อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/2 วันที่ 1 มี.ค. 56


อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/2 วันที่ 1 มี.ค. 56

“ลุงว่าไง แตงก็ต้องว่างั้นอยู่แล้ว ว่าแต่ว่า ถ้าแตงเจอคุณแม่วันเพ็ญ จะให้แตงไปถามว่าไง”
กอหญ้ายิ้มดีใจ รีบอธิบาย
“ตอนที่หมอสะกดจิต ฉันรู้สึกเหมือนได้กลับไปนั่งในรถคันนั้น ฉันตื่นเต้นมาก รู้สึกว่าเค้ากำลังจะพาฉันไปทำอะไรซักอย่างที่สำคัญ...สำคัญมากๆ ฉันอยากรู้น่ะค่ะ ว่าฉันจะไปไหน ไปหาใคร”
กอหญ้าหันไปบอกชิษณุพงษ์

“ฉันว่ามันต้องเกี่ยวกับสาเหตุ ที่คนต้องการทำร้ายฉันแน่ๆ”

ชิษณุพงษ์พยักหน้ารับรู้ มองกอหญ้าอย่างห่วงใย แตงมองดูคนทั้งสองหน้าจ๋อยๆ
ไม่นานต่อมาที่ห้องลุงเติมภายในบ้านเรือนไทยของชิษณุพงษ์ แตงเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ลุงเติมเข้ามาตาม



“เสร็จหรือยัง ไอ้แตง”
แตงรูดซิปกระเป๋า
“เรียบร้อยจ้ะ ไปกันได้”
ลุงเติมเดินนำออกไป ปากพูดไปด้วย
“รีบหน่อยก็ดี ตอนนี้ที่โรงไหมยุ่งๆ ลุงไม่อยากทิ้งมานาน”
“ลุงจ๋า เดี๋ยวก่อน”
“อะไร” ชายชราหันมาหา
“ลุงว่า คุณณุเค้าชอบคุณกอหญ้าไหมอ้ะ”
“หนูกอหญ้าแกน่ารัก ใครก็ชอบแกทั้งนั้น”
“ไม่ใช่ แตงหมายถึง คุณณุเค้าชอบแบบ แบบจะเป็นแฟนกับคุณกอหญ้ารึเปล่า”
“โอ้ย คุณณุน่ะชอบเค้าแน่ล่ะ แต่หนูกอหญ้าน่ะไม่แน่ ลุงว่าท่าทางเค้าจะชอบพ่อหนุ่มโมโหร้ายคนนั้นมากกว่าล่ะมั้ง”
ฟังลุงเติมว่า แตงยิ้ม แอบโล่งใจ

ภายในห้องรับแขกวังศิวาลัยเย็นนั้น อิศรดูมีท่าทางกระวนกระวายรอขณะกอหญ้า นภดารามองขำๆ
“คุณอาไม่น่าปล่อยให้กอหญ้าไปไหนมาไหนคนเดียวเลย”
“อาให้รถที่วังไปส่งจ้ะ ส่วนขากลับ ชิษณุบอกว่าจะมาส่งเอง”
อิศรดูนาฬิกาพลางบ่น “ไปตั้งแต่เช้า นี่มันเย็นแล้วยังไม่กลับ ไม่รู้ไปทำอะไร”
“ก็คงไปคุยเรื่องเก่าๆ ในอดีตกัน ใจเย็นๆ เถอะจ้ะ เดี๋ยวก็คงจะถึงบ้านแล้ว”

ระหว่างนั้นชิษณุพงษ์จอดรถ ลงมายืนส่งกอหญ้าที่หน้าตึก
“ขอบคุณมากนะคะ คุณชิษณุ”
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ ไหนบอกว่ารู้แล้วว่าเราเคยเป็นเพื่อนรักกัน”
“แล้วจะให้พูดยังไงคะ”
“เมื่อก่อน ฉันเรียกเธอว่ากอหญ้า แล้วเธอก็เรียกฉันว่าชิษณุเฉยๆ”
“ตกลงค่ะ ชิษณุเฉยๆ”
ชิษณุพงษ์ขำ “นี่สิ ถึงจะเป็นกอหญ้าคนเดิมของฉัน”
ทั้งสองหัวเราะกัน จู่ๆ มีเสียงกระแอมดังๆ ทั้งสองหันไปดู เห็นอิศรยืนหน้าบึ้งอยู่
“คุณอิศร” กอหญ้าออกอาการดีใจ “มาเมื่อไหร่คะ”
“มาคอยอยู่ซักพักแล้ว” อิศรเดินมาขวางกลาง “หมดหน้าที่ของคุณแล้วขอบใจนะ ที่มาส่ง”
“ไม่ต้องขอบใจ ผมต้องดูแลกอหญ้าอยู่แล้ว” ชิษณุพงษ์ว่า
“ต่อไปนี้คงไม่ต้องแล้ว เพราะกอหญ้ากำลังจะแต่งงานกับผม”
ชิษณุพงษ์อึ้ง กอหญ้าตะลึงอ้าปากค้าง งง

เย็นนั้นนภดาราได้ฟังก็ตกใจ
“อะไรกันจ๊ะ อิศร ทำไมปุบปับแบบนี้” นภดาราหันไปมองกอหญ้าเป็นเชิงถาม “หนูจะแต่งงานกับคุณอิศรเหรอจ๊ะ”
“เปล่านะคะ หนูก็เพิ่งได้ยินจากปากคุณอิศรเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ” บอกกับอิศร “ใครบอกคุณว่าฉันจะแต่งกับคุณ”
อิศรไม่สน หันไปอธิบายกับนภดารา
“ผมเป็นห่วงกอหญ้า ผมอยากปกป้องเค้า วิธีเดียวที่เค้าจะไปอยู่กับผมโดยใครๆ ไม่ครหาได้ คือเราต้องแต่งงานกัน”
ชิษณุพงษ์เยาะ “คุณนี่พูดเอาแต่ได้ชะมัด”
กอหญ้าโมโห “ผู้หญิงคนไหนอยากแต่งงานด้วยเหตุผลบ้าๆ แบบนี้บ้าง”
“จะให้ฉันตะโกนดังๆ ตรงนี้ไหม ว่าฉันรักเธอ เอาไหม ฉันจะได้ตะโกนให้ไอ้หมอนี่มันฟัง”
ชิษณุพงษ์ไม่ยอม “ถ้าอย่างนั้น ผมก็แต่งงานกับกอหญ้าได้”
“ไม่ กอหญ้าจะแต่งงานกับใครไม่ได้ นอกจากฉัน” อิศรบอก
ชิษณุพงษ์ขึ้นเสียง “ทำไมจะไม่ได้”
“หยุด! นี่พวกคุณจะบ้าไปแล้วหรือไง” กอหญ้าเหลืออด
นภดารารีบห้ามทัพ “เอาเถอะจ้ะๆ ค่อยพูดค่อยจากัน เรื่องแต่งงานมันไม่ใช่ เรื่องเล่นๆ นะ” บอกชิษณุพงษ์ “เธอยังเรียนไม่จบเลยนะ ชิษณุ เจ้าพี่แสงโชติไม่ยอมให้เธอแต่งงานแน่” แล้วหันมาทางอิศร “แล้วอิศรล่ะ คุณพ่อท่านทราบหรือยัง เรื่องที่เธอมาขอกอหญ้าแต่งงาน”
“ยังครับ แต่...”
“ไม่มีแต่ ถึงกอหญ้าจะเป็นลูกกำพร้า แต่ตอนนี้ เขาอยู่กับอา อิศรจะ มาทำง่ายๆ เหมือนเด็กเล่นขายของไม่ได้”
อิศรอึ้งไป นภดาราพูดต่อสีหน้าจริงจัง
“ถ้าอิศรต้องการแต่งงานกับกอหญ้า ต้องให้คุณพ่อของเธอมาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณี ในฐานะที่กอหญ้า เป็นเหมือนลูกสาวคนนึงของอา ไม่อย่างนั้น ก็อย่าหวังได้ตัวกอหญ้าไป”
นภดาราโอบกอหญ้าไว้อย่างหวงแหน ปกป้อง กอหญ้าปลาบปลื้ม อบอุ่น

เย็นนั้นนภาจรีเดินหัวเราะขำออกมาจากห้อง สวนกับนภดาราที่เดินกลับขึ้นมาข้างบน
“นี่ รู้อะไรไหม ดารา เจ้ามลุลีโทรมาเล่าว่าชิษณุไปฟ้อง เรื่องที่หลานไปท้าให้ตาอิศรส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอกอหญ้า ชิษณุเลยรบเร้าเจ้าแม่ ให้มาสู่ขอกอหญ้าบ้าง”
นภดาราเหนื่อยใจ “สองคนนี้ก็เหลือเกิน ทำเป็นเด็กแย่งตุ๊กตากันไปได้”
นภาจรีพูดอย่างชื่นชม “กอหญ้าเป็นเด็กดี ใครเห็นก็อดรักแกไม่ได้”
“หลานเองก็รักแกมากเหมือนกันค่ะ แต่คุณอรรถกับคุณสกุณาท่าทางรังเกียจกอหญ้ามาก คงจะไม่ยอมง่ายๆ แน่”
นภาจรียิ้มหยิ่ง สะใจ
“อีกไม่นานหรอก ลูกเป็ดขี้เหร่ก็จะกลายเป็นหงส์ ถึงวันนั้น กอหญ้าของเราอาจจะดีเกินไปสำหรับตาอิศรด้วยซ้ำ”
นภดารางง “อาหญิงหมายความว่ายังไงคะ”
จังหวะนั้นนภาจรีมองไปด้านหลังนภดารา เห็นพเยียเดินขึ้นบันไดมาพอดี พเยียชะงัก นภาจรียิ้มเย้ย
“อีกสองวัน คุณพ่อของหลานจะกลับมา แล้วหลานจะรู้เอง ว่าที่อาพูดมันหมายความว่ายังไง” นภาจรีพูดลอยๆ “ใครเป็นหงส์ ใครเป็นเป็ด ก็จะได้รู้กันซะที”
พูดจบนภาจรีเดินเชิดออกไป ปล่อยนภดารายืนงง

พเยียยืนอึ้ง มั่นใจว่านภาจรีรู้ความจริงแล้วแน่ๆ
วังศิวาลัยยามค่ำคืนเงียบสงบ นภาจรีเดินมองหาปุยฝ้าย

“ปุยฝ้าย ปุยฝ้ายอยู่ไหนลูก”
ศรีเดินผ่านมา นภาจรีถาม
“ศรี เห็นปุยฝ้ายไหม”
“เอ เมื่อสักครู่ศรีเห็นวิ่งอยู่ที่สวนหลังบ้านแน่ะค่ะ”
“ค่ำแล้ว ทำไมไปวิ่งเล่น ไม่ยอมเข้าบ้าน แปลกจริง”
นภาจรีเดินออกไป

ครู่ต่อมานภาจรีเดินเข้าไปในสวนหลังวังศิวาลัย ร้องเรียก
“ปุยฝ้าย อยู่ไหนลูก”
นภาจรีได้ยินเสียงเหมียวๆ อยู่ห่างออกไปทางด้านหลังที่มีต้นไม้รก นภาจรีแปลกใจ รีบเดินตามไประหว่างทางในสวน นภาจรีเดินไปแล้วต้องชะงัก เมื่อเห็นพเยียเดินย่อง ท่าทางลับๆ ล่อๆ เหมือนแอบใครอยู่
“นังพเยีย มาแอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ”
นภาจรีตาวาว แอบย่องเข้าไปทางด้านหลังพเยีย ยิ้มอย่างมาดหมายในใจ
ที่แท้พเยียวางแผนล่อนภาจรีออกมา โดยเดินไปที่ประตูด้านหลัง แล้วหยุดยืนซุ่มอยู่ ในมือมีโทรศัพท์มือถือ ทำท่าคุยไปด้วย
“พี่อยู่ที่ไหนแล้ว...โอเค เดี๋ยวฉันจะออกไปหาเดี๋ยวนี้”
นภาจรีแอบฟัง พูดกับตัวเอง “มันนัดกับใคร ค่ำๆ มืดๆ”
พเยียคุยโทรศัพท์ แกล้งพูดดังอีก
“รออยู่ตรงนั้นแหละ พี่ นังกอหญ้ามันจำหน้าพี่ได้ เกิดเห็นพี่เข้าจะยุ่งกันใหญ่ ฉันออกไปหาพี่เอง”
นภาจรีตาโต
“นังพเยีย ฉันคิดอยู่แล้ว ว่าต้องเป็นแก”
เห็นพเยียวิ่งหลบออกไปทางประตูหลังวัง นภาจรีกลัวพลาด รีบตามไป คิดว่าจะจับพเยียให้ได้คาหนังคาเขา

ตรงบริเวณถนนเล็กๆ มืดๆ ด้านหลังวัง ซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว นภาจรีแอบตามหลังพเยียไป เห็นพเยียวิ่งไปที่รถเก่าๆ ที่จอดแอบอยู่ข้างทาง
“รถกระบะสี...ไม่มีทะเบียน ตรงตามที่ชิษณุเล่าไม่มีผิด”
นภาจรีแอบมอง เห็นพเยียผลุบเข้าไปในรถ
นภาจรีชะเง้อ “ไหน ดูสิ” แต่เห็นในรถมีพเยียคนเดียว “ทำไมไม่เห็นมีใครเลยนังพเยียมันนัดกับคนร้ายนี่นา แล้วมันอยู่ไหน”
เสียงนพดลดังขึ้นข้างหลัง
“ฉันอยู่นี่”
นภาจรีจะหัน แต่ไม่ทัน นพดลเอาเชือกรัดคอจาดด้านหลัง นภาจรีดิ้น ไม่นานก็หมดสติไป
นพดลปล่อยมือ ร่างของนภาจรีทรุดลงกองกับพื้น
พเยียเข้ามามองร่างที่หมดสติของนภาจรีที่กองอยู่ที่พื้น ท่าทางลุกรี้ลุกรน
“ตายไหม พี่นพ”
“ยัง แค่สลบ”
นพดลตอบพลาง ปลดแหวน ต่างหูเพชรของนภาจรีไปพลาง พเยียดึงมือไว้ มองซ้ายมองขวาอย่างคนตื่นกลัว
“แล้วนี่พี่จะทำอะไรเนี่ย ทำไมไม่ฆ่ามันซะล่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าก็ซวยหรอก”
“อย่ากลัวไปเลยน่ะ แป๊บเดียวไม่มีใครมาเห็นหรอก” นพดลสะบัดมือ เอาของมีค่าใส่กระเป๋า “พี่จะทำให้ดูเหมือนนังนี่มันโดนปล้นฆ่าชิงทรัพย์ ตอนตำรวจมาเจอศพมัน จะได้ไม่สงสัยมาถึงเรา”
พเยียคิดอะไรได้
“ไม่ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว มันเสี่ยงเกินไป พี่เอามันไปฆ่าที่อื่น แล้วเอาศพมันไปทิ้งไกลๆ ทำยังไงก็ได้ อย่าให้ใครเจอศพมันเป็นอันขาด”

ส่วนแม่ชื่นเดินตรวจความเรียบร้อยปิดไฟตามทางเดินชั้นบน ปากก็บ่นไปตามประสา
“เออ ศรีนี่ยังไงนะ บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าเปิดไฟทิ้งไว้”
แม่ชื่นปิดไฟ แล้วได้ยินเสียงร้องเหมียวๆ หันไปทางเสียง
“อ้าว ปุยฝ้าย”
ปุยฝ้ายเดินออกมา ชื่นเข้าไปอุ้ม พูดอย่างเอ็นดู
“ไง เที่ยวเก่งดีนัก เข้าห้องไม่ได้ล่ะซี มา เดี๋ยวจะพาไปนะ” หญิงชราพูดหยอกล้อกับปุยฝ้าย “คุณหญิงนอนหรือยังไม่รู้ ถ้าหลับไปแล้วล่ะก็ ต้องโดนดุแน่ๆ เรา”
ไม่นานต่อมา แม่ชื่นอุ้มปุยฝ้ายไปที่หน้าห้องนภาจรี
“คุณหญิงขา คุณหญิง”
เงียบไม่มีเสียงตอบ แม่ชื่นผลักประตูเข้าไป เห็นห้องว่างเปล่า ไม่มีคน
“คุณหญิงขา”
ทั่วทั้งในห้องไม่มีใคร แม่ชื่นขมวดคิ้ว สังหรณ์ใจวาบ
“คุณหญิงไปไหน”

นพดลขับรถออกไปมุ่งหน้าไปทางนอกเมือง ด้านหลังกระบะมีร่างของนภาจรีนอนนิ่งอยู่ มีผ้าใบคลุมเอาไว้มิดชิดจังหวะที่รถวิ่งไป ใต้ผ้าคลุมร่างไร้สติของนภาจรีกระเด้งไปมาตามแรงกระแทก

ไม่นานนัก นพดลจอดรถที่ทางเปลี่ยว ริมแม่น้ำ แล้วคว้าปืนที่อยู่ในลิ้นชักหน้ารถออกมาเดินไปที่กระบะหลังเปิดผ้าใบอุ้มร่างของนภาจรีขึ้นมา
นพดลเดินมาถึงริมน้ำ วางร่างของนภาจรีลง แล้วเดินกลับไปที่รถ หยิบตุ๊กตาเก่าๆ ตัวหนึ่งมาจากรถ
จังหวะนั้นนภาจรีที่นอนอยู่ ได้สติ กระพริบตาถี่ๆ
นพดลเดินกลับมา เอาปากกระบอกปืนจ่อที่ตัวตุ๊กตา แล้วเล็งไปที่ร่างของนภาจรี นภาจรีเห็นนพดลจะยิงตน ตกใจ ร้องสุดเสียง
“อ๊าย”
นพดลสะดุ้งตกใจ นภาจรีลุกขึ้น วิ่งหนี
“เฮ้ย”
นพดลเอาปืนขู่ นภาจรีวิ่งชนนพดลล้ม แล้ววิ่งหนีไป นพดลถือปืนวิ่งตาม
“เฮ้ย หยุดนะ”
นภดาจรีวิ่งกระเซอะกระเซิงกลับขึ้นไปบนถนนเปลี่ยว นพดลวิ่งไล่ตาม
“หยุดนะ ไม่งั้นตาย”
นพดลยิงขู่ นภาจรียิ่งตกใจ วิ่งถลาออกมากลางถนนโดยไม่สนใจอะไร
จู่ๆ เห็นแสงไฟสาดจ้า พร้อมกับเสียงแตรรถดังลั่น นภาจรียืนตะลึง รถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง เบรคไม่ทันชนร่างของนภาจรีปัง!
นพดลวิ่งตามมาเห็น ชะงัก
“ฉิบหายล่ะ”

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/2 วันที่ 1 มี.ค. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager