อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 10/2 วันที่ 8 มี.ค. 56


อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 10/2 วันที่ 8 มี.ค. 56

ใครคนหนึ่งมองตามพเยียที่กัดฟันเข็นรถเข็นมาจนถึงประตูสวนด้านหลัง แล้วหยุดปาดเหงื่อ หน้าตายังคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อไปดี
ทันใดนั้น มีมือใครคนหนึ่งมาอุดปากรัดคอพเยีย ชายใส่หมวกโม่งดำลากพเยียเข้าไปที่มุมมืดหลังต้นไม้ พเยียตกใจ จะร้องแต่มีปืนมาจ่อที่ข้างเอว
“อย่าร้องนะ อีตัวดี ถ้าไม่อยากตาย”
พเยียจำเสียงได้ “พี่นพ”

นพดลปล่อยพเยีย ดึงหมวกออก “เออ กูเอง ยังจำกันได้อยู่เหรอ”
พเยียตื่นกลัว “พี่มาทำไมที่นี่”
“เพราะกูไม่มีที่ไปไง ตำรวจไล่ล่ากูไปทั่ว” นพดลกระชากคอพเยีย “กูเดือดร้อนแบบนี้เพราะมึง แต่มึงกลับหายหัวจ้อย ไม่ช่วยกูเลย นี่คิดจะทิ้งกันแล้วใช่ไหม
“ม...ไม่ใช่นะพี่ ฉันโทรหาพี่ แต่ฉันโดนเค้าจับได้ ฉันเลยต้องเอาโทรศัพท์ทิ้ง ตอนนี้ ไม่ใช่พี่ซวยคนเดียว ฉันก็ซวยด้วย”


นพดลเห็นพเยียท่าทางกลัวจริง เลยอ่อนลง แต่ก็อดบ่นไม่ได้
“อย่ามาสำออย ตำรวจล่าหัวพี่อยู่คนเดียว พเยียจะซวยยังไง”
พเยียมองหน้านพดลหวาดๆ แล้วเดินไปที่รถเข็น
“นี่ไง”
พเยียเปิดผ้าคลุมออก นพดลเห็นศพชื่น นพดลผงะ ตกใจมาก

เวลาเดียวกันกอหญ้านั่งอยู่ในรถตู้ กับนภดาราและนภัสรพี รถเข้ามาใกล้ประตูรั้ววัง
นภดาราเอามือแตะหน้าผากกอหญ้า ห่วงใยจริงใจ “ตัวรุมๆ คืนนี้คงไข้ขึ้นแน่ปวดแผลไหมจ๊ะ กอหญ้า”
“ไม่ค่ะ พยาบาลเค้าให้ยาแก้ปวดไว้ แต่พรุ่งนี้คงปวดแน่ๆ”
“คุณอิศรเค้าเป็นห่วงหนูมาก ถ้ารู้ คงจะโกรธ” นภัสรพีว่า
กอหญ้า ยิ้มออก เมื่อคิดถึงอิศร “คุณอิศรเขาโกรธได้ทุกเรื่องล่ะค่ะ ไม่ว่าหนูจะทำอะไร ก็ทำให้เค้าโกรธได้ทั้งนั้น”
นภดารนึกออก “เออ ดูสิ พูดถึงคุณอิศร เค้าฝากของไว้ให้หนูน่ะจ๊ะ เห็นว่าของสำคัญ”
กอหญ้าก็เพิ่งนึกได้ ตาวาว
“แหวน! แหวนของหนูใช่ไหมคะ”
“ไม่รู้สิจ๊ะ ฉันไม่ได้เปิดดู แต่ดูจากถุงก็น่าจะเป็นพวกเครื่องประดับ” เปิดกระเป๋าออกหา “หนูลองดูเอาเองก็แล้วกัน”
นภดาราค้นๆ แล้วชะงัก หน้าเสีย
“เอ๊ะ”
กอหญ้าที่มองลุ้นๆ แปลกใจ
“มีอะไรเหรอ ดารา” นภัสรพีถาม
นภดาราไม่ตอบ เทของทุกอย่างออกจากกระเป๋า หาอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ไม่เจอถุงแหวน
“ไม่มี” นภดาราหน้าเสีย “ทำไมไม่มีล่ะ”
นภัสรพีสงสัยมากขึ้น “อะไรหายเหรอ ดารา”
“ของที่คุณอิศรฝากไว้ให้กอหญ้าน่ะค่ะคุณพ่อ ลูกเอาใส่ไว้ในนี้ แล้วมัน หายไปไหนก็ไม่ทราบค่ะ”
“ไปทำตกที่โรงพยาบาลหรือเปล่า จะย้อนกลับไปดูไหม”
“ลูกไม่ได้เปิดกระเป๋าเลยนะคะ ไม่ได้วางที่ไหนด้วย เอาถือไว้กับตัวตลอด”
กอหญ้าพยายามสงบใจ ปลอบนภดาราที่หน้าซีดอยู่
“ลองหาดีๆ อีกทีสิคะ คุณอา ตกอยู่ในรถนี้หรือเปล่า มาค่ะ หนูช่วยหา”
กอหญ้าก้มลงหน้าที่พื้นรถวุ่นวาย นภดาราหน้าเสีย
นภัสรพีปลอบใจ “ไม่หายหรอกน่ะ ดารา ถ้าไม่ตกในรถ ก็อาจจะตกอยู่ที่โรงพยาบาล เดี๋ยวเราย้อนกลับไปดูให้แน่ใจอีกทีก็ได้”

ส่วนที่สวนด้านหลังวังศิวาลัย นพดลปฏิเสธเด็ดขาด
“ไม่! ตอนนี้เอาตัวเองยังไม่รอด พเยียทำ พเยียก็เคลียร์เองซี”
“ฉันจะไปมีปัญญาอะไรเล่า น่านะ พี่ ช่วยหน่อย เอาไปทิ้งที่ไหนก็ได้ คราวนี้มันตายจริง มันลุกมาก่อเรื่องเหมือนคราวที่แล้วหรอก”
“ไม่เอา” นพดลไม่เอาด้วย
พเยียชักโกรธ “แล้วจะเอายังไง พี่เดือดร้อน พี่อยากให้ฉันช่วยพี่ แล้วถ้าฉันเข้าคุกเพราะฆ่าอีแก่นี่ พี่จะสบายตรงไหน”
นพดลอึ้งไป อ่อนลง แต่ก็ยังกลัวลำบาก
“คนนะ ไม่ใช่แมว จะได้หิ้วไปทิ้งง่ายๆ รถก็ไม่มีให้ยืมแล้วด้วย”
พเยียนิ่ง เครียด “แล้วจะเอายังไงล่ะ อีกประเดี๋ยวคนก็แห่กลับมากันแล้วถ้าเจอศพนังนี่ พี่กับฉันติดคุกหัวโตแน่”

นพดลกับพเยียมองศพแม่ชื่นที่นอนอยู่ ไม่รู้จะเอายังไงดี
รถตู้ของวังศิวาลัยเคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่ประตูหน้าวัง ส่วนในสวนหลังวัง พเยียอยู่ในอาการร้อนรน เร่งนพดลยิกๆ

“เร็ว พี่นพ ว่ายังไง คิดซีคิด”
นพดลคิดๆ แล้วหันไปเห็นถังขยะขนาดใหญ่ สีเขียวของกทม. อยู่ที่มุมรั้ว ด้านลึกสุดของสวน
นพดลมองร่างของแม่ชื่น แล้วมองถังขยะ เหมือนจะกะขนาด

ครู่ต่อมารถตู้จอดที่หน้าตึกใหญ่ ศรีเดินนำบรรดาคนรับใช้ช่วยกันขนข้าวของ เช่น พาน ฯลฯ ลงมาจากรถเดินเข้าไปในตึก
ศรีมองเข้าไปเห็นตึกปิดไฟเงียบ ก็แปลกใจ
“เอ ทำไมบ้านมืดอย่างนี้ล่ะ คุณหนูก็กลับมาแล้วนี่นา ทำไมไม่เปิดไฟ”

ขณะเดียวกันพเยียกับนพดลช่วยกันเอาร่างปวกเปียกของแม่ชื่นใส่ลงในถุงดำขนาดใหญ่อย่างหนาแบบ สูงประมาณ 100-120 ซม. โดยซ้อนกันหลายๆ ชั้น
ถุงดำนั้นถูกหย่อนลงในถังขยะ พเยียและนพดลช่วยกันเข็น กำลังจะออกไปที่ประตูหลัง ระหว่างนั้น ทองมากับสาวใช้คนหนึ่งเดินใกล้เข้ามา เพื่อที่จะไปยังเรือนพักคนใช้ด้านหลังตีกใหญ่
พเยียได้ยินเสียงก็ตกใจ “มีคนมา”
พเยียกับนพดลรีบวิ่งฉากหลบเข้าตรงหลังพุ่มไม้
ทองมากับสาวใช้เดินมาถึงพุ่มไม้ที่ทั้งสองซ่อนตัวอยู่ แล้วชะงัก
“มีอะไร พี่ทองมา” สาวใช้ถาม
ทองมาหยิบไฟฉายจากเอวมาเปิด ส่องกราดเข้าไปในพุ่มไม้ พเยียกับนพดลยืนเบียดกันตัวตัวลีบเล็ก ลุ้นสุดๆ
ทองมา เห็นอะไรบางอย่างในความมืดกระทบแสงไฟฉาย มันคือขอบของถังขยะที่ตั้งอยู่ริมทางเดิน ทองมาขมวดคิ้ว เดินใกล้เข้ามา พเยียดึงนพดลนั่งหลบ ตัวลีบลุ้นสุดๆ ทองมาเข้ามาใกล้พอที่จะเห็นว่าเป็นถังขยะ
“ถังขยะนี่หว่า”
ทองมามองๆ ดูอย่างแปลกใจ พเยียมอง ลุ้น นพดลเอื้อมมือหยิบปืนมาเตรียมพร้อม
พเยียลุ้นอยู่ในใจ “อย่านะ อย่าเปิดนะ ขอร้องล่ะ อย่าเปิด”
สาวใช้เดินตามมา ทองมาหันไปบ่นเอากับสาวใช้
“ไม่รู้ใครเอาถังขยะมาไว้ตรงนี้ คุณแม่บ้านมาเห็นเข้าโดนด่าตาย”
“พี่เวียนคนสวนล่ะมั้งพี่ คงเอามาใส่เศษใบไม้” สาวใช้ว่า
“เดี๋ยวพี่ว่าจะเอาไปเก็บ” ทองมาบอก ท่าทีหงุดหงิด
พเยียใจหายวาบ แต่สาวใช้แย้งขึ้น
“ทิ้งเอาไว้นั่นแหละ พี่ เดี๋ยวเช้าเค้ามารดน้ำต้นไม้ เค้าก็เก็บเองแหละ ไปเถอะ ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
ทองมาพยักหน้าเห็นด้วย แล้วทั้งสองก็พากันเดินออกไป นพดลกับพเยียถอนใจเฮือก
“รีบเอาออกไปเถอะ พี่นพ เดี๋ยวมีใครผ่านมาอีกจะยุ่ง” พเยียกระซิบบอก
ทั้งสองคนก้าวออกมา ค่อยๆ ช่วยกันเข็นถังขยะออกไปในความมืด อย่างระแวดระวัง

ส่วนนภดารา นภัสรพี และกอหญ้าซึ่งมีผ้าพันที่แขน เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของตึก นภดาราดูร้อนใจเรื่องของฝากจากอิศรที่ตนทำหาย
"ฉันจำได้นะ ว่าใส่เอาไว้ในกระเป๋า อยู่ดีๆ มันจะหายไปได้ยังไง"
นภัสรพีแทรกขึ้น "ถ้าไม่ได้ทำตกที่โรงพยาบาล ก็อาจจะทำตกที่วัด"
นภดาราคิดทบทวนอีกครั้งให้แน่ใจ
“ลูกรับถุงมาจากคุณอิศร แล้วก็เอาใส่กระเป๋า แล้วไม่ได้หยิบอะไรออกมาอีกเลยนะคะ คุณพ่อ มาเปิดกระเป๋าอีกทีก็ตอนที่อยู่ในรถ จะหยิบของให้กอหญ้า ตอนนั้นของก็หายไปแล้ว” นภดาราบอก
“งั้นก็คงตกอยู่ในรถนั้นแหละ” นภัสรพีเห็นศรีเดินเข้ามา “อ้าว ศรีมาพอดี พรุ่งนี้ให้วิชัยรื้อเบาะตรวจดูให้ทั่ว คุณดาราทำของตกเอาไว้ในนั้น”
“ค่ะ”
“ไปพักผ่อนกันเถอะ มีอะไรค่อยว่ากันใหม่พรุ่งนี้” นภัสรพีบอกกับศรี “บอกแม่ชื่นว่าขอชาให้ฉันด้วย”
“ค่ะ คุณชาย” ศรียอบตัวเดินออกไป
นภัสรพีเดินออกไปทางห้องสมุด นภดาราหันไปชวนกอหญ้า
“ไปกันเถอะจ้ะ กอหญ้า ขึ้นไปข้างบนกัน ฉันจะแวะไปดูพเยียหน่อย”
กอหญ้าแปลกใจ “คุณพเยียเป็นอะไรคะ”
“พเยียบ่นว่าปวดหัวตั้งแต่ตอนอยู่ที่วัดน่ะจ้ะ เลยขอตัวกลับมาก่อน”
กอหญ้านึกเอะใจขึ้นมา
“เหรอคะ” กอหญ้าหันไปถามนภดาราเรียบๆ “คุณพเยียรู้เรื่องของที่ฝากไว้หรือเปล่าคะ”
“พเยียอยู่กับฉันด้วยตอนที่อิศรเอาของมาฝาก” นภดาราดูไม่สบายใจ “แต่หนูคงไม่ได้คิดว่าพเยียเอาไปใช่ไหม”
กอหญ้ารีบบอก “หนูคิดแค่ว่า คุณพเยียอาจจะเห็น ถ้าหากมันตกหล่นอยู่ที่วัด หรือมีใครมาแอบหยิบไป ลองถามดูก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรือคะ”

ไม่นานต่อมา นภดารากับกอหญ้าพากันมาอยู่ที่หน้าห้องพเยีย นภดาราเคาะประตูเบาะๆ
“พเยียจ๊ะ นี่แม่เอง เข้าไปได้ไหม”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบ นภดาราลองเปิดประตู ประตูไม่ได้ล็อก นภดารานำกอหญ้าเข้าไปในห้อง เห็นพเยียนอนคลุมโปงอยู่บนเตียง ผ้าห่มคลุมมิดทั้งตัวจนไม่เห็นว่าเป็นใคร นภดาราเดินไปข้างเตียง กอหญ้าตามไปติดๆ
“พเยียจ๊ะ”
ร่างในโปงนิ่ง นภดาราตลบผ้าขึ้นพลางเรียก
“พเยีย”
นภดาราเอามือแตะแขนพเยีย เขย่าเบาๆ แต่พเยียยังนิ่ง
“ทำไมนอนนิ่งอย่างนี้” นภดาราเป็นห่วงมาก ร้อนใจ เขย่าปลุกเรียก “พเยีย พเยีย”
กอหญ้ามองนิ่งอย่างจับสังเกต เห็นพเยียขยับตัว
“คุณแม่” พเยียปรือตาแต่ลืมไม่ขึ้น พูดงัวเงีย “มีอะไรคะ”
“พเยียเป็นอะไรลูก แม่เรียกตั้งนานไม่รู้สึกตัว”
“พเยียปวดหัว...กินยา”
พเยียหลับฟุบไปอีก กอหญ้ามองไปเห็นขวดยาแก้ไข้กับยานอนหลับวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง
“คุณพเยียทานยานอนหลับเข้าไปค่ะ”
“นี่ตายจริง” นภดาราเขย่าเรียก “พเยีย พเยีย เป็นอะไรมากหรือเปล่าลูก พเยีย”
พเยียไม่รู้สึกตัว หลับนิ่งไป เพราะพเยียจงใจทานยานอนหลับ ให้หลับจริงๆ ไม่ได้แกล้งหลับ นภดารามองอย่างเป็นห่วง กอหญ้าจนใจ
กอหญ้าบอกเสียงเรียบๆ “ทานทั้งยาแก้ไข ทั้งยานอนหลับ คืนนี้คงพูดกับใครไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ คุณอา”
“เค้าบ่นปวดหัวมาตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว เอาเถอะจ้ะ ยังไงพรุ่งนี้ค่อยถามกันอีกที” นภดาราออกตัว
กอหญ้ามองพเยียที่นอนหลับลึกอยู่บนเตียง นึกสังหรณ์ในใจบางอย่าง แต่ไม่มีหลักฐาน ได้แต่ถอนใจ

ไม่นานนัก นภัสรพีนั่งพิงพนักเก้าอี้ห้องทำงาน หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ศรีประคองถาดชุดน้ำชาเข้ามา
“น้ำชาค่ะ คุณชาย”
นภัสรพีลืมตามอง แปลกใจ
“อ้าว ศรีเองเหรอ...แม่ชื่นไปไหนซะล่ะ”
“ห้องคุณแม่บ้านปิดไฟมืดเลยค่ะ ศรีไม่กล้าเรียก”
นภัสรพีพยักหน้ารับรู้ “แม่ชื่นเหนื่อยมาหลายวัน สงสัยวันนี้คงจะหมดแรง หลับไปแล้วละมั้ง”

นภัสรพีไม่รู้สักนิดว่า บัดนี้แม่บ้านชราผู้ซื่อสัตย์กลายเป็นศพอยู่ถุงพลาสติกใบยักษ์สีดำ และวางอยู่ที่พื้นเรือหางยาว โดยมีนพดลนั่งอยู่หัวเรือ กับเด็กหนุ่มหน้าตาซื่อๆ เป็นคนขับมากลางแม่น้ำ
เรือแล่นอยู่กลางคลองที่แยกมาจากแม่น้ำใหญ่ เงียบสงบ ไม่ค่อยมีคน
เด็กเรือหันมายิ้ม ถามอย่างเป็นมิตร “ไปอีกไกลไหมพี่”
นภดลบอกห้วน “ขับไปก่อน”
“บ้านพี่อยู่คลองไหนเนี่ยพี่ ผมวิ่งเรือมาหลายปีแล้ว ไม่เห็นคุ้นหน้าพี่เลย” เด็กเรือถามอีก
นพดลไม่ตอบ พอดีเรือแล่นมาถึงช่วงแม่น้ำที่เป็นมุมที่ค่อนข้างเปลี่ยว นพดลสั่ง
“จอดตรงนี้ น้อง จอดๆ”
เรือจอด เด็กมองไปรอบตัว งงๆ
“จอดกลางน้ำนี่เลยเหรอพี่” เด็กเรือหันมาหานภดล “จอดทำไม”
ทันใดนั้น นพดลเอาด้ามปืนทุบที่ก้านคอเด็ก เด็กหมดสติ ร่วงลงไปทันที นพดลถีบร่างนั้นตกน้ำไป
ก่อนจะหันไปรูดซิปเปิดปากถุง เห็นข้างในเป็นถุงดำหนาที่มัดปากไว้อย่างแน่นหนา ข้างในใส่ศพแม่ชื่น
“ไปที่ชอบที่ชอบนะ ป้า”

นพดลบอกแล้วผลักถุงทิ้งน้ำไป เห็นถุงดำค่อยๆ จมหายไปกับผืนน้ำอันมืดสนิท
เช้าวันต่อมา ศรีดูแลสาวใช้ตั้งโต๊ะอาหาร นภัสรพี นภดารา พเยีย และ กอหญ้าทยอย เดินมานั่งประจำที่ ศรีรินกาแฟให้ทุกคนแทนแม่ชื่น นภัสรพีมองอย่างแปลกใจ

“ศรี แม่ชื่นเป็นยังไงบ้าง”
“ตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นเลยค่ะ ศรีว่าตั้งโต๊ะเสร็จจะลองไปดูที่ห้อง”
“ไม่สบายหรือเปล่า” คุณชายปรารภ
นภดาราลุกขึ้นทันที สีหน้าห่วงใย
“เดี๋ยวลูกไปดูเองค่ะ”
กอหญ้านึกสังหรณ์ใจ รีบลุกขึ้นด้วย
“หนูไปด้วยค่ะ”
กอหญ้าเดินตามนภดาราออกไป พเยียคิดๆ แล้วตัดสินใจลุกขึ้น
“พเยียไปกับคุณแม่นะคะ คุณตา”
พเยียวิ่งตามไปเป็นคนสุดท้าย

2 คนอยู่หน้าห้อง นภดาราเปิดประตูเข้าไปในห้อง
“แม่ชื่นคะ แม่ชื่น” นภดาราชะงัก เมื่อเห็นว่าห้องนอนแม่ชื่นว่างเปล่า ที่เตียงผ้าปูที่นอนเรียบตึง ไม่มีร่องรอยคนนอน กอหญ้าที่ตามเข้ามาพูดขึ้น
“เมื่อคืนแม่ชื่นไม่ได้นอนที่นี่”
นภดาราหน้าเสีย มองไปรอบๆ สภาพห้องแม่ชื่นเรียบร้อยดี เสื้อผ้าเต็มตู้เรียงเป็นระเบียบ ข้าวของอยู่ครบ
นภดารารำพึงอย่างแปลกใจ “ไม่ได้กลับมานอนที่นี่ แล้วจะไปไหน”
นภดาราหันมาเห็นพเยียที่ตามมาหยุดอยู่ที่ประตูห้อง ถามขึ้น
“เมื่อคืนหนูกลับมาบ้าน เห็นแม่ชื่นหรือเปล่า พเยีย”
“ไม่เห็นค่ะ ตอนหนูกลับมา ไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลย”
กอหญ้าคาใจ นึกสงสัย “เมื่อคืนแม่ชื่นไม่ได้กลับมาจากวัดพร้อมคนอื่นๆ หรอกหรือคะ”

ครู่ต่อมาศรีให้การกับนภดารา
“คุณแม่บ้านไม่ได้กลับมาพร้อมกับพวกเราค่ะ พอพวกคุณๆ ออกไป แกก็ขอกลับมาก่อน
“บอกหรือเปล่าจะไปไหน” นภดาราซัก
“ไม่ได้บอกค่ะ จู่ๆ ก็เดินออกไปเลย”
ฟังศรีว่า นภัสรพียิ่งแปลกใจ
“เป็นไปไม่ได้ ชื่นไม่มีทางไปไหนโดยไม่บอกไม่กล่าว เค้าไม่ใช่คนแบบนั้น”
กอหญ้า คาดเดา “เป็นไปได้ไหมคะ ว่าแม่ชื่นจะมีธุระสำคัญ อาจจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย”
พเยียรีบเสริมกอหญ้า “นั่นสิคะ คุณตา อาจจะมีญาติพี่น้องคนไหนเป็นอะไร หรือต้อง ไปที่ไหนไกลๆ ที่มันติดต่อกันไม่ได้

อ่านละคร แผนรักแผนร้าย ตอนที่ 10/2 วันที่ 8 มี.ค. 56

ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทประพันธ์ : ไอริณ
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย บทโทรทัศน์ : ทีมเอ็กแซ็กท์
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ, วรวิทย์ ขัตติยโยธิน
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส 20.10 - 21.40 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง แผนรักแผนร้าย เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา manager