อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 5/3 วันที่ 21 ก.พ. 56

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 5/3 วันที่ 21 ก.พ. 56

อิศรด่า “สกปรก! กอหญ้าไม่ใช่ผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะ สกุณา”
“คุณอิศรทราบได้ยังไงคะ แม่กอหญ้าเค้าก็ไม่ได้ปฏิเสธไม่ใช่หรือ ว่าเค้าไม่ได้มีอะไรกัน ไม่งั้น ผู้ชายเค้าจะติดใจ จนต้องตามมาถึงนี่หรือ”
สกุณาย้อน อิศรเหลืออดด่าแรง “สารเลว”
“ไอ้อิศร”
อรรถระงับอารมณ์ไม่อยู่ ตบหน้าอิศรไปหนึ่งฉาดใหญ่

อิศรทั้งโกรธทั้งเสียใจ มองหน้าอรรถ ขบกรามแน่นจนเป็นสัน อรรถอ่อนลง



“อิศร พ่อ...”
อิศรสะบัดหน้าหนี อรรถหันไปพาลใส่กอหญ้า
“เพราะเธอคนเดียว”
สกุณาผสมโรง “พาผู้ชายมาต่อยกันในบ้านยังไม่พอ ยังทำให้พ่อลูกเค้าทะเลาะกันอีก ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ เรื่องเดือดร้อนก็ตามมาไม่เว้นแต่ละวัน”
“ถ้าทุกคนคิดอย่างนั้น ฉันก็ขอลาล่ะค่ะ”
กอหญ้ามองอรรถและสกุณาอย่างเจ็บปวด ยกมือไหว้ลา แล้วหันหลังเดินออกไป
อิศรเข้ามาขวาง “อย่านะ กอหญ้า อย่าไป ฉันไม่ให้เธอไป”
“ฉันต้องไปค่ะ ถ้าคุณหวังดีกับฉันจริง ปล่อยฉันไปดีกว่า อย่าห้ามฉันเลย”
กอหญ้าเดินไป ไม่เหลียวหลังกลับมา อิศรจะตาม อรรถล็อกตัวลูกชายไว้
“ปล่อยเค้าไป อิศร ให้เค้ากลับไปหาคนของเค้า”
กอหญ้าเดินลับไป อิศรดิ้นรน ตะโกนดังลั่น
“ปล่อยผมนะ พ่อ ปล่อยผม” อิศรตะโกนสั่ง “กอหญ้า กลับมาเดี๋ยวนี้นะกอหญ้า”
กอหญ้าเดินออกประตูรั้วไป น้ำตาไหลพราก

กอหญ้าเดินมาตามถนนในซอยอันร่มรื่น เดินไปเรื่อยๆ เหมือนคนไม่มีที่ไป
จนเวลาผ่านไป อีกมุมหนึ่งของถนน ห่างออกมาจากบ้านอดิศวรมากปล้ว แสงแดดแรงขึ้น กอหญ้าเริ่มหมดแรง หยุดพักที่ร่มต้นไม้ข้างทาง
“จะไปไหนดี” กอหญ้าคิดไปคิดมา “เชียงใหม่ เราคงต้องกลับไปที่เชียงใหม่”
กอหญ้าจะลุกขึ้น แล้วเกิดอาหารเวียนหัว ซวนเซไปพิงต้นไม้ กอหญ้าค่อยๆ ทรุดตัวลงกับพื้น หลับตานิ่ง รู้สึกเหมือนโลกหมุนติ้ว
รถหรูคันงามจอดลงที่ข้างถนน ใกล้ๆ กับที่กอหญ้านั่งอยู่ ประตูรถเปิดออก เจ้าของรองเท้าหนังสีดำมันขลับก้าวลงมา
กอหญ้ารู้สึกว่ามีคนเดินมาใกล้ พยายามลืมตามอง เห็นใบหน้าของคุณชายนภัสรพีมองมาอย่างห่วงใย
“หนู หนูกอหญ้าใช่ไหม”

กอหญ้าหน้ามืดเป็นลมหมดสติไป
ไม่นานต่อมา ที่ถนนหน้าบ้านอิศวร กำลังโกลาหล อิศรวิ่งกลับมาจากด้านหนึ่ง มาสมทบกับพรและรปภ. ที่เข้ามารายงาน

“ไม่เจอครับคุณอิศร”
อิศรหนึ้งบึ้งตึง โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง “เป็นไปได้ยังไง! คนตัวเบ้อเริ่ม หายังไงหาไม่เจอ”
“เราก็หากันจนทั่วแล้วค่ะ เอามอเตอร์ไซค์วิ่งออกไปดูถึงปากซอยแล้ว ไม่มีจริงๆ” พรบอก
“กอหญ้าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา จะมีแรงวิ่งไปไหนได้ ยังไงก็ต้องอยู่แถวๆ นี้แหละ” อิศรมั่นใจ
“แต่เราหากันจนทั่วแล้วจริงๆ ค่ะ คุณอิศร” พรบอกอีก
อิศรเริ่มหงุดหงิดหนัก “ฉันไปหาเอง” บ่นว่าพรกับรปภ. “ไม่ได้เรื่องเลย”
ท่าทีอิศรอารมณ์เสีย เดินผลุนผลันกลับเข้าไปในบริเวณบ้าน

สกุณายืนอยู่ในบ้าน มองอิศรขับรถพุ่งออกไป ก่อนจะหันไปบอกอรรถ
“คุณอิศรท่าทางจะคลั่งยัยเด็กกอหญ้านั่นมาก”
อรรถยังอารมณ์ขุ่นมัวจากเรื่องที่เกิดขึ้น
“ฉันสังหรณ์ตั้งแต่แรกแล้ว ว่านังเด็กคนนี้ ต้องนำความเดือดร้อนมาให้เรา แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ”
สกุณาเข้ามากอดคลอเคลีย “แต่เราก็กำจัดมันออกไปได้แล้ว โดนขนาดนี้ คงไม่มีน้ำหน้ากลับมาอีกหรอกค่ะ”
ลึกลงไปในสีหน้ายิ้มละไมของสกุณา มีแต่ความสาสมใจ

ด้านกอหญ้าค่อยๆ ลืมตาขึ้น เห็นใบหน้าอ่อนหวานของนภดาราอยู่ตรงหน้า กอหญ้ากระพริบตาถี่ๆ รวบรวมสติ เสียงนภดาราร้องขึ้นมาอย่างดีใจ
“หนูกอหญ้า ฟื้นแล้ว”
กอหญ้าค่อยๆ ลุกขึ้น เห็นตัวเองนอนอยู่บนโซฟายาว กลางห้องโถงของวังศิวาลัย กอหญ้ามองไปรอบตัวอย่างงงๆ
“หนูมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
“หนูเป็นลมอยู่ริมถนนน่ะจ๊ะ โชคดี ที่คุณพ่อท่านไปพบเข้า เลยพาหนูมาที่บ้านเรา”
ฟังที่นภดาราบอก กอหญ้ายิ้มบางๆ ดีใจ โล่งใจ

ครู่ต่อมากอหญ้านั่งอยู่กับพื้นข้างๆ นภดารา ก้มกราบนภัสรพีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ นภาจรีนั่งอยู่ถัดไป
“หนู...เอ่อ ดิฉันกราบขอบพระคุณคุณชายมากค่ะ ที่กรุณา
นภัสรพีเอ็นดูและถูกชะตาเด็กสาวตรงหน้าอย่างประหลาด “เรียกตัวเองว่าหนูก็ได้ แล้วก็เรียกฉันว่าคุณตา...นึกเสียว่าเธอเป็นเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึงของฉัน”
“ขอบคุณค่ะ” กอหญ้าไหว้อีก
นภดาราเข้ามาประคอง “ไปนั่งบนเก้าอี้เถอะจ้ะ กอหญ้า เดี๋ยวจะหน้ามืดเป็นลมไปอีก”
นภาจรีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร แต่ยังไว้ตัว “เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลวันนี้เองไม่ใช่หรือ เราน่ะ แล้วนึกยังไงถึงออกมาเดินคนเดียว”
นภัสรพีนึกตาม เห็นด้วย “นั่นสิ เป็นเด็กผู้หญิง ไปล้มหมดสติอยู่ข้างถนน มันอันตรายมากนะ”
กอหญ้ายิ้มเจื่อนๆ ก้มหน้า นภดาราทำท่าเหมือนนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“ตายจริง มัวแต่ตกใจ ฉันยังไม่ได้โทรบอกทางบ้านอดิศวรเขาเลย ว่าหนูอยู่ที่นี่ ป่านนี้คงจะตกอกตกใจกันแย่แล้ว ว่าหนูหายไปไหน”
นภดาราขยับจะลุก กอหญ้าตกใจ รีบห้าม
“อย่าค่ะ” นภดาราชะงัก “ไม่...ไม่ต้องโทร.หรอกค่ะ”
ทุกคนมองกอหญ้าอย่างแปลกใจ
“ทำไมล่ะจ๊ะ” นภดาราฉงน
“อย่าโทรเลยนะคะ” กอหญ้ายกมือไหว้ “หนูขอร้อง”
กอหญ้าหน้าเจื่อนๆ นภดาราพยายามเดา
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น อย่าบอกนะ ว่าหนูหนีเค้าออกมา”
กอหญ้าลำบากใจ สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดออกมา
“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้หนีออกมาค่ะ...แต่เค้า...เค้าไล่หนูออกมา”
ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน

พเยียเดินลงบันไดลงมาข้างล่าง ปากก็ร้องเรียกเสียงดัง
“คุณแม่ คุณแม่ขา”
เงียบกริบ พเยียมองไปรอบๆ เห็นบ้านเงียบ ไม่มีใครเลย พเยียแปลกใจนิดๆ
“ไปไหนกันหมดเนี่ย” พอดีเห็นศรีเดินเข้ามา “ศรี คุณแม่อยู่ไหน”
ศรียอบตัวลง “คุณหนูต้องการอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่า แค่ถาม ว่าคุณแม่อยู่ไหน”
“คุณดาราอยู่ในห้องสมุดกับคุณชายและคุณหญิงค่ะ”
พเยียฉงนสงสัย “อยู่ในห้องสมุดหมดเลยเหรอ ไปทำอะไรกันในนั้น”

ศรีไม่ตอบพเยียครุ่นคิด แววตาเต็มไปด้วยสงสัย
ภายในห้องหนังสือวังศิวาลัย กอหญ้าเล่าให้ทุกคนฟัง

“คุณชิษณุพงษ์จะพาหนูกลับไปเชียงใหม่ค่ะ แต่คุณอิศรไม่ยอม เลยทะเลาะ ต่อยกันใหญ่”
นภดารานึกรู้ เล่าเสริม “คุณอรรถกับคุณสกุณาไม่ค่อยชอบหนูกอหญ้าอยู่แล้วค่ะคุณพ่อ พอมีเรื่องขึ้นมาแบบนี้ คงจะยิ่งไม่ชอบใจใหญ่”
“ท่านโกรธมากค่ะ ท่านหาว่าหนูเป็นต้นเหตุให้ทุกคนเดือดร้อนวุ่นวาย”
นภัสรพีเดาออก พูดอย่างเห็นใจ “หนูก็เลยต้องออกมาจากบ้านนั้น”
“ค่ะ ท่าน”
นภดาราถาม “แล้วนี่หนูกำลังจะไปไหนเหรอจ๊ะ กอหญ้า”
กอหญ้ายิ้มเจื่อนๆ ไม่รู้จะตอบว่ายังไง เพราะไม่รู้หนจริงๆ
ที่หน้าประตูห้องหนังสือ พเยียเอาหูแนบประตูอยู่แล้ว แอบฟัง สีหน้าตื่นเต้น ระแวง
“นังกอหญ้า”

ส่วนในห้องกอหญ้าตอบเสียงอ่อย
“หนูยังไม่ทราบเลยค่ะ”
นภาจรีถามขึ้นมาตรงๆ อย่างคนไม่เกรงใจใคร
“แล้วมันเป็นความจริงหรือเปล่า ที่ชิษณุเขาว่า เธอกับเขาเป็นแฟนกัน”
กอหญ้ายิ้มเจื่อนๆ บอกตามตรง “หนูไม่ทราบจริงๆ ค่ะ”
นภาจรีงวยงง “ไม่ทราบ! ยังไงกัน”
กอหญ้ามองทุกคนในห้องที่มองมาอย่างสงสัย กอหญ้าซึมซับรับรู้ได้ว่าบุคคลเหล่านี้ ล้วนดีกับตน จึงไม่อยากโกหกอีกต่อไป ตัดสินใจพูดความจริง
“คือเมื่อเดือนก่อน หนูประสบอุบัติเหตุ สมองกระทบกระเทือนมาก ทำให้ความจำเสื่อมค่ะ”
ทุกคนตกใจ
นภดาราตะลึง คาดไม่ถึง “ความจำเสื่อมเหรอ”
กอหญ้าเล่าต่อ “ค่ะ หนูจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลย หนูเลยไม่ทราบว่าหนูเป็นใคร มาจากไหน แล้วเคยเป็นอะไรกับใครมาบ้าง”
ทุกคนอึ้งไปอีก มองกอหญ้าอย่างเห็นใจ
พเยียได้ยิน ลุ้นระทึกว่ากอหญ้าจะพูดอะไรอีก สีหน้าหวาดหวั่น วิตกกังวล และไม่สบายใจ

นภัสรพีถามอย่างเมตตา
“ในเมื่อจำอะไรไม่ได้ แล้วจะไปไหน ไปหาใคร”
กอหญ้า ก้มหน้า “หนูแค่คิดว่าจะไปให้พ้นจากบ้านนั้นก่อน แล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้าค่ะ”
นภาจรีเห็นใจ สงสารกอหญ้า แต่อดบ่นไม่ได้แบบคนปากร้าย
“อวดเก่ง ตัวเองไม่สบายอยู่แท้ๆ ถ้าพี่ชายฉันไม่ไปเจอเข้า เธอมีหวังได้ตายจริงๆ”
นภดาราบอกกับนภัสรพี “คุณพ่อขา ถ้าอย่างนั้น ลูกขออนุญาตให้กอหญ้าอยู่กับเราที่นี่ จนกว่าจะแข็งแรงดีนะคะ”
“ตอนแรกพ่อก็คิดเหมือนกัน ว่ากอหญ้าควรจะพักอยู่กับเราก่อน แต่ว่า...” ประมุขแห่งศิวาลัยมองนภดารา “ลูกอย่าลืมนะว่า ที่กอหญ้าต้องเจ็บตัวจนต้องเข้าโรงพยาบาลนี่เพราะใคร”

พเยียฟังอยู่ อย่างขัดใจ รู้ดีว่าคุณชายหมายถึงตน
“เชอะ”
ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นด้านหลัง
“คุณหนูพเยีย”
พเยียหันขวับมา เห็นแม่ชื่นยืนมองตาเขียว เป็นเชิงตำหนิ
“มาแอบฟังอะไรคะ”
พเยียหน้าเสียที่โดนจับได้

นภดาราพยายามอธิบาย แก้ต่างแทน
“แต่ลูกพเยียแกสำนึกผิดแล้วจริงๆ ค่ะ คุณพ่อ แกรับปากว่าจะกลับตัวกลับใจ ไม่ก่อเรื่องอีก”
เสียงเคาะประตูขัดขึ้น ทุกคนหันไป ได้ยินเสียงแม่ชื่น
“ขออนุญาตค่ะ”
หัวหน้าแม่บ้านเดินเข้ามา มีพเยียยืนหน้าหงิกตามมาข้างหลัง
“ขอประทานโทษที่เข้ามารบกวนนะคะ บังเอิญดิฉันเห็นคุณหนูพเยียยืนแอบฟังคุณๆ คุยกันอยู่ที่หน้าประตู”
นภาจรีหัวเราะกิ๊กออกมาอย่างสะใจ นภดาราหน้าเสีย
“นี่น่ะเหรอ ดารา ที่ว่ากลับตัวแล้ว” นภาจรีลุกขึ้น เดินเข้าไปหาพเยีย “คงไม่มีใครสอนเธอสินะ ว่าแอบฟังคนอื่นคุยกัน มันไม่ใช่สมบัติผู้ดี”
นภดาราลุกขึ้นมาห้าม ท่าทีเสียใจ “คุณอาหญิงคะ ทำไมต้องว่ากันถึงขนาดนั้น”
นภัสรพีลุกขึ้นปราม
“พอๆ นี่ไม่ใช่เวลามาประชันฝีปากกัน พเยียมาก็ดีแล้ว...ตาจะให้กอหญ้าเค้าพักอยู่กับเราที่นี่ มีปัญหาอะไรไหม”
พเยียไม่กล้าขัด จำใจรับคำ “ไม่มีค่ะ”
“ดี” นภัสรพีพอใจหันมาทางกอหญ้า “งั้นหนูพักอยู่กับเราที่นี่”
กอหญ้าเหลือบมองพเยีย แล้วส่ายหน้า
“หนูขอบพระคุณท่านมากค่ะ แต่ว่า...”
นภัสรพีรู้ทันขัดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องกลัว ฉันรับรองความปลอดภัยของหนู” แล้วพูดด้วยเสียงอันดังและทรงอำนาจ “ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับกอหญ้าอีก ในบ้านหลังนี้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ฉันจะไม่ถือว่าเป็นอุบัติเหตุ และจะไม่ฟังคำแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น” ประมุขแห่งศิวาลัยหันไปมองหน้าพเยีย “ฉันจะถือว่าเป็นความผิดของเธอ เธอจะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาด” เน้นคำตอนท้าย “ฉันจะไม่เห็นว่าเธอเป็นหลานของฉันอีกต่อไป เข้าใจไหม พเยีย”
พเยียนิ่งอั้น นึกไม่ถึงว่านภัสรพีจะเอาจริงขนาดนี้ นภดาราเข้ามายืนข้างพเยีย รับปากแทน
“จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นแน่นอนค่ะ คุณพ่อ ลูกรับรองได้”
นภาจรีมองหน้ากับแม่ชื่น ยิ้มเยาะ กอหญ้าเห็นบรรยากาศก็ไม่ค่อยสบายใจ

พเยียยังคงนิ่ง อ่านคำพูดและท่าทีจริงจังออกว่านภัสรพีมีนัยยะว่าจะไม่ยอมรับตนอีกต่อไป พเยียนึกหวาดกลัว
ส่วนทางด้านอิศรขับรถมาอย่างเร็วและแรง โดยมีสุบรรณนั่งเหวออยู่ข้างๆ รถจอดพรืดที่หน้าประตูรั้วเรือนไทย บ้านชิษณุพงษ์

สุบรรณถามงงๆ “เราจะมาหาคุณกอหญ้าที่นี่เหรอครับ”
อิศรไม่ตอบ กดแตรดังลั่น
สุบรรณตกใจ “โอ๊ย เบาๆ หน่อยครับ เดี๋ยวเจ้าของบ้านเค้าด่าเอาแล้วนี่มันบ้านใครกันครับ ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณกอหญ้าจะมาที่นี่”
อิศรไม่ตอบ ยังคงหน้าบึ้งตึง กดแตรสนั่นไม่เกรงใจใคร

ครู่ค่อมาแตงวิ่งออกมาดูที่หน้าประตู
“มาแล้วจ้า มาแล้วจ้า” แล้วบ่นอุบ “จะกดแตรทำไมนักหนา ได้ยินแล้ว”
แตงวิ่งมาถึงหน้าประตู เห็นหน้าอิศร คุ้นๆ ชะงัก
“เอ๊ะ”
อิศรกดกระจกรถยื่นหน้าออกมาบอก
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ฉันมีธุระ ฉันมาหากอหญ้า”
แตงจำได้ “คุณ!”
อิศรดุ “เปิดเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันชนประตูพังจริงๆ ด้วย”
“เปิดเดี๋ยวนี้จ้ะ”
แตงลนลานเปิดประตูรั้ว รถพุ่งทะยานเข้ามาจนเกือบจะชนแตง แตงกระโดดหลบเข้าข้างทาง ลงไปกลิ้งกับพื้นสนาม สุบรรณกดกระจกอีกข้างลงมา ตะโกนขอโทษแทน
“ขอโทษทีคร้าบ เจ้านายผมกำลังโมโห”
แตงมองตาม บ่นกระปอดกระแปด
“โมโหใครมาจากไหน ฉันจะไปรู้ไหมเนี่ย” นึกได้ เป็นห่วงนาย “ว้าย คุณณุ”
แตงรีบลุกจากพื้น วิ่งจู๊ดเข้าบ้านไป

อิศรจอดรถ เดินลงไปอย่างร้อนใจ สุบรรณรีบตาม อิศรเดินเข้าไปในบ้าน หน้าตาเอาเรื่อง
เจ้ามลุลีเดินออกมารับ
“ใครมากันน่ะ แตง” เจ้าชะงัก เมื่อเห็นหน้าตาเอาเรื่องของอิศร “มาหาใครคะ คุณ”
“สวัสดีครับ”

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 5/3 วันที่ 21 ก.พ. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager.co.th