อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 9 วันที่ 18 ม.ค. 58

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 9 วันที่ 18 ม.ค. 58

ทุกคนร่วมโต๊ะจิบน้ำชายามบ่ายภายในสวนหลังบ้าน อนันยชคุยอวดแต่เรื่องวรรณิตที่หน้าเหมือนศุภิสรา ทำให้ศุภารมย์ไม่พอใจเพราะเกรงจะไปกระทบความรู้สึกทิวัตถ์แล้วความทรงจำเก่าๆจะกลับมา

ศุภารมย์เริ่มไม่สบอารมณ์เพราะอนันยชยังพล่ามเรื่องแต่งงานไม่เลิกรา ส่วนลิลินคอยเก็บข้อมูลจากทุกคนและคอยหาโอกาสจะเปิดกระเป๋าของหมอศรัณย์ให้จงได้


วงสนทนาหยุดชะงักกันไปนิดเมื่อทรงพลโทร.หาศุภารมย์ บอกว่าทิวัตถ์มาหาตนแล้วถามถึงปองภพกับลูกสาว ศุภารมย์ตกใจขอตัวลุกออกไปคุยห่างจากทุกคน

“เป็นไปได้ยังไง หมอศรัณย์ไม่เคยพูดถึงลูกสาวนายปองภพ ส่วนเราก็ไม่เคยบอกให้วินรู้”

“แสดงว่าวินต้องไปรู้อะไรมาแน่ๆ แล้วนี่วิน อยู่บ้านใช่ไหมคุณ”

“อยู่ค่ะ แล้ววันก็พาหนูณิตมาด้วย”

“งั้นเดี๋ยวผมจะยกเลิกประชุมแล้วรีบกลับทันที”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ตอนนี้หมอศรัณย์ก็อยู่ด้วย คิดว่าน่าจะรับมือได้”

“งั้นผมฝากด้วยนะคุณ ถ้ามีอะไรรีบโทร.บอกผมทันทีเลย”

“ได้ค่ะ คุณไปทำงานต่อเถอะ” ศุภารมย์วางสายหน้าเครียด หันมองไปทางทิวัตถ์อย่างกังวล

ลิลินหาโอกาสเข้าไปในบ้านเพราะกระเป๋าหมอศรัณย์ อยู่ข้างใน แต่ทิวัตถ์ไม่ไว้ใจจึงเดินตามมาเธอมาแล้วเกิดมีปากเสียงกันเรื่องลิลินยืนยันว่าพ่อของตนไม่ใช่ฆาตกร ทิวัตถ์เถียงสุดใจว่าคนในครอบครัวตนก็ไม่มีใครเป็นคนร้าย และอย่าหมายว่าเธอจะมาทำอะไรใครได้ง่ายๆ

สองคนแยกย้ายกันกลับไปที่โต๊ะ ศุภารมย์ร่วมวงด้วยเหมือนเดิม เธอรับผ้าพันคอจากวรรณิตอย่างเสียไม่ได้ วรรณิตสีหน้าไม่ดี พอหมอศรัณย์ทักถามเรื่องศัลยกรรมก็ยิ่งหวั่นหวาดกลัวเขาจะจับพิรุธจนรู้ความจริงว่าที่เธอหน้าเหมือนศุภิสราก็เพราะไปทำมา

พูดถึงศุภิสราบ่อยเข้า ทิวัตถ์มีอาการปวดหัว รุนแรงขึ้นมาจนหมดสติ ทุกคนตกใจช่วยกันประคองเขาเข้าไปในบ้านและจะพาขึ้นห้องนอนที่ชั้นบน ลิลินสบโอกาสอาสาถือกระเป๋าให้หมอแล้วจะตามขึ้นไป แต่เธอกลับหลบออกมาที่สวนแล้วค้นหาเมมโมรี่การ์ดสำเร็จ แต่เพราะเสียงเรียกของป้าจวนทำให้เธอทำมันหลุดมือหล่นลงไปในอ่างบัว

หมอศรัณย์บอกสาเหตุที่ทิวัตถ์หมดสติเพราะเครียดจัดบวกกับร่างกายอ่อนแอ แล้วจัดแจงจะฉีดยาคลายกล้ามเนื้อให้เขาแต่นึกได้ว่ากระเป๋าอยู่ที่ลิลิน ศุภารมย์นิ่วหน้าสงสัย อนันยชจะไปตามก็พอดีเธอสวนเข้ามา อ้างว่าหาห้องไม่เจอก็เลยช้าหน่อย

ลิลินเอาตัวรอดแล้วถอยออกจากห้องก่อนจะหาโอกาสในช่วงเวลาไม่มีใครรีบวิ่งไปหยิบเมมโมรี่การ์ดในอ่างบัวติดมือกลับไปได้ ปะเหมาะพอดีปรมัตถ์มารออยู่ เธอจึงพาเขามาที่ห้องพักแล้วนำของสิ่งนั้นให้เขาดู

“นี่มันเมมฯจากกล้องหมอศรัณย์ ลินเอามาได้ยังไง”

“หมอศรัณย์ไปหาคุณวินที่บ้าน...ลินก็เลยหาโอกาสหยิบมา”

“มันเสี่ยงมากเลยนะลิน ทำไมลินทำอะไรไม่ปรึกษามัตก่อน”

“มัตดูนี่เถอะ ลินเผลอทำมันตกน้ำ ไม่รู้ข้อมูลจะหายรึเปล่า”

“มัตจะลองดู” ปรมัตถ์ใช้ไดร์เป่าผมจ่อเมมโมรี่การ์ด ในขณะที่ลิลินนั่งหน้าเครียดจนเขาสังเกตเห็น ถามว่ามีเรื่องกลุ้มใจอะไรอีก ลิลินบอกว่าทิวัตถ์รู้แล้วว่าเธอคือใคร

“อะไรนะ คุณวินรู้แล้ว ได้ยังไงล่ะ ลินเผลอไปบอกอะไรเขา”

ลิลินปฏิเสธว่าตนไม่ได้บอกอะไร แต่เขาตามไปเจอตนที่วัดตอนไปหาพ่อ ปรมัตถ์ฟังแล้วกลุ้มใจบ่นอุบว่าจะทำยังไงต่อ “ไม่ต้องกังวลหรอก...ลินดูแลตัวเองได้”

“แต่สิ่งที่มัตกลัวก็คือ...ถ้าคุณวินบอกกับครอบ– ครัวเขา แล้วลินจะเอาอะไรไปสู้กับคนพวกนั้น”

“ความจริงไง” ลิลินสีหน้าแววตามุ่งมั่นมาก ความหวังอยู่ที่เมมโมรี่การ์ดอันนี้!

ooooooo

เป็นโอกาสเหมาะมากๆ เมื่อวาสนารู้ข่าวทิวัตถ์ไม่สบายจากอนันยชที่มาส่งวรรณิต...รุ่งขึ้นเธอพานพกรไปที่บ้านทรงพลแล้วฝากฝังให้ดูแลรับใช้ทิวัตถ์ ไม่ว่างานอะไรหลานของตนทำได้หมด

ศุภารมย์เคยปฏิเสธไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เธอขัดทรงพลไม่ได้ วาสนาซึ่งมีแผนการบางอย่างก็เลยสมใจสบายอุรากลับบ้านไป นพกรไม่ชอบงานรับใช้หรือที่เขาเรียกมันว่าขี้ข้า จึงมีท่าทีแข็งกระด้างเป็นไม้เบื่อไม้เมากับป้าจวนอยู่เรื่อย แต่สาวใช้ชื่อสลวยกลับชื่นชอบนพกรถึงกับอยากได้เป็นแฟน ทั้งที่ป้าจวนเตือนแล้วเตือนอีกว่าเขาไม่ใช่คนดี

ลิลินเดินหน้าขุดคุ้ยความจริงเพื่อทวงคืนความ บริสุทธิ์ให้กับปองภพ และเมมโมรี่การ์ดของหมอศรัณย์ก็น่าจะทำให้ความจริงกระจ่างหลังจากปรมัตถ์ช่วยกู้ข้อมูลให้ได้บางส่วน

หมอศรัณย์มาดูอาการทิวัตถ์ทุกวัน เชื่อว่าที่เขาปวดหัวน่าจะมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ความจริง ทิวัตถ์นึกถึงภาพในอดีตที่ศุภิสราตกระเบียงตายแต่ไม่เล่าให้หมอฟัง

สายวันนี้ศุภารมย์บ๊งเบ๊งคนใช้ที่ไม่รู้ไม่เห็นว่าทิวัตถ์ไปไหน แม้แต่นพกรที่รับหน้าที่ดูแลรับใช้ก็ไม่รู้เรื่อง ศุภารมย์เป็นห่วงลูกชายที่ยังไม่หายป่วย เพียรโทร.ตาม แต่เขาไม่รับสาย ขับรถมุ่งหน้าไปพบลิลินที่สวนสาธารณะหลังจากเธอติดต่อมาว่าอยากพบ

เมื่อเผชิญหน้ากัน ลิลินเปิดฉากว่าตนมีบางอย่างที่จะทำให้เขาเชื่อว่าครอบครัวของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมศุภิสรา

“คุณเลิกพูดซะที ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น และผมก็ไม่สนใจด้วยว่ามันจะเป็นอะไร”

“แต่คุณต้องดู เพราะครอบครัวของคุณเองกำลังปิดบังความจริงบางอย่างที่ไม่ต้องการให้คุณรู้อยู่”

“ทำไม...คุณก็เลยอยากให้ผมดูสิ่งที่พ่อของคุณบอกงั้นเหรอ”

“ใช่...เพราะทุกอย่างที่คุณรู้มามันไม่เป็นความจริง”

“ผมไม่ดู แล้วคุณก็เลิกตามผมเพราะเรื่องไร้สาระนี้ซะที” ทิวัตถ์ตวาดและจ้องหน้าเธอก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย

ลิลินถอนหายใจอย่างเหนื่อยไม่รู้จะทำยังไงดี กลับมาเล่าให้ปรมัตถ์ฟังอย่างกลัดกลุ้ม พอเขาแนะนำให้เอาหลักฐานไปบอกตำรวจ เธอไม่เห็นด้วยเพราะเชื่อว่าคนพวกนั้นมีอิทธิพล ยังไงก็ไม่ได้ผล

“แต่มัตก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมลินต้องบอกกับคุณวิน ยังไงเขาก็เป็นครอบครัวเดียวกันนะลิน ลินจะเชื่อใจคุณวินได้เหรอ”

“ก็เพราะมีเพียงคุณวินคนเดียวเท่านั้นที่ลินจะเชื่อใจได้ แล้วอีกอย่าง...ถ้าลินสามารถทำให้คุณวินเห็นด้วย เขาอาจจะช่วยเราตามหาฆาตกรตัวจริงได้”

“แต่คุณวินไม่ยอมฟังลินอยู่แบบนี้...ลินจะทำยังไง”

ลิลินนิ่งเงียบ คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำยังไง... ด้านทิวัตถ์ที่หัวเสียกลับไป พอถึงบ้านโดนศุภารมย์ซักไซ้ก็ยิ่งหงุดหงิด เผลอแสดงอาการออกมาจนเธอแปลกใจว่าลูกชายต้องมีอะไรไม่สบายใจแน่ๆ

แน่นอนว่าทิวัตถ์เก็บเรื่องที่ลิลินพูดมาคิดหนัก อยากจะค้นหาข่าวฆาตกรรมศุภิสราเมื่อสิบห้าปีก่อน แต่จู่ๆ เปลี่ยนใจ บอกตัวเองว่าทำไมเขาต้องเชื่อสิ่งที่เธอพูดด้วย...

อนันยชกับทิวัตถ์เพิ่งได้เห็นหน้าค่าตานพกร อนันยชรู้สึกไม่ถูกชะตาทั้งที่ยังไม่รู้ว่าหมอนี่เคยลอบทำร้ายเขา ที่บริษัท แต่นพกรจำอีกฝ่ายได้ดี ครั้งนั้นเขาทำไม่สำเร็จโดนวาสนาดุด่ายับ แต่วันนี้ได้เข้ามาอยู่ร่วมชายคาจึงพยายามหาโอกาสจะเล่นงานอนันยชอีก...

อนันยชตระเตรียมงานแต่งที่จะมีขึ้นวันพรุ่งนี้ที่โรงแรมของศักดิ์สิทธิ์ แต่เรื่องอาหารเลี้ยงแขกในงานยังไม่ได้เลือก เลยต้องพึ่งพาเชฟวิชนีที่ยินดีทำให้ด้วยความเต็มใจ วิชนีเผลอตัวแสดงความห่วงใยศักดิ์สิทธิ์ไม่อยากให้ โรงแรมเขาเสียชื่อ พอเขาจับได้ก็ขวยเขินเดินหน้าแดงหนีไป...

ศุภารมย์ตกใจมากที่จู่ๆมีกล่องใส่กระสุนปืนส่งมาที่บ้าน ทิวัตถ์รู้เห็นก็เข้าใจไปเองว่าเป็นฝีมือลิลินที่จงใจข่มขู่คนในครอบครัวของตน จึงมาดักเจอเธอที่โรงแรมแล้วคาดคั้นจนมีปากเสียงกันครู่ใหญ่ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายกลับไปอย่างหัวเสีย เพราะเธอยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง

ทรงพลทราบจากศุภารมย์เรื่องกระสุนปืนปริศนาที่ไม่รู้ว่าใครส่งมา เขารีบตามศัลย์มาตรวจสอบและต้องการให้ช่วยสืบหาความจริงโดยเร็ว

“จากที่ผมดู...คนที่ส่งมาน่าจะรู้จักกับครอบครัวของท่านเป็นอย่างดี ถึงได้จงใจส่งมาขู่ในเวลาแบบนี้”

“หรือว่ามันต้องการขู่เรื่องงานแต่งงานของวัน ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้คะ”

คำพูดของศุภารมย์ทำให้ทรงพลฉุกคิด...เรียกกานดาซึ่งเป็นเลขาฯมาเช็กรายชื่อแขกให้รอบคอบ...

กฤษดาเพิ่งได้ข่าวอนันยชจะแต่งงาน เขาตั้งใจไปป่วนสักหน่อย แต่เสี่ยหาญไม่ยอม จะส่งสิตาไปคนเดียวพร้อมของขวัญหนึ่งกล่อง กฤษดาขัดใจท้วงพ่อว่าทำไมเราต้องอ่อนให้พวกมันด้วย

“แกฟังพ่อไว้นะ กว่าที่พ่อจะมาได้ไกลขนาดนี้เพราะพ่อรู้เวลาไหนควรอ่อน เวลาไหนควรแข็ง แกเชื่อพ่อเถอะ เมื่อถึงเวลา พ่อก็ไม่เอาพวกมันไว้เหมือนกัน” เหตุผลของเสี่ยหาญทำให้กฤษดายอมจำนนในที่สุด

ooooooo

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 9 วันที่ 18 ม.ค. 58

ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทโทรทัศน์ : อภิวัฒน์ เล่าสกุล
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง กำกับการแสดง : ตรัยยุทธ กิ่งภากรณ์
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ผลิต : บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ควบคุมการผลิต : ชวลิต พงศ์ไชยยง
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง7 และ 7HD
ที่มา ไทยรัฐ