อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 3/2 วันที่ 2 ม.ค. 56

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 3/2 วันที่ 2 ม.ค. 56

“ขอบใจ” ฉัตรเอ่ย
“ถ้าเช่นนั้นกระผมลา...” ไอ้เพียรยกมือไหว้ฉัตรกับฉาย
น้อยยกมือไหว้ลาทุกคนเช่นกัน พร้อมกับหันสบตากับฉัตรอย่างรู้กัน แล้วเดินตามไอ้เพียรออกไป มีนายสนตามไปส่ง
“ต้องขอโทษพี่ฉายด้วย พอดีแอนนาให้กระผมไปดูหลอดไฟที่ในห้อง ไม่นึกเลยว่าไอ้เพียรมันจะกล้าเดินตามเข้ามาในนี้”
“ก็หวังว่ามันจะไม่สงสัยอะไรนะ”

ฉัตรมีสีหน้าเป็นกังวลหนัก
ขณะที่ไอ้เพียรกับน้อยเดินออกมาจากด้านใน โดยมีนายสนเดินตามมาส่ง ระหว่างนั้นพระยาโกสินทร์เข้ามาเห็นพอดี ไอ้เพียรกับน้อยรีบทรุดลงนั่งไหว้ทันที ท่านเจ้าคุณมองนายสนเป็นเชิงถามว่านี่ใคร



“บ่าวบ้านท่านเจ้าคุณสมานขอรับ” นายสนบอก
“มาทำอะไรกันล่ะ”
ไอ้เพียรรีบพูดเอาหน้า “คุณฉัตรให้คนไปขอตัวนังน้อยมาช่วยดูอาการคนป่วยที่เรือนนี้ขอรับ”
พระยาโกสินทร์ฉงน “มีใครป่วยด้วยรึ ข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
ไอ้เพียรมองหน้าอย่างสงสัยจัด น้อยก้มหน้างุดไม่ยอมมองหน้าใครเลย

น้อยเดินก้มหน้างุดๆ นำเพียรเข้ามาตามทางเดินในเรือนพระยาสมาน นายพียรตามเข้ามาดึงแขนน้อยไว้ สองคนโต้เถียงกันไปมา
“เอ็งยังไม่ได้ตอบข้าเลยว่า..ตกลงที่เรือนนั้น ใครป่วย”
“ก็บ่าวในเรือนน่ะสิ”
ไอ้เพียรคาดคั้น “บ่าวนั้นชื่ออะไร”
“ข้าไม่ได้ถาม ข้ามีหน้าที่ดูอาการคนป่วยและปรุงยา ไม่ได้มีหน้าที่ถาม” น้อยหงุดหงิด
“แล้วทำไมเอ็งปรุงยาเสร็จเร็วนักวะ”
“ก็ข้าเจียดยาให้ แล้วให้บ่าวเรือนนั้นจัดการต้มกันเอง”
“แล้วคุณฉัตรเอาอะไรให้เอ็ง”
“เปล่า”
“ข้าไม่เชื่อ! ก็ข้าเห็นกะตาว่าเขาส่งอะไรให้เอ็ง ไหน เอาห่อผ้าของเอ็งมาดูสิ”
ไอ้เพียรเข้ายื้อแย่งห่อผ้าในมือไปจากน้อย แต่น้อยดึงไว้ จนเกิดการยื้อยุดกัน
“อย่ามายุ่งกับของๆ ข้านะ”
ไอ้เพียรไม่ยอมปล่อยดึงมาอีก “เอามานี่”
น้อยโมโหมาก “เลิกยุ่งกับข้า แล้วก็กลับไปสอพลอท่านเจ้าคุณของเอ็งเถอะไป๊ อย่ามายุ่งกับพวกที่มีแต่เลือดทาสเต็มตัวอย่างข้าเลย ไป๊” น้อยผลักอกเพียรเต็มแรง แล้ววิ่งออกไปเลย
ไอ้เพียรมองตาม สีหน้าเจ็บใจ

เวลาต่อมาเพียรเดินครุ่นคิดมาตามทาง จอพิศกับนางด้วง ก็รีบทรุดลงนั่งทันที
“กลับมาแล้วรึ คนป่วยที่เรือนคุณฉัตรนั่นเป็นอย่างไรบ้าง อาการหนักหนาแค่ไหน”
“บ่าวไม่ทราบขอรับ คุณฉัตรไม่ได้ให้บ่าวเข้าไปดูด้วยเพราะเป็นบ่าวผู้หญิง ให้แต่เพียงนังน้อยเข้าไปคนเดียวเท่านั้น” ไอ้เพียรรายงานตามสัตย์
“แล้วคุณฉัตรฝากความอะไรกลับมาบอกข้าบ้างหรือไม่”
“บ่าวไม่ทราบขอรับ แต่เห็นคุณฉัตรฝากของบางอย่างให้นังน้อยมา”
“ถามอะไรๆเอ็งก็ตอบแต่ว่าไม่รู้ๆๆๆ น่าเบื่อจริง แล้วนี่นังน้อยไปไหน”
“กลับเรือนไปแล้วขอรับ” ไอ้เพียรบอก
พิศหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที

ทางด้านน้อยวิ่งเข้ามาในเรือนทาส ตรงไปหาบัวที่นอนอยู่ เอ่ยขึ้น
“บัว...ข้ามีข่าวคุณฉัตรจะมาบอก”
บัวสนใจขึ้นมาทันที
“คุณฉัตรเธอเป็นห่วงเอ็งมาก...เรื่องที่เอ็งถูกเฆี่ยนจนนอนซมไข้อยู่อย่างนี้น่ะ เธอก็เลยฝากยาฝรั่งนี่มากับข้า ให้เจ้ากินและทาสมานแผล”
น้อยส่งขวดยาฝรั่งให้ บัวรับไปดูอย่างตื่นเต้นและปลาบปลื้ม
“คุณฉัตรฝากยามาให้ข้า”
“ก็ข้าบอกแล้วว่าเขาห่วงเอ็งจริง แล้วนี่เขายังจะหาทางมาเยี่ยมเอ็งด้วย”
ได้ฟังที่น้อยบอก บัวตกใจมาก “มาเยี่ยม”
น้อยพยักหน้า
“ทั้งๆ ที่เขาก็รู้ว่า..มันอาจเกิดเป็นเรื่องใหญ่ได้ถ้าใครรู้เข้า”
น้อยพยักหน้าอีก บัวนิ่งไปสักครู่แล้วน้ำตาเริ่มปริ่มขอบตา
“คุณฉัตรช่างดีต่อข้าเสียจริง”
“ก็เพราะเขารักเอ็งไง” น้อยว่า
“รัก..กับทาส” บัวพูดพลางส่ายหน้า “คุณฉัตรเธออยู่ในที่สูงกว่าข้านัก ข้าไม่คิดอาจเอื้อม” บัวน้ำตาปริ่มอีก

น้อยยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ จู่ๆ ประตูเรือนก็ถูกทุบปังๆๆ อย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
ที่แท้คนที่เคาะประตูเรียกที่หน้าเรือนทาสคือนางด้วง

“อีน้อย เปิดประตูเร็ว คุณพิศมา”
บัวได้ยินก็ตกใจ
“คุณพิศมา”
บัวก้มลงมองขวดยาที่ฉัตรฝากมาให้แล้วลนลาน เหลียวซ้ายแลขวาหาที่ซ่อน
น้อยวิ่งไปที่ประตู “ประเดี๋ยวพี่ด้วง”
เสียงนางด้วงแหวเข้ามาเร่ง “อย่าชักช้า เอ็งจะให้คุณพิศรอไปถึงไหนวะ”
จังหวะนั้นบัวมองไปที่พื้นกระดาน เห็นร่องหนึ่งแง้มอยู่ บัวงัดเปิดขึ้น แล้วเอาขวดยายัดใส่ลงไปในร่องแล้วรีบปิด น้อยเปิดประตูให้พิศกับนางด้วงเข้ามา พิศกับนางด้วงเข้ามา
“อีสองตัวนี้มัวทำอะไรอยู่ยะ ปล่อยให้คุณพิศเธอยืนคอยอยู่ที่หน้าเรือนเป็นนานสองนาน” นางด้วงโวยวาย
บัวหลบตาวูบ พิศมองอย่างระแวงสงสัยแต่ยังไม่พูดอะไร
“ข้า..ผลัดผ้าอยู่น่ะพี่ด้วง คุณพิศมีอะไรจะใช้บ่าวหรือเจ้าคะ”
“เอ็งไปดูอาการคนป่วยที่เรือนคุณฉัตร ได้เรื่องได้ราวอย่างไรทำไมไม่ขึ้นไปรายงานข้าบนเรือน”
“คือ..บ่าวเห็นว่ามันมืดแล้ว ก็เลยคิดว่าจะขึ้นไปรายงานบนเรือนตอนเช้าเจ้าค่ะ”
“แต่ข้าอยากรู้เดี๋ยวนี้ คนป่วยเป็นอะไรมากรึเปล่า แล้วเอ็งปรุงยาให้เขาเรียบร้อยดีไหม”
“เรียบร้อยดีเจ้าค่ะ”
น้อยมีสีหน้าส่อพิรุธ จนจอมสอพลออย่างนางด้วงนึกสงสัย
“อีน้อย เอ็งมีอะไรปิดบังคุณพิศรึ”
“ไม่มีจ้ะ”
นางด้วง ไม่เชื่อ “แล้วในห่อผ้านั่นมีอะไร วุ๊ย! สงสัยคุณฉัตรคงฝากของกำนัลมาให้คุณพิศละเจ้าค่ะ” นางด้วงหันมาทางน้อย “นังน้อย เอ็งริอ่านจะอมพะนำเอาของ ของเจ้านายรึ”
“ข้าเปล่านะ คุณฉัตรไม่ได้ฝากอะไรมาสักหน่อย”
“ข้าไม่เชื่อ คุณฉัตรออกจะหลงใหลได้ปลื้มคุณพิศเธอขนาดไหน ใครๆ ก็รู้ มีรึจะไม่ฝากของกำนัลติดไม้ติดมือเอ็งกลับมาให้คุณพิศเป็นการขอบใจน่ะ” นางด้วงว่า
“นังน้อย ส่งห่อผ้ามาให้ข้าดูสิ” พิศสั่ง
นางด้วงเห็นน้อยนิ่งๆ อยู่ก็ไม่ทันใจ กระชากห่อผ้าจากมือน้อยเอามาส่งห่อผ้าให้พิศพลางหรี่ตามองน้อยอย่างคาดโทษ..ประมาณว่าถ้าพบของแปลกผิดตาละก็ น้อยโดนแน่
“ถ้าคุณฉัตรเขาฝากของอะไรมาให้คุณพิศ แล้วเอ็งคิดจะเอาเป็นของตัวเองละก็ เอ็งโดนเฆี่ยนหลังลายแน่ คุณพิศเจ้าขา เทออกมาดูเลยเจ้าค่ะ จะได้รู้กันไปเลยว่านังน้อยมันโกหกรึเปล่า เทออกมาดูกันเลยเจ้าค่ะ”
พิศเทห่อผ้าออก มีแต่พวกสมุนไพรนานาชนิด พิศกับนางด้วงสีหน้าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
“ก็บ่าวบอกแล้วว่าคุณฉัตรไม่ได้ฝากอะไรกลับมาให้คุณพิศเจ้าค่ะ นอกจากฝากขอบคุณที่คุณพิศส่งบ่าวไปช่วยดูแลปรุงยาให้คนป่วยที่เรือนโน้น กับบอกว่า..อีก 2-3 วันจะมาเยี่ยมเยือนคุณพิศที่เรือนนี้ ก็เท่านั้นเจ้าค่ะ”
น้อยว่าแล้วรีบคลานเข้าไปเก็บสมุนไพรลงห่อผ้าตามเดิม พิศหรี่ตามองน้อยอย่างไม่คลายสงสัย
“ถ้าข้าจับได้ว่าเอ็งมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับคุณฉัตรปิดบังข้าละก็ เอ็งสองคน...” ชี้หน้าด่ากราดทั้งน้อย ทั้งบัว “โดนเฆี่ยนหลังขาดแน่ จำไว้”
น้อยกับบัวรีบก้มลงไหว้พิศอย่างลนลาน ด้วยความกลัว นางด้วงเองก็เริ่มกลัวพิศเอาเรื่องที่นางด้วงยุให้พิศค้นห่อผ้าของน้อยแล้วไม่เจออะไร เลยรีบประจบเอาใจพิศ
“คุณฉัตรเธอบอกว่าอีก 2-3 วันจะมาเยี่ยม แหม...เทียวไล้เทียวขื่ออย่างนี้ เห็นทีจะมีขบวนขันหมากคงจะยกตามมาเร็วๆ นี้ละกระมังเจ้าคะคุณพิศ”
พิศได้ฟังก็มีสีหน้าดีขึ้น แต่บัวสีหน้าไม่ดีเลย พิศจะเดินออกไปแต่เดินเหยียบแผ่นไม้กระดานที่บัวเอาขวดยาซุกไว้ พิศชะงักก้มลงมอง
พิศมองไปยังร่องไม่กระดาน แล้วขยับเท้ายกขึ้น เห็นแผ่นกระดานเผยอขึ้นนิดๆ
พิศขมวดคิ้วสงสัย บัวหน้าเสียสุดๆ พิศจ้องหน้าบัวเขม็ง
“เอ็งเอาอะไรซ่อนไว้ใต้กระดานนี้เรอะ”
บัวปากคอสั่น “เอ้อ…”
“ต๊าย! อีสองตัวนี่ร้ายกาจนัก คุณฉัตรฝากของมาให้คุณพิศแล้วพวกเอ็งคิดจะเม้มซ่อนเอาไว้ใช่มั้ยเนี่ย มาเจ้าค่ะ อีด้วงเปิดเอง”
นางด้วงจอมสาระแนรีบคุกเข่าลงที่พื้น แล้วงัดร่องกระดานขึ้นอย่างรวดเร็ว สีหน้ามั่นใจมากว่าต้องเจออะไร บัวหน้าเครียดจนต้องหลับตาลง ปลงตก แต่แล้วนางด้วงก็ทำหน้าเหวอ พิศมองหน้านางด้วงแล้วสงสัย
“เจออะไรนังด้วง”
“ไม่เจอเจ้าค่ะ” นางด้วงรายงาน
บัวลืมตาขึ้นมองอย่างงงสุดๆ หันไปมองหน้ากับน้อย แล้วคลานเข้าไปดูกับตาตัวเอง บัวมองไปไม่เห็นขวดยาใต้ร่องกระดานแผ่นนั้นแล้ว
“ก็แค่แผ่นกระดานมันโก่งจนหลุดออกจากพื้นน่ะเจ้าค่ะคุณพิศ เวลาเหยียบมันก็เลยลั่น” น้อยแก้ตัว
พิศพยักหน้า “แล้วไป”
ดังนั้นแล้วพิศจึงหันกลับเดินออกไป นางด้วงรีบตามติดไปประกบเอาใจ พอพิศกับนางด้วงพ้นไป น้อยวิ่งไปปิดประตู ในขณะที่บัวงัดเปิดกระดานแผ่นนั้นดูอีกครั้ง น้อยวิ่งกลับเข้ามาดูด้วย
ปรากฏว่าที่ร่องกระดาน ไม่มีขวดยาจริงๆ
ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างงงสุดๆ บัวเอามือควานลงในร่องกระดาน พบว่ามันมีช่องโหว่ บัวตัดสินใจวิ่งไปที่ประตูเรือน เปิดประตูออกไป น้อยตามมาไวๆ

บัวกับน้อยเปิดประตูเรือนออกมาเงียบๆ แล้วมองตามหลังพิศไป ทั้งคู่เห็นพิศกับนางด้วงเดินกลับไปที่เรือนแล้ว
บัวกับน้อยรีบออกจากเรือน บัวรีบคลานเข้าไปที่ใต้ถุนเรือน แล้วเจอขวดยาของฉัตรหล่นกลิ้งอยู่ที่ใต้ถุนเรือน บัวคว้าขวดยานั้นทันที

บัวคลานกลับออกมาพร้อมชูขวดยาให้น้อยดู น้อยทำท่าถอนใจโล่งอก
“โฮ้ย! หัวใจอีน้อยมันจะวายซะให้ได้เลย”

บัวกอดขวดยาไว้แนบอก ถอนใจโล่งอกเช่นเดียวกัน
ทางด้านพระยาโกสินทร์ยืนคิดอยู่ เพราะติดใจสงสัยเรื่องที่ว่ามีบ่าวในเรือนป่วยแต่ตนไม่รู้ สักครู่หนึ่งนายสนก็เข้ามาหา

“เรียกหากระผมหรือขอรับท่านเจ้าคุณ”
“ไปตามพ่อฉัตรมาพบข้าหน่อย ข้าอยากรู้ว่าใครที่เรือนเราป่วยเสียจนต้องไปขอตัวบ่าวเรือนโน้นมาปรุงยาให้น่ะ”
สนอึกอักๆ มีพิรุธ
พระยาโกสินทร์เร่งเสียงดุ “ไปสิ”
นายสนยังไม่ขยับ
“มีอะไร”
นายสนไม่ตอบ พระยาโกสินทร์เอะใจ ก้าวเดินพรวดๆ ไปที่ห้องฉัตรเองเลย นายสนตามไปด้วย
พระยาโกสินทร์เดินเข้ามาหยุดที่หน้าห้องบุตรชายคนโต แล้วเคาะประตูห้องเรียก
“ฉัตร..ฉัตร..นอนรึยัง ออกมาคุยกับพ่อหน่อย”
ทุกอย่างเงียบกริบ
พระยาโกสินทร์เคาะแรงขึ้น “ฉัตร..ฉัตร”
ภายในห้องยังคงเงียบ พระยาโกสินทร์หันมามองบ่าวรับใช้ของบุตรชาย เห็นนายสนก้มหน้านิ่งไม่ยอมสบตา พระยาโกสินทร์หวั่นใจบางอย่าง
“ไอ้สน ! มึงเอากุญแจห้องลูกกูมาสิ”
นายสนรีบวิ่งไปเอากุญแจ พระยาโกสินทร์ยืนรออย่างร้อนใจ

เวลาเดียวกัน ภายในอาณาบริเวณเรือนพระยาสมาน ใต้แสงสลัวของพระจันทร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงาเมฆบนท้องฟ้า เงาดำตะคุ่มๆ 2 เงาวิ่งเร็วๆ กันมา แล้วหยุดซ่อนตัวอยู่ในดงไม้
หากไม่พินิจก็ยากจะรู้ว่าเจ้าของเงาดำ 2 เงานั้นคือฉัตรกับฉาย เพราะต่างอยู่ในชุดมิดชิดรัดกุมสีมืดๆ มัวๆ มีผ้าโพกหัวปิดบังหน้าไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงดวงตา ฉัตรและฉายกวาดสายตาดูไปรอบๆ

ฉายเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น “กระผมละนับถือความใจกล้าของพี่ฉัตรจริงๆ เพราะสิ่งที่เราสองคนกระทำอยู่นี้ เป็นเรื่องที่อาจหาญมาก หากเจ้าคุณพ่อรู้ หรือว่าเราถูกจับได้ เห็นทีจะเกิดเรื่องใหญ่แน่นะขอรับพี่ฉัตร”
“พี่ไม่กลัว ฉายก็รู้..เมื่อความรักเกิดขึ้นในหัวใจ คนเราสามารถทำอะไรก็ได้ที่ไม่เคยทำ พี่อยากเห็นแม่บัว อยากรู้ว่า..หล่อนเจ็บถึงเพียงไหน และเหตุใดถึงต้องถูกเฆี่ยนตีอย่างป่าเถื่อนโหดร้ายเช่นนี้ด้วย ไป! รีบไปเถอะ จวนได้เวลานัดหมายกับแม่น้อยแล้ว”
ฉัตรบอกอย่างมาดมั่นก่อนจะวิ่งนำ โดยมีฉายตามไปติดๆ

ขณะเดียวกันนายสนวิ่งกลับมาพร้อมพวงกุญแจแล้วยื่นส่งให้พระยาโกสินทร์ ท่านเจ้าคุณรับกุญแจมาจะไข แต่พบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อคไว้ จึงผลักประตูห้องฉัตรเข้าไปทันที
พระยาโกสินทร์เห็นห้องว่างเปล่าสภาพเตียงยังเรียบตึงไม่มีร่องรอยการหลับนอน
ท่านเจ้าคุณหน้านิ่งเคียดขึ้งขึ้นมาทันที

ครู่ต่อมาพระยาโกสินทร์มายืนเคาะประตูเรียกฉายที่หน้าห้อง
“ฉาย..นอนรึยัง” พระยาโกสินทร์เห็นยังเงียบอยู่จึง เคาะอีก 2-3 ที
ประตูห้องเปิดออก เห็นเป็นแอนนาที่เปิดประตูออกมา หน้าตางัวเงีย
“ฉายนอนรึยัง” ท่านเจ้าคุณถามสะใภ้แหม่ม
“ฉายไม่อยู่ ไม่รู้ไปไหน”
พระยาโกสินทร์หันขวับไปมองนายสน ที่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาด้วย
“ไอ้สน ! มึงรู้มั้ยว่าลูกกูทั้งสองคนไปไหน ! บอกกูมาเดี๋ยวนี้”
นายสนหน้าตาตื่น ยิ่งเห็นพระยาโกสินทร์จ้องมาอย่างคาดคั้น สนจึงถึงกับปากคอสั่นเอาเลยทีเดียว
พระยาโกสินทร์คาดคั้นอย่างหนัก “มึงเป็นบ่าวรับใช้ลูกกู ลูกกูไปไหนค่ำๆมืดๆ ดึกๆ ดื่นๆ มึงจะบอกว่าไม่รู้ เป็นไปไม่ได้! ถ้ามึงไม่บอก กูเอามึงตายแน่”
นายสนหน้าเสีย เบะปากจะร้องไห้ ยกมือไหว้พระยาโกสินทร์ปลกๆ

ขณะเดียวกันบัวคว้ามือน้อย ที่ถือผ้าที่จะเอาไปผูกหัวเสาหน้าเรือนอยู่

“อย่าทำอย่างนี้เลยน้อย”
“เอ๊า! แต่ถ้าไม่ทำ คุณฉัตรเขาก็จะมาหาเอ็งไม่ถูกเรือนน่ะสิ”
“แต่ข้ากลัว” บัวกังวล
“ถ้าเอ็งกลัวก็อยู่เฉยๆ ข้าจัดการเอง” น้อยว่า
“แต่ถ้าคุณพิศรู้เข้า...เราตายแน่ๆ เลยน้อย” บัวกังวลหนัก
“เถอะ..บัว อย่างมากก็แค่ตาย”
น้อยสะบัดตัวออกจากบัว แล้วเดินถือผ้าออกไปนอกเรือน บัวถอนใจใหญ่อย่างกลัดกลุ้ม

น้อยเดินออกมาจากด้านในเรือนที่พัก เหลียวซ้ายแลขวา พอไม่เห็นใคร น้อยเอาผ้าที่ห่อยาสมุนไปบ้านฉัตร ออกมาผูกที่หัวเสาเรือน

แต่แล้วในขณะที่กำลังผูกอยู่นั้น น้อยก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือของใครคนหนึ่งมาคว้ามือเธอไว้หมับ!
ทางด้านบัวซึ่งอยู่ในเรือนทาส ไม่สบายใจในสิ่งที่น้อยกำลังจะทำ จึงหารอยแตกของฝาเรือนเพื่อมองไปดูเหตุการณ์ด้านนอก พอบัวมองตามรอยแตกออกไป ก็เห็นน้อยกำลังถูกใครบางคนกระชากมือไว้ บัวก็สีหน้าตกใจสุดขีด

น้อยสีหน้ายังตกใจอยู่
“ไอ้เพียร”
“เอ็งเอาผ้ามาผูกหัวเรือนทำไม”
น้อยนิ่งไปชั่วครู่ แล้วพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าให้เป็นปกติ “ข้าก็จะเอาผ้าออกมาตากน่ะสิ”
“ตาก กลางค่ำกลางคืนอย่างนี้น่ะเรอะ” เพียรไม่เชื่อ
“ก็ข้าอยากให้มันแห้งทันเช้าน่ะสิ เผื่อข้าต้องไปช่วยปรุงยาให้บ่าวที่เรือนคุณฉัตรอีก มันจะได้แห้งทัน”
เพียรพยายามคาดคั้น “แล้วทำไมเอ็งไม่วางผึ่งดีๆ เอ็งเอาผ้ามาผูกให้เป็นที่หมายตาของใครใช่มั้ย บอกข้ามาซะดีๆ”
“เปล่า”
เพียรไม่เชื่อจับตัวน้อยเขย่าคาดคั้นเอาคำตอบ “เอ็งนัดกับใครคืนนี้หา นังน้อย”
“ปล่อยข้านะ”
“ข้าไม่ปล่อย จนกว่าเอ็งจะบอกความจริงข้ามาว่าเอ็งนัดหมายกับใครคืนนี้”
“ข้าไม่ได้นัดใคร”
“ถ้าเอ็งไม่ยอมบอกข้าดีๆ ข้าจะไปบอกเรื่องนี้กับคุณพิศ” เพียรยกชื่อพิศมาขู่
น้อยมีสีหน้าหวาดหวั่น “ก็ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่ได้นัดใคร”

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 3/2 วันที่ 2 ม.ค. 56

ละคร บ่วงวันวาร บทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บ่วงวันวาร กำกับการแสดง : จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์
บ่วงวันวาร แนวละคร : ดราม่า
บ่วงวันวาร ผลิต : บ.เอ็กแซ็กท์ - บ. ซีเนริโอ
บ่วงวันวารอำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร และ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
บ่วงวันวารออกอากาศ : พุธ - พฤหัส เวลา 20.15 - 21.45 น. (เพิ่มเวลาออกอากาศ เป็น 90 นาที)
ติดตามชม ละครเรื่อง บ่วงวันวารได้ทาง ททบ.5 เริ่มออกอากาศวันแรกเดือนมกราคม 2556
ิัที่มา manager