อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 1 วันที่ 24 ส.ค. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 1 วันที่ 24 ส.ค. 58

เช้าตรู่ เวลา 05.55 น. พอเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น มุกริน คุรุรัตน์ สาวสวยหุ่นดีก็ลุกจากเตียงอย่างกระฉับกระเฉง คว้ามือถือเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

ที่หัวเตียงมีรูปคู่ระหว่างเธอกับคู่หมั้นหนุ่มรูปหล่อ ณ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแห่งหนึ่ง

เช้าตรู่วันเดียวกัน คิมหันต์ สุริยะศักดิ์ คู่หมั้นหนุ่มของมุกรินยังนอนคุดคู้อยู่ เสียงมือถือที่วางอยู่หัวเตียงเรียก เขางัวเงียเอื้อมมือไปหยิบกดรับ

“มอร์นิ่ง...ตื่นเช้าจัง...ขอให้ทุกอย่างราบรื่น ฝนไม่ตกนะจ๊ะ...ขอนอนอีกแป๊บนึงน่า...งานเริ่มบ่ายไม่ใช่เหรอ...ก็นอนอยู่ในห้องที่จะเป็นเรือนหอของเราเดือนหน้านี่ไง”



“นอนก่อนได้ไง...เขาถือนะ” มุกรินพูดใส่โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างอ่างล้างหน้า คิมหันต์ตอบเสียงง่วงๆว่าใครถือก็ช่างตนไม่ถือ “อวยพรให้มุกหน่อยสิคะ...งานวันนี้ฝีมือมุกล้วนๆเลยนะ”

“นอกจากคำอวยพรแล้ว ผมยังมีของขวัญให้มุกด้วย...ฟังนะ” คิมหันต์ลุกขึ้นหยิบกีตาร์เล่นและร้องเพลงรักระหว่างเขาและเธออยู่บนเตียง และที่หัวเตียงมีรูปถ่ายคู่ของเขากับมุกรินรูปเดียวกันกับมุกรินวางอยู่เช่นกัน

ฟ้าเริ่มสางแล้ว... แสงสลัวเผยให้เห็นบ้านไม้สามชั้นที่แม้จะเก่าแก่แต่ปรับแต่งซ่อมแซมจนสวยงามน่าอยู่อาศัยยิ่งนัก

ooooooo

“Fast Track...to the Fifth Year” แผ่นป้ายสวยงามในบรรยากาศงานเลี้ยงหรูหรา ดูดีมีรสนิยม

พลโทอรรถ เลิศปัญญาวุฒิ นายทหารนอกราชการผู้กว้างขวางในแวดวงธุรกิจ ท่านประธานบริษัท Fast Track ผู้มีบุคลิกดี สมาร์ทและมีเสน่ห์ มีเลขาสาวแสนสวยเดินประกบไม่ห่าง ยิ้มแย้มท่ามกลางแขกที่มาแสดงความยินดีไม่ขาด

“ดีใจด้วยนะครับ เผลอแป๊บเดียว จะครึ่งทศวรรษแล้ว” แขกคนหนึ่งทัก

“นั่นสิ สี่ปีที่แล้ว ยังคิดว่าจะทำเล่นๆ ขำๆ อยู่เลย” อรรถเอ่ยยิ้มแย้ม

“อย่างนี้ไม่ขำแล้วครับท่าน มืออาชีพเลยล่ะ” แขกอีกคนเสริม

“ใช่...งานใหญ่ๆระดับชาติทั้งภาครัฐภาคเอกชนเป็นต้องเรียกใช้ Fast Track เจ้าเดียวเท่านั้น” อีกคนชื่นชม

“พูดอย่างนี้ เดี๋ยวมีคนไปฟ้องศาลหาว่าผมผูกขาด จะแย่เอานา” อรรถเอ่ย แล้วพากันหัวเราะ

ที่อีกมุมหนึ่งของงาน พักตรา เลิศปัญญาวุฒิ ลูกสาวพลโทอรรถ กำลังถูกแขกผู้ใหญ่ที่เป็นสตรีในงานทักทายหยอกเอินอย่างเอ็นดูว่าวันนี้จะขึ้นเวทีเป็นพิธีกรหรือร้องเพลงหน่อยไหม จะรอฟัง

“ไม่ดีกว่าค่ะ บริษัทของพ่อ งานของพ่อ ให้พ่อร้องดีกว่า คุณพ่อร้องเพลงเพราะนะคะ”

ขณะนั้นเองมีหนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนอยู่ข้างๆ แยกไปหยิบเครื่องดื่ม แขกผู้ใหญ่คนนั้นชี้ไปที่หนุ่มหน้าตี๋ ถามพักตราว่าแล้วเมื่อไหร่จะมีข่าวดี

“โอ๊ย...อีกนาน ความประพฤติยังไม่ผ่านเกณฑ์ค่ะ” พักตราตอบตรงเสียจนแขกคนนั้นพูดได้แค่ “เหรอจ๊ะ...” แล้วเงียบไป

ooooooo

ที่อีกมุมหนึ่ง กลุ่มพนักงานเดินแจกพลุกระดาษให้กับแขกในงาน มุกรินบอกแขกเหล่านั้นว่า เอาไว้ใช้ตอน speech ของท่านประธาน แล้วเดินไปหาปรารภผู้จัดการบริษัทบอกว่าอีกห้านาที ปรารภบอกว่าตนดูนาฬิกาอยู่

พอมุกรินจะเดินไป ปรารภเรียกไว้ชมว่า งานวันนี้ทำได้ดีมากนะ เธอพูดยิ้มๆว่า “ขึ้นเงินเดือนให้มุกสิคะ”

“ทั้งเงินเดือน ทั้งตำแหน่ง เดี๋ยวผมจะชงเรื่องให้”

“ขอบคุณค่ะ” มุกรินไหว้ทีเล่นทีจริงแล้วเดินไป พักตราเดินมาหามุกรินพูดอย่างสนิทสนมแต่ทีท่าเหนือกว่าว่า

“แฟนฉันล่ะ ไม่มาเหรอ”

“มาซี่...แต่เขาโอ้เอ้ อืดอาดอย่างนี้ประจำน่ะแหละ”

“ถึงว่าสิ ถึงได้เป็นแค่คูหมั้นมาตั้งสามปี ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจับแต่งงานตั้งแต่เป็นแฟนกันปีแรกแล้ว ไม่หมั้นให้เสียเวลาอย่างนี้หรอก...ระวังนะ หมั้นนานๆ อย่างนี้จะกลายเป็นหมันไม่รู้ตัว” พอมุกรินบอกว่าจะแต่งเดือนหน้าแล้วพักตราทำตาโต “เหรอ...งั้นฉันยังพอมีเวลาแย่งเธออีกตั้งเดือนนึง”

มุกรินชี้ไปที่หนุ่มหน้าตี๋คนนั้นถามว่าแล้วคนนั้นเขาไม่ว่าเอาเหรอ พักตราส่ายหน้า หางตาไปทางนั้นบอกว่า

“ฉันจะเลิกกับมันวันนี้แหละ”

ooooooo

เมื่อได้เวลาเปิดงาน ปรารภขึ้นเวทีกล่าวทักทายแขกผู้มีเกียรติ แล้วเอ่ยเชิญ

“ในวาระที่ Fast Track กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ห้า...จึงขอถือโอกาสนี้ มาฟังเรื่องราวดีๆจากท่านประธานของเรา ขอเสียงปรบมือต้อนรับหัวเรือใหญ่ที่มีสายตากว้างไกลของเรา...พลโทอรรถ เลิศปัญญาวุฒิ”

ท่านประธานบริษัทเดินอย่างสง่าขึ้นเวทีพร้อมกับโบกมือให้แขกทุกคนในงาน

ที่อีกมุมหนึ่ง คิมหันต์มาถึงแล้ว พวกสาวๆในงานต่างเหลียวมองเขากันเกรียว ส่วนหนุ่มหน้าตี๋กำลังง่วนกับการหลีสาววัยรุ่นเซ็กซี่

“มาเร็วกว่าที่คิดตั้งครึ่งชั่วโมง” มุกรินทักคิมหันต์ เขาบอกว่าแวะไปเอาดอกไม้มาให้เธอ ไม่อย่างนั้นมาเร็วกว่านี้อีก พลางมอบช่อดอกไม้ เอ่ยอย่างชื่นชม

“congratulations ครับ...ตั้งแต่ประตูเข้างานจนมาถึงนี่ มีแต่คนชมครีเอทีฟงานนี้ ไม่พูดเรื่องอื่นเลยรู้ไหม”

“เว่อร์แล้วคิม” มุกรินยิ้มเขินๆกับคำชมของคู่หมั้น

อรรถยืนอยู่หน้าไมโครโฟนโดยมีปรารภยืนขนาบข้าง เขาเอ่ยชื่นชมว่า

“ก่อนอื่น ผมต้องขอให้เครดิตกับผู้ออกแบบจัดงานวันนี้ก่อน...เธอเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ที่เพิ่งหันมาจับงานด้านครีเอทีฟ และผลงานของเธอดูดี มีอนาคตทีเดียว นางสาวมุกริน คุรุรัตน์ครับ” แขกในงานหันมองมุกรินปรบมือให้เกียรติ “เห็นสวยๆอย่างนี้มีคู่หมั้นแล้วนะครับ นายคิมหันต์ สุริยะศักดิ์ ยืนข้างๆกันนั่นแหละ หนุ่มๆเสียดายกันเป็นแถวล่ะซี”

“พ่อม่ายอย่างผมยังเสียดายเลยครับ” ปรารภเอ่ยหยอกเอิน

พักตราเดินมาหามุกรินและคิมหันต์บอกว่า “ถ้าจะเอาใจลูกค้าคงต้องเลิกกันนะ คนอื่นจะได้มีลุ้น” คิมหันต์บอกว่าให้มุกออกจากบริษัทง่ายกว่ากระมัง พักตรามองขวับ “ตอนคุณเลิกกับพักตร์ไม่เห็นจะยากเลยนี่คะ”

“พูดใหม่เถอะพักตร์ เรายังไม่เคยเป็นอะไรกันเลยนะ”

“อันนี้ก็แล้วแต่ ใครจะคิดจ้ะ...เนอะมุก” พักตราหัวเราะร่วนหันไปพูดทีเล่นทีจริงกับมุกรินแทน

บนเวที...อรรถ ประธานบริษัทยังยืนพูดอยู่หน้าไมโครโฟน บอกกล่าวแก่แขกที่มาร่วมงานว่า วันนี้ถือเป็นวันเกิดและวันเติบโตของบริษัท ตนจึงถือเอาวันนี้เป็นวันคืนกำไรให้กับสังคม โดยจะแบ่งผลกำไรส่วนหนึ่งของบริษัทในปีที่ผ่านเพื่อทำการกุศลแล้วประกาศเชิญชวน...

“ผู้มีเกียรติแจ้งความประสงค์จะร่วมบริจาคกับเราอีกมากมาย ผมจะขอเชิญผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาคเป็นหลักล้าน ขึ้นโชว์ตัวบนเวทีหน่อยครับ... ท่านแรกครับ... คุณวิมลรัตน์ สุริยะศักดิ์ เจ๊มลคนดังแห่งแวดวงแบรนด์เนมนั่นเอง”

ธาดาเดินมายืนข้างคิมหันต์กับมุกรินเอ่ยกับคิมหันต์ว่าถ้าไม่บอกนามสกุลจะไม่รู้เลยว่าเป็นพี่สาวเขา คิมหันต์แซวคืนว่า “ก็เหมือนคุณกับมุกนั่นแหละ เอาใบเกิดมาดูยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน”

ธาดาเดินขึ้นเวทีไปยืนแทรกข้างวิมลรัตน์ เธอกระซิบพอได้ยินกันสองคนทั้งที่ใบหน้ายังยิ้มสวยอยู่ว่า

“ทำไมชอบหนีฉัน...ฉันบอกให้เดินตามมาใกล้ๆ ไง” ธาดากระซิบตอบภรรยาว่าเผื่อเธออยากจะคุยส่วนตัวกับนายทหาร ตนก็หลบให้ไง ถูกวิมลรัตน์จิกว่า “หลบไปคุยกับสาวอื่นล่ะสิ อย่าให้จับได้เชียวนะ”

“โธ่...มีที่ไหนกัน...ถามน้องชายคุณได้” ธาดาโอดโอยแต่ยังเก๊กหน้าหล่อ

ขณะนั้นเอง พักตราเดินเข้ามาจิกตาไปยังหนุ่มหน้าตี๋คนนั้นที่กำลังหัวเราะต่อกระซิกกับสาววัยรุ่นเซ็กซี่

ปรารภดำเนินรายการต่อ ประกาศถึงช่วงสุดท้ายของพิธีการว่า

“ตามฤกษ์พานาทีที่พระอาจารย์ให้ไว้ เราจะนับถอยหลังพร้อมๆกัน เพื่อเป็นสัญญาณในการเคลื่อนเข้าสู่ก้าวใหม่ ก้าวที่ใหญ่ขึ้น แกร่งขึ้น ทุกท่านมีอุปกรณ์อยู่ในมือแล้วนะครับ พร้อมนะครับ สิบ...เก้า...แปด...เจ็ด...”

ระหว่างนั้นแขกในงานก็จับพลุในมือกระชับ อรรถประธานบริษัทเตรียมกดปุ่มสำคัญบนเวที เสียงแขกในงานร่วมกันนับถอยหลังกับปรารภ “...หก...ห้า... สี่...สาม...สอง...หนึ่ง...”

ทันใดนั้น เสียงแก้วแตกดังลั่นขึ้นก่อนที่ประธานจะกดปุ่มและก่อนที่แขกในงานจะจุดพลุ เสียงร้องกรี๊ดลั่น แขกในงานมองไปยังที่มาของเสียงเป็นตาเดียว!

ภาพที่ปรากฏแก่สายตาทุกคนคือเด็กสาวเซ็กซี่คนนั้นยืนตัวสั่น รอบตัวมีเศษแก้วแตกกระจาย ส่วนหนุ่มหน้าตี๋ยืนซีดอยู่ใกล้ๆ พักตรายืนประจันหน้าคนทั้งสองด้วยสีหน้าถมึงทึง ตะโกนลั่น

“ออกไปเลย ออกไปจากงานนี้เลย สะเออะเข้ามาทำไมไม่ทราบ อีหน้าด้าน...นึกว่าฉันไม่รู้เหรออีอ้อ ว่าแกแอบไปนอนกับแฟนฉันกี่ครั้งแล้ว ฉันแค่ไม่อยากพูดเท่านั้นแหละ...ไป...ออกไปให้พ้น!”

พักตราบ้าดีเดือดคว้าขวดเหล้าสาดใส่หน้าสาว พอหนุ่มหน้าตี๋ห้ามเสียงอ่อย เธอคว้าถังน้ำแข็งใบใหญ่สาดใส่หนุ่มหน้าตี๋เข้าอย่างจัง ตามด้วยเหล้าอีกหลาย
ขวด ตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง...

“แกก็ออกไปด้วย ไปได้แล้ว...ปกป้องอีนี่ดีนัก ไปอยู่กับมันเลย...เราเลิกกันวันนี้ ไอ้กระจั๊ว...ออกไป!”

ผู้คนในงานต่างมองและส่งเสียงกันอื้ออึงและโกลาหลกันเล็กน้อย ส่วนคนบนเวทีมองตะลึง อรรถหันไปพยักหน้าให้ปรารภ ปรารภหันไปส่งสัญญาณให้ดนตรีเล่นให้ดังกระหึ่มกลบเสียงด่าทอของพักตรา

“เล่นให้ดังเข้าไว้ ดังกว่าปกติสักสามเท่า...ทุกท่าน... จุดพลุได้!” ปรารภตะโกน และอรรถก็กดปุ่มสำคัญ ลูกโป่งที่เตรียมไว้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับเสียงพลุกระดาษในมือของทุกคนดั่งสนั่น กระดาษสีกระจายฟ่องเต็มพื้นที่จัดงาน ดนตรีก็เร่งเสียงดังกระหึ่มจนสะเทือนห้อง

ในสถานการณ์นี้ วิมลรัตน์กับธาดาก็ยังกะหน็อง กะแหน็งกันไม่เลิก ธาดาบอกวิมลรัตน์ว่าตนไม่ได้เลวเหมือนไอ้หมอนั่นสักหน่อย วิมลรัตน์พูดลอดไรฟันว่า “ให้มันจริงเถอะ อย่าลืมว่า ถ้าฉันของขึ้นเมื่อไหร่ ฉันร้ายกว่ายายพักตรานั่นหลายเท่า”

ooooooo

เมื่อบรรยากาศเริ่มคลี่คลาย อรรถเดินมาพูดกับมุกรินและคิมหันต์ที่ยืนเซ็งอยู่ว่า

“งานวันนี้สวยงาม และมีคุณค่ามากนะ ส่วนที่ทำให้งานเสียหาย ก็ไม่ใช่เพราะหนู เป็นเพราะลูกสาวอาเอง...หนูไม่ต้องกังวล คิมหันต์...อาอยากจะขอให้เธอไปคุยกับยายพักตร์หน่อยได้ไหม ส่วนฉันจะกลับไปคุยกับเขาที่บ้าน ขืนคุยที่นี่เดี๋ยวไม่จบ แต่ถ้าเธอลำบากใจก็ไม่เป็นไรนะ” พูดแล้วเดินผละไป

มุกรินบอกคิมหันต์ว่าไปเถอะ ตนไม่มีปัญหา เขาบอกเธอว่า “รอผมก่อนนะ คืนนี้เรามีนัดฉลองกัน...อย่าลืม”

คิมหันต์หอมแก้มเธอก่อนเดินออกไป

พักตราถามคิมหันต์ว่าพ่อให้มาปลอบตนหรือ คิมหันต์บอกว่าใช่เธอเดาได้แม่นมาก พักตราทำหน้าผิดหวังบ่นว่าอยากเดาผิดบ้าง อยากให้เขาบอกว่า ตั้งใจมาคุยกับตนเองมากกว่า

“ผมจะมาเองหรือคุณพ่อคุณบอกให้มา มันไม่ต่างกันหรอกครับ เพราะจริงๆแล้วทุกคนเป็นห่วงคุณเหมือนกันนะพักตร์” พักตราถามว่าเขาจะห่วงตนมากกว่าคนอื่นสักนิดไม่ได้เหรอ คิมหันต์นิ่งไม่ตอบ พักตราเอื้อมไปจับมือเขาจ้องหน้าเขาเต็มตา ถามอ้อนๆ “พักตร์ขอมากไปเหรอคะ” คิมหันต์ไม่ตอบแต่ดึงตัวเองออกมา เธอตัดพ้อว่า “พักตร์โชคไม่ดีเหมือนมุก”

“คุณมีอะไรๆมากกว่ามุกรินเยอะ”

“แต่พักตร์ไม่มีคิม ถ้าสี่ปีที่แล้ว พักตร์ไม่แนะนำคิมกับมุกให้รู้จักกัน วันนี้เราอาจจะแต่งงานกันแล้วก็ได้ คิมว่าไหม” คิมหันต์ไม่ตอบ มองหน้าถามว่า เธออารมณ์ดีขึ้นแล้วนะ ใช่ไหม?

ooooooo

มุกรินนั่งคอยคิมหันต์อยู่เงียบๆ จนวิมลรัตน์กับธาดาเดินเข้ามา วิมลรัตน์ติงมุกรินว่าไม่ควรปล่อยให้คิมหันต์ไปคุยตามลำพังกับผู้หญิงอื่น มุกรินบอกว่าไม่มีอะไรหรอก แค่ให้กำลังใจกันประสาเพื่อน

“ฉันไว้ใจน้องชายฉันว่าไม่มีอะไร แต่ฉันไม่ไว้ใจยายพักตรา” วิมลรัตน์เอ่ย ธาดาชวนมุกรินไปหาอะไรกินกันไหม เธอยิ้มส่ายหน้า ก็พอดีคิมหันต์กลับมา เขาตอบแทนมุกรินว่าเสียใจ เพราะเรามีนัดกันแล้ว ธาดาชวนวิมลรัตน์ไปจอยกับเขาดีไหม คิมหันต์ขัดทันทีว่า “อย่าดีกว่า คู่ใครคู่มันเถอะ”

“ก็ดี...” วิมลรัตน์ตอบน้องชายแล้วหันมองธาดา “เพราะคุณกับฉัน มีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกเยอะคุณธาดา” คิมหันต์กระซิบบอกพี่สาวว่า “เบาๆหน่อยก็ดีนะพี่มล ไอ้หมอนี่มันฝ่อพี่จะแย่อยู่แล้ว”

วิมลรัตน์บอกคิมหันต์ก่อนผละไปกับธาดาว่า “ว่างๆค่อยโทร.คุยกันนะ”

คิมหันต์ขับรถพามุกรินไปถึงริมทะเลสวย เข้าไปจองบังกะโล พนักงานบอกว่าห้องเต็ม

“ไม่เป็นไรค่ะ เราไม่ค้าง แค่จะมาทานอาหาร เดินเล่นริมหาดเท่านั้น” มุกรินบอก

คิมหันต์บอกพนักงานว่าเราเคยมาที่นี่เมื่อสามปีที่แล้ว พนักงานบอกว่าวันนี้ไฟดับและแม่ครัวก็เพิ่งกลับไปเพราะกลัวพายุเข้า คิมหันต์ถามว่าในครัวมีอะไรบ้างเราทำกันเองได้ถ้าอนุญาต เห็นพนักงานลังเล คิมหันต์ขอร้อง...

“นะครับ...วันนี้วันสำคัญ...ครบรอบวันหมั้นเราสองคน”

เมื่อเข้าห้องครัว คิมหันต์บ่นเสียดายที่ผิดแผนไปหน่อย ไม่ได้นั่งโต๊ะสวยๆริมทะเล รำลึกถึงวันแรกที่เราเจอกัน...วันที่เราบอกรักกันริมโขดหินที่นี่ มุกรินจำได้ว่าคืนนั้นเขาเมาหลับบนตักตนถึงเช้า วันนั้นมีฝนและวันนี้ฝนก็กำลังจะตก

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 1 วันที่ 24 ส.ค. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ