อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 8 วันที่ 14 ม.ค. 58

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 8 วันที่ 14 ม.ค. 58

ศุภารมย์เชิญศัลย์มาคุยกับทรงพลที่บ้านด้วยเรื่องทิวัตถ์ถูกลอบทำร้ายที่รีสอร์ต พออนันยชเข้ามาเห็นศัลย์กำลังจะกลับ รู้ว่าทิวัตถ์โดนทำร้ายก็ตกใจและยอมทำตามคำขอของทรงพลที่ต้องการให้เขาเลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อน

ทิวัตถ์ยังอยู่โรงพยาบาล แม้อาการดีขึ้นเกือบปกติแต่พ่อแม่ยังไม่วางใจ อยากรอเช็กให้ชัวร์ก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน ระหว่างนี้ลิลินก็ยังพักฟื้นอยู่ที่เดียวกัน ทิวัตถ์แอบเห็นวิทยามาเยี่ยมเธอก็รู้สึกไม่พอใจเล็กๆ เริ่มพูดจามะนาวไม่มีน้ำกับเธออีกเหมือนเดิม ทั้งที่ตอนหลงอยู่ในป่าด้วยกัน เขาและเธอห่วงใยกันและกันไม่น้อยเลย



เย็นนั้น สิตามาเยี่ยมทิวัตถ์และซักถามเรื่องที่เขา หลงป่ากับลิลินด้วยความหึงหวง โดยไม่รู้ว่าคนที่โดนพาดพิงหลบอยู่ตรงระเบียงห้อง เพราะเธอเข้ามาคุยกับทิวัตถ์ก่อนหน้านี้อยู่ครู่หนึ่ง

โชคดีถึงเวลาพยาบาลมาขอล้างแผลให้ทิวัตถ์ สิตาเลยต้องออกไปรอนอกห้อง แต่เธอไม่ได้ปักหลักรอ หากแต่ตั้งใจไปหาลิลินอีกห้องแล้วไม่พบ จึงนั่งรออย่างใจเย็น อีกครู่ลิลินกลับมาเจอก็อึ้งไปอย่างนึกไม่ถึง

“มาแล้วเหรอ ไปไหนมา” สิตาถามเสียงแข็ง

“ฉันน่าจะเป็นฝ่ายถามคุณมากกว่าว่ามาทำไม”

“ดี...ในเมื่อถามตรงๆ ฉันก็จะบอกเธอตรงๆเหมือนกัน...ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นในป่านั่นบ้าง แต่ถ้าเธอมีความรู้สึกอะไรขึ้นมากับวิน ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะวินเป็นของฉันคนเดียว”

“คุณจะคิดอะไรก็เชิญ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ฉันกับคุณวินแต่ก่อนเคยเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น”

“ดี...ฉันจะจำคำเธอเอาไว้ เพราะถ้าเมื่อไหร่เธอ คิดแย่งวินจากฉันขึ้นมาล่ะก็...คนของฉันคงไม่ซ้อมผิดคนเหมือนคราวที่แล้วแน่” สิตายิ้มเยาะก่อนเดินออกจากห้องไป ลิลินได้คำตอบทันทีว่าวิชนีรับเคราะห์แทนตนจริงๆ

ด้านกฤษดาพี่ชายของสิตากำลังหัวเสียหลังทราบข่าวจากวีระนักข่าวประจำจังหวัดว่าทิวัตถ์ยังไม่ตาย บ่นอย่างเคียดแค้นว่าทำไมมันถึงหนังเหนียวอย่างนี้ วีระเตือนเขาให้ระวังทรงพลกับศุภารมย์ สองผัวเมียต้องไม่อยู่เฉยแน่ แต่กฤษดาก็ยังกร่างไม่เลิกคิดว่าบารมีพ่อคุ้มหัวได้ บอกว่าอย่างมากก็แค่รบกัน ดีเหมือนกันจะได้รู้ว่าจังหวัดนี้จะเป็นของใคร

วรรณิตหน้าตาเหมือนศุภิสราน้องสาวศุภารมย์ก็เพราะวาสนาพาไปศัลยกรรม อนันยชไม่ได้แปลกใจสงสัยอะไร คิดอย่างเดียวว่าอยากแต่งงานกับเธอให้เร็วที่สุด ระหว่างที่รอเวลาก็พาเธอไปเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวเลียนแบบเหมือนศุภิสรายิ่งขึ้นไปอีกด้วยเสื้อผ้าหรูหราราคาแพง เป็นที่ถูกอกถูกใจจอมงกอย่างวาสนา

ขณะเดินช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอยงยุทธแฟนเก่าของวรรณิต...สองยายหลานจำยงยุทธได้ วาสนารีบเดินหลบไปก่อนที่จะเผชิญหน้า แต่วรรณิตหลบไม่ทัน ยืนปากคอสั่นอยู่กับอนันยชที่ทำท่าจะมีเรื่องชกต่อยกับยงยุทธหลังจากเดินชนกันอย่างไม่ตั้งใจ

เพราะศัลยกรรมทำให้ยงยุทธจำวรรณิตไม่ได้ แต่เห็นหลังวาสนาไวๆ จึงก้าวตามไปคว้าตัวเธอไว้ คาดคั้นว่าเอาปรางไปอยู่ที่ไหน

“อะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง” วาสนาปากแข็ง

“ไม่รู้เรื่องได้ยังไง...ก็มีคนบอกว่าแกพามันไป หรือว่าต้องเจ็บตัวก่อนถึงจะยอมบอก”

“ทำไมไอ้ยุทธ...แกจะทำอะไรฉัน ฉันจะบอกให้นะ ที่ยัยปรางมันหนีไปจากแกไม่ใช่เพราะฉัน แต่เป็นเพราะแก...ใครจะไปทนอยู่ในขุมนรกกับคนชั่วๆอย่างแก”

“คำก็ชั่วสองคำก็ชั่ว คิดว่าตัวเองวิเศษมาจากไหน ฮึ”

ยงยุทธกระชากแขนวาสนา...วาสนากระชากกลับแล้วพยายามจบเรื่องโดยการหยิบเงินก้อนหนึ่งออกมา

“ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องที่แกมาหาเรื่องฉัน...แกจะไปไหนก็ไป แล้วก็ไม่ต้องมาถามฉันอีกว่ายัยปรางอยู่ไหน”

ยงยุทธตาวาวยอมรับเงินไปโดยดี วาสนาชิ่งหนีทันทีเลย ส่วนอนันยชยังสงสัยไม่หาย ทำไมวรรณิตถึงได้ตกใจมากนักแต่ไม่ทันจะซักถาม วาสนาก็แทรกเข้ามาพูดจากลบเกลื่อนแล้วชวนไปดูของสวยๆงามๆ ต่อด้วยหาอาหารอร่อยๆกินกัน...

อยู่โรงพยาบาลหลายวัน ลิลินเริ่มเบื่ออาหารจืดๆ ทิวัตถ์มาได้ยินเธอพูดกับพยาบาลจึงแอบโทร.หาคฑาวุธลูกน้องคนสนิทให้จัดส้มตำไก่ย่างมา แต่ช้ากว่าวิทยาอย่างน่าเสียดาย ชายหนุ่มซื้ออาหารอย่างเดียวกันมาให้ลิลิน กินไปคุยกันไปอย่างสนิทสนม ทิวัตถ์เห็นแล้วใจแป้วเดินกลับไปที่ห้องตัวเองและพบว่าศุภารมย์กับศัลย์มารออยู่

ศุภารมย์แวะไปเยี่ยมลิลิน เจอวิทยาหลานของบุญช่วยอยู่ด้วย เธอมองเขาอย่างครุ่นคิดก่อนจะรักษามารยาทขอตัวก่อน เพราะลิลินมีแขก แต่วิทยาชิงบอกไม่เป็นไร ตนกำลังจะกลับพอดี

เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องคนไข้ ศุภารมย์เปิดฉากซักถามลิลินว่า

“ฉันอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายวิน เพราะฉะนั้น ถ้าจะมีคนมาถามอะไรเธอนิดหน่อย หวังว่าเธอคงไม่ขัดข้องนะ”

“ใครเหรอคะ”

สิ้นคำถามนั้น ศัลย์เปิดประตูเข้ามา ลิลินตกใจ แต่ควบคุมสติไว้ ต่างคนต่างมองตากันอย่างหยั่งเชิง

“นี่รองศัลย์จะมาเป็นคนทำคดีนี้...ไม่ต้องห่วง...รองศัลย์เป็นตำรวจที่ฉันไว้ใจที่สุด...ฝากด้วยนะ”

ศัลย์รับคำ...ศุภารมย์ใช้สายตากำชับเขาก่อนจะเดินออกจากห้อง ศัลย์หน้านิ่ง ทักลิลินว่า

“พบกันอีกแล้วนะครับ”

“เราเคยเจอกันเหรอคะ”

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน จังหวัดนี้มันเป็นจังหวัดเล็กๆ เราอาจจะเคยเห็นหน้าค่าตากันแล้วก็ได้”

“ไม่หรอกค่ะ เพราะฉันเป็นคนความจำดี ถ้าเคยได้เจอกับใครแล้วรับรองว่าไม่มีทางลืม”

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงจำคนที่ทำร้ายคุณกับคุณวินได้”

“ไม่ค่ะ คนร้ายใส่ไอ้โม่งปิดหน้า แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก”

“คุณเคยมีเรื่องกับใครหรือเปล่า”

“ทำไมเหรอคะ”

“เผื่อบางทีคนร้ายพวกนั้นอาจจะไม่ได้ต้องการมาทำร้ายคุณวินก็ได้”

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็บอกได้เลยว่าไม่มีค่ะ ตกลงคุณตำรวจมาถามข้อมูลหรือมาสอบสวนฉันกันแน่คะ”

“ผมก็ต้องสอบให้ละเอียดเพราะทุกอย่างเป็นประโยชน์กับรูปคดี ใครจะไปรู้ว่าบางทีคนที่เราคิดว่าไม่มีพิษไม่มีภัย...บางทีอาจจะเป็นงูพิษดีๆนี่เอง”

“งูฉันไม่ค่อยกลัว แต่กลัวคนมากกว่า ยิ่งคนที่ฉากหน้าขาวสะอาดเท่าไหร่ ข้างหลังก็ยิ่งดำสกปรกเท่านั้น” พูดแล้วลิลินจ้องตาศัลย์อย่างไม่เกรงกลัว

ครู่ต่อมา ศุภารมย์รู้สึกสงสัยหลังจากศัลย์รายงานการสอบสวนลิลินให้ฟัง “ถามเธอแบบนั้นเพราะคิดว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายพวกนั้นด้วยงั้นเหรอ”

“ผมแค่ต้องสงสัยไว้ก่อน แต่ถ้าได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ตมาน่าจะได้ความชัดเจนมากกว่านี้”

“นอกจากความชัดเจนแล้วฉันอยากให้เร่งมือเร็วที่สุด”

“ครับ” เขารับคำแล้วทำท่าจะผละไป พลันนึกอะไรได้ หันมาบอกศุภารมย์ว่าระวังลิลินเอาไว้ก็ดี เหมือนเธอจะรู้ว่าตนมีส่วนร่วมกับการตายของบุญช่วยในคืนนั้น

“แล้วทำไมเธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย”

“นั่นแหละที่ผมถึงบอกให้ระวังผู้หญิงคนนี้ให้ดี ผมคิดว่าเธอต้องมีแผนที่จะทำอะไรบางอย่างแน่นอน”

ศุภารมย์ชะงัก สีหน้าเต็มไปด้วยแววกังวล

ooooooo

ค่ำคืนนี้ ลิลินนอนไม่หลับลงมาเดินเล่นที่สวนของโรงพยาบาลแล้วเจอทิวัตถ์ที่กำลังเบื่อๆเซ็งๆ สองคนคุยกัน ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะทิวัตถ์ที่พูดจาหึงหวงวิทยาโดยไม่รู้ตัว

แต่การพูดคุยกันครั้งนี้ก็ทำให้ลิลินรู้สึกไม่เสียเวลาเปล่า เธอเก็บข้อมูลจากเขาเรื่องศุภิสราโดนฆ่าตาย และค่อนข้างแน่ใจว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ยังมีศรัณย์หมอประจำตัวของเขาอีกคนที่น่าสงสัย

แยกจากทิวัตถ์มาแล้ว ลิลินโทร.หาปรมัตถ์ให้ช่วยหาข้อมูลของหมอศรัณย์ เธอคิดว่าตัวเองเจอกุญแจอีกดอกที่อาจจะมีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมในวันนั้น

คุยกับปรมัตถ์เสร็จ ลิลินรีบเขียนจดหมายถึงแม่ดา... บอกเล่าความเป็นไปของตัวเองที่พลัดหลงในป่ากับทิวัตถ์จนได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้ปลอดภัยและก็ได้คุยกับเขาแล้วด้วย ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการตายและการใส่ร้ายพ่อป้อง แต่ครอบครัวของเขาต่างหากที่เป็นคนทำ

เช้าวันรุ่งขึ้น กานดาเลขาฯของทรงพลหอบจดหมายจำนวนมากใส่กล่องเข้ามาวางที่โต๊ะทำงาน ตั้งใจจะเปิดอ่านแต่ศุภารมย์โผล่มาขัดจังหวะ ก็เลยตัดใจเก็บเอาไว้ก่อนดีกว่า...

ศุภารมย์เข้าไปบอกทรงพลว่าศัลย์ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ตมาแล้ว ทรงพลร้อนใจถามว่าคนร้ายเป็นใคร

“ใจเย็นก่อนเถอะค่ะ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายดีกว่า” ศุภารมย์กล่าวหน้านิ่ง แต่แววตาดูมีเลศนัยยังไงพิกล

ooooooo

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 8 วันที่ 14 ม.ค. 58

ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทโทรทัศน์ : อภิวัฒน์ เล่าสกุล
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง กำกับการแสดง : ตรัยยุทธ กิ่งภากรณ์
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ผลิต : บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ควบคุมการผลิต : ชวลิต พงศ์ไชยยง
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง7 และ 7HD
ที่มา ไทยรัฐ