อ่านละครข้ามากับพระ ตอนที่ 4

อ่านละครข้ามากับพระ ตอนที่ 4

แก้วตาบาดเจ็บมีแผลถลอกเพียงเล็กน้อย กลับถึงปางไม้ เธอให้ภูและคนงานออกไปตามหาศักดิ์แต่ไม่พบ ภูคาดการณ์ว่าเขาอาจจะยังไม่ตายแล้วหนีไปได้ กับอีกอย่างเขาตายแล้ว ศพอาจถูกพวกสัตว์ป่าลากไปกิน

ทั้งแก้วตาและมะขิ่นฟังภูแล้วหน้าสลด สุดจะคาดเดาว่าศักดิ์มีชะตากรรมแบบไหน...

ทางด้านเสือไพรที่กลับไปยังชุมโจร เขาจับกลุ่มประชุมกับสมุนว่านับวันคนของพวกเสี่ยกิจยิ่งน่ากลัวขึ้นทุกที เพลิงได้ทีติงพ่อว่าน่าจะให้ตนออกไปช่วยตั้งแต่แรก เสือส่งได้ฟังก็หัวเราะในลำคอก่อนพูดตรงๆว่า

“ถ้าทำอย่างนั้น ข้าคงจะต้องแบกศพเอ็งกลับมา”

เพลิงชักสีหน้าไม่พอใจ หาว่าเสือส่งดูถูกตนเกินไป เสือไพรเลยต้องเตือนให้เพลิงรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ แล้วที่สำคัญเขายังมีความผิดที่ขัดคำสั่งตนอยู่

“พ่อน่ะเข้าข้างแต่คนอื่น หรือว่าเห็นฉันเป็นแค่ลูกที่เก็บมาเลี้ยง”

“เอ็งคิดอย่างนั้นจริงๆหรือ”

“แล้วถ้าพ่อรักฉัน จะทำแบบนี้กับฉันไหมล่ะ”

เพลิงยอกย้อนแล้วเดินหนีไป สมุนคู่ใจสองคนรีบตาม เสือไพรส่ายหน้า นึกถึงอดีตเมื่อครั้งเก็บเพลิงที่ยังแบเบาะมาเลี้ยงเพราะพ่อแม่ถูกไฟคลอกตายคาบ้าน

เลี้ยงเขาเติบโตมาถึงวันนี้ เสือไพรได้แต่ปลดปลงว่าไม่รู้จะประคองเพลิงไปถึงเมื่อไหร่ ความมุทะลุของเขาสักวันต้องเจอดี

ooooooo

ได้เวลาอาหารเย็น คณะของเสี่ยกิจร่วมโต๊ะกันพร้อมหน้า แววกับมะขิ่นมีหน้าที่คอยดูแล แววท่าทีเกรงกลัวเกริกและแพรพรรณ เพราะเธอแอบเห็นพวกเขามีสัมพันธ์ลึกซึ้งเมื่อกลางวัน

ขณะที่เกริกก็คอยจิกตาข่มแววอยู่บ่อยๆ แววกลัวถึงกับมือไม้สั่นทำทัพพีตักข้าวหล่น โดนแพรพรรณตวาดแว้ดว่าซุ่มซ่าม แววรีบขอโทษแล้วผละออกห่างตามคำสั่งเสี่ยกิจที่ให้มะขิ่นเข้ามาตักข้าวแทน

เกริกยังมองแววสายตาคมกริบ แววอยู่ไม่ได้เดินหนีไปทางห้องครัว สักครู่ภูเข้ามาแตะไหล่ทัก แววสะดุ้งโหยง จนภูสงสัยว่าทำไมต้องตกใจขนาดนี้ด้วย

แววทำเหมือนจะบอกสิ่งที่รู้เห็น แต่แล้วเปลี่ยนใจเก็บเงียบเอาไว้ คุยกันเรื่องอนาคตที่ภูบอกว่ากลับไปเที่ยวนี้จะไปขอแววกับแม่

“แววไม่ขัดข้องหรอกจ้ะ แต่แม่แววน่ะสิ”

“พี่ตัดสินใจแล้ว พี่จะพูดให้แม่แววเข้าใจ สินสอดพี่อาจจะไม่มาก แต่พี่รับรองว่าพี่จะดูแลแววอย่างดี”

“แววดีใจนะจ๊ะที่พี่ภูให้เกียรติแววตลอดมา ทั้งๆ ที่แม่ของแววก็กีดกันพี่ทุกอย่าง”

“เพื่อแวว พี่ทนได้จ้ะ”

ภูกุมมือแววอย่างนุ่มนวล จู่ๆมะขิ่นส่งเสียงกระแอมเข้ามา สองคนผละออกห่างกันทันที มะขิ่นอมยิ้มหยอกล้อทั้งคู่ว่าตนไม่เห็นอะไร ภูกับแววเลยเก้อเขิน...

ooooooo

คืนเดียวกัน ชาวบ้านกะเหรี่ยงที่พบศักดิ์เมื่อตอนเย็น พวกเขาพาศักดิ์มาที่สำนักสงฆ์ของพระอูถั่นเพราะคิดว่าตายแล้ว เมื่อหลวงพ่อเสือรู้เรื่องจึงอาสาเฝ้าศพที่ศาลา แต่ผ่านไปสักพัก ศักดิ์ที่ยังไม่ตายก็ดิ้นขลุกขลักในโลงก่อนหล่นลงมาอยู่กับพื้น

ฝาโลงเปิดออกเผยให้เห็นศักดิ์เต็มๆตา

หลวงพ่อเสือตกใจรีบพาศักดิ์ไปพบพระอูถั่น ให้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ท่านฟังแล้วกลับบอกว่า

“เป็นไปได้ยังไง พวกเสือไพรไล่ยิงโยม”

“จริงครับหลวงพ่อ เออ ผมจำหน้าได้คนหนึ่ง ไอ้นี่แหละที่ปล้นรถโดยสาร”

“พวกเสือไพรเองเหรอ”

“ครับหลวงพ่อ แต่หัวหน้ามันชื่อเพลิง มันบอกว่าเป็นลูกชายเสือไพร”

“อาจเป็นไปได้ เขาว่าลูกเสือไพรคนนี้เหี้ยมโหดผิดพ่อ”

“หมายความว่าเสือไพรไม่โหดหรือครับ”

“โหดแล้วเขาจะสร้างวัดนี้ทำไม”

“มันยังไงกันแน่...ผมเห็นพวกนั้นไล่ล่าเสือไพรอย่างกับเป็นโจรฆ่าข่มขืนสัก 500 ศพ” ศักดิ์บ่นอย่างไม่เข้าใจ หลวงพ่อเสือบอกว่ายังมีเรื่องราวอีกมากที่เราไม่อาจล่วงรู้ได้ ศักดิ์ฉงนท้วงว่าหลวงพ่อพูดเหมือนรู้อย่างนั้นแหละ

“หลวงพ่อจะไปรู้ได้ยังไง พูดมั่วๆ แล้วนี่เอ็งจะเอายังไง”

“ขอผมอยู่ที่นี่สักสองสามวันแล้วค่อยคิดครับ”

หลวงพ่อเสือส่ายหน้า...นึกในใจว่าหนีมันไม่พ้นจริงๆ

“เออจริงสิ โยมว่าโยมถูกยิงตกหน้าผา แล้วโยมรอดมาได้ยังไง”

พระอูถั่นสงสัย ศักดิ์อวดอ้างทันที พูดพร้อมหยิบเอาก้อนหินที่หลวงพ่อเสือเสกให้ออกมา

“นี่ไง มันยิงผมไม่ถูก ผมเสียหลักลื่นตกหน้าผาลงมาก่อน เพราะหินศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงพ่อเสือเสกให้ผมก้อนนี้แท้ๆ”

พระอูถั่นมองก้อนหินแล้วมองหน้าหลวงพ่อเสืออย่างทึ่งจัด หลวงพ่อเสืออยากจะถ่อมตัวก็เลยไม่กล้า

ooooooo

เกริกกลัวแววพูดมากเรื่องของเขากับแพร-พรรณ จึงสั่งเสือทองจัดการแวว เสือทองใช้ช่วงเวลากลางดึกจับแววไปขืนใจแล้วฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะทำทีล่อหลอกภูให้ออกมาเจอศพแล้วโยนความผิดให้หน้าตาเฉย

สารวัตรพนามาเห็นกับตาว่าภูอยู่กับศพแววจึงควบคุมตัวภูไว้สอบสวน ภูพูดไม่ออกทั้งที่แน่ใจว่าเป็นฝีมือเสือทองที่ฆ่าคนรักของตน...แล้วการสอบสวนก็เริ่มขึ้นต่อหน้าผู้คนจำนวนไม่น้อยในปางไม้

“นายบอกว่านายวิ่งตามคนที่น่าสงสัยมางั้นหรือ”

ภูตอบรับ เสือทองยิ้มย่ามใจ อธิบายเสริมว่า

“ส่วนผมตามคนที่น่าสงสัยมาเหมือนกัน ไม่นึกว่าไอ้คนคนนั้นจะเป็นแก ไอ้ภู”

“ฉันเปล่า ฉันก็วิ่งตามมันมาเหมือนกัน”

เกริกจ้องอยู่นานแล้วได้จังหวะ บอกว่าดูจากรูปการณ์ ตนเชื่อว่าคนร้ายที่ฆ่าแววน่าจะเป็นนายภู

“จริงไหมเสี่ยกิจ”

“ใช่ ผมก็คิดอย่างนั้น”

ภูเลิ่กลั่กที่โดนรุม ทั้งโกรธและเสียใจ...ทันใดแก้วตาเข้ามาพร้อมมะขิ่น แก้วตาพูดโพล่งว่าเธอไม่เชื่อ เธอรู้ว่าภูกับแววรักกันมาก แล้วภูจะฆ่าแววทำไม

แพรพรรณหมั่นไส้แก้วตา สวนทันทีว่า “นั่นก็จริง แต่เห็นว่าแม่ของนังแววมันไม่อยากได้ลูกเขยแบบนี้ไม่ใช่หรือ ลูกเขยจนๆ ไม่มีอนาคตน่ะ บางทีแววอาจจะได้คิดแล้วปฏิเสธ นายภูก็เลย...”

“ไม่นะครับ ผมกับแววรักกัน ผมไม่มีวันทำกับแววแบบนี้แน่”

เกริกกลัวเรื่องบานปลายรีบโยนไปทางสารวัตรพนาให้ตัดสิน

“ผมคงต้องควบคุมตัวนายภูไว้ก่อนครับ ในฐานะผู้ต้องสงสัย”

“สารวัตรทำแบบนั้นไม่ได้นะ”

“ขอโทษนะครับคุณแก้วตา กฎหมายให้อำนาจผมไว้ ถ้านายภูคิดว่าไม่ผิดก็มีโอกาสไปชี้แจงในศาลอยู่แล้ว พรุ่งนี้ผมคงต้องควบคุมตัวนายภูไปขังไว้ก่อน”

แก้วตาเงียบไปอย่างจนใจ...ภูจ้องหน้าเสือทองอย่างสุดแค้น

ooooooo

เมื่ออยู่กันตามลำพัง หลวงพ่อเสือซักถามศักดิ์เรื่องเจอท่อนไม้ในป่าที่คิดว่าเป็นของเสี่ยกิจ

“ตราที่ตอกไม้มันเหมือนกันเปี๊ยบเลยน่ะสิหลวงพ่อ”

“แล้วลูกสาวเสี่ยกิจเขารู้หรือเปล่า”

“คงไม่ครับ เรื่องนี้ผมไม่กล้าบอกใคร พูดมากอาจโดนฆ่าปิดปาก”

“แต่ถ้าไม่พูดบ้าง ก็อาจจะมีคนเดือดร้อน”

“ผมว่าจะไม่กลับไปแล้ว พวกเขาคงคิดว่าผมตาย ไปแล้ว คงไม่มายุ่งกับผมอีก”

“เอ็งคิดแบบนั้นจริงๆหรือ” หลวงพ่อถามออกไป ทั้งที่ในใจรู้ว่าศักดิ์ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว

ศักดิ์นิ่งเงียบ ไม่ยืนยันคำเดิมหรือปฏิเสธ...

เช้าวันถัดมาที่หมู่บ้าน มะนาวกับมะขวิดช่วยกันจัดข้าวของเตรียมไปขายในตลาด ตาชูเข้ามาเตือนหลานๆ ให้เอาสิ่งของไปขอบคุณผู้กองพงษ์ที่พามาส่งบ้านอย่างปลอดภัย แต่มะนาวปากดีว่าเอาไปฝากทำไม ที่เขามาส่งก็เพราะเขาต้องทำหน้าที่ตำรวจ

“แล้วถ้าเขาไม่ทำหน้าที่ล่ะ ถ้าเขานิ่งดูดาย ไม่ช่วยเอ็งล่ะ”

“ตาพูดเหมือนกับชอบผู้กองนี่เลยนะเนี่ย”

“ตาก็ทำไปตามมารยาท”

“ฉันว่าตาพูดถูกนะพี่ นี่เอาน้ำผึ้งไปฝากเขาละกัน ...มีพี่เขยเป็นตำรวจก็คราวนี้แหละ”

มะขวิดพูดพึมพำแต่ไม่รอดหูพี่สาว โดนเขกหัวไปหนึ่งที

“นี่แน่ะ เชียร์ดีนัก แต่เสียใจ ตาไม่ชอบตำรวจใช่ไหม”

“ใช่...แต่ยกเว้นคนนี้”

ตาชูหักมุมซะมะนาวหน้าเหวอ ขณะที่มะขิ่นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอใจ อยากมีพี่เขยเป็นตำรวจใจจะขาด

ooooooo

สายวันเดียวกัน ศักดิ์กราบลาหลวงพ่อออกจาก สำนักสงฆ์...

ฝ่ายผู้กองพงษ์มาทำงานพร้อมจ่าโชค เขาจะรื้อคดีเสือไพรตามที่พูดไว้ จ่าโชคแปลกใจและคิดว่าสารวัตรพนาต้องไม่พอใจ

“เขามีสิทธิ์อะไรมาไม่พอใจ ในเมื่อมันเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ตั้งแต่ผมมานี่ ผมยังไม่ได้ดูสำนวนคดีต่างๆของเสือไพรเลย”

“ผมอยู่นี่มาเกือบยี่สิบปี ยังไม่เคยเห็นเลย ผู้กองคงต้องต่อคิวผมแล้วล่ะ”

“ผมจะลองคุยกับสารวัตรพนาดู”

การสนทนายุติลงเมื่อมีตำรวจนายหนึ่งเข้ามาบอกผู้กองพงษ์ว่ามีคนขอพบมะนาวกับมะขวิดนั่นเอง สองพี่น้องนำสิ่งของจากป่าหลายอย่างมาให้ผู้กอง ระหว่างนี้เองสารวัตรพนาควบคุมตัวภูเข้ามา ทุกคนมองด้วยความแปลกใจ

เมื่อได้ยินว่าภูเป็นผู้ต้องสงสัยคดีข่มขืนแล้วฆ่า ทุกคนไม่อยากเชื่อ ผู้กองพงษ์อาสาสอบสวนเองแต่สารวัตรพนาไม่ยินยอม

มะนาวกับมะขวิดกลับไปอย่างติดค้างคาใจ ไม่เชื่อว่าคนอย่างภูจะข่มขืนผู้หญิงได้ลงคอ

ooooooo

เสือไพร เสือส่ง และเพลิงลอบเข้ามาในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านด้วยจุดประสงค์บางอย่าง พวกเขาเดินปะปนกับชาวบ้านแล้วหามุมสงบซุบซิบกัน

“ตกลงพี่จะเอาจริงๆหรือ” เสือส่งถาม

“มันต้องสั่งสอนให้พวกมันรู้บ้าง โดยเฉพาะไอ้ท่านเกริก”

“แล้วพ่อจะปล้นที่ไหนล่ะ”

“ให้มันเบาหน่อยไอ้เพลิง อย่าห้าวนัก”

“แหมพ่อ เสือไพรจะประกาศปล้นทั้งที”

เสือไพรปรามเพลิงด้วยสายตาเข้มดุ เพลิงเลยเงียบลง

“แล้วไพรมองที่ไหนไว้” เสือส่งถามอีกครั้งแต่ยังไม่ได้คำตอบชัดเจนจากเสือไพร

ส่วนที่โรงพัก แก้วตากับมะขิ่นมาเยี่ยมภู สิบเวรยินยอมแต่กำชับแก้วตาว่าอย่านานเพราะสารวัตรพนาสั่งห้ามใครเยี่ยมโดยเด็ดขาด

ภูอยู่ในห้องขังสีหน้าหม่นหมอง แก้วตาปลอบใจ เรื่องแวว และย้ำว่าไม่ต้องห่วง ตนจะหาทางช่วยเขาออกมาให้ได้ แม้ว่าสารวัตรพนาจะไม่ให้ประกันตัว

ผู้กองพงษ์ไม่เข้าใจทำไมไม่ให้ประกันตัว สารวัตรพนาอ้างว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เกรงว่าภูจะหลบหนี

“แต่ผมว่าเขาน่าได้รับการประกันตัวนะครับ”

“นี่คุณมาเป็นนายผมตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

สารวัตรพนาไม่พอใจแล้วคาดโทษ “ผมบอกว่าไม่ก็ไม่สิ นี่ผมยังไม่สอบสวนคุณเรื่องเอารถราชการไปถลุงนะ งานนี้มีหักเงินเดือนแน่ บอกจ่าโชคลูกน้องคุณด้วย ไปได้แล้ว ผมจะทำงาน”

ผู้กองพงษ์เซ็ง แล้วออกไปโดยไม่ลืมทำความเคารพ...เวลานั้นภูยังสนทนาอยู่กับแก้วตา เขาอยากรู้ว่าทางบ้านแววว่ายังไงบ้าง

“ฉันจัดการเรื่องงานศพแล้วก็ช่วยเงินไปแล้วล่ะ”

“ผมหมายถึง...”

“พวกเขาเชื่อตำรวจ”

ภูเจ็บใจ ยืนยันว่าตนถูกใส่ความ

“ฉันรู้...ฉันไม่ทิ้งนายหรอก”

“ขอบคุณครับ”

“ฉันต้องไปก่อนล่ะ อยากได้อะไรเพิ่มไหม”

ภูไม่ต้องการอะไร สายตาเขม้นมองไปที่กิ๊บติดผมของแก้วตา

แก้วตากับมะขิ่นกลับออกมาจากหน้าห้องขัง ตั้งใจจะไปหาสารวัตรพนา แต่เจอผู้กองพงษ์เสียก่อน

“ถ้าพบเรื่องของนายภูล่ะก็ คงไม่ได้หรอกครับ”

“ทำไม”

“ก็ผมเพิ่งโดนเล้งเรื่องนี้มาน่ะสิครับ”

“งั้นฉันพบคุณแทนก็แล้วกัน”

ผู้กองพยักหน้าด้วยความเต็มใจ

ooooooo

พวกเสือไพรเดินมาที่ท่ารถสองแถวใกล้ตลาด เสือส่งกับเสือไพรซุบซิบบางอย่างกันก่อนจะให้เพลิงรออยู่ที่นี่ พอเดินพ้นเพลิงมา สองเสือก็พูดเรื่องปล้นกันอีก

มะนาวกับมะขวิดมาเดินตลาด หาซื้อเป็ดพะโล้ไปฝากตาชู เสร็จแล้วจะขึ้นรถสองแถวกลับบ้าน ไม่คิดว่าต้องมาเจอไอ้เพลิงตัวแสบ

เพลิงแค้นไม่หายที่วันนั้นตั้งใจขืนใจมะนาวแต่ไม่สำเร็จ วันนี้เจอกันก็เลยคิดจะฆ่าทิ้ง แต่พอจะลงมือก็มีเท้าของใครคนหนึ่งเตะปืนกระเด็นไป

“เฮ้ย! ใครวะ”

“แกยิงใครตกหน้าผาล่ะ”

เพลิงผงะ มองศักดิ์แทบไม่เชื่อสายตา...แล้วต่างฝ่ายต่างพุ่งเข้าชกต่อยกัน พยายามจะหยิบปืนที่พื้นขึ้นมา มะนาวหัวไววิ่งไปคว้าปืนหมายยิงเพลิงแต่กลัวถูกศักดิ์ เพราะทั้งคู่ยังซัดกันไม่หยุด พอได้จังหวะจะยิงก็หมดโอกาส เพราะเสือส่งกับเสือไพรกลับมาสกัด

มะนาวจำเสือส่งได้เพราะเคยช่วยเธอให้รอดพ้นจากเพลิง เสือไพรสั่งให้เพลิงยุติแล้วจ้องหน้าศักดิ์ฝากบอกคนที่นี่ด้วยว่าตนคือเสือไพร จะมาปล้นที่นี่อีกครั้ง

เสือไพรโปรยยิ้มก่อนพาคนของตนขึ้นรถจากไป ศักดิ์มองตามตาไม่กะพริบ รู้สึกเหมือนมีความผูกพันบางอย่างกับเสือไพร ขณะที่มะนาวกับมะขวิดยังอึ้งๆ งงๆ ไม่อยากเชื่อว่าเจอเสือไพรตัวเป็นๆ ท่าทางเขาใจดี ไม่น่ากลัวอย่างที่คนร่ำลือกัน

ooooooo

แก้วตากับผู้กองพงษ์ออกมาคุยกันในร้านอาหาร...แก้วตาไม่พอใจการทำงานของตำรวจ บ่นอุบว่ายังไม่ทันสอบสวนก็จะด่วนสรุปคดีเสียแล้ว

“ขอโทษนะครับคุณแก้วตา เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับผม คุณจะมาเหมาเข่งได้ยังไง คุณก็รู้ว่าผมถูกกันไม่ให้เกี่ยวข้องกับคดีนี้”

“แล้วแบบนี้จะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ยังไง”

“จริงๆแล้วส่วนตัวผมเชื่อคำให้การของนายภู ผมอ่านร่างสำนวนแล้วมันดูแปลกๆ มันเหมือนกับ...”

“จัดฉาก” แก้วตาชิงตอบอย่างรู้ทัน

“มันก็ยังสรุปไม่ได้อยู่ดี ผมว่าคุณปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมดีกว่า”

“อ้าว...ไหนว่าถูกเขี่ยออกจากคดีแล้วไง”

“ถึงถูกเขี่ย ผมก็พอจะช่วยได้ คุณอยู่เฉยๆละกัน”

“เสียใจ งานนี้ฉันเป็นทนายจำเลยย่ะ นายภูเซ็นแต่งตั้งฉันเป็นทนาย คงไม่ให้ฉันยุ่งไม่ได้มั้ง” แก้วตาเชิดใส่ พงษ์เลยนิ่งไปอย่างเซ็งๆ

ด้านมะนาวกับมะขวิดกลับถึงบ้านก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดให้ตาชูฟังถึงความเหิมเกริมของเพลิง ตาชูรู้จักเพลิงดีว่าเป็นลูกเลี้ยงเสือไพร แต่นิสัยไม่เหมือนกัน ซึ่งตรงกับที่หลานๆรู้เห็นว่าเสือไพรไม่มีท่าทางโหดเหี้ยมอย่างที่คนเล่าลือ แถมยังใจดีปล่อยพวกเรากลับมาโดยไม่ทำอะไรเลย

“ตอนนี้เข้าใจหรือยังล่ะว่าสิ่งที่ได้ยินกับสิ่งที่เห็นควรจะเชื่อใคร”

“ตาพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ”

“วันหนึ่งเอ็งจะเข้าใจเอง ว่าแต่หลวงพ่อท่านสบายดีนะ”

“สบายดีครับ ท่านคิดว่าจะจำพรรษาอยู่ที่นั่นสักระยะ”

“ไหนว่าจะธุดงค์ ท่านจะมัวรออะไร” ตาชูบ่นพึมพำ

ศักดิ์อดนึกถึงหลวงพ่อไม่ได้ ก่อนที่เขาจะกราบลาออกจากสำนักสงฆ์มา ท่านพูดเรื่องเสี่ยกิจตัดไม้ว่า ถ้าปล่อยให้เสี่ยกิจกับนายเกริกทำแบบนี้ต่อไปบ้านเมืองเราคงกลายเป็นทะเลทรายแน่ ท่านอยากให้ศักดิ์ใช้สติปัญญาสู้รบกับคนพวกนี้ เกิดมาชีวิตหนึ่งถ้าทดแทนคุณแผ่นดินไม่ได้แล้วจะอาศัยอยู่ไปทำไม

คำทิ้งท้ายของหลวงพ่อทำให้ศักดิ์เชื่อว่าท่านเองก็รักแผ่นดินไทย จึงบอกตาชูว่าหลวงพ่อคงอยากอยู่ดูอะไรบางอย่างถึงยังไม่ออกธุดงค์

“แสดงว่าท่านต้องมีเหตุผลที่สำคัญทีเดียว”

“คงอย่างนั้นน่ะครับ”

“แล้วเรื่องพี่ภูล่ะ จะเอายังไงดี” มะนาวถามความเห็น...มะขวิดบ่นสงสารพี่ภูที่อยู่ดีๆก็มาติดคุก ตาชูไม่รู้จะช่วยยังไง ได้แต่เปรยว่ายุคนี้มันยุคคนชั่วจริงๆ

บ่ายวันเดียวกัน เสือทองไปที่โรงพัก เข้าไปเยาะเย้ยภูถึงหน้าห้องขังและยอมรับหน้าชื่นตาบานว่าตนเป็นคนฆ่าข่มขืนแวว ภูกลั้นอารมณ์แทบไม่อยู่ เค้นเสียงถามมันว่าทำไมต้องตามจองล้างจองผลาญตน

“แกก็รู้ว่าฉันต้องการอะไร”

“แกนี่ยังงมงายไม่เลิก ฉันไม่มีหรอก ไอ้สิ่งที่แกต้องการน่ะ”

“ฉันไม่เชื่อ แกสยบช้างตกมันได้ยังไงถ้าแกไม่ได้เรียนวิชานี้...ฉันมีข้อเสนอ เอาตำรามาให้ฉัน แล้วฉันจะช่วยแกออกไปจากที่นี่”

“คนเรานี่มันก็แปลก คิดจะปล่อยเสือให้ไปกัดตัวเอง”

“ก็ตามใจ ยังไงแกก็ต้องตายอยู่แล้ว...เปลี่ยนใจยังทันนะ” พูดจบ เสือทองเดินจากไป ภูมองตามแววตากร้าว ในใจคิดล้างแค้น

ooooooo

แก้วตาให้มะขิ่นกับคนงานเก็บรวบรวมสิ่งของของภูในห้องพักมาใส่รถ โดยไม่รู้ว่าเด่นลูกน้องเสือทองจับตามองอย่างมาดหมาย...

ส่วนที่ไนต์คลับของแพรพรรณ เสี่ยกิจมานั่งดื่มแต่หัววัน บ่นเรื่องที่เกริกจะออกสัมปทานป่าไม้ตรงเขตเสือไพร คาดว่าเขาคงมีเหตุผลไม่น่าไว้วางใจ แพรพรรณรู้ว่าเสี่ยอารมณ์ไม่ดีจึงคลอเคลียเอาใจครู่หนึ่งก่อนจะผละไป

เพชรเข้ารายงานเสี่ยเรื่องฆ่าพระใบ้หวยไม่สำเร็จเพราะมีคนมาช่วย แต่จะขอแก้มือ เสี่ยกิจกำลังเครียดเลยโบกมือไล่สมุนออกไปด้วยความรำคาญ

สารวัตรพนานำใบปลิวที่เสือไพรเขียนด้วยลายมือตัวโตประกาศว่าจะปล้นอีกครั้งสัปดาห์หน้าไปให้เกริกดูถึงบ้านอย่างเจ็บใจและแค้นเคือง

“มันท้าทายผมมาก คราวนี้ผมคงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดซะที”

“ดี ฉันจะให้นายทองกับคนของเขาคอยช่วยอีกแรง”

“ไม่เป็นไร นี่ถิ่นผม ผมดูแลได้”

“แต่ผมว่าสารวัตรควรมีคนช่วย ไม่อย่างนั้นสารวัตรอาจไม่เหลือพื้นที่ที่จะดูแลก็ได้”

สารวัตรพนาชะงัก ตีความคำพูดของเกริกว่าตนอาจจะโดนย้าย จึงไม่สาวความยาวเปลี่ยนไปคุยเรื่องคดีของภู ถามเกริกว่าจะให้ตนทำยังไง

“ก็ทำไปตามกระบวนการของกฎหมาย”

“แต่ตอนนี้คุณแก้วตาเข้ามาเป็นทนายให้นายภู”

“หนูแก้วตานี่ใจนักเลงจริงๆ ฉันชอบ”

“แต่ผมเกรงว่านายภูจะหลุดน่ะสิครับ จะว่าไปแล้วหลักฐานในคดีก็อ่อนด้วย”

“ถ้ามันอยู่ไม่ถึงขึ้นศาลล่ะ” เกริกพูดเป็นนัยๆ แต่สารวัตรพนาพอจะเข้าใจชะตากรรมของภู

แล้วคืนนี้เอง ชายฉกรรจ์สองคนถูกส่งเข้าไปจัดการกับภูในห้องขังแต่ไม่สำเร็จ ภูซัดพวกมันสลบแล้วเอากิ๊บติดผมที่ขอจากแก้วตาไว้ไขกุญแจห้องขังหนีออกมา พอดีผู้กองพงษ์กับจ่าโชคซึ่งรู้เรื่องเสือไพรประกาศปล้นจึงพากันมาเข้าเวรคอยระแวดระวัง เมื่อเจอผู้ต้องหาแหกห้องขัง ทั้งผู้กองและจ่าช่วยกันไล่กวด

ภูจวนตัวแต่ไม่ยอมมอบตัว ใช้วิชาอาคมทำให้ตัวเองรอดจากคมกระสุนของจ่าโชคแล้วหนีไปต่อหน้าต่อตา พอดีสารวัตรพนานำกำลังมาเห็นไวๆ เข้าใจว่าผู้กองพงษ์รู้เห็นเป็นใจปล่อยตัวภูไป จึงจะเล่นงานเขาให้หนัก

ooooooo

แก้วตาขับรถออกไปนอกเมืองกับมะขิ่นโดยไม่รู้ว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว เด่นลูกน้องเสือทองดักกลางทางเพื่อแย่งชิงตำราโบราณของภู พวกมันใส่ไอ้โม่งพรางหน้าทุกคนเพื่อไม่ให้สองสาวจำได้

ขณะที่พวกเธอตกอยู่ในอันตราย ศักดิ์โผล่มาช่วยไว้ แล้วให้แก้วตากับมะขิ่นหนีไปที่สำนักสงฆ์ ส่วนพวกเด่นก็ได้เสือทองตามมาสมทบ ศักดิ์จึงต้องหนีตายหัวซุกหัวซุน

เวลาเดียวกันที่โรงพัก สารวัตรพนากำลังหัวเสียจะเล่นงานผู้กองพงษ์กับจ่าโชคโทษฐานปล่อยผู้ต้องหาหนีไป ต้องควบคุมตัวพวกเขาไว้ก่อน

“ข้อหาอะไรไม่ทราบครับสารวัตร” พงษ์ถามเสียงขุ่น

“บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยให้ผู้ต้องหาหนี และกำลังจะโดนข้อหาขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ถ้าไม่ยอมให้ควบคุมตัวโดยดี...เอาตัวไปเลยหมวด”

ผู้กองพงษ์ไม่พอใจแต่ไม่กล้าขัดขืน ถูกหมวดควบคุมตัวออกมาพร้อมจ่าโชค เสียงโทรศัพท์มือถือสารวัตรพนาดัง เห็นชื่อเกริกโชว์หราจึงรีบรับสาย...

ดึกแล้ว เสี่ยกิจออกจากไนต์คลับพร้อมแพรพรรณ พอถึงบ้านก็ตกใจเมื่อสาวใช้บอกว่าแก้วตายังไม่กลับ คนเป็นพ่อห่วงลูก แต่แม่เลี้ยงไม่ยี่หระ บอกว่าโตๆกันแล้วเดี๋ยวก็กลับมาเอง

“แต่มันผิดสังเกต ปกติแก้วตาไม่เคยเหลวไหล ฉันว่ามันชักไม่ค่อยดีแล้ว...เพชรเอารถออก สั่งให้เพิ่มคนตามหาด้วย”

สั่งแล้วเสี่ยกิจเดินดุ่มไปขึ้นรถ แพรพรรณยืนนิ่งไม่ยินดียินร้าย แต่จะสะใจถ้าแก้วตาเป็นอันตราย

ooooooo

แก้วตากับมะขิ่นพยายามจะไปให้ถึงสำนักสงฆ์ แต่เพราะความมืดเป็นอุปสรรค สองคนจึงหยุดพักหาที่กำบังมิดชิดอาศัยนอน

“เราพักตรงนี้ก่อน เช้าค่อยเดินทางต่อนะคะ”

มะขิ่นกุลีกุจอจัดที่นอนให้เจ้านาย แก้วตามองสาวใช้ด้วยความซึ้งใจ

“คุณแก้วตานอนตรงนี้นะ เดี๋ยวมะขิ่นจะเฝ้ายามเอง”

“ขอบใจมากนะมะขิ่น”

“ไม่ต้องขอบใจมะขิ่นหรอกค่ะ ต่อให้รับใช้คุณแก้วตาตลอดชีวิต มะขิ่นก็ทดแทนบุญคุณคุณแก้วตาไม่หมดหรอก...ถ้าวันนั้นคุณแก้วตาไม่ช่วยซื้อมะขิ่นมาจากซ่องนรกนั่น ก็ไม่รู้ว่ามะขิ่นจะเป็นผู้เป็นคนเหมือนวันนี้หรือเปล่า”

มะขิ่นน้ำตาคลอ กุมมือแก้วตาแทนคำสัญญาว่าไม่มีวันทอดทิ้งกัน...

เวลานั้นขบวนรถของเสี่ยกิจถึงยังจุดเกิดเหตุ เห็นรถแก้วตาจอดข้างทาง ใกล้กันมีร่องรอยการต่อสู้ เสี่ยกิจสีหน้าไม่ดี สั่งเพชรให้ส่งคนไปขอกำลังจากสารวัตรพนา

ฝ่ายภูที่หลบหนีการตามล่าของตำรวจ เขาหนีออกจากเมืองสู่ป่าในสภาพอิดโรยอ่อนล้า แต่ยังแข็งใจไปต่อ...เช่นเดียวกับศักดิ์ที่หนีพวกเสือทอง จุดหมายของเขาคือสำนักสงฆ์

ooooooo

ศักดิ์เดินจนถึงเช้าใกล้จุดหมายเข้าไปทุกที แต่จู่ๆสมุนเสือทองโผล่มาดักหน้า หลังจากพวกมันตามหาทั้งคืนแล้วไม่เจอ

พวกมันต้องการตำราของภูที่ศักดิ์เก็บไว้ สั่งให้ส่งมา แต่ศักดิ์ไม่ยอมและพร้อมต่อสู้

ศักดิ์โดนรุมเกือบแย่ โชคดีแก้วตากับมะขิ่นเข้ามาเอาไม้ฟาดกบาลพวกมันสลบแล้วพากันเดินทางต่อไป...

ด้านผู้กองพงษ์กับจ่าโชคที่ถูกจับยัดห้องขังตั้งแต่เมื่อคืน เช้าขึ้นผู้กองออกอาการหงุดหงิด ตรงข้ามกับจ่าโชคที่นิ่งเฉย ไม่มีท่าทีไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

“ใจเย็นผู้กอง เดี๋ยวก็ชิน”

“ผมไม่เหมือนจ่านี่ ติดคุกจนชิน เราจะได้ออกไหมเนี่ย”

“มันก็ต้องแล้วแต่สถานการณ์”

เกริกกับสารวัตรพนาเดินเข้ามายืนหน้าห้องขัง มองผู้กองพงษ์อย่างหยามๆ

“ไม่น่าเลยผู้กอง เพิ่งมาใหม่แท้ๆ ทำงานพลาดซะนี่ ช่างไม่รู้ธรรมเนียมที่นี่เลย” เกริกข่มอยู่ในที

“ผมมีสิทธิ์สู้คดีไม่ใช่หรือ”

“แน่นอน กฎหมายให้ความยุติธรรมกับทุกคนเสมอ ผมจะให้คุณสองคนประกันตัวในวงเงินคนละสองแสนห้าหมื่นบาท”

“เงินขนาดนี้มันต้องถูกหวยรางวัลที่ 1 เท่านั้นนะสารวัตร”

“งั้นจ่าก็ควรจะซื้อหวยบ้าง” เกริกพูดแล้วหัวเราะหึๆ

“คิดซะ...แล้วหาคนมาประกัน ถ้าอยากออกมาข้างนอก” สารวัตรพนาสำทับแล้วกลับออกไปพร้อมเกริก

ผู้กองพงษ์กำมือแน่นเจ็บใจ...แน่ใจว่าถูกแกล้งเข้าให้แล้ว

ooooooo

อ่านละครข้ามากับพระ ตอนที่ 4

ละครข้ามากับพระ แนวแอคชั่น - ดราม่า
ละครข้ามากับพระ บทประพันธ์โดย พนา ภานุมาศ
ละครข้ามากับพระ บทโทรทัศน์โดย ภูมิ พญาไฟ
ละครข้ามากับพระ กำกับการแสดงโดย ทองก้อน ศรีทับทิม
ละครข้ามากับพระ ผลิตโดย บริษัท โคลิเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด
ละครข้ามากับพระ ออกอากาศ: ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.20 น.
ติดตามชมละครข้ามากับพระได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ละครข้ามากับพระ นักแสดงนำ ลิขิต บุตรพรม,ฮาน่า ลีวิส,
ที่มา ไทยรัฐ