อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 3/2 วันที่ 15 ก.พ. 56

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 3/2 วันที่ 15 ก.พ. 56

ชิษณุพงษ์เล่าต่อ “ผมเคยไปพักฟื้นอยู่ใกล้ๆ กับโบสถ์บนเขา ลุมเติมเคยพาจ้างคนจากบ้านเด็กกำพร้า ชื่อพเยีย มารับจ้างดูแลผม แต่ว่า...”
พเยียเห็นชิษณุพงษ์ทำท่าเหมือนจะพูดอีกยาว รีบพูดตัดบท
“ไม่รู้สิคะ พเยียความจำไม่ค่อยดีน่ะค่ะ จำคนไม่ค่อยเก่ง ขอโทษทีนะคะ” รีบเปลี่ยนเรื่อง “คุณแม่ขา พเยียขอตัวไปทำธุระส่วนตัวแป๊บนึงนะคะ”

พูดจบพเยียเดินหนีไปเฉยเลย ทุกคนมองตาม งงๆ
“แปลก ผมจำเสียงเค้าได้ ต้องเป็นพเยียคนเดียวกันแน่ๆ ทำไมเค้าต้องแกล้งทำเป็นจำผมไม่ได้”
นภัสรพีมองหน้านภดาราเป็นเชิงตำหนิ นภดาราแก้แทน
นภดารากับชิษณุพงษ์ “พเยียแกคงจะอาย ไม่อยากให้ใครมารื้อฟื้น ว่าแกมาจากไหน .. เด็กมีปมด้อยก็แบบนี้ล่ะจ้ะ หลานอย่าถือสาเลยนะจ๊ะ”
ชิษณุพงษ์พยักหน้ารับ แต่ยังไม่คลายสงสัยในตัวพเยีย



อรรถกับสกุณาเพิ่งมาถึงเดินเข้าในงาน ในมือมีกล่องของขวัญ สกุณาซุบซิบนินทา
“มันน่าสงสัยไหมล่ะคะ จู่ๆ คุณนภดาราก็มีลูกสาวตัวเบ้อเร่อเบ้อร่าโผล่ขึ้นมา ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน”
“เห็นว่าถูกส่งไปเลี้ยงที่ต่างจังหวัดตั้งแต่เกิด เพิ่งจะรับกลับเข้ามาอยู่ที่วังศิวาลัย เลยจัดงานเลี้ยงเปิดตัวกันเป็นการใหญ่”
“อุ๊ย ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้หมายถึงเด็ก ฉันหมายถึงว่า คุณนภดาราไม่ได้ แต่งงาน จู่ๆ มีลูกขึ้นมาได้ยังไง ใครเป็นพ่อเด็กคะ”
“เห็นว่าเป็นคนในวังนี้แหละ รักกันแต่ยังไม่ทันได้ตกแต่ง ก็มาตายไปซะก่อน”
สกุณาหัวเราะคิกคักชอบใจ “แหม คุณดาราเห็นท่าทางหงิมๆ ไม่นึกว่าจะไวไฟ ยัยเด็กนี่ก็โชคดีชะมัด” สีหน้าวาดหวังขณะพูดประโยคต่อมา “หลานสาวคนเดียวของคุณชายนภัส มรดกตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ลำพังแค่วังศิวาลัยที่เดียว มูลค่าก็ไม่รู้กี่ร้อยล้านเข้าไปแล้ว น่าเสียดาย ลูกชายคุณมันตาต่ำ”
“อย่าไปพูดถึงมันเลยน่ะ”
“ไม่พูดไม่ได้หรอกค่ะ” อรรถพยักเพยิดไปทางหน้าประตู “เพราะมาโน่นแล้ว”
สองคนหันไป เห็นรถของอิศรแล่นมาจอด อิศรมากับกอหญ้า อรรถชักสีหน้า ไม่พอใจ

อิศรเดินมากับกอหญ้า กอหญ้าชะงักเท้า มองเข้าไปในบ้าน เห็นแต่คนที่เธอไม่รู้จัก กอหญ้าอิดออด ไม่ยอมเดินต่อ
“ฉันไม่รู้จักใครซักคน ไม่รู้จะให้ฉันมาทำไม”
“ก็มาเป็นเพื่อนฉันไง” อิศรกวน “อ้อ ไม่ใข่สิ เป็นคู่รัก”
“คู่รักอะไร มั่ว ฉันเพิ่งรู้จักกับคุณได้ไม่กี่วัน เราจะรักกันได้ยังไง”
“ก็รักแรกพบไง” อิศรยั่ว “เธอจำไม่ได้เอง เอ้า จะไปรึยัง หรือจะให้อุ้มอีก” กอหญ้าเชิดเชอะ ใส่ อิศรทำท่าเจ้าชู้ “อุ้มก็อุ้ม มา ชอบใช่ไหม”
อิศรจะเข้าไปอุ้ม กอหญ้าเขิน ผลักอิศรให้ออกไปห่างๆ อิศรตวัดวงแขนกอดตัวกอหญ้ามาโอบไว้ กอหญ้าทุบอิศร แล้ววิ่งหนี แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นสกุณากับอรรถยืนอยู่หน้าตาบึ้งตึง
“แกนึกยังไง ถึงได้พา...” ไม่อยากเอ่ยชื่อ พยักเพยิดไปทางกอหญ้า “มาที่นี่”
“กอหญ้าเป็นแฟนผม ทำไมจะมาไม่ได้ ทีพ่อยัง...” อิศรปรายตามองไปยังสกุณา
กอหญ้าดึงแขนอิศรปราม “พอเถอะค่ะ อย่าทะเลาะกันเพราะฉันเลย อายเค้า”
สกุณาสอดขึ้นมา จงใจด่ากอหญ้า “พวกฉันต่างหากที่ต้องอาย อยู่ดีๆ ก็มีเด็กข้างถนน มาจากไหนไม่รู้ มาทำตัวเหมือนเป็นญาติ นี่ถามจริงๆ เถอะ ใจคอจะเกาะคุณอิศรเป็นปลิงไปทุกที่เลยหรือไง”
อิศรฉุนกึก “นี่ เธอ”
อิศริไม่ทันจะตอบโต้ กอหญ้าเสียใจ จะวิ่งหนีกลับออกไป อิศรขวางไว้
“กอหญ้า เดี๋ยวก่อน”
กอหญ้าหันไปอีกทาง เดินแกมวิ่งหนีไปในสวนด้านหนึ่งของวังศิวาลัย อิศรจะตาม อรรถคว้าแขนไว้
“เจ้าอิศร”
อิศรสะบัดหลุด แล้ววิ่งตามกอหญ้าไป

นภดาราเดินเข้ามาหาแม่ชื่น ดึงหลบมุมมา แล้วถามอย่างหนักใจ
“ตกลงว่าไงจ๊ะ แม่ชื่น หาคุณหนูเจอไหม”
“ไม่ได้อยู่ในบ้านแน่ค่ะ ชื่นหาจนทั่วแล้ว ไม่รู้หนีไปหลบอยู่ตรงไหน แขกผู้ใหญ่ถามหาตัวกันให้วุ่น นี่คุณชายก็ชักจะโมโหแล้วนะคะ”
“ชื่นลองไปดูในบ้านอีกทีนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันจะช่วยหาข้างนอกนี่เอง”

นภดาราออกเดินเข้าไปในสวน มองหาพเยียต่อไป
นภดาราเดินเข้ามาที่สวนด้านหน้า ได้ยินเสียงร้องไห้กระซิกๆ จึงหันขวับไปดู ที่หลังพุ่มไม้ นภดาราเห็นเด็กสาวคนหนึ่งนั่งชันเข่า ซบหน้าร้องไห้ ร่างนั้นดูบอบบาง น่าทะนุถนอม นภดารามองนิ่ง รู้สึกสงสารจับใจอย่างประหลาด

กอหญ้าเช็ดน้ำตาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นนภดารายืนอยู่ตรงหน้า เยื้อนยิ้มบางๆ สีหน้าอ่อนโยน แววตาเปี่ยมปราณี แสงแดดยามบ่ายสาดส่องใบหน้าของเธอหวานละมุน ดูเหมือนนางฟ้าใจดี
“ร้องไห้ทำไมคะ หนู” นภดาราลงนั่งข้างๆ “เสียใจเรื่องอะไร”
เสียงนภดาราหวานนุ่มนวล กอหญ้ารู้สึกไว้ใจผู้หญิงคนนี้อย่างประหลาด อยากคุยด้วย อยากระบายให้ฟัง
“หนูไม่อยากอยู่ที่นี่เลยค่ะ อยากไปให้พ้นๆ แต่ไม่รู้จะไปไหน”
นภดาราแปลกใจ “ทำไมล่ะคะ ทำไมถึงอยากไปให้พ้นๆ” ยิ้มสัพยอก “ที่นี่ไม่ดียังไง”
“ที่นี่มีแต่คนดูถูกคน ไม่มีใครต้อนรับหนู ไม่มีใครอยากให้หนูอยู่ที่นี่” กอหญ้าว่า
“ใครว่าจ๊ะ” นภดารายิ้มแย้ม ถ้า “ที่นี่” ที่หนูว่า หมายถึงที่บ้านนี้ล่ะก้อ ฉันขอบอกเลยว่า ฉันเต็มใจต้อนรับหนู” กอหญ้ามองอย่างแปลกใจ นภดารายืดตัวอย่างสง่างามขณะแนะนำตัว “ฉันชื่อนภดาราจ้ะ หม่อมหลวงนภดารา ศิวาวงศ์ และที่นี่คือบ้านของฉัน”
กอหญ้า ตกใจ “อุ๊ย คุณนภดารา!” รีบยกมือไหว้ “หนูขอโทษค่ะ”
นภดาราส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร ยิ้มใจดี “แล้วหนูล่ะจ๊ะ หนูชื่ออะไร”
กอหญ้ายังไม่ทันตอบ อิศรก็ตามมาพอดี
“เค้าชื่อกอหญ้าครับ คุณอา”
นภดารายิ้ม “อิศร”
อิศรยกมือไหว้ เข้ามายืนชิด จับแขนกอหญ้าไว้ แสดงความเป็นเจ้าของ
“กอหญ้ามากับผมครับ แต่มีคนไปหาเรื่องเค้า เค้าเลยหนีผมมาหลบอยู่ที่นี่”
กอหญ้าเอาศอกกระแทกอิศรให้ออกห่าง นภดารามองกอหญ้าอย่างเอ็นดู
“ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ กอหญ้า ที่นี่เป็นบ้านของฉัน หนูเป็นแขกของฉัน”
พลางนภดารายื่นมือไปตรงหน้ากอหญ้า กอหญ้ายิ้มออกมา วางมือของเธอลงในมือของนภดาราอย่างเชื่อใจ ไว้ใจ นภดารากุมมือกอหญ้า ให้ความอบอุ่น
“ไปกับฉัน แล้วไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
“ค่ะ”
นภดาราจูงกอหญ้าเดินไป มีอิศรเดินตามหลัง กอหญ้าลอบมองนภดาราด้วยความรักอย่างสนิทใจ

ด้านแม่ชื่นเดินมองหาพเยีย ผ่านบริเวณหน้าห้องน้ำจึงร้องเรียก
“คุณหนูคะ คุณหนู คุณหนูพเยีย อยู่ไหนคะ”
พเยียยืนหลบตั้งสติอยู่มุมห้อง ได้ยินเสียงแม่ชื่นก็รวบรวมความมั่นใจ เดินออกมา
“อยู่นี่” พเยียเชิดหน้าถาม “มีอะไร”
หัวหน้าแม่บ้านมองตรงๆ อย่างตำหนิ “คุณดาราให้หาค่ะ มีแขกสำคัญที่อยากให้คุณหนูรู้จักเอาไว้”
“แล้วไอ้บอด... เอ๊ย นายชิษณุพงษ์อะไรนั่นน่ะ กลับไปหรือยัง”
ชิษณุพงษ์เดินเข้ามาได้ยินพอดี
“ยังครับ”
พเยียอึ้ง ชิษณุพงษ์เดินเข้ามาหาพเยีย
“ผมเดินตามหาคุณอยู่ตั้งนาน มีเรื่องสำคัญอยากจะถาม”
พเยียหน้าเสีย รีบอ้าง
“ฉันต้องรีบไปหาคุณแม่ ไปสิ แม่ชื่น ไป”
ชิษณุพงษ์ขวางไว้ แล้วหันไปบอกแม่ชื่นอย่างสุภาพ
“ผมขอถามอะไรคุณพเยียสองสามคำเท่านั้น นะครับ”
แม่ชื่นพยักหน้า แล้วเดินเลี่ยงออกไปนิดนึง แต่ตาจ้องเป๋ง อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร พเยียหมดทางหนี หน้าเสีย
“จะถามอะไรก็ว่ามา”
ชิษณุพงษ์ถาม “กอหญ้าอยู่ที่ไหน”
พเยียตกใจ แล้วรีบปฏิเสธกลบเกลื่อน “พูดอะไร ไม่เห็นรู้เรื่อง”
พร้อมกันนั้นพเยียจะเดินหนี ชิษณุพงษ์คว้าแขนไว้ พูดคาดคั้นอย่างสุภาพ
“คุณอาดาราเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว คุณนั่งรถลงมาจากเชียงใหม่พร้อมคุณแม่ยุพา ลุงเติมบอกผมว่ากอหญ้าก็อยู่ในรถคันนั้นด้วย แล้วเค้าหายไปไหน”
“ฉันไม่รู้”
ชิษณุพงษ์ไม่เชื่อ “อะไร! เพื่อนหายทั้งคน คุณไม่สนใจ ไม่คิดจะตามหาเลยเหรอ”
พเยียย้อน “ตามยังไง ตำรวจเค้ายังไม่รู้เลยว่ามันหายไปไหน รถคว่ำไม่รู้กี่ตลบ ฉันฟื้นขึ้นมาก็เห็นคนอื่นตายไปหมดแล้ว ไม่แน่ นังกอหญ้ามันอาจจะตายไปแล้วก็ได้”

พเยียสะบัดหลุด แล้วเดินหนีไปไวๆ ชื่นรีบตาม ทิ้งชิษณุพงษ์ให้ยืนอึ้งกับข่าวใหม่ของกอหญ้าที่ได้ยินอยู่อย่างนั้น
ขณะเดียวกันกอหญ้ากำลังไหว้ทักทายนภัสรพีอย่างนอบน้อม นภัสรพีรับไหว้ มองอย่างเอ็นดู

“ชื่อกอหญ้าเหรอ” คุณชายทักยิ้มๆ ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก “ชื่อคุ้นๆ นะ เหมือนฉันเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน”
นภดาราคุยให้ฟังใบหน้ายิ้มแย้ม
“ตอนนี้หนูกอหญ้าพักอยู่ที่บ้านอิศรนี่เองค่ะ คุณพ่อ บ้านติดกัน แถมยังอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกพเยีย ลูกเลยอยากให้คบหากันเอาไว้” นภดาราหันมาพูดกับกอหญ้า “ฉันอยากให้พเยียมีเพื่อน”
“ดีครับ กอหญ้าก็จะได้มีเพื่อนเหมือนกัน” อิศรเห็นด้วยหันมาถามกอหญ้า “ดีไหม”
กอหญ้ารับปาก “ค่ะ”
แม่ชื่นเดินนำพเยียเข้ามาพอดี พเยียส่งเสียงนำมาก่อนตัว
“คุณแม่ขา พเยียมาแล้วค่ะ”
นภดาราหันไปหา พเยียกอดประจบ ไม่ทันเห็นกอหญ้าที่ยืนแอบหลังอิศรอยู่ด้วยความเจียมตัว
“คุณแม่เรียกหาพเยียเหรอคะ”
“จ้ะ แม่จะแนะนำให้หนูรู้จักกับคุณอิศร ลูกคุณลุงอรรถที่อยู่บ้านติดกับเรา” นภดาราหันไปหาอิศร “อิศรจ๊ะ นี่พเยียจ้ะ”
พเยียเห็นอิศร ยิ้มหวานหว่านเสน่ห์สุดๆ “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
อิศรยิ้มตอบ
“สวัสดีครับ” อิศรดึงกอหญ้ามาแนะนำ “แล้วนี่แฟนผมครับ ชื่อกอหญ้า”
พเยียชะงัก ในจังหวะที่กอหญ้าก้าวขึ้นมายืนเคียงข้างอิศร
กอหญ้ายิ้มสดใส “สวัสดีค่ะ คุณพเยีย”
พเยียตกตะลึง อึ้ง ตัวแข็งทื่อ เหมือนโดนผีหลอก นภัสรพี นภดารา และชื่นสังเกตเห็น มองพเยียด้วยความแปลกใจ
“พเยีย เป็นอะไรไปลูก” นภดาราถาม
พเยียไม่ได้ยินนภดารา พึมพำ “แก...”
พเยียถอยหลังกรูด ใจสั่นทำอะไรไม่ถูก นภดารากับนภัสรพียิ่งแปลกใจ
นภัสรพีดุ “พเยีย”
พเยียสะดุ้งเฮือก หันไปมองนภัสรพี เห็นสีหน้าดุดัน พเยียหันหลังกลับ วิ่งหนีไป
อิศร กอหญ้ามองตามงงๆ นภดาราทั้งตกใจ ทั้งแปลกใจ
“พเยีย... ลูก” นภดาราหันมาหาอิศรและกอหญ้า “พเยียเป็นอะไรไปไม่ทราบ อาขอตัวไปดูลูกก่อนนะจ๊ะ”

นภดาราจะวิ่งตามพเยียไป นภัสรพีคว้าแขนไว้
“ไม่ต้อง ดารา ไม่ต้องไป”
สีหน้านภัสรพี โกรธ เอาเรื่องสุดๆ

พเยียหลบเข้าในห้องตัวเอง หวาดกลัวและกลัดกลุ้มมาก เดินพล่านไปมา
“นังกอหญ้า มันยังไม่ตาย มันยังไม่ตาย”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น พเยียสะดุ้งเฮือก ได้ยินเสียงแม่ชื่นตะโกนเข้ามา
“คุณหนูคะ เปิดประตูด้วยค่ะ”
พเยียลนลาน มือไม้สั่นไปหมด
พูดกับตัวเอง “ซวยแน่ ฉันจะทำยังไงดี หนี ต้องหนี” รีบตะโกนตอบ “ออกไป อย่ามายุ่งกับฉัน จะไปไหนก็ไป”
ที่หน้าห้องเวลานั้น แม่ชื่นยืนอยู่กับนภัสรพี ที่หน้าตาโกรธจัด
“ท่าทางไม่ยอมเปิดแน่ค่ะ คุณชาย ไขกุญแจเข้าไปเลยไหมคะ”
นภัสรพีเดินเข้าไปเคาะประตู พูดเสียงหนัก
“พเยีย เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
ส่วนในห้อง พเยียที่กำลังเก็บเครื่องเพชร ของมีค่าทั้งหมดใส่กระเป๋าถึงกับชะงัก หน้าซีดเผือด เสียงนภัสรพีดังขึ้นอีก
“ฉันบอกให้เปิดประตู ได้ยินไหม นี่เป็นคำสั่ง”
พเยียเอาสร้อยเพชร แหวนเพชร ยัดใส่ในอกเสื้อมือไม้สั่น

ครู่ต่อมาพเยียเปิดประตู หน้าตาหวาดหวั่น เห็นว่าที่หน้าประตูห้องนภัสรพียืนอยู่กับชื่น
“เห็นที ฉันคงต้องจัดการกับเธอให้เด็ดขาด”
นภัสรพีเดินเข้าไปในห้องพเยีย ปิดประตู พเยียยืนตัวสั่น หน้าซีด นภัสรพีดุเสียงเข้ม
“เธอทำอะไรของเธอ พเยีย”
“คือ...คือหนู...”
พเยียอึ้ง อึกอัก ไม่รู้ว่านภัสรพีรู้อะไรมาบ้าง นึกข้อแก้ตัวไม่ออก ได้แต่ยืนหน้าซีด ปากสั่น
“จากเด็กกำพร้ายากจน ฉันให้โอกาสเธอ ชุบตัวจนเป็นเจ้าหญิง นึกไม่ถึงเลย ว่าเธอจะทำตัวเลวร้ายอย่างนี้”
พเยียเข้าใจผิด ลนลานแก้ตัว “หนู...หนูผิดไปแล้วค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” พเยียคุกเข่าลงยกมือไหว้ปลกๆ “อย่าทำอะไรหนูเลยค่ะ ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ”

นภัสรพีเสียงดัง “ไม่ได้!” พเยียแทบช็อก “เธอเป็นคนเรียกร้องอยากจะจัดงานนี้ ให้ใครๆ ยอมรับ แต่กลับทำตัวบ้าๆ บอๆ ไร้มารยาทสิ้นดี”
พเยียฟังแล้วงง ชักเอะใจว่านภัสรพีคงจะไม่ได้พูดเรื่องเดียวกับที่เธอกำลังคิดกลัวอยู่
“อะไรนะคะ”
นภัสรพีตำหนิต่อ “อย่านึกว่าเป็นลูกของนภดารา เป็นหลานของฉัน แล้วจะทำตัวยังไงก็ได้”
พเยียเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ ละล่ำละลักถามนภัสรพี
“เดี๋ยวค่ะ ตะกี๊คุณตาพูดว่า พเยียเป็นหลานของคุณตา พเยียยังเป็นหลานของคุณตาอยู่เหรอคะ”
นภัสรพีมองพเยียอย่างขัดใจ เหมือนโกรธที่พูดไม่รู้เรื่อง
“ตอนนี้ยังเป็นอยู่ แต่เธอต้องลงไปขอโทษหนูกอหญ้า ไปอธิบายว่าไอ้กิริยาเลวๆ เมื่อตะกี๊นี้ มันหมายความว่ายังไง ไม่งั้น ฉันอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”
พเยียงง แต่ก็แอบโล่งใจ “นี่หมายความว่า”
นภัสรพีดุ “ลงไปกับฉัน ไปขอโทษหนูกอหญ้าเดี๋ยวนี้”
นภพัสรพีเดินไปเปิดประตู แล้วเดินนำออกไป พเยียยังยืนอึ้งอยู่ แปลกใจที่ทุกคนยังไม่รู้เรื่องที่เธอทำร้ายกอหญ้า สาวแสบคิดในใจ
“นังกอหญ้ายังไม่ได้บอกความจริงกับแม่ กับตาของมัน ทำไม...นี่มันจะมาไม้ไหนเนี่ย”
นภัสรพีหันมาเรียกซ้ำ
“พเยีย!”
“ค่ะๆ”

พเยียรีบเดินตามนภัสรพีไป สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยอย่างที่สุด
ส่วนในงานเลี้ยง นภดาราจำใจต้องเล่าเรื่องโกหก แก้ตัวแทนพเยียกับอิศรและกอหญ้า
“ตอนเด็กๆ พเยียเค้า เอ่อ...ไม่ค่อยแข็งแรง เลยถูกแยกไปเลี้ยงที่ต่างจังหวัด” นภดาราหันมาพูดขอโทษขอโพยกับกอหญ้า “พเยียเค้าเลยรู้สึกว่าถูกแม่ทอดทิ้ง จิตใจของเค้าเลยไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ อาจจะพูดหรือทำอะไรไม่ค่อยน่ารัก ฉันหวังว่าหนูกอหญ้าคงจะให้อภัยนะจ๊ะ”
กอหญ้ารู้สึกสงสารพเยีย “ค่ะ หนูไม่โกรธหรอกค่ะ หนูเข้าใจ หนูเองก็ไม่ต่างอะไร กับคุณพเยีย เป็นเด็กที่พ่อแม่...”
กอหญ้ายังพูดไม่จบ นภัสรพีเดินนำพเยียเข้ามา อิศรร้องทักขัดจังหวะเสียก่อน
“คุณพเยียมาแล้ว”

นภดาราหันขวับ แล้วโผเข้าไปหาอย่างห่วงใย
“พเยีย ลูก” พลางลูบหน้าลูบหลัง “หนูเป็นอะไรหรือเปล่า”
นภัสรพีพยักหน้าให้พเยีย พเยียเดินขาสั่นเข้าไปหากอหญ้า ลุ้นสุดๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ขอโทษนะ กอหญ้า ตะกี๊ฉันตกใจน่ะ”
กอหญ้า ถามน้ำเสียงปกติ “ตกใจอะไรคะ”
พเยียมองหน้ากอหญ้าอย่างงุนงง แปลกใจ ครุ่นคิดอยู่ในใจ
“มันไม่พูดความจริง แล้วยังแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเรา มันต้องการอะไรกันแน่”
นภดาราเห็นพเยียนิ่ง เลยเตือน “ว่าไงล่ะจ๊ะ พเยีย กอหญ้าเค้าถามว่าหนูตกใจอะไร”

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 3/2 วันที่ 15 ก.พ. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager.co.th