อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/4 วันที่ 3 มี.ค. 56


อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/4 วันที่ 3 มี.ค. 56

บางคน จ้องจะทำร้ายคนในวังศิวาลัย” แววตาราชนิกุลสูงวัยเจ็บแค้นขณะพูดออกมามันแอบอยู่ในความมืด ลอบทำร้ายพวกเรา โดยที่เราไม่รู้เลยว่ามันเป็นใคร ต้องการอะไร”
“หลานขอภาวนาให้ตำรวจจับมันให้ได้เร็วๆ อย่าให้มีใครเป็นอะไรอีก เลย”
เจ้ามลุลีรำพึงอย่างหวาดหวั่น จับแขนแล้วมองดูนภดาราด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเธอจะเป็นรายต่อไป
นภัสรพีมองนภดาราทั้งรักและห่วงใย

“ทุกคนในศิวาลัยจะต้องปลอดภัย ถ้าตำรวจจับมันไม่ได้ อานี่แหละ จะจับมันด้วยตัวเอง”
ทุกคนที่ได้ฟังต่างพากันไม่สบายใจ โดยเฉพาะพเยียที่หน้าซีดเผือด หายใจไม่ทั่วท้อง



ที่วังศิวาลัยตอนกลางวัน แม่ชื่นยืนรออยู่อย่างร้อนรน สักครู่รถตู้แล่นเข้ามาจอด นภัสรพีเดินนำทุกคนลงมา แม่ชื่นรีบเข้าไปหา น้ำตายังคลอๆ
“คุณชายขา คุณหญิงเธอเป็นยังไงบ้างคะ เธอ...”
แม่ชื่นพูดได้เท่านั้นก็สะอื้นออกมา นภัสรพีลูบหลังลูบไหล่ พูดปลอบแม่ชื่นอย่างปราณ๊
“ทำใจดีๆ แม่ชื่น หญิงนภายังมีลมหายใจ เราก็ยังมีความหวัง”
“ค่ะ” แม่ชื่นเช็ดน้ำตา “คุณชายสั่งว่าให้ทุกคนในบ้านรอพบ ไม่ทราบมีอะไรหรือคะ”
นภัสรพี แม่ชื่นให้คนของเราเข้าไปหาฉันที่ห้องทำงาน ทีละคน ฉันอยากจะคุยกับทุกคน” มองพเยียกับกอหญ้า “ทุกคนที่อยู้ในคืนวันนั้น คืนที่หญิงนภาหายตัวไป”
“ค่ะ”
แม่ชื่นเดินแยกออกไป นภดารเปรยขึ้นมา
“ลูกก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่า คนในบ้านเราคนใดคนนึง จะต้องรู้เห็นเป็นใจกับคนร้าย”
“วันนี้เราอาจจะได้รู้กัน ว่ามันเป็นใคร...ไปลูก”
นภดาราเดินตามนภัสรพีไปที่ห้องทำงาน
พเยียยืนนิ่งอึ้งอยู่ หน้าซีดเผือด กอหญ้าหันไปเรียก
“ไปเถอะค่ะ คุณพเยีย” แต่แล้วกอหญ้าต้องชะงัก เมื่อเห็นอาการของพเยีย “คุณพเยียเป็นอะไรหรือเปล่าคะ หน้าซีดเชียว”
พเยียหลบตาวูบ “เปล่า”
กอหญ้าเข้าไปจับมือ ห่วงใย แล้วตกใจอีก “มือก็เย็น ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
พเยียสะบัดมือออกทันที “เปล่า แค่ปวดหัว คงเพราะอดนอนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

พเยียเดินหนี ตามนภดาราไปทางห้องทำงาน กอหญ้ามองตาม สงสัยนิดๆ ในท่าทีแปลกๆ ของพเยีย
นภัสรพีนั่งที่โซฟากลางห้อง นภดารานั่งห่างออกไป เก้าอี้ตรงหน้านภัสรพีว่างไว้ สำหรับคนในวังที่เวียนกันเข้ามาให้ซักถาม

กอหญ้าคือคนที่กำลังถูกตั้งคำถามเป็นคนแรก
“หนูทานข้าวเย็นพร้อมคุณหญิง จากนั้นก็ขึ้นไปบนห้อง หนูสวดมนตร์เสร็จก็เข้านอน ไม่ได้ออกจากห้องมาอีกเลยค่ะ มารู้อีกทีตอนที่ได้ยินเสียงคนในบ้านเอะอะ ตอนนั้นคุณหญิงหายไปแล้ว”
นภัสรพีพยักหน้ารับรู้
“เท่านั้นละ ขอบใจ หนูออกไปได้”
กอหญ้าเดินออกมา พเยียเดินสวนเข้าไป หน้าตาซีดเซียว
พเยียตอบเสียงเบา มือสองข้างประสานกันไว้เพื่อไม่ให้ออกอาการสั่นให้ใครเห็น
“พเยียก็เหมือนกันค่ะ พอทานข้าวเสร็จก็ขึ้นห้องดูทีวี กำลังดูอยู่คุณแม่ก็มาบอกว่าคุณอาหญิงหายไป ไม่อยู่ที่ห้อง พเยียเลยลงไปช่วยหา แต่ก็ไม่เจอ”
นภัสรพีนิ่งฟัง พยักหน้ารับรู้

พเยียเดินออกมา เห็นแม่ชื่นยืนรออยู่กับคนในบ้าน มีศรี ทองมา และคนอื่นๆ อีก 4-5 คน
“แม่ชื่น คุณแม่บอกว่าให้แม่ชื่นพาคนอื่นๆ เข้าไปได้”
“ค่ะ คุณหนู” หญิงชราหันไปทางสาวใช้คนหนึ่ง “เธอแน่ะ เข้าไปก่อนเลย”
แม่ชื่นพาสาวใช้เดินไปที่ประตู พเยียกวาดตาดูคนที่รออยู่ เห็นทองมาที่ยืนตัวสั่นอยู่ ดูกลัวมากกว่าคนอื่น พเยียจ้องหน้าทองมาเขม็งทองมาหลบตาวูบ
พเยียขึ้นมาพูดลอยๆ เป็นเชิงขู่ “ใครจะพูดจะตอบอะไรก็คิดดีๆ นะ ตอบไม่ดี ระวังจะเดือดร้อน
พเยียพูดจบก็เดินเลยไป

เวลาผ่านไป จนมาเป็นศรีที่กำลังถูกสอบถาม
“คุณดาราบอกว่าศรีเป็นคนเห็นคุณหญิงเป็นคนสุดท้าย ใช่ไหม”
“ค่ะ คุณชาย คุณหญิงลงมาถามศรีว่าเห็นปุยฝ้ายไหม ศรีเรียนว่าเห็นปุยฝ้ายอยู่ในสวนหลังบ้าน คุณหญิงเลยเดินออกไป”
นภัสรพีซัก ท่าทางครุ่นคิด “ไปที่สวนหลังบ้านงั้นเหรอ”
จนมาถึงคิวทองมา ซึ่งหน้าซีด ตัวสั่น มีอาการหลุกหลิกอย่างเห็นได้ชัดต่อหน้านภัสรพี
“ถ้าคุณหญิงออกไปตามหาปุยฝ้ายที่สวนหลังบ้าน ก็คงจะออกไปทางประตูหลังบ้านมากกว่าครับ” มองมาบอก
“ไม่ต้องมาเดา แค่ตอบคำถามฉันก็พอ แกมีหน้าที่เดินยามรักษาความปลอดภัย คืนนั้นแกเห็นอะไรผิดสังเกตบ้างหรือเปล่า” นภัสรพีซัก
ทองมาหลบตาส่อพิรุธ “มะ..ไม่มีครับ ไม่มีเลย”
นภัสรพีกับนภดารามองทองมา แล้วมองหน้ากัน แอบสงสัยในใจ

เวลาเดียวกันชิษณุพงษ์ขับรถเข้ามาจอด ลงมาเจอศรี เดินมาต้อนรับ
“ผมมาหากอหญ้า”
ศรีเชื้อเชิญท่าทีนอบน้อม “เชิญข้างในเลยค่ะ”

ชิษณุพงษ์เดินนำกอหญ้าเข้ามาในสวนค่อนข้างลึก เป็นมุมลับตาคน ท่าทางระแวงระวัง มองไปรอบตัวเหมือนกลัวคนจะเห็น
“มาคุยกันทางนี้ดีกว่า”
กอหญ้า บ่น “เธอเป็นอะไรของเธอ ชิษณุพงษ์ ทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ ด้วย”
“ฉันมีเรื่องอยากจะเตือนเธอ ที่โรงพยาบาลคนอยู่กันเยอะ ฉันเลยไม่ อยากพูด กลัวคนได้ยิน” ชายหนุ่มมองไปรอบตัวอย่างระวัง ก่อนพูด “คุณย่าหญิงนภาจรีรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเธอ”
กอหญ้าซักท่าทีตื่นเต้น “เกี่ยวกับฉัน! อะไร”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่คุณย่าหญิงท่านพูด เหมือนกับว่าท่านรู้ ว่าคนร้ายมาทำร้ายเธอเพราะอะไร”
กอหญ้า หน้าสลดวูบ “อาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้ คุณหญิงเลยโดนทำร้าย”
ชิษณุพงษ์ย้ำเตือน “ถ้ามันจริง เธอก็ต้องระวังตัวให้มากๆ นะ กอหญ้า แปลว่าคนร้ายมัอยู่ตัวใกล้เธอมากๆ ไม่แน่ ว่ามันอาจจะอยู่ในวังนี้ก็ได้”
แวบหนึ่งนั้น กอหญ้าแอบคิดถึงพเยีย “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”

ที่หลังต้นไม้ห่างออกไป พเยียย่องตามมา พยายามมองและเงี่ยหูฟัง แต่ไม่ได้ยินอะไร เพราะอยู่ไกล เห็นแค่สีหน้าท่าทางของทั้งคู่ ว่ากำลังคุยเรื่องสำคัญพเยียเม้มปาก ขัดใจที่ไม่ได้ยิน

ที่ชิษณุพงษ์บอกกอหญ้าเป็นเชิงหารือ
“ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว ฉันอยากจะขออนุญาตคุณอาดารา มาอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่”
“อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลย ชิษณุพงษ์ เจ้าพ่อเจ้าแม่เธอคงไม่ชอบแน่” กอหญ้าบอกปัดอย่างเกรงใจ
ชิษณุพงษ์งอแง “แต่ฉันเป็นห่วงเธอจริงๆ นะ กอหญ้า”

พเยียชะเง้อชะแง้อยู่หลังต้นไม้นั้น แต่แล้วต้องตกใจที่เห็นอิศรเดินตรงมา อิศรเองก็ตกใจที่เห็นพเยีย
“คุณพเยีย!”
“คุณอิศร!”
อิศรมองไปทางที่พเยียมองอยู่ เห็นชิษณุพงษ์กับกอหญ้ายืนคุยกัน รู้ทันทีว่าพเยียมาแอบดูก็ไม่พอใจ
“นี่คุณ”
พเยียหาทางเอาตัวรอด รีบยิ้ม เอามือจุ๊ปากทำท่าให้อิศรเงียบ แล้วดึงอิศรหลบหลังต้นไม้
พเยียทำท่ากระซิบ น่ารักคิกคัก “จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปค่ะ เดี๋ยวสองคนนั้นเค้ารู้ว่าพเยียมาแอบดู”

อิศรยังไม่ชอบใจ “คุณมาแอบดูอะไร”
“ก็มาแอบดูสองคนนั้นเค้าจู๋จี๋กันน่ะซีคะ” พูดไปแล้วแกล้งทำเป็นตกใจ เพิ่งนึกได้ ว่าไม่ควรบอกอิศร “อุ๊ย โทษทีค่ะ พเยียลืมไป”
“เค้ามาที่นี่บ่อยซีนะ”
“ค่ะ ก็ชิษณุพงษ์เค้าเป็นญาติห่างๆ ของคุณตานี่คะ เค้าก็หาเรื่องเข้า ออกวังศิวาลัยได้ทุกวัน”
อิศรมองอย่างน้อยใจ แล้วเห็นชิษณุพงษ์จับมือกอหญ้ามากุม บีบเบาๆ อย่างห่วงใย กอหญ้ายิ้มตอบอย่างขอบคุณ
“ตอนอยู่เชียงใหม่เค้าสองคนสนิทกับมากค่ะ ชิษณุพงษ์ก็พยายามจะรื้อฟื้นความหลังให้ได้” แสร้งทำเป็นขำ แต่จงใจใส่ไฟ “คงจะหวานกันน่าดู สองคนนั้นเค้าถึงแอบมารื้อฟื้นกันบ่อยๆ”
อิศรหน้าบึ้งตึงทันควัน ตอนแรกขยับจะเข้าไปลุย แต่พเยียรั้งไว้
“คุณอิศรคะ”
อิศรมองหน้าพเยีย แล้วเกิดอาย เลยเปลี่ยนใจ เดินหันหลังออกไปด้วยความโกรธ

ตกตอนเย็นทองมาเปิดประตูวัง เห็นรถอิศรวิ่งออกไปด้วยความเร็วราวกับพายุ ทองมาตกใจ รีบปิดประตู พอหันมาจะกลับป้อมยาม เห็นนภดารายืนอยู่
“คุณดารา” ทองมาแปลกใจ “ทำไมเดินลงมาถึงนี่ครับ มีอะไรรึเปล่า”
“ฉันมีอะไรอยากจะให้ทองมาช่วยหน่อย”
“คุณดาราไม่น่าลำบาก ให้คุณแม่บ้านโทร.ตามผมไปบนตึกก็ได้”
“ฉันไม่อยากให้ใครได้ยินน่ะ มันเป็นความลับ”
“เรื่องอะไรครับ”
“ก็เรื่องที่ทองมาไม่บอกฉันไง คืนวันนั้น ทองมาอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ทำไมต้องโกหกคุณพ่อด้วย”
ทองมาหน้าซีด ขาสั่น

นภดาราเดินกลับเข้ามา ทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง หน้าเครียด ท่าทางเป็นกังวลหนัก นภัสรพีเดินมาจากด้านในบ้าน ลงนั่งตรงข้าม แล้วถาม
“ว่าไง ลูก เจ้าทองมามันยอมเปิดปากไหม”
“ค่ะ ทองมายอมรับสารภาพ ว่าตัวเองหลับยาม ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
นภัสรพีผิดหวังส่ายหัวอย่างอ่อนใจ “เท่านั้นเองเหรอ”
นภดารานิ่งไป ก่อนจะตอบเสียงเบา
“เท่านั้นค่ะ”
นภัสรพีลุกขึ้น ผิดหวัง พูดอย่างขัดใจ
“คนในบ้านเยอะแยะ ไม่มีใครรู้ใครเห็นอะไรจริงๆ หรือนี่ มันจะเป็นไปได้ยังไง”
สีหน้านภดาราดูนิ่ง แต่ดวงตามีแววสับสน คิดถึงคำตอบของทองมาเมื่อครู่
เวลานั้นทองมายกมือไหว้ปลกๆ
“ผมเผลอหลับไปครับ”
“หลับไป! หลับยามตอนสามทุ่มเนี่ยนะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าหลับไปได้ยังไง หัวค่ำๆ ก็ยังดีๆ อยู่เลยผมกินไปกาแฟแก้วนึงด้วยซ้ำ ตอนที่คุณหนูเอาขนมมาให้”
นภดารานึกเอะใจ “คุณหนูพเยียน่ะเหรอ”
“ครับ คุณหนูเห็นผมกินกาแฟอยู่ เลยแบ่งขนมมาให้ ผมกินเสร็จแล้วเผลอหลับไปตอนไหน ไม่รู้ตัวเลย”

นภดาราคิดไปคิดมา หน้าตาสับสน ตัดสินใจลุกขึ้นออกจากห้อง เห็นศรีเดินผ่านมา
“ศรี เห็นคุณหนูไหม”
“เข้าห้องไปแล้วค่ะ เห็นบ่นปวดหัว ศรีเพิ่งเอาน้ำกับยาขึ้นไปให้”
“งั้นหรือ ขอบใจจ้ะ”

นภดาราเดินไปทางห้องพเยีย ตัดสินใจจะไปถามให้รู้เรื่อง
ด้านพเยียนอนแช่อยู่ในอ่างที่มีฟองสบู่เต็ม น้ำอุ่นเห็นควันกรุ่นเป็นสาย พเยียหลับตา เสียบหูฟังฟังเพลง พยายามผ่อนคลาย

นภดาราเคาะประตูเบาๆ แต่ไม่มีเสียงตอบ เลยค่อยๆ เปิดเข้ามา
“พเยีย ลูก”
นภดาราเห็นห้องว่างเปล่า แต่เหลือบไปเห็นเสื้อผ้าชุดที่พเยียใส่กองเกลื่อนอยู่ที่พื้นเป็นทางไปที่ประตูห้องน้ำ ก็เข้าใจว่าพเยียอยู่ในห้องน้ำ
นภดาราอดไม่ได้ตามวิสัยแม่ เก็บเสื้อผ้าขึ้นมาพับลงตะกร้าเตรียมซัก แล้วเหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือของพเยียวางอยู่บนเตียง
นภดาราเดินเข้าไป หยิบขึ้นมาดูอย่างลังเล รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง แต่ใจหนึ่งก็อยากรู้
ส่วนห้องน้ำพอเพลงจบ พเยียลืมตา ถอดหูฟังออก สีหน้าผ่อนคลายขึ้น
ด้านนภดาราอดไม่ได้ ตัดสินใจเปิดโทรศัพท์ กดดู Log โทร.เข้าโทร.ออก แต่ก็ต้องแปลกใจ เพราะพเยียลบทุกอย่างทิ้งหมด
“ทำไมต้องลบทิ้งด้วย แปลก”
นภดาราลองกดดูใน message ที่หน้าจอเห็นข้อความ no message กดดูไฟล์ภาพ รูปที่ถ่ายเอาไว้ที่ทะเลก็หายไปหมด นภดารายิ่งรู้สึกถึงความผิดปกติ
มีเสียงดังมาจากห้องน้ำ นภดาราตกใจ รีบร้อนวางโทรศัพท์ แล้วดันทำหล่น
พเยียสวมเสื้อคลุมอยู่ตรงประตู กำลังจะเปิดออกมา ได้ยินเสียงของตก
“เสียงอะไร”
พเยียเปิดพรวดออกไปทันที กวาดตามอง เห็นประตูห้องเผยออยู่ไหวๆ เหมือนมีใครเพิ่งออกไปแล้วปิดไม่สนิท พเยียรีบพุ่งตามออกไป
“ใครน่ะ”

พเยียออกมาที่ทางเดินหน้าห้อง สอดตาวาววับ หันมองซ้ายขวาเพื่อจะหาคนบุกรุก นภดาราหลบอยู่ที่มุมผนังด้านหนึ่ง ใจสั่น ไม่รู้จะทำยังไงต่อดี
พเยียหันขวับ เดินมาทางมุมที่นภดาราแอบอยู่ รู้สึกได้ว่าผู้บุกรุกน่าจะไปทางนี้
“ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ”
พเยียเดินใกล้เข้ามาเลี้ยวตรงมุมขวับ เจอกอหญ้ายืนอยู่ ยิ้มให้
“คุณพเยีย”
“เธอใช่ไหมที่แอบเข้าไปในห้องฉัน”
กอหญ้าชะงักนิดนึง เห็นพเยียใส่เสื้อคลุม ผมบางส่วนยังเปียกชื้นๆ กอหญ้ายิ้มใสๆ ให้
“ไม่ได้แอบค่ะ ฉันจะเข้าไปหาคุณพเยีย .. แต่เห็นคุณพเยียอาบน้ำอยู่ก็เลยออกมา”
พเยียจ้องตาไม่เชื่อนัก “หาฉันทำไม”
กอหญ้ายิ้มๆ “อยากถามเรื่องเก่าๆ น่ะค่ะ เรื่องโบสถ์ที่เราเคยอยู่ด้วยกัน เรื่องคุณแม่ยุพา คุณแม่วันเพ็ญ แล้วก็เรื่องวันนั้น...ที่เราลงมากรุงเทพฯ ด้วยกัน”
“ฉันเล่าไปหมดแล้ว วันนี้ปวดหัวด้วย จะนอน” พเยียจะไป แล้วหันมา “ทีหน้าทีหลัง ถ้าฉันไม่อนุญาต อย่าเข้าไปในห้องฉันอีกนะ”
กอหญ้ายิ้มสดใส “ค่ะ”
พเยียเดินกลับไปในห้อง
กอหญ้าหันไปด้านหลัง เห็นนภดาราซุกตัวหลบอยู่หลังเฟอร์นิเจอร์ที่บังอะไรไม่ได้มากนัก
เดินไปพูดอย่างอ่อนโยน
“คุณพเยียไปแล้วค่ะ คุณอา”
นภดารายิ้มเจื่อนๆ
“ขอบใจจ้ะ”
“ราตรีสวัสดิ์นะคะ”
กอหญ้าจะเดินไป นภดาราเรียกไว้
“กอหญ้า” กอหญ้าชะงัก “อาขออะไรหนูอย่างนึงได้ไหม”
“ได้ค่ะ”

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 8/4 วันที่ 3 มี.ค. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager