อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 8 ก.ย. 5

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 8 ก.ย. 5

คิมหันต์เข้าไปยืนข้างเตียง ถามลอยๆว่าผลเอกซเรย์เป็นอย่างไร มุกรินบอกว่าปอดติดเชื้อ เขาถามเหน็บทันทีว่าเจ้านายมานอนเฝ้าทั้งคืนสินะ มุกรินไม่ตอบ ย้อนถามว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าตนอยู่ที่นี่

“เด็กของพี่ชายคุณเขาอยู่ข้างเดียวกับผม” ดวงดาวได้ยิน พูดแทรกขึ้นว่าตนแค่อยากเห็นคนรักกันได้รักกันเท่านั้นแล้วออกไปรอข้างนอก ปล่อยให้ทั้งสองได้มีโอกาสพูดคุยกันตามลำพัง

“ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงนั่งเฝ้าคุณอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืน ไม่ไปไหนเลย...” คิมหันต์นั่งที่โซฟาข้างเตียงเอ่ยสบายๆ “ดีนะที่คุณเผยธาตุแท้มาเสียก่อน ผมจะได้ไม่ทำอะไรงี่เง่าแบบนั้นอีก”



“คุณกำลังบอกว่าทั้งหมดที่ผ่านมาระหว่างเรา เป็นเรื่องงี่เง่างั้นเหรอ” มุกรินพลิกตัวมาถามเสียงเข้ม คิมหันต์ไม่ตอบเขาหัวเราะพูดลอยๆว่าไม่น่าเชื่อเนาะ “ใช่...ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้เห็นธาตุแท้ของคุณเหมือนกัน ฉันเคยหลงคิดว่า คุณคือผู้ชายที่ดีที่สุด มันเป็นการหลงผิดที่งี่เง่าที่สุด!”

“ไม่ที่สุดหรอก เพราะการหลงผิดที่สุดของคุณก็คือ หลงเชื่อพี่ชายของคุณ ซึ่งวันนี้คุณก็ได้เห็นกับตาตัวเองแล้วว่า เขาโกหกหลอกลวงคุณมาตลอด โชคร้ายของคุณที่มีพี่ชายเลว แต่เป็นโชคดีของนายธาดาที่มีน้องสาวโง่อย่างคุณ”

มุกรินโกรธจัด ตะโกนไล่เขาออกจากห้องไปเดี๋ยวนี้เลย บอกดวงดาวให้เอาผู้ชายคนนี้ออกไป คิมหันต์ทำเป็นนึกได้บอกว่า

“อ้อ...ดอกไม้นี่พักตราเขาฝากมาเยี่ยม และนี่ก็การ์ดงานหมั้นของผมกับพักตรา” พอดีดวงดาวเปิดประตูเข้ามา ได้ยินคิมหันต์บอกมุกรินว่า “ถ้าคุณว่าง ผมขอเชิญ...คุณจะได้เห็นในวันนั้นว่า คนที่มีความสุขจริงๆหน้าตาเป็นอย่างไร”

“ออกไป! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!” มุกรินคว้า ของใกล้มือปาใส่คิมหันต์ไม่ยั้ง ดวงดาวรีบลากคิมหันต์ออกไป

ooooooo

พอออกมาแล้วดวงดาวถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าเรื่องธรรมดาของคนที่รักกัน ดวงดาวมองหน้าถามว่าไม่รักแล้วมาทำไม เขาบอกว่ามากวนเล่นๆ

ดวงดาวยิ้มเยาะว่า เขาปากกับใจไม่ตรงกันเพราะแววตาเขาฟ้อง คิมหันต์บอกว่าเธอถูกหลอกแล้ว แต่พอดวงดาวบอกว่าต่อไปตนจะไม่ส่งข่าวอะไรให้เขาอีก คิมหันต์บอกไม่เป็นไร อยากรู้อะไรตนโทร.หาเธอเองก็แล้วกัน

“ยังไม่ลบเบอร์ออกอีกเหรอ เดี๋ยวผู้หญิงที่ชื่อพักตราเห็นเข้าจะเป็นปัญหานะ”

“ปัญหาของผม ไม่เกี่ยวกับคุณ เลิกกับนายธาดาเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะดวงดาว...”

คิมหันต์เดินไปแล้ว ดวงดาวมองตามยิ้มนิดๆ กับตัวเอง...

ooooooo

ชุมสายโทรศัพท์ถามคิมหันต์ว่าทำอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่า คิมหันต์ถามว่าตนทำอะไร พอชุมสายบอกว่าเรื่องไปเยี่ยมมุกริน คิมหันต์ย้อนถามว่าเขาเป็นคนบอกให้ตนไปเยี่ยมไม่ใช่หรือ?

“ถ้าไปแล้วเป็นอย่างนี้แกอย่าไปเลยดีกว่า” คิมหันต์ถามว่าเขาย้ายข้างไปเป็นพวกโน้นตั้งแต่เมื่อไหร่ “ฉันไม่ได้ย้ายข้าง ฉันอยู่ข้างเดียวกับความถูกต้องเว้ย”

“แล้วที่ไอ้สองพี่น้องนั่นทำกับฉัน ทำกับพี่มล มันถูกต้องไหม แกยังมาออกตัวสงสารพวกมันอีกหรือ”

“ฉันสงสารเพราะแกทำไม่ถูกน่ะสิ แกโกรธเขา เกลียดเขา แกก็บอกเลิกเขาแล้ว ก็จบแล้วสิ พอแล้วสิ แกจะไปตอกย้ำให้มันเพิ่มความเกลียดชังกันขึ้นมาอีกทำไม หรือว่าแกเองนั่นแหละที่ลืมเขาไม่ได้ อารมณ์แปรปรวนใช่ไหมล่ะ บางวันนึกจะสงสารก็สงสาร บางวันนึกจะรังแกก็รังแก จะบอกให้นะ ไอ้อย่างนี้มันไม่ใช่ลูกผู้ชายโว้ยไอ้คิม”

ชุมสายทั้งด่าทั้งอบรมแล้วถามว่าวันนี้ว่างไหมแวะมาที่ออฟฟิศตนหน่อย คิมหันต์บอกไม่ว่างเพราะมีนัดกับพักตราและพลโทอรรถ

“งั้นก็ตามสบาย...โชคดีมีความสุขเว้ย”

คิมหันต์กดปุ่มตัดสาย สีหน้าแววตาเขาครุ่นคิด...

เมื่อไปพบกับอรรถที่บ้านพักตรา อรรถถามว่าอีกสองอาทิตย์จะถึงวันหมั้นแล้ว มีปัญหาอะไรไหม ตนแจกการ์ดเชิญผู้ใหญ่ครบหมดแล้ว จะมาเบี้ยวกันไม่ได้นะ จงใจถามคิมหันต์ว่ามีอะไรไหม เขาบอกว่าไม่มี

หลังจากคุยเรื่องแจกการ์ดเชิญแขกแล้ว อรรถคุยรายละเอียดการใช้ชีวิตคู่หลังงานหมั้น อรรถบอกว่าพักตราเป็นคนเสนอแนวคิดนี้และตนก็เห็นด้วย แล้วแจกแจงรายละเอียดว่า

หลังงานหมั้นให้เขามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ซึ่งตนได้สั่งทำห้องใหม่ไว้ให้แล้ว แต่เพื่อไม่ให้เป็นการครอบครองเขามากไปจึงจัดแบ่งให้ในหนึ่งสัปดาห์ให้มาอยู่ที่นี่สี่วัน อีกสามวันจะให้พักตราไปอยู่กับเขาที่คอนโด ซึ่งตนซื้อให้เป็นของรับหมั้นแล้ว

กำหนดการใช้ชีวิตแล้วอรรถบอกว่า แบบนี้ชีวิตของสองคนราบรื่นแน่นอน ถามว่าเห็นด้วยไหม พักตรายิ้มแย้มเบิกบานมีความสุขมาก ในขณะที่คิมหันต์พูดไม่ออก ฝืนยิ้มไปกับพักตราด้วย

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อมุกรินไปทำงาน เจอแต่สีดาอยู่ในห้องคนเดียว สีดาบอกว่าทุกคนไปที่ห้องประชุมหมดแล้ว ตนมีหน้าที่มาเรียกเธอ แต่บอกว่า ถ้าตนเป็นเธอจะไม่เข้าไปในนั้นเป็นอันขาด

เป็นการประชุมเพื่อจัดงานหมั้นที่ครีเอทีฟแจ้งแก่ที่ประชุมว่า ต้องบึ้ม ต้องใหญ่ ต้องจัดเต็มทั้งหมด นับแต่ขบวนแห่ขันหมากเลย

พักตราชมว่าดีมากแต่ตนขอเวลาพูดถึงความรักของตนสองคนด้วยจะเป็นวีดิโอพรีเซ็นเตชั่นหรือให้ตนสองคนพูดบนเวทีก็ได้ ปรารภติงว่าเอาไว้ตอนงานแต่งไม่ดีกว่าหรือ

“ฉันจะเอาตอนนี้ งานนี้ ตอนแต่งก็ค่อยทำอีกที... เห็นด้วยไหมมุก” มุกรินสะดุ้งตอบรับเบาๆ พักตราหันสั่งคิมหันต์ “คิมช่วยดูเรื่องอาหารแทนพักตร์หน่อยนะคะพักตร์ขอแยกไปบรีฟกับมุกเป็นการส่วนตัวหน่อย ดูเหมือน เธอจะตามคนอื่นไม่ทัน” แล้วสั่งมุกรินให้ตามไปที่ห้องตน

พักตราพามุกรินไปที่ห้องทำงานของตน บอกว่าตนจะมานั่งทำงานที่นี่ในตำแหน่ง CEO บริษัท แล้วคุยว่าคุณพ่อเห็นตนกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาจึงมอบการงานที่มั่นคงให้ ส่วนคิมหันต์คุณพ่อก็อาจจะสร้างสตูดิโอให้แล้วดึงมาจอยกับ Fast Track ในอนาคตก็ได้

“ตกลงจะบรีฟฉันเรื่องอะไร” มุกรินถาม พักตราบอกว่าไม่มีอะไรแค่ตนอยากคุยส่วนตัวกับเธอไม่อยากพูดต่อหน้าคนอื่น ฉันพอเข้าใจนะว่าเธอรู้สึกยังไงกับงานหมั้นของเราสองคน และมันคงจะรู้สึกมากขึ้นเมื่อถึงวันแต่งงาน”

พักตรายังตอกย้ำให้เจ็บปวดยิ่งขึ้นว่าขอให้มุกรินอยู่กับปัจจุบันอย่างตน คือ ปัจจุบันคิมหันต์ไม่รักเธอแล้ว ทั้งยังมอบหมายให้มุกรินเป็นพิธีกรงานหมั้นและงานแต่งของตนด้วย ย้ำว่าห้ามปฏิเสธเพราะนี่คือคำสั่งของ CEO บริษัท!

ฝ่ายคิมหันต์ก็ฝากฝังมุกรินกับปรารภให้เขาช่วยดูแลเธอด้วยเพราะเธอเป็นคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ทั้งหมดต้องการการซัพพอร์ตจากใครสักคนและเขาก็เป็นผู้ชายที่ไว้ใจได้ที่สุดในบรรดาคนรอบตัวเธอ

“คุณยังห่วงมุกอยู่?”

“ใช่...ผมอยากให้เธอแข็งแรงและอยู่ไปนานๆ เพื่อทนทุกข์ทรมานกับการสูญเสียคนรักไปจนชั่วชีวิต”

“ไอ้เลว!” ปรารภด่าเมื่อคิมหันต์เดินไปอย่างสะใจ ปรารภกลับมาบอกมุกรินว่า งานหมั้นของคิมหันต์กับพักตราตนไม่ใส่ชื่อเธอไปในทีม เพราะ “คุณไม่ควรมีส่วนร่วมกับงานนี้ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผมรับผิดชอบเอง”

มุกรินขอบคุณเขา แต่พอปรารภจะไป เธอถามว่า “มุกยังเหลือวันลาอีกแปดวันใช่ไหมคะ?”

ooooooo

เย็นนี้ดวงดาวไปหามุกรินที่หอพัก แม่บ้านบอกว่ามุกรินกลับมาและออกไปแล้ว ดวงดาวทำทีว่าลืมกุญแจห้องที่มุกรินให้ไว้ ขอให้แม่บ้านช่วยเอากุญแจสำรองไขให้ พอเข้าไปในห้อง ดวงดาวเห็นห้องเหมือนไม่มีคนอยู่ แม่บ้านบอกว่ามุกรินกลับมาและเพิ่งออกไปพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ สงสัยจะไปต่างจังหวัด ดวงดาวเอามือถือมากดข้อความส่งออกทันที

คิมหันต์อยู่กับพักตราเธอตื๊อให้เขานอนค้างที่คอนโดด้วยกัน คิมหันต์บอกเธอว่า ตนจะไม่มีอะไรกับเธอจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน และคืนนี้เขาก็เอาตัวรอดได้ ระหว่างนั้นเองเขาได้รับข้อความจากดวงดาวว่า

“she ไม่อยู่ที่หอ เก็บเสื้อผ้าไปด้วย คนรักกันน่าจะรู้ว่าไปไหน...แค่นี้นะ”

คิมหันต์ได้รับข้อความนี้แล้วเขานิ่งเครียด ครุ่นคิด รุ่งขึ้นเขาไปที่บ้านวิมลรัตน์แต่เช้า เจอชุมสายนั่งรออยู่แล้ว ชุมสายทักว่าพักนี้เขาไม่กลับบ้านบ่อยขึ้นนะ ไปนอนบ้านพักตราหรือ คิมหันต์ทำเสียงอืม...ในลำคอ

“แกรักเขาหรือตกกระไดพลอยโจน?” คิมหันต์บอกว่าเอาไว้ตอบได้เมื่อไหร่แล้วจะบอก ถามว่ามีธุระอะไรถึงมาแต่เช้า “เราอาจจะได้หลักฐานใหม่ในคดีพี่มล มีคนบอกว่าเห็นกลุ่มนักศึกษาถ่ายหนังสั้นหรือสารคดีอยู่แถวๆซอยนี้ในคืนเกิดเหตุ พวกนั้นอาจจะเห็นอะไรบางอย่างระหว่างไฟดับ ซึ่งอาจจะมีประโยชน์ต่อฝ่ายเรา”

คิมหันต์บอกให้เดินหน้าเลย เขาเก็บกระเป๋าเสร็จพอดี จะออกไป ชุมสายถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่าจะไปถ่ายรูปต่างจังหวัดสักวันสองวัน ว่าแล้วคว้ากระเป๋าไปเลย ชุมสายมองตามพึมพำสงสัย

“ไปถ่ายรูปแล้วทำไมไม่เอากล้องไป?” เขามองกล้องกับอุปกรณ์ที่วางอยู่มุมห้อง

ooooooo

พักตราไปที่บริษัทเรียกปรารภมาถามเรื่องการเตรียมงานหมั้น จึงรู้ว่างานนี้ปรารภไม่ได้ทำเองแต่ให้โปรดิวเซอร์ที่ดูแลงานนี้มาทำแทน เพราะตนติดงานการท่องเที่ยวที่เชียงรายที่ลงนามกันไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว

พักตราให้เรียกมุกรินมารับผิดชอบงานนี้ ตนจะสั่งงานเอง ปรารภบอกว่ามุกรินไปเก็บข้อมูลที่เมืองจันท์สองวันคงกลับ ถูกพักตราดักคออย่างไม่พอใจว่า อย่าบอกว่ากลับมาแล้วต้องไปงานที่เชียงรายต่อ พอปรารภตอบครับ เธอสั่งทันที

“ฉันไม่ให้ไป เปลี่ยนคนอื่นไปแทนยายมุกเดี๋ยวนี้เลย ฉันต้องการให้ยายมุกอยู่ในงานหมั้นของฉัน เข้าใจไหม”

ปรารภเดินออกไปไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ พักตราโทร.เช็กคิมหันต์ทันทีว่าถึงไหนแล้ว เขาบอกว่าเพิ่งออกจากกรุงเทพฯ เธออ้อนให้เขาส่งรูปมาให้ดูและตนก็จะส่งรูปลองชุดไปให้เขาดูด้วย

“ครับผม...” คิมหันต์ตัดสายแล้วกดโทร.ออก

ทันที เขาโทร.ถามดวงดาวว่าแน่ใจใช่ไหมว่ามุกรินหายไปจากหอพัก?

“ถ้าคุณรักเธอจริงคุณต้องหาเธอเจอ แต่ถ้าคุณไม่รักเธอแล้ว คุณก็ควรจะใช้เวลาอยู่กับคู่หมั้นของคุณ” แล้วตัดสายเลย

ooooooo

มุกรินขับรถน้ำตาไหลไปตลอดทาง จนถึงชายทะเลที่เธอกับคิมหันต์มาฉลองครบรอบวันหมั้นกันที่นี่ เธอจอดรถคิดถึงความหลังอย่างเจ็บปวด

“นึกแล้วว่าคุณต้องอยู่ที่นี่...คุณหนีผมไม่พ้นหรอกมุกริน” คิมต์หันเข้าไปทักเธอที่รถ มุกรินเช็ดน้ำตา บอกว่าตนไม่ได้คิดจะหนี “งั้นคุณก็รอให้ผมมาหา...ใช่ไหม...คุณคงรู้ว่าดวงดาวต้องโทร.บอกผมว่าคุณหายตัวไป แล้วคุณก็มานั่งรออยู่ตรงนี้ รอว่าเมื่อไหร่ผมจะมาเสียทีใช่ไหม...”

ต่างคาดเดาใจกัน คิมหันต์รวบรัดว่า แปลว่าใจเราตรงกัน เขาก้มถามว่า

“คุณยังรักผมอยู่...คุณมาที่นี่เพื่อนึกถึงความหลังระหว่างเรา” มุกรินนิ่งกับการคาดคะเนของคิมหันต์ เขาเอ่ยต่อว่า “ผมเคยบอกคุณแล้วว่าถ้าคุณยังเลิกรักผม
ไม่ได้ คุณจะเดือดร้อน จะทุกข์ทรมาน คุณลืมแล้วเหรอ”

“ฉันไม่เก่งเหมือนคุณนี่ ฉันพยายามแล้ว ฉันอาจจะต้องใช้เวลา...แต่มันก็ไม่ได้หนักหัวคุณสักนิด ฉันจะรักคุณหรือเลิกรักคุณ มันก็ไม่มีผลอะไรกับคุณทั้งนั้น”

“มีสิ...เพราะผมก็ยังรักคุณอยู่...” มุกรินอึ้งถามว่ารู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา? “ผมพูดว่า ผมรักคุณ คุณคิดว่าผมจะตามมาทำไม ถ้าผมไม่รักคุณ”

มุกรินมองเขาอึ้ง คิมหันต์ก้มจูบเธออย่างอ่อนโยน ต่างกอดกันแนบแน่นด้วยความรักที่มีต่อกันอย่างลึกซึ้ง...

ooooooo

คืนนี้คิมหันต์กับมุกรินมีความสุขด้วยกันใน รีสอร์ตที่ชายหาด...ส่วนพักตราเธอมีความสุขมากกับการเตรียมงานหมั้นและลองชุดในงานหมั้น...

พักตราโทร.หาคิมหันต์ เขาถือโทรศัพท์ออกมาคุยถามว่าเมื่อตอนเย็นเธอโทร.มาหาหรือ ตนทำงานอยู่ รับไม่ทัน พักตราถามว่าส่งรูปลองชุดมา ดูหรือยังเขาไม่ตอบว่าดูหรือไม่แต่ชมว่าสวยดีนี่ครับ เธอให้เขาส่งรูปที่ถ่ายให้ดูบ้าง

“ผมยังถ่ายอะไรไม่ได้เลย อยู่ๆฝนก็ตกหนัก อากาศไม่ดี ผมอาจจะต้องอยู่ต่ออีกวันนึงนะพักตร์ ไม่งั้นงานไม่เสร็จเดี๋ยวมันจะไปยุ่งตอนงานหมั้นของเรานะ”

พักตราโอเคเสียงอ่อย บอกว่าตนก็ต้องเก็บตัวไม่ออกไปไหน จะได้สวยที่สุดในวันหมั้นของเรา

เมื่อกลับเข้ามาในห้องพัก คิมหันต์กับมุกรินต่างยังดื่มด่ำกับความสุขและความรัก มุกรินถามเขาว่ารู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองทำอะไรลงไป

“ผมรู้ตัวตลอดเวลา...ระหว่างเดินที่ทะเล ผมถามตัวเองว่า ทำไมไม่ทำอย่างนี้ตั้งนานแล้ว” มุกรินถามว่าสายไปแล้วใช่ไหม เขาบอกว่าผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อมุกรินเอ่ยขึ้นว่าเดี๋ยวเขาก็ต้องกลับไปหมั้นและหลังจากนั้น... คิมหันต์ขอร้องว่าอย่าพูดถึงเรื่องนั้น เธอถามว่าจะไม่พูดได้อย่างไรในเมื่อเรื่องของเรามีผลต่อคนเหล่านั้นโดยตรง

เมื่อต่างยอมเปิดใจรับว่าต่างก็ยังรักกัน คิมหันต์เสนอว่า เรามาสัญญากันดีไหม สัญญาว่าเมื่อเราอยู่ด้วยกัน เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่จะทำให้เกิดปัญหา มุกรินถามว่าเรื่องอะไรบ้าง?

“เรื่องพี่ชายคุณกับพี่สาวผม...เราจะลืมความบาดหมางเรื่องคดีความ ทิ้งมันไว้ข้างหลังเพื่อให้เรากลับมารักกันเหมือนเดิมได้ไหม” มุกรินบอกว่าตนพยายามจะทำอย่างนั้น แต่เขาปฏิเสธตลอด “ผมจะไม่ปฏิเสธอีกแล้ว ผมรู้แล้วว่าผมขาดคุณไม่ได้ ใครก็แทนที่คุณไม่ได้ และผมหวังว่าจะไม่มีใครแทนที่ผมได้เช่นกัน ใช่ไหม?”

เมื่อมุกรินพยักหน้า คิมหันต์จูบเธออย่างรักใคร่ต่างกอดกันด้วยความรักอีกครั้ง...

คิมหันต์โทร.บอกดวงดาวว่าตนเจอมุกรินแล้วและอยู่ด้วยกันที่รีสอร์ต ดวงดาวแสดงความยินดีด้วย คิมหันต์กำชับว่า

“ถ้าคุณอาของเธอกลับมา แล้วเกิดเขาเป็นห่วงน้องสาว คุณก็หาวิธีทำให้เขาสบายใจเอาเองก็แล้วกัน”

มุกรินฟังเขาคุยกับดวงดาวอยู่ เธอเปรยๆว่า

“คุณดวงดาวคงดูถูกมุกเหมือนที่มุกเคยดูถูกเขา”

“ไม่หรอก ดวงดาวเป็นคนสปอร์ต เข้าใจอะไรง่าย... ผมรู้สึกอย่างนั้นนะ”

เมื่อธาดากลับมา เขาถามดวงดาวว่าไปหามุกรินบ้างหรือเปล่า บอกให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันเสียตนเป็นห่วง ดวงดาวได้กลิ่นเหล้าถามว่าเมามาหรือ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า

“เปล่า...แค่เล่นเสียนิดหน่อย...นอนดีกว่า” แล้วธาดาก็ล้มตัวนอนทั้งเซ็งเสียพนันและเมา

ooooooo

เช้าตรู่ที่รีสอร์ต...คิมหันต์ตื่นขึ้นมาพบตัวเองนอนอยู่คนเดียว หันไปเห็นมีกระดาษแผ่นเล็กเขียนวางไว้ว่า

“อาหารเช้าอยู่บนโต๊ะ ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ มุกริน”

คิมหันต์ตกใจรีบลงไปที่ชายหาด เจอมุกรินเดินอยู่ชายหาด เขาทักอย่างร่าเริงว่า คงไม่คิดลุยน้ำหายไปเลยหรอกนะ

มุกรินบอกว่าตอนนี้ยังแต่อีกหน่อยไม่แน่ คิมหันต์หยอกว่าคิดจะทำเมื่อไหร่บอกด้วย ตนจะมาถ่ายคลิปลงยูทูบ ผู้คนจะได้จดจำความรักของเราไง เธอถามว่า “มุกตายคนเดียวมันจะเป็นความรักของเราได้ยังไง?”

“ใครบอก...ผมจะเดินตามลงไปด้วย...กอดคอไปตายด้วยกันเลยล่ะ...ตั้งกล้องทิ้งไว้ฝากให้ใครที่มาเห็นช่วย up load ให้” มุกรินหัวเราะขำบอกว่าเพ้อเจ้อแล้วล่ะ “ชีวิตคนเราก็เพ้อเจ้อทุกคนแหละมุก ไม่มีอะไรจริงสักอย่าง มันเป็นสมมติทั้งนั้น สมมติว่านี่คือเรา นั่นคือเขา นี่คือครอบครัว นั่นคนนอก นี่รักกัน นั่นเกลียดกัน สุดท้ายชีวิตก็จบลงด้วยการไม่มีอะไรติดตัวไปได้สักอย่าง”

“คิมคิดได้เองหรือมีใครสอน” มุกรินถามทึ่ง

“คิดได้ แต่ยังทำไม่ได้ ผมยังติดยึดกับโมหะ โทสะอยู่ ผมยังโกรธพี่ชายคุณอยู่ โกรธมากด้วย ผมฝันทุกคืนว่าผมฆ่าเขา บีบคอเขาจนตายคามือ”

“เราตกลงกันว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีกไม่ใช่เหรอ”

“ผมกำลังจะบอกว่า คุณคือที่พักใจของผม ผมพร้อมจะลืมทุกอย่างเมื่อเราอยู่ด้วยกัน ผมไม่อยากสูญเสียความสุขแบบนี้ไป” มุกรินบอกว่าตนก็เหมือนกัน “สัญญานะว่าเราจะยังคบกันแบบนี้นัดเจอกันแบบนี้”

“คุณยกเลิกงานหมั้นกับพักตราได้ไหมคะ” คิมหันต์บอกว่าตนก้าวมาไกลเกินกว่าจะทำอะไรได้แล้ว “งั้นมุกก็ไม่กล้าสัญญาหรอกค่ะ มุกไม่รู้ว่ากลับไปกรุงเทพฯจะต้องเจออะไรบ้าง”

“เจอผมไง จำไว้นะมุก เราจะมีที่ที่เป็นส่วนตัวระหว่างเราสองคน เพื่อให้ความรักของเราคงอยู่ตลอดไป”

“มุกจะพยายาม”

มุกรินรับปาก ทั้งสองกอดกันด้วยความรัก ท่ามกลางแสงอรุณและเกลียวคลื่น...

ooooooo


อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 8 ก.ย. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ