อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 8 วันที่ 18 ก.ย. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 8 วันที่ 18 ก.ย. 58

ดวงดาวไปคุยกับมุกริน บอกเธอว่าพรุ่งนี้บินสิบโมงเช้า คนละไฟลท์กับคิมหันต์ เขาบินไปก่อนตอนเก้าโมงเช้า มุกรินถามว่าตนควรไปหรือ? ดวงดาวบอกว่าอย่าถามตนเพราะมาตรฐานชีวิตและการต่อสู้ของเรามันต่างกัน

“ถ้าเป็นเธอ เธอคงไป” มุกรินถาม ดวงดาวบอกว่าถ้าไม่รักเอาช้างมาลากก็ไม่ไป มุกรินถามว่า “ความรักที่ต้องซ่อนเร้น หลบซ่อนมันจะมีความสุขหรือ”

“ความสุข ไม่ได้อยู่ใต้เงื่อนไขใดๆ นอกจากใจของตัวเอง จะหลบหน้าหรือเชิดหน้า จะปิดบังหรือเปิดเผย แล้วแต่เธอจะเลือก คิดเอานะ หมดหน้าที่ฉันแล้ว”



พอดวงดาวเดินออกไป มุกรินคิดหนัก ครู่เดียวก็หยิบมือถือขึ้นโทร.ออก...

“ฮัลโหล...พี่รภเหรอคะ...มุกพอจะขอลากิจอีกสามวันได้ไหมคะ”

ooooooo

คิมหันต์ไปถึงสนามบิน เขาโทร.ถามชุมสายว่าตกลง “เขา” จะไปหรือเปล่า?

“ไม่รู้ว่ะ ตอบไม่ได้จริงๆ” คิมหันต์ถามว่าไหนว่าจัดการเรียบร้อยแล้วไง “ก็จัดการฝากตั๋วเครื่องบินไปกับน้องดวงดาวแล้ว ส่วนคุณมุกจะไปหรือเปล่า ฉันไม่รู้เว้ย”

“เออ...เท่านี้นะ” คิมหันต์ตัดสาย ก็พอดีอรรถเดินมาโอบไหล่เขา พูดอย่างรู้ทันว่า

“ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ชายเต็มตัว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาค่อนชีวิต ฉันย่อมรู้ได้โดยไม่ยากว่านายต้องมีบางอย่างปิดบังลูกสาวฉันในระหว่างทริปนี้ ไม่ต่างจากฉัน ฉันจึงขอย้ำตรงนี้ว่า ฉันยอมนายครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น และอะไรก็ตามที่นายแอบทำ จะต้องไม่ทำให้ลูกสาวฉันช้ำใจ ไม่งั้น...นายจะซวยแบบที่ไม่เคยซวยมาก่อน เข้าใจนะไอ้ลูกชาย”

“ครับ”

พักตราเช็กอินให้ทั้งสอง แล้วเอาบอร์ดดิ้งพาสมาให้ หยอกเอินกันเล็กน้อยแล้วแยกย้ายกันไปขึ้นเครื่อง

ที่ทางเดินผู้โดยสารขาออก มือถือคิมหันต์มีข้อความเข้าว่า “มุกรินน่าจะถึงสนามบินแล้ว รอรับเธอด้วยนะรูปหล่อ”

คิมหันต์เหลียวมองไปรอบๆ พักตราเอะใจว่าเขามองหาใคร? พอคิมหันต์เดินเข้าไปข้างใน พักตราหันมองตามสายตาคิมหันต์เมื่อครู่ ก็เห็นมุกรินเดินมาในบริเวณโถงสนามบิน!

พักตราตรงรี่ไปเผชิญหน้าทันที ถามว่ามาที่นี่ทำไม มุกรินถามว่าทำไมตนจะมาไม่ได้ มีกฎข้อไหนของบริษัทห้ามหรือ พักตราบอกว่าไม่ได้ห้าม ย้ำถามว่า “ทำไมแกต้องมาตอนนี้...แกมาหาใคร บอกมาเดี๋ยวนี้!”

พักตราเสียงดังจนคนเริ่มหันมอง ปริมพยายามมารั้งพักตราไว้เรียกเตือนสติ พักตราตวาดไม่ต้องยุ่ง ตนต้องการรู้ว่ามุกรินมาที่นี่ทำไม ทั้งสองปะทะคารมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มุกรินยียวนว่าใครๆก็รู้ว่าคนมาทำอะไรที่สนามบิน ตนก็ไม่ต่างจากคนอื่น

“โกหก...แกมาหาคิมใช่ไหม ฉันเห็นนะว่าแกมองหาคิมอยู่ แกส่งข้อความหาเขาด้วยใช่ไหม คิมก้มดูโทรศัพท์แล้วก็มองหาแก พวกแกนัดกันที่นี่ใช่ไหม”

พักตราสรุปว่า มุกรินคิดจะไปเลยกับคิมหันต์ใช่ไหม ถูกมุกรินย้อนถามว่าถ้าไปแล้วมีปัญหาอะไรไหม

ยิ่งโต้เถียงกันอารมณ์ก็ยิ่งขึ้นจนกระทั่งตบตีกันในสนามบิน ปริมไม่มีแรงที่จะแยกทั้งสองออกจากกัน จน รปภ.ต้องมาจัดการ ท่ามกลางสายตาของคนในสนามบินที่มุงดูกันเป็นวงกว้าง...

ooooooo

คิมหันต์ไปถึงสนามบินจังหวัดเลยนานแล้ว เขาโทร.ถามดวงดาวว่าตกลงมุกรินมาหรือเปล่า ดวงดาวถามว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือ บอกให้ลองเข้าไปเช็กข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กดู เขาแชร์กันกระฉูดไปหมด

คิมหันต์เปิดดูในเฟซบุ๊ก เขาถึงกับอึ้งตกใจเมื่อเห็นคลิปการตบตีกันของพักตรากับมุกริน มีข้อความเผ็ดร้อนว่า “ตบแย่งผัว...” และอื่นๆที่เผ็ดร้อนไม่แพ้กัน

พอพักตรากลับถึงบ้าน อรรถอยู่ในโรงแรมที่ภาคใต้ก็โทร.มาคุยด้วย เธอโวยวายทันทีว่า

“พ่อคะ...พักตร์ไม่ยอม พักตร์ไม่ยอมจริงๆด้วย เพราะพ่อคนเดียว ไม่งั้นพักตร์ก็ขึ้นเครื่องไปกับคิมแล้ว...แต่เพราะพ่อบังคับให้พักตร์อยู่เฝ้าบ้าน มันเลยแอบนัดพบคิม”

“พักตร์...พักตร์เงียบ หยุดตะโกนแล้วฟังพ่อก่อน พ่อบอกให้หยุด!” พอพักตราสงบลง อรรถถามว่า “ลูกรู้ได้ยังไงว่าเขานัดกัน?”

พักตราอ้างว่าพวกเขามาสนามบินพร้อมกัน แต่ไม่เจอกันเพราะคิมหันต์ขึ้นเครื่องไปก่อนแล้ว

“นั่นไง...ไม่ได้เจอกัน ลูกคิดไปเองทั้งหมด แล้วก็ไปด่าเขา ไปตบเขากลางสนามบินอย่างนั้น นึกถึงหน้าพ่อบ้างสิลูก”

พักตราย้อนถามว่าแล้วมีใครคิดถึงหน้าตนบ้างไหม “พ่อคิดจนไม่รู้จะคิดยังไงแล้ว แต่พักตร์เป็นคนทำตัวเองทั้งหมด ข่าวกระจายไปทั่วว่าลูกนายพลตบสาวกลางสนามบิน พ่อเป็นคนทำเหรอ? พ่อปล่อยข่าวเหรอ? เปล่าเลย...ต้นเหตุมาจากตัวลูกเองทั้งนั้น เพราะลูกไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ”

ขณะที่อรรถโทร.คุยกับพักตรานั้น เด็กสาวที่ชื่อเทย่าในชุดสวยเดินมานั่งข้างๆเขา

“พ่อบอกให้คิมกลับมาหาพักตร์เดี๋ยวนี้เลยได้ไหม”

“จะกลับได้ยังไง เขาเพิ่งไปถึง งานเขายังไม่ได้เริ่มเลยมั้ง ลูกก็โทร.ไปหาเขาสิ” เธอบอกว่าโทร.ไม่ติด

“ก็โทร.ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะติด แล้วก็คุยกันดีๆ พ่อเชื่อว่า เขาไม่ได้มีนัดอะไรกันอย่างที่ลูกคิดหรอก แล้วถ้าคิดจะทำอะไรแบบนี้อีก ช่วยโทร.ปรึกษาพ่อก่อนด้วยนะ”

ระหว่างนั้นเด็กสาวที่มานั่งสีอยู่ข้างๆ ส่งเครื่องดื่มในแก้วสวยให้ อรรถยิ้มหวานให้รับไปดื่มอย่างชื่นอกชื่นใจ

พอพักตราวางสายจากอรรถ อึดเดียวก็มีข้อความเข้ามือถือ เธอรีบเปิดอ่าน

“อยู่ที่เลยแล้ว รีบทำงานก่อนนะครับ ว่างแล้วจะโทร.หา...คิมหันต์”

อ่านข้อความที่คิมหันต์ส่งมาแล้ว พักตรายิ้มออกอย่างอารมณ์ดี...

ooooooo

มุกรินกลับถึงออฟฟิศในสภาพมอมแมมมีรอยฟกช้ำตามเนื้อตัว พนักงานในออฟฟิศพากันมองและซุบซิบนินทา

สีดาเดินมาถามว่า ไหนว่าจะลากิจสามวันไง มุกรินไม่ตอบเดินผ่านไปที่โต๊ะ สีดาเดินตามไปถามว่า

“ใครตบใครก่อนน่ะ” มุกรินบอกให้ดูในคลิปเองสิ “ดูแล้ว มันไม่มีตอนแรก เห็นแต่ตอนที่ซีอีโอล้มตึงแล้วเธอจิกหัวเขากระแทกพื้นน่ะ”

มุกรินบอกว่าตนคงโดนไล่ออกในไม่กี่วันนี่แหละ สีดาแนะให้เธอไปหาปรารภก่อนเผื่อเขาจะช่วยได้

“ช่วยฉันเก็บของน่ะเหรอ หรือว่าช่วยหางานใหม่” มุกรินถามประชด

แต่มีเสียงตอบมาชัดๆจากปรารภพร้อมกับเจ้าตัวก้าวเข้ามาหน้าเข้มๆว่า

“ช่วยไม่ให้เราถูกกลั่นแกล้ง แต่มุกต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้พี่ฟังก่อน”

เมื่อเข้าไปนั่งคุยกันในห้องทำงานของปรารภ มุกรินถามว่าเขาอยากรู้เรื่องอะไร ปรารภบอกว่า

“ทุกอย่างที่ควรรู้” เห็นเธอถอนใจเบาๆ ปรารภพูดเรียบๆว่า “นี่พี่รภนะมุก พี่มีแต่ความหวังดีให้มุกเสมอมา...และมุกก็เคยสัญญาว่า มีปัญหาอะไรจะปรึกษาพี่ทุกเรื่อง”

“มุกยังไม่มีปัญหาค่ะ คนที่มีปัญหาคือพักตรา ไม่ใช่มุก”

ปรารภถอนใจอีกครั้งก่อนตัดสินใจถามตรงๆว่า “มุกไปหาคิมที่แอร์พอร์ตใช่รึเปล่า” พอมุกรินบอกว่าตนมีธุระที่นั่น ก็ถูกถามดักคอว่าธุระแบบเดียวกับที่โรงแรมม่านรูดรึเปล่า เห็นเธอตกใจและนิ่งไม่ตอบ ปรารภเสียงอ่อนลงว่า “ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอก นอกจากพี่ พี่ผิดหวังนะมุก พี่คิดว่าจะได้ยินจากปากมุกเอง”

“พี่ควรจะเลิกคาดหวังในตัวมุกได้แล้วค่ะ”

“มุกทำลายอนาคตตัวเองทำไม ทุกคนต้องมีช่วงเวลาที่รุ่งเรือง ตกต่ำ ช่วงที่สุข ช่วงที่ระทมทุกข์ นั่นคือชะตากรรม ชะตากรรมคือสิ่งที่เราไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ แต่สิ่งที่มุกกำลังทำอยู่นี้ มันคือการซ้ำเติมตัวเอง...มันเป็นกรรมใหม่ที่จะส่งผลไปในอนาคต”

“มันเป็นทางที่มุกเลือกค่ะ ไม่ว่าพี่รภจะมีบุญคุณกับมุกยังไง พี่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะสั่งว่ามุกต้องทำอะไร”

เป็นคำตอบที่ทำให้ปรารภอึ้ง พูดไม่ออกอีกเลย

ทันใดนั้น ธาดาพรวดเข้ามาถามว่าพักตราอยู่ไหนตนจะตบมัน! มุกรินบอกว่าเขาไม่อยู่ ธาดาถามว่าเธอไปสนามบินทำไม มุกรินหน้าตึงย้อนถามทั้งธาดาและปรารภว่า ทำไมทุกคนถึงอยากรู้ว่าตนไปสนามบินทำไม ถามอย่างมีอารมณ์ว่า

“พวกคุณต้องการรู้แค่นี้ใช่ไหม มุกติดต่อใคร มุกคบกับใคร มุกเป็นชู้กับใคร แค่นี้ใช่ไหม พวกคุณเคยสำรวจตัวเองบ้างไหมว่า ชีวิตนี้เคยทำอะไรผิดมาบ้าง แล้วรู้ไหมว่าทำทำไม ทำเพราะอะไร แต่สำหรับมุก มุกทำทุกอย่างด้วยความรู้สึกด้วยหัวใจ ถ้ามันจะมีอะไรผิดพลาดบ้าง มันก็เป็นชีวิตของมุก ไม่เกี่ยวกับใคร เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งกับมุกทีเถอะ”

มุกรินหุนหันเดินออกไป ธาดาร้องเรียก แล้วจู่ๆ เขาก็ปวดหัวและหงายหลังล้มตึง มุกรินตกใจวิ่งมาประคองร้องเรียก

“พี่ใหญ่...”

ooooooo

มุกรินกับดวงดาวเฝ้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พอหมอออกมา มุกรินถามว่าคนป่วยเป็นอย่างไรบ้าง

“ตอนนี้คนไข้หายปวดหัวแล้วนะครับ แต่แกไม่ยอมให้ตรวจ ไม่ยอมเอกซเรย์อะไรทั้งสิ้น หมอเลยตอบไม่ได้ว่าเป็นยังไง”

เมื่อธาดาไม่ยอมให้เอกซเรย์แต่อาการดีขึ้น หมอจึงสั่งยาและให้กลับบ้านได้ พอมุกรินกับดวงดาวเข้าไปในห้อง ธาดาบ่นว่าทีหลังถ้าตนปวดหัวไม่ต้องพามาส่งโรงพยาบาล ปวดเองก็หายเองได้ไม่เห็นต้องพึ่งหมอเลย ดวงดาวถามว่าไม่อยากรู้หรือว่าเป็นอะไร

“ทำไมอาจะไม่รู้ ปวดหัวเพราะยายมุกน่ะสิ” ธาดาบอกแล้วหันไปทางมุกริน “แกลาออกจากบริษัทเมื่อไหร่พี่หายปวดหัวเมื่อนั้นแหละ” มุกรินไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยเลยขอไปจ่ายค่ายา ธาดาถามดวงดาวทันทีว่า “ยายมุกยังติดต่อกับไอ้คิมอยู่ใช่ไหม”

ดวงดาวถามว่าทำไมเขาไม่ถามมุกรินเอง เขาบอกว่ามุกรินไม่มีทางบอกความจริงหรอก

“อย่าให้รู้นะว่ามันยังแอบไปมีอะไรกันอีก” ดวงดาว ถามว่าถ้ารู้แล้วจะทำยังไง “ฆ่ามัน!!” ธาดาคำราม

ดวงดาวถามว่าเขาชอบแก้ปัญหาด้วยการฆ่าหรือ? คิดว่าจะรอดง่ายๆเหมือนคราวก่อนหรือ? ธาดาชะงักมองหน้าถามเสียงเข้มว่าพูดอะไร! คราวก่อนอะไร!? ดวงดาวพูดลอยๆว่าอย่าคิดว่าความลับจะมีในโลก ทำให้ธาดาถามเครียด

“ความลับอะไร...เรารู้อะไรมา บอกมาเดี๋ยวนี้”

“หนูรู้จักคนชื่อไอ้ขุม และหนูรู้ความลับระหว่างอากับไอ้ขุมก็แล้วกัน...แต่อาไม่ต้องกลัวนะ หนูไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่คนเดียว” พูดแล้วดวงดาวเดินออกไปอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร

ooooooo

พักตราโทร.เช็กคิมหันต์บ่อยเท่าที่เธอยากโทร. ยิ่งโทร.ไม่ติดหรือเขาไม่รับสายก็ยิ่งระดมโทร.จนค่ำโทร.ติดเธอถามทันทีว่าเขาอยู่ไหน ทำไมโทร.ไม่ติดเลย นัดใครไว้ที่สนามบินหรือเปล่า

คิมหันต์บอกว่ากำลังจะกลับ โทร.ไม่ติดอาจเพราะอยู่ในหุบเขาสัญญาณไม่ดี เธอถามอีกว่าเห็นคลิปหรือยัง พอเขาบอกว่าคุยกับพ่อเธอแล้ว ก็ถามอีกว่า “คิมไม่ได้โกหกพักตร์ใช่ไหม”

“ผมจะโกหกทำไมล่ะ ถามพ่อคุณดูก็ได้”

“พักตร์นอนล่ะ ปวดหัวมากเลย พรุ่งนี้จะโทร.ไปหาใหม่นะ...กู๊ดไนท์”

คิมหันต์อยู่ในรถตู้ เขาถอนใจเครียด

ฝ่ายดวงดาวรู้เรื่องทั้งหมดของมุกริน ถามเธอว่าอุตส่าห์ลงทุนตามไปจนตบตีกันขนาดนี้ทำไมไม่ขึ้นเครื่องตามเขาไปล่ะ มุกรินบอกว่าตนไม่ได้คิดจะขึ้นเครื่องอยู่แล้วแค่อยากไปเห็นกับตาว่าเขาไปด้วยกันหรือเปล่าเท่านั้น ดวงดาวถามประชดว่าจะนางเอกไปถึงไหน

“เรื่องนี้คงไม่มีนางเอก ไม่มีพระเอก มีแต่คนธรรมดาๆสามัญชน ที่มีโลภ โกรธ หลง มีกิเลสที่ยังตัดไม่ขาดด้วยกันทั้งนั้น” ดวงดาวชวนหนีไปที่อื่นกันไหม ไปถือศีลกินเจ ไปหาที่สร้างบุญสร้างกุศลแผ่เมตตาให้กับสัตว์โลก มุกรินมองหน้าถาม “เธอจะไปกับฉันเหรอ...เป็นทอมรึเปล่าเนี่ย”

“อยากลองอยู่เหมือนกัน ฉันก็เบื่อชีวิตตัวเองเหมือนกันนะ ไอ้การอยู่แบบมีความสุขไปวันๆอย่างฉันมันเหมือนไม่ค่อยมีอนาคต บางวันมันก็น่าเบื่อมากเลย”

“เพราะเธอยังไม่เจอคนที่จะสร้างฝันร่วมกับเธอมั้ง”

“รู้ได้ยังไงว่ายังไม่เจอ” พอมุกรินมองหน้าอย่างค้นหา ดวงดาวพูดเป็นนัยว่า “ฉันอาจจะเจอแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้...นอนล่ะ” ดวงดาวลุกจะออกไป มุกริน ถามว่า พี่ใหญ่หรือ? เธอหันตอบหยันๆว่า “ตอนนี้เขาอยู่ไหนฉันยังไม่รู้เลย เพราะฉะนั้น ฉันหนีเขาไปได้ง่ายๆ เลยนะเนี่ย” พูดแล้วออกไป ปล่อยให้มุกรินคิดเดาเอาเอง

ธาดาอยู่ที่บ่อนเสี่ยอ๋ายิ่งเล่นเสียแล้วเสี่ยอ๋าให้เครดิตไม่อั้นก็ยิ่งมัวเมา จนวันนี้การ์ดที่บ่อนถามว่าวันนี้มีมาเท่าไร พอเขาบอกว่าเยอะ การ์ดถามว่าทำงานอะไร

ถึงได้ขนเงินมาทิ้งที่นี่ได้เรื่อยๆ

“นี่หยามกันเหรอ?” ธาดาเลือดขึ้นหน้า การ์ดรีบบอกว่าเปล่าแต่ถ้าหมดแล้วยืมเสี่ยอ๋าบ้างก็ได้ จะได้ไม่เอาเงินเก็บสะสมมาใช้เดี๋ยวครอบครัวพี่จะเดือดร้อน ถูกธาดาด่าว่าไม่ต้องมาเอือกกับกูได้ไหม แล้วเดินหัวเสียไปที่โต๊ะพนัน

ooooooo

มุกรินกับดวงดาวยังไม่ทันนอน ก็มีเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น มุกรินออกจากห้องมาเจอดวงดาวถามว่าพี่ใหญ่ลืมเอากุญแจบ้านไปหรือ

“เมามั้ง...เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูเอง” ดวงดาวเดินออกไปเปิดประตู ครู่หนึ่งกลับมามุกรินถามว่าพี่ใหญ่ล่ะ? “ไม่ใช่พี่ใหญ่...เขามาหาเธอ”

คนที่เดินตามดวงดาวเข้ามาคือคิมหันต์นั่นเอง! เขาบอกหน้าตายว่าเธอตกเครื่องตนเลยมารับที่นี่

“คู่หมั้นคุณมาด้วยหรือเปล่า” มุกรินถาม

“เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกลับมากรุงเทพฯแล้ว”

ดวงดาวชงกาแฟมาให้ที่โต๊ะเตือนทั้งสองว่ามีอะไรก็รีบคุยเสียให้เสร็จก่อนเจ้าของบ้านกลับมา ถามว่า ต้องการสักขีพยานไหม เห็นทั้งสองนิ่ง ดวงดาวเดินออกไปพลางบอกว่าถ้าต้องการก็เรียก ตนจะดูต้นทางให้

ที่แท้คิมหันต์หนีกลับมาอย่างสบายใจ เพราะมีข้อตกลงกับอรรถไว้แล้วว่าจะไม่ให้พักตราตามไป ส่วนเรื่องงานตนฝากผู้ช่วยทำแทนแล้ว

คิมหันต์มาหว่านล้อมให้มุกรินลาออกจากงานและไปสร้างครอบครัวด้วยกัน เพราะเราเคยทำเกือบสำเร็จมาแล้ว

มุกรินติงว่าตอนนี้กับตอนนั้นไม่เหมือนกัน ตอนนี้ ทุกอย่างมันยุ่งเหยิงซับซ้อนกว่ากันมาก

“มันจะวุ่นวายอีกไม่เกินอาทิตย์เดียวเท่านั้น รอให้พ่อเขากลับมา ผมจะเป็นคนบอกเลิกทุกอย่างเองผมสัญญา”

มุกรินติงว่ากว่าจะถึงวันนั้นทั้งพักตราและธาดาคงก่อเรื่องอีกมากมาย คิมหันต์จึงชวนไปอยู่ด้วยกันเสียตั้งแต่ตอนนี้

“คุณกำลังชวนฉันหนีออกจากบ้าน?”

“ถ้าคุณปฏิเสธ...ผมก็คงต้องฉุด...” มุกรินนิ่งคิด มองไปเห็นดวงดาวเดินเข้ามาใกล้ คิมหันต์เร่ง “เราจะเสียเวลาปล่อยให้ชีวิตแต่ละวันผ่านไปอย่างไม่มีความสุขทำไม เราทั้งคู่ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว นอกจากตัวเราเองนะมุก”

มุกรินมองไปที่ดวงดาว ฝ่ายนั้นถามว่าต้องการความเห็นไหม มุกรินเดาได้ว่าดวงดาวจะพูดอย่างไร บ่นคิมหันต์ว่าไม่มีทางเลือกให้ตนเลย

“หัวใจเราเลือกไปแล้วมุก...เชื่อหัวใจเราเถอะ”

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ปรารภยังไปไม่ถึงที่ทำงานก็ได้รับโทรศัพท์จากสีดาเลขาของเขา ฟังแล้วเขาตกใจบอกสีดาว่า

“บอกเขาว่าให้รอเจอฉันก่อน อย่าเพิ่งไปไหน รอเจอฉันให้ได้ บอกเขาเดี๋ยวนี้เลยสีดา”

เมื่อสีดาเดินมาบอกมุกรินที่โต๊ะว่าให้รอปรารภก่อน เธอบอกสีดาว่าไม่จำเป็นเพราะยังไงเขาก็เปลี่ยนความคิดตนไม่ได้ สีดาถามว่าคิดดีแล้วหรือ

“อืมมม...ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะสีดา ฉันไม่ได้ใช้อารมณ์ ฉันใช้เหตุผลและสติทั้งหมดของฉัน”

ทันใดนั้นเสียงพักตราก็แจ๋แทรกเข้ามาเยาะเย้ยว่า

“มุกริน คุรุรัตน์ ไม่น่าเชื่อว่าริ้วรอยที่หน้ายังไม่หาย นึกว่าหน้าด้านหน้าหนาอย่างเธอจะทนมือทนตีนกว่านี้เสียอีก”

นาทีนี้มุกรินไม่กังวลกับอะไรอีกแล้ว หลังจากด่าทอท้าทายกันแล้ว มุกรินเดินเฉียดพักตราไป บอกว่าตนลาออกแล้ว “เพราะฉะนั้น นับจากวันนี้ เราเท่ากับไม่ใช่ลูกจ้างนายจ้างกันอีกต่อไป ถ้าพูดไม่เข้าหู ฉันอาจตบแกก่อนก็ได้”

พอมุกรินเดินออกไป พักตราก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาประกาศอย่างสะใจ

“ทุกคนฟังนะ มันลาออกแล้ว มันลาออกเอง โดยที่ฉันไม่ต้องไล่ออก ฮ่าๆๆๆ”

มุกรินขนของไปที่รถ เจอปรารภที่ลานจอดรถพอดี เขาถามว่าทำไมไม่ปรึกษาตนก่อน

“มุกรู้ว่าพี่รภจะแนะนำยังไง...แต่มุกรู้ว่ามุกต้องการอะไร”

“พี่ก็รู้ว่าพี่เปลี่ยนความคิดมุกไม่ได้ พี่อยากขอโอกาสให้ความคิดอีกมุมนึงกับมุก อย่างน้อยให้มันได้ผ่านหูมุก เผื่อวันข้างหน้า มุกอาจจะเห็นด้วยกับความคิด ของพี่และระลึกได้ว่า พี่มีความปรารถนาดีกับมุกแค่ไหน”

มุกรินบอกว่าตนรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับตน ชมว่าเขาเป็นคนดี ผู้หญิงที่ทิ้งเขาไปน่าจะตัดสินใจผิดพลาดที่ทิ้งผู้ชายดีๆอย่างเขาไป ปรารภซึ้งจนน้ำตาไหล พูดอย่างสะเทือนใจว่า

“งั้นพี่ขอพูดประโยคเดิมที่พี่เคยพูดและไม่เคยเปลี่ยนแปลง เมื่อไหร่ที่มุกมีปัญหาไม่ว่าจะมากหรือน้อย มุกจะมีพี่รภยืนอยู่ข้างๆเสมอ และพร้อมที่จะช่วยเหลือมุกเต็มกำลัง อย่าลืมพี่นะมุก...” เขาหยุดมองเธอนิ่งก่อนตัดสินใจถาม “มุกยังรักเขาอยู่ใช่ไหม...คิมหันต์เป็นผู้ชายที่โชคดี พี่อิจฉามันจริงๆ”

“พี่รภไม่ได้ดีน้อยกว่าเขาหรอกค่ะ...ถามลูกชายพี่ดูได้” มุกรินกอดลาปรารภ เป็นกอดอย่างน้องสาวที่กอดพี่ชาย

แล้วมุกรินก็โทร.หาธาดาโดยไม่รู้ว่าเขากำลังหงุดหงิด ที่เล่นเสียอยู่ในบ่อนเสี่ยอ๋า เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่เหน็บนิดๆว่าตนลาออกจากงานแล้วเพื่อเขาจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับตนอีก พูดแล้วตัดสายทันทีอย่างไม่ต้องการฟังอะไรจากพี่ชายอีก

ฝ่ายพักตราโทร.ไปบอกอรรถด้วยน้ำเสียงแจ่มใสว่ามุกรินลาออกจากงานแล้ว ลาออกเองตนไม่ได้ไล่ออก

“ดีแล้วลูกให้เขาออกเองอย่างนี้แหละดีแล้ว ต่อไปนี้จะได้เลิกตบตีกันเสียที แล้วบอกคู่หมั้นเรารึยัง” เธอบอกว่ายังโทร.ไม่ติด “ลูกปล่อยให้เขาทำงานไปก่อนเถอะ กลับมาค่อยคุยกันก็ได้”

ระหว่างคุยกับพักตรานั้น เทย่าเด็กสาวคนนั้นกำลังนวดเค้นเขาอยู่บนเตียง แต่พอพักตราถามว่างานของพ่อเป็นอย่างไรบ้าง อรรถพูดอย่างลื่นไหลไร้พิรุธว่า

“โอ...แดดร้อนสุดๆ โชคดีที่นายทหารอย่างพ่อดำอยู่แล้ว ไม่งั้นคงมีหวังหนังลอก...นี่กำลังเดินดูที่อยู่กลางแดดนะเนี่ย เท่านี้ก่อนนะลูก” อรรถวางสายจากพักตรา นอนให้เทย่า “นวด” ให้อย่างถึงใจ

ooooooo

ธาดาเล่นเสียหมดครั้งแล้วครั้งเล่า เสี่ยอ๋า บอกว่าเขาไม่มีดวงทางนี้ถ้าไม่มีตัวช่วยก็แย่ ชวนดื่มอะไรหน่อยไหม ธาดาบอกว่าตนอยากเล่นต่อ เสี่ยอ๋าไม่ขัดข้องแต่ในเงื่อนไขเดิม

ลูกน้องเสี่ยอ๋าเอาเหล้าขวดใหญ่สามขวดมาวางตรงหน้า ย้ำว่า “ถ้าคุณโอเคในเงื่อนไข ผมก็ยื่นเงินให้เลยง่ายๆ”

“งั้นผมขอไปหาที่เงียบๆที่อื่นกินดีกว่า” ธาดา คว้าเหล้าทั้งสามขวดเดินออกไปจากบ่อน ครู่หนึ่งขุมก็เดินเข้ามา การ์ดบอกว่าลูกพี่เขาเพิ่งออกไปเมื่อกี๊นี้เอง

“เขาออกไปฉันถึงได้เข้ามาไง” ไอ้ขุมบอก การ์ดถามว่าทำไมไม่มาพร้อมกันล่ะ “ลูกพี่แม่งชอบขอแบ่งกำไรว่ะ”

ไอ้ขุมตรงไปนั่งที่โต๊ะพนัน มันไม่รู้ว่าถูกเสี่ยอ๋าจับตาดูอยู่ตลอดเวลา

ooooooo

ดวงดาวถามมุกรินว่าคิมหันต์บอกหรือเปล่าว่าจะพาไปอยู่ที่ไหน มุกรินบอกว่าคงเป็นบ้านเช่าที่ไหนสักแห่ง

“ต้องอยู่แบบโผล่หน้าไปไหนไม่ได้ด้วยรึเปล่า” มุกรินถามว่าตอนเธอคบกับพี่ใหญ่ต้องทำอย่างนั้นหรือ “ไม่มีใครรู้จักฉัน ส่วนใหญ่เขาคิดว่าฉันเป็นลูกสาวคุณธาดา”

มุกรินถามว่าเธอรักพี่ใหญ่บ้างไหม ดวงดาวนิ่ง พอมุกรินถามว่าไม่คิดจะจริงจังกับพี่ใหญ่เลยหรือ ก็ถูกย้อนถามว่า

“เธอลองนึกภาพดูสิ ว่าฉันจะฝากชีวิตไว้กับคนอย่างเขาได้ไหม เราจะมีเวลานอนกอดกันนิ่งๆ ไม่ต้องพูดอะไรมาก ไม่ต้องกินเหล้า ไม่ต้องเมา แต่เต็มไปด้วยความสุข หรือเล่นกีตาร์ร้องเพลงด้วยกันสักวันละเพลงได้บ้างไหม เธอคิดว่าคุณธาดาเขาจะทำอะไรแบบนี้เป็นเหรอ?”

ดวงดาวบอกว่าที่ตนยอมอยู่กับธาดาก็เพราะเขาเหมือนผู้ปกครอง แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง เด็กๆก็ชอบที่จะหนีพ่อหนีแม่ หนีผู้ปกครองเพื่อออกไปเผชิญชีวิตข้างนอกเหมือนกันนะ มุกรินขอร้องว่าถ้าถึงวันนั้นให้เธอมาหาตนได้ไหม

ดวงดาวไม่ตอบลุกเดินออกไป อึดใจเดียวก็กลับมาหน้าตาตื่นเต้นบอกว่าธาดากลับมา ทำไมวันนี้กลับเร็วก็ไม่รู้

ธาดาร้องโหวกเหวกเข้ามาร้องถามว่าสาวๆไปไหนหมด ให้ออกมาเห็นหน้ากันหน่อย วันนี้ตนจะฉลอง พอดวงดาวบอกว่ามุกรินนอนแล้วก็บ่นว่าหลับแต่วันได้ยังไง ให้ไปปลุกมาฉลองกันหน่อย

มุกรินโทรศัพท์พูดเบาๆกับคิมหันต์อยู่ในห้องว่าอย่าเพิ่งเข้ามา พี่ใหญ่กลับมาแล้วกำลังเมาด้วย คิมหันต์บอกว่าเห็นแล้วตนอยู่หน้าบ้านนี่เอง

“รอมุกก่อนนะ มุกไม่อยากให้มีเรื่องวันนี้”

“เข้าใจ...ผมรอได้มุก รอได้เสมอ” คิมหันต์อยู่ในรถแท็กซี่ที่จอดอยู่หน้าบ้าน

ooooooo

ธาดาจะให้ดวงดาวไปลากมุกรินออกมาฉลองกันให้ได้ มุกรินออกมาแต่ขอร้องพี่ชายวันนี้อย่าเพิ่งฉลองเลยเพราะมันเหมือนกับฉลองตนตกงาน เอาไว้ได้งานใหม่ค่อยฉลองกันดีกว่า

เมื่อธาดาจะฉลองให้ได้ มุกรินออกมาหว่านล้อมว่าเมื่อวานเขาเพิ่งเป็นลมมา ไม่น่ากินเหล้าอีกเลย พูดขู่ๆว่าพี่ใหญ่อยากอายุสั้นหรือ ธาดาคุยโวว่า “พี่ยังอยู่ดูแลมุกได้อีกนาน อย่าหนีพี่ไปก่อนก็แล้วกัน”

“คนแรกที่จะหนีพี่ใหญ่ไม่ใช่มุกหรอก โน่น...ระวังเถอะ สักวันเขาจะทนพี่ใหญ่ไม่ได้” มุกรินเบนความสนใจของธาดาไปที่ดวงดาว ธาดาถามดวงดาวว่าทนตนไม่ได้หรือ

“หนูไม่ทนอยู่แล้ว ไม่ถูกใจเมื่อไหร่ หนูก็ไปเมื่อนั้น” พูดแล้วเดินล่อธาดาเข้าห้องนอน ธาดาหลงกลเดินตามเข้าไป ถูกดวงดาวทั้งยั่วทั้งอ้อนจนธาดาลืมเรื่องมุกริน ระหว่างนั้นดวงดาวแอบดูเห็นมุกรินหิ้วกระเป๋าเดินผ่านหน้าห้องไป

คิมหันต์ขับรถของมุกรินพาเธอออกจากบ้านไป เธอถามว่า “คิมยังไม่บอกมุกเลยว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน”

“ผมอยากผูกตาคุณ แล้วค่อยเปิดตอนที่เราไปถึง” คิมหันต์อำอ่อนโยน มุกรินจึงขอหลับก่อนดีไหม “ได้เลย ถึงเมื่อไหร่ผมจะปลุกมุกขึ้นมาดูบ้านของเรา”

มุกรินยิ้ม เอียงหัวพิงไหล่เขาหลับตาอย่างอบอุ่น มีความสุข มีเพลงรักจากวิทยุในรถขับกล่อมตลอดทาง...

ooooooo

คิมหันต์ขับรถพามุกรินมาจอดที่หน้าบ้าน เขาก้มลงปลุกเธออย่างอ่อนโยน

“มุก...มุก...ถึงแล้ว” เธอถามทั้งที่ยังหลับตาอยู่ว่าถึงไหนหรือ คิมหันต์ยิ้ม... “มุกอย่าเพิ่งลืมตานะ” แล้วเขาก็ลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูด้านที่เธอนั่ง ค่อยๆ อุ้มเธอลงจากรถ พาเดินเข้าไปในบ้าน...

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 8 วันที่ 18 ก.ย. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ