อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 11/4 วันที่ 13 มี.ค. 56


อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 11/4 วันที่ 13 มี.ค. 56

ชิษณุพงษ์ตื่นเต้นตกใจมาก “แหวนรูปดาว!”
แตงงง “ยังไงเหรอ คุณณุ มีอะไรรึเปล่า”
ชิษณุพงษ์ไม่ตอบ ถามอรต่ออย่างตื่นเต้น “แหวนรูปดาววงนั้น หน้าตามันเป็นยังไงครับ คุณอร คุณอรเคยเห็นไหม”
อรส่ายหน้า เพราะเธอเองไม่เคยรู้เรื่องนี้

ขณะเดียวกันนพดลมองแหวนรูปดาวในมือ ขณะเอาแหวนมานั่งดู ใคร่ครวญ เสียงเคาะประตูดัง
นพดลซ่อนแหวน แล้วรีบไปเปิดประตู เห็นพเยียเดินเข้ามา หน้าตาเครียด


“พเยีย มีอะไร ทำไมมาเอาป่านนี้”
“มันรู้แล้วพี่ มันรู้แล้วว่าฉันเป็นคนทำ”
พเยียมาระบายกับนพดลที่บ้านเช่า เรื่องทะเลาะกับนภดารา พเยียกลัวมาก
“คุณแม่พูดออกมาชัดๆ เลย ว่าฉันฆ่าคุณตา ฉันจะทำยังไงดี”
“ตอนนี้มันอยู่ไหน”
“ฉันขังมันเอาไว้ในห้อง ไม่ให้ใครไปยุ่ง แต่คงห้ามได้ไม่นานหรอกพี่ บ่าวไพร่ออกเต็มบ้าน ทั้งแม่ครัว แม่บ้าน คนทำความสะอาด ถ้าฉันไม่ให้ใครเข้าไปในห้องนั้นเลย คนก็คงจะสงสัย”
นพดลชักกังวล “มันรู้ว่าพเยียเป็นคนฆ่าพ่อมัน มันไม่ปล่อยพเยียไปแน่”
“ก็นั่นน่ะซี พี่ ตอนแรกฉันก็ว่าจะฆ่ามันปิดปากไปซะ แต่ไอ้พินัยกรรมบ้าบอนี่ซิ มันเป็นปัญหา ถ้ามันตายไป ฉันก็อด ไม่ได้อะไร”
นพดลคิดไปคิดมาแล้วสั่งพเยีย
“งั้นก็ต้องบังคับให้มันแก้พินัยกรรมก่อน” นพดลหยิบปืนพกส่งให้ “แล้วค่อยจัดการมันทีหลัง”

พเยียมองปืนพกในมือ ใจสั่นๆ
ทางด้านอิศรพากอหญ้าเข้ามาพักที่ห้องเพนท์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ หรูหรา ซึ่งเป็นคอนโดของเขา

“เธอพักที่นี่นะ กอหญ้า ทำตัวตามสบาย นึกซะว่าเป็นบ้านของเธอเอง ฉันยกให้”
อิศรว่าขณะเดินพากอหญ้าไปถึงห้องนอนใหญ่
“นี่ห้องของเธอ”
“ขอบคุณค่ะ” กอหญ้ามองไปรอบห้องคอนโด “ห้องของใครคะนี่”
“ของฉันเอง ฉันซื้อไว้แต่ไม่เคยมาอยู่ เธอสบายใจได้ รับรองไม่มีใครมาไล่เธอ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ไม่เป็นไร ซื้อเอาไว้ตั้งนานแล้วไม่ได้ใช้” อิศรทำหน้ากรุ้มกริ่มขณะพูด “เรามาอยู่กัน ดีกว่าทิ้งห้องเอาไว้เฉยๆ”
กอหญ้ารู้ทัน “ว่าอะไรนะคะ “เรา” มาอยู่กัน “เรา” ไหน”
อิศรไม่ตอบ เดินไปทิ้งตัวลงบนเตียง
“อ้าว นี่มันห้องฉัน เธอจะไม่ให้ฉันอยู่ได้ยังไง”
“ไม่ให้ค่ะ คุณยกให้ฉันแล้วนี่ ฉันไล่คุณ”
กอหญ้าไปผลักอิศรออกจากเตียง อิศรคว้ามือไว้ ดึงกอหญ้าเสียหลัก ลงมานอนเคียงกันบนเตียง
อิศรอ้อล้อ “นอนคนเดียวไม่กลัวผีเหรอ”
“ไม่ค่ะ ไปได้แล้ว”
“ไม่”
“ไป”
“ไม่”
“งั้นฉันไป”
“จะไปไหน”
กอหญ้า อมยิ้ม ยั่วล้อ “ไป...ไปบ้านชิษณุพงษ์ก็ได้”
อิศรของขึ้นทันควัน “ขืนไป ฉันตามไปอาละวาดบ้านแตกแน่”
“งั้นคุณก็ไปซีคะ กลับบ้านไปได้แล้ว ฉันจะนอน ง่วงแล้ว”
อิศรแกล้งหาว ตีมึน เอนตัวลงซบไหล่กอหญ้า “ผมก็ง่วง”
กอหญ้า หยิกเต็มแรง อิศรร้องลั่น
“โอ๊ย” ยอมปล่อยกอหญ้าอย่างงอนๆ “เล็บคมหยั่งกะแมว”
“หายง่วงแล้วนะคะ กล้บบ้านได้” กอหญ้าดันอิศรลงจากเตียง “ไปค่ะอย่าลืมนะคะ พรุ่งนี้เรามีงานใหญ่”
อิศรลงจากเตียง แต่ยังงอแง “ก็ได้ๆ” ก่อนจะถามจริงจัง “ว่าแต่ว่า แผนคุณมันยังไงนะ”
ครู่ต่อมา กอหญ้าพิมพ์ข้อความ โดยอิศรนั่งลุ้นอยู่ข้างๆ มีเสียงกอหญ้าอธิบายให้อิศรฟังดังเข้ามา
“ฉันจะส่งข้อความเข้ามือถือคุณอาดารา ขอให้ท่านเอาเส้นผมของคุณพเยียมาตรวจดีเอ็นเอเทียบกับของท่าน”
อิศรถาม
“แน่ใจเหรอ ว่าเค้าจะเล่นด้วย”
“ฉันว่าหลังๆ มานี่ ท่านเองก็สงสัยคุณพเยียไม่น้อยเหมือนกัน ท่านน่าจะยอม”
กอหญ้ากดส่ง ด้วยแววตาเชื่อมั่น

ภายในห้องนอนนภดารา โทรศัพท์นภดารามีข้อความเข้า มีมือของใครคนหนึ่งกดเปิดข้อความของกอหญ้าออกอ่าน ที่แท้มือนั้นเป็นมือของพเยีย ที่นั่งอ่านข้อความของกอหญ้าอยู่ในห้องให้นภดาราที่นอนซมบนเตียงฟัง
“หนูคิดว่าคุณอาคงรู้ดี ว่าตอนนี้ คุณอาตกอยู่ในอันตราย และไม่อาจไว้วางใจใครได้ โดยเฉพาะคนที่คุณอาเชื่อว่าเป็นลูก แต่กลับมีพฤติกรรมหลายอย่างน่าสงสัย...”
นภดาราฟัง น้ำตาคลอ ค่อยๆ ไหลรินออกมา พเยียอ่านต่อ
“หนูอยากขอให้คุณอา เอาเส้นผมของคุณพเยียและของคุณอาไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกัน ถ้าสิ่งที่หนูสงสัยเป็นจริง คุณพเยียอาจจะไม่ใช่ลูกสาวของคุณอา”
พเยียหยุดอ่าน มองหน้านภดาราที่ฟังอยู่ ตัวสั่นระริก
“บ้า เลว...อย่าบอกนะ ว่าคุณแม่เชื่อมัน”
นภดาราหน้าซีด ไม่ตอบ แต่แววตายอมรับ
พเยียอ่านต่อ “พรุ่งนี้ หนูจะเข้าไปพบคุณอาที่ด้านหลังวังเพื่อรับของ อีกไม่เกินห้าวัน ความจริงก็จะปรากฏ แล้วคุณอาจะตัดสินใจได้เอง ว่าควรจัดการกับคุณพเยียอย่างไร”
พเยียอ่านจบ กดปิดโทรศัพท์ แววตากราดเกรี้ยว
“คุณแม่จะเอายังไงคะ”
นภดาราบอกด้วยเสียงเรียบๆ “แม่อยากตรวจให้มันรู้กันไป”
“คุณแม่เชื่อคนอื่นมากกว่าลูกในไส้งั้นหรือคะ”
“ถ้าพเยียเป็นลูกในไส้ของแม่จริง พเยียจะกลัวอะไร แค่ตรวจดีเอ็นเอแล้วพเยียก็จะได้ทุกอย่าง ทุกอย่างที่เป็นของแม่ ก็จะเป็นของพเยียอยู่ดี”
พเยียมองนภดารา รู้ว่ามาถึงเวลาที่จะต้องจัดการเด็ดขาดแล้ว
“แน่นะคะ”
นภดาราพยักหน้า บอกเสียงเรียบๆ “ถ้าลูกเป็นลูกของแม่”
พเยียเดินไปหยิบเอากระดาษเขียนจดหมายเนื้อดีและปากกามาวางตรงหน้านภดารา
“งั้นคุณแม่เขียนพินัยกรรมใหม่ ใส่ชื่อพเยียลงไปในนั้น เขียนตอนนี้เลยค่ะ แล้วพรุ่งนี้เช้า เราจะไปตรวจดีเอ็นเอกัน”
นภดาราหยิบปากกามา มือสั่นๆ มองพเยียอย่างไม่ไว้ใจ พเยียลงนั่งข้างๆ จ้องตาข่มขู่
“เขียนสิคะ คุณแม่ เขียนให้เสร็จ แล้วเราจะกลับมาเป็นแม่ลูกที่รักกันเหมือนเดิม”

นภดาราหยิบปากกามาเริ่มเขียน พเยียตาวาว มองนภดาราอย่างมุ่งร้าย
ค่ำนั้น ที่ห้องโถงบ้านชิษณุพงษ์ เจ้าแสงโชติและเจ้ามลุลีแต่งตัวพร้อมออกเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว มีกระเป๋าเดินทางวางอยู่พร้อมสรรพ สาวใช้ยืนรอพร้อมช่วยยกกระเป๋า ทว่าเจ้าทั้งสองต่างมีสีหน้ากระวนกระวาย

และเวลานี้เจ้าแสงโชติกำลังโทรศัพท์ตามลูกชาย
“ว่ายังไงคะ” เจ้ามลุลีร้อนใจยิ่งนัก
เจ้าแสงโชติวางสายแล้วส่ายหน้า “ไม่รับ”
เจ้ามลุลีไม่พอใจ “อุตส่าห์ห้ามไม่ให้ออกจากบ้านแล้วเชียวนะ ยังหนีไปจนได้นี่ได้เวลาจะต้องไปสนามบินแล้วนะคะ ถ้าลูกยังไม่กลับมาจะทำยังไง กันเนี่ย”
“คุณลองโทร.ไปที่วังศิวาลัยหรือยัง” เจ้าแสงโชติถาม
“โทร.แล้วค่ะ ทางโน้นเค้ายืนยันว่าชิษณุพงษ์ไม่ได้ไปที่นั่น”
“แล้วมันไปไหนของมัน”
เจ้าแสงโชติหันไปเห็นแตงโผล่เข้ามาที่ประตู
“แตง!”
เจ้ามลุลีหันไปมอง แตงยืนยิ้มจ๋อยๆ อยู่
“เจ้า”
ทั้งสองปราดเข้าไปหา เจ้ามลุลีถามอย่างร้อนใจ
“แตงไปกับคุณชิษณุพงษ์ใช่ไหม” แตงพยักหน้า “แล้วคุณชิษณุพงษ์อยู่ไหน”
แตงยกมือไหว้ปลกๆ ตอบไปด้วย
“คุณณุให้แตงมาเรียนเจ้าว่า คุณณุมีธุระสำคัญต้องไปทำ ถ้าเสร็จธุระแล้ว จะรีบตามเจ้าไปอเมริกาทันทีจ้ะ”
เจ้าแสงโชติฉงน “ไปทำธุระ? ธุระอะไร ที่ไหน”
“ไปทำธุระเรื่องคุณกอหญ้า ที่เชียงใหม่จ้ะ” แตงบอก
เจ้าแสงโชติทิ้งมือลงอย่างขัดใจ ออกอาการว่าไม่ต้องรอแล้ว เจ้ามุลลีอ่อนใจ

ส่วนที่ถนนหลังวังศิวาลัย รถตู้จอดอยู่ อิศรกับกอหญ้ารออยู่ข้างรถ
อิศรดูนาฬิกา “เลทแล้วนะ”
กอหญ้า กังวล “นั่นสิคะ”
“เธอแน่ใจเหรอว่าคุณอาเค้าจะออกมาหาเธอตามนัด”
กอหญ้านิ่ง ใช้ความคิด
“เค้าส่งข้อความตอบมาหรือเปล่า” กอหญ้าส่ายหน้า “แล้วเราจะรู้ได้ ยังไง ว่าคุณอาดาราจะเชื่อเธอ แล้วออกมาหาเธอตามนัด”
“เชื่อหรือไม่เชื่อ ท่านน่าจะไว้ใจ ออกมาพบฉัน” กอหญ้ากังวล “นอกเสียจากว่า...”

จริงอย่างที่กอหญ้ากังวล นภดารานั่งนิ่งอยู่ สีหน้าซูบซีดอ่อนแอ แต่แววตาเด็ดเดี่ยว พเยียยืนถือกระดาษที่เขียนพินัยกรรมใหม่ในมือ อ่านลวกๆ สีหน้าพอใจ แล้วเงยหน้ามา
“ลงชื่อในพินัยกรรมด้วยสิคะ คุณแม่”
นภดาราพูดนิ่งๆ แต่เสียงเด็ดขาด “ไม่จ้ะ”
“อะไรนะคะ” พเยียตกใจ
“แม่จะลงชื่อให้พินัยกรรมฉบับนี้ หลังจากที่เราได้ผลตรวจดีเอ็นเอแล้ว” นภดารามองหน้าพเยีย “หนูต้องไปตรวจดีเอ็นเอกับแม่ก่อน”
พเยียตาวาววับ ยังไม่ทันพูดอะไร โทรศัพท์ ของนภดาราที่พเยียยึดไว้ ก็ดังขึ้น พเยียเหลือบตามอง เห็นชื่อกอหญ้า พเยียสีหน้าเปลี่ยน นภดาราเดาได้ ท่าทางดีใจ
“โทรศัพท์” ดูเวลา “ต้องเป็นกอหญ้าแน่ๆ”
นภดาราเข้าไปหา พเยียหลบ ไม่ยอมให้โทรศัพท์ นภดาราท้วง
“เอาโทรศัพท์ของแม่มา พเยีย แม่จะพูดกับกอหญ้า”
พเยียกดทิ้ง “ไม่ค่ะ คุณแม่จะไม่ได้พูดกับใครทั้งนั้น ถ้าคุณแม่ไม่ยอมลงชื่อในพินัยกรรมฉบับใหม่นี้” ยื่นไปให้ “ลงชื่อเดี๋ยวนี้ค่ะ” นภดาราขยับจะแย้ง พเยียเสียงดัง “เดี๋ยวนี้ค่ะ คุณแม่”
นภดารามองหน้าพเยีย ชั่งใจ แล้วรับกระดาษพินัยกรรมมาอย่างรวดเร็ว ไวเท่าความคิดนภดาราปาพินัยกรรมไปที่พื้นกลางห้อง พเยียทั้งตกใจ ทั้งโกรธ
“คุณแม่”
พเยียวิ่งไปเก็บพินัยกรรม นภดาราฉวยโอกาสนั้นวิ่งไปที่ประตู จะหนีพเยียวิ่งตามไป คว้าตัวเอาไว้ทันที่หน้าประตู
“ปล่อยนะ ปล่อย แม่จะไปหากอหญ้า”
“หยุดนะ”
ทั้งสองยื้อยุดกัน พเยียกระชากนภดาราผลักไปทางหนึ่ง นภดาราเซไปพิงผนัง หน้าตาเสียใจพเยียดันประตูปิด หันไปมองนภดาราที่ยืนหอบ หน้าซีดอยู่
“อย่าให้พเยียโมโหนะคะ คุณแม่”
นภดาราหอบ ยกมือขึ้นทาบอก ทำท่าเหมือนหายใจขัดๆ “ทำไม ลูกจะทำอะไรแม่หรือ พเยีย ลูกไม่กลัวหรือ ว่าถ้าแม่เป็นอะไรไป” จ้องตา พูดอย่างมีนัย “ลูกก็อาจจะไม่ได้สมบัติของศิวาวงศ์”
พเยียสะดุ้ง ที่ได้ยินนภดาราพูดเหมือนรู้ว่าตนไม่ใช่ลูกที่แท้จริง ทันใดนั้น ร่างของนภดาราก็ทรุดฮวบลง ท่าทางเหมือนช็อก พเยียยิ่งตกใจ
“คุณแม่” เข้าไปประคอง “คุณแม่ตายไม่ได้นะ อย่านะ” ร่างนภดาราเริ่มกระตุก ทำท่าเหมือนหายใจไม่ออก พเยียลนลาน “ยา ยาอยู่ไหน ยา”
พเยียวิ่งไปหาขวดยาที่หน้ากระจก นภดาราฉวยโอกาสลุกขึ้นแล้ววิ่งโซเซหนีออกไป
นภดารามีอาการป่วยจริง แต่รวบรวมเรี่ยวแรงฉวยโอกาสหนี พเยียหันมามอง ตกใจ
“คุณแม่ กลับมานะ”

พเยียวิ่งตาม
นภดาราวิ่งโซเซมาที่ห้องโถง พยายามฮึด แข็งใจเพื่อจะไปให้ถึงประตูด้านหน้าให้ได้ พเยียวิ่งไล่ตามมาห่างๆ ปากตะโกนเรียกดังลั่น

“คุณแม่ หยุดนะ”
นภดาราไปถึงประตูหน้าห้องโถงแล้ว ศรีเดินมาเห็น
นภดาราหอบเรียกให้ช่วย “ศรี ช่วยฉันด้วย”
ศรีเข้ามาประคอง เสียงพเยียตะโกนตามมา อย่างเดือดดาล
“ศรี จับคุณแม่ไว้ คุณแม่ไม่สบาย แล้วจะหนีออกไปข้างนอก”
ศรีมองหน้านภดารางงๆ ละล้าละลัง นาทีนั้นนภดารารีบผละตัวออกจากศรี แล้ววิ่งออกไปข้างถนนด้านนอกตึก เห็นรถตู้ของอิศรวิ่งมาจอดรอแล้ว ประตูรถเปิดอยู่
กอหญ้าอยู่ในรถ ตะโกนออกมา
“คุณอาคะ ทางนี้ค่ะ”
นภดาราจะวิ่งไปหา แต่เสียหลักทรุดลงเสียก่อน พเยียวิ่งตามออกมา
วินาทีนั้นอิศรตัดสินใจวิ่งกระโจนเข้ามาช้อนอุ้มร่างนภดาราขึ้นรถได้อย่างเฉียดฉิวพอดี รถแล่นออกไปทันที พ้นมือพเยียไปได้อย่างหวุดหวิด พเยียได้แต่ตะโกนตามอย่างเจ็บใจ
“แกจะเอาแม่ฉันไปไหน กลับมานะ กลับมา”

ไม่นานหลังจากนั้น อิศรและกอหญ้า พานภดารามาพักที่ห้องพักในคอนโดของเขา และในเวลานั้นหมอวิชาญกำลังฉีดยาให้นภดาราที่นอนหายใจรวยริน อยู่บนเตียง กอหญ้านั่งกุมมืออยู่ข้างๆ อิศรยืนมองอย่างสงสาร
“ผมจัดยามาให้ด้วยแล้ว ให้ทานทุกวัน แล้วถ้าหากมีอาการอะไรผิดปกติให้โทร.หาผมได้ตลอดเวลานะครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ หมอ”
หมอวิชาญไหว้ลา “ผมขอตัวก่อน พักผ่อนมากๆ นะครับ” พลางกำชับนภดารา “แล้วก็อย่าคิดมากความเครียดมันมีผลโดยตรงกับอาการโรคหัวใจของคุณอานะครับ”
“ค่ะ” นภดารารับคำ
หมอวิชาญลุกขึ้นยืน
“ฉันไปส่งแก”
หมอวิชาญกับอิศรเดินออกไปจากห้องนอน กอหญ้าบีบมือนภดาราเบาๆ ปลอบใจ นภดาราน้ำตาซึมๆ
“ใครจะไปคิด ว่าพเยียจะทำกับฉันได้ขนาดนี้”
กอหญ้ายิ้มพูดปลอบด้วยเสียงอ่อนโยน “ไม่เอาค่ะ คุณอา หมอบอกแล้วไงคะว่าอย่าคิดมาก”
“ฉันรักเขา ฉันปกป้องเขา ฉันเชื่อมาตลอดว่าเขาคือลูกสาวของฉันแม้ว่าใครๆ จะสงสัย ไม่ใช่เพราะพเยียมีล้อกเก็ตอันนั้น แต่เพราะฉันเชื่อมาตลอดว่าลูกสาวของฉันยังไม่ตาย เขายังมีชีวิตอยู่”
“แต่ที่คุณพเยียทำลงไป มันก็บอกชัด ว่าคุณพเยียไม่ใช่ลูกของคุณอาแน่ๆ”
“แล้วลูกสาวของฉันล่ะ ถ้าพเยียไม่ใช่ลูกฉัน แล้วลูกของฉันเขาอยู่ที่ไหนอยู่ที่ไหน”
นภดาราพูดอย่างอ่อนแรง แล้วหลับตาลง น้ำตาไหล กอหญ้ามองอย่างสงสารจับใจ แล้วเข้าไปกอดนภดารา ให้ความอบอุ่น
อิศรที่เดินกลับเข้ามาพอดี มองภาพนั้น แล้วมองกอหญ้า ครุ่นคิด สงสัย

มองทอดสายตาจากโบสถ์แห่งหนึ่งแลเห็น วิวทิวทัศน์ของภูเขาสูงอันสวยงาม โบสถ์แห่งนี้ คุณแม่วันเพ็ญ พาเด็กๆ ในความปกครองและดูแลย้ายมาอยู่ที่นี่ และเวลานี้เสียงเด็กร้องเพลงดังแว่วมาไกลๆ ที่เก้าอี้สนามมุมหนึ่ง ชิษณุพงษ์นั่งรออยู่ ก่อนจะเห็นคุณแม่วันเพ็ญเดินเข้ามาหา
ชิษณุพงษฺลุกขึ้น ยกมือไหว้ “สวัสดีครับ คุณแม่”
คุณแม่วันเพ็ญแปลกใจ เมื่อเห็นว่าเป็นชิษณุพงษ์
“คุณชิษณุพงษ์ มาถึงที่นี่ มีธุระอะไรหรือคะ”

สองคนอยู่ในห้องทำงานของโบสถ์ ชิษณุพงษ์ยื่นรูปกอหญ้าที่ได้มาจากแตงให้ คุณแม่วันเพ็ญรับมาดู
เป็นรูปที่กอหญ้าโอบกอดคุณแม่วันเพ็ญ มือข้างที่กอดอยู่มีแหวนวงเล็กๆ สวมอยู่
“แม่เป็นคนให้รูปนี้ไปกับหนูแตงเองค่ะ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือคะ”

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 11/4 วันที่ 13 มี.ค. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager