อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 10 วันที่ 24 ก.ย. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 10 วันที่ 24 ก.ย. 58

“เดี๋ยวนี้เลย ลูกน้องเฮียตามมันอยู่ เดี๋ยวให้มันประสานแล้วชี้เป้ากันเลย จะได้ไม่ผิดตัว” เฮียฮุยวางสายด้วยอารมณ์เคืองแค้น “ใครบังอาจมาแตะต้องลูกชายอั๊ว มันต้องตาย”...

คีรินนำชิ้นส่วนปืนคู่ชีพที่ซ่อนไว้ตามที่ต่างๆในบ้านขึ้นมาประกอบอย่างรวดเร็วแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังจุดนัดหมายซึ่งเป็นห้างฯหรูกลางกรุง พอเธอเห็นคนที่สมุนของเฮียฮุยชี้เป้าให้ถึงกับตะลึง เพราะเหยื่อคือตะวันนั่นเอง แม้คีรินจะอยากได้เงินเอาไปรักษาดวงตาให้แม่เพียงใด แต่เธอก็ฆ่าตะวันไม่ลง จำต้องปล่อยให้เหยื่อลอยนวล สมุนของเฮียฮุยที่ซุ่มดูอยู่ เจ็บใจมากที่คีรินทำงานพลาด รีบโทร.รายงานเจ้านายทันที...

นันทากำลังกินยาแก้ปวดหัวเนื่องจากพักนี้เครียดหนัก เห็นนันทวัฒน์เดินหิ้วถุงช็อปปิ้งเข้ามากับตะวันถึงกับปรี๊ดแตกที่เขาไม่ได้ไปเฝ้าพ่อ พรุ่งนี้ท่านจะกลับบ้านแล้ว คงไม่ดีแน่หากต้องอยู่ร่วมชายคากับคนที่ท่านเกลียด แล้วปรายตามองตะวันแวบหนึ่ง ก่อนจะสั่งให้เขาจัดการโดยด่วน ถ้าไม่อยากเห็นพ่อตายเร็ว



“ตะวันเข้าใจค่ะพี่วัฒน์ ตะวันไม่ทราบว่าท่านโกรธเกลียดตะวันเรื่องอะไร แต่ถ้ามีอะไรที่จะทำให้ทุกคนสบายใจได้ ตะวันขอเป็นฝ่ายไปค่ะ”

ooooooo

เปลวดีใจมากที่พิมแวะมาบอกว่าเอกสารสำหรับใช้เดินทางไปเยอรมันของเธอผ่านเรียบร้อยแล้ว เธอจะไปในฐานะเพื่อนเจ้าสาวของพิมแต่จะอยู่ที่นั่นได้แค่ 90 วัน หลังจากนั้น เธออาจต้องใช้เสน่ห์เล็กน้อยเผื่อจะหาแฟนฝรั่งได้สักคนจะได้ลงหลักปักฐานอยู่ที่นั่นไปเลย เปลวบ่นอุบเป็นห่วงลูกไม่อยากทิ้งไว้คนเดียว

“เอาตัวให้รอดเถอะ ไอ้ปรางค์น่ะ มันมีผัวใหม่ผัวเก่ารุมอุ้มอยู่ อย่าไปห่วงเลย สะใภ้เจ้าสัวอย่างมันน่ะ ขอวีซ่าง่ายมาก ค่อยลากมันไปทีหลังก็ได้ อาทิตย์หน้าเดินทางแล้วนะ ขอให้เราสองคนโชคดี”

“จ้ะ ขอให้เราสองคนโชคดี” เปลวยิ้มให้พิมอย่างมีความหวัง...แต่แล้วความหวังจะไปจากทรงพลของเปลวเป็นอันต้องสะดุด เพราะปรางค์ทองในคราบตะวันกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ด้วย เปลวครุ่นคิดหนัก เนื่องจากไม่อยากทิ้งลูกให้ต้องผจญกรรมตามลำพัง...

ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านวัฒนา ทนงศักดิ์เห็นนันทวัฒน์นั่งหน้าเครียดอยู่คนเดียว รู้สึกสงสารและเห็นใจเขามากที่ต้องเจอศึกรอบด้าน ทั้งเรื่องความรักที่มีต่อตะวันความกตัญญูต่อพ่อกับแม่ และความรับผิดชอบที่มีต่อมยุริญ จึงแนะให้เขาตัดใจจากตะวันเพราะเธอไม่คู่ควรกับเขาด้วยประการทั้งปวง นันทวัฒน์แค่นหัวเราะ

“แปลกนะครับ คนที่ไม่เหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวง แล้วฟ้าส่งเธอมาให้ผมทำไม”

“ผมเกรงว่าฟ้าจะไม่ได้ส่งเธอมาน่ะสิครับ”

จากนั้นเหตุการณ์เมื่อยี่สิบปีก่อนก็พรั่งพรูออกจากปากทนงศักดิ์ ตอนนั้นวัฒนาพาทรงพลไปเลี้ยงฉลองความสำเร็จเนื่องจากสมประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ทรงพลใช้เส้นสายทางราชการอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจของวัฒนาเดินไปได้อย่างราบรื่น ทรนงพ่อของทนงศักดิ์ซึ่งเป็นคนสนิทของวัฒนาพาทรงพลไปฉลองต่อที่ซ่องชั้นดีในพัทยาและทำให้เขาได้พบกับเปลวและปรางค์ทอง ทรงพลขอซื้อตัวสองแม่ลูกจากแม่เล้า โดยให้ทรนงเป็นคนจัดการจ่ายเงินให้ วัฒนารู้เข้าก็โกรธมากที่ถูกทรงพลเอาเปรียบ

“ท่านทรงพลคงเห็นว่าพวกเราต้องอาศัยท่านมั้งครับ เลยถือโอกาส วันนี้ได้หกแสนบาทไปง่ายๆแบบนี้ ต่อไปคงเรียกร้องไม่หยุดแน่ๆครับ” คำพูดของทรนง ทำให้วัฒนาคิดหาทางตัดไฟแต่ต้นลม...

หลังจากวางแผนเสร็จ วัฒนาเชิญทรงพลมาที่บ้าน เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีด้วยอาหารรสเลิศและสุราต่างประเทศราคาแพง พอดื่มจนได้ที่ เจ้าสัวผู้มั่งคั่งพยักพเยิดให้ทรนงทำตามแผน หยิบซองเงินมาวางตรงหน้าทรงพล อ้างเป็นเงินปันผลของบริษัท จากนั้นก็เรียกทนงศักดิ์ซึ่งตอนนั้นเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทของวัฒนาให้เอาเอกสารมาให้ทรงพลเซ็น โกหกว่าเป็นเอกสารการรับเงินปันผล ด้วยความไว้ใจ กอปรกับไม่ได้เอาแว่นสายตามาทำให้อ่านข้อความไม่ถนัด ทรงพลเซ็นเอกสารให้โดยไม่ได้คิดอะไร...

ไม่กี่วันถัดมา มีเอกสารสำคัญทางราชการส่งมาถึงทรงพลซึ่งเปิดอ่านแล้วแทบจะเป็นลมล้มทั้งยืน เขาขยำเอกสารฉบับนั้นขว้างออกไปอย่างแรงเกือบโดนเปลวที่เดินเข้ามา เธอหยิบเอกสารยับยู่ยี้ขึ้นมาดู

“รับสินบน ฉ้อราษฎร์บังหลวง...ออกจากราชการ” เปลวใจหายวาบ มองทรงพลด้วยความเป็นห่วง

ooooooo

นันทวัฒน์ฟังเรื่องราวที่ทนงศักดิ์เล่าแล้วตัดพ้อทำไมไม่มีใครบอกให้รู้อะไรบ้าง ปล่อยให้เขาหลงรักปรางค์ทองทำไม ทนงศักดิ์เล่าเพิ่มเติมว่าไม่มีใครรู้เรื่องที่เธอเป็นลูกของทรงพลจนกระทั่งวันที่เขาแต่งงาน และที่ไม่มีใครพูดอะไรก็เพราะรักและแคร์ความรู้สึกของเขา

“รักหรือปิดบังความเลวร้ายที่คุณพ่อทำกันแน่”

“ในแง่ธุรกิจท่านเจ้าสัวก็ไม่ได้ผิดอะไรมากมาย มันเป็นกลยุทธ์ทางการค้าท่านต้องการความสะดวกสบายก็ต้องหาเส้นสายซึ่งท่านทรงพลก็เต็มใจรับเงินเหล่านั้น”

“ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับผมแล้วผมจะทำยังไงต่อไป เธอดีกับผมเธอรักผมแล้วผมก็รักเธอมาก”

ทนงศักดิ์พยายามกล่อมให้นันทวัฒน์ตระหนักว่าปรางค์ทองไม่ได้รักเขา แค่จะใช้เขาเป็นเครื่องมือทำลายครอบครัวของเขาเอง แต่เขากลับไม่เชื่อ เนื่องจาก ไม่เคยเห็นเธอทำอะไรใคร มีแต่คนในบ้านของเขาต่างหากที่ทำร้ายเธอถึงขนาดจะเอาชีวิตด้วยซ้ำ ทนงศักดิ์ถึงกับอึ้งไม่พูดอะไรอีก...

ไม่ได้มีแต่ทนงศักดิ์เท่านั้นที่เล่าถึงความบาดหมางระหว่างทรงพลกับวัฒนา ทรงพลเองก็เล่าเรื่องนี้ในแง่มุมของตัวเองให้ตะวันที่เข็นรถพาเขาออกมารับลมนอกบ้านฟัง เพื่อให้เธอรับรู้ถึงสาเหตุของความเกลียดชัง

“พวกมันทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ มันใช้พ่อเป็นเครื่องมือกอบโกยผลประโยชน์ของพวกมัน เห็นหน้าไอ้วัฒนาแล้วสะใจนัก พวกมันทำกับเราไว้มาก มันต้องโดนเอาคืนแบบนี้ ขอบใจนะปรางค์ หนูทำได้ดีมาก เอาอีกลูก เอาอีก ให้พวกมันรู้ว่าเวรกรรมน่ะมันจะตามจองล้างจองผลาญไปจนกว่าพวกมันจะตาย”

“ค่ะคุณพ่อ หนูจะทำให้พวกมันพินาศ”

“ดี...ให้มันฉิบหายกันไปเลย” ทรงพลหัวเราะสะใจ...

ขณะที่ทรงพลยุยงให้ตะวันกลับไปแก้แค้นครอบครัวของนันทวัฒน์ ธงไทยซึ่งอยู่ที่ไร่นวลตะวันเอาแต่นั่งเหม่อ ใจลอยคิดถึงหญิงคนรักไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง แล้วนึกเจ็บใจตัวเองที่คืนนั้นน่าจะรับน้ำใจจากเธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเศร้าแบบนี้ นวลรู้เท่าทันความคิดของลูกชาย ยุให้ไปหาตะวัน

“ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อยากทำอะไร มีโอกาสก็ทำซะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง”

“ให้ผมวิ่งตามเธอไปตลอดชีวิตคงไม่ได้หรอกครับ ที่นี่ผมมีแม่นวลและก็ไร่นวลตะวันกับคนที่นี่ ผมต้องดูแลรับผิดชอบอีกมาก”

นวลอยากเห็นลูกมีอนาคตกับคนที่เขารัก เธอจะได้ตายตาหลับ ธงไทยกอดแม่เอาไว้พร้อมกับบอกว่าตอนนี้เขาอยู่กับคนที่เขารักแล้วและเขาก็มั่นใจว่าคนคนนี้รักเขาจริง นวลกอดลูกตอบ ลูบหัวด้วยความรัก อยากเห็นเขามีความสุขและสมหวังก่อนที่ตัวเองจะต้องจากไปในเวลาอันใกล้นี้

ooooooo

เปลวดึงลูกสาวมายังมุมลับตาคน ต่อว่าว่ากลับมาที่นี่ทำไมอีก เธอแค่จะถอยมาตั้งหลัก หลอกให้คนบ้านวัฒนาตายใจแล้วจะกลับไปจัดหนักให้พวกนั้นทีหลัง เปลวขอร้องให้เลิกทำแบบนี้ เธอเองก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น น่าจะให้ทุกอย่างจบไปกับความทรงจำของเธอ อย่าก่อเวรก่อกรรมอีกเลย

“พวกเขาทำกรรมเอาไว้ หนูมีหน้าที่ทวงความยุติธรรมให้คุณพ่อผู้มีพระคุณของเราไงคะแม่”

“หนูได้ทำทุกอย่างไปแล้ว หนูทดแทนบุญคุณท่านไปแล้ว ให้มันจบๆเถอะนะปรางค์ หนูเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ กับคุณธงไทยน่ะ” คำพูดของแม่ทำให้ตะวันอดคิดถึงธงไทยขึ้นมาไม่ได้...

นันทนาอยากได้เงินไปซื้อยาแต่ไม่รู้จะหาที่ไหน คิดจะเข้าไปขโมยเงินในห้องแม่ ยังไม่ทันจะเปิดประตูห้อง ท่านมาเห็นเสียก่อน ด้วยความเจ้าเล่ห์เธอโกหกเอาตัวรอดมาได้โดยที่ท่านไม่สงสัย แล้วรีบชิ่งหนี ขณะเดินผ่านหน้าห้องของพ่อ นันทนาเห็นพยาบาลพิเศษเดินออกมาพอดี เธอรอจนพยาบาลลับสายตา ค่อยๆแง้มประตูห้องดูเห็นพ่อนอนอยู่เพียงลำพัง รีบผลุบเข้าไปข้างใน อึ่งเดินผ่านมาเห็นหลังเธอไวๆ อดปากเสียไม่ได้

“ต๊าย รู้จักเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อด้วยแฮะ” พูดจบ อึ่งเดินต่อไปไม่สนใจอะไร

วัฒนาจ้องลูกสาวเขม็ง เพราะรู้ว่าจะเข้ามาขโมยของ แต่ไม่สามารถร้องบอกใครได้ นันทนาค้นหาของมีค่าจนทั่วได้มาแค่แหวนหนึ่งวง อารามรีบร้อนจะหยิบ แหวนหลุดมือกลิ้งไปหยุดที่เท้าของพยาบาลพิเศษซึ่งรีบก้มเก็บจะคืนให้ แต่พอเห็นสายตาและสีหน้าของวัฒนาก็รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ลังเลไม่รู้จะทำอย่างไรดี นันทนาเข้ามาแย่งคืน เธอยื้อไว้ไม่ยอมให้ สองสาวยื้อแย่งแหวนกันวุ่นวาย กันเกราเปิดประตูเข้ามาเห็น ร้องถามว่าทำอะไรกัน นันทนาชิงฟ้องว่าพยาบาลพิเศษคิดไม่ซื่อจะขโมยของมีค่าของคุณพ่อ

นันทารู้เรื่องที่เกิดขึ้น รีบค้นดูในกล่องใส่ของมีค่าที่วางไว้บนหัวเตียงนอนของวัฒนา พบว่านาฬิกาหรู 2 เรือนหายไป ไม่ฟังคำแก้ตัวใดๆ โทษว่าพยาบาลพิเศษเอาไป เหมือนที่พยายามจะขโมยแหวนวงนั้น

“ดิฉันไม่ได้เอาไป ดิฉันไม่รู้เรื่อง”

กันเกราเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของพยาบาลพิเศษ พยายามทักท้วง แต่นันทาปักใจเสียแล้วว่าเธอเป็นคนขโมยของไปด่าว่าต่างๆนานา นันทนาเห็นท่าไม่ดี อ้างมีธุระต้องไปทำ แล้วเดินหนีออกจากห้อง พยาบาลพิเศษพยายามร้องเรียกให้เธอกลับมาเล่าความจริงให้ทุกคนทราบทั้งน้ำตา แต่ไร้ผล วัฒนาได้แต่มองพยาบาลผู้ซื่อสัตย์ด้วยความสงสาร...

กว่านันทาจะรู้ความจริงจากอึ่งว่าทั้งแหวนและนาฬิกาของวัฒนาที่หายไปเป็นฝีมือลูกสาวของเธอก็สายเกินไป พยาบาลพิเศษขอลาออกจากงาน นันทาต่อรองจะขึ้นเงินเดือนให้อีกหนึ่งหมื่นบาท แต่เธอไม่สนใจคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าเดินจากไป วัฒนาถึงกับน้ำตาซึม เพราะมีแต่เธอเท่านั้นในบ้านนี้ที่สนใจความเป็นอยู่ของเขา...

ตั้งแต่ทำงานพลาด คีรินไม่เป็นอันกินข้าวกินปลา เอาแต่เขี่ยข้าวในจาน แม่ของเธอฟังจากเสียงก็รู้ว่าเธอไม่ได้แตะต้องอาหาร ถามว่ากลุ้มใจเรื่องงานหรือ เธอยอมรับว่าทำใจไม่ได้ที่ต้องงอมืองอเท้าให้แม่หาเลี้ยง แล้วถามแม่กลับว่า ถ้าจำเป็นต้องผลักใครคนหนึ่งลงเหวเพื่อรักษาชีวิตตัวเองให้รอด แม่จะทำไหม

“รอดเพื่อจะมานั่งเป็นทุกข์ที่ไปทำคนอื่นเขาตายน่ะเหรอ แม่ไม่เอาดีกว่า...แต่ถ้าต้องผลักใครสักคนตกเหวเพื่อรักษาชีวิตของรินหรือรันล่ะก็ แม่ก็จะทำนะ เพราะแม่รักลูกๆมากกว่าชีวิตตัวเอง”

ooooooo

นวลอยากให้ธงไทยได้เจอกับตะวัน จึงสั่งการให้ไผ่ขนลังผลไม้หลายลังขึ้นท้ายรถกระบะของธงไทย ให้ลูกชายเอาไปให้วิว 2 ลัง ฝากไปให้บ้านคีรินเพื่อนของธงไทย 2 ลัง อีก 2 ลังที่เหลือเอาไปฝากบ้านที่ตะวันไปอยู่ ธงไทยเข้าไปกอดแม่ด้วยความซาบซึ้งใจ แต่นวลทำเป็นไก๋

“ช่วงนี้ผลไม้มันออกเยอะ ขายไปก็ไม่ค่อยได้ราคา เอาไปแจกๆซะ”

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับแม่นวล”

“อะไรที่ทำให้ไทยมีความสุขได้ แม่ก็อยากทำน่ะลูก” นวลว่าแล้วกอดตอบลูกชาย...

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 10 วันที่ 24 ก.ย. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ