อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 1/3 วันที่ 28 ธ.ค. 55

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 1/3 วันที่ 28 ธ.ค. 55

พิศเน้นคำตอนท้าย นางด้วงเม้มปากสะกดอารมณ์ฉุนไว้ พิศไม่สนใจ ซื้อของไปเรื่อย นางด้วงรับของที่พิศเลือกซื้อมาแล้วโยนให้บัวหอบหิ้วอยู่คนเดียวเลย
“แต่นอกเหนือจากข้าจะมาซื้อเครื่องเทศไปทำกับข้าวแล้ว ข้ายังมีธุระอื่นอีกด้วย”
“ธุระอะไรหรือเจ้าคะ” นางด้วงสงสัย
พิศไม่ตอบ แต่ชะเง้อมองไปทางข้างหน้า ยังไม่บอกอะไรนางด้วงแต่กวักมือเรียกบัวให้เข้ามาหา บัวหน้าเหวอเดินเข้ามาหา
“เจ้าคะ”

“เอ็งช่วยข้าเลือกลูกจันทน์ที เอ็งลองเขย่าดูอย่างนี้นะ” พิศทำตัวอย่างให้ดู “ถ้ามันมีเสียงกุกกักอยู่ข้างใน ถึงเลือกเอาไว้ แต่ถ้ามันไม่มีเสียงแสดงว่ามันเสียแล้ว ใช้ไม่ได้ เอ็งเลือกไปประเดี๋ยวข้ามา



เห็นพิศทำท่าจะเดินไปบัวหน้าตื่น “อ้าว..คุณพิศจะทิ้งบ่าวไว้ตรงนี้คนเดียวหรือเจ้าคะ”
พิศหงุดหงิด “เออสิ! ถามเซ้าซี้จริง! ข้าไปธุระแค่นี้ ประเดี๋ยวเดียวก็กลับมา เอ็งคอยอยู่ที่นี่ละ ห้ามไปไหนเด็ดขาดจนกว่าข้ากับนังด้วงจะกลับมา เข้าใจมั้ย! เลือกไป!”
“เจ้าค่ะๆ” บัวรีบก้มหน้าเลือกลูกจันทน์ตามพิศสั่ง

พิศมองอยู่สักครู่ แล้วกวักมือเรียกให้นางด้วงเดินตามไป นางด้วงรีบกระวีกระวาดตามพิศไปโดยเร็ว
ไม่นานต่อมา นางด้วงเดินตามพิศไปทางมุมหนึ่งของตลาด

“คุณพิศจะไปไหนหรือเจ้าคะ ทำไมถึงต้องทิ้งนังบัวไว้ที่ตลาดเครื่องเทศด้วย”
“ข้าไม่อยากให้มันเอาไปพูดต่อไปได้น่ะนังด้วง” พิศพูดเสียงเบาลง “ข้าอยากเห็นหน้าคุณฉัตร..ลูกชายท่านเจ้าโกสินทร์สักหน่อย อยากรู้นักว่าจะงามสง่าจริงอย่างที่เขาเล่าลือรึเปล่า”
นางด้วงยิ้มทันทีแต่แล้วก็รีบหุบยิ้ม ทำสำรวมเพราะกลัวพิศจะหาว่าลามปาม แล้วทั้งคู่ก็เดินไป
ทางด้านบัวกำลังยืนเลือกลูกจันทน์อยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ สักครู่รถเจ๊กของฉัตรก็ลากมาทางบัวอยู่ ฉัตรมองดูผู้คนในตลาดเรื่อยๆ อย่างไม่ตั้งใจ
แต่แล้วสายตาของฉัตรเห็นบัวกำลังยืนเลือกเครื่องเทศอยู่อย่างตั้งใจ
ฉัตรตกใจแกมประหลาดใจ “แม่บัว” ฉัตรรีบชะโงกหน้าไปดูซ้ำอีกที

แต่ฉัตรไม่เห็นบัวแล้ว เพราะมีลูกค้าคนอื่นเดินมาเลือกซื้อของแล้วยืนบังบัวพอดีกับจังหวะที่รถเจ๊กถูกลากเลยไปด้วย
ฉัตรขมวดคิ้ว นิ่งคิดอยู่สักครู่ก็คิดว่าตัวเองตาฝาดไป
“บ้าจริง..คิดถึงจนเห็นใครก็เป็นแม่บัวไปหมด”
ฉัตรนึกขำตัวเอง รถเจ๊กลากผ่านไป ขณะที่บัวยังคงเลือกซื้อเครื่องเทศอยู่โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย

ด้านพิศยืนคอยอยู่ลำพัง สักครู่จึงเห็นนางด้วงก็เดินเร็วๆ เข้ามาหา
“บ่าวไปถามมาแล้วเจ้าค่ะคุณพิศ คุณฉัตร..ลูกชายท่านเจ้าคุณโกสินทร์ออกไปราชการข้างนอก สักครู่ถึงจะกลับเจ้าค่ะ”
พิศมีสีหน้าผิดหวัง
“คุณพิศจะรอมั้ยเจ้าคะ หรือว่าจะกลับเรือน”
“ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว รอสักหน่อยจะเป็นไรไป” พิศว่า
“เจ้าค่ะ” นางด้วงเอาพัดมาพัดเอาใจพิศเต็มที่

สักครู่รถเจ๊กของฉัตรก็ลากเข้าเฟรมมา พิศกับนางด้วงชะเง้อมองตาม
“จะใช่คันนั้นรึเปล่าก็ไม่ทราบนะเจ้าคะ”
พิศมองเห็นฉัตรที่นั่งมาในรถ ท่วงท่าสง่ามาก จนฉัตรลงจากรถแล้วเดินขึ้นตึกไป นางด้วงรีบวิ่งเข้าไปที่คนขับ ถามอะไรบางอย่าง แล้ววิ่งกลับมาหาพิศ
“ใช่คุณฉัตรจริงๆด้วยเจ้าค่ะ แหม..งามสง่าสมคำร่ำลือจริงๆ”
พิศมองตาม ตาเป็นประกายชอบใจ

กลับมาบ้านพระยาสมาน นางด้วงมาเม้าท์เรื่องที่ตลาดให้บ่าวในครัวฟังเรื่องฉัตร
“วันนี้ข้าไปเห็นหน้าตาคุณฉัตร ลูกชายท่านเจ้าคุณโกสินทร์มาแล้วนะ งามสง่าสมคำร่ำลือจริงๆ แหม๊ คุณพิศของเรา..เธอก็สวย คุณฉัตรก็งาม สมกันราวกับกิ่งทองใบหยกจริงๆ”
นางแดงท้วงขึ้นมา “เขายังไม่ได้ทาบได้ทามกัน เอ็งก็พูดมากไปแล้วนังด้วง ว่าแต่เอ็งเหอะ ไปเห็นคุณฉัตรที่ไหนล่ะ”
“ก็ไปเห็นที่...” นางด้วงเกิดนึกได้ว่าพิศไม่ให้บอกใครว่าไปแอบดูมา “เอ้อ...แถวตลาดน่ะ คุณพิศเธอไปซื้อเครื่องเทศ แล้วรถคุณฉัตรผ่านมาพอดี”
นางพุ่มขัดขึ้น “ไปซื้อเครื่องเทศ แล้วไหนล่ะเครื่องเทศ”
นางด้วงนั่งนึกบางอย่าง แล้วตกใจทำตาโต “ว้าย! ข้าลืมนังบัวไว้ที่ตลาดเครื่องเทศ”

นางแดงร้อง “ตายๆๆ ป่านนี้นังทาสคนใหม่มิร้องไห้ตายไปแล้วเรอะ”
นางด้วงหันซ้ายหันขวา แล้วหันกลับมาทางน้อยรนั่งอยู่ “นังน้อยแน่ะ ไปพานังบัวกลับมาบ้านทีสิไป๊”
น้อยลุกขึ้นล้างมือพลางบ่น “พี่ด้วงลืมคนทั้งคนได้ยังไง”
นางด้วงแก้ต่าง “ข้าก็มัวห่วงแต่คุณพิศน่ะสิ ไปๆๆๆ รีบๆ ไปรับมันเลย”
น้อยทำหน้าอ่อนใจกับนางด้วงที่ชอบผลักภาระให้คนอื่น น้อยเดินออกไป นายเพียรรีบลุกตามไป

น้อยจะรีบเดินไวๆ ไปรับบัวที่ตลาดเครื่องเทศ นายเพียรตามมาติดๆ
“ข้าไปด้วย”
“ไม่ต้อง งานเอ็งก็มี ไปทำงานเอ็งเถอะ” น้อยบอก
นายเพียรท่าทางขึงขัง “แต่ข้าจะต้องตามไปคุมเอ็ง ไม่ให้เอ็งเถลไถลไปไหน”
“ทาสในเรือนเบี้ยอย่างข้าจะเถลไถลไปไหนได้ เกิดที่เรือนนี้ มันก็ต้องตายอยู่ที่เรือนนี้แหละว้า แล้วเอ็งเอง..ก็เป็นทาสในเรือนเบี้ยเหมือนกับข้า จะต้องมาคุมข้าทำไม”
นายเพียรโมโห “ข้าไม่ใช่ทาสในเรือนเบี้ย ข้าเป็นลูกชายของท่านเจ้าคุณคนหนึ่งเหมือนกัน”
น้อยส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ “เอาไว้ท่านเจ้าคุณท่านยอมรับเอ็งเป็นลูกก่อนเถอะน้า เอ็งค่อยมาคุมข้า”
จากนั้นน้อยก็วิ่งหนีเพียรไปเลย นายเพียรไม่ยอมแพ้ วิ่งตามไปติดๆ

น้อยวิ่งมาตามทาง นายเพียรวิ่งตามมา น้อยเหลียวไปมองเพียร ทำให้ไม่ทันระวังตัวจึงโดนรถของฉายที่แล่นมาจากอีกทางชนปัง น้อยล้มลงกับพื้นทันที
นายเพียรตกใจมาก “น้อย”
ฉายเองก็ตกใจไม่แพ้กัน วิ่งลงจากรถ เห็นนายเพียรเข้าไปพลิกตัวน้อยให้หงายขึ้น ฉาย เห็นน้อยปรือตาขึ้นมา แล้วสูดปากด้วยความเจ็บ เพราะช้ำถูกรถกระแทกแต่ไม่มีแผลได้เลือด
“อูย”
“เจ้า..เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหน” ฉายถาม

น้อยยังงงๆ อยู่ แล้วมองไปที่ฉาย ทั้งสองประสานสายตากัน แล้วต่างก็ตกอยู่ในภวังค์ทันที
ขณะเดียวกันนายเพียรเห็นสองคนมองตากัน ก็ให้รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างประหลาด

“ตกลงมีเจ็บตรงไหนไหม” ฉายถามย้ำ
“เอ้อ..บ่าวไม่เป็นอะไรมากหรอกเจ้าค่ะ” น้อบยอก
นายเพียรประคองน้อยลุกขึ้น “ไม่เป็นไรหรอกขอรับ”
“เจ้าไม่เป็นไรแน่นะ” ฉายถามอีก
“เจ้าค่ะ”
“ฉันเองก็ต้องขอโทษเจ้า ที่ขับรถเร็วไปหน่อย ทำให้หยุดรถไม่ทัน” ฉายขอโทษขอโพย
นายเพียรขัดขึ้น “ไม่ต้องขอโทษหรอกขอรับ บ่าวเรือนกระผมมันเดินเซ่อซ่าเอง เชิญท่านเถิดขอรับ”
ฉายพยักหน้าแล้วเดินกลับไปขึ้นรถ แต่ตายังมองน้อยด้วยแววตาเป็นห่วง นายเพียรเม้มปากไม่พอใจ ยิ่งเห็นน้อยมองตามรถฉายที่แล่นออกไปจนลับตา ก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น
“อย่าเผยอเกินตัวเลยนังน้อย เขาแต่งตัวโก้หร่านออกอย่างนั้น เขาต้องเป็นลูกผู้ลากมากดีแน่ แต่เอ็งน่ะเป็นแค่ทาสในเรือนเบี้ย เอ็งหวังสูงได้อย่างมากก็ข้านี่ละ รู้ตัวไว้ซะด้วย”
น้อยเหนื่อยใจนัก พูดใส่หน้า “แต่ข้าไม่ได้รักเอ็ง ไม่เคยรัก และไม่คิดจะรัก”
นายเพียรโมโห “แต่ถ้าข้าไปขอเอ็งจากท่านเจ้าคุณ และท่านเจ้าคุณยกเอ็งให้ข้า เอ็งก็ต้องเป็นเมียข้า เอ็งขัดคำสั่งท่านเจ้าคุณ..พ่อข้า..ไม่ได้หรอก”
น้อยโมโห สะบัดตัวออกจากเพียรแล้วเดินปึงๆ ไปตลาดเครื่องเทศ นายเพียรตามไป

ตกกลางคืน พิศกำลังคุมบ่าวยกสำรับกับข้าวปรนนิบัติพระยาสมานอยู่ บัวค่อยๆ คลานเข่าเข้ามา
พิศเอ็ด “ไปไหนมา”
บัวตอบอย่างซื่อๆ “บ่าวก็รอคุณพิศกับพี่ด้วงอยู่ที่ตลาดเครื่องเทศน่ะสิเจ้าคะ”
นางด้วงพาล “เอ็งมัวแต่เตร็ดเตร่อยู่ที่ตลาดจนค่ำมืดน่ะสิ”
“ข้าเปล่าเตร็ดเตร่นะพี่ด้วง ก็คุณพิศสั่งข้าไว้ว่าให้ข้าคอยอยู่ที่ตลาด ห้ามไปไหนเด็ดขาดจนกว่าคุณพิศกับพี่ด้วงจะมา”
พิศชะงัก เพิ่งนึกได้ “อ้อ” แต่ก็พูดพาลหาเรื่อง “แล้วเอ็งเห็นข้ากับนังด้วงไม่กลับไปที่ตลาด ทำไมเอ็งไม่รู้จักหาทางกลับบ้านเองเล่า ก็โง่เซ่ออย่างนี้นี่เล่าถึงต้องมาเป็นทาสขัดดอกเขา”
บัวหน้าเจื่อนไปเลย
พระยาสมานสบโอกาส “ก็พ่อบอกลูกแล้วว่า..นังบัวนี่ท่าจะโง่เง่าเซ่อซ่า ลูกอย่าเก็บมันไว้รับใช้ใกล้ตัวเลย ลูกจะเหนื่อยใจกับมันเสียเปล่าๆ ให้มันลงไปอยู่กับพวกในโรงครัวโน่นดีกว่ามั้ง”
พิศสวนคำเสียงเขียวขึ้นมาทันที “ไม่ค่ะเจ้าคุณพ่อ! ถึงนังนี่มันจะโง่เง่าแค่ไหน แต่พิศก็จะเอามันไว้รับใช้ใกล้ตัวอย่างนี้แหละค่ะ ผิดนักก็เฆี่ยนให้มันตายคาหวายไปเลย เจ้าคุณพ่อมีปัญหาอะไรมั้ยคะ”
พระยาสมานหน้าแหยๆ “มะ..ไม่มีจ้ะ”

พิศยกสำรับปรนนิบัติพระยาสมานต่อ บัวก็เห็นพิศยกสำรับปรนนิบัติพระยาสมาน ก็เข้าไปช่วยอย่างมีน้ำใจดี พระยาสมานมองบัวทุกอิริยาบถด้วยตาลุกวาว
พระยาสมาน มองหน้าอกบัวเขม็ง แล้วหายใจหนักๆ พิศมองพ่อตาเขียว แต่พ่อไม่รู้ตัว พิศไปเล่นงานบัวแทน
“ใครใช้ให้เอ็งขึ้นมานังบัว ! สาระแนนัก ! ลงไปไป๊”
บัวเหวอ
พิศย้ำ “เอ๊ะ! นังนี่ หูดับรึไง ข้าบอกให้ลงไปไง”
บัวลนลานรับคำแล้วรีบคลานออกไป พิศตวัดตามองดูพ่อที่มองตามบัวไปอย่างไม่พอใจ

ไม่นานต่อมา ที่มุมหนึ่งแถวเรือนทาส บัวนั่งเจียนใบตองอยู่อย่างเซ็งๆ น้อยมองบัวอย่างเข้าใจอารมณ์
“เอ็งน่ะยังโชคดีกว่าทาสอีกหลายคนที่นี่นะ ได้ขึ้นไปรับใช้บนเรือน ไม่ต้องทำงานตากแดดอยู่กลางทุ่งกลางนาอย่างคนอื่นน่ะ”
“โชคดียังไง เคยอยู่อย่างอิสระ จู่ๆก็ต้องมาเป็นทาสเขา ถูกเขากดขี่ย่ำยีเอาตามอำเภอใจอย่างนี้” บัวบ่น
“แต่เอ็งเป็นแค่ทาสขัดดอก สักวัน..เอ็งก็จะได้กลับบ้านแต่ข้าสิ เป็นทาสในเรือนเบี้ย เกิดมาก็เป็นทาส แล้วก็ต้องเป็นทาสเขาไปจนวันตาย”
บัวมองหน้าน้อยอย่างพิจารณา น้อยเงยหน้ามาเห็นบัวมองอยู่ก็ยิ้มให้ด้วยไมตรี
น้อยพยักหน้ารับรู้ เศร้าไปด้วย “แต่เราก็ควรจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความหวังไม่ใช่รึ”

บัวพยักหน้าเห็นด้วย นางทาสสองคนยิ้มให้แก่กันอย่างเป็นมิตร

ที่เรือนพระยาโกสินทร์ เวลากลางวันของวันใหม่ ฉัตรกำลังช่วยบิดาดูบ่าวไพร่จัดบ้านเตรียมงานอยู่ ได้ยินเสียงของแอนนาเดินพูดเข้ามาใกล้ๆ เธอพูดเป็นภาษารัสเซีย
“ฉายคิดจะให้แอนนาใส่ชุดนี้จริงๆ หรือนี่”

ฉัตรเงยหน้าขึ้นมอง เห็นแอนนาเดินถือเสื้อชุดไทยเข้ามา โดยมีฉายเดินตามหลัง แอนนาเอาเสื้อทาบกับตัวให้ฉายดู
“นี่มันชุดไทยนะ มันเข้ากับแอนนาเสียที่ไหนกัน”
ฉายพูดตอบเป็นภาษารัสเซีย น้ำเสียงอ่อนโยน ท่าทีประนีประนอม “แต่งานนี้มีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ ถ้าหล่อนใส่ชุดไทย จะได้เข้าหาผู้ใหญ่ได้ง่าย”
แอนนาหน้าหงิกหน้างอ เดินออกไป ฉายรีบเดินตามไป ฉัตรมองตามแล้วถอนใจ พระยาโกสินทร์เข้ามาอีกทาง ตามองตามไปยังทางที่แอนนากับฉายเดินออกไปเมื่อครู่
“ตอนอยู่เมืองนอกก็คงสวยงามดีอยู่หรอก เพราะมองไปทางไหนก็ล้วนแต่ผิวขาวผมทองกันทั้งนั้น แต่พอมาอยู่ที่นี่..ไอ้ผิวขาวผมทองนั่นน่ะ..มันแปลกประหลาดสิ้นดี..พ่อดีใจนะที่อย่างน้อยฉัตรก็ไม่ได้คว้าเมียแหม่มกลับมาเหมือนฉาย ฉัตรพยายามหาลูกสะใภ้คนโตให้ถูกใจพ่อหน่อยก็แล้วกัน”

ฉัตรฟังคำพูดของบิดาแล้วมีสีหน้าหนักใจ
ขณะเดียวกันที่เรือนพระยาสมาน พิศลงมือทำกับข้าวด้วยตัวเอง ท่าทางคล่องแคล่วและดูออกว่าเก่งเรื่องทำอาหารทั้งคาว หวานจริง มีน้อยกับนางด้วงคอยช่วยส่งวัตถุดิบให้เป็นระยะๆ

พิศโชว์ฝีมือทำกับข้าวคาว หวาน หลายอย่าง อาทิ จ่ามงกุฎ ปั้นขลิบ พริกหยวกแช่อิ่ม เป็นของหวาน ถูกบรรจงวางลงบนถาด หน้าตาน่ากินมาก พิศมองอย่างภาคภูมิใจ
นางด้วงรีบประจบ “หน้าตาน่ากินทุกอย่างเลยเจ้าค่ะคุณพิศ เชื่อเถิดเจ้าค่ะ ลูกชายท่านเจ้าคุณโกสินทร์ได้ลิ้มรสมือของคุณพิศแล้ว..จะต้องติดใจแน่ๆ”
พิศยิ้มพอใจ แล้วพิศกับนางด้วงก็จัดแจงให้บ่าวแต่ละคนช่วยถือถาดสำรับกับข้าวคาว-หวานกัน พิศเอาถาดใส่ชามแกงใบหนึ่งส่งให้บัวถือ
“เอ้า..นังบัวถือดีๆ อย่าให้หกเชียวนะ ถ้าเอ็งทำหก ข้าจะเฆี่ยนให้หลังลายเลยเชียว” พิศเสียงดัง
บัวประคองถาดเต็มที่
“แล้วก็ห้ามวางที่ไหนจนกว่าจะถึงเรือนท่านเจ้าคุณโกสินทร์ เข้าใจมั้ยนังบัว” พิศพูดสำทับ
บัวรับคำ “เจ้าค่ะ”
ระหว่างนั้นพระยาสมานเดินเข้ามา นายเพียรตามติดมาคอยรับใช้ บัวเห็นพระยาสมานมาก็รีบหลบหลังบ่าวคนอื่น ก้มหน้างุดทันที
พระยาสมานเอ่ยถาม “ของจะเอาไปช่วยงานบ้านเจ้าคุณโกสินทร์รึลูกพิศ”

“ค่ะเจ้าคุณพ่อ พิศตระเตรียมอยู่หลายวันทีเดียว”
“ลูกพ่อเป็นแม่ศรีเรือนจริงๆ พ่อเชื่อ..งานนี้ลูกชายท่านเจ้าคุณโกสินทร์ต้องมองเจ้าคนเดียวแน่ๆ”
พิศยิ้มปลื้มใจ จากนั้นขบวนเริ่มเคลื่อนออกจากเรือนพระยาสมานไป

สองขบวนมาเจอกัน ตรงบริเวณทางบรรจบกันพอดี นางด้วงรีบบอกพิศ
“ขบวนจากเรือนคุณชื่น ลูกสาวคุณพระสุเมธเจ้าค่ะ”
พิศเม้มปากแน่นไม่พอใจ แต่พอเห็นคุณพระสุเมธไหว้พระยาสมาน พิศก็รีบปั้นหน้ายกมือไหว้คุณพระสุเมธตามมารยาท ชื่นกับพิศไหว้ทักทายกัน แต่สีหน้าเย็นชาต่อกันอย่างชัดเจน
พระยาสมานถามไถ่ “จะไปบ้านท่านเจ้าคุณโกสินทร์เหมือนกันรึคุณพระ”
“ขอรับ” พระสุเมธตอบ
ขณะที่ผู้เป็นบิดาทักทายกันนั้น พิศก็แอบมองสำรวจในขบวนโน้นบ้าง เห็นชื่นแต่งตัวสวยงามไม่แพ้เธอ สองสาวมองตากันแล้วเมินหน้าใส่กันอย่างศัตรู
พิศขมวดคิ้ว นางด้วงชะโงกดูของในขบวนคุณชื่นแล้วรายงาน
“กับข้าวที่ขบวนโน้นจะเอาไปช่วยงานบ้านท่านเจ้าคุณโกสินทร์หน้าตาดี๊ดีเจ้าค่ะ แล้วก็มีขนมจ่ามงกุฏเหมือนของเราเลยเจ้าค่ะคุณพิศ”
พิศหน้าหงิกขึ้นมาทันที นางด้วงมองหน้าพิศก็รู้ตัวว่าปากพาจนซะแล้ว รีบพูดแก้เป็นการใหญ่
“แต่สู้ของคุณพิศไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ของเราน่ากินกว่า”
“แต่ข้าก็ไม่ต้องการให้มีของใครมาเปรียบเทียบกับของข้า ของข้า..ต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น”
พิศคิดอะไรได้ ปล่อยให้พระยาสมานกับนายเพียร และคุณพระสุเมธเดินล่วงหน้าไปก่อน แล้วพิศก็ดึงตัวนางด้วงเข้ามากระซิบ นางด้วงฟังพิศกระซิบอยู่สักครู่ก็พยักหน้าหงึกๆ
“เจ้าค่ะๆ” นางด้วงรับคำ
พิศหันไปหาบัว “นังบัว..เอ็งไปกับนังด้วงไป๊”
บัวงง “ไปไหนรึเจ้าคะ”
“ไม่ต้องถามได้มั้ย ข้าสั่งให้ไป..เอ็งก็ไปสิ”
บัวทักท้วง “แต่คุณพิศสั่งให้บ่าวถือถาดนี้” พลางยกถาดในมือให้ดู แล้วพูดอย่างซื่อๆ “สั่งว่าห้ามวางที่ไหนจนกว่าจะถึงเรือนท่านเจ้าคุณโกสินทร์นี่เจ้าคะ”
พิศโมโห เดินเข้าไปแย่งถาดจากมือบัว
“เอามานี่ ข้าถือเอง เอ็งไปกับนังด้วงไป๊” พอเห็นบัวยังยืนนิ่งอยู่พิศก็ตะคอกสั่ง “ไปสิ”
บัวละตัวจากขบวนของพิศ เดินตามนางด้วงออกไปแต่ยังหันมามองพิศอย่างงงๆ

พิศมองตามสองคนสักครู่ เห็นบัวก็เดินหลุดขบวนไปแล้ว ธิดาพระยาสมานผุดยิ้มร้ายออกมาทางสีหน้า
ไม่นานหลังจากนั้น นางด้วงเดินนำหน้าบัวมาที่ข้างทาง

“พี่ด้วงจะพาฉันไปไหนจ๊ะ” บัวถามด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวก็รู้” นางด้วงตอบห้วนๆ
“แล้วเราไม่ไปบ้านท่านเจ้าคุณโกสินทร์แล้วรึจ๊ะ”
นางด้วงเริ่มหงุดหงิดตอบขอไปที “ไป”
บัวยังสงสัยอยู่อย่างนั้น “อ้าว..แล้วเราเดินย้อนกลับมาทางนี้ทำไมละจ๊ะ”
นางด้วง ฉุน หยิกเนื้อตัวบัวทันที “เอ๊ นังนี่ เลิกถามเซ้าซี้สักทีได้มั้ย บอกให้เดินตามมา..ก็เดินตามมาเร็วๆ ไม่ต้องถาม รำคาญ”
บัวนิ่งเงียบ รีบก้มหน้าก้มตาเดินตามนางด้วงไป

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 1/3 วันที่ 28 ธ.ค. 55

ละคร บ่วงวันวาร บทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บ่วงวันวาร กำกับการแสดง : จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์
บ่วงวันวาร แนวละคร : ดราม่า
บ่วงวันวาร ผลิต : บ.เอ็กแซ็กท์ - บ. ซีเนริโอ
บ่วงวันวารอำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร และ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
บ่วงวันวารออกอากาศ : พุธ - พฤหัส เวลา 20.15 - 21.45 น. (เพิ่มเวลาออกอากาศ เป็น 90 นาที)
ติดตามชม ละครเรื่อง บ่วงวันวารได้ทาง ททบ.5 เริ่มออกอากาศวันแรกเดือนมกราคม 2556
ิัที่มา manager