อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/3 วันที่ 2 มี.ค. 56


อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/3 วันที่ 2 มี.ค. 56

นพดลวิ่งตามมาเห็น ชะงัก
“ฉิบหายล่ะ”
รถจอดกึกเจ้าของรถเป็นชายหนุ่มสองคนวิ่งมาดู ท่าทางตกอกตกใจมาก นพดลเห็นว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว เลยรีบหลบไป
ทิ้งร่างของนภาจรีจมกองเลือด ตาค้างเบิ่งโพลง ไม่รู้เป็นหรือตาย อยู่อย่างนั้น
คืนนั้นกอหญ้าในชุดนอน สวมเสื้อคลุมเรียบร้อยเปิดประตูห้องออกมาหน้าตาตื่น ลงบันไดไปชั้นล่างอย่างรีบร้อน

ครู่ต่อมากอหญ้าวิ่งลงไปสมทบกับนภดาราที่ยืนอยู่กลางห้องโถง พเยียกับแม่ชื่นอยู่ข้างๆ ทุกคนหน้าตาตื่นเต้นไปตามๆ กัน
กอหญ้าเข้าไปหานภดารา
“คุณอาดารา เกิดอะไรขึ้นคะ หนูได้ยินเสียงคนวุ่นวายไปหมด”
“คุณอาหญิงหายตัวไปจ้ะ”
“หายตัวไป! เมื่อไหร่คะ”
แม่ชื่นที่ยืนอยู่ด้วยเสริมขึ้น น้ำเสียงร้อนรน
“เมื่อตอนซักสี่ทุ่ม ดิฉันไปหาคุณหญิงที่ห้อง ก็ไม่พบแล้วค่ะ”
ทองมาซึ่งท่าทางดูมึนๆ งงๆ หัวกระเซิง เหมือนเพิ่งตื่น ถือไฟฉายเดินนำศรี และคนรับใช้ชายหญิงในบ้านอีก 4-5 คนเข้ามา ทุกคนหน้าตาตื่นตกใจตามๆ กัน
นภดารารีบเข้าไปถาม



“เป็นยังไง ศรี ทองมา”
“ไม่มีเลยค่ะ ออกเดินหากันทั่วแล้ว ไม่มีใครเห็นคุณหญิงเลย”
นภดารากับชื่นหน้าตากังวลจัด
“หรือคุณหญิงจะออกไปข้างนอกคะ” กอหญ้าว่า
แม่ชื่นส่ายหน้า “ไม่มีทางค่ะ คุณหญิงไม่ชอบออกจากบ้านไปไหน กลางวันยังไม่ไปเลย กลางคืนยิ่งเป็นไปไม่ได้”
นภดาราถามคนอื่นๆ ในบ้าน “ใครพบคุณหญิงเป็นคนสุดท้าย”
ศรียกมือ “ศรีเองค่ะ ตอนซักสามทุ่ม ศรีเห็นคุณหญิงเดินตามหาปุยฝ้ายอยู่ในสวน”
พเยียรีบเสริมขึ้นมา
“จะเป็นไปได้ไหมคะ คุณแม่ ว่าคุณยายหญิงอาจจะออกไปเดินหาปุยฝ้ายข้างนอก แล้ว... แล้วเลย” ทำหน้าหวาดกลัว เหมือนไม่อยากพูด
นภดาราใจหาย “ขอให้อย่าเป็นอย่างนั้นเลย”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทุกคนหันขวับไป นภดาราวิ่งเข้าไปรับ
“วังศิวาลัยค่ะ ดิฉันนภดารา ศิวาวงศ์ค่ะ อะไรนะคะ” นภดาราหน้าซีดเผือด
ทุกคนมองไปที่นภดาราเป็นตาเดียว พเยียกัดปากลุ้น นัยน์ตาวาววามด้วยความหวัง
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
นภดาราวางสาย แล้วมีอาการเหมือนจะซวนเซ กอหญ้ารีบเข้าไปประคองไว้
“คุณอาดาราคะ”
นภดาราตั้งสติ บอกกับทุกคน
“คุณอาหญิงโดนรถชน อาการสาหัส ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล”
แม่ชื่นตกใจมาก “คุณหญิง”
กอหญ้า และคนอื่นๆ ในบ้านพลอยตกใจ สีหน้าเป็นห่วง แต่พเยียตกใจ และแปลกใจ ที่เหตุการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้

กลางดึกนภดารา พเยีย กอหญ้า และแม่ชื่นมารอดูอาการของนภาจรีอยู่หน้าห้องไอซียู แม่ชื่นเอายาบำรุงหัวใจส่งให้นภดารา ที่นั่งรออยู่
“ทานยาบำรุงหัวใจกันไว้ก่อนนะคะ”
กอหญ้าส่งน้ำในแก้วพลาสติกให้
“น้ำค่ะ คุณอา”
นภดารากินยา
ที่ประตูหน้าห้อง เห็นพเยียหน้าเครียดจัด เดินวนเวียนไปมา ชะเง้อดูด้วยอาการลุ้นแกมหวาดกลัว
“ทำไมนานอย่างนี้นะ”
หมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน พเยียพุ่งเข้าไปหาก่อนคนอื่น
พเยียลุ้น ถามเสียงเครียด “ตกลงตายไหมคะ”
หมอชะงักนิดหนึ่ง แม่ชื่นกับกอหญ้าประคองนภดาราเข้าไป พเยียเปลี่ยนน้ำเสียง
“ฉันหมายความว่า คุณยายของฉันไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ หมอ”
“คุณหญิงนภาจรีอาการสาหัสมากครับ เธอถูกรถชนอย่างแรง กระโหลกศีรษะร้าว กระดูกซี่โครงหักหลายแห่ง อวัยวะภายในก็บอบช้ำมาก”
นภดาราใจเสีย “แต่คุณหมอช่วยได้ใช่ไหมคะ”
หมอออกอาการหนักใจ “ทางเราจะพยายามช่วยชีวิตเธออย่างสุดความสามารถ ต้องรอดูอาการอีก 24 ชั่วโมง ถ้าหากไม่มีอาการแทรกซ้อน ก็อาจจะพอมีหวัง”
นภดารากับแม่ชื่นหน้าเสีย
“ดิฉันขอเข้าไปดูหน่อยได้ไหมคะ” นภดาราเอ่ยขึ้น
“ตอนนี้ยังไม่เหมาะ คนไข้อ่อนแอมาก หมอขอให้เป็นพรุ่งนี้ดีกว่านะครับ”
หมอพูดจบก็ก้มหัวเป็นเชิงลา แล้วเดินออกไป แม่ชื่นน้ำตาคลอ
“โถ คุณหญิง”
กอหญ้ากุมมือแม่ชื่นปลอบใจ อดเปรยขึ้นไม่ได้
“แปลกจังนะคะ แม่ชื่น คุณหญิงอยู่บ้านดีๆ ออกไปโดนรถชนได้ยังไง”

ที่มุมนั่งพักในโรงพยาบาล นภดารา แม่ชื่น กอหญ้า พเยียนั่งอยู่กับตำรวจ
นภดาราแปลกใจมาก “อะไรนะคะ! คุณอาหญิงโดนรถชนที่รังสิต”
“ครับ คุณคนนี้เป็นคนขับ เขาเป็นคนแจ้งตำรวจ แล้วก็พาคุณหญิงนภาจรีส่งโรงพยาบาล”
คนขับและเพื่อนนั่งหน้าซีดอยู่ข้างตำรวจ ท่าทางหวาดกลัวและรู้สึกผิดอย่างแรง
“ผมขับมาดีๆ จู่ๆ คุณคนนั้นแกก็วิ่งพรวดพราดออกมากลางถนน ตัด หน้ารถผมพอดี”
นภดารายิ่งงง “วิ่งพรวดพราดออกมากลางถนน”
“ครับ แกวิ่งออกมาจากข้างทางน่ะครับ ท่าทางแกเหมือนวิ่งหนีอะไรมา”
“จากรูปการ ผมสันนิษฐานว่าคุณหญิงนภาจรีน่าจะโดนลักพาตัวไป เพราะเธอมีร่องรอยว่าถูกมัด และถูกรัดที่คออย่างแรง คนร้ายอาจจะต้องการอุ้มฆ่า”
นภดารากับแม่ชื่นมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก กอหญ้าอึ้ง พเยียลุ้นเครียด
นภดาราตกใจมาก “อุ้มฆ่าหรือคะ”
“ครับ คนร้ายพาเธอไปแถวนั้น เพราะเป็นถนนเลียบริมแม่น้ำ มันคงกะจะฆ่าแล้วเอาศพทิ้งน้ำ เพื่อทำลายหลักฐาน แต่คุณหญิงคงรู้ตัว แล้วพยายามหนี แต่กลับมาโดนรถชน”
“มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ นะครับ คุณ ผมทั้งกดแตรแล้วอะไรก็แล้ว แต่แกไม่ได้ยินเลย” คนขับรถบอก
นภดารากับแม่ชื่นเข้าใจ ได้แต่นิ่งอั้นด้วยความสะเทือนใจกอหญ้าถามขึ้น
“แล้วมีใครเห็นตัวคนร้ายไหมคะ” กอหญ้าถามกับคนขับ “คุณสองคนเห็นไหมคะว่าคุณหญิงกำลังหนีใคร”
พเยียมองหน้าชาย 2 คน ชาย 2 คนส่ายหัว พเยียแอบระบายลมหายใจอย่างโล่งอกนิดๆ
“ตำรวจกำลังติดตามอยู่ครับ ผมส่งคนไปสืบหาร่องรอยรอบๆ ที่เกิดเหตุแล้ว แล้วถ้าหากคุณหญิงนภาจรีพ้นขีดอันตราย พร้อมจะให้การได้เมื่อไหร่ ขอให้คุณนภดาราติดต่อทางเราทันทีนะครับ”
“ค่ะ” นภดารารับคำ
ตำรวจขอตัว “งั้นผมลาก่อน ขอบคุณมากครับ”
“ค่ะ” นภดาราหน้าเซียวๆ
ตำรวจลุกขึ้นยืน ไหว้ลา ชายสองคนไหว้ลาแล้วรีบเดินตามตำรวจออกไป
แม่ชื่นน้ำตาซึม
“สงสารคุณหญิง .. ใครนะใคร มันช่างทำกับเธอได้”
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทุกคนสะดุ้ง หันมองตามเสียง ปรากฏว่าดังมาจากกระเป๋าพเยีย พเยียรีบเปิดกระเป๋า เหลือบดูเห็นชื่อนพดล พเยียกดทิ้ง นภดาราอดถามไม่ได้
“ดึกป่านนี้ ใครโทรมาน่ะ ลูก”
“เบอร์ไม่รู้จัก คงโทรผิดน่ะค่ะ” พเยียโกหก
โทรศัพท์ดังอีก คราวนี้พเยียกดปิดโดยไม่ดู กอหญ้าอดไม่ได้ ท้วงขึ้น
“ตีสองกว่าแล้ว เค้าคงมีธุระสำคัญถึงได้โทรหากัน คุณพเยียน่าจะรับแล้วบอกเค้าหน่อย ว่าเค้าจำเบอร์ผิด”
“ไม่ใช่เรื่องน่ะ” พเยียรีบหันกับนภดารา “คุณแม่ขา กลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ ดึกแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายไป”
“จ้ะๆ”

พเยียประคองนภดาราไป กอหญ้าเดินตาม แม่ชื่นอดมองพเยียด้วยความสงสัยไม่ได้
เช้าวันต่อมานพดลนั่งหลับอยู่ที่โซฟา โทรศัพท์อยู่ข้างตัว ปืนอยู่ในมือ รอบตัวมีขวดน้ำอัดลม เหล้า เบียร์ ที่หมดแล้ววางเกลื่อนกลาด ก้นบุหรี่สุมท่วมล้นที่เขี่ยบุหรี่ ท่าทางนพดลเครียดจัด จนต้องดื่มเหล้าย้อมใจตลอดคืน

เสียงเคาะประตูดังขึ้นรัวถี่ นพดลสะดุ้งตื่น คว้าปืน เดินไปหลังประตูอย่างระวัง
“ใคร...” เงียบไม่มีเสียงตอบ “กูถามว่าใคร”
ยินเสียงผู้หญิงดังแว่วมาจากนอกห้อง
“พี่เอง”
นพดลเอาปืนยัดซ่อนที่ด้านหลังกางเกง แล้วเปิดประตูแง้มออกแค่นิดเดียว ท่าทีแปลกใจ
“พี่! พี่มาได้ไงเนี่ย”
สกุณาหน้าตาบึ้งตึง “เปิดประตูซี”
“ห้องผมไม่เรียบร้อย พี่ลงไปรอในรถดีกว่า เดี๋ยวผมลงไป”
นพดลจะปิดประตู สกุณาเอามือยันไว้ พูดเสียงเข้ม
“ให้พี่เข้าไปก่อน เดี๋ยวมีคนมาเห็นก็ซวยกันพอดี เปิดประตู”
สกุณาผลักเข้ามา นพดลรีบปิดประตู สกุณากวาดตามองดูสภาพห้องที่เละเทะ แล้วขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
“เมื่อคืนทำอะไรเนี่ย นพ” มองเห็นก้นบุหรี่ที่กองสุมในที่เขี่ยก็แปลกใจ “แล้วนี่อะไร นพไม่สูบบุหรี่ไม่ใช่เหรอ”
“เคยสูบ แต่เลิกไป” นภดลตัดบท “ว่าแต่พี่เถอะ มาที่นี่ทำไม”
สกุณาค้อนขวับ ดุเสียงแหว “ยังจะมาถาม ออกจากงานทำไมไม่บอกพี่”
สกุณาหันไปเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่บนโต๊ะ พุ่งเข้าไปทันที
“แล้วนี่เก็บเสื้อผ้าจะไปไหน”
“ผมจะไปต่างจังหวัด เฮ้ย .. อย่า”
นพดลตกใจเห็นสกุณารูดซิบเปิดกระเป๋า วิ่งไปแย่ง สกุณาสะบัด เงินหนึ่งแสนของพเยีย กับเครื่องเพชรของนภาจรี ที่ซุกเอาไว้หล่นลงมา สกุณาตะลึง
“เงิน เครื่องเพชร นี่นพไปเอามาจากไหน” สกุณาตาวาววับถามเสียงเข้ม “ของใคร”
นพดลหน้าซีด ท่าทางมีพิรุธ รีบแย่งของมายัดใส่กระเป๋าตามเดิม
“อย่ายุ่ง”
สกุณาโวยวายด้วยความหึงหวง “นพมีคนใหม่ใช่ไหม นี่มันเอาเงินฟาดหัวเท่าไหร่ล่ะ ถึงจะเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับมัน”
นภดลหงุดหงิด “บ้าน่ะ พี่”
สกุณาโมโห “อยากได้เท่าไหร่ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ อีนังนั่นมันเป็นใคร มาจากไหน มันให้นพเท่าไหร่ นพถึงจะทิ้งพี่” สกุณาเข้าไปทุบตีต่อ “มันเป็นใคร บอกพี่มานะ บอกมา”
“พอที พี่ บ้าไปกันใหญ่แล้ว” นพดลเริ่มโมโห
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ดัง สกุณาหันขวับ ที่หน้าจอเห็นเป็นชื่อพเยียโทรเข้า ทั้งสองต่างพุ่งไปแย่งโทรศัพท์ แต่นพดลคว้ามาได้ เห็นชื่อพเยีย รีบรับ
“ฮัลโหล เดี๋ยวนะ”
นพดลเข้าไปในห้องน้ำ ชี้หน้าเป็นเชิงห้ามสกุณาไม่ให้ยุ่ง แล้วปิดประตู สกุณากระทืบเท้าเร่าๆ มองตามด้วยความหึงหวง

นภดลรับสาย เครียดหนัก
“มัวทำอะไรอยู่ พี่กลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว”
ที่มุมลับตาคนแถวหน้าห้องน้ำในโรงพยาบาล พเยียพูดเสียงเบา
“แล้วพี่นึกว่าฉันสบายใจนักเหรอ นังคุณหญิงมันไม่ตาย นอนพะงาบๆ อยู่ในไอซียู ฉันน่ะลุ้นแทบขาดใจทั้งคืน กลัวมันจะฟื้น”
นพดลหน้าเสีย กลัวจัด “แล้วนี่มันฟื้นหรือยัง”
พเยียยิ้มกริ่ม “ยัง...แล้วก็คงไม่ฟื้นแล้ว”
“อะไรนะ”
“มันเจ็บหนักถึงขั้นโคม่า ไม่มีสติ พูดไม่ได้ หายใจเองยังไม่ได้เลย หมอเค้าใช้เครื่องช่วยหายใจประทังชีวิตเอาไว้ จากนี้ไปก็เหมือนซากที่นอนรอวันตายเท่านั้น”
นพดลยิ้ม โล่งอก “แน่นะ พเยีย
“แน่สิ...” พเยียยิ้มย่อง “เรารอดแล้วพี่ คุณหญิงนภาจรีไม่มีทางลุกขึ้นมาเป็นอุปสรรคของเราอีกแล้ว”
นพดลวางสาย พ่นลมหายใจจากปากอย่างแรงท่าทีโล่งใจ ครู่หนึ่งจึงเปิดประตูออกมา เห็นสกุณายืนมองถือเครื่องเพชรของนภาจรีอยู่ในมือ กระเป๋าเปิดอ้า ทันทีที่นพดลเดินออกมา สกุณาก็ถามเสียงเขียว
“ใครโทร.มา สปอนเซอร์ใหม่รึไง”
“สปอนเซอร์ที่ไหน” นพดลเข้ามาดึงเครื่องเพชรออกจากมือ เอายัดเก็บใส่คืนกระเป๋าอย่างเดิม “ผมก็มีพี่อยู่คนเดียว
“พี่ไม่เชื่อ นพดูท่าทางพิกล แล้วยัง...” สกุณาบุ้ยใบ้ไปที่กระเป๋า ออกอาการกระเง้ากระงอด “ทั้งเงิน ทั้งของ...ของแพงด้วยนะ อย่านึกว่าพี่ดูไม่ออก”
นภดลโอบกอดสกุณาอ้อนคำหวาน “เงินน่ะเล่นบอลได้ ของน่ะเพื่อนมันฝากมาปล่อยไม่เอาน่า อย่าคิดมาก พี่ฮอตซะขนาดนี้ ผมจะไปมีใครที่ไหนอีกได้”
นพดลเชยคางสกุณาขึ้น สกุณาโอนอ่อนตาม แต่ตายังแอบมองไปที่กระเป๋า และของในกระเป๋าอย่างระแวง

พเยียเดินกลับมาท่าทางเหมือนกลับจากไปห้องน้ำ สมทบกับคนอื่นๆ ที่หน้าห้องไอซียูเนียนๆ แปลกใจที่เห็นเห็นกอหญ้าอยู่คนเดียว
“คุณแม่ล่ะ กอหญ้า”
“คุณอาดารากลับเข้าไปเยี่ยมคุณหญิงแล้วค่ะ”
“อ้าว คุณแม่เข้าไปทำไมอีก ก็เพิ่งออกมา”
“เข้าไปเป็นเพื่อนคุณชายนภัสค่ะ” กอหญ้าบอก
พเยียย้อนถามท่าทีหวาดหวั่นนิดๆ “คุณตากลับมาแล้ว!”
“ค่ะ ท่าทางท่านเสียใจมาก น่าสงสารท่านเหลือเกิน”

ส่วนนภัสรพีเอามือลูบศีรษะนภาจรีอย่างแผ่วเบา สะเทือนใจจนน้ำตาคลอเมื่อเห็นร่างของนภาจรี มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด หัวมีผ้ากอซพัน ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ลำคอมีรอยจางๆ ที่ถูกนพดลรัดคอ ตามตัวก็มีผ้าพันแผลเต็มไปหมดเหมือนมัมมี่ ดูน่าสงสารมาก
“เธอคงเจ็บ คงทรมานมากใช่ไหม หญิงนภา”
นภดารายืนอยู่ข้างๆ เข้ามาบีบมือนภัสรพีเพื่อปลอบใจ ในห้องบรรยากาศเงียบและหนักอึ้งด้วยความเศร้า
นภัสรพีกลั้นน้ำตาหันไปพูดกับหมอ ที่ยืนอยู่ห่างออกไป
“สรุปว่าน้องสาวของผม จะไม่มีวันฟื้นกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว...อย่างงั้นใช่ไหม คุณหมอ”
หมอบอกด้วยท่าทางเสียใจ “ผมพยายามเต็มที่แล้วครับ คุณชาย แต่คุณหญิงบาดเจ็สาหัสมากเหลือเกิน”
นภัสรพีถอนใจ นภดารากอดแขนพ่อ ปลอบโยน
“เราจะดูแลอาหญิงอย่างดีที่สุดค่ะ คุณพ่อ บางที ความหวังอาจจะยังมีปาฏิหาริย์อาจจะเกิดขึ้นกับเราก็ได้”
นภัสรพีพยักหน้ารับไปแกนๆ ไม่เชื่อและไม่หวังอะไรมากนัก

ครู่ต่อมานภัสรพีเดินนำนภดาราออกมาด้านนอก กอหญ้ากับพเยียที่รออยู่กับเจ้าแสงโชติ เจ้ามลุลี และชิษณุพงษ์ที่เพิ่งมาถึง พากันกรูเข้าไปหา
“คุณอาชาย ผมเพิ่งทราบข่าว เสียใจด้วยจริงๆ ครับ” เจ้าแสงโชติบอก
นภัสรพี พยักหน้ารับ ขอบใจ
“แล้วตำรวจเค้าว่ายังไงบ้างจ๊ะ น้องดารา ได้ตัวคนร้ายหรือยัง” เจ้ามลุลีถาม
นภดาราเป็นฝ่ายตอบ “ยังเลยค่ะ เค้าก็กำลังสืบๆ กันอยู่”
“คุณอาหญิงท่านไม่มีศัตรูที่ไหน คนร้ายอาจจะคิดจับตัวท่านไปเรียกค่าไถ่ก็ได้ แต่ท่านรู้ตัวหนีออกมาได้เสียก่อน” เจ้าแสงโชติปรารภ
นภัสรพีไม่เชื่ออย่างนั้น “ไม่ใช่หรอก แสงโชติ อยู่ดีๆ หญิงนภาก็เดินหายออกไปจากบ้าน มันไม่ใช่นิสัยของเขาเลย มันผิดปกติ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น”
ชิษณุพงษ์ที่เงียบฟังอยู่ ตาวาวขึ้นมาทันที
“คุณปู่หมายความว่า คุณย่าหญิงถูกล่อลวงออกไปจากวังใช่ไหมครับ”
นภัสรพีมั่นใจมาก “ใช่ ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับกอหญ้าที่หัวหิน ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับหญิงนภาทำให้ปู่เชื่อว่า มีใครบางคน จ้องจะทำร้ายคนในวังศิวาลัย” แววตาราชนิกุลสูงวัยเจ็บแค้นขณะพูดออกมามันแอบอยู่ในความมืด ลอบทำร้ายพวกเรา โดยที่เราไม่รู้เลยว่ามันเป็นใคร ต้องการอะไร”

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/3 วันที่ 2 มี.ค. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager