อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 6/4 วันที่ 25 ก.พ. 56


อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 6/4 วันที่ 25 ก.พ. 56

พเยียรับแหวนมาสวมอย่างดีใจ
“ขอบคุณนะคะ คุณแม่ใจดีที่สุดเลย”
พเยียโผเข้ากอดนภดาราออดอ้อนเอาใจ นภดาราหัวเราะสดใส แล้วหันมาหากอหญ้าที่นั่งเรียบร้อยอยู่
“มัวแต่เล่นเพลิน หนูมีอะไรจ๊ะ หนูกอหญ้า”
“แม่ชื่นให้หนูมาเรียนว่า ที่คุณอาจะลงไปทำอาหารกลางวัน แม่ชื่นเตรียมเครื่องปรุงไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“อ๋อ จ้ะ ฉันลงไปเดี๋ยวนี้แหละ หนูช่วยฉันเก็บกล่องพวกนี้ที”

นภดาราเก็บกล่องเครื่องเพชร กอหญ้าช่วยปิดกล่องเก็บ ระมัดระวังและเจียมตัว นภดาราหันไปหาพเยียที่กรายมือดูแหวนบนนิ้วอย่างชอบใจ
“ลงไปช่วยแม่ทำกับข้าวไหมคะลูก”


พเยียประจบท่าทีน่ารัก “ช่วยชิมอย่างเดียวได้ไหมคะ เดี๋ยวแหวนเพชรพเยียเปื้อน”
นภดาราเย้า “แหม รู้งี้แม่ไม่ให้ เอาคืนซะดีไหมนี่”
“ไม่เอาค่ะ ไม่คืน ไม่ให้”
แม่ลูกหัวเราะหยอกล้อแย่งแหวนกัน กอหญ้ามองแล้วหน้าเศร้า ไม่ได้อิจฉา เพียงแค่คิดถึงตัวเองว่าไม่มีใคร เด็กสาวรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน จึงขยับตัวจะลุกขึ้น
“งั้น... หนูขอตัวลงไปข้างล่างก่อนนะคะ”
นภดาราหันมองกอหญ้า เห็นแววตาเศร้าแล้วนึกรู้ สงสาร
“เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ กอหญ้า”
กอหญ้านั่งลงอย่างเดิม นภดารามองอย่างเอ็นดู
“ฉันมีของให้หนูเหมือนกันนะ”
นภดาราหยิบแหวนวงเล็กๆ น่ารัก ราคาไม่แพงนักขึ้นมา
“ฉันให้หนู ถือว่ารับขวัญที่หนูกอหญ้าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของวังศิวาลัย”
“หนูรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ แค่คุณอาให้หนูอาศัยอยู่ที่นี่ก็เป็นพระคุณมากแล้ว” กอหญ้าบอกอย่างเกรงใจ
พเยียแอบทำหน้าหมั่นไส้ จะดีไปถึงไหนเนี่ย
“อย่าดื้อสิจ๊ะ หนูเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ให้ของ ก็ต้องรับ รู้มั้ย”
นภดาราเอาแหวนวางให้ในมือเลย กอหญ้าจำใจรับไว้ ไหว้ขอบคุณ
“ไหน ลองสวมสิ พอดีไหม”
กอหญ้าสวมแหวนลงไปที่นิ้วนางข้างขวาอย่างเคยชิน ความรู้สึกบางอย่างพรั่งพรูเข้ามาในใจจนกอหญ้าชะงักนิ่ง เหมือนอยู่ในภวังค์ นภดาราเห็นท่าทางประหลาดของกอหญ้านึกสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ กอหญ้า”
กอหญ้า รู้สึกตัว “เปล่าค่ะ หนูแค่รู้สึกแปลกๆ”
“แปลกยังไง” นภดาราสงสัย
“มันคุ้นๆ เหมือนกับว่า หนูเคยใส่แหวนที่นิ้วนี้มาก่อนค่ะ”
พเยียรำพึงเบาๆ “แหวน!”
พเยียเอะใจ เพิ่งนึกได้เรื่องแหวน กอหญ้าถอดแหวนออกดู เห็นรอยที่โคนนิ้วนางขวาชัด
“จริงๆ ด้วยค่ะ คุณอา เมื่อก่อนหนูเคยใส่แหวนที่นิ้วข้างนี้จริงๆ”
นภดาราดูรอยที่นิ้วของกอหญ้าอย่างสนใจ
“ท่าทางคงใส่ติดนิ้วเป็นประจำเลยล่ะนี่ ดูสิจ๊ะ เป็นรอยชัดเลย” นภดาราว่า

พเยียนิ่งอึ้ง หน้าเสีย
ครู่ต่อมาทุกคนช่วยกันเตรียมอาหารง่ายๆ ประเภทสลัดอยู่ในครัว มีพเยียคนเดียวที่นั่งห่างออกไป หน้าตาครุ่นคิด

ทั้งหมดยังคุยกันเรื่องแหวนของกอหญ้า แม่ชื่นถามอย่างสนใจมาก
“ตอนที่หนูรู้สึกตัวขึ้นมา แหวนของหนูไม่อยู่แล้วหรือคะ”
กอหญ้าพยายามนึก “ตอนที่ฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล หนูไม่เห็นนะคะ หรือว่าจะอยู่ที่คุณอิศร...หนูก็ไม่แน่ใจ”
พเยียนั่งฟังเงียบๆ พยายามเก็บข้อมูลให้มากที่สุด
นภดาราเอ่ยขึ้น “ถ้าอยู่ที่อิศร เค้าก็น่าจะคืนให้หนูแล้วล่ะ ฉันว่ามันอาจจะหายไปตอนที่หนูสลบก็ได้”
“น่าเสียดายนะคะ”
แม่ชื่นบ่นเสียดายเพราะอยากเห็นแหวนของกอหญ้า แต่นภดาราคิดว่าชื่นเสียดายแหวน พูดปลอบกอหญ้า
“โชคดีแล้วล่ะจ้ะ แม่ชื่น ที่มันเอาไปแต่แหวน คนสมัยนี้ใจร้ายกันเหลือ เกินแค่เงินไม่กี่ร้อยก็ฆ่ากันได้”
นภดารากับกอหญ้าคุยกันไป ทำสลัดกันไป ไม่ได้คิดอะไร
แม่ชื่นมองนภดารากับกอหญ้า แล้วหันมา เห็นพเยียมองสองแม่ลูกนิ่งๆ เครียดๆ อยู่อีกมุม
หญิงชราสังหรณ์ใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

นภาจรีกำลังแปรงขนปุยฝ้ายอย่างทะนุถนอม แม่ชื่นเดินวนเวียนอยู่รอบๆ หน้าตาหนักใจ ถอนใจไปมา
“มีอะไร แม่ชื่น”
แม่ชื่นอยากพูด แต่ไม่กล้า “เปล่าค่ะ คุณหญิง”
นภาจรีหันไปเลือกโบว์เล็กๆ พยายามจะแต่งตัวให้ปุยฝ้าย นภาจรียกโบว์ขึ้นมาถาม
“อันนี้ดีไหม แม่ชื่น”
แม่ชื่นไม่มีอารมณ์จะดู พยักพเยิดไป “ค่ะ”
นภาจรีลองติด ฝ่ายแม่ชื่นทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ไม่กล้าพูด นภาจรีติดโบว์เสร็จ หอมปุยฝ้ายอย่างแสนรัก
“ลูกสาวแม่สวยจังเลย …อุ๊ย จมูกเย็นเชียว อีกแป๊บนึงค่อยไปกินนมนะ”
แม่ชื่นยังคงเดินวนไปเวียนมาอยู่ นภาจรีทนไม่ไหวละสายตาจากปุยฝ้าย หันไปมองชื่นอย่างรำคาญ
“แม่ชื่น จะพูดอะไรก็พูดมา เดินวนไปวนมาอยู่ได้ เวียนหัว”
แม่ชื่นลงนั่ง มองซ้ายมองขวา กลัวใครมาได้ยิน
“คือ...คุณหญิงคะ ดิฉันสงสัยว่า หนูกอหญ้าอาจเป็นลูกคุณดาราค่ะ”
นภาจรีตกใจ วางปุยฝ้ายลงทันที
“อะไรนะ”
นภาจรีลากแม่ชื่นเข้ามาในห้องตัวเอง ปิดประตู
นภาจรีมีท่าทีตื่นเต้น “ทำไม ทำไมแม่ชื่นถึงคิดอย่างนั้น”
“คือตอนแรก ดิฉันเห็นว่า กริยาท่าทางของคุณดารากับหนูกอหญ้ามีอะไรบางอย่างคล้ายกันมาก เวลาหัวเราะ เวลายิ้ม แต่ก็คิดว่าตัวเองคิดมากไปเอง เลยไม่อยากพูดไป”
“แล้วทำไมมาแน่ใจเอาตอนนี้” นภาจรีซัก
“ก็ไม่ถึงกับแน่ใจหรอกค่ะ แต่ว่าเมื่อตะกี๊ คุณดาราเห็นรอยที่นิ้วของหนูกอหญ้า เธอเคยใส่แหวนค่ะ ใส่มานานจนเป็นรอยที่นิ้ว...เหมือนกับใส่ติดตัวมาหลายๆ ปียังงั้นเลยค่ะ”
นภาจรีเริ่มเก็ต “แม่ชื่นคิดว่า แหวนที่กอหญ้าเคยใส่ เป็นแหวนของหลานดารา ใช่ไหม”
แม่ชื่นอึกอัก ลำบากใจ “ดิฉันได้ยินคุณชายบอกว่า ทนายปราบเจอตัวลูกสาวของคุณดารา ที่มีทั้งล็อกเก็ต ทั้งแหวน แล้วหนูกอหญ้าก็นั่งรถลงมาจากเชียงใหม่พร้อมๆ กันกับคุณพเยีย ...ดิฉันก็เลยมาคิดว่า…”
นภาจรีพูดต่อให้ “ถ้านังพเยียเป็นตัวปลอม กอหญ้า ก็น่าจะเป็นตัวจริง”
“ค่ะ” แม่ชื่นบอก
นภาจรีตาวาวโรจน์ สะใจสมใจ

ริมสระน้ำยามบ่ายๆ กอหญ้านั่งถอดแหวนใส่แหวนเข้าๆ ออกๆ พิจารณาดูรอยแหวนที่นิ้วของตัวเอง นึกถึงคำพูดชิษณุพงษ์ที่บอกอย่างมั่นใจ
“กอหญ้าเพื่อนผม ที่นิ้วนางข้างขวาของเค้า จะมีแหวนใส่ไว้ตลอดเวลา แหวนที่เป็นรูปดาว”
แต่พออิศรยกมือขวาของกอหญ้าขึ้นมา ชิษณุพงษ์มอง เห็นที่นิ้วว่างเปล่า
“กอหญ้าของฉัน ไม่เคยมีแหวนแบบนั้น เค้าไม่ใช่กอหญ้าของคุณ เลิกมายุ่งกับเค้าได้แล้ว” อิศรบอกอย่างรำคาญแล้วหันมาทางกอหญ้า “ไป กอหญ้า”
กอหญ้าดึงตัวเองกลับมา รำพึงอย่างปลงๆ
“กะอีแค่แหวนวงเดียว มีหรือไม่มีมันจะไปสำคัญอะไร”
เสียงนภาจรีดังเข้ามา
“สำคัญสิ”
นภาจรีเข้ามา หน้าตาเอาจริงเอาจังมาก กอหญ้าหันมามอง ตกใจนิดๆ
“สำคัญมากซะด้วย” นภาจรีย้ำ
“คุณหญิง”

กอหญ้าตกใจระคนแปลกใจ
นภาจรีคว้ามือกอหญ้ามาดู ถามคาดคั้นอย่างหนัก

“บอกฉันมา เธอจำได้ไหม ว่าแหวนของเธอหน้าตาเป็นยังไง”
กอหญ้าตกใจกับท่าทีเอาจริงของนภาจรี “หนู...หนูจำไม่ได้ค่ะ”
นภาจรีขัดใจ “พยายามหน่อยซี ใส่มานานจนเป็นรอยขนาดนี้ ลองนึกดูดีๆ สิเผื่อจะนึกออก นึกดูดีๆ”
กอหญ้าพยายามคิด
“หนูนึกไม่ออกค่ะ”
นภาจรีคาดคั้น “พยายามหน่อยซี มันสำคัญกับฉันมากนะ พยายามหน่อยนึก นึกให้ออก”
กอหญ้าพยายามนึก เห็นเป็นภาพตัวเองเล่นเปียโน ที่มือมีแสงประกายวิบวับ แต่ภาพนั้นพร่าเลือนจนมองไม่เห็นว่าแหวนหน้าตาเป็นยังไง แล้วก็เริ่มปวดหัวหนึบๆ
“หนู...หนูเห็น...โอ้ย”
นภาจรีมองอย่างคาดคั้น ลุ้น อยากให้กอหญ้าคิดให้ออก จับไหล่กอหญ้าเขย่า
“พยายามหน่อยสิ กอหญ้า เธอเห็นแล้วใช่ไหม”
“โอ้ย หนูปวดหัว”
พเยียเดินผ่านมาพอดี เห็นนภาจรีกำลังคาดคั้นกอหญ้า ก็รีบพุ่งเข้ามาทันที
“แหวนของเธอเป็นยังไง แหวนเพชรใช่หรือเปล่า มีอะไรสลักอยู่ไหม นึกให้ออกสิ มันสำคัญมากนะ กอหญ้า”
พเยียได้ยิน รีบเข้าไปดึงกอหญ้าออกจากนภาจรี
“หยุดนะ” รีบดันกอหญ้าไปไว้ข้างหลัง เหมือนปกป้อง “คุณยายหญิงทำอะไรกอหญ้า”
“ถอยไป ไม่ใช่เรื่องของเธอ” นภาจรีหงุดหงิด
“ไม่ค่ะ คุณตาบอกว่าถ้ากอหญ้าเป็นอะไรในบ้านนี้ พเยียต้องรับผิดชอบพเยียต้องดูแลกอหญ้า” พเยียดึงกอหญ้า “ไป กอหญ้า ไปกับฉัน”
พเยียจะพากอหญ้าออกไป นภาจรีขวางไว้ มองพเยียอย่างรู้ทัน
“เธออยากขัดขวางฉันมากกว่า เธอกลัวกอหญ้าจะจำอดีตได้ใช่ไหม”
พเยียประสานสายตากับนภาจรี รู้ว่าอีกฝ่ายรู้ทันตัวเอง
“ครั้งนี้เธอรอด แต่ซักวันกอหญ้าก็ต้องจำเรื่องทุกอย่างได้”
กอหญ้าพูดด้วยเสียงอ่อยๆ
“คุณหญิงคะ แต่หนูจำอะไรไม่ได้จริงๆ ค่ะ หนูขอโทษ”
“ไปเถอะกอหญ้า เธอไม่สบายมากแล้ว”
พเยียเชิดหน้า พากอหญ้าออกไป นภาจรีมองตามเจ็บใจ

พเยียเอายาให้กอหญ้ากิน แล้วประคองกอหญ้าลงนอน ท่าทางกังวล
“คุณยายหญิงถามอะไรเธอ”
กอหญ้าลงนอน ตอบด้วยเสียงอ่อนระโหย ยังคงปวดหัวอยู่
“คุณหญิงท่านอยากรู้ว่าฉันเคยใส่แหวนอะไรค่ะ”
“แล้วเธอนึกออกไหม”
กอหญ้าส่ายหน้า
พเยียถามย้ำ “แน่นะ ซักนิดนึงก็นึกไม่ออกจริงๆ เหรอ”
“ฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่คุณหญิงท่านไม่ยอม จะให้ฉันนึกให้ออกให้ได้”
พเยียเม้มปาก เจ็บใจนภาจรี กอหญ้าเริ่มตาจะปิด เพราะยาเริ่มออกฤทธิ์
“ทำไม แหวนของฉันมันสำคัญอะไรนัก ท่านจะอยากรู้ไปทำไม”
กอหญ้าพึมพำ
พเยียมองกอหญ้า คิดหนัก รู้สึกว่าสถานภาพของตนเองเริ่มคลอนแคลนมากขึ้นทุกที
“นังนภาจรีคงไม่หยุดแค่นี้แน่ ฉันคงจะปล่อยเธอไว้ไม่ได้ซะแล้ว” พเยียคิดในใจ มองกอหญ้าที่ค่อยๆ ผล็อยหลับไป สีหน้าพเยียนิ่ง เยือกเย็น

นภาจรีเดินชะเง้อชะแง้รออยู่ที่ทางเข้าด้านหน้า แม่ชื่นอยู่ใกล้ๆ
“ทำไมพี่ชายยังไม่กลับอีกนะ”
“อีกประเดี๋ยวก็คงมาค่ะ คุณหญิง” แม่ชื่นดูนาฬิกา “คุณชายจะต้องเดินทางไปต่างประเทศคืนนี้ กระเป๋าเดินทางยังอยู่ที่นี่ ยังไงก็ต้องกลับมาเอาก่อน”
“นั่นไง มาแล้ว”
รถคันหรูของนภัสรีพีแล่นเข้ามาจอด นภาจรีถลาลงไปหา แต่กลายเป็นว่ามีเพียงคนขับรถ ที่ลงมาอย่างรีบร้อน
“อ้าว” นภาจรีถามวินัยคนขับรถ “คุณชายไปไหน ไม่กลับมาด้วยเหรอ”
“คุณชายประชุมกรรมการบริษัทเสร็จแล้ว ต้องเลยไปธุระสำคัญอีกทีนึงครับ คุณหญิง ท่านให้ผมมาเอากระเป๋าเดินทาง แล้วไปรอท่านที่สนามบินเลย” วินัยหันมาทางแม่ชื่น “กระเป๋าอยู่ไหนครับ คุณแม่บ้าน”
“อยู่ข้างบนจ้ะ”
แม่ชื่นขยับจะพาไป แล้วเห็นนภาจรีหน้าตาขัดใจ เดินไปให้ห้องสมุด หน้าตาเอาเรื่อง แม่ชื่นตกใจ
“คุณหญิงคะ”
นภาจรีเดินลิ่วไป ไม่หันมา แม่ชื่นหันไปบอกศรีที่เดินผ่านมาพอดี
“ศรีๆ พาวินัยไปเอากระเป๋าเดินทางของคุณชายหน่อย” แล้วรีบตามนภาจรีไป “คุณหญิงขา คุณหญิง”

นภาจรีคว้าโทรศัพท์ กำลังจะกดหานภัสรพี แม่ชื่นเข้ามาร้องห้าม
“คุณหญิงขา จะทำอะไรคะน่ะ”
“ฉันจะโทรบอกพี่ชาย เรื่องกอหญ้า”
“อย่าค่ะ อย่าเพิ่ง”
“เอ๊ะ จะห้ามทำไมนะ แม่ชื่น”

แม่ชื่นดึงมือนภาจรีรั้งไว้ นภาจรีขัดใจนัก
ศรีกับวินัยช่วยกันยกกระเป๋าเดินทางของนภัสรพี เดินลงไปชั้นล่าง นภดาราตามมากำชับ

“เสื้อโคลทนี่วินัยเอาให้คุณพ่อนะ ถือขึ้นเครื่องไป” นภดาราส่งให้ “เวลาไปถึงโน่นจะได้ใช้ได้เลย ไม่ต้องรอเปิดกระเป๋า”
วินัยรับคำ “ครับ คุณดารา”
“แล้วนี่ ยาหยอดตา เวลานั่งเครื่องบินนานๆ ท่านต้องใช้”
ระหว่างนั้นพเยียเดินผ่านมาเห็น หยุดมองอย่างสนใจ
“ใครจะนั่งเครื่องบินไปไหนคะ คุณแม่”
“คุณตาจะไปนิวยอร์กจ้ะ ไปทำธุระ”
พเยียตาวาว ที่รู้ว่านภัสรพีจะไม่อยู่ รีบเข้ามาถาม “ไปนานไหมคะ”
“สองอาทิตย์จ้ะ ราวๆ ปลายเดือนโน่นแน่ะกว่าจะกลับ”
“สองอาทิตย์”
พเยียพึมพำพลางยิ้ม แล้วกอดเอวนภดาราอย่างประจบ หน้าตาเจ้าเล่ห์

แม่ชื่นอธิบายให้นภาจรีที่ยืนหน้าบึ้งฟัง
“ค่ะ แค่สองอาทิตย์เท่านั้นเอง คุณหญิงรอให้คุณชายกลับมาก่อน ค่อยพูดกับท่านดีกว่า เรื่องสำคัญขนาดนี้ พูดทางโทรศัพท์ไม่ได้นะคะ”
นภาจรียอม ตอบเสียงสะบัดๆ
“ก็ได้”

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 6/4 วันที่ 25 ก.พ. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager