อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 7 วันที่ 13 ม.ค. 58

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 7 วันที่ 13 ม.ค. 58

“ไม่ต้อง!” เสียงอนันยชดังเข้ามา สองยายหลานหันขวับไปมอง “ผมจะไม่ยอมให้ณิตไปไหนทั้งนั้น...ณิต ไปเก็บเสื้อผ้าแล้วไปกับผม”

“อย่าเชียวนะพ่อวัน” วาสนาห้ามเสียงหลง อนันยชหันขวับมาจ้องแววตาเอาเรื่อง บอกวาสนาว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันสองคนเดินตามกันออกมาหน้าบ้าน อนันยชถามตรงๆว่าแม่ของตนให้เงินยายเท่าไหร่ แต่ไม่ได้คำตอบจากวาสนา เขาเลยดักคอว่า “ผมรู้ว่ายายไปบ้านผมเพื่ออะไร”
“ตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”



“แล้วถ้าผมให้เงินมากกว่าแม่ ทีนี้พอจะมีประโยชน์ขึ้นบ้างหรือยัง”

วาสนามองท่าทางจริงจังของอนันยชก็เห็นช่องทางทำเงินอีกแล้ว...จากนั้นไม่นานอนันยชกลับไป ส่วนวาสนากลับเข้าบ้านเห็นวรรณิตเก็บเสื้อผ้าจะกลับไปหาแม่ก็รีบกลับคำ ใช้น้ำเย็นเข้าลูบไม่ยอมให้เธอจากไป

“ยายจะเอายังไงกับณิตกันแน่ เมื่อกี้ไล่ณิตเหมือนหมูเหมือนหมา แต่ตอนนี้กลับไม่ให้ณิตไป”

“โอ๋ๆๆ ยายขอโทษ ลืมเรื่องเมื่อกี้ให้หมด ยายผิดเอง”

“คุณวันบอกอะไรกับยาย” วรรณิตสงสัยแต่ไม่ได้คำตอบ เห็นรอยยิ้มมีเลศนัยของยายแล้วหวั่นใจ

ooooooo

ศักดิ์สิทธิ์กับวิชนีเป็นห่วงทิวัตถ์กับลิลินที่หายตัวไปข้ามคืน พอเช้าขึ้นจึงให้ทีมงานถ่ายแบบยกกองกลับเพราะพวกเขามีงานต่อที่กรุงเทพฯไม่สามารถอยู่รอนางแบบและนายแบบมาถ่ายทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้

เรื่องงานศักดิ์สิทธิ์ไม่ค่อยหนักใจเพราะเมื่อวานถ่ายทำได้เยอะพอสมควร แต่เวลานี้เขาเป็นห่วงเพื่อนรักและลูกน้องสาวเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปแจ้งความพร้อมกับวิชนี ก็พอดีมีตำรวจสายตรวจมาบอกว่ามีชาวบ้านพบรถยนต์ตกอยู่ข้างทางห่างจากโรงพักไปประมาณ 5 กิโลเมตร

ศักดิ์สิทธิ์ซักถามตำรวจจนแน่ใจว่ารถคันนั้นเป็นของทิวัตถ์ ก่อนทั้งหมดจะพากันออกไป แล้วเจอชาวบ้านสองผัวเมียกำลังพาทิวัตถ์กับลิลินที่อยู่ในสภาพหมดสติออกจากป่า ลิลินหัวแตกเพราะลื่นล้มตรงลำธาร ส่วนทิวัตถ์เจ็บปวดกลางหลังที่กลิ้งกระแทกหินแล้วอักเสบจนไข้ขึ้น

ลิลินอาการหนักกว่าทิวัตถ์ เธอถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัด แต่พอทิวัตถ์ที่อยู่โรงพยาบาลชานเมืองรู้สึกตัวก็รบเร้าให้ศักดิ์สิทธิ์พาตนไปอยู่โรงพยาบาลเดียวกับลิลินเพราะเป็นห่วงเธอ

วันเดียวกันที่บ้านทรงพล...วาสนามาให้คำตอบศุภารมย์ว่าตนรับข้อเสนอของเธอไม่ได้ พร้อมกันนี้อนันยชก็พาวรรณิตมายืนยันด้วยว่าเราสองคนจะแต่งงานกัน ศุภารมย์ไม่พอใจท้วงลูกชายว่าเรื่องอย่างนี้จะคิดเร็วทำเร็วไม่ได้

“ผมเคยบอกแม่ว่าผมคิดดีแล้ว แล้วตอนนี้ผมก็เริ่มเตรียมทุกอย่างไปแล้ว แล้วที่ผมพาณิตมาวันนี้ก็เพื่อให้เธอมากราบแม่”

วรรณิตกราบศุภารมย์ที่นั่งคอแข็ง วาสนาเห็นท่าไม่ดีรีบรวบรัดตัดบทว่า “ดีแล้วแม่ต่าย เด็กเขารักกันชอบกันก็อย่าไปขวาง”

“พอได้แล้ว...วัน! พาเธอออกไปจากบ้านเดี๋ยวนี้ จะไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้น”

ศุภารมย์ไล่ตะเพิดแล้วเดินหนีไปจากตรงนั้น วรรณิตน้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจ อนันยชจับมือเธอบีบเบาๆ ให้กำลังใจว่า

“ไม่เป็นไรนะณิต ไม่ว่าใครจะพูดยังไงก็ตาม ผมต้องแต่งงานกับคุณให้ได้”

วรรณิตไม่ได้ยินดียินร้ายกับคำพูดของเขานัก แต่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในชะตาชีวิตตัวเองต่างหาก

ขณะที่ศุภารมย์เดินออกมาสงบสติอารมณ์หน้าบ้าน ศักดิ์สิทธิ์โทร.มารายงานทิวัตถ์อยู่โรงพยาบาล ศุภารมย์ตกใจมากรีบเดินทางไปพร้อมทรงพล แล้วรู้เรื่องราวทั้งหมดว่าทิวัตถ์โดนคนไล่ยิง โชคดีลิลินมาเห็นจึงพากันหนีไปจนพลัดตกเขาเข้าไปอยู่ในป่า คนร้ายใส่หมวกพรางหน้าเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร

ทรงพลโกรธมากที่ลูกชายประสบเหตุร้ายถึงขนาดนี้ เขาอยากรู้ว่าพื้นที่เขตรีสอร์ตที่เกิดเรื่อง ใครเป็นคนดูแล

“คุณจะทำอะไรคะ” ศุภารมย์สงสัย

“ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนทำวิน ต่อให้ต้องใช้ตำรวจทั้งจังหวัดผมก็ไม่สน ต้องทำให้พวกมันรู้ว่า... พวกมันเล่นผิดคนแล้ว”

“แต่ฉันคิดว่าเราน่าจะให้รองศัลย์ช่วยนะคะ ถ้าพวกมันใส่หมวกปกปิดหน้าตามาลงมืออย่างนี้ ก็หมายความว่าพวกมันต้องเตรียมตัวมาก่อนแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นช่วยเรียกศัลย์มาพบผมหน่อย บอกว่าเรื่องด่วนที่สุด”

“ค่ะ” ศุภารมย์รับคำ...คาดเดาไม่ได้จริงๆว่าใครกันที่ต้องการเอาชีวิตทิวัตถ์

ooooooo

วิชนีอยู่เฝ้าลิลินที่โรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งแน่ใจว่าเพื่อนปลอดภัยจึงนั่งรถกลับโรงแรมพร้อมศักดิ์สิทธิ์ แต่ระหว่างทางสองคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมา ก็ทุ่มเถียงกันมาตลอด ทั้งเรื่องสัพเพเหระและเรื่องทิวัตถ์กับลิลินที่หลงป่าด้วยกัน

เป็นเรื่องทันทีเมื่อสิตามาได้ยินเต็มสองหู เธอคาดคั้นศักดิ์สิทธิ์เป็นการใหญ่ วิชนีหมั่นไส้สิตาก็เลยจาระไนราวกับเห็นกับตาตัวเองว่า

“เขาสองคนหลงป่าด้วยกัน รู้ไหมตอนที่ชาวบ้านไปเจอน่ะ เขาบอกว่าคุณวินกับลินนอนกอดกันกลมเลยนะ”

“กรี๊ดดดดดด...ไม่...ไม่จริง!” สิตาโมโหจนตัวสั่น รีบเดินออกไปทันที

“สะใจจริงๆ” วิชนียิ้มกริ่ม ศักดิ์สิทธิ์เห็นแล้วหงุดหงิด ถามประชดว่าสะใจมากไหม “แน่นอน”

คำตอบนั้นทำให้ศักดิ์สิทธิ์หงุดหงิดยิ่งขึ้นไปอีก พูดโพล่งว่า “ถ้าวินหรือคุณลินเป็นไรไปอีกก็เพราะเธอ...ก่อนพูดอะไรคิดบ้างมั้ย ฉันอุตส่าห์โกหกเพราะไม่อยากให้สิตารู้เรื่อง แต่เธอก็ดันปากโป้งบอกสิตาไปหมดว่าไอ้วินกับคุณลินหลงป่าด้วยกัน”

“อ้าว...ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ทีหลังก็บอกกันก่อนสิ”

“เว้ย! ไม่รู้แล้วเว้ย” เขาโวยลั่นแล้วเดินจากไป ทิ้งวิชนียืนหน้าเจื่อน ส่วนวิทยายืนฟังอยู่ข้างหลัง เป็นห่วงลิลินขึ้นมาทันที...

ลิลินกับทิวัตถ์ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่อยู่คนละห้อง ทั้งคู่รู้สึกคิดถึงและเป็นห่วงซึ่งกันและกัน ห้วงเวลาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายจนหลงเข้าไปในป่าทำให้มีบางช่วงเวลาดีๆที่น่าจดจำ

หญิงสาวอยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง กำลังจะลุกออกจากห้องก็พอดีวิทยาโผล่เข้ามาพร้อมกระเช้าของเยี่ยม

“ผมเพิ่งรู้เรื่องคุณลินจากคุณศักดิ์สิทธิ์ คุณลินเป็นยังไงบ้างครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่เป็นไข้นิดหน่อย”

“แล้วนี่คุณลินจะออกไปไหนครับ เดี๋ยวผมพาไป”

“เปล่าค่ะ ลินแค่จะเดินยืดเส้นยืดสาย นอนแต่บนเตียงเบื่อๆน่ะค่ะ”

“ผมเก็บผลไม้ในสวนที่บ้านกับดอกลีลาวดีที่คุณลินชอบมาฝากด้วยนะครับ”

“ลีลาวดี...ขอบคุณนะคะ แต่คุณวิทไม่น่าลำบากเลย”

“ลำบากที่ไหนล่ะครับ ของในบ้าน...จะลำบากก็ตรงที่ผมจัดกระเช้าไม่เอาไหนเองต่างหาก”

สองคนยิ้มให้กัน ระหว่างนั้นพยาบาลเข้ามาขอวัดไข้ลิลิน ทิวัตถ์ยืนมองผ่านประตูที่แง้มไว้เห็นลิลินกับวิทยาก็รู้สึกโหวงๆพิกล หันหลังเดินกลับไปด้วยความผิดหวัง

ooooooo

อนันยชพาวาสนากับวรรณิตมาส่งที่บ้าน แล้วพะเน้าพะนอเอาใจว่าที่เจ้าสาวให้คลายกังวลเรื่องแม่ของตน

“คุณณิตไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมจะพูดกับคุณแม่เอง อีกไม่นานเราก็จะได้แต่งงานกันแล้วนะ”

“แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้แต่งนี่คะ” วรรณิตพูดพร้อมกับดึงมือตัวเองกลับ ไม่ยอมให้เขาจูบ

ชายหนุ่มรู้สึกขัดใจแต่ข่มอารมณ์บอกลากลับไปดีๆ วาสนามองตามแล้วหันกลับมาเอ่ยกับหลานสาวว่า

“ดีแล้วยัยณิต เล่นตัวเข้าไว้ พ่อวันจะได้รักจะได้หลงแกหัวปักหัวปํา”

“ยายคิดว่าน้าต่ายจะยอมให้คุณวันแต่งกับณิตเหรอคะ”

“พ่อวันน่ะเป็นเด็กเอาแต่ใจมาตั้งแต่เล็ก ถ้ามันมีปัญหามากก็แค่แต่งแล้วย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แกไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดอย่างเดียวว่าต้องจดทะเบียนกับพ่อวันให้ได้...นี่แกถามทำไม อย่าบอกนะว่าแกไม่อยากแต่งอีกแล้ว”

วรรณิตนิ่งเงียบ พยายามอดทนอย่างถึงที่สุด แต่วาสนากระทุ้งเข้าไปอีกว่า

“อย่าลืมสิว่าแกต้องการเงินไปทำไม แม่แกดันเป็นโรคคนรวย เป็นอะไรไม่เป็นดันเป็นมะเร็ง แต่ก็ไม่แน่นะ เดี๋ยวนี้หมอเขาเก่งจะตาย ถ้าเงินถึงแม่แกก็รอด”

“ยายไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ยังไงณิตก็ต้องแต่ง ถ้าเงินก้อนนั้นมันจะช่วยรักษาชีวิตแม่เอาไว้ได้”

วาสนาลอบยิ้มสมใจ...ความโลภไม่เข้าใครออกใครจริงๆ

ooooooo

อ่านละคร ลีลาวดีเพลิง ตอนทีี่ 7 วันที่ 13 ม.ค. 58

ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง บทโทรทัศน์ : อภิวัฒน์ เล่าสกุล
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง กำกับการแสดง : ตรัยยุทธ กิ่งภากรณ์
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ผลิต : บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ควบคุมการผลิต : ชวลิต พงศ์ไชยยง
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง7 และ 7HD
ละครเรื่องลีลาวดีเพลิง เริ้มออกอากาศตอนแรกในวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
ที่มา ไทยรัฐ