อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 6 วันที่ 11 ม.ค. 58
“อันนั้นน่าจะตัดไปได้เลยครับ ผมไม่เคยแย่งของใคร น้องๆเขาเต็มใจให้ทั้งนั้น”“แน่ใจเหรอวัน” การถามย้ำของศุภารมย์ทำให้อนันยชฉุกคิดไปถึงวรรณิต แต่ไม่แสดงพิรุธตอบด้วยน้ำเสียงปกติว่า “ครับแม่...แม่ก็รู้ว่าผู้หญิงพวกนั้นเคยมีปัญหาที่ไหน”
“เอาละครับ...เราได้ข้อมูลพอแล้ว ไว้เราอยากรู้อะไรเพิ่มจะติดต่อกลับมาใหม่ คุณทรงพลกับคุณต่ายไม่ต้องห่วงนะครับ ยังไงพวกเราต้องทำอย่างสุดความสามารถอยู่แล้วครับ งั้นพวกเราลานะครับ”
ลิลินมาเยี่ยมวิชนีที่โรงพยาบาลอีกครั้งในเช้าวันถัดมา แต่ศักดิ์สิทธิ์มาถึงก่อนและกำลังโดนวิชนีอาละวาดจนต้องวิ่งหนีออกจากห้อง ทั้งที่เขาเป็นห่วงและรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้เธอทั้งหมด ลิลินเห็นถึงความดีมีน้ำใจของศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งเชื่อมั่นว่าเขาไม่ใช่
ผู้บงการส่งคนมาทำร้ายวิชนีอย่างแน่นอน แต่เพราะวิชนีเป็นคนมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มั่นใจอะไรแล้วเปลี่ยนใจยาก คงต้องให้เวลาเธอสักหน่อย
“แล้วผมต้องให้เวลาเธออีกนานแค่ไหนเนี่ย” ศักดิ์สิทธิ์โอดครวญกับลิลิน แต่ไม่ทันลิลินจะพูดอะไรอีก ชายหนุ่มก็ต้องรีบกลับไปที่โรงแรมเพราะปกติโทร.บอกว่าเกิดเรื่องใหญ่แขกจะเช็กเอาต์หมดแล้ว เหตุผลคือพวกเขาไม่มั่นใจในความปลอดภัย
ศักดิ์สิทธิ์กลับมาเคลียร์ปัญหายืนยันว่าข่าวที่ออกไปเป็นเรื่องเข้าใจผิด และเพื่อแสดงความจริงใจตนจะลดค่าห้องให้ทุกคนห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่คราวนี้แขกไม่เชื่อ ไม่เหมือนคราวก่อนที่มีสัญญาณไฟไหม้ดังขึ้น ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่อให้พักฟรีก็ไม่เอา พวกเราจะเช็กเอาต์เดี๋ยวนี้
ศักดิ์สิทธิ์กลุ้มใจมาก ลิลินกลับมารับรู้ด้วยความเป็นห่วง รับปากเขาว่าคืนนี้ตนจะร้องเพลงให้เต็มที่เพื่อดึงลูกค้ามาเที่ยวผับคงไว้ซึ่งรายได้ในส่วนนี้ แต่แล้วโชคไม่เข้าข้างเจออันธพาลอย่างกฤษดามาเที่ยว กฤษดาถูกตาต้องใจลิลิน แต่เธอไม่เล่นด้วย ก็เลยมีปากเสียงกัน
ครู่หนึ่งก่อนที่กฤษดาจะถูกเธอตบหน้าไปหนึ่งฉาด
กฤษดาโกรธมากจะตบคืนลิลินแต่ทิวัตถ์โผล่มาคว้ามือเขาไว้ทัน ส่วนแขกอื่นๆแตกฮือหนีกลับหมด ศักดิ์สิทธิ์กลุ้มใจเป็นบ้าที่ที่มั่นแห่งสุดท้ายถูกตียับ แล้วขอร้องให้กฤษดาพาพวกกลับไป กฤษดาได้ทียื่นข้อเสนอว่าตนจะกลับก็ต่อเมื่อทิวัตถ์ต้องกราบเท้าอ้อนวอน หรือไม่ก็ต้องให้ลิลินไปกับตน
ศักดิ์สิทธิ์ไม่ยอมทั้งสองอย่าง กฤษดายิ่งโมโหเข้าไปกระชากแขนลิลินจะเอาตัวไปให้ได้ เลยโดนทิวัตถ์ชกหน้าหงายก่อนจะยอมถอยออกไปพร้อมคำขู่อาฆาตด้วยความแค้นว่า
“พวกแกเตรียมตัวตายได้เลย”
ลิลินรู้สึกประทับใจทิวัตถ์ขึ้นมาแต่พอเขาพูดจาจิกกัด เธอก็อดต่อปากต่อคำไม่ได้ ศักดิ์สิทธิ์เห็นอาการของสองคนให้อดคิดไม่ได้ว่าเหมือนลิ้นกับฟันถ้าเป็นแฟนกันคงมีลูกหัวปีท้ายปี
หลังจากลิลินแยกไปแล้ว ศักดิ์สิทธิ์ถามเพื่อนรักตรงๆว่าเขากับลิลินโกรธกันเรื่องอะไร ทำไมเจอหน้ากันถึงต้องกัดกันตลอดเวลา
“แกอย่ารู้เลย ฉันว่าแกเอาเวลาไปคิดวิธีรับมือไอ้กฤษดาดีกว่า ระวังตัวไว้เถอะ ฉันว่ามันไม่หยุดแค่นี้แน่”
“แล้วไงวะ กลัวที่ไหน ถ้ามันกลับมาอีก ฉันจะจัดการมันด้วยมือฉันเองเลย” ศักดิ์สิทธิ์วางท่าท้าทายไม่เกรงกลัว ต่างจากทิวัตถ์ที่นิ่งไปอย่างเป็นกังวล
ooooooo
กฤษดาเจ็บแค้นใจเป็นที่สุด กลับเข้าบ้านตอนเช้าในสภาพเบ้าตาฟกช้ำเพราะถูกทิวัตถ์ชก พ่อกับน้องสาวเห็นเข้าก็ซักไซ้เป็นการใหญ่จนรู้เรื่อง
เสี่ยหาญหัวเสียที่ลูกชายโดนเล่นงาน ตบหน้าเขาไปทีแล้วย้ำว่ามีเรื่องพ่อไม่ว่า แต่ถ้าจะเจ็บตัวอีกฝ่ายต้องเจ็บยิ่งกว่า...กฤษดาหน้าจ๋อยรีบขอโทษพ่อ แต่สิตาท้วงเสียงหลงว่าเขาคนนั้นคือทิวัตถ์
“แล้วทำไม จะเป็นใครฉันก็ไม่สน”
“พ่อ! ถ้าพ่อคิดจะทำอะไรวินล่ะก็ ตาไม่ยอมแน่” สิตากระแทกเสียงแล้วผละไป
เสี่ยหาญจ้องหน้าลูกชาย สำทับว่าทีหลังอย่าทำให้ตนเสียชื่ออีก นั่นยิ่งทำให้กฤษดาโกรธแค้นทิวัตถ์หลายเท่าทวีคูณ!
โรงแรมศักดิ์สิทธิ์มีสิทธิ์เจ๊งแน่ถ้าไม่มีแขกเหลืออยู่เลย แต่แล้วรุ่งขึ้นปกติแจ้งข่าวดีว่าคืนนี้จะมีทัวร์จีนมาลง จองไว้ครึ่งเดือนด้วย
“ให้มันได้อย่างนี้สิ...จริงสิ...เรายังมีลูกค้าทัวร์ ทุกคนฟัง ตอนนี้ความหวังเดียวของเราคือกลุ่มลูกค้าทัวร์ที่จองเอาไว้ พยายามคอนเฟิร์มให้ได้มากที่สุด ส่วนฝ่ายการเงินคำนวณดูซิว่าจากลูกค้าทัวร์ที่เรามีอยู่จะมีรายได้เข้าถึงเมื่อไหร่”
พนักงานผู้เกี่ยวข้องจดบันทึกตามคำสั่งของศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ทันไรปกติก็แผดเสียงดังลั่นหลังจากรับโทรศัพท์แล้วรู้ว่าลูกค้าทัวร์ก็จะไม่เหลือเพราะมีคนแกล้งปล่อยข่าวเรื่องความปลอดภัยของโรงแรม ตอนนี้ทางเอเย่นต์โทร.มายกเลิกทัวร์หลายเจ้า...ศักดิ์สิทธิ์ฟังแล้วแทบเป็นลม
ooooooo
วาสนาตัดสินใจยอมให้วรรณิตแต่งงานกับอนันยชลูกเลี้ยงของทรงพล ทั้งที่ใจจริงอยากได้ทิวัตถ์ลูกในไส้ของทรงพลเป็นหลานเขยมากกว่า...
เมื่ออนันยชนำข่าวดีนี้มาบอกทิวัตถ์แต่ยังไม่ยอมเผยชื่อว่าที่เจ้าสาว จะบอกให้รู้พร้อมกันเย็นนี้ที่บ้าน ทิวัตถ์แปลกใจมากและทำท่าจะโทร.หาศักดิ์สิทธิ์หลังจากอนันยชคล้อยหลัง เผื่อเพื่อนรักจะรู้ระแคะระคายเรื่องนี้บ้างในฐานะเพื่อนสนิทของอนันยชด้วยเหมือนกัน
ปรากฏว่าไม่ทันได้ถาม ศักดิ์สิทธิ์ชิงระบายความทุกข์ของตนมาเสียก่อน...ทิวัตถ์มั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือกฤษดาแกล้งปล่อยข่าวทำลายชื่อเสียงโรงแรม
“ร้อยเปอร์เซ็นต์...ฉันว่ามันต้องเสียหน้าที่โดนแกจัดการแน่ๆ ไอ้วิน...แกต้องช่วยฉันนะ ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว”
ได้ยินเสียงเพื่อนโอดครวญซะขนาดนั้น ทิวัตถ์สงสารจับใจ คิดอ่านเร็วจี๋เพื่อช่วยเพื่อน...จากนั้นไม่นานศักดิ์สิทธิ์จึงโทร.หาลิลิน
“อีเวนต์งานแต่งงานเหรอคะ” ลิลินทวนคำงงๆ
“ใช่ครับ...ตอนนี้โซนภาคตะวันออกยังไม่มีโรงแรมไหนที่รับจัดอีเวนต์งานแต่งโดยเฉพาะ ถ้าเราทำก็อาจจะได้กลุ่มเป้าหมายที่อยู่โซนนี้ที่ไม่ต้องการไปถึงกรุงเทพฯ ผมก็เลยคิดว่าถ้าเราทำเป็นเจ้าแรก บางทีอาจจะกอบกู้สถานการณ์ของโรงแรมตอนนี้ได้น่ะครับ”
“อืม...ก็ดีนะคะ แต่ลินยังไม่เข้าใจว่าเกี่ยวอะไรกับลิน”
“คือตอนนี้ผมติดต่อพระเอกช่อง 7 มาถ่ายแบบแล้ว แต่ติดนิดเดียวคืองบทั้งหมดเราใช้เป็นค่าตัวเขากับทีมงานที่จะมาแล้วน่ะครับ...ก็เลย...เอ่อ...จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะรบกวนคุณลินให้ช่วยอะไรผมหน่อย”
“ได้สิคะ”
“จริงนะครับ”
“ค่ะ...ลินพร้อมช่วยทุกอย่างเท่าที่ทำได้ แล้วจะเริ่มถ่ายเมื่อไหร่คะ”
“พรุ่งนี้ครับ” ตอบแล้วศักดิ์สิทธิ์แย้มยิ้มอย่างดีใจ
หลังฟังรายละเอียดจากศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้วลิลินเข้าไปเยี่ยมวิชนีที่ยังพักฟื้นอยู่โรงพยาบาล พอรู้ว่าลิลินจะไปเป็นนางแบบถ่ายงานโปรโมตโรงแรมให้ศักดิ์สิทธิ์ วิชนีทำท่าจะคัดค้านเพราะยังเคืองเขาไม่หาย แต่ลิลินให้เหตุผลที่ค้านไม่ได้ว่าเขาดีกับตนมาก ตนอยากตอบแทนเขาบ้างเท่าที่ทำได้ ส่วนเรื่องคดีของเธอ ตำรวจบอกว่าเป็นการลักทรัพย์ธรรมดา ดังนั้นศักดิ์สิทธิ์คงจะหลุดจากข้อหาจ้างคนมาทำร้ายเธอแล้วใช่ไหม
“ใครบอก อย่างนี้มันน่าสงสัยยิ่งกว่าเก่าต่างหาก ทั้งๆที่ไม่มีของหายแต่ดันบอกว่าลักทรัพย์ นายนั่นต้องไปใช้อิทธิพลกับตำรวจแน่ๆ”
“ใช้อิทธิพลเหรอ” ลิลินทวนคำแล้วนิ่งไป...คำพูดของวิชนีมีเหตุผลเหมือนกัน
ooooooo
วันเดียวกัน สิตาไปพบศุภารมย์ที่บ้านอีกครั้ง หลังจากเคยมาเสี้ยมให้เธอไปจัดการลิลินนักร้องคนสวยประจำผับของศักดิ์สิทธิ์
คราวนี้เธอมาใส่ไฟเรื่องทิวัตถ์มีเรื่องชกต่อยกับกฤษดาพี่ชายเธอเพราะแย่งนักร้องสาว หล่อนเป็นตัวการให้เกิดศึกชิงนาง แต่ศุภารมย์ไม่หลงกล ทักท้วงก่อนจะศอกกลับจนสิตาหน้าม้านไป
“ขอบคุณที่หวังดี แต่เท่าที่ฉันฟังเรื่องวุ่นวายน่าจะมาจากพี่ชายเธอมากกว่า ใครๆก็รู้ว่ากฤษดาน่ะนิสัยเป็นยังไง แล้วฉันก็มั่นใจว่าที่วินมีเรื่องกับพี่ชายเธอเพราะเขาต้องการปกป้องคุณลินจากพี่ชายเธอ”
สิตาโกรธที่ศุภารมย์เข้าข้างลิลิน ลุกพรวดขึ้นเอ่ยเสียงกระด้าง “งั้นก็ตามใจค่ะ ต่อไปถ้าวินเกิดจมปลักกับนังนั่น คุณอาจะมาโทษตาไม่ได้นะคะ”
“จะพูดอะไรก็ระวังคำพูดหน่อยนะ เพราะปลักเขาไว้ใช้กับควาย แต่ฉันคงไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรหรอก... วินเขาเป็นคนฉลาด เจ็บแล้วจำ ไม่อย่างนั้นคงไม่เลิกกับเธอหรอก”
สิตาโกรธจนแทบจะกรี๊ด ศุภารมย์รู้แกวรีบดักคอว่า
“ถ้าอยากจะกรี๊ด...ช่วยออกไปข้างนอก ที่นี่ต้องการความสงบ”
สิตากำหมัดแน่นเดินกระทืบเท้าปึงปังออกไป ศุภารมย์มองตามพลางคิดเรื่องทิวัตถ์กับลิลิน สองคนนี้รู้จักกันในฐานะอะไรแน่
ตกเย็น อนันยชบอกข่าวดีของตนให้ทุกคนฟังในโต๊ะอาหาร เมื่อแรกที่ยังไม่ได้ยินชื่อว่าที่เจ้าสาวทุกคนแสดงความยินดีที่เขาจะเป็นฝั่งเป็นฝา แต่พอรู้ว่าเธอคือวรรณิตหลานของวาสนา ทรงพลกับศุภารมย์ถึงกับหน้าถอดสี
“ผู้หญิงมีตั้งเยอะทำไมต้องไปคว้าเอาหลานป้าน้อยด้วย” ทรงพลถามเสียงเครียด
“แล้วทำไมจะเป็นเธอไม่ได้ครับ”
“วัน...ขอโทษคุณน้าเดี๋ยวนี้”
“ทำไมครับแม่ ผมแค่ต้องการบอกให้ทุกคนรับรู้ ไม่ได้มาขออนุญาต”
อนันยชพูดจบก็ลุกจากเก้าอี้เดินออกไปทันที ศุภารมย์ร้องเรียกแต่เขาไม่ฟัง จึงบอกทรงพลว่าตนขอตัวสักครู่
เธอเดินตามลูกชายไปถึงหน้าห้อง เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “วันจะแต่งกับใครแม่ไม่ว่า แต่ทำไมต้องเป็นเธอ”
“เพราะผมรักเธอไงครับ ผมโตแล้วนะแม่ โตพอจะเลือกอะไรเองได้แล้ว”
“ก็เพราะว่าโตพอที่จะเลือกเองแล้วไม่ใช่เหรอ ถึงจะเอาผู้หญิงอย่างนั้นเข้ามาในบ้าน”
“ตั้งแต่ผมเป็นเด็ก...แม่ก็คอยแต่กำหนดชีวิตผมมาตลอด ต่อไปนี้ผมจะกำหนดชีวิตของตัวผมเอง”
“ได้...ถ้างั้นแม่ขอถามอย่างนึง ทำไมลูกถึงอยากแต่งงานกับวรรณิต...ถ้าตอบไม่ได้ งั้นแม่จะตอบให้...เพราะเธอหน้าเหมือนน้าต้อยใช่ไหม”
“ใช่...เพราะณิตหน้าเหมือนน้าต้อยแล้วแม่จะทำไม”
“วันทำอย่างนี้แล้วคุณน้าจะคิดยังไง...กลัวน้าเขาไม่รู้หรือไงว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น ก่อนที่น้าต้อยจะตาย”
“ผมไม่สน...ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมเสียน้าต้อยไปอีก” อนันยชประกาศกร้าวแล้วผลุนผลันออกไป ศุภารมย์หนักใจขึ้นมาทันที
ทิวัตถ์ทราบดีว่าทรงพลกับศุภารมย์ห่วงความรู้สึกของตน เพราะวรรณิตหน้าเหมือนศุภิสราหรือแม่ต้อยของเขาราวกับคนเดียว กลัวเรื่องในอดีตจะกลับมาทำให้เขามีปัญหาสุขภาพอีก จึงบอกทั้งคู่หลังกินอาหารมื้อนั้นว่า
“ผมเข้าใจนะครับว่าคุณพ่อกับแม่ต่ายเป็นห่วงผม แต่ผมกลับมองว่าทำไมเราไม่ลองมองคุณวรรณิตเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง ถ้าคุณพ่อบอกว่าไม่คิดอะไรแล้ว ผมว่าช่วงนี้มันคือช่วงเวลาที่ครอบครัวเรากำลังจะมีความสุขกันนะครับ...ครอบครัวเรามีความสุขมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ พ่อกับแม่ต่ายไม่ต้องเป็นห่วงครับ เดี๋ยวผมคุยกับวันให้เอง”
ทิวัตถ์ทำอย่างที่พูดจริงๆ เข้ามาคุยกับอนันยชตามลำพัง แสดงความดีใจถ้าพี่ชายรักวรรณิตจริง ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ
“นายไม่รู้สึกอะไรเหรอ” อนันยชย้อนถาม
“ถ้านายแต่งกับคุณวรรณิตแล้วคิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ทำให้นายมีความสุขได้ แล้วทำไมฉันจะไม่ยินดีกับนายล่ะ”
“ขอบใจมากนะวินที่เข้าใจฉัน” อนันยชตบไหล่ทิวัตถ์เบาๆ สัมผัสได้ว่าเขาพูดออกมาจากใจจริง
ooooooo
วันรุ่งขึ้น ลิลินพาวิชนีเดินทางไปกับคณะของศักดิ์สิทธิ์ที่จะไปถ่ายแบบโปรโมตโรงแรมนอกสถานที่ด้วยเหตุผลสองอย่างคือความปลอดภัยของวิชนีที่เพิ่งโดนทำร้าย กับอีกอย่างคือศักดิ์สิทธิ์จะได้ถือโอกาสนี้ปรับความเข้าใจกับเธอ
ในเวลาเดียวกัน กฤษดาที่เป็นคนจ้างวานวีระนักข่าวประจำจังหวัดที่เป็นเพื่อนสนิทกันปล่อยข่าวสร้างความเสียหายให้โรงแรมของศักดิ์สิทธิ์ กำลังยิ้มร่าสาสมใจ แต่พอเสี่ยหาญผู้พ่อเดินมาทัก ทั้งกฤษดาและวีระก็ทำเป็นเงียบไม่อยากให้รู้ แต่ยังไม่วายโดนเสี่ยหาญดักคอว่า
“ฉันเห็นแกสองคนคุยกันทีไรมีแต่เรื่องวุ่นวายมาให้ฉันทุกที ฉันไม่รู้ว่าพวกแกจะทำอะไรนะ แต่อย่าให้ฉันเดือดร้อน”
วีระหน้าเจื่อน แล้วพูดกับกฤษดาอย่างขลาดๆ หลังจากเสี่ยหาญเดินคล้อยหลังไปว่า
“ไอ้กฤษ...เสี่ยแกพูดขนาดนี้ฉันว่าเราพักเรื่องที่จะเล่นงานบริษัทไอ้วินไว้ก่อนดีมั้ย”
“นี่แกคิดว่าฉันคุ้มหัวแกไม่ได้หรือไง”
“ฉันพูดจริงๆนะเว้ย เพราะทางคุณทรงพลเองก็มีเส้นสายไม่ใช่น้อย ขืนทำอะไรประเจิดประเจ้อมีหวังฉันได้เดือดร้อนแน่”
“แล้วแต่!” กฤษดาน้ำเสียงหงุดหงิดแล้วคิดแผนร้ายขึ้นมาได้ “ก็ดี เพราะฉันมีวิธีที่สะใจกว่ากันเยอะ”
กฤษดาสืบเสาะจนทราบว่าทิวัตถ์ตามไปช่วยงานศักดิ์สิทธิ์ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง จึงติดตามไปเพื่อแก้แค้นทิวัตถ์ที่ชกหน้าตนเมื่อหลายวันก่อน ตั้งใจจะฝังเขาไว้ที่รีสอร์ตนั้น แต่ปรากฏว่าผิดแผนนิดหน่อยเพราะสิตาตามมาหึงหวงทิวัตถ์ เธอหมั่นไส้ลิลินที่ได้เป็นนางแบบในชุดเจ้าสาวคู่กับเขาที่จับพลัดจับผลูต้องมาแต่งชุดเจ้าบ่าวแทนพระเอกช่อง 7 ที่ศักดิ์สิทธิ์ว่าจ้างไว้ แต่เขาประสบอุบัติเหตุมาไม่ได้
แรกๆสิตาก็ข่มใจไม่วีนเหวี่ยง แต่พอรู้เห็นว่าบ่าวสาวต้องมีการกอดจูบกันด้วยเพื่อความสมจริงนำไปใช้โปรโมตโรงแรมของศักดิ์สิทธิ์ เธอก็ทนไม่ไหว เต้นผางเหมือนองค์ลง ไม่ยอมให้มีการถ่ายทำอีกต่อไป
กฤษดาลอบสังเกตความวุ่นวายนั้นอย่างหัวเสีย แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ถอดใจที่จะฆ่าทิวัตถ์ บอกลูกน้องที่มาด้วยกันว่าเปลี่ยนเป็นลงมือคืนนี้แทน
ooooooo
คิดแล้วคิดอีก ศุภารมย์ไม่ยอมให้อนันยชแต่งงานกับวรรณิต เธอไปพบวาสนาถึงบ้าน ยื่นข้อเสนอให้เงินห้าแสนบาทแล้วต่างคนต่างไป วาสนาอยากได้ แต่ก็ฉลาดพอที่จะโก่งค่าตัวเพิ่ม
“นี่แสดงว่าพ่อวันไม่ได้เล่าเรื่องที่เขาทำบัดสีไว้กับยัยณิตใช่ไหม”
ศุภารมย์ได้ฟังถึงกับอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึง
“เงินห้าแสนน่ะแม่ต่ายไม่ต้องเอามาให้ฉันหรอก ฉันเองก็มีศักดิ์ศรี ยัยณิตเองก็เหมือนกัน อันที่จริงฉันจะไปแจ้งความข้อหาข่มขืนก็ได้”
“แล้วป้าต้องการเท่าไหร่คะ”
วาสนาเป็นฝ่ายอึ้งไปบ้าง ครุ่นคิดว่าจะเรียกเงินเท่าไหร่ดี...แล้วพอศุภารมย์กลับไป วาสนายิ้มกริ่มอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า แต่วรรณิตไม่อยากให้เรื่องบานปลายจึงขอให้ยายยอมทำตามข้อเสนอของศุภารมย์
“เรื่องอะไรล่ะ ในเมื่อเหยื่อติดเบ็ด ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแน่”
“ไม่ดีเลยค่ะยาย...ณิตไม่สบายใจ ยายทำตามข้อตกลงที่คุณต่ายเธอเสนอเถอะค่ะ”
“ย่ะยัยแม่พระ นี่ฉันเป็นยายของหล่อน ฉันสั่งอะไรหล่อนก็ต้องทำ”
“แต่ณิตไม่อยากแต่งงานกับคุณวัน”
ทันใดนั้นอนันยชปรากฏตัว ถามยายหลานว่ากำลังพูดถึงตนอยู่หรือเปล่า
“คุณวัน!” วรรณิตอุทานแล้วรีบหลบไปอยู่ข้างหลังวาสนา
“จะเรื่องอะไรซะอีกล่ะพ่อตัวดี...มาก็ดีแล้ว...รู้มั้ยเมื่อกี้แม่ต่ายเพิ่งมาหาฉัน”
“ว่าไงนะ” อนันยชตกใจ ไม่คิดว่าศุภารมย์จะมาจัดการด้วยตัวเอง
ทางด้านกฤษดา...นอกจากจะวางแผนกำจัดทิวัตถ์ในคืนนี้แล้วเขายังรอบคอบโทร.รายงานพ่อเพื่อให้ตามตัวสิตากลับไป เพื่อที่ตัวเองจะได้ทำงานอย่างราบรื่น สิตาหงุดหงิดที่โดนพ่อบังคับให้กลับบ้านเพราะไม่พอใจที่ลูกสาวเที่ยววิ่งตามผู้ชาย ก็เลยสวนพ่อไปว่าตนไม่กลับ แล้วถามพ่อรู้ได้ยังไงว่าตนตามมาหาทิวัตถ์
“ฉันจะรู้ได้ยังไงแกไม่ต้องสน ฉันบอกให้กลับบ้าน หรือว่าอยากให้ฉันไปหา”
สิตาขัดใจแต่ไม่กล้าหือกับพ่อ ตอบรับเสียงแข็งแล้ววางสายก่อนเดินไปบอกลาทิวัตถ์...ยังความโล่งอกโล่งใจให้ศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวป่วนกลับไปได้เสียที กองถ่ายก็ได้ทำงานต่อ ทิวัตถ์กับลิลินอยู่ในชุดบ่าวสาวถ่ายแบบคู่กันตามความต้องการของทีมงาน ทุกคนชื่นชมทั้งคู่เหมาะสมกัน แม้แต่ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังเห็นดีเห็นงาม และอดคิดไม่ได้ด้วยว่าทิวัตถ์อาจจะมีเคลิ้มบ้างเหมือนกัน ถึงได้มีท่าทีแปลกๆพิกล
ooooooo
อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 6 วันที่ 11 ม.ค. 58
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทโทรทัศน์ : อภิวัฒน์ เล่าสกุล
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง กำกับการแสดง : ตรัยยุทธ กิ่งภากรณ์
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ผลิต : บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ควบคุมการผลิต : ชวลิต พงศ์ไชยยง
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง7 และ 7HD
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง เริ้มออกอากาศตอนแรกในวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
ที่มา ไทยรัฐ