อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 9/3 วันที่ 5 มี.ค. 56


อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 9/3 วันที่ 5 มี.ค. 56

ระหว่างนั้นอิศรเดินมากับกอหญ้า เห็นอรรถกับสกุณา เลยเลี่ยงไปนั่งด้านหลัง ห่างออกไป พเยียเดินถือถ้วยชาเข้ามาให้นภัสรพี พยายามจะเอาใจ
“คุณตาขา น้ำชาของคุณตาได้แล้วค่ะ”
พเยียคุกเข่าลง กำลังจะวางถ้วยชาลงบนโต๊ะที่ตั้งอยู่ด้านหน้านภัสรพี สายตาของพเยียเหลือบไปเห็นแหวนที่นิ้วมือสกุณาที่วางอยู่บนตัก พเยียชะงัก จำแหวนเพชรของนภาจรีได้ ถึงกับผงะ พเยียมองขึ้นไปเห็นต่างหูของนภาจรีอีก

สกุณายิ้มทักประจบ “คุณหนูพเยีย สวัสดีค่ะ”
พเยียมืออ่อนปล่อยถ้วยน้ำชาหลุดจากมือไม่รู้ตัว น้ำชาในถ้วยหกเลอะเทอะ กระเด็นไปโดนทั้งพเยียและสกุณา



สกุณาตกใจร้อง “ว้าย!”
นภัสรพี นภดารา และอรรถตกใจ พเยียก็ตกใจ ทำตัวไม่ถูก
พเยียละล่ำละลัก “เอ่อ พเยีย เอ่อ พเยียขอโทษนะคะ คือ...” พเยียพูดไม่ออก รู้สึกว่าอยู่ตรงนั้นไม่ได้อีกแล้ว “พเยียขอโทษค่ะ”
พเยียรีบเดินออกไปอย่างเร็ว
นภดารามองตามพเยียอย่างแปลกใจ แล้วหันมาดูสกุณา แล้วก็ต้องชะงัก นภดาราเห็นสกุณาเอามือปัดชุดที่เปียกปอนของตัวเองอย่างหงุดหงิด เห็นแหวนเพชรวงใหญ่ชัดเจน นภดาราอึ้ง ตะลึงไป
“ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ คุณชาย เปื้อนหมดแล้ว”
สกุณาลุกไป นภดารามองตาม

ที่มุมหนึ่งนอกศาลา พเยียมือไม้สั่น ลนลาน พยายามกดโทรศัพท์หานพดล แต่ไม่มีคนรับพเยียเครียดจัด
“อีพี่นพบ้า ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รับ...โธ่เว้ย”
พเยียพยายามกดโทรศัพท์ต่ออย่างบ้าคลั่ง

ทางด้านสกุณายืนหน้าหงิกอยู่ที่หน้าอ่างล้างมือในห้องน้ำ พยายามเอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำเช็ดรอยเปื้อนที่ชุด
“นังเด็กบ้า ซุ่มซ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าชุดฉันเจ๊งขึ้นมาจะทำยังไงเนี่ย”
นภดาราเดินตามเข้ามา สกุณาหันไปเห็นตกใจ รีบปรับโหมดอารมณ์จ๊ะจ๋าทันที
“อุ๊ย คุณดารา” เห็นสีหน้านภดาราดูเครียด “เข้ามาทำไมคะ มีอะไรรึเปล่า”
นั่นเองนภดาราจึงได้สติ พยายามทำสีหน้าปกติ
“เอ่อ ฉันต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยค่ะ ที่ทำให้ชุดสวยๆ ต้องเลอะเทอะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณหนูพเยียเธอไม่ได้ตั้งใจอยู่แล้ว”
นภดารามองที่แหวน “แหวนของคุณสกุณาสวยจังเลยนะคะ”
สกุณาไม่รู้ตัวสักนิด มองแหวนแล้วยิ้มยืดอย่างภูมิใจ แถมยกขึ้นแตะทรงผม โชว์ต่างหูที่เข้าชุดกัน
“อุ๊ย ขอบคุณค่ะ” แกล้งถ่อมตัว “ของใส่เล่นๆ น่ะค่ะ ไม่ได้หรูหราอะไร”
“เพชรน้ำสวยเหลือเกิน ขอดิฉันดูใกล้ๆ หน่อยได้ไหมคะ” นภดาราว่า
สกุณากรีดมือไปให้ดู นภดาราดูแล้วนิ่งไป มั่นใจ
“สวยจริงๆ ค่ะ จะรังเกียจไหมคะ ถ้าฉันจะถาม ว่าซื้อมาจากที่ไหน”
สกุณายิ่งภูมิใจ “แหม...ไอ้เรื่องแบบนี้ มันเป็นความลับของผู้หญิงเรานะคะคุณดารา”
สกุณายิ้ม หัวเราะคิกคัก นภดาราพยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้น ทำสีหน้าปกติ

กลางดึกสองพ่อลูกอยู่ในห้องนอนนภาจรีที่วังศิวาลัย นภัสรพีหมุนรหัสตู้เซฟส่วนตัวของนภาจรี นภดารายืนมองอย่างใจจดใจจ่อ
นภัสรพีเปิดประตูตู้เซฟ เห็นกล่องเครื่องเพชรวางเป็นชุดๆ เต็มไปหมด นภัสรพีรีบหยิบออกมา นภดาราช่วยเปิดเครื่องเพชรออกมาดูทีละกล่องจนครบ ไม่มีอันไหนที่เหมือนของสกุณา
“ไม่มีจริงๆ ค่ะ คุณพ่อ แหวนวงนั้นกับต่างหูของคุณอาหญิงหายไปจริงๆ”
“ลูกแน่ใจนะ บางทีมันอาจจะแค่คล้ายกันก็ได้”
“ลูกแน่ใจค่ะคุณพ่อ ทั้งแหวน ทั้งต่างหู คุณอาหญิงสั่งทำพิเศษ ไม่มีทางไปเหมือนกับของใครแน่ๆ แล้วที่สำคัญ คุณสกุณาเธอเพิ่งซื้อมาได้ไม่กี่วันนี่เอง แต่เธอไม่ยอมบอกว่าได้มาจากไหน”
“คุณสกุณาคงไม่ได้ตั้งใจปิดบัง เธอไม่รู้หรอกว่าเครื่องเพชรนั่นเป็นของหญิงนภา ไม่งั้นคงไม่กล้าใส่มาให้เราเห็น พ่อว่าเธอคงซื้อมาจากคนที่รับซื้อของโจรอีกที”
“แล้วเราจะทำยังไงกันต่อดีล่ะคะ คุณพ่อ”
“ลูกอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครก็แล้วกัน แล้วก็ไม่ต้องไปถามคุณสกุณาด้วย พ่อไม่อยากให้คนร้ายมันไหวตัวทัน ลองเรามีเบาะแสอย่างนี้ อีกไม่นานต้องจับตัวคนร้ายได้แน่” นภัสรพีกำชับ

สองพ่อลูกไม่รู้ว่าที่นอกห้อง พเยียแอบเงี่ยหูแนบประตูฟังอยู่ ด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
เช้าวันต่อมา ขณะที่นพดลนอนหลับอยู่บนเตียง ยินเสียงเคาะประตูถี่ยิบ นพดลงัวเงียลุกจากเตียง เดินไปที่ประตู

“ใครวะ เคาะไม่มีเกรงใจ”
นพดลมองดูตรงช่องตาแมว แล้วเปิดประตู พเยียยังอยู่ในชุดไว้ทุกข์ถลันเข้ามาในห้อง
“พเยีย มาทำไมแต่เช้า...”
นพดลยังพูดไม่ทันจบคำ พเยียก็ตบฉาดเข้าให้ที่หน้า
นพดลโกรธ “เฮ้ย อะไรวะ”
“เมื่อคืนไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ฉันโทรหาพี่ทั้งคืน”
“ก็ไปปาร์ตี้หาความสุขบ้างซี๊ ทำไม มีอะไรถึงได้บ้าแต่เช้า”
พเยียโกรธจัด “หน็อย ไปปาร์ตี้ รวยใหญ่ซีนะ ขายเครื่องเพชรได้เงินมาเท่าไหร่ล่ะ”
นพดลทำเป็นงง “เครื่องเพชรอะไร”
“ก็เครื่องเพชรที่เอามาจากศพคุณหญิงไงล่ะ อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ ฉันเห็นกับตามาแล้ว...คนอื่นๆ ที่วังก็เห็นแล้วด้วย”
นพดลตกใจ “เฮ้ย เป็นไปได้ยังไง”
“คุณสกุณาของพี่ เค้าใส่ไปงานศพเมื่อคืนนี้” พเยียทุบนพดลอย่างโกรธแค้น “ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าไปยุ่งกับมัน ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง หา”
นพดลสะบัดออกอย่างรำคาญ
“เว้ย ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าโลกมันกลมขนาดนั้น เค้าเห็นแล้วเค้าอยากได้ แล้วมันก็เงินทั้งนั้น จะให้เก็บไว้ทำซากอะไร”
“อยากโลภไม่เข้าเรื่อง ตอนนี้ พวกที่วังเค้ากำลังจะสาวมาถึงพี่แล้ว แล้วคราวนี้จะทำยังไงกัน หะ จะทำยังไงกัน”
นพดลอึ้ง ส่วนพเยียทิ้งตัวลงนั่งกุมขมับ มึนตึ๊บ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป

ขณะเดียวกัน อรรถกับสกุณาแต่งตัวเหมือนจะออกจากบ้าน เดินลงจากชั้นบนมาที่ห้องโถง 2 คนเห็นพรเดินหน้าตาตื่นตรงเข้ามาหา

“คุณคะ ตำรวจมาค่ะ” พรบอก
อรรถงง “ตำรวจมา มาทำไม”
ตำรวจ 2 นายเดินเข้ามาที่ห้องโถง พร้อมอิศร อรรถเดินนำออกไปหา สกุณาตามไปห่างๆ
“สวัสดีครับ คุณอรรถ อดิศวร กับคุณสกุณา กรรณชาติใช่ไหมครับ” ตำรวจทักทายทำความเคารพ
“ใช่ครับ ไม่ทราบมีอะไรเหรอครับ” อรรถงวยงง
“ตำรวจเค้ามีเรื่องอยากจะสอบสวนผู้หญิงของพ่อหน่อยน่ะ” อิศรบอกแทน
สกุณาตกใจ “สอบสวนดิฉัน!” หันไปถามตำรวจอย่างร้อนใจ “เรื่องอะไรกันคะ”
สกุณาหน้าตาตื่น ไม่เข้าใจว่าตำรวจจะสอบถามอะไร

ไม่นานนัก สกุณาวางเครื่องเพชรของนภาจรีลงบนโต๊ะกลางโถง อิศรและตำรวจพิศดู
สกุณาหน้าเจื่อนๆ “นี่ค่ะ แหวนกับต่างหูที่ดิฉันใส่ไปงานศพเมื่อคืน”
“ทางวังศิวาลัยเค้าคิดว่า แหวนและต่างหูชุดนี้ เป็นของคุณหญิงนภาจรี” อิศรบอก
อรรถกับสกุณาตกใจ
“อะไรนะ” อรรถคาดไม่ถึง
อิศรย้ำกับผู้เป็นพ่อ “ครับ คุณอาดารายืนยันว่าคุณหญิงนภาจรีใส่แหวนและต่างหูชุดนี้ติด
ตัวอยู่ในวันเกิดเหตุ” อิศรปรายตามองสกุณาพูดเป็นเชิงขู่ “แล้วมันก็หายไปจากร่างของเธอ หลังจากที่เธอถูกฆ่าตาย”
สกุณาหน้าซีด สยองขวัญ อรรถตกใจสุดขีด
“นี่ นี่แก แกคงไม่ได้หมายความว่า...” อรรถมองสกุณาที่นั่งตะลึงอยู่ข้างๆ แล้วหันไปหาตำรวจ “ไม่นะครับ เราสองครอบครัวรักใคร่นับถือกันมานาน เป็นไปไม่ได้ที่สกุณาจะไปเกี่ยวข้องกับการฆ่าคุณหญิงนภาจรี”
ตำรวจรีบอธิบาย “มิได้ครับ ทางตำรวจหรือคุณชายนภัสเองก็ไม่ได้คิดว่าคุณสกุณาเป็นฆาตกร แต่ที่เราต้องการทราบก็คือ คุณสกุณาได้เครื่องเพชรชุดนี้มาจากไหน”
สกุณาหน้าซีด ปากสั่น อึกอัก ไม่อยากบอกใครว่าซื้อมาจากนพดลเพราะกลัวว่าจะสาวไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนพดล แต่จะไม่บอกก็ไม่ได้
“ว่าไงครับ” อิศรถามย้ำ
อรรถคาดคั้นเสียงดั ท่าทีฉุนเฉียว
“บอกเค้าไปสิคุณ ว่าไปซื้อมาจากไหน ไอ้ที่บอกว่าได้มาถูกๆ น่ะ”
“คือ มีคนรู้จักกันมาบอกขายน่ะค่ะ เค้าบอกว่าเจ้าของร้อนเงิน เขาขอให้ดิฉันช่วยซื้อไว้”
“เค้าบอกหรือเปล่าว่าเจ้าของเป็นใคร” ตำรวจซัก
“เค้าบอกว่าเจ้าของเป็นคนมีหน้ามีตา เป็นผู้ดีเก่า เลยไม่อยากให้ใครรู้ว่าเอาเครื่องเพชรมาขาย เค้าเลยบอกไม่ได้ค่ะ”
อรรถโมโหมาก “แล้วไอ้เค้าน่ะมันใคร ใครที่มันเอาของโจรมาหลอกขายให้คุณ”
สกุณาอึกอัก อิศร อรรถ และตำรวจมองเธอเป็นตาเดียว
“เค้าเป็น Therapist ทำงานอยู่ในสปาที่ฉันเป็นสมาชิกอยู่ค่ะ”
อิศรถาม “ชื่ออะไร”
สกุณาบอกเสียงอ่อย “ชื่อนพดลค่ะ”

ขณะเดียวกันพเยียเดินกลับเข้าบ้าน สีหน้าไม่ค่อยดีนัก ผ่านห้องนั่งเล่น ได้ยินเสียงนภดาราร้องเรียกดังมา
“พเยีย”
พเยียชะงัก มองเข้าไปในห้อง เห็นนภดารากับกอหญ้าในชุดอยู่กับบ้าน ไว้ทุกข์นั่งจัดของถวายสังฆทานถวายพระ สำหรับงานสวดพระอภิธรรมนภาจรีคืนนี้พเยียฝืนยิ้ม แล้วเดินเข้าไปหา
“มีอะไรคะคุณแม่”
นภดารามองนิ่งๆ อย่างจับผิด “พเยียไปไหนมาแต่เช้าลูก”
“ไป เอ่อ ไปซื้อของค่ะ”
พเยียล้วงไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่สะพายมา เห็นเป็นอาหารเม็ดสำหรับแมวจริงๆ
“คุณยายหญิงไม่อยู่แล้ว คนในบ้านก็ยุ่งๆ พเยียเห็นขนมของปุยฝ้ายหมด เลยออกไปซื้อมาให้”
นภดารามองนิ่งเข้าไปในตาพเยีย รู้ว่าโกหก เสียใจ
“งั้นหรือจ๊ะ”
พเยียรีบเปลี่ยนเรื่อง ทำความดีเอาอกเอาใจ
“คุณแม่ทำไมยังไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกล่ะคะ เดี๋ยวก็ต้องออกไปวัดแล้ว” ดึงของมาจากมือนภดารา “มาค่ะ ที่เหลือนี่พเยียทำกับกอหญ้าเอง”
กอหญ้าบอก “คุณอาไปเถอะค่ะ เหลืออีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว เราทำกันเองได้”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ กอหญ้า ฉันยังไม่รีบไปไหนหรอก อยากจะรอฟังข่าวก่อน”
พเยียฉงน “ข่าวอะไรคะ”
นภดารามองหน้าพเยีย ทำใจไม่อยากพูด กอหญ้าตอบแทน
“ข่าวคนที่เอาเครื่องเพชรของคุณหญิงนภามาขายน่ะค่ะ ตำรวจได้เบาะแสแล้วว่ามันอยู่ที่ไหน ตอนนี้กำลังไปจับตัวมัน ถ้าจับได้ เราคงได้รู้กัน ว่าฆาตกรที่ฆ่าคุณหญิงมันเป็นใคร”

พเยียหน้าตาหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด นภดารามองเห็น ก็ยิ่งเสียใจ
ไม่นานนักรถตำรวจเลี้ยวเข้าจอดที่หน้าคอนโดที่นพดลอาศัยอยู่ ตำรวจ 2 นายลงจากรถ ตรงเข้าไปที่ล้อบบี้ ตำรวจโชว์ตราให้พนักงานที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ดู

“ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายนพดล ฉายสำอางพักอยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ”
“ค่ะ อยู่ที่ห้อง” พนักงานบอกเลขที่ห้องไป
“ช่วยพาผมขึ้นไปหน่อย ทางตำรวจต้องการพบและนำตัวนายนพดลไปสอบสวน”
“คุณนพดลไม่อยู่แล้วค่ะ แกเพิ่งบอกคืนห้องเมื่อเช้านี้เอง แกบอกว่าต้องย้ายไปทำงานต่างจังหวัดด่วน เลยขอคืนห้องเลย ยอมให้ทางเรายึดมัดจำไว้”
ตำรวจอีกนายงง “คืนห้อง หมายความว่าย้ายออกไปแล้วงั้นเหรอ”
“ค่ะ ข้าวของก็ขนไปหมดแล้ว ท่าทางรีบร้อนมาก ฉันยังคิดอยู่เลย ว่าแกรีบร้อนอย่างกับจะหนีอะไร”
ตำรวจ 2 นายมองหน้ากัน เซ็ง
“แล้วมีใครพอจะทราบไหม ว่าเขาไปไหน”

ส่วนพเยียผลุนผลันเข้ามาในห้อง ล็อกประตู แล้วรีบคว้าโทรศัพท์มือไม้สั่นกดเบอร์นพดล
“พี่นพ” แต่ไม่มีคนรับ พเยียหัวเสียวางสาย แล้วกดใหม่ “พี่นพอยู่ไหน” ปากก็บ่นกับตัวเอง “ตำรวจแห่ไปที่คอนโดกันแล้ว มันจะหนีทันไหมเนี่ย
พเยียกดโทรศัพท์อีก แต่แล้วต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงกริ๊กของลูกบิดประตู พเยียหันขวับเห็นนภดาราไขกุญแจ แล้วเปิดประตูเข้ามา
พเยียตกใจ “คุณแม่”
นภดาราเห็นพเยียถือโทรศัพท์ค้างคามือ นภดาราปราดเข้ามาแย่ง พเยียหลบ
“เอาโทรศัพท์มาให้แม่”
พเยียปัดป้อง “คุณแม่ คุณแม่จะทำอะไรคะ”
“แม่ก็อยากรู้น่ะสิ ว่าพเยียทำอะไร กับใครอยู่”
นภดาราแย่งโทรศัพท์มาได้ รีบกดดู เห็นชื่อ “นพดล”
นภดาราใจจะขาด เงยหน้ามอง อึ้ง เสียใจ “นพดล...เค้าเป็นใคร”
นภดาราถามย้ำ ทั้งๆ ที่รู้แล้วว่าตำรวจกำลังตามคนชื่อนพดล พเยียอึ้ง ไม่ตอบนภดาราเลยจะกดโทร.ออก พเยียโถมเข้าใส่ทีเผลอ แย่งเอาโทรศัพท์กลับมาจนได้ แล้ววิ่งตื๊อเข้าห้องน้ำ ล็อกประตูทันที
นภดาราตามไปทุบประตู “พเยีย ออกมานะ เอาโทรศัพท์มาให้แม่เดี๋ยวนี้”
พเยียลนลานแกะแยกชิ้นส่วนโทรศัพท์ แล้วเอายัดลงไปในถังน้ำชักโครก เพื่อทำลายไม่ให้ใช้งานได้อีก
นภดาราโกรธมาก
“พเยีย ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ออกมาคุยกับแม่ให้รู้เรื่อง ไม่งั้นแม่จะเรียกตำรวจเดี๋ยวนี้”
ประตูเปิดออก พเยียเดินออกมา พร้อมรับสถานการณ์ นภดารามองพเยียอย่างผิดหวัง เจ็บปวด อย่างแม่ที่คิดว่าลูกของตนเป็นคนร้าย
“ลูกทำแบบนี้ได้ยังไง”
พเยียพยายามนิ่ง “คุณแม่คิดว่าพเยียทำอะไรคะ”
“ลูกทำร้ายคุณยายหญิง” นภดาราน้ำตาคลอ “เพราะอะไร พเยีย เพราะแค่คุณยายหญิงไม่ชอบลูก ลูกถึงกับฆ่าคุณยายหญิงงั้นเหรอ ทำไมลูกถึงโหดร้ายอำมหิตผิดมนุษย์อย่างนี้”
“พเยียไม่ได้ทำ คุณแม่เข้าใจผิด”
“หลักฐานทุกอย่างมันชัดเจน ลูกวางยาทองมาให้หลับยามลูกล่อคุณยายหญิงให้ออกไปจากวัง ให้คนชื่อนพดลมาฆ่า” นภดาราอัดอั้นจนร้องไห้ออกมา “ลูกฆ่าคุณยาย”
พเยียระเบิดออกมา สีหน้าเจ็บปวด
“พเยียไม่ได้ตั้งใจ” นภดาราชะงัก “ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ พเยียไม่ได้ตั้งใจ”
พเยียทรุดตัวลง ร้องไห้ นภดาราเจอคำสารภาพตรงๆ เข้าไป ถึงกับอึ้ง งง

ด้านนภัสรพีวางโทรศัพท์ กอหญ้ากับแม่ชื่นที่รออยู่รีบเข้าไปหา
“ตำรวจว่าไงบ้างคะ ท่าน ได้ตัวคนร้ายไหมคะ”
“ตำรวจบอกว่ามันหนีไปแล้ว มันไหวตัวทัน”
“ลองอีแบบนี้ คงต้องมีคนส่งข่าวบอกมันแน่ๆ ไปเสียเที่ยวเปล่าแท้ๆ”
“ก็ไม่ถึงกับเสียเปล่าหรอก แม่ชื่น ตำรวจเค้าได้หลักฐานเพิ่มเติมมาอีกเยอะ ที่คอนโดมีสำเนาบัตรประชาชนอยู่ เรารู้แล้วว่ามันเป็นใคร”
“แล้วเค้าเป็นใครล่ะคะ” กอหญ้าถาม
“ชื่อนายนพดล ฉายสำอาง อายุ 25 ปี เป็นคนเชียงใหม่ มันเคยอยู่ใกล้ๆ กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่หนูเคยอยู่นั่นแหละ”
นภัสรพีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดไฟล์ที่ทางตำรวจเพิ่งส่งมาให้ เป็นรูปที่ถ่ายมาจากสำเนาบัตรประชาชนของนพดล
กอหญ้ากับแม่ชื่นพากันมองดู ไม่ชัดนัก แต่พอดูออก กอหญ้าถึงกับผงะ
“นี่มัน”
“มีอะไรเหรอจ๊ะ กอหญ้า”
“เค้าคือคนที่ไปจับตัวหนูที่หัวหินน่ะค่ะ คนเดียวกันแน่ๆ หนูจำเค้าไม่ ได้ แต่เค้ารู้จักหนู เขาเรียกชื่อหนูด้วย”
นภัสรพีคิดตาม “เป็นคนที่รู้จักกับหนู แล้วเคยทำร้ายหนูมาก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ”
“ค่ะ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ชื่นว่าคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง มันคือคนเดียวกันนั่นแหละ ที่คิดจะกำจัดทั้งคุณหญิง ทั้งหนูกอหญ้า”
นภัสรพีหันมองแม่ชื่น สีหน้าแม่ชื่นเหมือนรู้อะไรมากกว่าที่พูด ประมุขแห่งศิวาลัยเริ่มไม่สบายใจ เรื่องในบ้านชักซับซ้อนและน่ากลัวขึ้นทุกที

พเยียเช็ดน้ำตาป้อยๆ ขณะอธิบาย
“พเยียเคยเป็นแฟนพี่นพ เราเคยมีอะไรกัน พอพเยียรู้ว่าเค้าเป็นคนไม่ดี พเยียก็เลิกกับเค้า เค้าไม่ยอม พอดีคุณลุงปราบตามพเยียลงมาหาคุณแม่ พเยียเลยหนีมา”
นภดาดาราฟัง พยายามทำใจแข็ง
“แล้วยังไง”
“พี่นพมันได้ข่าวว่าพเยียมาอยู่กับคุณแม่ มันรู้ว่าคุณตากับคุณแม่มีเงินเยอะแยะ มันตามหาพเยียจนเจอ...แล้ว...แล้ว ข่มขู่พเยีย”
“ข่มขู่ยังไง”
“มันบอกว่ามันถ่ายรูปพเยียเอาไว้ ตอนที่เรามีอะไรกัน ถ้าพเยียไม่เอาเงินให้มัน มันจะส่งรูปให้หนังสือพิมพ์ พเยียกลัวคุณแม่กับคุณตา คุณยายรู้ กลัวจะอับอายไปถึงวงศ์ตระกูลของเรา พเยียก็เลยยอม”

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 9/3 วันที่ 5 มี.ค. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager