อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 14 วันที่ 6 ต.ค. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 14 วันที่ 6 ต.ค. 58

“เห็นกับตาแบบนี้ยังจะต้องพูดอะไรกันอีก ฉันว่าเธอเก็บคำอธิบายของเธอไปใช้กับตาวัฒน์เถอะ...ถอยไป” วัฒนาขยับจะไปหานันทวัฒน์ แววตาของปรางค์ทองเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ก่อนจะเดินเข้าหา เขากลัวจัดถอยกรูดจนเสียหลักตกบันได เธอจะคว้าแต่ไม่ทัน วัฒนากลิ้งหลุนๆลงไปกองกับพื้น

“ท่านเจ้าสัวทำใจดีๆไว้นะครับ ผมจะไปตามคนมาช่วย” พิชิตยังไม่ทันขยับ ปรางค์ทองดึงมือไว้เตือนว่าวัฒนาเห็นเราสองคน จะอธิบายกับนันทวัฒน์อย่างไร เธอเห็นเขานิ่งอึ้ง ถามเสียงเข้มว่าตกลงเขาแคร์ใครมากกว่าระหว่างนันทวัฒน์หรือวัฒนา พิชิตมืดแปดด้านไม่รู้จะทำอย่างไรดี



“ฉันจะไม่ให้เขาพูดอะไรอีกต่อไป” ตะวันว่าแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆวัฒนา หยิบผ้าเช็ดหน้าที่อกเสื้อของพิชิตวางบนคอพ่อสามีแล้วกดนิ้วลงไปที่เส้นเลือดใหญ่จุดสำคัญของร่างกายซึ่งได้รับการสั่งสอนมาจากทรงพล แต่ยังไม่ทันจะทำให้ถึงชีวิต กันเกราได้ยินเสียงเอะอะวิ่งเข้ามาดูเสียก่อน...

ปรางค์ทองถูกพาตัวมาซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ห้องรับแขกของบ้าน นันทนาไม่ฟังเสียง ปรี่เข้าไปตบตีอุตลุดฐานทำร้ายพ่อของตน นันทวัฒน์พยายามห้าม แต่เธอไม่ฟัง เขาจึงต้องจับน้องสาวเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น กันเกราต่อว่านันทวัฒน์ว่าทำไมถึงทำกับน้องขนาดนี้ เขาอ้างว่าเธอทำตัวไม่ดี นันทาปรี๊ดแตกทันที

“มันทำพ่อแกเป็นแบบนั้น แกทนได้ไงตาวัฒน์ น้องแกมันเจ็บแค้นแทนพ่อก็ถูกแล้ว”

“แต่ปรางค์ไม่ได้ทำอะไรนะคะ ท่านตกลงมาเอง ปรางค์ก็พูดไปแล้ว”

นอกจากนันทวัฒน์แล้ว ไม่มีใครเชื่อคำพูดของปรางค์ทองสักคน หาว่าเธอโกหกปลิ้นปล้อน จะเอาเรื่องให้ได้ นันทวัฒน์จึงต้องเรียกพิชิตมาสอบถาม

“คำพูดของนายจะถือเป็นคำขาดเพราะฉันรักและไว้ใจนายมากที่สุด เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น”

“เอ่อ...ท่านเจ้าสัวตกลงมาเองครับ ผมช่วยท่านถือของเข้ามาผมเห็นกับตา คุณปรางค์ได้ยินเสียง วิ่งมาดูทีหลังครับ” พิชิตเหลือบมองปรางค์ทองแวบหนึ่ง นันทาถามย้ำว่าจริงหรือ เขาพยักหน้ารับคำหนักแน่น...

ตะวันได้ฟังเรื่องราวในอดีตจากปากของพิชิตแล้ว สรุปทันที “ที่แท้ไอ้แก่มันก็ลื่นตกลงไปเอง”

คำพูดของเธอทำให้พิชิตตระหนักว่าปรางค์ทองคนเก่าหายไปแล้ว ไม่เหลือความทรงจำอะไรอีกแล้ว ผู้หญิงตรงหน้าเขาไม่รู้อดีตของตัวเองแม้แต่น้อย เธอสงสัยเขามองหน้าทำไม พิชิตเปลี่ยนเรื่องพูดกลบเกลื่อน

“ทำไมถึงต้องวางยาคุณวัฒน์”

“ฉันไม่ได้รักเขาแล้วไงล่ะ คนที่ฉันรักคือพิชิต บอกสิว่านายไม่ได้รักฉัน” ไม่พูดเปล่าตะวันโผกอดเขาไว้ ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว กอดตอบและเกือบจะจูบเธอแล้วถ้าไม่เหลือบไปเห็นนันทวัฒน์นอนหลับอยู่บนเตียง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกระแทกใจเขาเต็มๆ ตัดสินใจผลักตะวันพ้นทาง แล้วรีบปีนหน้าต่างออกไป ตะวันมองตามโล่งใจ เธอเองก็ไม่ได้มีใจให้เขาแม้แต่น้อย

ooooooo

วันนี้เป็นวันเผาศพวัฒนา นันทามองโลงศพของสามีเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความอาลัยอาวรณ์ โดยมีกันเกรากับนันทวัฒน์คอยประคองอยู่ไม่ห่าง ส่วนทนงศักดิ์กับตะวันแยกมาคุยกันอยู่อีกมุมหนึ่งของศาลาสวดศพ เขาว่าทำทุกอย่างตามที่เธอต้องการแล้ว เธอควรจะปล่อยให้เขาไปได้แล้ว

“ยังไปไม่ได้ คุณต้องอยู่จนถึงวันแถลงข่าว ฉันต้องแน่ใจว่าทุกอย่างราบรื่น”

“ผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าหลังจากนั้นคุณจะไม่ทรยศผม”

ตะวันเองก็ตอบไม่ได้ แต่ถ้าเขาทำงานสำเร็จตามที่เธอต้องการ เธอจะไม่วุ่นวายกับเขาอีก เพราะเธอเองก็มีทางที่จะไปเหมือนกัน ตะวันว่าแล้วอดนึกถึงธงไทยไม่ได้ อยากกลับไปหาใจจะขาด พิชิตแอบมองทั้งคู่สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจ...

ได้เวลาเผาศพวัฒนา แขกเหรื่อทยอยขึ้นเมรุเพื่อวางดอกไม้จันทน์จนกระทั่งคนสุดท้าย สัปเหร่อกำลังจะปิดเตาเผาอยู่แล้ว ถ้าไม่ปรากฏร่างของนันทนาในสภาพทรุดโทรมจะเอาดอกไม้จันทน์มาวาง นันทาระเบิดอารมณ์ใส่ปัดดอกไม้จันทน์ในมือลูกสาวกระเด็น กันเกราขอร้องให้เธอเห็นแก่วิญญาณของท่านเจ้าสัวด้วย นันทากำลังของขึ้นให้เอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ ไล่ตะเพิดลูกไม่ไว้หน้า

“ยังจะมีหน้ากลับมาอีกเหรอ นังขี้ยา แกทำให้คุณพ่อตาย แกจะกลับมาอีกทำไม”

นันทนาพยายามอธิบายว่าแม่เข้าใจผิด แต่ท่านไม่ฟัง ไล่ตะเพิดเธอไปให้พ้น อย่าเอาความสกปรกมาแปดเปื้อนที่นี่ อย่าทำให้วิญญาณของคุณพ่อไม่สงบ นันทนาเสียใจมากวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา กันเกราตำหนิพี่สาว

“แล้วแบบนี้วิญญาณท่านเจ้าสัวคงสงบสินะคะ คุณพี่เป็นแม่ประสาอะไรไม่เคยฟังลูกเลย”

ตะวันมองภาพแม่ลูกทะเลาะกันด้วยความสะใจ...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน จ๊ะจ๋ากับหนูพุทธกำลังเปิด รายการในทีวีดู บังเอิญเจอช่องรายการข่าวซุบซิบสังคมมีภาพและข่าวของตะวันปรากฏขึ้นหน้าจอ เป็นจังหวะเดียวกับธงไทยเดินผ่านพอดี พิธีกรรายงานข่าวว่า

“ปรางค์ทองสาวสังคมคนดังที่หายหน้าหายตาไปนาน เตรียมควงสามี นันทวัฒน์แถลงข่าวโปรเจกต์ใหญ่ คอนโดฯหรูกลางกรุง วันอาทิตย์นี้ รอดูสิว่าเธอจะใส่ชุดของร้านไหนออกงาน”

จ๊ะจ๋ากับหนูพุทธถึงกับหน้าเสียรีบปิดทีวีแทบไม่ทัน ธงไทยเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา จ๊ะจ๋าบ่นอุบทำไมถึงซวยขนาดนี้ ดันเปิดมาเจอช่องข่าวยัยนั่น หนูพุทธไม่คิดว่าพี่ไทยจะรู้สึกรู้สมอะไรด้วย

“น้อยไปสิ ถ้าเล่นโผล่มาให้เห็นแบบนี้บ่อยๆคงจะลืมได้หรอก เจ้าประคุณ ประกาศออกงานขนาดนี้ ขอให้มือปืนมันตามไปยิงให้ตายๆไปซะเลยจะได้หมดสิ้นเวรกรรมกันสักที”

หนูพุทธขอร้องอย่าไปแช่งคนอื่นแบบนั้น มันไม่ดี จ๊ะจ๋าสวนทันที แช่งคนเลวอย่างตะวันไม่เห็นจะไม่ดีตรงไหน ธงไทยแอบฟังอยู่ด้านนอก อดเป็นกังวลแทนตะวันไม่ได้...

ข่าวนี้นันทาก็ได้ดูเช่นกัน และไม่พอใจมากที่นันทวัฒน์คิดจะควงนังงูเห่าออกงานเอิกเกริกทั้งที่เพิ่งจะเผาศพพ่อ เปลี่ยนใจจะให้ล้มเลิกการจัดงานครั้งนี้ ทนงศักดิ์ทำตามที่เธอสั่งไม่ได้ เพราะทางจีนทยอยบินมาเมืองไทยเกือบครบแล้ว นันทายืนกรานจะให้ยกเลิกไปก่อน นันทวัฒน์เตือนว่าโปรเจกต์นี้สำคัญมากแม่ก็รู้ดี อย่าทำมันพังเพียงเพราะท่านไม่ชอบตะวัน นันทาโกรธที่ลูกจี้ใจดำ ทำท่าจะเอาเรื่อง นันทวัฒน์ชิงตัดบทเสียก่อน

“ผมยังต้องเตรียมสคริปต์แถลงข่าวอีกใช่ไหมคุณทนงศักดิ์ งั้นเชิญที่ห้องทำงานผมดีกว่า”...

อีกมุมหนึ่งในสวนข้างบ้าน พิชิตตำหนิตะวันเล่นประกาศออกสื่อไปทั่วว่าจะไปงาน แบบนี้เท่ากับชี้เป้าให้ศัตรู ขนาดอยู่ในบ้านยังไม่ปลอดภัย แล้วในที่สาธารณะแบบนั้นไม่แย่หรือ

“อันตรายแค่ไหนฉันก็ยอม มันจะได้จบเร็วๆ ฉันจะทำเพื่อเรานะพิชิต เราจะได้ไปตามทางของเราสักที”

เขาเกรงเธอจะเอาชีวิตไปทิ้งเสียก่อน ตะวันกลับไม่กลัวเนื่องจากมีเขาคอยคุ้มกัน พิชิตเองก็ไม่แน่ใจเพราะมือปืนสาวคนนั้นฝีมือไม่ธรรมดา

“แต่ฉันมีวิธี รับรองว่าเราจะปลอดภัย”

ooooooo

เช้าวันงานแถลงข่าวของโอฬารพร็อพเพอร์ตี้ จ๊ะจ๋าจัดสำรับเสร็จ วานหนูพุทธช่วยไปตามธงไทยมากินข้าว เด็กน้อยขึ้นไปตามเขาที่ห้อง สักพักลงมาบอกว่าไม่เห็นเขาอยู่ในห้อง สงสัยจะออกไปข้างนอก

“ไม่เห็นบอกเลย หรือบอกพี่ไผ่ไว้ ไม่เป็นไรเดี๋ยวคงกลับมา” จ๊ะจ๋าอดเป็นกังวลไม่ได้ว่าเขาหายไปไหน...

สายวันเดียวกัน ตะวันซุ่มรออยู่แถมชุมชนแออัดใกล้บ้านของคีริน จนกระทั่งเห็นคีรินขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป ก็รีบออกจากที่ซ่อน เข้าไปหาแม่ของเธอในบ้าน...

ภายในห้องจัดงานแถลงข่าว นันทวัฒน์เห็นใกล้เวลาเริ่มงานเข้ามาทุกที แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของตะวัน ถามทนงศักดิ์ว่าเธอหายไปไหน ป่านนี้ทำไมยังไม่มา ทนายหนุ่มรู้แค่ว่าเธอติดธุระนิดหน่อย ถ้าจะให้เดาก็คงไม่พ้นเรื่องความสวยความงามเพราะจะต้องออกงานใหญ่

“นั่นสินะ วันนี้ผมตั้งใจให้ทุกคนได้รับรู้การกลับมาใช้ชีวิตคู่ของเรา เธอคงอยากให้ตัวเองดูสวยที่สุด”

พิชิตเห็นนันทวัฒน์ดูมีความสุขมาก จึงไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง ตัดสินใจล้มเลิกข้อตกลงที่ทำไว้กับตะวัน...

บนหลังคาตึกฝั่งตรงข้ามสถานที่จัดงาน คีรินประกอบปืนยาวติดลำกล้องเสร็จ เล็งไปยังเป้าหมายซึ่งเป็นบริเวณที่รถของผู้มาร่วมงานจะมาจอด รอการมาถึงของตะวันอย่างใจจดจ่อ...

ขณะที่ทนงศักดิ์ยืนมองนันทวัฒน์ให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องจัดงาน พิชิตเข้ามายืนข้างๆ บอกว่าตนเองรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร

“ผมก็รู้เหมือนกันว่าคุณจะทำอะไร...ผมตัดสินใจแล้ว” ทนงศักดิ์มองหน้าพิชิตเขม็ง

“ผม...ก็ตัดสินใจแล้ว” พิชิตว่าแล้วหันไปมองนันทวัฒน์ด้วยแววตามุ่งมั่น...

ในระหว่างที่ทนงศักดิ์และพิชิตตัดสินใจเลือกข้างความถูกต้อง คีรินต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นตะวันก้าวลงจากรถตรงหน้าทางเข้างานพร้อมกับแม่ของเธอเอง แถมโอบท่านไว้แนบตัวเพราะรู้ว่าระยะใกล้ขนาดนี้ เธอคงไม่เสี่ยงยิง เนื่องจากกลัวพลาด คีรินโกรธควันแทบออกหูที่ตะวันหลอกแม่ของเธอมาเป็นโล่มนุษย์ให้

ด้านตะวันรีบพาแม่ของคีรินเข้าไปในงาน ผ่านเครื่องมือและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยตรวจตราหาอาวุธ เธอยิ้มพอใจเพราะนั่นเท่ากับในงานนี้เธอจะปลอดภัย ทันทีที่ตะวันถึงห้องจัดงาน นักข่าวกรูกันเข้ามาถ่ายรูป เธอสลัดแม่ของคีรินทิ้งหน้าตาเฉย แล้วเดินเฉิดฉายให้พวกนั้นเก็บภาพด้วยมาดนางพญา แม่ของคีรินถูกนักข่าวชนจนเซเสียหลัก โชคดีที่พิชิตรับตัวไว้ทัน

“คุณปรา...เอ่อ คุณตะวันให้ผมมาคอยดูแล คุณน้าครับ ไปนั่งทางโน้นก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะหาน้ำให้” พิชิตพูดจบพาแม่ของคีรินไป

นันทวัฒน์เข้ามาตามตะวันให้ขึ้นเวทีได้แล้ว งานกำลังจะเริ่ม นักข่าวหันมาเห็นเขา ก็เชิญให้มาถ่ายรูปคู่กัน จังหวะนั้นมยุริญหอบดอกไม้ช่อใหญ่เข้ามาแสดงความยินดีกับนันทวัฒน์

พวกนักข่าวเห็นเป็นเรื่องสนุกที่ภรรยากับคู่หมั้นมาเผชิญหน้ากัน จึงจับทั้งสามคนมาถ่ายภาพเก็บไว้ ตะวันหงุดหงิดใจมากที่มยุริญมางานนี้ด้วย ฮึดฮัดจะเอาเรื่อง จังหวะนั้นมีเสียงพิธีกรในงานประกาศเชิญคณะกรรมการของทั้งไทยและจีนขึ้นเวทีเพื่อทำพิธีแถลงข่าว ทนงศักดิ์สบช่องรีบบอกกับพวกนักข่าว

“ขอตัวคุณนันทวัฒน์กับคุณปรางค์ทองขึ้นเวทีนะครับ”

ooooooo

ความหวังที่จะได้ควบคุมโอฬารพร็อพเพอตี้ของตะวันล้มไม่เป็นท่า เมื่อพิธีกรบนเวทีไม่ประกาศชื่อเธอเป็นประธานใหญ่ทางฝ่ายไทย แต่ประกาศชื่อนันทวัฒน์แทนที่ เธอมองทนงศักดิ์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะลงจากเวทีไปเล่นงานว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาอ้างว่าแค่ทำในสิ่งที่ควรจะทำเท่านั้น

“ทำในสิ่งที่โง่น่ะสิ น่าสงสารลูกเมียคุณนะที่มีผู้นำครอบครัวโง่ๆแบบนี้”

“ครับ ผมเป็นคนโง่ แต่เป็นคนโง่ที่โชคดีที่สุด” ทนงศักดิ์นึกย้อนไปถึงสิ่งที่ทำให้เปลี่ยนใจ แล้วเล่าให้ตะวันฟังว่าพีรยารู้เรื่องที่เขายักยอกเงินบริษัท แม้จะรู้ว่าเขาทำเพื่อครอบครัว แต่เธอไม่ต้องการเงินที่ได้จากการทุจริต ยอมล้มเลิกการไปเมืองนอก จะอยู่กับเขาที่นี่ ถึงลูกจะไม่ได้ไปเรียนต่อก็ไม่เป็นไร เพราะเธอรู้แล้วว่าเขารักเธอกับลูกๆมากแค่ไหน แล้วโผกอดเขาร้องไห้โฮ

ตะวันโกรธมากด่าว่าโง่ทั้งผัวทั้งเมีย ทนงศักดิ์ไม่สนใจว่าโง่หรือไม่ แต่ครอบครัวของเขาจะภูมิใจที่เขาไม่ได้ทรยศคิดคดต่อผู้มีพระคุณ

“ผู้มีพระคุณที่ไม่เคยให้อะไรแก่คุณเลยน่ะหรือ” ตะวันยิ้มเย้ย นันทาเดินมาทางด้านหลัง บอกว่าจะเป็นคนส่งลูกๆของทนงศักดิ์ไปเรียนต่อที่อังกฤษเอง และจะส่งให้เรียนจนจบขั้นสูงสุดเท่าที่พวกนั้นอยากเรียน

“ขอบใจนะคุณทนงศักดิ์ คุณทำให้ฉันเห็นคุณค่าของความดี”

“นี่มันอะไรกัน คุณทรยศฉันเหรอคุณทนงศักดิ์” ตะวันโกรธมากที่นันทาล่วงรู้แผนการนี้

นันทวัฒน์ซึ่งอยู่บนเวทีเห็นความผิดปกติแต่ยังติดงานลงมาไม่ได้ ตะวันเห็นพิชิตเดินเข้ามา สั่งให้จัดการพวกนี้ เขากลับเดินเลยไปยืนด้านหลังนันทา เธอถึงบางอ้อทันทีว่าพิชิตก็ทรยศเธอเช่นกัน

“ฉันควรจะทำยังไงกับฆาตกรที่ฆ่าท่านเจ้าสัวดี พิชิต” นันทายิ้มอย่างผู้ชนะ ตะวันแก้ตัวเป็นพัลวันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ วัฒนาตายเพราะความเหลวแหลกของนันทนาต่างหาก เธอไม่ล่วงรู้เลยว่านันทารู้จากลูกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในวันที่เจ้าสัวตาย

นันทนาตามมาสมทบ ยืนยันว่าตะวันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง

“พ่อเธอตายเพราะช้ำใจที่มีลูกขี้ยาอย่างเธออย่ามาโทษฉัน” ตะวันโวยวาย

“ฉันไม่ได้โทษเธอ ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินเธอ แต่กฎหมายจะตัดสินในสิ่งที่เธอทำกับพวกเรา”

“และสิ่งที่เกิดขึ้นที่ไร่นวลตะวัน” ทนงศักดิ์เสริม มีตำรวจสามนายเดินตรงมายังจุดที่ทุกคนยืนคุยกันอยู่ ตะวันเห็นไม่เข้าที รีบเดินไปคว้าแขนแม่ของคีรินลากออกจากงาน ตำรวจเดินฝ่าแขกในงานตามเธอไป โดยมีพิชิตตามไปอีกทอดหนึ่ง นันทวัฒน์ลงจากเวทีเข้ามาถามนันทาว่าตะวันไปไหน ท่านทำอะไรเธอ

“ฉันจะไปทำอะไรมันได้ มีแต่ตำรวจเท่านั้นแหละที่จะจัดการกับมัน”

นันทวัฒน์ผลุนผลันออกไป มยุริญเป็นห่วงเขามาก รีบวิ่งตาม

ooooooo

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 14 วันที่ 6 ต.ค. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ