อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 14/3 วันที่ 20 มี.ค. 56


อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 14/3 วันที่ 20 มี.ค. 56

“ขอบคุณนะคะ ที่มา” นภดาราบอก
อรรถยังไม่ทันตอบ อิศรชิงพูดขึ้นขำๆ
“ตอนแรกคุณพ่อเกือบไม่กล้ามาแล้วครับ กลัวจะโดนไล่ลงจากศาลา”
อรรถหน้าม้านทั้งฉุนทั้งเขิน “เฮ้ย แกก็พูดเรื่อยเปื่อย”
“ใครจะไปกล้าทำอย่างนั้นคะ พี่อรรถ” นภดาราบอก

อิศรอมยิ้ม “พ่อกลัวคุณอาจะโกรธที่พ่อเคยทำไม่ดีกับกอหญ้าน่ะครับ” อิศรหันไปทางกอหญ้า “ทำกับเธอเอาไว้เยอะ ตอนนี้ก็เลยกลัวไง”
อรรถยิ้มจืดๆ กอหญ้ามองอรรถ ยิ้มอ่อนโยน


“หนูเข้าใจท่านค่ะ จู่ๆ คุณอิศรก็เอาหนูมาจากข้างถนน ท่านเป็นพ่อ ก็ต้องห่วงลูกเป็นธรรมดา”
อรรถเป็นปลื้ม “หนูเป็นคนดีอย่างที่เจ้าอิศรมันว่าจริงๆ”
นภดาราเสริม “กอหญ้าเป็นเด็กดีจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเด็กกำพร้ายากจน หรือเป็นทายาทของศิวาวงศ์ กอหญ้าเค้าก็ยังเป็นคนดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แปลง”
อรรถเสริมอีก “เพชรยังไงก็เป็นเพชรจริงไหม น้องดารา” พลางตบไหล่อิศรอย่างปลงๆ “แกเก่งกว่าพ่อ มองออกว่าใครเป็นเพชรแท้ ใครเป็นเพชรเทียม”

ทางด้านพเยียหอบถุงใบใหญ่ย่องเข้ามา งัดเข้าไปที่บ้านเช่านพดลอย่างคุ้นเคย เห็นข้าวของที่ตำรวจค้นเกลื่อนกลาด พเยียปิดประตูหน้าต่าง เทของในถึงออกมา เห็นกรรไกร อุปกรณ์+ยาย้อมผม และเสื้อผ้าสีดำแบบที่ปิดบังพรางตัว
พเยียเปลี่ยนลุค ตัวเองหมดจด ตัดผม ย้อมผม ไม่ให้ใครจำได้
ไม่นานต่อมาภาพในกระจก เห็นพเยียในลุคใหม่ ผมสั้น สีผมเปลี่ยนจากเดิม พเยียมองภาพตัวเองในกระจกอย่างพอใจ ก่อนจะหยิบปืนขึ้นมาตรวจดู

ที่งานสวดศพนภัสรพีแขกเริ่มทยอยกันมา กอหญ้ารับแขกอยู่กับนภดาราที่หน้าทางเข้าศาลา อิศรนั่งอยู่กับอรรถ มองดูด้วยความเป็นห่วง ทนไม่ไหว เลยลุกขึ้น
อรรถมองตาม “อะไรของมัน ลุกรี้ลุกรน”
อิศรเดินไปหานภดารา
“วันนี้คนเยอะ ใครเป็นใครบ้างก็ไม่รู้ ผมว่า คุณอาน่าจะให้ตำรวจมารักษาความปลอดภัยในงานนะครับ”
“อิศรกลัวอะไรเหรอจ๊ะ”
กอหญ้าเดาออก “คุณอิศรกลัวว่าพเยียจะมาที่นี่ใช่ไหมคะ”
อรรถที่เดินตามมา เข้ามาเสริม
“คิดมากไปรึเปล่า เค้ามีคดีร้ายแรงติดตัว คงไม่กล้ามาหรอก ถ้ามา ก็ต้องโดนตำรวจจับแน่”
“แล้วถ้าเค้ากลับมาล่ะครับ” อิศรไม่วางใจ
นภดารานิ่งคิด ก่อนจะตอบอย่างตัดสินใจดีแล้ว
“ถ้าเค้ากลับมาและยอมมอบตัว อาก็พร้อมจะช่วยเหลือเค้าเท่าที่จะทำได้ เพราะถึงยังไงตอนนี้ พเยียก็สูญเสีย หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว อาสงสารเค้า”
อรรถชื่นชม “น้องดารากับหลานกอหญ้าเป็นคนใจดีเหลือเกิน”
อิศรไม่เห็นด้วยกับนภดารานัก
“ก็หวังว่าพเยียจะกลับตัวกลับใจอย่างที่คุณอาคิดก็แล้วกันครับ”

พเยียเพิ่งมาถึงวัดตอนค่ำ ยืนมองป้ายชื่อวัด หน้าตามุ่งมั่น เวลาเดียวกันชิษณุพงษ์เดินขึ้นมาบนศาลา เข้าไปทักทายนภดารา
“สวัสดีครับ คุณอา”
“ชิษณุพงษ์... ไม่น่าลำบากมาเลย นี่แผลหายดีแล้วหรือจ๊ะ”
“ยังครับ แต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว...กอหญ้าไปไหนล่ะครับ”
ระหว่างนั้นพเยียย่องเข้ามาถึงด้านข้างของศาลา พยายามเพ่งมองเข้าไป เห็นนภดารายืนคุยกับชิษณุพงษ์อยู่ ไม่มีกอหญ้าอยู่ด้วย พเยียแปลกใจ
“นังกอหญ้ามันหายหัวไปไหน

กอหญ้ากำลังช่วยศรีจัดเรื่องน้ำดื่มอยู่ที่ด้านหลัง
“คุณหนูขึ้นไปรับแขกเถอะค่ะ เดี๋ยวที่เหลือนี่ศรีกับพวกเด็กๆ ทำกันเอง” ศรีบอก
“จ้ะ”
กอหญ้ายิ้มพลางหันหลัง เดินกลับ แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นชิษณุพงษ์เดินเข้ามาหา
“ชิษณุพงษ์…มาทำไมนี่ แผลหายดีแล้วเหรอ”
“คุณแม่คุณลูกถามเหมือนกันเลย สมกับเป็นแม่ลูกกันจริงๆ”
กอหญ้า ดุ ใบหน้ายิ้มๆ “ยังไม่หายดี ทำไมไม่นั่งอยู่บนศาลา เดินลงมาทำไม”
“ดุจริง อยากรู้นัก อีกหน่อยฉันไม่อยู่ เธอจะไปดุใคร”
กอหญ้าแปลกใจ “เธอจะไปไหน”

2 คน เดินมาหยุดยืนคุยกันอีกมุมหนึ่งของวัด ชิษณุพงษ์บอกกอหญ้า
“ฉันต้องกลับไปเรียนต่อแล้ว”
“อีกเป็นปีเลยสินะ กว่าจะเจอกันอีก”
“รับรองว่าฉันจะโทร.หาเธอทุกวัน อย่าเบื่อรับก็แล้วกัน”
“ให้มันจริงเถอะ เธอนั่นแหละจะเบื่อก่อน”
“พนันไหมล่ะ” ชิษณุพงษ์ท้า
“ได้”
“เราจะคุยกันทุกวัน ใครเบี้ยวก่อน คนนั้นแพ้”
“ตกลง”
ชิษณุพงษ์ยื่นมือมาให้ กอหญ้ายื่นมือไปจับเขย่ามือกันเป็นการสัญญา จู่ๆ มีเสียงกระแอมดังขึ้น กอหญ้าหันไป เห็นอิศรเดินเข้ามา หน้าตากวนๆ
“ตกลงอะไรกัน”
ชิษณุพงษ์มองอิศร ไม่มีความขมขื่นในใจแล้ว เหลือแต่ความหมั่นไส้ อยากกวนกลับเล่นๆ
“บอกไม่ได้ครับ มันเป็นเรื่องระหว่างผมกับกอหญ้า” หันกลับมาทางกับกอหญ้า “ฉันขึ้นไปก่อนนะ อย่าลืมสัญญาของเราล่ะ”
ชิษณุพงษ์ยักคิ้วให้อิศร แล้วเดินจากไป อิศรหันมองกอหญ้า คาใจสุดๆ
“สัญญาอะไร”
กอหญ้าอมยิ้มยั่ว “บอกก็กลัวสิคะ”
อิศรขวางสุดๆ “นี่ ฉันเห็นเธอหายไปอุตส่าห์เป็นห่วง เดินตามหา ยังมีหน้ามากวนอีก”
“ห่วงทำไมคะ คนตั้งเยอะแยะ ฉันว่าคุณพเยียไม่กล้ามาที่นี่หรอก”

กอหญ้าคิดผิดถนัด เพราะพเยียถือกระเป๋าสะพายใบโตแนบกับตัวแน่น มือข้างหนึ่งสอดอยู่ในกระเป๋าอย่างมีพิรุธ เดินย่องหลบคนเข้ามาที่ด้านหลังศาลา ใกล้กับบริเวณที่มีห้องน้ำ ซึ่งแบ่งเป็นห้องชาย-หญิง แต่อยู่ติดๆ กัน
พเยียพยายามสอดส่ายสายตาหากอหญ้า และเห็นกอหญ้ากับอิศรเดินผ่านไปไกลๆ

พเยียชะเง้อมองพอดีมีคนผ่านมา พเยียตกใจ หลบวูบ เข้าห้องน้ำไป
ประตูห้องน้ำชายห้องหนึ่งเปิดออก เป็นอรรถที่เปิดออกมา พอดีทำมือถือหล่น อรรถนั่งลงเก็บ อรรถเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องน้ำฝั่งตรงข้าม เห็นพเยียจังๆ พเยียก็ตกใจที่เจออรรถ

อรรถไม่แน่ใจ เพราะพเยียเปลี่ยนลุค แต่เพ่งมองเพราะคุ้นมาก
“เอ๊ะ”
พเยียได้สติ ก้มหน้าหลบ แล้วเดินหนี
อรรถลุกขึ้น ตามไป “เดี๋ยว หนู หยุดก่อน”
พเยียวิ่ง อรรถเห็นพิรุธ วิ่งตาม
“หยุดนะ”
อรรถคว้าแขนพเยียได้ จับให้หันมา
พเยียสะบัดแขนร้องลั่น “ปล่อยฉัน”
อรรถเห็นหน้าพเยียชัดๆ จำได้
“พเยีย! เธอจริงๆ ด้วย”
พเยียเอามือที่ล้วงไว้ในกระเป๋าอออกมา หยิบปืนสั้นออกมา แล้วเอาด้ามกระแทกใส่ปลายคางอรรถอย่างแรง
“โอ๊ย”
พเยียอาศัยจังหวะที่อรรถเสียหลัก เอาปืนฟาดท้องอรรถอย่างแรงจนอรรถจุกงอตัวลง ร้องไม่ออก พเยียฟาดสันปืนเข้าที่คออรรถซ้ำอีก คราวนี้อรรถสลบกลางอากาศร่วงผลอยลงไปกองกับพื้น พเยียยืนมองอรรถที่นอนนิ่งอยู่ เครียดว่าจะทำอย่างไรต่อไป

เวลาเดียวกันพระสงฆ์เดินเข้ามาในศาลาสวด และลงนั่งประจำที่บนอาสนะ นภดารานั่งที่โซฟาด้านหน้า กอหญ้านั่งอยู่ข้างๆ ชิษณุพงษ์นั่งอีกด้านห่างออกไป
อิศรนั่งอยู่ถัดไปอีกด้าน กำลังมองหาอรรถ
“ทำไมพ่อไปห้องน้ำนานจัง”
อิศรกดโทร.หา ติดแต่ไม่มีคนรับ อิศรแปลกใจ ตัดสินใจลุกออกไป
นภดารานึกขึ้นได้ อุทานเบาๆ
“ตายจริง”
“อะไรเหรอคะคุณแม่”
“แม่ลืมซองปัจจัยเอาไว้ในรถ ว่าจะบอกวิชัยให้ไปเอาก็ลืม”
“ผมไปเอาให้ครับ” ชิษณุพงษ์ขยับจะลุก
“ฉันไปเองค่ะ คุณอยู่ช่วยคุณแม่ดีกว่า ฉันไปเอง”
กอหญ้าเดินออกไป

ส่วนอิศรเดินมาถึงหน้าห้องน้ำ ไม่เห็นใคร เลยกดโทรศัพท์หา ทันใดนั้น อิศรได้ยินเสียงเรียกโทรศัพท์ดังแว่วออกมาจากห้องน้ำห้องหนึ่ง จึงรีบเดินไปยืนหน้าประตูห้องน้ำนั้น พูดเสียงไม่ดังนัก กลัวคนได้ยิน
“พ่อครับ ทำไมนานจัง เป็นอะไรหรือเปล่าครับ พ่อ”
เงียบไม่มีเสียงตอบ อิศรกดโทรศัพท์อีกที เสียงโทรศัพท์ดังมาจากในห้องนั้นอีก อิศรเอะใจ เลยเรียกเสียงดัง
“พ่อครับ พ่อ .. พ่อเป็นลมหรือเปล่าครับ ตอบผมด้วย
เสียงเรียกโทรศัพท์ของอรรถยังดังค้างอยู่ แต่ไม่มีคนรับ อิศรสังหรณ์ใจ พุ่งไปที่ประตูที่ปิดไว้ อิศรเขย่าลูกบิด ปรากฏว่าล็อก อิศรพยายามกระชากประตูออกมา
“พ่อ...พ่ออยู่ในนั้นใช่ไหมครับ พ่อเป็นอะไรหรือเปล่าครับ พ่อ”
ร่างไร้สติของอรรถนั่งพิงผนังอยู่ในห้องน้ำนั่นเอง มือถือตกอยู่ข้างตัว
อิศรทั้งกระชาก ทั้งเขย่าประตูอย่างแรง แต่ก็ยังไม่หลุด

ด้านกอหญ้าเดินออกมาจากศาลา มุ่งหน้าไปทางลานจอดรถด้านหลัง พเยียเห็นกอหญ้าเดินไปคนเดียว พเยียยิ้มนิดๆ แล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวตามไป
อิศรกระชากจนล็อกประตูหลุดออกมา เห็นอรรถนอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น อิศรตกใจสุดขีด เข้าไปเขย่าตัวอรรถ
“พ่อ พ่อครับ”
อรรถค่อยๆ รู้สึกตัว ยังงงอยู่
“อิศร... ลูก”
อิศรประคองอรรถออกมา พามานั่งด้านนอก
“พ่อเป็นอะไรไปครับ เป็นลมหรือไง”
อรรถสลัดศีรษะให้หายงง พยายามรวบรวมความคิด
“พ่อ...พ่อ” อรรถนึกขึ้นได้ ตกใจสุดขีด “แย่แล้วเจ้าอิศร พเยียมาที่นี่”
“อะไรนะครับ” อิศรตะลึง
อรรถย้ำ “พเยียมาที่นี่ พ่อเห็นกับตา มันเป็นคนทำร้ายพ่อ”
อิศรตกใจ ลุกพรวดขึ้น
“พ่อรีบโทร.หาตำรวจด่วนเลยนะครับ ผมต้องรีบไปเตือนคุณอาดารา”
อิศรรีบวิ่งไปทันที อรรถยังห่วงตะโกนตามหลัง
“อิศร ระวังตัวนะลูก มันมีปืนด้วยนะ”

มือพเยียหยิบปืนออกมาจากกระเป๋า เตรียมพร้อม ส่วนกอหญ้าเดินไปที่ลานจอดรถที่ไม่มีคน เพราะทุกคนอยู่ที่ศาลาหมด กอหญ้ามองหารถของวังจนเจอ ปรากฏว่าจอดอยู่ห่างออกไปไกล กอหญ้าเดินเข้าไป โดยไม่รู้ว่าพเยียเดินตาม
อิศรวิ่งเข้ามาในศาลา ขณะที่พระกำลังสวด นภดาราและชิษณุพงษ์แปลกใจในท่าทางร้อนรนของอิศร
“คุณอาครับ คุณอา”
นภดาราแปลกใจ “อะไรกันจ๊ะ อิศร”
“พเยียมาที่นี่ครับ” อิศรบอก
ชิษณุพงษ์ตกใจ “แย่แล้ว! กอหญ้า”
อิศรมองหาเพิ่งสังเกตว่ากอหญ้าไม่อยู่ ยิ่งตกใจ
“กอหญ้าไปไหน”
“ไปที่เอาของที่รถจ้ะ” นภดาราบอก
“ตายล่ะ”
อิศรวิ่งออกไปทันที นภดาราลุกขึ้น ละล้าละลัง คนในงานเริ่มงง ชิษณุพงษ์จะวิ่งออกไปอีกคน นภดาราร้องเรียก
“ชิษณุ อาไปด้วย”
ทั้งสองพากันออกไป แขกเหรื่องวยงง

กอหญ้าเดินไปถึงข้างรถ กดรีโมทเปิดประตู แล้วรู้สึกเหมือนมีใครแอบมอง กอหญ้าเหลียวไปดูอย่างระแวง แต่ไม่เห็นอะไร กอหญ้าเปิดประตูรถ มองหาซองที่นภดาราว่า เห็นวางอยู่บนเบาะหลัง กอหญ้าเอื้อมมือไปหยิบซองมา
ทันใดนั้นก็มีมือใครคนหนึ่งมาแตะแขนกอหญ้า พอกอหญ้าหันไป เห็นพเยียที่ในมือถือปืนเล็งมาทางตน ยืนจังก้าอยู่ใกล้ๆ
“พเยีย”
“ใช่ ฉันเอง”
“เธอ” กอหญ้ามองปืนท่าทีหวาดหวั่น “เธอจะทำอะไร”
“ยังโง่เหมือนเดิมเลยนะ” พเยียเหยียดยิ้ม ขยับปืนในมือ “ฉันก็จะฆ่าแกไง”
พเยียขยับปืน ทันใดนั้น กอหญ้าขว้างซองใส่ พเยียหลบจึงเสียจังหวะ กอหญ้าวิ่งหนี
พเยียวิ่งตามไป กอหญ้าพยายามวิ่งเข้าไปที่สนามรกๆ ข้างๆ เพื่อหาที่กำบัง พเยียตามติด กอหญ้าสะดุดรากไม้หกล้ม พเยียก้าวเข้ามา เล็งปืนไปที่กอหญ้า
“คราวนี้แกหนีไม่รอดหรอก ตายซะเถอะ นังกอหญ้า”
พเยียลั่นไก อิศรตามมาทันพอดี
“กอหญ้า”
พเยียลั่นไกเปรี้ยง อิศรกระโจนเข้ามาเอาตัวบังกอหญ้า กระสุนถูกแขน อิศรกับกอหญ้าล้มลง กอหญ้าประคองอิศรขึ้น เห็นเลือดแดงฉาน
“คุณอิศร”

ฝ่ายชิษณุพงษ์กับนภดารากำลังวิ่งตามมา ได้ยินเสียงปืน นภดารายกมือทาบอกด้วยความตกใจ
“กอหญ้า!”
นภดาราหน้าซีด ใจสั่น ชิษณุพงษ์รีบบอกด้วยความเป็นห่วง
“คุณอารออยู่ที่นี่ดีกว่าครับ”
“ไม่! ขืนรอ อาต้องขาดใจตายก่อนแน่ๆ อาต้องไปช่วยกอหญ้า”

ทั้งสองวิ่งตามเสียงปืนไป
กอหญ้าประคองอิศรที่เลือดแดงฉานไหลออกมาเต็มเสื้อสีขาว มองดูพเยียที่เดินเข้ามาบอกกับอิศรอย่างไม่ยี่หระ

“ช่วยไม่ได้นะ แกรนมาหาที่ตายเอง”
“อย่าทำอะไรคุณอิศร อย่านะ”
กอหญ้าเอาตัวบังอิศร
“เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด เธอไม่มีสิทธิ์ฆ่าเค้า”
“งั้นฉันฆ่าแกก็แล้วกัน”
พเยียจ่อจะยิง ชิษณุพงษ์กับนภดาราวิ่งมาถึงพอดี นภดาราตะโกนก้อง
“หยุดนะ พเยีย อย่าทำอะไรลูกฉันนะ”
พเยียหันขวับไปมอง เห็นนภดาราแสดงออกว่ารักกอหญ้า ยิ่งริษยา

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 14/3 วันที่ 20 มี.ค. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager