อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 4/3 วันที่ 3 พ.ย. 55

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 4/3 วันที่ 3 พ.ย. 55

อังคณาจะเดินไป ธานินทร์ดึงอังคณาไว้
“นั่นคุณจะไปไหน”
อังคณา สะบัดแขนจนหลุด “ฉันจะจัดการกับนังเมียเด็กคุณน่ะซี อย่านึกนะว่าทำอะไรกันอยู่ที่นี่ แล้วฉันจะไม่รู้อะไร”
ธานินทร์ตะคอก “คุณมีหลักฐานอะไรมาปรักปรำคนอื่นแบบนี้”
“มีซี ก็ไอ้ที่คุณแอบไปเฝ้ามันถึงบ้าน แถมยังเอาของกำนัลไปปรนเปรอบ้านมัน คุณนึกว่าฉันไม่รู้หรือไง” ธานินทร์อึ้งไปเลย คาดไม่ถึง “ยังไม่หมดน่ะ ฉันไปบ้านมันมาแล้ว ฉันเลยรู้ว่าทำไมคุณถึงได้มาอาสาทำผ้าเช็ดหน้าให้สมาคม คิดจะเอางานไปจุนเจือบ้านมันใช่ไหม”

ธานินทร์พูดไม่ออก อังคณาเห็นธานินทร์อึ้ง ได้ใจ ขยี้ซ้ำ
“เถียงซีว่าไม่จริง ฮึ!... กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง เถียงไม่ออกใช่ไหม” หันไปหายุ้ย “บอกมา นังพิณทองอยู่ไหน ยุ้ย”



ยุ้ยชี้บอก ปากคอสั่น “ไปห้องเอกสารกับคุณชนะศึกค่ะ”
“แค่นี้แหละ บอกแต่แรกก็หมดเรื่องแล้ว” ชนกนันท์ว่า
อังคณากับชนกนันท์เดินลิ่วไปที่ห้องเก็บเอกสาร

อังคณากับชนกนันท์เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องเก็บเอกสาร กวาดตามองไปรอบ ๆ
“ไม่เห็นมีใครเลยนี่คะ คุณแม่”
อังคณาคิดครู่หนึ่ง แล้วเดินปึงปังออกไปจากห้องเก็บเอกสาร ชนกนันท์เดินตาม

อังคณาเดินปึงปังไปที่ห้องชนะศึก สุดาไม่อยู่หน้าห้อง อังคณาเปิดเข้าไปเดินดู ไม่เจอใคร
“ที่นี่ก็ไม่มี! ไปไหนกันนะ”

แม่ลูกมองหน้ากัน อย่างผิดหวัง
ที่แท้พิณทองอยู่ในสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่ ดอกกล้วยไม้สวยๆ ละลานตาไปหมด พิณทองหันมามองชนะศึก

“นี่แหละงานอีกอย่างหนึ่งที่เธอต้องทำ วันนี้เป็นวันเกิดเมียคุณฮิโตริ เขาชอบดอกกล้วยไม้ไทย ฉันอยากจะหาไปให้เขาหน่อย...ช่วยเลือกให้ที”
“จะให้เลือกยังไงล่ะคะ”
“ก็เลือกแบบที่สวยๆ...แบบที่เธอชอบก็ได้”
พิณทองรับคำ แล้วเริ่มเดินไปเลือกกล้วยไม้กับเจ้าของร้าน พิณทองดูร่าเริงมีความสุขมากที่ได้อยู่ท่ามกลางกล้วยไม้ ชนะศึกมองดูพิณทองเลือกกล้วยไม้อย่างมีความสุข เขาเองก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย
“สวยจังเลย”
พิณทองหยิบกล้วยไม้ต้นหนึ่งมาถือไว้ในมือ มองดูอย่างชื่นชม
“ชอบเหรอ”
ชนะศึกถามขณะเดินเข้ามาหาพิณทอง
“ค่ะ”

สองคนอยู่ในรถที่ชนะศึกเป็นคนขับ รถแล่นอยู่บนถนน บนตักของพิณทองมีกล้วยไม้สองต้น ต้นเล็กต้นหนึ่ง ต้นที่พิณทองหยิบขึ้นมาดู และต้นใหญ่ต้นหนึ่ง สำหรับเมียฮิโตริ พิณทองมองดูอย่างชื่นชมไปตลอดทาง ดูมีความสุขเหลือเกิน
ชนะศึกเหลือบสายตามองพิณทอง “แปลกดีนะ ทำไมผู้หญิงทุกคนต้องชอบดอกไม้”
พิณทองยิ้ม พูดต่อปากต่อคำ “แล้วทำไมผู้ชายทุกคนต้องชอบเงินล่ะค่ะ”
ชนะศึกงง “เธอหมายถึงใคร”
“ก็ ... คุณชนะไงคะ วันๆ เห็นพูดแต่เรื่องเงิน”

“มันเป็นงาน ที่ฉันทำ ไม่ได้แปลว่าฉันชอบ”
“งั้น คุณชนะชอบอะไรคะ”
ชนะศึกนึก ท่าทีขำๆ “ชอบอะไร ไม่รู้ซี ไม่เคยถามตัวเองซักที”
“ความจริงคนเราควรจะรู้ว่านะคะ ว่าตัวเองชอบอะไร”
“เหรอ ทำไมล่ะ”
“ก็จะได้มีความสุขไงคะ ถ้าเรารู้ว่าชอบอะไร เราก็จะได้ไปหาหรือไปอยู่ใกล้ ๆ สิ่งที่เราชอบไงคะ”
ชนะศึกเงียบไปครู่หนึ่ง...ก่อนจะยิ้มออกมา “ตอนนี้ฉันก็กำลังมีความสุข”

เย็นนั้นชนกนันท์กับโสภิตากำลังนั่งทานอาหารกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง โสภิตาวางช้อน ร้องลั่น
“จริงดิ พ่อเธอมีเมียน้อย”
ชนกนันท์ตีแขนโสภิตา “เบา ๆ หน่อยย่ะ อายเค้า”
โสภิตาหัวเราะ “ไม่น่าเชื่อ...เด็กที่ไหนล่ะ นก สวยไหม”
“ผู้ช่วยเลขาฯ หน้าห้อง เพิ่งจบมา หน้าตาเป็นไงไม่รู้ ฉันกับคุณแม่บุกไปลุยมันถึงบ้าน แต่ไม่เจอ ไปที่บริษัท มันก็ไม่อยู่” ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ “ฉันนะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณพ่อจะเอาเด็กคราวลูกมาทำเมีย”
“โอ้ย เรื่องธรรมดา ใคร ๆ เค้าก็มีกัน” โสภิตาพูดขำๆ “ของพ่อเธอยังไม่เท่าไหร่ สู้พ่อยัยเหมียวไม่ได้...นั่นมีเมียน้อยเป็นผู้ชาย ดู๊!”
โสภิตาพูดเสียงสูง หัวเราะร่วน ชนกนันท์ไม่ขำด้วย หน้าเครียด
“นี่ อย่ามาพูดเล่น ฉันไม่ขำนะ ฉันซีเรียส”
“บ้าน่ะ ซีเรียสทำไม” โสภิตาหัวเราะ “พ่อแกอายุก็ปูนนี้แล้ว...เอาเป็นว่าให้มีเล่นขำๆ ได้ แต่ระวังทรัพย์สมบัติเงินทองอย่าให้กระเด็นไปก็แล้วกัน”

ทานอาหารเสร็จแล้ว ชนกนันท์เดินออกมาหน้าร้านกับโสภิตา ตรงไปยังที่จอดรถไว้ ชนกนันท์ยังบ่นไม่เลิก
“อย่าว่าแต่สมบัติ พ่อฉันมันก็ต้องไม่ได้”
“นี่แปลว่าจะไปลุยเค้าอีกใช่ไหม”
ชนกนันท์เดินไปถึงรถ แล้วชะงัก เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคุ้นๆ หู ชนกนันท์เหลียวหันไปมอง ก็เห็นกลุ่มของเพชรแท้กำลังหัวเราะสนุกสนาน และนั่งกินเหล้ากันอยู่หน้าร้านฝั่งตรงข้าม
“อ้าว เพื่อน” โสภิตาไม่ทันเห็นเพชรแท้ “ถามยังไม่ตอบเลย นี่จะไปไหนต่อ”
ชนกนันท์ไม่ตอบ แววตาร้ายกาจผุดขึ้นมาในสีหน้า
“มีเรื่องต้องสะสางอีกนิดหน่อย...แยกกันตรงนี้เลยละกัน”
“ตามใจ ฉันไปนะ”
โสภิตาเดินเลยไปที่รถของตัวเอง
ชนกนันท์ยืนมอง เห็นเพชรแท้ลุกออกจากโต๊ะ โบกไม้โบกมือให้ก๊วนเพื่อน ก่อนจะเดินมาขึ้นมอเตอร์ไซค์ แล้วขับออกไป
ชนกนันท์รีบขึ้นรถ ขับตามไป

เพชรแท้ขับมอเตอร์ไซค์มาดีๆ อยู่ ๆ มอเตอร์ไซค์ก็เริ่มดับ จึงรีบโฉบเข้าข้างทาง พอจอดรถ เพชรแท้ลงมา ถอดหมวก แล้วก้มมองดูเครื่องยนต์ ส่ายหัว
ในที่สุดเพชรแท้พบสาเหตุที่ทำให้รถเสีย จึงเริ่มซ่อมรถ
ระหว่างที่เพชรแท้ซ่อมรถอยู่ ก็มีแสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามา เพชรแท้ไม่สนใจก้มหน้าซ่อมรถต่อ
ชนกนันท์ลงจากรถ พร้อมด้วยกระเป๋าถือ เดินตรงมาที่เพชรแท้
ขาเรียวงาม สะท้อนกับแสงไฟหน้ารถเห็นเป็นเงา เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เพชรแท้มองตะลึง พอเงยหน้าขึ้นจึงเห็นว่าเป็นชนกนันท์ ก็เลยเซ็ง
“รถเสียเรอะ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
เพชรแท้ซ่อมรถต่อ
ชนกนันท์เดินตามมา โน้มตัวลงเท้าแขนกับมอเตอร์ไซค์ ดูยั่วยวน
“ไม่แน่นะ บางทีฉันอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง”
เพชรแท้มองชนกนันท์ ที่ยิ้มโปรยเสน่ห์แล้วขมวดคิ้ว
“คุณน่ะเหรอ จะช่วยผม”
ชนกนันท์ยิ้ม ทำท่าอ่อย “ฉันรู้ ว่าฉันเคยทำให้เธอไม่พอใจ บางที...” ขยับเข้ามาใกล้ตัวเพชรแท้ กระซิบเสียงหวาน “ถ้าเธอให้โอกาสฉัน...”
เพชรแท้ชักเคลิ้ม ปล่อยให้ชนกนันท์โอบลูบไล้ไปตามแขน มือชนกนันท์ค่อยๆ เอื้อมไปถอดเสื้อตัวนอกของเพชรแท้ออก กระซิบเสียงเซ็กซี่
“ความจริงที่ตรงนี้ก็ค่อนข้างเปลี่ยว แล้วก็มืดด้วย ถ้าเราจะทำอะไร คงไม่มีใครผ่านมาเห็นหรอก”
เพชรแท้กำลังเคลิบเคลิ้ม นึกว่าชนกนันท์จะหลงตนจริงๆ แต่พอรู้สึกตัว ชนกนันท์ก็ถอดเสื้อไปถือไว้ แล้วถอยออกไป เพชรแท้เห็นนกเอาเสื้อไป ก็แปลกใจ
“คุณจะทำอะไรของคุณ”
ชนกนันท์หยิบไฟแช็กจากกระเป๋าถือขึ้นมาจุด จ่อไปที่เสื้อเพชร ไฟติดพรึ่บที่เสื้อแล้วโยนไปอีกทางหนึ่ง
เพชรแท้ตกใจ “คุณ...เฮ้ย!” รีบวิ่งไปหยิบเสื้อดับไฟ
ชนกนันท์รีบกลับไปที่รถขณะที่เพชรแท้ดับไฟที่เสื้อ
“เป็นไง สะใจไหม”
เพชรแท้เสียงดัง “คุณทำแบบนี้ทำไม”
“ก็ให้บทเรียนกับแกไง จำไว้นะ ข้อ 1 แกไม่ได้หล่ออย่างที่ตัวเองคิด ข้อ 2 ไม่มีใครทำฉันเจ็บใจแล้วรอดไปได้ และข้อ 3 ...” ชนกนันท์รีบขึ้นรถ
เพชรแท้เดินไปหาชนกนันท์ที่รถ
“รถยนต์แพง ๆ แข็งกว่ามอเตอร์ไซค์กระจอก ๆ ของแก”
“คุณจะทำอะไรน่ะ อย่านะ”
เพชรแท้พยายามวิ่งไปจะเอามอเตอร์ไซค์หลบ แต่ก็ไม่ทัน จึงได้แต่กระโดดหลบ
ชนกนันท์เร่งเครื่องเฉี่ยวมอเตอร์ไซค์เพชรแท้อย่างแรงจนรถล้มไป ชนกนันท์หยุดรถดูอยู่ ด้วยสีหน้าสะใจ
เพชรแท้วิ่งไปหา ชนกนันท์รีบเร่งเครื่องรถทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว

เพชรแท้ได้มองตามด้วยสายตาเคียดแค้นและอาฆาต
เวลาผ่านไป ค่ำคืนนั้น ชนะศึกขับรถมาส่งพิณทองที่หน้าปากซอย บนตักพิณทองยามนี้เหลือกล้วยไม้ต้นเดียว เพราะอีกต้นชนะศึกมอบให้ภรรยาฮิโตริไปแล้ว

“ขอบใจเธอมากนะ ดูท่าทางภรรยาคุณฮิโตริจะชอบกล้วยไม้ที่เธอเลือกมาก คราวนี้ถือว่าเป็นความดีความชอบเธอด้วย”
พิณทองยิ้มแย้มอย่างมีความสุข “ขอบคุณค่ะ”
“แน่ใจนะว่าไม่อยากให้เข้าไปส่งที่บ้าน”
“ส่งแค่นี้พอแล้วค่ะ ไม่อยากให้พี่เพชรถาม” ชนะศึกพยักหน้าเข้าใจ “พิณไปนะคะ”
พิณทองขยับจะลงจากรถ หอบกล้วยไม้ และปิ่นโตข้าวลงไปด้วย ชนะศึกดึงมือเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน”
พิณทองอึ้ง อายมาก หันมาถามเสียงเบา
“คะ”
ชนะศึกค่อยๆ โน้มตัวมาใกล้ พิณทองใจสั่นไปหมด คิดในใจเค้าจะจูบเราไหมนะ
“คุณทำนี่ตก”
ชนะศึกเก็บผ้าเช็ดหน้าที่ตกอยู่ข้างเบาะส่งให้ พิณทองเอื้อมมือมาจะรับ ชนะศึกชะงักมือไว้ แล้วเอามาเช็ดหน้าของมาหอมเบาๆ ตามองที่พิณทองตลอดเวลา
“หอมดีเนอะ”
พิณทองอายม้วน ดึงผ้าเช็ดหน้าไป แล้วรีบลงจากรถ ชนะศึกยิ้ม ร้องบอก
“หลับฝันดีนะ เด็กน้อย”
พิณทองลงจากรถ โบกมือให้ ชนะศึกออกรถไป
พิณทองมองตามไฟท้ายรถจนแสงสุดท้ายลับตา เอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแนบแก้ม แล้วจุ๊บเบาๆ นัยน์ตาฝันหวาน
“ฝันดีเช่นกันนะคะ คุณชนะศึก”
พิณทองเดินยิ้มเข้าบ้านไปพร้อมต้นกล้วยไม้และปิ่นโตข้าว

พิณทองหอบกล้วยไม้เดินเข้าบ้าน ฮัมเพลงมาด้วย ตาพราวฉ่ำด้วยความสุข พรรณีที่นั่งดักรออยู่ในความมืดเห็นอาการทั้งหมด รู้ทันทีว่าพิณทองกำลังอินเลิฟแน่นอน พรรณีมีสีหน้าหนักใจ
พิณทองเดินเข้ามาถึงด้านในบ้าน พรรณีออกมาดักไว้
“พิณ”
“แม่” พิณทองยิ้ม “มานั่งทำอะไรจ๊ะ มืดๆ”
พรรณีเสียงเครียด “แม่มารอพิณนั่นแหละ”
“มีอะไรหรือจ๊ะ” พิณทองเห็นพรรณี หัวแตกก็ตกใจ “แม่เป็นอะไรน่ะ ใครทำอะไร แม่”
“ก็เพราะเรานั่นแหละ” พิณทองยิ่งตกใจ “พิณรู้ไหม คนที่พิณกำลังคบอยู่น่ะ เขามีเมียแล้ว”
พิณทองตกใจที่แม่รู้ “อะไรนะ”
“เมียเขามาที่บ้านเราวันนี้ มาถามหาพิณ เขาบอกให้พิณเลิกยุ่งกับคนของเขาซะ”
พิณทองเถียง “ไม่จริง”
“อย่าโกหกแม่นะพิณ! พิณทำแบบนี้ แม่ก็เสียใจพออยู่แล้ว” ร้องไห้ออกมา “แม่ไม่คิดเลยว่าพิณจะคิดสั้นๆ แบบนี้ กะอีแค่ท่านเขาเอาเงินทองตำแหน่งมาล่อ พิณก็หลงเชื่อเขาหรือลูก”
“ท่าน! แม่ แม่นึกว่าพิณมีอะไรกับท่านหรือจ๊ะ”
“ก็วันนี้เมียกับลูกเขามาด่าประจานเราถึงที่บ้าน แม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
พิณทองโล่งอก “เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว แม่จ๋า เชื่อพิณซีจ๊ะ ท่านเป็นคนดี ท่านเมตตาพิณแบบผู้ใหญ่ที่เมตตาเด็กจริง ๆ ไม่ได้คิดอกุศลเลย”
“แม่ไม่เชื่อ สีหน้าท่าทางลูกก็บอกชัด ลูกไปกับเขามาใช่ไหม แล้วยังกล้วยไม้นี่อีก”
“ไม่ใช่จ้ะ แม่” พิณทองอายม้วน “พิณไม่ได้ไปกับท่าน”
พรรณีคาดคั้น “งั้นพิณไปกับใคร”
“พิณไปกับ” อ้ำอึ้งสักครู่ก่อนบอก “คุณชนะศึกจ้ะ”
พรรณีชะงัก “คุณชนะศึก”
“แม่เคยได้ยินชื่อไหมจ๊ะ คุณชนะศึก เลิศชัยวัฒน์ เขาเป็นลูกชายของท่าน เป็นเจ้านายอีกคนหนึ่งของพิณ”
พรรณีคราง “เลิศชัยวัฒน์!”
พิณทองยิ้ม “จ้ะ แม่”
พรรณีตะลึง พิณทองเขย่าแขนแม่
“แม่ เป็นอะไรไปคะ”
“พิณ พิณบอกแม่ซิ “ท่าน” ของพิณ ชื่ออะไร”
“ท่านชื่อธานินทร์จ้ะแม่ ธานินทร์ เลิศชัยวัฒน์ ประธานบริษัทเบสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์”
“ธานินทร์”
พรรณีอึ้ง นิ่งงันไป

พรรณีเดินเข้ามาในห้อง นั่งครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพิ่งได้ยิน
ภาพความหลังอันหวานชื่นในอดีต วันนั้นธานินทร์ประคองพรรณีนั่งลงบนเตียงนอน ทั้งสองคนมองหน้ากัน พรรณีค่อยๆ เอนตัวลงนอนบนเตียงโดยมีธานินทร์อยู่ข้างๆ เสียงเพลงแว่วหวานจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงโบราณกำลังเล่นเพลง ‘อาลัยรัก’
พรรณีดึงตัวเองกลับมารำพึง “ธานินทร์ ... ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินชื่อของคุณอีก”
พรรณีหยิบรูปที่หัวเตียงมาดู เป็นรูปของตัวเองกับเพชรแท้ และพิณทอง พรรณีเอาปลายนิ้วลูบไล้ไปที่รูป รำพึง
“ถ้าหากเราต้องเจอกันอีก ฉันจะทำอย่างไรดี”
เสียงเคาะประตูปังๆ พรรณีสะดุ้ง เพชรแท้เปิดประตูเข้ามา
“แม่ แม่เป็นอะไรหรือเปล่า” เดินเข้ามาเห็นแม่เป็นแผล ห่วงใย “เจ็บไหมแม่”
“ไม่จ้ะ” พรรณรีเห็นท่าทีของเพชรแท้ รีบกุมมือปลอบ “เพชรใจเย็นๆ นะ แม่ไม่เป็นอะไรจริงๆ”

เพชรแท้ฮึดฮัดแบบคนจะเอาเรื่อง
“เพชรจะไปบอกไอ้แก่หัวงู ให้มันเลิกยุ่งกับพิณ...เพชรจะไปจัดการมัน”
“ไม่ได้นะ เพชร อย่าไปยุ่งกับเขา แล้ว...อย่าไปพูดถึงเขาแบบนั้น”
“ทำไม มันวิเศษมาจากไหนแม่ถึงต้องไปกลัวมัน คนรวยมันตายไม่เป็นหรือไงแม่ คอยดูนะ มันทำแม่เจ็บ เพชรจะทำให้มันเจ็บเป็นสองเท่า”
“ไม่ได้! เพชร สัญญากับแม่นะ สัญญากับแม่ก่อน เพชรห้ามคิดทำอะไร “เขา” เป็นอันขาด”
เพชรแท้โมโห “ทำไม ทำไมทำอะไร “มัน” ไม่ได้”
พรรณีอึดอัดใจ “เพชรแม่บอกแล้วไง แม่ขอร้อง อย่าพูดถึงเขาแบบนั้น”
เพชรแท้ขัดใจ “แม่ มันทำเราเดือดร้อนนะ เพราะมัน เมียกับลูกมันถึงมาทำร้ายแม่ แล้วเราทำไมต้องไปเกรงใจมัน”
“แม่มีเหตุผลของแม่ก็แล้วกัน เพชรไม่ต้องรู้หรอก” พรรณีตัดบท ท่าทีจริงจัง “แต่เพชรต้องรับปากแม่ก่อน ว่าจะไม่ไปยุ่งกับเขา”
เพชรแท้แย้ง “แล้วถ้ามันมายุ่งกับเราอีกล่ะ แม่จะทำยังไง”

พรรณีนิ่งคิด ตัดสินใจเด็ดขาด เธอจะไม่ยอมเจอธานินทร์อีก
ภายในบ้านเลิศชัยวัฒน์ตอนเช้า ประตูลิฟต์ชั้นล่างเปิดออก ธานินทร์เดินออกมา แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นอังคณา ยืนอยู่ในชุดพร้อมจะออกจากบ้าน

“จะไปทำงานแล้วใช่ไหม” เดินมาหา “ไป ฉันไปด้วย”
ธานินทร์ชะงัก “คุณจะไปทำอะไร”
“ฉันจะไปไล่นังพิณทองออก”
ธานินทร์ฉุน ขึ้นเสียง “ไล่ทำไม...เขาทำอะไรผิด”

สองคนเปิดฉากทะเลาะกันไปมา
“ผิดอะไร...มันผิดตั้งแต่เข้ามาทำงานในบริษัทนี้วันแรกแล้ว มันมาเป็นเมียน้อยคุณ ผิดทั้งกฎหมาย ทั้งศีลธรรม คนแบบนี้จะจ้างไว้ได้ยังไง”
“บ้าแล้ว คุณเพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว ผมไม่มีอะไรกับเด็กคนนั้น”
“ถ้าไม่มีอะไรก็ต้องกล้าไล่มันออกซี แค่เสมียนกระจอกๆ ขาดมันแล้วบริษัทจะเจ๊งอย่างงั้นเหรอ”
“ไม่ ผมจะไม่ไล่เขาออก”
อังคณายอกย้อน “เพราะมันเป็นเมียน้อยของคุณใช่ไหม”
“นี่ พูดอะไรไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง”
“ไม่อาย ไอ้คนที่ทำชั่ว มันยังไม่อายเลย ทำไมฉันต้องอาย ก็ได้ ถ้าคุณไม่กล้าไล่มันออก ฉันไปไล่มันเอง”
ธานินทร์ดุ “อย่านะ อังคณา”
“ทำไม ฉันมีอำนาจ อยากไล่ใครออกก็ได้”
“คุณไม่มีอำนาจ อย่าลืมซีว่าผมเป็นประธานบริษัท และผมจะไม่ไล่ใครออกโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ ถ้าจะอยากทำ ก็ต้องเอาเสียงผู้ถือหุ้นครึ่งหนึ่งมาปลดผมออกจากตำแหน่งเสียก่อน”
“คุณท้าฉันเหรอ”
ไผมไม่ได้ท้า ถ้าคุณกล้าทำก็เอาเลย”
ระหว่างนั้น ศักดาหิ้วกระเป๋าเดินเข้ามาที่ประตู ธานินทร์หันไปบอกศักดา
“ศักดาเอารถไปเก็บ ไม่ไปไหนแล้ว” มองมาทางอังคณา พูดใส่หน้า “เบื่อ”
พูดแล้วธานินทร์ก็เดินกลับไปทางห้องทำงาน อังคณาทำอะไรไม่ถูก

ธานินทร์เปิดประตูเดินเข้ามาในห้องทำงาน เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะรู้สึกหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ธานินทร์ลุกขึ้น เดินไปที่นาฬิกาเรือนใหญ่ เปิดฝานาฬิกาออก หยิบกล่องใส่เสื้อออกมาเปิดกล่องออก แล้วหยิบเสื้อที่มีรอยปัก “รัก...พรรณี” ออกมา กอดเสื้อนั้นไว้กับอก
ธานินทร์พูดพร่ำกับเสื้อ “คุณรู้ไหม สิ่งเดียวที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ คือการคิดถึงความสุขที่เราเคยมีด้วยกัน”
ธานินทร์ดื่มด่ำกับความทรงจำในอดีตอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเก็บเสื้อเข้ากล่อง นำเอากล่องไปเก็บคืนไว้ในนาฬิกาตามเดิม

อ่านละคร บ่วงรัก ตอนที่ 4/3 วันที่ 3 พ.ย. 55

เค้าโครงเรื่อง : ทีมเอ็กแซ็กท์
บทโทรทัศน์ : กษิดินทร์ แสงวงษ์ , ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง : นิพนธ์ ผิวเณร
อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ
แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th