อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 14 วันที่ 8 ต.ค. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 14 วันที่ 8 ต.ค. 58

“แกไม่มีทางบริสุทธิ์ไปได้หรอก เพราะถึงยังไงโลกทั้งโลกก็จะรู้ความจริงจากปากของผู้ชายคนนี้”

เสี่ยพูดอย่างเย้ยหยัน แล้วพริบตานั้น ใบหน้าของไอ้ขุมก็ปรากฏขึ้นบนจอ ไอ้ขุมเริ่มต้นแนะนำตัวเองและสารภาพเหตุการณ์ในคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์อย่างละเอียด

“ไอ้ขุม!” ธาดาช็อก หน้าซีดเผือด คิมหันต์ที่นั่งอยู่ข้างๆชุมสายดูหน้าธาดาในจอทีวี พูดอย่างสะใจว่าอย่าเพิ่งช็อกตายเสียก่อนล่ะ!



เวลาเดียวกัน มุกรินยังคงทุบตู้คอนเทนเนอร์สุดแรง แหงนมองกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่มุมสูงรอบตู้ พูดกับกล้องว่า

“ฉันรู้นะว่าพวกนายดูฉันอยู่ทางกล้องวงจรปิด จะไม่ปล่อยฉันก็ได้ แต่บอกหน่อยได้ไหมว่าฉันต้องอยู่ในนี้อีกนานแค่ไหน ใครก็ได้ โผล่หน้ามาอธิบายหน่อยว่าพวกนายกำลังจะทำอะไรฉัน...ได้โปรดเถอะ...เปิดประตูมาพูดกันให้รู้เรื่องหน่อยได้ไหม”

ทุกอย่างยังคงเงียบเหมือนเดิม...

ooooooo

ธาดานั่งเครียดเกร็งอยู่หน้าจอทีวีที่ไอ้ขุมกำลังเล่าเหตุการณ์ในคืนนั้นอย่างละเอียด พอไอ้ขุมพูดจบหน้าเสี่ยอ๋าก็ปรากฏขึ้นบนจอทีวีเอ่ยเย้ยๆว่า

“ถึงกับอึ้งเลยเหรอ” ธาดาตะโกนว่ามันเป็นการตัดต่อ ไม่มีใครเชื่อหรอก “งั้นให้เจ้าตัวเขามายืนยันเองด้วยตัวจริงๆ ตัวเป็นๆเลยเอาไหม”

สิ้นเสียงเสี่ย ไอ้ขุมก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องเสี่ยอ๋า พูดกับธาดาที่หน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเก่าว่า

“เฮีย..มันจบแล้วครับเฮีย สารภาพเถอะ หนักจะได้เป็นเบา”

ธาดาตะโกนลั่นว่าไอ้ขุมรับเงินจากเสี่ยอ๋าเพื่อมาซัดทอดตน ไอ้ขุมยืนยันว่าตนพูดความจริง

“ความจริงอยู่ที่กู ไม่ได้อยู่ที่มึง”

“ตามใจเฮียก็แล้วกัน แต่ถ้าผมต้องขึ้นศาล ผมก็จะพูดความจริงของผมนะ ไม่ใช่ความจริงของเฮีย...โชคดีครับเฮีย”

ลูกน้องเสี่ยอ๋าเอาตัวไอ้ขุมออกไปท่ามกลางเสียงด่าของธาดา

ที่ห้องลับเล็กๆ ชุมสายบอกคิมหันต์ว่าในชั้นอุทธรณ์ศาลจะไม่นืบพยานเพิ่มตนเคยบอกแล้วใช่ไหม คิมหันต์บอกว่าตนไม่สนใจเรื่องนั้น ฝ่ายเสี่ยอ๋าก็เร่งธาดาว่า

“เวลาเหลือน้อยลงทุกทีแล้วนะครับ คุณธาดาจะพูดอะไรก็พูดกับผมเสียตอนนี้ ก่อนที่ผมจะไม่ให้โอกาสคุณพูดอีก” พลางเสี่ยเดินเข้าไปสั่งธาดาให้เงยหน้าขึ้น พูดกับกล้องรอบตัวเขา เหมือนคำสารภาพของไอ้ขุม ธาดาเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจลึกๆ พูดกับกล้องว่า

“ไอ้คิม...ฉันไม่ได้ฆ่าพี่แก มันเป็นอุบัติเหตุ ยอมรับความจริงเสียบ้างซิโว้ย”

ที่ห้องลับ...เสี่ยอ๋าหันมองคิมหันต์ เขาพยักหน้าให้เสี่ยอย่างหนักแน่น เสี่ยพยักหน้าให้ลูกน้องอีกต่อหนึ่ง ลูกน้องเสี่ยเอื้อมมือกดปุ่ม video playback หน้าจอทีวีทุกเครื่อง ปรากฏหน้าดวงดาวทันที

“อา...” ดวงดาวเรียก ธาดาสะดุ้งสุดตัว “อาเป็นยังไงบ้าง...” ธาดาร้องถามว่าได้ยินเสียงตนพูดไหมแต่ดวงดาวไม่อาจตอบได้เพราะเป็นวีดิโอคลิปที่เธอบันทึกส่งมาให้เขา

“หวังว่าอาจะได้ดูคลิปนี้ในเวลาที่อาสุขภาพแข็งแรงขึ้นแล้วนะ หนูมีเรื่องที่อยากจะขอร้องอา...อาช่วยฟังหนูสักนิดเถอะนะ เพราะนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่หนูจะมีโอกาสพูดกับอา”

ธาดาตวาดถามว่า “พวกมึงจับตัวดาวไปด้วยหรือ”

“สิ่งที่หนูจะพูดนี้ พูดจากใจจริง ไม่มีใครขู่บังคับ หนูอยากให้อาขอขมากับเมียอาในสิ่งที่อาทำไว้ อย่างน้อย วิญญาณของเมียอารับรู้ได้ เขาจะได้อโหสิให้อา... มันจะเป็นมงคลกับตัวอาไปจนตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ หนูขอโทษที่ทิ้งอามาโดยไม่บอกลา ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแลอาในเวลาที่อาไม่มีใคร...”

“ดาว...” ธาดาครางออกมาอย่างเจ็บปวด

“หนูมีบางอย่างที่ต้องดูแล มันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับหนูมาก แต่หนูไม่มั่นใจว่ามันจะมีความหมายกับอาหรือเปล่า หนูไม่รู้นะ ว่าจะมีโอกาสได้เจออาอีกหรือไม่ แต่หนูอยากจะมีความทรงจำดีๆของอาเก็บไว้และหนึ่งในความทรงจำที่ดีก็คือ การที่อาแสดงให้เห็นว่าเป็นลูกผู้ชาย เป็นคนยอมรับความจริงและยอมรับผลการกระทำทุกอย่างที่เราเป็นผู้ก่อ โดยไม่หลบหนี... มันน่าภาคภูมิใจมากกว่าการโกหกหลอกลวงและหนีความจริงนะอา...”

ธาดาเครียดจัด ปวดหัวอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน ในขณะที่ดวงดาวก็ยังคงพูดต่อ

“แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า อาสงบนิ่งแล้ว ปล่อยวางได้แล้ว...วันนั้นหนูอาจจะกลับไปหาอา ไปดูว่า เรายังมีความหมายต่อกันมากพอหรือไม่ บางสิ่งบางอย่างที่คาดไม่ถึง อาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา...ขอบคุณนะอา ที่เคยให้โอกาสและความอบอุ่นกับหนู วันนึงที่เรากลับมาสมประโยชน์ร่วมกันได้อีก วันนั้นเราคงได้เจอกันนะอา...”

ภาพและเสียงในจอทีวีดับวูบลงทันที พร้อมกับที่ธาดาชักกระตุกอย่างแรง!

ชุมสายชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ ร้องอย่างตกใจ “ฉิบหายแล้วไอ้คิม!” คิมหันต์เองก็ลุกยืนหน้าเข้มไปเหมือนกัน

ลูกน้องเสี่ยอ๋าที่ผ่านการฝึกปรือขั้นตอนการช่วยชีวิตเป็นอย่างดี กรูกันเข้าไปหาธาดา ปฐมพยาบาลจนธาดาคลายจากอาการชักกระตุก

“ไอ้คิม...พอได้แล้วมั้งเพื่อน ถ้าถึงตาย มันจะยุ่งมากขึ้นนะเว้ย” ชุมสายเตือนสติ

“มันยังไม่ตายหรอก ก็แค่ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่ทัน” คิมหันต์พูดอย่างเลือดเย็น ชุมสายบอกว่านั่นก็ทำให้สมองตายได้ บอกคิมหันต์ให้พอเถอะ “ยัง! จนกว่ามันจะยอมสารภาพก่อน ก่อนที่สมองมันจะตาย” แล้วคิมหันต์ก็หยิบวิทยุสื่อสารสั่ง “เสี่ยอ๋า...ปิดเกมได้เลย!”

ooooooo

พักตรายังมุ่งมั่นทุ่มเทเวลาให้กับการเตรียมรับลูกในท้อง วันนี้ขณะเธอกำลังดูเสื้อผ้าของใช้ของเล่นสำหรับเด็กที่ซื้อมาอยู่ในห้องนอนนั้น อรรถก้าวเข้ามาช้าๆ

พักตราถามว่าเสื้อผ้าเด็กชุดไหนสวยกว่ากัน อรรถถามว่าไม่เร็วไปหน่อยหรือ กว่าจะถึงวันนั้นมันจะมีรุ่นใหม่ๆออกมาให้เลือกเยอะกว่านี้ พักตราบอกว่าอาจจะไม่สวยเท่านี้หรือถ้าสวยกว่าก็ซื้อเพิ่มอีกได้ไม่มีปัญหา

อรรถตัดสินใจที่จะทำสิ่งสำคัญ เขาเข้าไปนั่งใกล้ๆ ถามอย่างอ่อนโยน

“พักตร์...ลูกรู้ใช่ไหมว่า ลูกคือหัวใจของพ่อ... ความปรารถนาเดียวของพ่อคือต้องการให้ลูกมีความสุขที่สุด”

“พักตร์กำลังมีความสุขที่สุดในชีวิตค่ะพ่อ”

อรรถถามว่าแน่ใจนะ พอเธอตอบ “ค่ะ” เท่านั้น อรรถสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนพูดสิ่งสำคัญที่ต้องทำ

“งั้นพ่อขอโทษนะ พ่อจำเป็นต้องทำ...ทำทุกอย่าง... เพื่อลูก...” อรรถหันไปพยักหน้าให้สัญญาณทางหน้าห้อง ทันใดนั้นชายร่างใหญ่แต่งตัวดีสามคนก็พุ่งเข้ามาในห้อง จับพักตรามัดทันที เธอตกใจร้องลั่นถามว่าพ่อทำอะไรตน ทำไมทำอย่างนี้ อรรถไม่ตอบแต่บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ไปกับพ่อนะลูก...”

ชายร่างใหญ่อุ้มพักตราออกไป เธอทั้งดิ้นทั้งร้องตะโกนให้ปล่อยไปตลอดทาง จนเมื่อไปถึงคลินิกประจำ เธอก็ยังอาละวาด กรีดร้อง ตะโกนไม่หยุด

เธอถูกจับมัดไว้บนเตียงราวกับคนไข้วิกฤติแล้วเข็นไปยังห้องแพทย์ หมอคนเดิมเข้ามาคุยกับอรรถว่า

“หมอจะส่งจิตแพทย์เข้าไปคุยกับคุณพักตราก่อนนะคะ เราจำเป็นต้องรอให้แกสงบลงก่อน แล้วค่อยดำเนินการขั้นต่อไป” อรรถติงว่ามันจะช้าไปไหม “เรารวบรัดเดี๋ยวนี้เลย หมอเกรงว่าจะมีผลกับสภาพจิตใจหนักขึ้นไปอีก ให้จิตแพทย์ได้ทำหน้าที่ก่อนดีกว่าค่ะ”

อรรถฝากฝังด้วยความเป็นห่วงว่า ชีวิตลูกสาวตนอยู่ในมือหมอ หวังว่าหมอจะดูแลเธอให้ปลอดภัย หมอพูดตามประสบการณ์ว่าถ้าพักตราจะไม่หนีไปอีก อรรถบอกว่าตนสั่งคนให้เฝ้าห้องแบบไม่กะพริบตาเลย สภาพของพักตรานาทีนี้คือ เธอถูกมัดไว้กับเตียงแน่นหนาจนทำได้แค่ลืมตาจ้องเพดานนิ่ง มีลูกน้องอรรถสามคนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องอย่างระแวดระวัง

พักตราอาละวาดทั้งดิ้นทั้งด่าทั้งขู่จนเสียงแหบแห้ง พอดีจิตแพทย์เดินเข้ามาแนะนำตัวเองว่าชื่อจิตแพทย์ชมเนตร

“ออกไป! ฉันไม่ต้องการจิตแพทย์ ฉันไม่ได้บ้า!” จิตแพทย์บอกว่าไม่มีใครว่าเธออย่างนั้น ตนแค่ขอมาคุยด้วยเท่านั้น “ฉันไม่คุย ออกไป ออกไปให้หมด!”

“คุณพักตราคะ ดิฉันก็เป็นแม่ลูกอ่อนนะคะ และก็เคยท้องนอกมดลูกแบบเดียวกับคุณพักตรานี่แหละค่ะ ไม่อยากฟังประสบการณ์ของดิฉันเหรอคะ มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของคุณก็ได้นะคะ”

ฟังจิตแพทย์ชมเนตรแล้ว พักตราค่อยสงบลงและมีท่าทีจะฟังหมอมากขึ้น

ooooooo

ที่เซฟเฮาส์เสี่ยอ๋า...ธาดาหายชักแล้ว แต่ยังนั่งที่เดิมด้วยเครื่องพันธนาการที่ผ่อนคลายลง

ชุมสายกับคิมหันต์อยู่ในห้องลับ ชุมสายถาม คิมหันต์ว่ามันคุ้มหรือที่เขาจะลงทุนทำถึงขนาดนี้ คิมหันต์ยังคงตอบอย่างเลือดเย็นว่า “เดี๋ยวก็รู้ ฉากสุดท้ายของมันแล้ว”

แล้วจอทีวีทุกเครื่องก็สว่างขึ้นพร้อมกัน เป็นภาพมุกรินนั่งฟุบหลับอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ แล้วประตูท้ายตู้คอนเทนเนอร์ก็เปิด แสงสว่างจากภายนอกสาดเข้ามากระทบร่างมุกริน เธอค่อยๆหรี่ตาสู้แสงด้วยท่าทางหวาดกลัว ถามชายหุ่นล่ำที่เดินคุกคามเข้ามาว่าจะทำอะไรตน มันบอกว่าไม่ต้องตกใจ เราจะใช้เวลาเธอไม่นานนัก รับรอง

ธาดาจ้องเขม็งที่จอทีวี เห็นมุกรินถูกจับมัดตามัดปากไว้ ธาดาตะโกนลั่น

“หยุดนะ...หยุดเดี๋ยวนี้ หยุด...อย่าทำอะไรน้องสาวฉัน”

พวกชายฉกรรจ์เตรียมบ่วงมาผูกห้อยไว้กับขื่อ ธาดาตาเหลือกรู้ทันทีว่าพวกมันจะทำอะไรมุกริน!

เสี่ยอ๋าเริ่มสงครามประสาทกับธาดาใหม่ บอกเขาว่าเดาได้หรือยังว่าตนจะทำอะไรกับน้องสาวเขา บอกว่าทีแรกก็คิดว่าจะเอาไปเป็นเมีย แต่เพิ่งเปลี่ยนใจเมื่อครึ่งชั่วโมงมานี่เอง ธาดาตะโกนว่าไม่จริง เชื่อว่าเขาจะทำกับน้องสาวตนไม่ได้

“ทำไมจะไม่ได้...ผมกำลังจะทำให้ดูอยู่นี่ไง” เสี่ยอ๋ายิ้มเลือดเย็น แล้วบอกให้ธาดาดูวินาทีสำคัญให้ดี ธาดาตะโกนว่าตนยอมแล้ว ยอมพูดแล้ว เสี่ยย้ำว่า ความจริงทั้งหมดนะ ธาดาต่อรองให้ปล่อยน้องสาวตนก่อนได้ไหม

เสี่ยบอกว่ารอฟังคำตอบของเขาก่อน ธาดาบอกว่าตนจะพูดเท่าที่พูดได้ เสี่ยบอกว่าถ้าอย่างนั้นตนไม่รอ สั่งลูกน้อง

“เช็กเอาต์”

พริบตานั้นร่างมุกรินก็ถูกผูกคอแขวนแกว่งไปมา ธาดาร้องลั่น ชุมสายเองก็ทนไม่ได้ร้องเรียก “ไอ้คิม!”

การต่อรองเดิมพันด้วยชีวิตของมุกริน วินาทีต่อวินาที!

ธาดายังยืนกรานว่าจะพูดเท่าที่พูดได้ แต่เสี่ยอ๋าต้องการให้พูดความจริงทั้งหมด ธาดาน้ำตาทะลักออกมากับภาพที่มุกรินถูกแขวนคอห้อยต่องแต่ง ในที่สุดเขาตะโกนสุดเสียง

“ผมยอมแล้ว! ผมจะพูดทั้งหมดทุกอย่าง หมดทุกอย่างจริงๆ ผมฆ่าวิมลรัตน์ ผมฆ่าเธอด้วยมือของผมเอง ผมอยากจะฆ่าเธอมานานแล้ว ผมเกลียดเธอ! เกลียดเธอ!! เกลียดเธอ!!!”

ภาพมุกรินถูกแขวนคอหายไปจากจอทีวีทุกจอ กลายเป็นหน้าธาดาแทน เขาพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาจากภาพมุกรินถูกแขวนคอและความแค้นที่ปะทุจากอก...

“ผมพยายามมาหลายครั้งแล้ว...แต่ไม่สำเร็จ ที่ไม่สำเร็จเพราะใจผมเอง ใจผมยังไม่กล้าพอ จนกระทั่งวันนั้นวิมลรัตน์เมา ผมขอยืมเงินเขา แต่เขาไม่ให้ เราก็เลยทะเลาะกัน ด่ากันรุนแรงกว่าทุกครั้ง เธอตบหน้าผม...

ผมก็ตบหน้าเขา...” ธาดานิ่งไป เสี่ยอ๋าเร่งให้เล่าต่อ เขาไม่เล่าแต่ถามว่า “มุกล่ะ...บอกมาก่อนว่ามุกเป็นยังไง”

เสี่ยตะคอกว่าบอกแล้วว่ายังไม่ตาย ธาดาขอเห็นหน้าน้องก่อน จอทีวีทุกจอกลายเป็นภาพลูกน้องเสี่ยอ๋ากำลังประคองมุกรินให้ยืนขึ้น ธาดาขอพูดกับน้องหน่อย คิมหันต์ที่ดูอยู่ในห้องลับ พูดกับจอทีวีเบื้องหน้าตนว่า

“ไม่มีทาง จนกว่ามึงจะสารภาพเรื่องทั้งหมด” เสี่ยอ๋าก็พูดซ้ำในประโยคเดียวกัน ธาดาจึงเล่าต่อไปว่า

“วิมลรัตน์ยกปืนขู่ผม...ผมขอร้องให้เธอวางปืนลง แต่เธอไม่ยอม กลับเล็งปืนมาที่ผม ผมยกมือไหว้อ้อนวอนเธอแล้ว แต่เธอไม่สน...เธอยิงปืนใส่ผม 5 นัด”

“ไม่จริง!” คิมหันต์ตะโกน

“ถ้ามลไม่เอาปืนมายิงผม มันก็จะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้”

“แม่งโกหก!!” คิมหันต์จะวิ่งออกไป ถูกชุมสายร้องห้ามและรั้งไว้ ส่วนธาดาจ้องจอทีวีเขม็งพูดกับคิมหันต์ว่า

“ฟังให้ดีนะคิมหันต์ พี่สาวแกจะไม่มีวันตายถ้าฉันไม่จวนตัว ฉันจำเป็นต้องป้องกันตัว พี่สาวแกยิงปืนใส่ฉัน พี่สาวแกตั้งใจจะฆ่าฉัน พี่สาวแกมีชู้...”

คิมหันต์ตะโกนด่าแล้วพุ่งออกจากห้องไปทันทีจนชุมสายรั้งไว้ไม่ทัน

คิมหันต์พุ่งทะยานไปที่ห้องโถง หยิบรีโมตกดปิดการทำงานของกล้องทุกตัว ธาดาเงยหน้าขึ้นพูดอย่างรู้ทันว่านึกแล้วว่าต้องเป็นเขา คิมหันต์ย้ำว่าถ้าอย่างนั้นก็ต้องรู้ว่าตนต้องการอะไร พอธาดาบอกว่าตนพูดความจริงหมดแล้ว ก็ถูกคิมหันต์ชกหน้าจนเลือดกบปาก บอกว่าตนต้องการความจริงไม่ใช่ความจริงที่เขาแต่งขึ้น

“มันก็ความจริงอันเดียวกันนั่นแหละ...ไอ้คิม แกไม่เคยรู้ว่าวิมลรัตน์มีชู้มาแล้วกี่คน”

คิมหันต์ปลดเชือกที่มัดธาดาออก แล้วกดรีโมตเปิดกล้องทุกตัวอีกครั้ง หยิบวิทยุสื่อสารสั่ง

“เสี่ยอ๋า... ผมจะนับถอยหลัง 10 วินาที ถ้ามันยังโกหกอยู่ ก็จัดการได้เลย” แล้วคิมหันต์ก็เริ่มนับถอยหลัง

พอคิมหันต์นับสิบ ธาดาก็บอกว่า “วิมลรัตน์มีชู้จริงๆ แกต้องเชื่อฉัน” คิมหันต์นับเก้า ธาดาก็ยังพูดว่า “แต่ฉันไม่โกรธเพราะฉันก็มี” คิมหันต์นับแปด “ฉันไม่ เคยคิดว่าจะมีวันที่ฉันกล้าฆ่าวิมลรัตน์” คิมหันต์นับเจ็ด “แต่เพราะมลยิงปืนใส่ฉัน มันก็เลยทำให้ฉันมีความกล้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”

“หก!” คิมหันต์นับแทบเป็นตะโกน “ฉันบีบคอเขาจริง เขาดิ้น หนีไปถึงห้องน้ำ ฉันจับหัวเขากระแทกพื้นอย่างแรง ทีเดียวเท่านั้น ไม่น่าเชื่อ ทีเดียวเท่านั้น...มลก็นิ่งไป”

คิมหันต์จองหน้าธาดาเขม็ง ธาดาเล่าต่อไปอย่างไม่สนใจการนับถอยหลัง...

“ฉันยืนมองศพวิมลรัตน์อย่างมีความสุข ฉันหัวเราะกับสิ่งที่ฉันทำลงไป ฉันอยากทำอย่างนี้มานาน แสนนาน...ในที่สุดฉันก็ทำมันสำเร็จ...หลังจากนั้น แผนการที่เคยคิดไว้นานมาแล้ว ก็ถูกนำกลับมาใช้ได้ทันเวลา ฉันโทร.หาไอ้ขุม เรียกมันมาช่วยเคลียร์สภาพห้อง กลบเกลื่อนร่องรอย และก็ให้มันฝังตัวอยู่ในนี้รอรับโทรศัพท์จากฉัน ไอ้ขุมทำตามที่ฉันบอกครบทุกอย่าง เหมือนที่มันสารภาพนั่นแหละ...”

ชุมสายกับเสียอ๋าฟังคำสารภาพของธาดาอยู่ในห้องลับ...

เล่าจบแล้ว ธาดาถอนหายใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก หันไปจ้องหน้าคิมหันต์บอกว่ามุกรินไม่รู้เรื่องด้วย เธอคือผู้บริสุทธิ์ที่ถูกตนหลอกใช้ คิมหันต์กดรีโมตปิดกล้องทุกตัว ยิ้มอย่างสะใจขณะบอกว่า

“คลิปคำสารภาพของแกจะถูกเปิดเผยโดยเร็วที่สุด จากนั้นความแค้นระหว่างแกกับฉันก็จะได้จบลงเสียที ชะตากรรมของแกจะเป็นอย่างไรต่อไปฉันไม่สนใจและไม่คิดจะเกี่ยวข้องด้วย”

ธาดาถามถึงมุกริน คิมหันต์บอกว่าเธอจะได้ดูคลิปนี้ก่อนใครทั้งหมด ธาดาถามว่าเขาจะไม่ทำร้าย มุกรินใช่ไหม

“ฉันจะไม่ทำกับมุกรินเหมือนที่แกทำกับพี่มลหรอก” คิมหันต์พูดแล้วบอกเสี่ยอ๋าให้ปล่อยเธอได้

พอลูกน้องเสี่ยปล่อยมุกรินประคองเธอออกมา ปรากฏว่าไม่ใช่มุกริน เธอเป็นตัวปลอม! ธาดามองตะลึงงัน

“ฉันไม่มีวันทำร้ายคนที่ฉันรักหรอก ไม่แม้แต่จะคิด” ธาดารู้ว่าถูกหลอก คิมหันต์พูดอย่างสะใจว่า

“ช่วยไม่ได้ แกมันโง่เอง”

ooooooo

ประตูตู้คอนเทนเนอร์เปิดออก ลูกน้องเสี่ยอ๋าและมุกรินตัวปลอมเดินออกจากตู้

ที่แท้ตู้คอนเทนเนอร์นั้นอยู่ข้างๆห้องลับของเสี่ยอ๋านั่นเอง พวกที่ออกจากตู้คอนเทนเนอร์ตรงไปที่ห้องลับของเสี่ยอ๋าทันที

“จบงานแล้ว เหม่เม๊...เจ็บตรงไหนรึเปล่า” เสี่ยถามอย่างห่วงใย มุกรินตัวปลอมถอดวิก และชุดเซฟที่ต้นคอออก บอกว่าสบายมาก และหิวมากแล้วด้วย “งั้นรีบไปกินข้าวซะ เดี๋ยวมาเอาตังค์ที่ป๋า”

ที่ห้องโถง...คิมหันต์ดึงการ์ดบันทึกคลิปวีดิโอออกจากกล้อง ธาดาถามว่ามุกรินอยู่ไหน

“มุกรินอยู่ในที่สะดวกสบายและปลอดภัย เธอรอฉันอยู่ แล้วฉันจะต่อสายให้แกได้พูดคุยกับมุกรินเอง”

พูดแล้วคิมหันต์เดินออกไปอย่างไม่แยแส ธาดามองตามตาเป็นประกายด้วยความแค้นอีกครั้ง!

ที่ห้องลับ...คิมหันต์ถือคลิปไปบอกชุมสายว่า

“คลิปคำสารภาพจะถูกโหลดขึ้นยูทูบภายในพรุ่งนี้ ศาลจะรับฟังคำสารภาพนี้หรือไม่ ฉันไม่สน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับฉันอีกต่อไป” ชุมสายถามว่าแล้วมุกรินล่ะ? “ฉันจัดการเอง เมื่อมุกรู้ว่าพี่ชายทำความเลวอะไรไว้บ้าง ทุกอย่างก็จบ”

“แล้วถ้าเขารู้ว่าแกทำอะไรไปบ้าง เขาจะรู้สึกยังไง”

“มุกรักฉัน นั่นคือความรู้สึกเดียวของเธอ”

ooooooo

ก่อนหน้านี้คือ...ชายที่ไปเอาตัวเธอมา เข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ บอกมุกรินว่าไม่ต้องตกใจ เราจะใช้เวลาเธอไม่นาน ตนจะมาบอกเธอว่าอีกสักพักก็จะปล่อยตัวเธอ เพราะเจ้านายตนกำลังเจรจากับคิมหันต์อยู่

“คิมหันต์...คิมหันต์เกี่ยวอะไรด้วย?”

“เขายื่นข้อเสนอใช้หนี้ทั้งหมดแทนพี่ชายคุณครับ” ชายคนนั้นเดินออกไปท่ามกลางความงุนงงของมุกริน ที่เซฟเฮาส์เสี่ยอ๋า... ธาดานั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมด้วยสีหน้าเครียดจัด เขางุนงงและสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เสี่ยอ๋าตรงมายืนข้างหน้าเขา ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือแม้จะฉุกละหุกไปบ้างแต่ก็ดีที่ไม่ต้องมีใครตาย เสี่ยยื่นน้ำให้ดื่ม ธาดาไม่สนใจถามว่า

“ดวงดาวอยู่ไหน พวกแกทำร้ายดวงดาวหรือเปล่า”

“คงต้องถามคุณคิมหันต์เอง เพราะเรื่องนี้มันเป็นความสามารถของเขา เขาลงทุนอะไรไปแค่ไหน ผมไม่อาจรู้ได้”

ธาดายิ่งเครียด เสี่ยบอกให้ดื่มน้ำเสียหน่อยแล้วล้างหน้าล้างตาเสีย อีกไม่นานเขาจะได้คุยกับมุกรินแล้ว

เวลาเดียวกัน ชายคนนั้นเข้าไปบอกมุกรินในตู้คอนเทนเนอร์ว่าเธอเป็นอิสระแล้ว ปลอดภัยแล้ว มุกรินถามว่าแล้วรถของตนล่ะ ตนจะกลับอย่างไร

“ผมจะไปส่งมุกเอง” เสียงคิมหันต์ตอบพลางเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย มุกรินบอกว่าตนงงไปหมดแล้ว “ไม่มีอะไรต้องงง... ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว พี่ชายคุณก็ปลอดภัยแล้ว”

มุกรินถามว่า คนนั้นบอกว่าเขาจ่ายเงินใช้หนี้แทนธาดาแล้ว? คิมหันต์ทำเสียตอบในลำคอ มุกรินถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า “คุณช่วยพี่ใหญ่?”

“เพราะผมรักคุณ ผมยอมให้คุณตกเป็นเหยื่อความเหลวไหลของพี่ชายคุณไม่ได้หรอก...เจ้าหนี้ของพี่ชายคุณ เป็นคนที่เคารพพี่มลมาก เขาส่งข่าวบอกผม ผมก็เลยขอร้องให้เขายกหนี้ให้ แลกกับคำสารภาพ แล้วมุกจะได้เห็นคำสารภาพในอีกไม่นานนี้ แต่ตอนนี้มุกควรคุยกับพี่ชายมุกก่อนดีกว่า” แล้วคิมหันต์ก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ มุกรินรับไปอย่างตื่นเต้น

คำแรกที่ธาดาถามคือเธอปลอดภัยไหม พวกมันทำอะไรเธอหรือเปล่า มุกรินบอกว่าไม่มีใครทำอะไรตนเพราะคิมหันต์มาช่วยไว้ทัน ถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง เห็นคิมหันต์บอกว่าเจ้าหนี้ยกเลิกหนี้สินให้หมดแล้ว?

“ใช่...พี่คงต้องขอบคุณคิมหันต์ เขาดีกับพี่มาก” มุกรินถามว่าเขายอมแลกด้วยคำสารภาพ? “ใช่...มุก พี่ขอโทษที่พี่ทำเรื่องราวบางอย่างที่ไม่งามและมันส่งผลไปถึงมุก ยกโทษให้พี่ด้วยนะ”

มุกรินบอกว่าไม่เป็นไร ธาดาสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก เอ่ยปากขอมุกรินว่า

“มุกช่วยบอกคิมหันต์หน่อยได้ไหมว่าคืนนี้พี่ขอไปค้างที่บ้านพี่มล...ได้ไหม...พี่อยากไปขออโหสิกับสิ่งที่พี่เคยทำไม่ดีกับเขา”

มุกรินส่งโทรศัพท์ให้คิมหันต์ เขาบอกธาดาว่าจะบอกน้าหวินกับน้าไหวให้ไม่มีปัญหา พูดอย่างโล่งใจว่า

“ในที่สุดเรื่องราวทั้งหมดก็จบลง และจบได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ”

เสี่ยอ๋าพูดกับธาดาว่าหวังว่าเราคงไม่ต้องเห็นหน้ากันอีกนะ เตือนสติเขาว่า

“การพนันไม่เข้าใครออกใคร ถ้าไม่จำเป็นก็ควรอยู่ห่างๆไว้จะดีกว่า เชื่อผมเถอะ”

คิมหันต์ยังอยู่กับมุกรินในตู้คอนเทนเนอร์ เขาขยับเข้าไปหาเธอ พูดอย่างเปี่ยมด้วยความรักว่า

“ผมได้ทำทุกอย่างแล้ว...เพื่อคนที่ผมรัก ทั้งพี่มลและคุณ หลังจากวันนี้ คุณจะคิดยังไงกับผม ก็แล้วแต่คุณ ผมยอมรับได้ทั้งนั้น กลับบ้านกันเถอะครับ” พูดแล้วเดินออกจากตู้คอนเทนเนอร์ไป มุกรินจึงลุกเดินตามไป

ooooooo

ที่คลินิกแห่งนั้น...บ่ายนี้ พักตรานอนนิ่งอยู่บนเตียงเธอยังถูกพันธนาการไว้เหมือนเดิม ดวงตาเธอมองเหม่อไป นอกห้อง ไม่มีเสียงโวยวาย ดิ้นรนใดๆทั้งสิ้น

พยาบาลเข้ามาบอกเธอว่า “คุณพักตราคะ คุณพ่อมาหาค่ะ” พักตรานอนนิ่ง พยาบาลบอกแล้วเดินออกไป ครู่เดียวอรรถเดินเข้ามา ทักอย่างอ่อนโยนว่า

“หน้าตาสดใสขึ้นเยอะเลยนะลูก” พักตรานิ่ง “ยังไม่หายโกรธพ่ออีกเหรอพักตร์...” เธอยังคงนิ่ง “หนูรู้ไหมว่าพ่อทำเพื่อลูก ทั้งหมดที่พ่อทำไป มันไม่มีเหตุผลอื่นเลย นอกจากความรัก ความห่วงใยที่พ่อมีต่อลูก... รู้ไหมพ่อเองก็อยากเห็นหน้าหลานของพ่อใจจะขาด...”

พักตราเหลือบมองหน้าคุณพ่อด้วยแววตาเลื่อนลอย

“แต่ชีวิตเราไม่ได้มีแค่วันนี้วันเดียว เด็กคนนี้อาจจะยังไม่พร้อมในวันนี้...มันอาจจะยังไม่ใช่เวลาของเขา... เพราะฉะนั้น หน้าที่เราในฐานะแม่ก็คือ ทำกายและใจของเราให้สดชื่น แจ่มใสและแข็งแรง...เมื่อถึงเวลาที่เขาจะมาเกิด เราก็จะมีความพร้อมที่จะดูแลเขาอย่างดีที่สุด”

เห็นพักตรานอนนิ่งฟังอย่างครุ่นคิด อรรถถามอย่างอ่อนโยน อบอุ่น “เข้าใจที่พ่อพูดใช่ไหม” พอได้ยินพักตราตอบเบาๆว่า “ค่ะ” อรรถดีใจมาก เขายิ้มออก บอกพักตราว่า

“งั้นหนูนอนรอหมออีกแป๊บนึงนะลูก ไม่ดื้อไม่ต่อต้านหมอนะ...ทุกอย่างที่หมอทำก็เพื่อลูก อยากได้อะไรก็บอกพ่อนะ...พ่ออยู่แถวนี้แหละ”

“แก้มัดให้พักตร์ได้ไหมคะ...พักตร์เจ็บ...”

“ได้สิลูก” อรรถตอบอย่างกระตือรือร้นแล้วรีบแก้พันธนาการให้ พอดีพยาบาลเข้ามาบอกว่าอีกสามสิบนาทีหมอจะเข้ามาฉีดยา อรรถจึงขอออกไปรอข้างนอก พักตราพยักหน้า

พออรรถเดินออกไป น้ำตาหยดใหญ่ก็ไหลออกจากดวงตาพักตรา...

แต่พอหมอจะมาฉีดยา ปรากฏว่าพักตราหายไปจากห้องแล้ว อรรถเดินเข้ามาด้วยสีหน้าโกรธจัดดุลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องว่าเฝ้าอย่างไรปล่อยให้พักตราหนีไปได้ แต่พอสำรวจและดูจากกล้องวงจรปิดแล้วจึงรู้ว่าเธอกระโดดออกทางระเบียงขึ้นแท็กซี่หนีไปแล้ว

“บัดซบ! ออกไปตามหาให้ทั่วเดี๋ยวนี้ แจ้งท้องที่ด้วย ด่วนเลย”

พักตราหนีออกจากโรงพยาบาลขึ้นแท็กซี่ที่ผ่านมา ระหว่างนั่งในรถเธอโทร.หาคิมหันต์อย่างร้อนใจแต่มือถือเขาให้ฝากข้อความ เธอผิดหวังแต่ก็รีบพูด...

“คิม...คิมอยู่ที่ไหน พักตร์อยากไปหาคิมค่ะ... พวกนั้นจะทำร้ายลูกเรา พักตร์ไม่ยอม คิมต้องช่วยพักตร์นะคะ เราต้องปกป้องลูกของเรานะคิม...คิม...”

พอเธอพูดเสร็จก็เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงจนคนขับแท็กซี่หันมองอย่างกังวล...

ooooooo

ธาดาไปที่บ้านวิมลรัตน์ ถวิลกับไสวออกมาต้อนรับตามคำสั่งของคิมหันต์ พอเข้าบ้าน คิมหันต์ก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทั้งสองมาขอลาไปเยี่ยมบ้านพร้อมกัน ธาดาอนุญาตเพราะทั้งสองไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันเลย

วันนี้...ทั้งถวิลและไสวต้อนรับธาดาอย่างดีถามว่าเขาต้องการอะไรไหมหิวไหม เขาไม่หิวแต่ถามว่าห้องนอนตนล็อกหรือเปล่า ทั้งสองบอกว่าเปล่าถามว่าจะนอนห้องนั้นหรือ ธาดาบอกว่าไม่บอกทั้งสองจะไปไหนก็ไป ปิดบ้านให้ด้วยก็แล้วกัน

พอถวิลกับไสวออกไปแล้ว ธาดาเดินขึ้นชั้นบนช้าๆ เหมือนจะทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา...ทุกย่างก้าว...

คืนนั้น...ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง พอวิมลรัตน์รู้ว่าเขาอนุญาตให้ถวิลกับไสวลากลับบ้านก็ตวาดถามว่ามีสิทธิ์อะไรมาอนุญาตคนของตน

คืนนั้นทั้งสองทะเลาะกันรุนแรงมาก เมื่อธาดาขอยืมเงินแล้วเธอไม่ให้ วิมลรัตน์เอาปืนออกมาจ่อต่างท้าทายกันด้วยอารมณ์รุนแรง จนธาดาเข้าแย่งปืนจากวิมลรัตน์และยิงเฉี่ยวหน้าวิมลรัตน์ไปห้านัดติดกัน วิมลรัตน์กรีดร้องด้วยความโกรธ ตกใจ ถูกธาดาจับเอาหัวกระแทกผนังอย่างแรงจนเธอแน่นิ่งไป เขาลากเธอเหวี่ยงไปที่หน้าห้องน้ำ

ระหว่างนั้นธาดาปวดหัวรุนแรงเป็นระยะ เมื่อเห็นวิมลรัตน์แน่นิ่งไป ทีแรกเขาก็เย้ยว่าเมาหลับล่ะสิ แต่เห็นเลือดเธอไหลออกมานองพื้น ธาดาถลาเข้าประคองร้องเรียก “มล...มล...” แต่เธอแน่นิ่ง ธาดายกมือพนมเอ่ยเสียงสั่นเครือ

“ผมขอโทษ...ขอโทษนะมล ยกโทษให้ผมด้วย...” แล้วหยิบมือถือขึ้นมาพยายามกดปุ่มโทร.ออก

ooooooo

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 14 วันที่ 8 ต.ค. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ