อ่านละครเพลืงตะวัน ตอนที่ 1 วันที่ 24 ส.ค. 58

อ่านละครเพลืงตะวัน ตอนที่ 1 วันที่ 24 ส.ค. 58

“ยุริญเองต่างหากล่ะคะที่ทำเป็นเก่ง เอาเป็นว่าเราเลิกรู้สึกผิดกันเถอะนะคะ ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว ถือซะว่ายุริญจะได้มีประสบการณ์ไปอีกแบบ สนุกดีออก” หญิงสาวว่าแล้วหัวเราะชอบใจ นันทวัฒน์พลอยขำไปด้วย รู้สึกดีที่เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดี มยุราแอบมองมาจากในบ้าน พอใจกับท่าทีของทั้งคู่

ส่งนันทวัฒน์เสร็จ มยุริญกลับเข้าบ้าน เห็นแม่ยืนรอท่าอยู่ ร้องทักยังไม่นอนอีกหรือ ท่านออกตัวว่าแม้ท่านจะเป็นเพื่อนกับนันทามานานก็ไม่ได้หมายความว่าจะเห็นด้วยกับการจับคู่ระหว่างลูกกับนันทวัฒน์



“ถ้าลูกไม่ได้ชอบพอในตัวตาวัฒน์ก็ไม่จำเป็นต้องฝืน แต่ถ้าลูกชอบเขา แม่ก็ดีใจ”

“คุณแม่คะ ลูกยังไม่ได้คิดอะไรถึงขั้นนั้นหรอกค่ะ... ไปนอนดีกว่า” มยุริญตัดบท แล้วเดินเลี่ยงขึ้นห้องด้วยความเขินอาย มยุรามองตามยิ้มสมใจที่เห็นลูกมีใจให้นันทวัฒน์...

ในขณะที่มยุรากับนันทาร่วมมือกันจับคู่ให้มยุริญกับนันทวัฒน์ หมอเจ้าของไข้เข้ามาแจ้งธงไทยกับนวลว่าอาการของหญิงสาวปริศนาทรุดลงอีก ธงไทยเสนอให้ส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ แต่หมอไม่เห็นด้วยเนื่องจากสภาพของเธอไม่เหมาะจะเดินทาง นวลใจคอไม่ดี นี่เท่ากับจะปล่อยให้เธอตายอย่างนั้นหรือ

“หมอก็ทำทุกวิถีทางอย่างดีที่สุดแล้ว เธอมีโอกาสรอดไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ครับ เครื่องมือพวกนี้ช่วยให้เธอมีลมหายใจเท่านั้น ตอนนี้สมองของเธอตายแล้ว” คำพูดของหมอทำให้ธงไทยกับนวลใจเสีย

ครู่ต่อมา ธงไทยสั่งให้ไผ่พาแม่กลับไปพักผ่อนที่ไร่นวลตะวันก่อน ส่วนตนเองยังนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียู จนกระทั่งหลับพับอยู่ตรงนั้น พยาบาลเข้ามาสะกิดเรียก เขาใจหายคิดว่าหญิงสาวปริศนาจากไปแล้ว จะกระโจนไปดู เธอต้องปลอบให้ใจเย็นๆ คนไข้ยังอยู่ เธอแค่จะมาปลุกให้เขากลับไปพักผ่อน ธงไทยไม่อยากกลับ กลัวคนไข้จะตายตอนที่ตนเองไม่อยู่ พยาบาลมองอย่างเห็นใจ

“เอาอย่างนี้นะคะ ทางโน้นมีห้องพักที่คุณพอจะนอนพักได้ คุณไปพักสักหน่อยเถอะค่ะ ถ้ามีอะไรฉันจะรีบไปแจ้ง” ว่าแล้วพยาบาลเดินนำธงไทยออกไป

ooooooo

ที่บ้านเจ้าสัววัฒนา พิชิตร้อนใจนั่งไม่ติด ป่านนี้แล้วนันทวัฒน์ทำไมยังไม่กลับ ตัดสินใจจะโทร.หา แต่รถของเขาแล่นเข้ามาเสียก่อน บอดี้การ์ดหนุ่มรีบวิ่งไปต้อนรับ พร้อมกับขอโทษสำหรับเรื่องวันนี้ เขาต่อว่าว่าสั่งไม่ให้ตาม ทำไมถึงขัดคำสั่ง พิชิตแค่กลัวจะเกิดเรื่องร้ายกับเขา และมันก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ

“ฉันจัดการของฉันเองได้ ทำไมทุกคนทำอย่างกับฉันเป็นเด็ก”

“หน้าที่ของผมคือทำอย่างไรก็ได้ให้คุณวัฒน์ปลอดภัย” พิชิตก้มหน้านิ่งจนนันทวัฒน์สงสารเข้ามาตบไหล่

“ฉันจ้างนายเดือนละล้านหรือไง...เอ่อ เธอกลับมาเอาของบ้างหรือเปล่า”

สีหน้าของพิชิตที่ผ่อนคลายลงเมื่อครู่กลับเคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบ นันทวัฒน์ถอนใจ หนักใจ แล้วเดินเข้าตัวบ้าน ตรงไปยังห้องพักของพ่อ เห็นกันเกรานั่งอ่านหนังสือนิยายให้ท่านฟังอย่างออกรส แต่ดูท่าแล้วคนอ่านจะสนุกกว่าคนฟัง จากนั้นเขายื่นของฝากจากมยุริญให้กันเกราซึ่งชมไม่หยุดปากว่าเธอทั้งน่ารักทั้งมีน้ำใจ จังหวะนั้นนันทาเดินอารมณ์ดีเข้ามาถามลูกชายว่าพามยุริญไปเที่ยวที่ไหนมาถึงพาไปส่งบ้านค่ำมืด ท่านเพิ่งคุยกับมยุราเมื่อครู่

“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ แค่กินข้าวแล้วก็หาร้านกาแฟนั่งคุยกัน”

กันเกราคิดเองเออเองว่านันทวัฒน์มีใจให้มยุริญ แนะให้นันทาหาฤกษ์ไว้ได้เลย เธอเห็นดีด้วยหาแต่เนิ่นๆเผื่อปีนี้ไม่มีฤกษ์ดี นันทวัฒน์ขอร้องให้ทั้งคู่หยุดทำแบบนี้ เขากับมยุริญไม่ได้มีอะไรกัน ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะแม่สั่งมา และที่สำคัญเขามีภรรยาแล้ว

“เมียที่หายหัวออกไปจากบ้านของแกน่ะเหรอ ป่านนี้คงมีสามีใหม่ไปแล้วมั้ง”

“คุณแม่ครับ เธออาจจะแค่งอนผม เดี๋ยวก็คงกลับมาเหมือนเดิมนั่นแหละครับ”

นันทาสวนทันที ไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับมา

จะดีกว่า จะได้ทำบุญล้างซวย นันทวัฒน์ไม่อยากเถียงแม่ให้เป็นบาปติดตัว ขอตัวไปพักผ่อนก่อนแล้วเดินออกไปเลย กันเกราดูท่าแล้วน่าจะหมดหวังเรื่องจับคู่ให้เขา

“ฉันไม่ยอม ยังไงตาวัฒน์จะต้องลงเอยกับหนูยุริญให้ได้ ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมพลาดอีกแน่” นันทาพูดจบหันมาเจอสายตาตำหนิของวัฒนาก็แว้ดใส่ “มองอะไรคะคุณวัฒนา อย่ามาส่งสายตาตำหนิฉันนะ ตอนนี้ฉันเป็นหัวหน้าครอบครัว และทุกๆอย่างที่ฉันทำไปก็เพื่อบ้าน ของเรา”

“คุณนันคะ อย่าพูดแบบนั้นสิคะ” กันเกราขอร้อง แต่เธอหาฟังไม่

“ก็มันจริงนี่นา ถ้าเขาไม่มาเป็นแบบนี้ ฉันก็คงไม่ต้องมาเหนื่อยเคี่ยวเข็ญลูกให้หาผู้หญิงดีๆมาตบแต่งเพื่อให้ครอบครัวมั่นคงหรอก” นันทาเห็นสีหน้าเจ็บปวดของสามี รู้สึกเสียใจที่หลุดปากไปแบบนั้น ทนสู้หน้าเขาต่อไปไม่ได้หันหลังเดินหนี กันเกราเห็นวัฒนาน้ำตาคลอเบ้าก็ยิ่งสงสาร

“มาค่ะท่านเจ้าสัว เรามาอ่านเพชรพระอุมากันต่อดีกว่านะคะ” กันเกราอ่านแบบจัดเต็มกว่าเดิม หวังจะให้วัฒนาลืมเรื่องทุกข์ใจ เขากลับไม่ได้ยินเสียงของเธอ เพราะมัวแต่คิดถึงคำพูดของนันทาเมื่อครู่...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ระหว่างที่นวลเข้ามาหอมแก้มราตรีสวัสด์หนูพุทธที่หลับสนิทไปแล้ว จ๊ะจ๋าอดถามไม่ได้ว่าทำไมธงไทยต้องลงทุนขนาดไปเฝ้าคนที่ไม่รู้จักมักจี่ เจียมเออออไปด้วย

“นั่นสิคะ นายแม่นวล ถึงขั้นเอาบัตรประชาชนแฟนตัวเองไปหลอกหมอ”

จ๊ะจ๋าปรี๊ดแตกทันที เถียงคอเป็นเอ็นว่าวิวไม่ใช่แฟนธงไทยสักหน่อย นวลต้องปรามให้เธอเบาเสียง เดี๋ยวหนูพุทธตื่น เธอขอโทษที่เสียงดังไปหน่อย แต่ยังยืนยันว่าธงไทยทุ่มเทกับผู้หญิงคนนั้นเกินไปโดยไม่รู้ว่าเป็นคนดีหรือเปล่า เจียมเห็นด้วย เผลอๆอาจเป็นนางโจรก็ได้ นวลสั่งให้ทั้งคู่หยุดพูดได้แล้ว หญิงสาวปริศนาคนนั้นจะเป็นใครก็ช่าง ในเมื่อวันนี้เธอต้องการความช่วยเหลือ เราช่วยได้ก็ต้องช่วยจะปล่อยให้ตายได้อย่างไร

“กลัวแต่จะย้อนกลับมาทำร้ายเราน่ะสิคะ” จ๊ะจ๋ายกมือไหว้ท่วมหัว “เจ้าประคุณ ถ้าเป็นคนไม่ดีล่ะก็ ให้ไปไกลพี่ไทยเลยนะเจ้าคะ”

ooooooo

ดึกสงัด นันทาก้าวเข้ามาในห้องของวัฒนาที่ไฟปิดมืด วัฒนานอนหลับอยู่บนเตียง โดยมีกันเกรานอนเฝ้าอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง เธอยืนมองผู้เป็นสามีด้วยดวงตาเรียบเฉยและไร้อารมณ์

พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของเธอ ตอนนั้นวัฒนายังไม่ล้มป่วย ซื้ออาหารชั้นเลิศจากเหลากลับมาบ้านโดยมีทนงศักดิ์เดินตาม นันทาเดาออกว่าต้องมีเรื่องสำคัญแน่ๆเขาถึงพาทนายความมาด้วย เป็นอย่างเธอคาดไม่มีผิด วัฒนาต้องการจะยกที่ดินย่านตลิ่งชันให้เป็น ชื่อของนันทวัฒน์

“แล้วก็ที่ดินแถวลาดพร้าวทั้งหมดจะโอนเป็นชื่อคุณนัน” ทนงศักดิ์ชี้แจง

นันทาใจคอไม่ดี ทำไมจะต้องโอนทรัพย์สินเป็นชื่อคนโน้นคนนี้ด้วย มีอะไรหรือเปล่า วัฒนาปฏิเสธว่าไม่มีอะไรแค่แก่แล้ว อยากทยอยโอนให้เสร็จๆไปเท่านั้น เธออดสงสัยไม่ได้ ทำไมถึงทำเหมือนกับจะทำพินัยกรรม

“ก็ทำๆไว้ซะเผื่อเผลอใจไปมีเมียน้อยสมบัติจะได้ไม่หาย” วัฒนาพูดติดตลกพลอยทำให้นันทาขำไปด้วย...

ภาพในอดีตยังคงผ่านเข้ามาในความทรงจำของนันทาอย่างต่อเนื่อง หลังจากวัฒนาแบ่งสรรสมบัติให้ลูกเมียได้ไม่นาน ก็ล้มป่วยด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างผิดปกติ หมอวินิจฉัยว่าเส้นประสาทถูกทำลายโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาจะต้องนอนอยู่บนเตียงขยับไปไหนไม่ได้ แม้แต่พูดก็ยังทำไม่ได้

“เราส่งท่านไปรักษากับแพทย์เฉพาะทางไม่ได้เหรอครับ” นันทวัฒน์เสนอแนะ

“หมอจะพยายามค้นหาดูนะครับว่ามีที่ไหนสามารถรักษาโรคนี้ได้บ้าง แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีครับ”

นันทามองสามีที่นอนนิ่งด้วยน้ำตานองหน้าวัฒนา เองก็ปวดร้าวกับชะตากรรมของตัวเองเช่นกัน...

การป่วยของวัฒนาทำให้นันทาซึ่งเป็นแม่บ้านมาตลอดต้องมารับผิดชอบธุรกิจของสามี ยิ่งเห็นตัวเลขแดงเถือกในบัญชีของบริษัทก็ยิ่งเครียดหนัก ทนงศักดิ์แนะนำ ถ้าอยากจะให้สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทดีขึ้น เธอต้องขายที่ดินติดรถไฟฟ้าซึ่งเป็นชื่อของเธอเอาเงินมาช่วย นันทาไม่มีทางเลือกจำต้องเซ็นยินยอม

อ่านละครเพลืงตะวัน ตอนที่ 1 วันที่ 24 ส.ค. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ