อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 13 วันที่ 6 ต.ค. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 13 วันที่ 6 ต.ค. 58

ปรารภเฝ้าดูอยู่อย่างเป็นห่วง เมื่อมุกรินเล่าเรื่องพักตราท้องให้ฟัง เขาบอกว่าเรื่องไม่ได้อยู่ที่มุกรินแต่อยู่ที่คิมหันต์ และเมื่อได้ยินมุกรินบอกว่าเธอตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าต้องตัดขาดจากคิมหันต์ให้ได้ แม้พักตราจะเลิกกับคิมหันต์ตนก็ไม่กลับไปหาเขาอีกเด็ดขาด อย่างน้อยก็เพื่อเห็นแก่ลูกของเขา ปรารภฟังแล้วแอบหวังอยู่เงียบๆ

วันนี้ขณะมุกรินกำลังทำงานเธอเห็นน้าแป๋วกำลังเปิดประตูรั้วให้รถคิมหันต์เข้ามา เธอบอกปรารภอย่างไม่สบายใจว่าคิมหันต์มา ช่วยตนหน่อยได้ไหม



ปรารภออกไปเผชิญหน้าคิมหันต์ ยืนกันไม่ให้เขาเข้าไปในบ้านที่เปิดเป็นสำนักงาน คิมหันต์จะคุยกับมุกรินให้ได้ เมื่อถูกปรารภกันไว้ อย่างไรก็ไม่ยอมให้เข้า เขาจึงตะโกนเรียกและขอคุยกับเธอ ตะโกนบอกเธอก่อนกลับไปว่า

“เราจากกันอย่างนี้ไม่ได้หรอกมุก คุณได้ยินผมไหม ผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่ายอย่างนี้หรอก มุกริน”

ปรารภเข้าไปบอกมุกรินว่าตนกำชับน้าแป๋วแล้วว่าถ้าคิมหันต์มาห้ามเปิดประตูรับ และตราบใดที่อยู่ในบ้านตน อยู่ในออฟฟิศของเราอย่างนี้ เธอไม่ต้องห่วง ไม่มีใครทำอะไรเธอได้หรอก

“มุกไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดไปนี่คะพี่รภ” มุกรินตอบอย่างอดกังวลไม่ได้

ฝ่ายธาดาขณะกำลังจะขับรถออกจากบ้าน ถูกเสี่ยส่งลูกน้องไปคุกคามว่าเหลือเวลาอีกแค่สามวันเท่านั้นแล้วขับรถมอเตอร์ไซค์กลับไป

ธาดาขับรถออกไปได้ไม่นานเกิดมืออ่อนไม่มีแรงมือตกจากพวงมาลัยจนต้องใช้อีกมือจับมือนั้นขึ้นมาจับพวงมาลัย เหงื่อแตกพลั่กจนตัวชื้น

เมื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอถือแผ่นซีดีเอกซเรย์สมองมาบอกเขาว่า

“แขน ขา ของคุณอาจจะเริ่มอ่อนแรง จนไม่สามารถเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้ การพูด ฟัง อ่าน เขียน ผิดปกติไป ที่เป็นเช่นนี้เพราะก้อนเนื้อเริ่มเข้าไปกดเบียดตำแหน่งของสมอง เพราะฉะนั้นคำแนะนำเดียวของหมอก็คือต้องผ่าตัดโดยเร็วที่สุด หมอเตรียมทีมผ่าตัด รอวันนัดจากคุณธาดาอยู่นะครับ”

ธาดาถามว่าถ้าตนไม่ผ่าล่ะ? หมอบอกว่าไม่มีคำแนะนำแบบนั้น เขาถามอีกว่า ตนจะทรมานก่อนตายไหม?

ooooooo

ฝ่ายคิมหันต์ดำเนินการตามความคิดของตัวเอง เขารู้ที่อยู่ของดวงดาวจากเจ้าของบาร์จึงไปหาเธอที่บ้านไม้หลังเล็กๆที่ชะอำ บอกว่าที่ตนดั้นด้นมาหาเธอเพราะจะขอความร่วมมือบางอย่างจากเธอ ดวงดาวถามว่าเรื่องอะไร

“แฟนเก่าของคุณกับคดีฆาตกรรมพี่มล”

“เฮ้อ...ยังไม่จบอีกเหรอ”

“มันจะจบได้ถ้าคุณให้ความร่วมมือกับผม ดวงดาว...ถ้าคุณยังไม่เลิกกับเขา ผมก็ไม่กล้าพูดอย่างนี้กับคุณหรอก”

“ฉันขอเวลาคิดเยอะๆก่อนได้ไหม”

คิมหันต์ยักไหล่ ถามว่าทำไมเธอเย็บเสื้อเด็ก ดวงดาวบอกว่า “พอใจ” เขาถามว่าพ่อเด็กรู้หรือเปล่าเธอบอกว่า “ไม่จำเป็น” คิมหันต์จึงบอกว่า เย็บเผื่อลูกตนด้วยได้ไหม ดวงดาวคิดว่ามุกริน แต่เขาบอกว่า

“ไม่ใช่มุก...พักตรา”

เมื่อรู้ว่าตนมีเวลาอีกไม่นานแล้ว ธาดาไปที่บ้านมุกรินเจอปรารภกำลังไปรับเธอพอดี ธาดาถามปรารภตรงๆว่า

“ในฐานะที่ผมเป็นพี่ชายมุก เป็นผู้ใหญ่คนเดียว

ที่มุกมี ผมขอถามตรงๆว่าคุณคิดจะขอยายมุกแต่งงาน รึเปล่า” ปรารภพยักหน้า ธาดาถามว่าเมื่อไหร่ เขาบอกว่าเมื่อทุกอย่างพร้อม “เร็วๆหน่อยได้ไหม รีบขอซะตอนที่ผมยังอยู่...พรุ่งนี้เลยเป็นไง” ปรารภขอเป็นอีกสองวันดีกว่าเป็นวันเกิดตนพอดี “งั้นผมขอแสดงความยินดีล่วงหน้าเลยก็แล้วกัน...น้องเขย”

ธาดาเดินเข้าบ้านไป ปรารภยังนั่งยิ้มฝันเคลิ้มอยู่ในรถ...

ooooooo

คืนนี้คิมหันต์กลับมาเข้าห้องนอนเห็นพักตรานอนตะแคงอยู่บนเตียง เธอทักเขาอย่างอ่อนหวานแล้วขอให้กอดตนหน่อย ถามว่าเขาอยากได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย คิมหันต์บอกว่าได้ทั้งนั้น

“พรุ่งนี้หมอนัดพักตร์ตรวจเลือดอีกทีค่ะ ลูกของเราจะต้องแข็งแรง ปลอดภัย คิมเชื่อไหมคะ” คิมหันต์ตอบสั้นๆว่างั้นสิ “พักตร์ก็เชื่ออย่างนั้นค่ะ...พักตร์รักคิม นะคะ ลูกคงดีใจที่เห็นพ่อกับแม่รักกัน”

คิมหันต์ขอไปอาบน้ำก่อน แต่ที่แท้เขาไปส่งข้อความ ถึงมุกรินในห้องน้ำ พรรณนาความรักของตนที่มีต่อเธอและจะไม่ยอมเสียเธอไปเป็นอันขาด

รุ่งเช้า เมื่อพักตราไปคลินิกฝากครรภ์เพื่อตรวจเลือด คิมหันต์ก็ไปหาเสี่ยอ๋าที่เซฟเฮาส์ถามว่าทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม

“เรียบร้อย ดีเดย์วันมะรืน จบภารกิจนี้คือจบนะครับ จบเป็นจบ ไม่มีต่ออีกแล้วนะ” เมื่อคิมหันต์พยักหน้า เสี่ยอ๋าก็บ่น “ผมเสียเวลากับไอ้หมอนี่มามากเกินไปแล้ว”

ระหว่างที่พักตราอยู่ในห้องตรวจ อรรถโทร.ไปฝากพยาบาลให้บอกพักตราว่าตนกำลังจะไปหา แต่ถ้ามีอะไรด่วนให้ช่วยโทร.บอกตนด้วย

พักตราออกจากห้องตรวจโทร.บอกคิมหันต์ให้มารับด้วย เธอร้องไห้บอกเขาว่าหมอบอกว่าตนท้องนอกมดลูก ถ้ารักษาไม่ทันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต บอกเขาว่าจะไม่มาตรวจที่นี่อีกแล้ว คิมหันต์ปลอบให้ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด เพราะเธอร้องไห้จนฟังไม่รู้เรื่องแล้ว

ผลการตรวจที่ทำให้พักตราร้องไห้จนพูดแทบไม่รู้เรื่องคือ...

หมอบอกว่า ตัวอ่อนไม่ได้ฝังตัวอยู่ในมดลูกอย่างที่ควรจะเป็น แต่ไปฝังที่ท่อนำไข่ ซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะท่อนำไข่ไม่สามารถขยายตัวได้อย่างมดลูก เมื่อตัวอ่อนโตขึ้นท่อจะแตก ทำให้ตกเลือดภายใน ถ้ารักษาไม่ทันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

อรรถมาถึงเจอพักตรากำลังร้องไห้อย่างหนัก เขาชวนเธอเข้าไปคุยกับหมออีกที พักตราให้อรรถเข้าไปคนเดียวพออรรถเข้าไปคุยหมอบอกเขาว่า

“หมอจะรักษาด้วยการใช้ยาฉีดเพื่อให้ตัวอ่อนหลุดออกมาเองโดยไม่กระทบกระเทือนอวัยวะอื่นๆและมีปัญหาน้อยที่สุดในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป แต่วิธีนี้มีข้อเสียเดียวคือ ถ้าร่างกายไม่ตอบสนองตัวอ่อนไม่หลุด เราก็ต้องผ่า ถ้าเรารีบทำตอนนี้ ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ”

เมื่ออรรถบอกว่าปัญหาใหญ่ที่สุดตอนนี้คือจิตใจของพักตรา หมอบอกว่าเรื่องนี้ท่านคงต้องช่วยด้วย แต่พออรรถออกมาพยาบาลบอกว่า “คุณพักตราออกไปแล้วค่ะ บอกว่าจะรีบไปซื้อของใช้ แล้วจะกลับบ้านเลยค่ะ”

อรรถโทร.หาคิมหันต์เขาบอกว่ากำลังไปรับพักตรา อรรถบอกให้เขาไม่ต้องมาที่คลินิก ให้แวะไปที่บ้านเลย เธออยู่ที่นั่น ถามว่าเขารู้ผลตรวจจากหมอแล้วใช่ไหม พอคิมหันต์บอกว่าพักตราบอกคร่าวๆแล้ว อรรถพูดอย่างเดาใจเขาได้ว่า

“ฉันรู้ว่าลึกๆแล้ว นายคงพอใจไม่น้อย ที่เด็กคนนี้ จะไม่มีโอกาสได้เกิดมา แต่นายต้องรับรู้ด้วยว่า ตรงข้าม กับความพอใจของนาย คือหัวใจที่แหลกสลายของพักตรา เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการแลกกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ นายพอจะช่วยดูแลพักตราอีกสักระยะได้ไหม”

“ได้ครับ แต่ผมต้องเป็นคนกำหนดเองว่า หมดระยะแค่ไหน”

“ได้...มีอีกเรื่องนึงที่นายควรรู้ ถ้ายายพักตร์ไม่ยอม เอาเด็กออก มันอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตเขา และตอนนี้ มีนายคนเดียวเท่านั้น ที่จะพูดกับยายพักตร์ได้ดีที่สุด”

ooooooo

เมื่อคิมหันต์กลับถึงบ้าน พบพักตรากำลังว่ายน้ำอยู่ในสระ เธอบอกว่านี่เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เด็กในท้องแข็งแรง

คิมหันต์พยายามจะบอกคำแนะนำของหมอ พักตราตัดบทว่าตนไม่เชื่อหมอ ตนเป็นแม่อุ้มท้องมาใครจะรู้ดีกว่าตนได้อย่างไร บอกคิมหันต์ว่า “เขาคือของขวัญที่วิเศษที่สุดของเรา เขาเกิดมาเพื่อเรา แล้วไอ้หมอ พวกนั้นจะมาบอกว่าเขาไม่ปกติ จนต้องทำแท้งได้ยังไง พักตร์ไม่เชื่อ พักตร์จะไม่มีทางทำอย่างที่พวกนั้นบอก พักตร์จะพิสูจน์ให้เห็นว่าหมอพวกนั้น คิดผิด!”

คิมหันต์โทร.บอกดวงดาวที่ชะอำว่าตนหมดโอกาสที่จะเป็นพ่อแล้ว ดวงดาวทักว่าน้ำเสียงเขาดีใจ และที่โทร.มาบอกตนเพราะคนที่เขาควรจะบอกเธอไม่อยากคุยด้วยใช่ไหม เมื่อคิมหันต์ยอมรับ ดวงดาวบอกว่า

“ถ้าคุณอยากจะคุยกับเขาจริงๆ มันก็คงไม่ยากเกินความสามารถของคุณหรอก”

“อย่าลืมพิจารณาเรื่องที่ผมขอความช่วยเหลือด้วยนะ” คิมหันต์ย้ำในตอนท้าย

“รู้...ไม่ลืมหรอก”

เวลาเดียวกัน ธาดาถูกลูกน้องเสี่ยมาเตือนว่าเขามีเวลาเหลืออีกสองวันเท่านั้น ธาดาตัดสินใจโทร.หา เสธ.บอกว่าตนไม่รบกวนเสธ.เรื่องเงิน แต่หากตนเป็นอะไรไป ฝากเสธ.ให้ช่วยคุ้มครองน้องสาวตนด้วย

ooooooo

ปรารภเตรียมงานพรีเซนต์งานตัวแรกของบริษัท เขาบอกว่าจะไปเอาของให้มุกรินเฝ้าออฟฟิศครู่หนึ่ง พอปรารภออกไปคิมหันต์ก็เข้ามา เขามาบอกข่าวดีว่าตนไม่มีลูกกับพักตราแล้ว เป็นโอกาสดีที่ตนจะหย่าขาดจากเธอโดยไม่มีพันธะต่อกัน

แทนที่มุกรินจะดีใจเธอกลับตกใจ เธอเห็นถึงความเหี้ยมและไม่มีความรับผิดชอบของเขาที่มองทั้งตนและพักตราเป็นแค่เครื่องมือ ถามอย่างรับไม่ได้ว่า “ทำไมคุณเป็นคนอย่างนี้คิม!”

คิมหันต์จะดึงตัวเธอเข้าไปกอด มุกรินเบี่ยงตัวหลบอย่างรังเกียจ ก็พอดีปรารภกลับมาร้องห้าม แต่คิมหันต์ไม่สนใจเอาแต่พูดกับมุกริน บอกถึงความรักที่ตนมีต่อเธอ แต่ตนรังเกียจพี่ชายเธอเพราะตนรักพี่มล ย้ำว่า

“ชีวิตผมถูกขับเคลื่อนด้วยความรักเท่านั้น ไม่มี อย่างอื่นแอบแฝง ถ้าชีวิตผมจะจบลงด้วยความล้มเหลว มันก็เป็นเพราะเหตุผลเดียว คือความรัก เพราะผมรักคุณมากเกินไป”

พูดกับมุกรินแล้ว คิมหันต์ถามปรารภว่าอยากชกหน้าตนไหม ปรารภชกทันทีสามทีซ้อน คิมหันต์ไม่ตอบโต้แต่บอกก่อนออกไปว่า “คุณรักมุกได้ไม่เท่าผมรักหรอก” มุกรินได้แต่ยืนมองสองชายซึมๆ

หลังจากนั้นคิมหันต์โทร.บอกดวงดาวว่าคุยกับเขาแล้วเป็นไปตามคาด เขาด่าตนไม่มีชิ้นดี ดวงดาวเสียใจด้วย บอกว่า

“ความรักเอาแน่นอนไม่ได้อย่างนี้แหละ ส่วนเรื่อง ที่คุณขอร้องฉัน ฉันตัดสินใจแล้ว ตกลงตามนั้นก็แล้วกัน”

คำว่า “ตกลงตามนั้น” ที่ดวงดาวพูดถึงคือการพูดคุยกันเมื่อครั้งที่คิมหันต์มาหาเธอที่ชะอำ ขอให้เธอช่วยทำให้ธาดายอมขอโทษยอมรับความจริงอย่างองอาจกล้าหาญ กล้าขอขมาดวงวิญญาณพี่มลในสิ่งที่เขาทำลงไปเท่านั้น...นั่นเอง

ooooooo

ค่ำนี้คิมหันต์กลับไปเจออรรถนั่งรออยู่ พอเจอหน้าอรรถขอเขาว่า

“ก่อนที่เธอจะไปจากพักตรา ช่วยบอกให้เขากลับมาหาหมอให้ได้ เขาควรจะรู้ว่าถ้าตกเลือดอาจจะถึงตายได้”

แล้วคืนนี้หลังจากพักตราชวนเขาตั้งชื่อลูก ตั้งทั้งผู้หญิงผู้ชายไว้เลือก คิมหันต์พยายามจะให้เธอยอมรับความจริงแต่พักตราขอเขาอย่าพูดอะไรที่ทำให้ตนอารมณ์เสีย และเมื่อเธอลุกไปเข้าห้องน้ำ คิมหันต์ก็เห็นรอยเลือดสีคล้ำเปื้อนผ้าปูที่นอนตรงที่เธอนั่ง!

รุ่งขึ้น คิมหันต์บอกอรรถว่าวันนี้ตนมีธุระสำคัญต้องทำ บอกว่าพักตราเปลี่ยนผ้าปูที่นอนด้วยตัวเองแต่เช้า อรรถพูดขำๆแกมเอ็นดูว่าไม่น่าเชื่อว่าท้องแล้วขยัน คิมหันต์บอกว่าไม่น่าจะใช่ พูดนิ่งๆแต่ทำให้อรรถตกใจมากว่า

“เธอขยัน เพราะไม่อยากให้ใครเห็นเลือดที่เปื้อนที่นอนมากกว่า...วันนี้ท่านคงต้องดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด หน่อยแล้วล่ะครับ”

เช้าวันเดียวกันนี้ ธาดาอวยพรมุกรินก่อนเธอออกจากบ้านว่า ขอให้วันนี้เจอแต่สิ่งดีๆ มุกรินก็ขอให้เขาเจอแต่สิ่งดีๆเช่นกัน ทั้งนี้เพราะเมื่อคืนธาดาได้คุยกับเธอถึงปรารภ เขาถามความรู้สึกของเธอที่มีต่อปรารภ พูดเหมือนสั่งเสียว่า

“ถ้าพี่ไม่อยู่ มุกก็จะมีนายปรารภคนนี้แหละที่พี่ไว้ใจ” แล้วย้ำว่า “พรุ่งนี้วันเกิดนายปรารภ ถ้าเขาขออะไรมุก มุกควรจะรับไว้พิจารณานะ เชื่อพี่”

เมื่อธาดามาย้ำในเช้านี้อีก พูดเหมือนสั่งเสียแล้วเขาก็มือสั่นอย่างหนัก ทำให้มุกรินคิดหนัก

ooooooo

ธุระสำคัญของคิมหันต์เริ่มทันที เมื่อเขาออกมาหน้าบ้านพัก ก็ได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยอ๋าว่า

“ภารกิจจะเริ่มในอีกห้านาที ผมโทร.มาเช็กเพื่อความมั่นใจว่าคุณเอาแน่นะ” คิมหันต์ตอบทันทีว่า แน่! “เมื่อเริ่มปฏิบัติการแล้ว เราจะถอยไม่ได้นะครับคุณคิมหันต์ คุณต้องเตรียมรับมือกับผลทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษ เข้าใจนะ”

“เข้าใจ เสี่ยกำชับลูกน้องว่าอย่าให้พลาดก็แล้วกัน”

ส่วนที่บ้านมุกริน ขณะธาดาขับรถออกจากบ้านก็ถูกลูกน้องเสี่ยอ๋ามาเตือนว่าเหลือเวลาอีกหนึ่งวันเท่านั้น อึดใจเดียวเสี่ยอ๋าก็ลงจากรถมาบอกว่า พวกนี้ชอบหนีหนี้วันสุดท้ายเสียด้วย แล้วก็เห็นในรถธาดามีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เสี่ยให้ลูกน้องเอาลงมาเท เสื้อผ้าของใช้ถูกเทกระเด็นออกมากระจายเต็มพื้น

ธาดาถามว่าเสี่ยต้องการอะไร เสี่ยบอกว่าต้องการให้ชำระหนี้ ธาดาบอกว่ายังไม่มีแต่ก็ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งวัน

“เหลือแค่หนึ่งชั่วโมง โทษฐานที่คิดหนี” เสี่ยโพล่งออกไป “ผมว่าคุณรีบไปนับเงินมาดีกว่า ถ้าครบหกสิบนาทียังไม่มีเงินมาวางตรงหน้าผมละก็...คุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องสาวของคุณอีกต่อไป คุณกำลังอยู่ในชั่วโมงสุดท้ายของชีวิตพร้อมๆกับน้องสาวของคุณนะ คุณธาดา”

เสี่ยอ๋าเดินกลับไปที่รถของตน ธาดาหน้าเครียด ยืนเกร็งตัวสั่นเทิ้ม

ooooooo

ธาดาโทร.ไปหาปรารภ ถามว่ามุกรินมาถึงบ้านเขาหรือยัง ปรารภมองไปบอกว่ามาถึงพอดีกำลังขับรถเข้ามาจอด ถามว่ามีอะไรไหม

“ไม่มี...หวังว่าเขาจะปลอดภัยดีเมื่ออยู่กับคุณนะ เท่านี้แหละ” ธาดาวางโทรศัพท์ลง ตัดสินใจเดินกลับไปเคาะกระจกรถเสี่ยอ๋าที่ยังจอดอยู่ที่เดิม เสี่ยลดกระจกลงถามว่าไหนล่ะเงิน ธาดาบอกว่าไม่มี เสี่ยพูดเงื่อนไขสุดท้ายคือเขาต้องเอาตัวน้องสาวมาให้ตน

ธาดาพูดอย่างมั่นใจว่าถ้าเขามีปัญญาเอาตัวมาได้ก็เชิญ เพราะตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามุกรินอยู่ไหน รู้แต่ว่าเธออยู่ในที่ปลอดภัยกับคนที่ไว้ใจได้ ซึ่งตนไม่รู้ว่าเป็นใครและอยู่ที่ไหน

เสี่ยอ๋าท้าพนันกันไหมว่าน้องสาวเขายังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า ถ้าตนแพ้จะยกหนี้ให้ แต่ถ้าเขาแพ้ตนขอไปลงกับน้องสาวเขาทั้งต้นทั้งดอกก็แล้วกัน เสี่ยท้าให้โทรเลย โทร.หาคนที่เขาไว้ใจที่สุดก็ได้

พอดีมีเสียงโทร.เข้ามือถือธาดา เสี่ยบอกว่าเธอคง กำลังโทร.หาเขา แต่พอรับสายกลายเป็นปรารภโทร.มาบอกว่าเมื่อกี๊เห็นมุกรินขับรถเข้ามาแป๊บเดียวก็หายไปทั้งรถทั้งคน ถามว่า “เขากะจะเซอร์ไพรส์วันเกิดผมหรือเปล่า”

“คงไม่ใช่ แค่นี้ก่อนนะ” ธาดาหน้าซีดเผือด

“น้องสาวคุณอยู่ในนี้ อยากพูดไหม” เสี่ยอ๋ายื่นโทรศัพท์ให้ และกดเปิดลำโพงให้ได้ยินด้วยกัน

“พี่ใหญ่...มุกอยู่ที่ไหนคะ” เสียงมุกรินหวาดกลัวแว่วมาในโทรศัพท์

เสี่ยอ๋าพูดแทรกขึ้นว่าเขาแพ้แล้ว ธาดากระชากคอเสื้อเสี่ยตะโกนถามว่า “มึงทำอะไรน้องสาวกู!” ถูกลูกน้องเสี่ยกระชากออกมา เสี่ยตะคอกคืนว่า

“มึงนั่นแหละ หาเรื่องให้น้องสาวตัวเอง เตือนแล้ว ไม่เชื่อ สมน้ำหน้าต้องได้เสี่ยอ๋าเป็นน้องเขยจนได้ ฮ่าๆๆ ”

ธาดาเสียงแข็งว่าถ้าทำอะไรน้องสาวตนละก็...

ถูกเสี่ยอ๋าถามว่าขู่หรือ เขาไม่อยู่ในฐานะที่จะขู่ใครได้

“ผมขอร้อง...อย่าทำอะไรมุกเลยนะ ได้โปรด...ให้ผมชดใช้ด้วยวิธีอื่นเถอะ”

เสี่ยอ๋าถามว่าเขามีอะไรที่มีค่ามากกว่าน้องสาว ธาดาตอบทันทีว่า “ชีวิตผม”

“ไม่เท่าไหร่! ผมมีทางเลือกสุดท้ายให้คุณทางเดียว เท่านั้น เพื่อแลกกับอิสรภาพและความสาวของมุกริน” ธาดาถามว่าตนต้องทำอะไร “พูดความจริง! ความจริงทั้งหมดของเหตุการณ์คืนวันที่ 14 กุมภา...หวังว่าคุณยังไม่ลืมนะ คุณธาดา”

ธาดามองหน้าเสี่ยอย่างสับสน งุนงง เสี่ยพยักหน้า ให้ลูกน้อง สั่ง“เดินหน้าตามแผนเดิม...จนกว่าจะมีคำสั่งใหม่”

มุกรินหน้าตาหวาดกลัวอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ใหญ่ท้ายรถเทรเลอร์ เธอมองไปรอบๆอย่างสิ้นหวัง มองไปเห็นแต่ผนังทุกด้าน เธอทุบผนังตู้คอนเทนเนอร์ตะโกนสุดเสียง

“ช่วยด้วย...ช่วยฉันด้วย...ใครอยู่ข้างนอก ช่วยฉันด้วย...”

รถเทรเลอร์คันนั้นวิ่งไปบนถนนหลวงสายหลักในกรุงเทพมหานคร มีเสียงมุกรินร้องขอความช่วยเหลือก้องอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ แต่เหมือนอยู่คนละโลกกับภายนอก ตู้คอนเทนเนอร์ทะมึนถูกลากไป ในขณะที่ภายในมุกรินดิ้นแทบคลั่ง...

แต่ทุกอย่างเงียบ...เธอนั่งลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง เสี่ยอ๋าโทรศัพท์สั่งลูกน้องที่นั่งข้างคนขับรถ เทรเลอร์ว่า

“อย่าให้มีริ้วรอยแม้แต่น้อย ลูกค้ากำชับมา”

ooooooo

เช้านี้พักตราในชุดเสื้อคลุมมาที่สระว่ายน้ำ มีสาวใช้ถือสัมภาระเกี่ยวกับการว่ายน้ำตามมา แต่จู่ๆเธอก็ปวดท้องกะทันหันจนทรุดนั่งกับพื้นร้องครวญคราง สาวใช้ที่ตามมาตกใจหน้าตื่น

เวลาเดียวกัน อรรถไปเคาะประตูห้องร้องถามว่าพ่อจะเข้าไปคุยด้วยได้ไหม สาวใช้คนนั้นเดินแทบเป็นวิ่งเข้ามาบอกว่าพักตราไม่อยู่ ปวดท้องเป็นลมอยู่ข้างสระว่ายน้ำ อรรถรีบลงไปที่สระว่ายน้ำ ไม่เห็นพักตราจึงตะโกนเรียก

อึดใจเดียวพักตราก็โผล่ขึ้นจากน้ำกลางสระร้องเรียกเสียงใส “ขา...พ่อ...”

“หนูต้องไปกับพ่อนะ พ่อโทร.ไปนัดหมอแล้ว” อรรถบอก พักตราชักสีหน้าไม่พอใจทันที อรรถเตือนว่า “ปวดท้องบ่อยๆหมายถึงสัญญาณไม่ดีนะลูก”

พักตราปกปิด ไม่ยอมรับความจริง พอสาวใช้ติงว่าเมื่อกี๊ยังลงไปนอนดิ้นอยู่ตรงนี้เลย เธอแว้ดใส่ทันทีว่า

“ใครถามแก ใครอนุญาตให้แกพูด! พักตร์ไม่ได้เป็นอะไรค่ะพ่อ” เธอขึ้นจากสระด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว “ไล่อีเด็กคนนี้ออกไปด้วยค่ะ พักตร์เกลียดมัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พูดได้ยังไง!”

อรรถเตือนว่าอย่าทำอย่างนี้เลย พลอยถูกพักตราเอ็ดว่าพ่อนั่นแหละอย่าทำอย่างนี้กับตน ให้โทร.ไปยกเลิกหมอเสียบอกว่าตนกำลังใช้เวลาดูแลเด็กในท้องอยู่ ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องเหลวไหลแบบนี้ แล้วเธอก็คาดฝันว่า

“การว่ายน้ำจะทำให้คลอดเด็กได้ง่ายขึ้น พักตร์อาจจะเลือกวิธีคลอดในน้ำก็ได้นะพ่อ...” แล้วเธอก็พุ่งออกไปกลางสระน้ำว่ายน้ำต่อไป

อรรถมองตามพักตราด้วยสีหน้าเครียด ห่วง กังวล ในขณะที่สาวใช้ถามเบาๆ หน้าตาหวั่นวิตกว่า

“หนูจะโดนไล่ออกไหมคะ...”

ooooooo

ธาดาถูกเอาตัวไปที่เซฟเฮาส์เสี่ยอ๋า เขาถูกคลุมหน้าด้วยผ้าดำมิดชิด เขาถามมันว่าพาตนมาที่ไหน

“ไม่ต้องกลัวครับ คุณเคยมาที่นี่แล้วครั้งนึง แต่ครั้งนี้จะแตกต่างกว่าครั้งที่แล้วไปบ้าง ไม่ต้องตกใจ”

ธาดาได้รับการถอดผ้าดำคลุมหน้าออก เขาเห็นเป็นห้องที่มีทั้งทีวีและเครื่องอัดวีดิโอพร้อมทุกอย่าง เขาถูกมัดไว้กับเก้าอี้ด้วยเชือกเส้นใหญ่ เมื่อมันจัดการกับเขาทุกอย่างพร้อมแล้วก็พากันออกไป ทิ้งให้ธาดานั่งอยู่เพียงลำพังคนเดียวในห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์การอัดเสียงและจอทีวี

“พร้อมรึยัง คุณธาดา” เสียงเสี่ยอ๋าดังขึ้นแต่ไม่ปรากฏตัว ธาดามองไปรอบๆ ถามว่าพร้อมอะไร? “พร้อม ที่จะสารภาพรึยัง ว่าคุณทำอะไรกับเมียตัวเองในคืนนั้น... ว่าไง”

ธาดาถามว่าเขาเป็นใคร เป็นพวกเดียวกับคิมหันต์ใช่ไหม เสี่ยอ๋าสวนทันทีว่าเขาไม่มีสิทธิ์ถาม

“ฉันไม่เล่นอะไรบ้าๆแบบนี้กับแกหรอก” ธาดายังแข็งกร้าว แต่พอจอโทรทัศน์ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับภาพมุกรินในตู้คอนเทนเนอร์ที่เธอกำลังทุบผนังตู้สุดแรงและพยายามดิ้นรนหาทางออก ธาดาก็แทบคลั่งตะโกนลั่น “มุก...มุก...พวกมึงทำอะไรมุก”

“ก็ทำอะไรบ้าๆไง คุณต้องเลือกว่าจะทำอะไรบ้าๆ กับผมที่นี่หรือจะให้ผมไปทำอะไรบ้าๆ กับน้องสาวคุณที่โน่น” ธาดาตะโกนด่า ถามว่าคิมหันต์อยู่เบื้องหลังเขา

ใช่ไหม “บอกแล้วไงว่าห้ามถาม...ผมจะให้เวลาคุณเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดอีกสักครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเอายังไง คิดให้ดีนะคุณธาดา อย่าคิดนาน จนหมดเวลาเสียก่อนล่ะ”

สิ้นเสียงเสี่ยอ๋า จอโทรทัศน์ทุกเครื่องก็ดับสนิท ธาดาเครียดจัดอยู่คนเดียวในห้องนั้น!

ooooooo

ปรารภร้อนใจมาก พยายามโทร.ติดต่อมุกรินก็มีแต่เสียงบอกว่าไม่มีสัญญาณจากเลขหมายที่ท่านเรียกน้าแป๋วเข้ามาบอกว่าตำรวจมาแล้ว ปรารภรีบไปที่หน้าบ้าน ตำรวจหน้าตาดีบุคลิกคล่องแคล่วบอกทันทีว่า

“ผมซักถามคนในซอยนี้ทั้งหมดแล้ว ทุกคนยืนยันกันหมดครับว่า รถมินิของคุณมุกรินขับออกไปในสภาพปกติ ไม่มีลักษณะการถูกบีบบังคับหรือฉุดกระชากลากถูแต่อย่างใด” ปรารถถามว่าไม่ใช่การลักพาตัวใช่ไหม “ไม่มีพฤติกรรมใดบ่งชี้อย่างนั้นครับ”

“แล้วมีใครเห็นไหมครับว่าในรถคันนั้นมีคนนั่งอยู่กี่คนเป็นใครบ้าง และคนขับเป็นใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

ตำรวจมองหน้าปรารภแล้วถอนใจนิดๆ ทำให้ปรารภยิ่งเครียด ความจริงเมื่อสามชั่วโมงก่อนหน้านี้คือ เมื่อมุกรินขับรถเลี้ยวเข้าไปในบ้านปรารภที่ทำเป็นออฟฟิศแล้วเปิดประตูรถออกมา ก็ถูกชายแต่งตัวดีบุคลิกดีสองคนเข้ามาประชิดตัวมุกรินทันทีพูดสุภาพแต่ด้วยสีหน้าจริงจังว่า

“คุณมุกรินครับ ตั้งใจฟังผมให้ดีนะครับ ตอนนี้ พี่ชายคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย เกี่ยวกับเรื่องหนี้สิน เจ้าหนี้กำลังเตรียมการฆ่าพี่ชายคุณอยู่” มุกรินตกใจถามว่าตัวเขาเป็นใคร! “เราเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เราส่งคนเข้าไปแทรกซึมอยู่กับพวกมัน เพื่อหาทางซ้อนแผนและจับพวกมันทั้งแก๊ง แต่เราต้องขอความร่วมมือจากคุณ เพื่อให้แผนการของเรารัดกุมยิ่งขึ้น”

“ดิฉันต้องทำอะไรคะ”

“นั่งรถไปกับผม ไปหาพวกมัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมจะขับให้เอง รายละเอียดอื่นๆ คุยกันในรถ”

มุกรินถูกลักพาตัวไปอย่างนิ่มๆเนียนๆ แล้วรถของมุกรินก็ถูกขับเข้าไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ มุกรินถามว่าเอาตนมาไว้ในนี้ทำไมแล้วพี่ชายตนล่ะ? เขาอยู่ไหน?

“คุณจะพบเขาทันทีที่เราจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อย แค่อยู่นิ่งๆในนี้ รับรองว่าคุณจะไม่เจ็บตัว โชคดีครับ”

ชายหนุ่มมาดดีทั้งสองกลับเข้าไปในรถของมุกรินแล้วขับออกจากตู้คอนเทนเนอร์ไปอย่างเร็ว มุกรินตะโกนถามว่า

“แล้วคุณจะเอารถฉันไปไหน คุณยังไม่ได้อธิบายรายละเอียดอะไรให้ฉันฟังเลยนะ” ไม่ทันสิ้นเสียงมุกริน ประตูตู้คอนเทนเนอร์ก็ปิดลงทันที ทุกอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่มุกรินจะคิดอะไรทัน

ooooooo

ปรารภร้อนใจมากโทร.เล่าให้ชุมสายฟัง ชุมสายถามว่าเขากำลังจะบอกว่ามุกรินถูกอุ้มอย่างนั้นหรือ?

“ตอนนี้ผมคิดได้เท่านี้แหละ นอกจากคุณจะรู้อะไรมากกว่าที่ผมรู้” ชุมสายบอกว่าตนไม่รู้อะไรเลย “คุณรู้ใช่ไหมว่าทำไมโทร.หาใครไม่ติดเลย ทั้งมุกริน ทั้งนายคิมหันต์ ทั้งนายธาดา คุณเป็นทนายทำคดีเกี่ยวข้องกับคนสามคนนี้ คุณจะไม่คาดเดาแบบที่ผมเดาบ้างหรือ” ธาดาหงุดหงิดมาก

“ผมแนะนำให้คุณทำเรื่องขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของ กทม. คงใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน แต่คุณมุกรินอาจจะกลับมาก่อนก็ได้นะครับ อย่าเพิ่งตื่นตูมไปเลยคุณปรารภ” ชุมสายยังใจเย็น ตัดการติดต่อแล้วหันพูดกับคิมหันต์ที่นั่งอยู่ในรถ “แกต้องรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะวุ่นวายกันไปมากกว่านี้”

“อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จบแล้ว อย่าห่วง”

“ฉันกลัวว่าเรื่องคุณมุกจะจบไม่ลงน่ะสิ มันจะไม่สนุกนะเพื่อน”

“ไม่มีปัญหา จบลง...จบสนุกแน่ๆ แกคอยดู ก็แล้วกัน” คิมหันต์ตอบอย่างเลือดเย็นแล้วลงจากรถ เดินเข้าไปในทางเดินที่ดูลึกลับ ชุมสายเดินตามไป

ooooooo

เวลาเดียวกันนี้ เสี่ยอ๋าส่งเสียงเข้ามาเตือนธาดาว่าเหลือเวลาอีกเพียงสิบห้านาที ทำสงครามประสาทกับเขาว่าตนชักอยากไปสนุกกับน้องสาวเขามากกว่าจะรออยู่ที่นี่เสียแล้ว หรือจะตอบตอนนี้เลยก็ได้ตนจะได้ไม่ต้องเสียเวลา

ธาดาบอกว่าตนไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรในเมื่อศาลก็ตัดสินไปแล้วว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด เสียงเสี่ยอ๋า ตอบเข้ม

“ก็บอกแล้วไงว่าพูดความจริง” ธาดาถามว่าคำตัดสินของศาลไม่จริงตรงไหน “ผมต้องการความจริงที่ต่างไปจากคำโกหกในศาล”

ขณะนั้นเองคิมหันต์และชุมสายเดินเข้ามาในห้องลับเล็กๆ ในขณะที่เสี่ยอ๋ายังพูดกับกล้องตรงหน้า

เสี่ยเร่งรัดธาดาให้พูด ธาดาย้อนถามว่าเขาต้องการให้พูดว่าตนเป็นคนฆ่าวิมลรัตน์ใช่ไหม แล้วมันสำคัญอะไรกับเขานักหนา เสี่ยอ๋าบอกว่า เจ๊มลมีบุญคุณกับตนก่อนที่เธอจะหลวมตัวแต่งงานกับคนเลวๆอย่างเขา ไม่ว่าเสี่ยอ๋าจะเอามุกรินมาขู่หรือหว่านล้อมอย่างไร ธาดาก็ยังถามว่าคิมหันต์จ้างเขามาเท่าไหร่ ขอบอกว่าไม่มีวันสำเร็จแน่ พวกเขาไม่มีวันที่จะได้สิ่งที่ต้องการแล้ววกมาถามว่า “บอกมาก่อนว่าแกจะทำอะไรมุก”

“ไม่บอก แต่รับรองว่าคุณจะได้เห็นนาทีชีวิตของน้องสาวคุณสดๆ ผ่านจอทีวีตรงหน้าคุณนี่แหละ ตื่นเต้นดีไหมล่ะ”

เมื่อธาดาประกาศว่าตนไม่ใช่ฆาตกร ตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้าตนต้องตายก็จะตายไปพร้อมกับความบริสุทธิ์

“แกไม่มีทางบริสุทธิ์ไปได้หรอก เพราะถึงยังไงโลกทั้งโลกก็จะรู้ความจริงจากปากของผู้ชายคนนี้”

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 13 วันที่ 6 ต.ค. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ