อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 12/2 วันที่ 20 พ.ย. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 12/2 วันที่ 20 พ.ย. 55

สัมผัสรับรู้ถึงความขลัง และพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองถูกชุบชีวิตให้กลายเป็นคนใหม่
พระรดน้ำมนต์ให้จนเสร็จพิธี เพชรแท้ก้มหน้าลงกราบ 3 ครั้ง พิณทองกับพรรณีซึ่งนั่งพับเพียบอยู่ห่างออกไป กราบลงพร้อมๆ กัน ทั้งสองคนมองเพชรแท้ แล้วยิ้มออกมาอย่างชื่นใจ

เพชรแท้เช็ดหน้าเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว กำลังเดินออกมาหน้าศาลาพร้อมกับพรรณี และพิณทอง สามคนคุยกันมา
“ดีใจด้วยนะลูก เพชรพ้นผิดแล้ว หมดทุกข์หมดโศกกันซะที ต่อไปนี้ ขอให้โชคดี เจอแต่เรื่องดีๆ นะลูก”
“ขอบคุณครับ แม่”

“บ้านเราจะได้กลับมาสงบสุขเหมือนเดิมซะที”
เพชรแท้พยักหน้ากับน้องสาว แต่อดคิดถึงเรื่องคดีไม่ได้ “อยากรู้จัง ตำรวจเขาจะทำยังไงต่อกับคนที่เขาจับได้”



“เขาก็คงเอาไปสอบสวน...หน้าตาอย่างนั้น มันจะไปรู้จักท่านได้ยังไง ต้องมีใครจ้างมันมาทำร้ายท่านอยู่แล้ว” พิณทองมั่นใจ
“เราก็รู้กันอยู่ว่าเป็นใคร” เพชรแท้บอกพร้อมกับถอนหายใจ “เสียดาย ไม่รู้ว่าตำรวจจะเอาผิดมันได้หรือเปล่า”
“กรรมใดใครก่อนะลูก มันก็ต้องย้อนกลับไปสนองคนนั้น ถึงจะรวยล้นฟ้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางหนีบาปกรรมไปได้หรอก เชื่อแม่เถอะ สำคัญว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นแหละ” พรรณีว่า
“ช่วยกันภาวนาให้กรรมมันสนองเร็วๆ หน่อยเถอะแม่...ถ้ายังไม่ได้เห็นคนที่มันสั่งฆ่าพ่อเข้าไปนอนในคุก เพชรคงไม่มีวันสบายใจแน่ๆ” เพชรแท้บอก
สามแม่ลูกชะงัก เพราะเจอชนะศึกยืนรออยู่
“คุณชนะศึก!” พิณทองแปลกใจ
เพชรแท้กับชนะศึกจ้องหน้า ประสานสายตากัน ไม่มีใครยอมใคร
“เพชรแท้ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” ชนะศึกเอ่ยขึ้น

ที่มุมหนึ่งของวัด เพชรแท้เดินเข้าไปหาชนะศึก พรรณีกับพิณทองเดินตามมา เพชรแท้ถามน้ำเสียงเรียบ ๆ
“มีอะไรอีก”
“เมื่อศาลตัดสินให้คุณเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว คุณก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกของคุณพ่อ ตามความต้องการของท่านที่ทำพินัยกรรมเอาไว้ก่อนเสียชีวิต”
“ฉันไม่เคยอยากได้”
“แต่คุณพ่อคงอยากให้...ถือซะว่าทำเพื่อพ่อก็แล้วกัน”
เพชรแท้นิ่งไปครู่หนึ่ง สีหน้ายอมรับกลายๆ
“อีก 2-3 วัน ทนายของผมจะนัดคุณเข้าไปอ่านพินัยกรรม ขอให้ไปตามที่นัดหมายด้วย”
“เท่านั้นใช่ไหม” เพชรแท้ขอตัว
ชนะศึกอึ้งไปนิดหนึ่ง แล้วพูดออกมาอย่างไว้ตัว
“ยังมีอีกเรื่องนึง...ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยนะ เรื่องคดี”
“ขอบใจ...ฉันก็ขอแสดงความเสียใจกับแกด้วยเหมือนกัน” เพชรแท้ยิ้มเยาะเป็นนัย “เรื่องคดีน่ะ”
ชนะศึกฉงน “หมายความว่าไง”
“แกก็รู้ว่าฉันหมายความว่ายังไง เขาจับคนที่ยิงพ่อได้แล้ว ไอ้คนที่บงการอยู่เบื้องหลัง มันคงต้องนั่งไม่ติดกันบ้างล่ะ...อีกไม่นานหรอก มือปืนมันต้องสารภาพว่าใครบงการ...ฉันเลยขอแสดงความเสียใจล่วงหน้าเอาไว้เลยก็แล้วกัน”
พูดจบเพชรแท้หัวเราะหึๆ แล้วเดินไปหาพรรณี
ชนะศึกยืนนิ่ง อึ้งไป เข้าใจความหมาย พรรณี เพชรแท้ และพิณทองเดินออกไป แต่พิณทองยังเหลียวหันมาดูชนะศึกเหมือนคิดบางอย่างในใจ

ชนะศึกเดินมาถึงรถที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถ สีหน้าไม่สบายใจนัก ขณะที่ชนะศึกกำลังจะเปิดประตู พิณทองเดินเข้ามาหา
“คุณชนะศึก”
ชนะศึกชะงัก หันไปตามเสียง
“พิณทอง”
พิณทองพูดขึ้นทันที “พิณว่า...คุณควรจะขอโทษพี่เพชร”
“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผมก็แค่ทำตามกฎหมาย แค่พยายามจะเอาตัวคนผิดมารับโทษเท่านั้นเอง”
พิณทองหยั่งเชิง “แต่ถ้าคนผิดไม่ใช่พี่เพชรล่ะคะ คุณจะทำขนาดนี้ไหม”
ชนะศึกตอบทันที “ทำสิ ผมต้องทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว ใครก็ตามที่ทำผิด ก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย...ไม่ว่าใครทั้งนั้น”
“ไว้พิณจะคอยดูก็แล้วกัน ว่าคุณเป็นคนอย่างที่คุณพูดจริงหรือเปล่า”
พิณทองมองหน้าชนะศึกนิดหนึ่ง แล้วเดินจากไป
ชนะศึกมองตามหลังพิณทอง ความรู้สึกหนักอึ้ง

อังคณาเดินมาที่เคาน์เตอร์บาร์ ด้วยผมทรงเดิมกับตอนที่บอกชนะศึกว่าจะออกไปทำผม อังคณาถือโทรศัพท์มือถือมาด้วย
อังคณาพยายามจะเปิดขวดไวน์ แต่ก็อดเหลือบมองโทรศัพท์ไม่ได้ อังคณาเปิดขวดไม่สำเร็จ เพราะมัวแต่กังวลใจ เสียงชนะศึกดังขึ้นข้างหลัง
“ผมเปิดให้ดีกว่าครับ คุณแม่”
อังคณาสะดุ้งสุดตัว แล้วรีบกลบเกลื่อน “ตาชนะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ มาเงียบๆ ตกใจหมด...แล้วนี่ไปไหนมา”
“ไปธุระครับ” ชนะศึกหยิบขวดไวน์ขึ้นมาเปิด มองอังคณาอย่างจับกิริยา “คุณแม่ไม่ได้ไปทำผมนี่ครับ”
“อ๋อ” อังคณาอ้อมแอ้ม “แวะไปที่ร้านแล้ว เผอิญคนมันแน่น แม่ขี้เกียจคอย”
“เลยกลับ ไม่ทำเลยเหรอครับ”
“ฮื่อ ก็ช่างที่ร้านเขาไม่ว่าง มีแขกรออยู่อีกตั้ง 2-3 คน แม่เลยตัดสินใจกลับเลยดีกว่า”
ชนะศึกพยักหน้า เปิดขวดสำเร็จ รินไวน์ใส่แก้ว ส่งให้อังคณา
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“ขอบใจนะ”
อังคณาถือแก้ว พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือเดินเลี่ยงไป ชนะศึกมองตามด้วยสีหน้าสงสัยคาใจมาก อีกมุมหนึ่ง

ชนกนันท์จดสายตามองจ้องอังคณาอยู่ สงสัยไม่ต่างกัน
อังคณาเดินเข้ามาในห้อง จิบไวน์แก้กลุ้ม คิดหนักว่าชนะศึกเริ่มสงสัยตัวเอง ระหว่างนั้นชนกนันท์เปิดประตูเข้ามา อังคณายินเสียงจึงหันขวับมามองอย่างไม่พอใจ

“ยัยนก ทำไมไม่เคาะประตูก่อน”
ชนกนันท์พูดขึ้นลอยๆ น้ำเสียงเรียบๆ แต่จริงจัง “เมื่อกลางวันคุณแม่ไม่ได้ไปทำผม”
อังคณาชักสีหน้างวยงง “อะไรของแก”
ชนกนันท์พูดต่ออย่างช้าๆ แต่หนักแน่นจริงจัง
“คุณแม่ไม่เคยไปทำผมโดยที่ไม่โทร.นัดล่วงหน้า และต่อให้คุณแม่ไม่ได้นัด คุณแม่ก็ไม่จำเป็นต้องรอ ช่างที่ร้านต้องทิ้งทุกอย่างมาดูแลคุณแม่ เพราะคุณแม่คือลูกค้าคนสำคัญที่สุดของเขา...คุณแม่โกหกพี่ชนะ”
อังคณาขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ “ยัยนก แกกำลังกล่าวหาแม่นะ”
“นกไม่ได้กล่าวหา คุณแม่โกหกพี่ชนะ คุณแม่กำลังมีความลับกับพวกเรา คุณแม่กำลังทำอะไรอยู่คะ ทำไมถึงต้องเป็นความลับ” ชนกนันท์ต่อปากต่อคำ
“ยัยนก ออกไปก่อน แม่ไม่อยากคุยกับแก”
ชนกนันท์ยิ่งรุกหนัก “สิ่งที่คุณแม่ปิดเอาไว้มันคืออะไรคะ มันเลวร้ายมากขนาดไหน ทำไมถึงบอกนกกับพี่ชนะไม่ได้”
อังคณาบันดาลโทสะทนไม่ไหว ขว้างแก้วไวน์เฉียดตัวชนกนันท์ไปเฉียดฉิว พร้อมกับตวาดเสียงดัง
“แม่บอกให้ออกไป”
ชนกนันท์ตกใจสุดขีด อังคณาหน้าซีดตัวสั่นเทิ้ม

“แล้วอย่าได้บังอาจมาถามอะไรเซ้าซี้แบบนี้อีก แม่เป็นแม่ของแกนะ ยัยนก แม่ไม่ใช่นักโทษให้พวกแกมาสอบสวน! ออกไป!”
ชนกนันท์เสียหน้ารีบเดินออกไป อังคณายืนนิ่งเครียดจัด

ด้านชนะศึกเดินคิดเรื่องอังคณามาเรื่อยๆ ริมถนน จนมาหยุดอยู่ที่ร้านขายดอกไม้ร้านหนึ่ง ชนะศึกมองเข้าไปในร้านเห็นพิณทองกำลังเลือกดอกไม้อยู่
ชนะศึกมองพิณทองด้วยความสำนึกผิดที่เคยทำไม่ดีกับพิณทอง จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านเพื่อขอโทษ

ภายในร้านขายดอกไม้ พิณทองกำลังเดินดูดอกไม้หลายๆ ชนิดอย่างเพลิดเพลิน จังหวะหนึ่งเหลือบไปเห็นกระถางกล้วยไม้แบบเดียวกับที่ชนะศึกเคยซื้อให้
พิณทองหวนคิดถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
ขณะที่พิณทองหยิบกระถางกล้วยไม้นั้นขึ้นมา เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเงาชนะศึกในกระจกกำลังยืนอยู่ข้างหลัง
“ไม่ต้องหันมาก็ได้นะ ถ้าไม่อยากมองหน้ากัน” ชนะศึกเอ่ยขึ้น
พิณทองตัดสินใจหันไปเผชิญหน้ากับชนะศึก
“พิณไม่ใช่คนทำผิดคิดร้าย ไม่จำเป็นต้องหลบหน้าใครนี่คะ”
แล้วพิณทองก็หันหลังเดินไปดูดอกไม้อีกมุมหนึ่ง ชนะศึกเดินตามมา
“มาซื้อดอกไม้เหรอ
พิณทองตอบโดยไม่ยอมหันมามองหน้าชนะศึก
“ไม่มีปัญญาซื้อหรอกค่ะ”
“งั้นผมซื้อให้เอามั้ย”
“อย่าเลยค่ะ พิณไม่รู้ว่าคุณจะมาไม้ไหน”
ชนะศึกฉุนนิดๆ “ผมไม่น่าไว้ใจขนาดนี้เลยเหรอ”
“สมัยนี้ใครก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ” พิณทองหันหน้าไปหาชนะศึก พูดแดกดัน “ยิ่งคนที่เคยร้าย มาทำเป็นดีด้วย เราต้องยิ่งระวัง”
พูดจบพิณทองเดินผ่านชนะศึกไป
“ผมบอกแล้วไง ผมไม่เคยคิดทำร้ายคุณเลยนะ”
พิณทองหยุดหันกลับมา
“พิณเลิกเชื่อคำพูดของคุณไปแล้วล่ะค่ะ พิณดูที่การกระทำมากกว่า”
“แล้วสักวัน ผมจะทำให้คุณเห็น ว่าผมเป็นคนอย่างไง”
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ เพราะคุณจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับพิณอยู่ดี”
ชนะศึกหน้าเสีย มองจ้องตาพิณทอง
ผึ้งเดินถือของเข้ามาในร้าน
“ได้แล้วพิณ”
“กลับบ้านกันเถอะผึ้ง” พิณทองเอ่ยขึ้น
“ไปซี เดี๋ยวน้าณีรอ” ผึ้งหันไปมองชนะศึก
พิณทอง และผึ้งเดินออกจากร้านไป ชนะศึกมองตามเรียกไว้
“พิณทอง”
ชนะศึกเดินตามพิณทองออกไป

ชนะศึกเดินตามพิณออกมาที่บริเวณหน้าร้านขายดอกไม้
“พิณทอง รอเดี๋ยวก่อนซี พิณทอง”
พิณทองหยุดเดิน หันมาหาชนะศึก
“ระหว่างผมกับเพชรแท้ก็เรื่องหนึ่ง ระหว่างแม่คุณกับแม่ผมก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าเรื่องระหว่างเราไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้” ชนะศึกว่า
พิณทองน้ำตาไหลริน “ระหว่างคุณกับพิณ ไม่มีคำว่าเราหรอกค่ะ พิณก็คือพิณ คุณก็คือคุณ”
“คุณอยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหม” ชนะศึกถาม
“มันไม่มีทางอื่นหรอกค่ะ”
พิณทองหันหลังเดินจากไปพร้อมกับผึ้ง ชนะศึกมองตามด้วยความเสียใจ

พิณทองนั่งร้องไห้อยู่ในแท็กซี่มาตลอดทาง ผึ้งคอยช่วยปลอบ
“ไม่เป็นไรนะพิณ”
พิณทองพยักหน้า ฝืนยิ้ม
“ให้มันจบแบบนี้แหละ ดีแล้ว”

ปากก็พูดไป แต่น้ำตาพิณทองยังคงไหลรินออกมาอยู่อย่างนั้น
รุ่งเช้าพรรณี พิณทอง และเพชรแท้นั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันภายในบ้าน เป็นภาพรายงานข่าวการสอบสวนยักษ์

“ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำการสอบสวนนายยักษ์หรือ พิชัย ชื่นจิตร ผู้ต้องหาคดีลอบฆ่านักธุรกิจใหญ่ นายธานินทร์ เลิศชัยวัฒน์ แต่ผู้ต้องหาก็ยังปฏิเสธที่จะให้การเพิ่มเติม...” ผู้ประกาศข่าวรายงาน
ในจอทีวี เป็นภาพยักษ์ถูกคุมตัวกลับเข้าห้องขัง โดยไม่ยอมพูดให้การอะไรกับใครทั้งนั้น
เวลาเดียวกันอังคณาดูข่าวทีวีอยู่ที่บ้านเลิศชัยวัฒน์ สีหน้าเครียดเคร่ง เสียงผู้ประกาศรายงานข่าวต่อ
“ตำรวจสันนิษฐานว่า จะต้องมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง และจะทำการสอบสวนต่อไป จนกว่านายยักษ์จะให้การสารภาพว่าใครคือผู้จ้างวานฆ่านายธานินทร์ ซึ่งทางสถานีจะติดตามข่าว และรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป”
อังคณาเครียดมาก ทนดูไม่ไหว หยิบรีโมทขึ้นมา กดจอทีวีดับพรึบลง
ทีวีที่บ้านพรรณีก็ปิดลงด้วย เพชรแท้ครุ่นคิด พิณทองกับพรรณีคุยกันเรื่องนายยักษ์
“พี่เพชรว่าเขาจะยอมพูดความจริงไหม”
“ถ้าเป็นแม่ แม่จะบอกตำรวจเขาไปนะ อย่างน้อย ก็ดีกว่ามารับโทษคนเดียว”
“นายยักษ์นี่เขาไม่ได้เป็นคนต้นคิดฆ่าท่านนี่ ถ้าตำรวจเขาจับตัวการได้ เขาอาจจะลดโทษให้นายยักษ์ก็ได้นะ” พิณทองออกความเห็น
“ฆ่าคนตาย ลดโทษยังไงก็ต้องคิดคุกหัวโต” เพชรแท้พูดพลางครุ่นคิด ตริตรอง “เพชรว่า ไอ้ยักษ์มันคงไม่โง่รับโทษคนเดียวหรอก แต่ที่มันหุบปากเงียบอยู่จนทุกวันนี้ มันคงรออะไรซักอย่าง”
“อะไรล่ะลูก” พรรณีฉงน
“เพชรก็นึกไม่ออกเหมือนกัน แม่ แต่เพชรว่า...มันต้องมีอะไรที่เราไม่รู้อีกแน่ๆ”
เพชรแท้ครุ่นคิด

ตอนกลางวันที่เรือนจำคลองเปรม ตรงบริเวณที่ลงชื่อขอเยี่ยมนักโทษ เพชรแท้ยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะเจ้าหน้าที่
“ขอเยี่ยมนายยักษ์เหรอ” เจ้าหน้าที่ตรวจดูเอกสาร “มีญาติมาเยี่ยมไปแล้วนี่ วันนี้เยี่ยมไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
“ใครมาเยี่ยมเหรอครับ” เพชรแท้สงสัย
“เมียเขา เพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง” มองไปทางหนึ่ง แล้วชี้ให้ดู “โน่นไง เดินอยู่โน่น”
เพชรแท้มองตามไป เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินอยู่หน้าเรือนจำ ท่าทางลับๆ ล่อๆ

เพชรแท้ออกมาจากเรือนจำ เดินตามเมียของยักษ์ไป แล้วทันใดเพชรก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นชายคนหนึ่งเดินเข้าไปคุยกับเมียของยักษ์ พอชายคนนั้นหันมาปรากฏว่าเป็นเรืองโรจน์
เมียของยักษ์เดินตามเรืองโรจน์ไปขึ้นรถ เพชรแท้รีบตรงไปที่มอเตอร์ไซค์ของตน ขับตามรถของเรืองโรจน์แล่นออกไปจากเรือนจำทันที

ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เรืองโรจน์เดินเข้ามาพร้อมกับเมียของยักษ์ เรืองโรจน์ถือกระเป๋าใส่เงิน ที่ได้มาจากอังคณา เข้ามาด้วย สองคนไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่ง เพชรแท้ค่อยๆ โผล่หน้าเข้ามา มองไปที่เรืองโรจน์ เห็นเรืองโรจน์นั่งหันหลังให้ประตู กำลังสั่งกาแฟ เพชรแท้แอบฟัง
เรืองโรจน์คุยกับเมียยักษ์ “เขาบอกอะไรเธอบ้างหรือยัง”
“เขาบอกให้เอาเงินจากคุณ พอได้เงินแล้วก็ไปบอกเขา”
“เงินอยู่นี่แล้ว”
เรืองโรจน์ว่าพลางยกกระเป๋าขึ้นมา มองซ้ายมองขวานิดหนึ่ง ก่อนจะส่งกระเป๋าใบนั้นให้เมียของยักษ์
“เงินอยู่ในกระเป๋านี่”
เพชรแท้ยิ่งสนใจฟัง

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 12/2 วันที่ 20 พ.ย. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th