อ่านละครเพลืงตะวัน ตอนที่ 1 วันที่ 23 ส.ค. 58

อ่านละครเพลืงตะวัน ตอนที่ 1 วันที่ 23 ส.ค. 58

เจ๊แน๊ตมาเปิดร้านจำหน่ายชุดวิวาห์แต่เช้า โดยมีชีสเค้กถือชุดเจ้าสาวพะรุงพะรังตามมา พลันมีเสียงมือถือดังขึ้น นางจำได้ว่าเป็นเสียงมือถือของวิวถึงกับบ่นอุบว่าแม่นี่ขี้ลืมตลอด แล้วเดินตามเสียงมือถือมาถึงโซฟาในห้องรับรองแขก ต้องตกใจที่เห็นเจ้าของมือถือนอนหลับสนิทในชุดที่สวมเมื่อวาน

“ตายแล้วแม่วิว ตื่นเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวลูกค้ามาเห็นเข้า หล่อนเป็นเจ้าของร้านนะยะ”



วิวรรณหรือวิวงัวเงียลืมตาขึ้นมา ได้ยินเสียงมือถือตัวเองดัง พุ่งไปรับแทบไม่ทัน “ไทย หายไปไหน ทั้งคืน ทำไมเพิ่งโทร.มา”

ธงไทยซึ่งอยู่หน้าห้องไอซียูขอโทษวิวด้วย พอดีมีเรื่องยุ่งๆก็เลยลืมมือถือไว้ในรถ เพิ่งเดินมาหยิบ เขายังไม่ทันจะเล่าเรื่องหญิงสาวปริศนาที่เกือบขับรถชน พยาบาลเดินหน้าเครียดเข้ามาส่งสัญญาณว่าต้องการคุยด้วยเสียก่อน เขาจึงบอกกับวิวว่าต้องวางสายแล้ว เสร็จธุระเมื่อไหร่จะโทร.หา แล้วตัดสายไปเลย

“เดี๋ยวก่อนไทย เกิดอะไรขึ้น...ไทย” เสียงเอะอะของวิวทำให้เจ๊แน๊ตกับชีสเค้กชะโงกหน้ามาถามว่าเป็นอะไร ได้ความว่าธงไทยวางสายไปก่อนที่จะทันพูดกันรู้เรื่อง เจ๊แน๊ตยุส่ง หากอยากรู้เรื่องของเขาทุกเรื่องก็ให้เธอแต่งงานกับเขาให้รู้แล้วรู้รอดจะได้อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง

“บ้า...เพื่อนกันน่ะเจ๊ ไทยเองก็ไม่มีท่าทีจะ...”

“การที่เขาไม่มีใครและก็ให้ความสำคัญกับเธอมากที่สุดในบรรดาเพื่อนๆเนี่ย มันยังไม่ชัดอีกหรือแค่เธอทำตัวเป็นแฟนของเขาไม่ใช่เพื่อนที่แสนดีแบบนี้ ...เชื่อเจ๊สิ เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันสายไปจะมา เสียใจทีหลังไม่ได้นะ”

“รู้แล้วน่าเจ๊ ฉันกลับบ้านไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบมา” วิวรีบจ้ำออกจากร้านทันที...

ภายในห้องไอซียู ธงไทยมองหญิงสาวปริศนาที่ตอนนี้มีผ้าพันแผลเต็มตัว นอนไม่ได้สติมีสายอุปกรณ์ช่วยชีวิตระโยงระยางเต็มไปหมดด้วยความเวทนาสงสาร หมอแจ้งว่าอาการของเธอทรุดลงเรื่อยๆ ที่เธอยังมีชีวิตอยู่ได้ก็ด้วยเครื่องช่วยหายใจ และเขาคงต้องผ่าตัดเธออีกครั้งหนึ่ง แล้วก้มมองชาร์ตคนไข้

“คุณเป็นญาติของ...คุณวิวรรณ รุ่งเรืองนิรันดร์ใช่ไหมครับ”

“ใช่...ใช่ครับ” ธงไทยอึกอักเพราะยืมชื่อเพื่อนสนิทมาใส่แทนชื่อหญิงสาวปริศนาคนนั้น

“คุณกำลังทำให้หมอลำบากใจนะครับ คุณบอกว่ากระเป๋าสตางค์เธอโดนขโมยไปใช่ไหมครับ หมอต้องการบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนของเธอ หมอขอด่วนที่สุดนะครับ” หมอสีหน้าเคร่งเครียด ธงไทยเองก็เครียดไม่แพ้กัน รีบออกมาโทร.หาวิวตัวจริงเสียงจริงเพื่อขอความช่วยเหลือ

ooooooo

นวลกับไผ่กลับถึงไร่นวลตะวันอย่างอ่อนเพลียเนื่องจากเฝ้าคนป่วยทั้งคืนไม่ได้หลับได้นอน ทั้งคู่ยังไม่ทันจะเข้าบ้าน จอมขับรถพาเสี่ยหมูเจ้านายของตัวเองมาเจรจาขอซื้อไร่นวลตะวัน นวลยืนกรานไม่มีวันขายไร่แห่งนี้เด็ดขาดไม่ว่าเขาจะให้ราคาเท่าไหร่ เสี่ยหมูชักหงุดหงิด

“ถ้าไร่คุณนวลไม่มาโผล่เป็นไข่แดงกลางที่ของผมผมคงไม่ตากหน้ามาพูดกับคุณนวลบ่อยๆแบบนี้หรอก”

“เสี่ยพูดแบบนั้นไม่ถูก เราอยู่ของเราสงบๆเสี่ยนั่นแหละที่มากว้านซื้อที่รอบๆไร่เราเอง เสี่ยกลับไปเถอะครับ นายแม่นวลไม่มีวันขายไร่นี้ให้เสี่ยหรอก”

“ไอ้ไผ่แกอย่าแส่” จอมฮึดฮัดจะเอาเรื่อง แต่ต้องหยุดกึกเมื่อตาท้วมถือปืนลูกซองออกมา จ๊ะจ๋าตามมาสมทบ จอมเห็นเธอนุ่งกางเกงขาสั้นกุดถึงกับจ้องตาไม่กะพริบ ไผ่ซึ่งมีใจให้เธอไม่พอใจมากกับสายตาหื่นของเขา ตาท้วมก็ไม่พอใจเช่นกัน หันไปตวาดจ๊ะจ๋าจะลงมาทำไมกลับเข้าบ้านไป

“ถามได้ ก็ลงมารับนายแม่นวลนะสิลุง จะบ่น ทำไมนะ”

“เอาเถอะๆ เสี่ยหมูคะ วันนี้ฉันขอตัวก่อนแล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะ” นวลรีบตัดบท เสี่ยหมูรู้ตัวว่าถูกไล่ทางอ้อม เรียกจอมกลับ แล้วเดินขึ้นรถปิดประตูกระแทกดังปัง จอมยังมองจ๊ะจ๋าตาวาวไม่ขยับไปไหน ตาท้วมต้องกระชับ ปืนในมือเป็นการเตือน เขาถึงยอมขึ้นรถขับจากไปท่ามกลางความโล่งใจของทุกคน นวลเจ็บหน้าอกแปลบขึ้นมาทำท่าซวนเซจะล้ม จ๊ะจ๋ารีบพยุงขึ้นบ้าน ขณะที่ตาท้วมหันไปสั่งการไผ่

“วิ่งไปบอกยายเจียมให้หยิบยาของนายแม่นวลมาเร็ว”...

นวลได้ยาอมใต้ลิ้นทำให้อาการแน่นหน้าอกทุเลาและหลับลงได้ในที่สุด เจียม จ๊ะจ๋า หนูพุทธกับตาท้วมและไผ่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆด้วยความเป็นห่วง หนูพุทธถามทั้งน้ำตาตามประสาเด็กน้อยว่าท่านจะตายไหม

“หนูพุทธอย่ากลัวไปเลย นายแม่นวลเป็นคนดีพระคุ้มครองคนดีเสมอ” ไผ่ปลอบ

“ถ้านายแม่นวลเป็นอะไรไปแล้วหนูพุทธจะอยู่กับใคร ฮือๆๆๆ”

“แม่ถึงยังตายไม่ได้ไง” นวลค่อยๆยันตัวลุกขึ้น หนูพุทธดีใจโผกอดเธอไว้แน่น เธอกอดตอบด้วยความรัก เจียมอดถามไม่ได้ว่าเมื่อไหร่นวลถึงจะบอกเรื่องนี้ให้ธงไทยทราบ พวกเราจะอกแตกตายกันอยู่แล้ว นวลกำชับไม่ให้ใครบอกเรื่องนี้กับเขาเด็ดขาด แล้วจ้องจ๊ะจ๋าเขม็ง คนถูกจ้องร้อนตัวขึ้นมาทันที

“รู้แล้วค่ะ นายแม่นวล”

มีเสียงมือถือของนวลดังขึ้น จ๊ะจ๋าคว้ามาดูเบอร์โชว์หน้าจอ เห็นชื่อธงไทย รีบส่งให้ท่านรับสาย

ooooooo

ในขณะเดียวกัน กันเกราวางแผนกับนันทาติดสินบนคนขับรถของมยุริญให้กลับบ้านไปก่อนเพื่อจะให้นันทวัฒน์ขับรถไปส่งเธอแทนที่ แม้เขาจะรู้ว่าแม่พยายามยัดเยียดมยุริญให้ แต่จำต้องทำตามที่ท่านต้องการ นันทากลัวจะไม่เป็นไปตามแผน สั่งให้กันเกราเดินไปส่งมยุริญที่รถ แล้วคว้าชามอาหารเหลวมานั่งข้างวัฒนา

“ต้องหนูยุริญนี่แหละที่เหมาะสมกับตาวัฒน์ที่สุด คุณว่าไหมคะ...ว่าไงคะ” นันทาเห็นสายตาตำหนิของวัฒนาก็แหวใส่ทันที “นี่ อย่ามาทำสายตาแบบนี้นะคุณวัฒนา ที่ฉันทำไปก็เพื่อตาวัฒน์ กินข้าวเถอะคุณ” ว่าแล้วเธอยัดอาหารใส่ปากเขา พยาบาลพิเศษที่คอยดูแลวัฒนาต้องเตือนให้ค่อยๆป้อน เธอก็ยังป้อนคำโตเกินไปจนเขาสำลัก อาหารพุ่งใส่นันทาเปรอะไปหมด เธอถึงกับปรี๊ดแตก

“ทำบ้าอะไรของคุณคุณวัฒนา ดูสิเลอะเทอะไปหมดแล้ว นอกจากจะนอนเป็นผักไร้ประโยชน์แล้ว ยังทำให้เดือดร้อนอีก...เอาไปช่วยจัดการต่อที” นันทาส่งชามอาหารให้พยาบาลพิเศษแล้วเดินกระแทกส้นเท้าออกไป วัฒนาถึงกับน้ำตาคลอ น้อยใจที่เมียรักพูดจาไม่ดีด้วย...

ทางฝ่ายพิชิตเห็นนันทวัฒน์จะไปส่งมยุริญ อาสาจะขับรถให้ กันเกรารีบกันท่า ไล่พิชิตมีอะไรทำค้างอยู่ก็ให้ไปทำ แล้วขยิบหูขยิบตาส่งสัญญาณให้ไปไกลๆ แต่เขาพาซื่อ

“ไม่มีครับ งั้นผมขับรถไปให้คุณวัฒน์นะครับ”

“เอ๊ะ บอกว่ามีอะไรค้างอยู่ก็ให้ไปทำไง” กันเกราพยายามไล่เขาไปพ้นๆ นันทวัฒน์ดูเหมือนจะรู้เท่าทันความต้องการของเธอกับแม่ จึงบอกบอดี้การ์ดส่วนตัวว่าไม่ต้องเป็นห่วงตนไปครู่เดียวเดี๋ยวก็กลับ แล้วเปิดประตูรถให้มยุริญขึ้น ก่อนจะไปนั่งประจำที่คนขับ ค่อยๆเคลื่อนรถออกไป พิชิตมองตามสีหน้าเป็นกังวล

“นี่เธอเป็นบอดี้การ์ดหรือเป็นผู้คุมคุณวัฒน์ฮึพิชิต คอยตามแจขนาดนี้ วันหลังถ้าเห็นคุณยุริญมาด้วยกันกับคุณวัฒน์น่ะนะ ปล่อยเธอสองคนให้ไปกันตามลำพังเข้าใจไหม”

“แต่ว่า...”

“อย่ากังวลอะไรไม่เข้าเรื่องหน่อยเลย ตัวปัญหาก็ระเห็จออกจากบ้านไปแล้ว หลังจากนี้บ้านนี้ก็จะมีแต่ความสุขความหอมหวาน” กันเกราผละจากไปอย่างอารมณ์ดีทิ้งให้พิชิตยืนเครียดตามลำพัง

ขณะที่กันเกราเดินลั้นลามาถึงห้องโถง ต้องตกใจถึงกับเอามือทาบอกเมื่อเห็นนันทนาเดินคลอเคลียลงบันไดมากับตรีทศ มองปราดเดียวก็รู้ว่าทั้งคู่ค้างคืนด้วยกัน เธอซึ่งเป็นสาวแก่ทึนทึกรับเรื่องนี้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันจะว่าอะไร มีเสียงนันทาดังขึ้นเสียก่อน

“ไอ้กุ๊ย เข้ามาในบ้านฉันทำไม” ไม่ใช่ด่าแต่ปาก สายตาของนันทายังมองเหยียดหยามตรีทศหัวจรดเท้า เห็นเขาแต่งตัวไม่เรียบร้อยเหมือนเพิ่งลงมาจากข้างบน ก็แว้ดๆลั่น “แก ไอ้กุ๊ย แกมาบ้านฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ทศก็เพิ่งมาถึงนี่แหละค่ะคุณแม่ ใช่ไหมคะน้ากันเกรา” นันทนาขยิบตาให้กันเกราที่ไม่ตั้งตัว จึงได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ พอถูกนันทาคาดคั้น เธอก็เลยตัดสินใจโกหกเพื่อช่วยนันทนาว่าตรีทศเพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี้เอง นันทาเจ็บใจที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันลูกสาว อ้างมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกับเธอ สั่งให้กันเกราพาตรีทศไปส่งหน้าบ้านด้วย แล้วลากแขนนันทนาไปอีกมุมหนึ่งของบ้าน ต่อว่าที่เธอคบหากับกุ๊ย

“คุณแม่คะ ทศเขาลูกเศรษฐีที่ดินนะคะ ไม่ใช่กุ๊ยอะไร”

สำหรับนันทาแล้ว เศรษฐีบ้านนอกก็ไม่ต่างอะไรจากกุ๊ย นันทนายอกย้อน หรือท่านอยากให้เธอหาแฟนแบบเดียวกับลูกสะใภ้ตัวแสบของท่าน นันทาปรี๊ดแตก สั่งห้ามพูดถึงนังนั่นให้ได้ยินอีก

“พี่แกเขากำลังจะได้พบคนที่คู่ควร ลูกผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว”

“ลูกผู้ดีหรือลูกเศรษฐีหมื่นล้านคะคุณแม่” นันทนาแดกดันจบ เดินหนีกลับห้อง ทิ้งให้แม่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่มีลูกไม่ได้ดั่งใจอยู่ตรงนั้น

ooooooo

ที่ร้านจำหน่ายชุดวิวาห์ เจ๊แน๊ตเห็นวิวเดินไปเดินมาพลางชะเง้อคอยาวไปนอกร้านแล้วอดเวียนหัวแทนไม่ได้ สั่งให้หยุดเดินแล้วมานั่ง ชีสเค้กจัดแจงส่งดอกบัวที่กำลังจัดใส่แจกันให้หนึ่งดอก เจ๊แน๊ตรับมุกทันที

“สายบัวแต่งตัวรอเก้ออ่ะเหรอชีสเค้ก”

“ใช่ค่ะ” ชีสเค้กตีมือกับเจ๊แน๊ตสนุกสนาน วิวค้อนหนึ่งวงฐานที่เอาเธอไปล้อเล่น

“มันกี่ครั้งแล้วยะที่หล่อนต้องมานั่งรอ ร้อ รอแล้วเขาก็เบี้ยว”

พลันมีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง “แต่คราวนี้ไม่เบี้ยวแน่นอนครับ”

ทุกคนหันมองตามเสียงเห็นธงไทยยืนยิ้มแฉ่ง พร้อมกับหอบดอกทานตะวันเต็มอ้อมแขนเป็นของฝากติดมือมาให้วิวซึ่งแทบจะโดดตัวลอยด้วยความดีใจ...

ขณะวิวปลื้มปริ่มที่ไม่ต้องเป็นแม่สายบัวแต่งตัวรอเก้อ รถของนันทวัฒน์แล่นพ้นปากซอยหมู่บ้านตัวเองมาได้เล็กน้อย มยุริญขอให้เขาจอดรถข้างทางชายหนุ่มอดถามไม่ได้ว่าให้จอดทำไม

“พี่วัฒน์คะ ยุริญทราบถึงความเมตตาและหวังดีของคุณป้านันทานะคะ แล้วยุริญก็เข้าใจความรู้สึกของพี่วัฒน์ด้วย พี่วัฒน์อย่าห่วงไปเลยค่ะ ยุริญก็แค่ทำตามมารยาทเพื่อรักษาน้ำใจของผู้ใหญ่เท่านั้น”

“น้องยุริญ!”

“ระหว่างเรา ยุริญขอแค่เป็นน้องสาวพี่วัฒน์แบบนี้ดีกว่าค่ะ เอาเป็นว่าเราสองคนเข้าใจตรงกันนะคะ จะได้ไม่มีใครต้องอึดอัดใจ”

นันทวัฒน์โล่งใจที่เธอเข้าใจ ตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยขัดใจคุณแม่เลย ยกเว้นเรื่องปรางค์ทอง ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว แต่นั่นก็ทำให้คุณแม่ของเขา อกแทบแตก

“เราไม่ต้องขัดใจคุณป้าก็ได้นี่คะ ทำอย่างที่ท่านสบายใจ แต่เราก็รู้กันไงคะว่ายุริญเป็นน้องสาวพี่วัฒน์ โอเคไหม...งั้นวันนี้พี่วัฒน์ส่งยุริญแค่นี้ก็พอ ยุริญไปนะคะ” มยุริญว่าแล้วลงจากรถ นันทวัฒน์ไม่อยากปล่อยให้เธอกลับบ้านเองตามลำพังอาสาจะไปส่ง แต่เธอยืนกรานจะกลับเอง

“ไปเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงยุริญหรอกค่ะ น้องสาวคนนี้เก่งนะคะ”

“งั้นก็ดูแลตัวเองนะครับ พี่ไปนะ” นันทวัฒน์มองเธออย่างชื่นชมก่อนจะเคลื่อนรถออกไป ทันทีที่รถของเขาลับสายตา มยุริญมองไปรอบๆอย่างหนักใจ เพราะเกิดมายังไม่เคยนั่งแท็กซี่มาก่อน ได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี หลังจากครุ่นคิดอยู่ริมถนนพักหนึ่ง หญิงสาวตัดสินใจโบกมือเรียกแท็กซี่ โชคไม่ดีเจอโจรในคราบคนขับแท็กซี่ เธอเห็นท่าทางไม่น่าไว้ใจก็เลยไม่ยอมขึ้นรถ เขาไม่พอใจลงมาโวยวายที่ทำให้เสียเวลา

“ฉันขอโทษค่ะ ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ไม่ไปแล้วค่ะ เอางี้นะคะ ฉันจ่ายค่าเสียเวลาให้คุณก็แล้วกัน ขอโทษจริงๆ” มยุริญหยิบเงินสองร้อยบาทให้คนขับรถ เขาเห็นเธอมาคนเดียว อีกทั้งบริเวณนั้นไร้ผู้คน พยายามจะฉุดเธอขึ้นรถให้ได้ ก่อนเธอจะเสียทีให้คนชั่ว นันทวัฒน์เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน ถามว่ามีเรื่องอะไรกัน คนขับแท็กซี่อ้างว่าเธอเรียกรถแล้วไม่ยอมขึ้นทำให้เขาเสียเวลา เขาควักแบงก์หนึ่งพันบาทชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่โจรชั่วได้คืบจะเอาศอก คิดจะตบทรัพย์คราวเดียวกันสองคน ชักมีดขึ้นมาขู่ให้ส่งของมีค่าให้

“เอ้านี่ เอาไปเลยทั้งกระเป๋า อย่าทำอะไรพี่วัฒน์นะ” มยุริญยื่นกระเป๋าให้ โจรกระชากไปเป็นของตัว แต่นันทวัฒน์กระชากกลับไม่ยอมให้

ระหว่างที่ทั้งคู่ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน พิชิตขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาช่วยไว้ทัน จัดการโจรสะบักสะบอม โจรไหว้ปลกๆขอร้องอย่าทำร้ายตนอีก แต่เขาไม่ยอมจะเอาเรื่องให้ได้ นันทวัฒน์ต้องสั่งให้เขาพอได้แล้ว โจรชั่วสบช่องวิ่งหนีขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว แทนที่บอดี้การ์ดผู้ซื่อสัตย์จะได้รับคำขอบใจ กลับถูกเจ้านายต่อว่า

“ฉันบอกแล้วไงว่าวันนี้ไม่ต้องตามฉัน เห็นฉันไม่มีมือมีเท้าหรือไง เรื่องแค่นี้ฉันจัดการเองได้ นายกลับไปได้แล้ว” พูดจบนันทวัฒน์หันไปปลอบมยุริญที่ร้องไห้น้ำตาไหลพรากด้วยความหวาดกลัว แล้วประคองขึ้นรถขับออกไป พิชิตได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง

ooooooo

หลังได้ฟังเรื่องราวจากปากธงไทย วิวหยิบบัตรประจำตัวประชาชนให้ด้วยความเต็มใจ โดยมี ชีสเค้กกับเจ๊แน๊ตมองอย่างไม่ค่อยจะชอบใจนัก เขารับบัตรของวิวมาดู ก่อนจะยิ้มดีใจ

“วิวกับผู้หญิงคนนั้นเลือดกรุ๊ป โอ เหมือนกัน ไทยเลยต้องมารบกวนวิว...เอ่อ ความจริงไทยก็ไม่รู้จะไปรบกวนใคร เพราะไทยก็มีแต่วิวนี่แหละ”

“คิดมากน่า เรื่องเล็กแค่นี้เอง วิวช่วยได้สบายมาก แล้วนี่มายังไง อย่าบอกนะว่าขับรถมาเองน่ะ”

“เปล่าจ้ะ ไผ่ขับรถมาให้น่ะ ขอบใจมากนะวิว ไทยจะไม่ลืมบุญคุณเลย ไทยไปก่อนนะ” ธงไทยผลุนผลัน จากไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกให้กลับมาก่อนของวิว เจ๊แน๊ตสั่งให้ชีสเค้กไปหยิบดอกบัวมาให้เจ้านายอีกดอกหนึ่ง เพราะเธอก็ยังคงเป็นแม่สายบัวแต่งตัวเก้ออยู่ดี

“อะไรอีกล่ะเจ๊ ไทยเขาเดือดร้อนมา เป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยกันสิ”

“ค่ะ เพื่อน...คอยดูเถอะ วันหนึ่งจะมานั่งเสียใจ” เจ๊แน๊ตเตือนด้วยความเป็นห่วงไม่อยากเห็นวิวต้องมาเสียใจกับความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนระหว่างเธอกับธงไทย...

ขณะนวลกำลังเยี่ยมไข้หญิงสาวปริศนาอยู่ข้างเตียง เห็นลูกตาของเธอกลอกไปมาทั้งที่ยังหลับอยู่ ร้องเรียกพยาบาลที่กำลังปรับสายน้ำเกลือให้มาช่วยดู เธอตั้งข้อสังเกตว่าคนไข้น่าจะกำลังฝันดีอยู่เพราะสีหน้าเปื้อนยิ้ม แต่ครู่เดียวเท่านั้นลูกตาของหญิงสาวปริศนากลอกไปมาเร็วขึ้น ร่างกระตุกอย่างแรงก่อนจะลืมตาโพลงด้วยความหวาดกลัว พยาบาลเห็นท่าไม่ดีรีบกดปุ่มเรียกหมอ ธงไทยเข้ามาเห็นเธอชักกระตุก ปรี่เข้าไปจับมือไว้อย่างให้กำลังใจ สักพัก หมอกับพยาบาลอีกสองคนวิ่งพรวดเข้ามา

“ไทย หมอมาแล้วลูก คุณหมอคะช่วยเธอด้วยค่ะ”

ธงไทยปล่อยมือเธอแล้วถอยออกมา นวลรู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกรีบเอามือกุมไว้ พยาบาลหันมาเห็นก็ทักว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เธอไม่อยากให้ลูกรู้ถึงอาการป่วย ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอะไร คงจะตกใจเรื่องนี้ ธงไทยมัวแต่เป็นกังวลเรื่องของหญิงสาวปริศนาไม่ทันสังเกตเห็น นวลถึงกับถอนใจโล่งอก

ooooooo

นันทวัฒน์พามยุริญไปกินข้าวเพื่อปลอบขวัญแล้วเลยไปซื้อของกินฝากมยุราคุณหญิงแม่ของเธอด้วย กว่าเขาจะพาเธอไปส่งบ้านพระอาทิตย์ลับขอบฟ้านานแล้ว มยุราตำหนิเขาทีเล่นทีจริงว่าไปเที่ยวไหนกันมาถึงกลับเอาป่านนี้ นันทวัฒน์ขอโทษท่านด้วยที่ทำให้เป็นห่วง

“เอ่อ คือยุริญเป็นคนชวนพี่วัฒน์ไปซื้อขนมเจ้าอร่อยที่คุณแม่ชอบน่ะค่ะ เห็นคุณแม่ไม่ได้กินนานแล้ว”

ต่างฝ่ายต่างโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง ทำเอามยุราอดขำไม่ได้ บอกให้ทั้งคู่เลิกรับผิดแทนกันได้แล้ว วันนี้ท่านยกโทษให้หนึ่งวัน จากนั้นไม่นาน มยุริญเดินมาส่งนันทวัฒน์ที่รถ เขารีบออกตัวที่พาเธอเถลไถลจนมืดค่ำ เนื่องจากไม่อยากให้มยุราตกใจที่เห็นเธอร้องไห้

“ก็คงจะตกใจจริงๆนั่นแหละค่ะพี่วัฒน์ คุณแม่เลี้ยงยุริญมาแบบไม่เคยปล่อยให้ไปไหนเองเลย ดูสิคะโตจนป่านนี้แล้ว ยังเงอะๆงะๆจนวันนี้เกือบจะโดนดีซะแล้ว”

“ถ้าวันนี้น้องยุริญเป็นอะไรไป พี่คงเสียใจไปตลอดชีวิตที่ปล่อยให้น้องยุริญลงรถไปแบบนั้น”

“ยุริญเองต่างหากล่ะคะที่ทำเป็นเก่ง เอาเป็นว่าเราเลิกรู้สึกผิดกันเถอะนะคะ ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว ถือซะว่ายุริญจะได้มีประสบการณ์ไปอีกแบบ สนุกดีออก” หญิงสาวว่าแล้วหัวเราะชอบใจ นันทวัฒน์พลอยขำไปด้วย รู้สึกดีที่เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดี มยุราแอบมองมาจากในบ้าน พอใจกับท่าทีของทั้งคู่

อ่านละครเพลืงตะวัน ตอนที่ 1 วันที่ 23 ส.ค. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ