อ่านละคร บ่วงรัก ตอนอวสาน วันที่ 23 พ.ย. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนอวสาน วันที่ 23 พ.ย. 55

เพชรแท้กับชนะศึกยังอยู่ที่ห้องรับแขก หน้าตาเครียดเคร่งกันทั้งคู่ สารวัตร และตำรวจเดินเข้ามา
“คุณชนะศึกครับ คุณอังคณาหนีเข้าไปในห้อง เธอขู่จะทำร้ายตัวเองถ้าเราบุกเข้าไป”
“หา!...แล้วไงล่ะ” เพชรแท้ตกใจ
“ผมจะไปคุยกับคุณแม่เอง”
ชนะศึกเดินเข้าไปในบ้าน เพชรกับตำรวจขยับจะตาม ชนะศึกยกมือห้ามไว้ แล้วเดินเข้าไปคนเดียว

อังคณานั่งอยู่ในห้อง น้ำตาไหล ในมือถือปืนไว้
ส่วนที่หน้าห้อง ชนะศึกเคาะประตูเรียก
“แม่ครับ ผมเอง...ให้ผมเข้าไปได้ไหม”

อังคณาไม่ตอบ ชนะศึกไขกุญแจ เปิดเข้าไป ปิดประตู อังคณานั่งอยู่ที่เตียง ไม่ยอมหันหน้ามา
อังคณา ถามเสียงประชด “ลูกอยากให้แม่เข้าคุกนักเหรอ”



ชนะศึกเดินเข้าไป พูดอ่อนโยน “แม่ทำผิดไปแล้ว ไม่มีทางอื่นหรอกครับ...ไปเถอะครับ”
“ไม่! แม่ไม่ยอมเข้าไปอยู่ในคุกหรอก ชนะคิดว่าแม่จะอยู่ได้ยังไง”
ชนะศึกรู้สึกแย่มากๆ จะร้องไห้อีก “แม่ทำผิด แม่ก็ต้องชดใช้...มันอาจจะไม่ลำบากมากนักก็ได้ แล้วถ้าแม่ทำตัวดี ๆ แม่อาจจะติดคุกไม่กี่ปี...ผมกับนกจะช่วยแม่ทุกอย่าง”
“แม่อยู่ไม่ได้ แม้แต่วันเดียวก็ไม่ได้” อังคณาร้องไห้ออกมา “เข้าใจไหมชนะ แม่เป็นใคร จะให้แม่ไปเป็นนักโทษ ไปอยู่ร่วมกับไอ้พวกโจร ไอ้พวกฆาตกร แม่จะอยู่ได้ยังไงชนะ”
ชนะศึกปลอบ “ไปเถอะครับแม่” ขยับเดินเข้ามาใกล้ “แม่ครับ”
อังคณาแหวใส่ “ไม่”
อังคณาหันขวับมา ลุกขึ้นยืน พร้อมกับปืนพกในมือ ชนะศึกตกใจมาก
อังคณายกปืนขึ้นขู่ชนะศึก “อย่าบังคับแม่นะ ชนะ”
ชนะศึกถามเสียงเรียบ “แม่จะยิงผมเหรอครับ”
“แกบังคับแม่ แม่ไม่มีทางเลือก แม่ไม่ยอมให้ใครมาแตะตัวแม่เด็ดขาด”
อังคณาขู่ ชนะศึกเดินเข้ามาใกล้ อังคณามือไม้สั่น แต่ยังเล็งปืนไปที่ชนะศึก ชนะศึกยังเดินเข้าไป
ชนะศึกพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แม่ทำผิดมามากแล้ว พอเถอะนะครับ อย่าทำอีกเลย”
อังคณาร้อง “อย่าเข้ามานะ” มือไม้สั่น เริ่มถดตัวถอย “อย่านึกว่าแม่ไม่กล้านะ แม่ยิงลูกจริงๆ นะ ชนะ” ทนไม่ไหว ร้องไห้โฮออกมา
“เอาซีครับ ถ้าแม่จะยิงผม ถ้าแม่จะฆ่าลูกได้ ก็เอาเลย ยิงเลย”
อังคณาตัดสินใจยิงลูกไม่ได้ ปล่อยมือที่ถือปืนตกลงข้างตัว ร้องไห้โฮ
ชนะศึกเข้าไปกอดแม่ อังคณาร้องไห้โฮ

“แม่ยิงลูกไม่ได้ แม่ทำไม่ได้ แม่ทำไม่ได้จริง ๆ” มองหน้าชนะศึก “จำไว้นะ ชนะศึก แม่รักลูก...แต่ลูกไม่รักแม่ ไม่รักแม่เหมือนพ่อแกเลย”
ชนะศึกร้องไห้ “ไม่จริงนะครับ ผมรักแม่”
อังคณาเอาแต่ทุบตีชนะศึกอยู่อย่างนั้น ชนะศึกดึงอังคณาเข้ามากอด ร้องไห้ทั้งคู่
“ผมรักแม่ ถึงแม่จะเป็นยังไง แม่ก็ยังเป็นแม่ผม...ผมไปบอกตำรวจให้ขึ้นมาหาแม่นะครับ”
ชนะศึกเดินไปเปิดประตู อังคณาเก็บปืน ลุกขึ้นยืน
“ชนะ,,,แม่รักลูกนะ” อังคณาพูดทั้งน้ำตา “แม่รักลูก...”
ชนะศึกหันมามองอังคณา วินาทีนั้นเองอังคณายกปืนมาลั่นกระสุนใส่หัวใจตัวเองทันที เสียงปืนดังปัง แล้วร่างอังคณาก็ล้มลงต่อหน้าต่อตาลูกชาย ชนะศึกตกตะลึงพรึงเพริด เลือดของอังคณากระเซ็นเต็มพื้นห้อง
“แม่”
ชนะศึกร้องสุดเสียง รีบวิ่งมาประคองอังคณา ร้องไห้โฮ ชนะศึกทรุดลงกับพื้นกอดอังคณาไว้ เลือดอังคณาไหลนอง
“แม่ แม่ทำอย่างนี้ทำไม...ผมรักแม่นะครับ ผมรักแม่ ได้ยินไหมครับแม่” ชนะศึกร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา

สารวัตรพร้อมด้วยกำลังตำรวจ และเพชรแท้วิ่งเข้ามา ทั้งหมดตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า ชนะศึกกอดร่างอังคณาร้องไห้ฟูมฟายอยู่อย่างนั้น
หลายวันต่อมา บ่ายคล้อยที่งานฌาปนกิจ ศพของอังคณาที่บรรจุอยู่โลงแสนสวยอยู่ในช่องใส่โลงบนเมรุวัดแห่งนั้น ไฟกำลังโหมไหม้โลงศพ ไฟริษยาอาฆาตและแรงพยาบาทของอังคณามอดไหม้ไปท่ามกลางเปลวเพลิงนั้น

เวลาผ่านไป จนครบหนึ่งร้อยวันที่อังคณาเสียชีวิต
บริเวณโขดหินริมหาดตอนกลางวันวันนี้ ชนะศึก และชนกนันท์แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดสีดำ สองพี่น้องยืนอยู่หน้าโต๊ะซึ่งปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตา บนโต๊ะมีรูปพร้อมขาตั้งรูป 2 บาน ลมทะเลพัดแรงจนชายผ้าปูโต๊ะปลิวไปมา
รูป 2 บานนั้นเป็นรูปของธานินทร์ และอังคณาที่ตั้งคู่กัน หน้ารูปมีโกฏิใส่กระดูกสองอันตั้งเคียงกันอยู่บนโต๊ะ ถัดมามีพานใส่กลีบกุหลาบวางอยู่ตรงหน้าโกฏิ
ชนะศึก และชนกนันท์ค่อยๆ วางมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ลงที่หน้าโกฏิ สีหน้าสองพี่น้องเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ชนะศึกมองภาพอังคณาด้วยความรู้สึกผิด น้ำตาคลอออกมา
“แม่ครับ ไม่ว่าดวงวิญญาณของแม่จะอยู่ที่ไหน ผมอยากให้แม่ได้รับรู้...ผมรักแม่นะครับ ผมเสียใจจริงๆ ที่มันเป็นแบบนี้...โปรดให้อภัยผมด้วย ผมคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ ถ้าแม่ไม่ให้อภัยผม”
ชนะศึกน้ำตาไหลริน ชนกนันท์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็อดเสียใจไม่ได้ ชนะศึกหันไปหาชนกนันท์สองพี่น้องร้องไห้ด้วยกัน

ห่างออกไป ศักดาเดินนำพรรณี เพชรแท้ และพิณทองเข้ามา
“คุณชนะครับ” ชนะศึกหันมาหา “คุณเพชรแท้กับคุณพรรณีมาแล้วครับ”
“เชิญครับ ทุกคน”
เพชรแท้เดินนำแม่ และน้องมาหยุดที่หน้ารูปของธานินทร์ ทั้งสามพนมมือไหว้ แล้วพรรณีก็เดินไปหยุดที่หน้ารูปอังคณา เพื่ออโหสิกรรมให้
“ความรักไม่ใช่การครอบครองเป็นเจ้าของ แต่คือความหวังดี หวังให้คนที่เรารักมีความสุข...คุณอังคณา คุณรักในทางที่ผิด ทุกอย่างถึงได้วุ่นวายแบบนี้...ฉันเข้าใจ และอโหสิกรรมให้คุณ ขอให้คุณหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ทำไว้ และพบกับความสุข สมหวังในภพหน้านะ คุณอังคณา”
ชนะศึกฟังด้วยความสะท้อนใจ
ทั้งสามยกมือไหว้รูปอังคณา และรูปธานินทร์ แล้วถอยออกมา

เวลาผ่านไป ชนะศึกโปรยเหรียญเงินจำนวนหนึ่งลงในน้ำ เพื่อซื้อที่ตามธรรมเนียม ศักดานำพานกลีบกุหลาบมาให้ ชนะศึกโปรยกลีบกุหลาบลงในน้ำ คนอื่นๆ รับกลีบกุหลาบ แล้วโปรยตามไป
ชนะศึกหยิบโกฏิกระดูกของอังคณาขึ้นมา ชนกนันท์หยิบของธานินทร์ ทั้งสองโปรยเถ้ากระดูกของพ่อ และแม่ลงในทะเล ทุกคนที่เหลือพนมมือไหว้
พอเสร็จชนะศึกดึงชนกนันท์เข้ามากอด สองพี่น้องน้ำตาซึม
คนอื่นๆ มองภาพนั้น พลอยสะเทือนใจไปด้วย

เวลาผ่านไป ตรงอีกมุมหนึ่งริมทะเล ชนะศึกหยิบพวงมาลัยมะลิขึ้นมาดม น้ำตาซึม พึมพำกับตัวเอง
“ผมขอโทษ...ให้อภัยผมด้วยนะครับ คุณแม่”
เสียงคุ้นหูดังขึ้น “คุณไม่ได้ทำอะไรผิด”
ชนะศึกหันมา เห็นพิณทองยืนอยู่ด้านหลัง ชนะศึกถอนใจด้วยความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจ
“ผมทำให้คุณแม่ต้องตาย”
“คุณอังคณาตัดสินใจทำแบบนั้น แทนที่จะอยู่รับโทษทัณฑ์ตามกฎหมาย เธอเลือกทางของเธอเอง ไม่ใช่ความผิดของคุณ”
ชนะศึกเมินหน้าหนี ยังเจ็บปวดไม่คลาย พิณทองปลอบโยน
“สิ่งที่คุณทำลงไปถูกต้องแล้ว...พิณรู้ว่ามันยากที่คุณจะทำใจ แต่คุณต้องทำให้ได้ เลิกโทษตัวเองซะทีนะคะ คุณชนะศึก”
“ผมทำไม่ได้”
“คุณต้องทำได้”
พิณทองขยับตัวเข้ามาดึงมือชนะศึกมากอบกุม ให้กำลังใจ
“พิณรู้ว่าคุณรักคุณแม่ พิณว่า...ดวงวิญญาณของท่านก็คงจะรับรู้เช่นกัน...สิ่งที่ดีที่สุดที่เราทุกคนควรจะทำก็คือ ลืมเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วจดจำแต่เรื่องดี ๆ ที่คุณแม่ของคุณเคยทำ”
พิณทองจับมือชนะศึกที่ยังถือพวงมาลัยมะลิอยู่ขึ้นมา ทำท่าพนมมือ
“เราจะช่วยกันสวดมนต์อธิษฐาน ขอให้คุณแม่ของคุณ พบแต่ความสุข สงบตลอดไป”
ชนะศึกจับมือพิณทอง มองอย่างตื้นตัน เห็นสายตาของพิณที่มองมา มีแต่ความหวังดี จริงใจ ชนะศึกอดละอายใจไม่ได้
“ทำไมคุณดีกับผมอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ผมเลวร้ายกับพวกคุณสารพัด”
“เพราะคุณไม่ได้ตั้งใจ...คุณไม่ใช่คนเลวร้าย คุณแค่หลงผิดไป พิณรู้นะคะว่าข้างในใจของคุณ คุณเป็นคนดี...เข้มแข็งไว้ค่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพิณจะเป็นกำลังใจให้คุณ”
ชนะศึกซาบซึ้งใจมาก กอดพิณทอง ทั้งคู่อยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ด้วยความอบอุ่นใจ

ชนกนันท์นั่งอยู่อย่างเดียวดายอ้างว้าง คิดถึงชีวิตที่ขาดพ่อ และแม่ และเรื่องราวร้ายๆ ที่ผ่านมา อดไม่ได้ น้ำตาไหลออกมา เพชรแท้เข้ามานั่งลงข้างๆ ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ พูดเสียงอ่อนโยน
“เช็ดน้ำตาซะ”
ชนกนันท์อึ้งไปนิดหนึ่ง และยังไม่กล้ารับผ้าเช็ดหน้ามา
“อ้ะ...ถ้าคุณไม่รังเกียจ”
ชนกนันท์รับผ้าเช็ดหน้ามา กิริยาเก้อๆ เขินๆ
เพชรแท้เห็นชนกนันท์เช็ดน้ำตา ท่าทางอ่อนแอ น่าสงสาร ไม่ร้ายกาจวีน เหวี่ยง เหมือนอย่างเคย เพชรแท้เลยพูดปลอบโยน
“คุณพ่อคุณแม่ของคุณท่านไปสบายแล้ว อย่าร้องไห้ให้ท่านต้องเป็นห่วงกังวลอีกเลยนะ หักใจซะบ้างเถอะ”
“ฉันพยายามแล้ว...แต่” สะอื้นจนตัวโยน “ฉัน...ทำใจไม่ได้”
ชนกนันท์ปล่อยโฮ เพชรแท้สงสาร ดึงตัวชนกนันท์มากอดปลอบ ชนกนันท์หมดแรงจะพยศ ได้แต่ร้องไห้กับอกเพชรแท้
“มันยาก ผมรู้ พ่อคุณก็เป็นพ่อผมเหมือนกัน ผมเองก็เสียใจแต่คุณจะปล่อยให้อดีตมาทำร่ายเราไม่ได้ คุณต้องทิ้งมันไว้ข้างหลัง แล้วเดินต่อไป”
เพชรแท้เช็ดน้ำตาให้ชนกนันท์
“ลืมอดีตที่แย่ๆ ไปซะ...โอเคไหม”
ชนกนันท์มองหน้าเพชรแท้ รู้สึกซาบซึ้งใจ
เพชรแท้เห็นชนกนันท์ดีขึ้นแล้วจึงลุกเดินออกไป
“เพชรแท้”
เพชรแท้หยุดเดินหันกลับมา “หือ”
“ฉันขอโทษนะ ที่เคยทำไม่ดีกับพวกเธอ”
“ผมก็ขอโทษ ผมก็ทำไม่ดีกับคุณเหมือนกัน...เอาเป็นว่า เราต่างลืมมันไปซะดีไหม แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ แดดแรงแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ชนกนันท์พยักหน้า เพชรแท้ส่งมือให้ ชนกนันท์จับมือเพชรแท้ดึงให้เธอลุกขึ้นมายืนก่อนจะเดินนำไป
ชนกนันท์มองตามเพชรแท้ คิดไปคิดมาอยู่นิดหนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงเรียก
“เดี๋ยวก่อนค่ะ...”
เพชรแท้หันมาหาอีก
“ขอบคุณนะคะ...เอ่อ...พี่เพชร”
เพชรแท้ตะลึงกับสรรพนามที่ได้ยิน แล้วก็คลี่ยิ้มออกมาเต็มหน้า เดินกลับมาหา ลูบหัวชนกนันท์
“ไม่เป็นไรจ้ะ น้องนก”
ทั้งคู่กอดกันด้วยความรัก และห่วงใย

เวลาเดียวกันพรรณีเดินอยู่หน้าบ้านพักด้วยความสบายใจ เสียงชนะศึกเรียกดังขึ้น
“คุณพรรณีครับ”
พรรณีหันหลังไป เห็นชนะศึกกับพิณทองยืนคู่กันอยู่ด้านหลัง ชนะศึกเดินตรงเข้ามาประนมมือไหว้ที่อกพรรณี
“ผมกราบขอโทษ ทุกอย่างที่ผม และครอบครัวของผมทำลงไป โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”
พรรณีประคองมือชนะศึกไว้
“ไม่เอาค่ะ คุณชนะ อย่าทำแบบนี้...ไม่จำเป็นเลย”
“มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะทำได้ และหวังว่าคุณจะให้อภัย”
“ฉันให้อภัยค่ะ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาด เมื่อไหร่ที่คนเราเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล ก็ทำผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น...ไม่ว่าใคร”
“ขอแค่คุณสำนึกได้ แล้วแก้ไข ทำสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นถูก...เท่านี้ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ” พิณทองเสริม
เพชรแท้เดินเข้ามาพร้อมกับชนกนันท์ ทันได้ยินจึงพูดปลอบ
“ใช่ สิ่งที่นายทำลงไป มันมีค่ามากกว่าคำขอโทษร้อยพันคำ”
เพชรแท้เข้ามาจับมือชนะศึก
“วิญญาณของคุณพ่อคงภูมิใจในตัวนาย”
ชนะศึกมองหน้าเพชรแท้ รู้สึกถึงความอบอุ่น และกำลังใจที่ส่งผ่านมา ชนะศึกจับมือเพชรแท้บีบแน่น
“เพชรแท้...นายจะว่ายังไง ถ้าฉันอยากให้เรามาทำงานด้วยกัน”
“ไม่ละ ฉันก็มีชีวิตของฉัน...แต่ถ้ามีอะไร เราจะไม่ทิ้งกัน ฉันสัญญา อย่างน้อย ฉันก็เป็นลูกคนนึงของคุณพ่อ”
ชนะศึกบอกต่อ “แล้วก็...เป็นพี่ชายของฉัน”
ทั้งสองพี่น้องกอดกันกลม
ทุกคนยิ้มแย้มให้กัน เป็นภาพแห่งความสมัครสมานกลมเกลียวที่เกิดขึ้นกับสองครอบครัวที่ถูกยึดโยงกันไว้ด้วยบ่วงรักบ่วงแค้น พรรณีกอดพิณทอง มองไปเห็นชนกนันท์ยืนเก้อๆ เลยดึงเอาร่างชนกนันท์เข้ามากอดไว้อีกข้าง พรรณีประหวัดไปถึงธานินทร์ รำพึงออกมา
“คุณธานินทร์ ฉันรู้ว่าคุณต้องมีความสุขที่สุด ฉันรู้”

สองครอบครัวกอดกันด้วยความรักและความเข้าใจ ทุกชีวิตหลุดพ้นจากบ่วงรักบ่วงแค้นที่เคยมีต่อกันและกันแล้ว

****อวสาน****

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนอวสาน วันที่ 23 พ.ย. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th