เซ็กซี่ มีแชมเปญพร้อมแก้วสวยวางอยู่เบื้องหน้าเธอ...

“คุณกำลังตั้งท้อง คุณไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์นะ”

“พักตร์ไม่ดื่มค่ะ พักตร์เตรียมไว้ให้คิมต่างหาก” คิมหันต์ถามว่าฉลองอะไรหรือ? ฉลองชีวิตครอบครัวระหว่างเรา พ่อ แม่ ลูก ปัญหาระหว่างเราจบสิ้นทั้งหมดทันทีที่เขาจุติขึ้นในท้องของพักตร์ เขาคือของขวัญจากสวรรค์ค่ะคิม”

เห็นคิมหันต์นิ่ง เธอบอกว่าเขาคงไม่รู้หรอกว่าวันนี้ตนไปไหนมา คิมหันต์ส่ายหน้า เธอยิ้มอิ่มเอิบอ่อนหวานบอกว่า

“พักตร์ไปหามุกรินค่ะ” คิมหันต์มองหน้าถามว่ารู้หรือว่าเขาอยู่ที่ไหน “พ่อรู้อะไร พักตร์ก็รู้อย่างนั้น คิมไม่ต้องตกใจนะ พักตร์ไม่ได้ไปก่อกวนหรือไปอาละวาดที่เขามาเกาะแกะกับคิม พักตร์แค่ไปเล่าเรื่องลูกของเราให้เขาฟัง” คิมหันต์อึ้งงัน “คิมรู้ไหม...มุกดีใจที่พักตร์ท้อง เขาอยากเห็นหน้าหลาน และสัญญาว่าเราจะกลับมาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม”

เวลาเดียวกันนี้ มุกรินนั่งซึมน้ำตาไหลอยู่เงียบๆ อยู่ที่บ้าน ธาดาเดินเข้ามาถามว่าร้องไห้หรือ เธอส่ายหน้าพยายามกลั้นน้ำตาไว้บอกพี่ชายว่า “มุกไม่มีน้ำตาจะเสียให้ใครอีกแล้วค่ะ พอกันที”

“ดีแล้วล่ะ ที่จริงเราน่าจะเลี้ยงฉลองกันเลยด้วยซ้ำ ที่หญิงบ้ากับชายชั่วมันพ้นไปจากชีวิตเราเสียที” มุกรินขออย่าว่าเขาเลย เขากำลังมีครอบครัวที่เป็นสุข “ขอให้มันสุขจริงเถอะ พี่ก็จะเอาใจช่วยให้มันอยู่กันยืดยาวเป็นผีเน่ากับโลงผุกันไปจนวันตาย” ธาดาหัวเราะร่า แต่มุกรินกลับน้ำตาไหลออกมาอีก ธาดาหยุดหัวเราะ ร้อง “อ้าว...
ไหนว่าไม่ร้องไห้ไง”

“มุกแค่เสียใจที่ทำไมคิมไม่บอกเรื่องนี้กับมุกด้วยตัวเอง...”

เหตุผลที่พักตราชี้แจงกับมุกรินเมื่อเช้านี้คือคิมหันต์เป็นคนขี้อาย เวลามีเรื่องสำคัญๆ เขามักจะให้คนอื่นออกหน้าแทนเสมอ

เวลานั้นธาดายืนฟังอยู่ด้วย เขาเร่งให้รีบพูดเรื่องสำคัญของเธอแล้วจะได้ออกจากบ้านตนไปเสียที พักตราหันไปตำหนิธาดาว่าไม่ให้เกียรติตน มุกรินตัดบทให้พักตราพูดธุระของตัวเองเถอะ พักตราจึงหันมายิ้มหวานกับมุกริน บอกว่า

“ฉันมาวันนี้ เพื่อจะบอกเธอว่าฉันท้อง ท้องกับคิม ลูกของเราอยู่ในท้องฉันได้เกือบสองเดือนแล้ว”

มุกรินอึ้งงันในขณะที่ธาดาหัวเราะลั่นบ้าน ถามประชดว่านี่จะมาให้เรารับขวัญเด็กในท้องหรือ?

“จะคิดอย่างนั้นก็ได้ เพราะถ้าเราถือเอาโอกาสนี้เลิกทะเลาะกัน เลิกคิดร้ายต่อกัน มันก็จะเป็นการรับขวัญเด็กที่มีค่ามากที่สุด”

“เอาเล้ย...เอาให้สบายใจคุณเลยครับ คุณแม่ลูกอ่อน ฮ่าๆๆๆ” ธาดาเดินหัวเราะร่าออกไป

มุกรินยังคงนั่งซึม พักตราถามว่าเธอไม่ดีใจหรือ มุกรินบอกว่าดีใจ ดีใจมากด้วย พักตราพูดต่อเหมือนอยู่ในความฝันที่มีความสุขว่า

“การที่ผู้หญิงอย่างเราได้มีโอกาสเป็นแม่ มันคือความยิ่งใหญ่สูงสุดของเราแล้วนะมุก ฉันอยากแบ่งปันความรู้สึกนี้ให้เธอด้วย อย่างน้อยเราก็รู้จักคบหากันมาไม่น้อย จากนี้ไป เราควรจะดีต่อกัน ลืมเรื่องเก่าๆที่ผ่านมาทั้งหมดได้ไหม”

“ได้สิ”

“ถ้าเธอรักคิม เธอต้องรักฉัน เพราะเลือดเนื้อของคิมอยู่ในตัวฉันตอนนี้ ฉันหวังจะให้เขาลืมตาขึ้นมาดูโลกท่ามกลางความรักความอบอุ่นของพ่อแม่ รวมถึงน้าอย่างเธอด้วย”

มุกรินยังคงนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ในขณะที่พักตรายังพรั่งพรูความรู้สึกต่อไป...

“ฉันเคยคิดไม่ดีหรือทำไม่ดีกับเธออย่างไร ฉันขอโทษ และจะไม่มีวันคิดหรือทำอย่างนั้นอีก ฉันไม่อยากให้บาปกรรมไปตกอยู่กับเด็ก มุกรู้ไหม ความเป็นแม่ทำให้ฉันรู้จักเมตตาและให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่าง วันนึงถ้าเธอได้เป็นแม่ เธอจะรู้สึกไม่ต่างจากฉัน”

น้ำตามุกรินไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ พักตราถามว่าเธอร้องไห้หรือ มุกรินบอกว่าตนดีใจกับเธอ ดีใจจริงๆ พักตรายื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยนนิ่มนวล พูดเหมือนฝันว่า

“จากนี้ไปคิมหันต์คงต้องอยู่ใกล้ชิดฉันมากขึ้น ที่แล้วมาเขาอาจจะมีเวลาแว่บมาหาเธอบ้างก็ช่างเถอะ ฉันจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก แต่จากนี้ไปคงไม่มีอย่างนั้นแล้วล่ะมุก เธอเข้าใจใช่ไหม คนเป็นพ่อก็ต้องเอาใจใส่ลูกในท้องไม่แพ้แม่เหมือนกันนะ”

มุกรินได้แต่นิ่งด้วยความรู้สึกที่ทั้งเจ็บปวดและเห็นพ้องกับคำพูดของพักตรา เธอยังคงนิ่งฟังพักตราพูดอย่างสงบ...

“เธออาจจะคิดว่า ฉันพูดอย่างนี้เพราะฉันเป็นฝ่ายได้ แต่ความจริงแล้ว คนที่ได้คือเด็กในท้องที่เป็นลูกของคิมหันต์คนเดียวเท่านั้น เข้าใจใช่ไหม”

“เข้าใจ...กลับไปได้แล้วพักตรา” พักตรามองหน้าถามว่าแน่ใจนะ “แน่ใจ เธอจะได้ในสิ่งที่เธอต้องการเพื่อทารกตัวน้อยๆที่บริสุทธิ์ และไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย”

“ขอบใจมากนะมุก”

ทันทีที่พักตราเดินอย่างสบายใจออกไป น้ำตามุกรินก็ท้นทะลักทันที...

ooooooo

คืนนี้คิมหันต์นอนลืมตามองเพดานนิ่ง เมื่อเห็นว่าพักตราหลับแล้วเขาลุกไปที่โซฟาโทรศัพท์หามุกริน

มุกรินนอนอยู่บนเตียงพอเห็นว่าคิมหันต์โทร.มาเธอมองโทรศัพท์กดรับแล้วนิ่งไม่พูดอะไร จนคิมหันต์ถามทันทีที่รู้ว่ามีคนรับสาย “มุก...มุกได้ยินผมไหมมุก” มุกรินยังคงนิ่ง อึดใจหนึ่งเธอพูดอย่างไม่ฟังเสียงปลายสายเลยว่า

“ดีใจด้วยนะคิม คิมไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เรื่องของเราควรจะจบลงได้แล้ว” คิมหันต์สวนทันทีว่ามันจะจบแบบนี้ไม่ได้ “ได้สิคะ ลืมเรื่องระหว่างเราให้หมด หรือจะเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีก็ตามใจ แต่นับจากนาทีนี้ คิมควรจะสร้างความทรงจำใหม่ให้กับชีวิตดีๆที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลก ชีวิตที่เป็นสายเลือดของ

คิมเอง...ขอให้แข็งแรงทั้งแม่และลูกนะคะ แล้ววันนึงมุกจะไปเยี่ยมหลานค่ะ” พูดจบก็ตัดสายทันที ก่อนที่น้ำตาจะทะลักออกมา

คิมหันต์กลับไปที่เตียง พักตราเรียกเขาเบาๆ บอกว่า พรุ่งนี้พาตนไปหาหมอหน่อย หมอนัดตรวจครรภ์แต่เช้า คิมหันต์ตอบรับ แล้วนอนจ้องเพดานอยู่อย่างนั้น...

ooooooo

รุ่งขึ้น เมื่อพาพักตราไปคลินิกรับฝากครรภ์แล้ว คิมหันต์ขอไปธุระแป๊บเดียวเดี๋ยวมารับ บอกพักตราว่าถ้าเสร็จเร็วก็ให้โทร.บอกได้ทันที

คิมหันต์ไปที่บ้านมุกริน เจอธาดาออกมายืนขวางประตูไม่ให้รถเข้า คิมหันต์สั่งให้หลีก เมื่อธาดาไม่หลีกเขาบอกให้เรียกมุกรินออกมาคุยกับตน ธาดาไม่ให้คุย โต้เถียงกันไม่กี่คำก็ท้าทายใช้กำลังกัน แต่ธาดาสู้คิมหันต์ไม่ได้ ถูกเขาขย้ำคออย่างแรงตวาดถาม

“มึงจะยิงปืนใส่กูไหม จับหัวกูกระแทกอ่างน้ำจนตายแบบที่มึงทำกับพี่มลไหม”

“พอแล้วค่ะคิม...หยุดทำร้ายพี่ใหญ่ได้แล้วค่ะ” มุกรินออกมาตะโกนลั่น คิมหันต์หยุดหันมองบอกว่าตนแค่ต้องการพูดกับเธอ แต่พี่ชายเธอ...“ฉันบอกให้พี่ใหญ่มาไล่คุณออกไปเอง เพราะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณและไม่ต้องการคุยกับคุณอีกแล้ว” พูดแล้วมุกรินหันเดินกลับเข้าบ้าน

คิมหันต์บอกว่าเธอต้องคุยกับตนก่อน มุกรินหันบอกว่าตนเบื่อคำแก้ตัวของเขาแล้ว ตนหลงเชื่อเขามามากพอแล้ว

“มุกยังไม่เข้าใจ”

“มีอะไรที่มุกไม่เข้าใจอีกเหรอ พักตราท้องกับคิม จะให้มุกเข้าใจอย่างอื่นได้ยังไง หรือคิมจะบอกว่าเด็กในท้องพักตราไม่ใช่ลูกของคิม?” คิมหันต์จะชี้แจง มุกรินดักคอว่า “หรือคิมไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิด ถ้าคุณพูดประโยคนี้ออกมาละก็คุณจะเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวที่สุด เอาแต่ได้ ทุเรศมากๆ”

“มุก...”

“เรื่องของเรามาถึงทางตันแล้วค่ะ เราไปต่อไม่ได้อีกแล้วค่ะคิม จบกันเสียทีเถอะ พอกันที” คิมหันต์พูดไม่ออก “ถ้าคุณโกรธที่ฉันพูดอย่างนี้ แล้วอยากจะยึดบ้านหลังนี้คืนก็บอกมา”

คิมหันต์มองมุกรินนิ่งก่อนบอกเธอว่า “มันยังไม่จบแค่นี้หรอกมุก ผมไม่ยอม” เขาหันเดินออกไป ผ่านธาดาที่ยืนสะบักสะบอมอยู่เขากระซิบใส่หูธาดาว่า “มึงคอยดูตอนจบของเรื่องนี้ให้ดีก็แล้วกัน ไอ้ธาดา!”

เมื่อออกมานั่งในรถ คิมหันต์โทร.หาเสี่ยอ๋าทันที “ผมจะปิดเกม...เสี่ยเตรียมคนของเสี่ยให้พร้อมได้เลย ผมรู้แล้วว่าจะทำยังไงกับมัน” พอเสี่ยฟังคิมหันต์ ก็สั่งลูกน้องใกล้ตัวทันที

“ยกทีมเอเข้ามาได้เลย ถึงนัดชิงดำแล้ว”

ooooooo

หมอตรวจครรภ์ตรวจเลือดตรวจปัสสาวะของพักตราแล้ว ถามอาการของเธอ พักตราบอกว่าไม่มีอาการผิดปกติ

พักตราบอกหมอว่าถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้คุณหมอรีบบอกตนได้เลย นัดได้ทุกเวลา เพราะตนอยากให้ลูกออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ หมอตรวจเสร็จคิมหันต์ก็มาถึงพอดี พักตราชวนไปกินข้าวกันเลย เธอถามหมอว่าตนกินได้ทุกอย่างใช่ไหม

“เต็มที่เลยค่ะ เจาะเลือดแล้วเชิญได้เลย”

ไปถึงร้านอาหารสวย บรรยากาศดี พักตราสั่งอาหารหลายอย่างจนคิมหันต์ถามว่าสั่งเยอะไปหรือเปล่า

“คิมรู้ไหม พักตร์ไม่เคยดูแลตัวเองมากเท่านี้มาก่อนเลย ลูกของเราทำให้พักตร์ต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้”

แต่ไม่ทันได้กินข้าวกัน พักตราก็ได้รับข้อความจากหมอ อ่านแล้วสีหน้าเธอไม่ดี คิมหันต์ถามว่ามีอะไรหรือ

“ข้อความจากคุณหมอค่ะ บอกว่ามีเรื่องสำคัญขอให้พักตร์ไปพบที่คลินิกด่วน เดี๋ยวนี้”

เมื่อกลับไปที่คลินิก หมอบอกว่าเธออาจจะท้องนอกมดลูก พักตราใจเสีย แต่หมอบอกว่าอย่าเพิ่งเครียดเพราะหมอจะรู้ผลชัดเจนก็ต่อเมื่อทำการตรวจละเอียดอีกที แต่ต้องหลังจากนี้สี่สิบแปดชั่วโมง ก่อนกลับ หมอย้ำกับพักตราว่า

“อย่าเพิ่งกังวลมากไป เพราะความกังวลย่อมส่งผลที่ไม่ดีทั้งกับแม่และเด็ก”

คิมหันต์ส่งพักตรากลับบ้านแล้วเขาขอไปธุระกับชุมสาย พักตรากังวลแต่ไม่บอกอรรถ เธอเลียบเคียงถามว่าตอนแม่ท้องตนเป็นอย่างไรบ้าง อรรถเล่าอย่างสนุกสนานว่าตอนนั้นตนดูแลทุกอย่าง แม่ทานได้แต่อาหารที่พ่อทำเท่านั้น และลูกก็ออกมาสมบูรณ์แข็งแรงอย่างนี้ไงล่ะ

“พ่อว่าลูกของพักตร์จะแข็งแรงไหมคะ”

“แข็งแรงสิ มีทั้งแม่ทั้งตาช่วยกันดูแลอย่างนี้ เขาต้องแข็งแรงเพอร์เฟกต์แน่ๆ เชื่อพ่อเถอะ”

“ค่ะ...พักตร์ก็เชื่ออย่างนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลูกของพักตร์จะต้องลืมตาออกมาดูโลกอย่างสมบูรณ์แข็งแรงไม่แพ้ใคร พักตร์สัญญาค่ะพ่อ”

ooooooo

คิมหันต์ไปที่บ้านวิมลรัตน์ แล้วโทร.ให้ชุมสายไปพบ เขาถามว่าถ้าธาดายอมสารภาพศาลจะว่าอย่างไร

ชุมสายติงว่าคำสารภาพไม่ได้มีมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น คิมหันต์บอกว่าเขาเพิ่งสารภาพตอนนี้ ชุมสายบอกว่ามันผิดหลักการ ศาลคงไม่นำมาพิจารณา คิมหันต์ถามเสียงกร้าวว่าถ้าทั้งโลกรู้กันหมดว่าใครเป็นฆาตกร ศาลยังไม่ยอมรับฟังอีกหรือ

“ศาลท่านพิจารณาจากกฎหมาย ไม่ใช่ความรู้สึกหรือกระแสสังคมที่ไม่มีกฎหมายรองรับ ฉันต้องบอกแกอีกกี่ครั้งวะเนี่ย”

“งั้นฉันก็คงเลิกหวังกับศาลได้แล้ว”

ชุมสายถามว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร คิมหันต์บอกว่า “ทำตามความรู้สึกของฉันน่ะสิ กลับไปได้แล้ว ฉันสัญญาว่าจะไม่เรียกแกมาหาอีก” ชุมสายเตือนสติว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคน จะบุ่มบ่ามแบบตัวคนเดียวไม่ได้เรื่องมันจะไม่จบ “เรื่องไม่จบง่ายๆอยู่แล้ว จนกว่าฉันจะบอกว่าจบ”

“แกหมายถึงเรื่องอะไร”

“เรื่องระหว่างฉันกับไอ้ธาดา และมุกริน”

คืนนี้คิมหันต์ไม่ได้กลับมานอนบ้าน อรรถถามพักตราว่าเธอไม่หึงไม่ห่วงเหมือนเมื่อก่อนหรือ

“ไม่มีอะไรต้องห่วงค่ะ ตราบใดที่ลูกของคิมอยู่ในท้องพักตร์ ยังไงๆคิมก็ต้องกลับมา” เธอตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน

ooooooo

หลังจากมุกรินรู้เรื่องพักตราท้องได้สองเดือนกับคิมหันต์แล้ว แม้เธอจะพยายามตัดใจแต่ก็ยังอดที่จะซึมไม่ได้

ปรารภเฝ้าดูอยู่อย่างเป็นห่วง เมื่อมุกรินเล่าเรื่องพักตราท้องให้ฟัง เขาบอกว่าเรื่องไม่ได้อยู่ที่มุกรินแต่อยู่ที่คิมหันต์ และเมื่อได้ยินมุกรินบอกว่าเธอตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าต้องตัดขาดจากคิมหันต์ให้ได้ แม้พักตราจะเลิกกับคิมหันต์ตนก็ไม่กลับไปหาเขาอีกเด็ดขาด อย่างน้อยก็เพื่อเห็นแก่ลูกของเขา ปรารภฟังแล้วแอบหวังอยู่เงียบๆ

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 12 วันที่ 4 ต.ค. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ