อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 5 วันที่ 10 ก.ย. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 5 วันที่ 10 ก.ย. 58

คิมหันต์กลับมาถึงบ้านก็นั่งเลือกรูปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ชุมสายเดินเข้ามายืนข้างหลังเขาบอกว่าตนได้ข้อมูลนักศึกษากลุ่มนั้นแล้ว

“ข้อมูลว่าไง” คิมหันต์ถามโดยไม่ละสายตาจากจอคอมพ์

ชุมสายบอกว่าเป็นนักศึกษาที่มาถ่ายหนังสั้นเกี่ยวกับฝน พวกเขาตั้งกล้องอยู่ในซอยนี้นานหลายชั่วโมง ตั้งแต่ก่อนฝนตกจนฝนหยุด คิมหันต์ถามว่านัดเจอพวกเขาหรือยัง?

“กำลังติดต่อไปที่มหาวิทยาลัย น่าจะได้รายละเอียดมากขึ้นเร็วๆนี้ นั่นแกทำอะไรน่ะ”


คิมหันต์บอกว่าเลือกรูปทะเลเก่าๆที่เคยถ่ายไว้ ชุมสายถามว่าจะเอาไปขายหรือ เขาบอกว่า “เอาไปให้ พักตราดู”

“อ๋อ...ที่แกอ้างว่าไปถ่ายรูป...ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้ไปถ่ายรูป แกเริ่มทำตัวเป็นผัวแอบมีเมียน้อยนะ” คิมหันต์โต้ว่าจะเหมือนได้อย่างไรในเมื่อตนยังไม่ได้แต่งงาน “งั้นแกก็ไม่ควรแต่งงาน...ซึ่งที่จริงไม่ควรหมั้นเลยด้วยซ้ำ”

“แกอย่ามารู้ดีกว่าฉัน ว่าฉันควรทำ หรือไม่ควรทำอะไร” คิมหันต์ตัดบทลุกเดินออกไป

ooooooo

มุกรินไปทำงานเช้านี้ สีดาทักว่าหน้าตาสดใสดี หยอกว่าได้ยาดีมาหรือ

มุกรินบอกว่าเปล่าแค่ได้พัก ได้ชาร์จแบตเตอรี่เท่านั้น สีดาติงว่าเจ้านายบอกว่าส่งเธอไปเก็บข้อมูลต่างจังหวัด? มุกรินเลยผสมโรงว่านั่นแหละก็ได้พักไปด้วย สีดาบอกให้แวะไปหาเจ้านายหน่อย เห็นถามหาทุกวันเลย เมื่อเช้าก็ถาม

มุกรินไปที่ห้องปรารภ เขาทักว่าหน้าตาดูดีกว่าสองวันก่อน เธอถามว่าเขาบอกใครๆว่าส่งตนไปเก็บข้อมูลหรือ

“ใช่...พี่ไม่อยากให้มุกใช้วันลาจนหมดน่ะ เก็บไว้ตอนจำเป็นดีกว่า ทีนี้ก็เอาข้อมูลที่ได้มาให้พี่ดูหน่อย” เห็นมุกรินทำหน้างง เขาบอกว่า “พี่หมายถึงให้มุกเล่าให้ฟังซิว่าไปทำอะไรที่ไหนมาบ้าง”

มุกรินบอกว่าก็ไปนั่งเฉยๆ ปล่อยให้จิตใจสงบและทำความเข้าใจอะไรๆมากขึ้น เขาแนะนำว่าเธอไม่ควรอยู่ที่นี่ในระหว่างงานหมั้นของพวกเขา มุกรินบอกว่าไม่เป็นไร ตนทำใจได้แล้ว

“แน่ใจหรือ...เป็นพิธีกรในงานเขาเลยนะ ต้องพูดถึงความรักของเขาทั้งสองด้วย” เมื่อเธอยืนยันว่าทำได้ ปรารภสรุปว่า “ถ้าทำได้อย่างนั้นก็แปลว่ามุกไม่รักนายคิมหันต์อีกแล้วใช่ไหม”

“เอ่อ...” มุกรินอึกอัก พอถูกย้ำถามเธอบอกว่า “มันอาจจะเร็วไปที่จะพูดอย่างนั้น มุกต้องยอมรับมันให้ได้ค่ะ”

ปรารภชวนไปเชียงรายด้วยกัน ตนจะใส่ชื่อเธอไปทำงานที่เชียงรายด้วย มุกรินขอคิดดูก่อน

“งั้นวันนี้ไปกินข้าวกับพี่นะกินไปคิดไปไง” แล้วพากันเดินผ่านทางระเบียงไป

ooooooo

เลือกรูปแล้วคิมหันต์เอาไปให้พักตราบอกว่าตนเซฟมาให้เธอในแฟลชไดรฟ์นี่แล้ว เธอบ่นว่าตัวดำเชียว ชวนไปนวดตัว เขาไม่เอาบอกว่าเขินหมอนวด เธอจึงชวนไปลองชุด แล้วโทร.นัดช่าง คิมหันต์จึงไปรอข้างนอก

ที่ทางเดินหน้าห้องทำงานพักตรานั่นเอง คิมหันต์เห็นมุกรินเดินคุยหัวเราะมากับปรารภอย่างสนิทสนม เขาหน้าตึงทันที พอมุกรินเดินผ่านเธอยิ้มให้ เขากลับเมินเฉย ซ้ำยังพูดเหน็บว่า

“เพิ่งรู้ว่างานของคุณคือเดินเล่นหัวเราะเล่นกับเจ้านาย ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนก็ทำงานอย่างนี้หรือเปล่า หรือว่าเพิ่งเป็นหลังจากโดนถอนหมั้น”

มุกรินหน้าชากับคำพูดและท่าทีของคิมหันต์ที่ต่างกับเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง เธอตอบหน้านิ่งๆว่าตนทำงานเหมือนที่เคยทำทุกอย่าง ยังถูกคิมหันต์กระแนะกระแหนว่ามิน่าถึงชอบเข้าออฟฟิศดึกๆดื่นๆเสมอ ตนเพิ่งรู้ความจริงเดี๋ยวนี้เอง

ปรารภทนไม่ได้ติงว่าพูดจากับผู้หญิงไม่สุภาพเลยนะ ถูกสวนทันควันว่าตนจะสุภาพหรือไม่สุภาพไม่เกี่ยวกับพ่อม่ายอย่างเขา ก็พอดีพักตราออกมา เธอทักมุกรินและเหน็บปรารภว่า รู้ไหมว่าผู้จัดการบ่นคิดถึงเธอขนาดไหน ปรารภแก้ว่าไม่ได้บ่นแค่ถามถึงตามหน้าที่เท่านั้น

“เหอะน่า...อย่าอาย...อ้อ...แล้วก็อย่าลืมนะมุก เธอต้องเป็นพิธีกรงานหมั้นของฉันกับคิม”

มุกรินตัดสินใจบอกว่าตนจะไปงานที่เชียงรายกับปรารภสามอาทิตย์ ปรารภช่วยย้ำว่าตนบอกเธอแล้ว พักตราไม่พอใจบอกว่าตนสั่งให้เปลี่ยนคนแล้วไง มุกรินอ้างว่า ประสานงานกับทางโน้นไว้แล้วเปลี่ยนคนจะดูไม่ดีกับบริษัท

“ไปกันสองคนตามลำพังสามอาทิตย์เชียวเหรอ” พักตราทำหน้าล้อๆ พอมุกรินบอกว่าใช่ เธอพูดยิ้มๆ “ดีใจด้วยนะคะคุณปรารภ”

“ขอให้มีความสุขสุดยอดตลอดสามอาทิตย์นะครับ” คิมหันต์แทรกขึ้นจ้องหน้ามุกรินเขม็ง

“เช่นกันค่ะ” มุกรินสวนทันที แล้วพักตราก็ควงคิมหันต์เดินเฉิดฉายไป มุกรินมองตามทั้งโกรธ ทั้งเกลียด

ooooooo

ในช่วงเวลาเพียงสองวันที่ผ่านมา ทั้งมุกริน คิมหันต์ และพักตรา ต่างอยู่ในอารมณ์และความนึกคิดของตัวเอง...

ขณะมุกรินเดินเล่นที่ชายหาด เธอคิดเหมือนเตือนตัวเองว่า...

“ทุกย่างก้าวของชีวิตคนเรา ล้วนเต็มไปด้วยการตัดสินใจไม่เว้นแต่ละวัน ในแต่ละช่วงชีวิต เราจะพบกับ เรื่องดีหรือร้าย อยู่ที่การตัดสินใจนั้น ผิดหรือถูก...”

คิมหันต์ที่ขับรถมุ่งสู่กรุงเทพฯ แววตาที่จ้องไป เบื้องหน้า ครุ่นคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมา...

“การกระทำแบบเดียวกัน อาจเกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเพราะความรัก หรือเพราะความแค้น ก็สามารถเป็นต้นเหตุของพฤติกรรมแบบเดียวกันนั้นได้...” เขานึกถึงพักตราที่ลองชุดหมั้นอย่างมีความสุข คิดมุมกลับว่า “วันที่มีความสุขที่สุด อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความทุกข์ที่สุดก็เป็นได้...ใครจะรู้...”

ooooooo

เพียงเย็นนี้เอง เมื่อมุกรินกลับถึงห้องพัก ก็เจอคิมหันต์พุ่งตามเข้าไปแล้วปิดประตูทันที!

มุกรินตกใจตั้งตัวไม่ทันถามว่าจะทำอะไรตน คิมหันต์ถามทันทีว่าทำไมต้องไปเชียงราย!

ทั้งสองโต้เถียงกันอย่างรุนแรง มุกรินย้อนถามว่าแล้วทีเขาไปกับพักตราล่ะ หรือถือว่ากำลังจะหมั้นเลยไปกันได้ ถ้าเช่นนั้นตนก็ต้องหมั้นกับปรารภก่อนใช่ไหมถึงจะไปเชียงรายด้วยกันได้ไม่ผิด

เมื่อต่างก็มีอารมณ์พลุ่งพล่าน คำพูดที่เสียดแทง ประชดประชัน เสียดสี ยั่วยุ จึงสาดใส่กันจนมุกรินโมโหเมื่อคิมหันต์พูดประชดว่าไปกันถึงสามอาทิตย์ อ้างว่าไปทำงาน เสร็จงานแล้วก็ทำอย่างอื่นใช่ไหม เธอตบหน้าเขาฉาดใหญ่ แต่ถูกตบจนเธอกระเด็นออกมาเลือดซิบๆที่มุมปาก เธอพูดไปร้องไห้ไปอย่างเจ็บทั้งกายปวดทั้งใจว่า

“ฉันไม่เข้าใจคุณเลยคิม เราเพิ่งจะดีต่อกันหยกๆ แต่ตอนนี้คุณกลับเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ตรงกันข้าม คุณไม่ใช่คิมหันต์คนเดิมที่ฉันรู้จัก...ออกไปจากห้องฉันเถอะค่ะ ขอร้องเถอะ อย่าทำให้ฉันรังเกียจคุณมากไปกว่านี้เลยคิม...”

คิมหันต์เสียใจพูดอะไรไม่ออก มุกรินพูดน้ำตานองหน้าว่าเรื่องเมื่อคืนที่ชายทะเลถือเสียว่าเราฝันไปก็แล้วกัน เราอย่าเจอหน้ากันอีกเลย คิมหันต์บอกว่ามัน สายไปแล้วที่จะคิดอย่างนั้น เธอผูกพันกับตนมากเกินกว่าที่ตนจะหันหลังกลับไป เขาประคองหน้ามุกรินขึ้นบอก “ไม่ว่าคุณอยู่ไหน คุณจะอยู่ในสายตาผมตลอดไป...จำไว้...” ปล่อยมือแล้วเดินออกไปเลย

มุกรินนั่งร้องไห้อย่างหนักกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันพลิกผันแปรเปลี่ยนรวดเร็วจนเธอสับสนไปหมด

แต่พอคิมหันต์กำลังจะขับรถออกไปก็เห็นรถของปรารภเลี้ยวเข้ามาในคอนโด เขาโทร.บอกมุกรินว่า

“ไอ้หมอนั่นกำลังขึ้นไปหาคุณ ผมไม่รู้ว่ามันมาเองหรือคุณนัดมันมา...แต่ถ้าภายในสิบนาทีมันยังไม่ลงมา ผมจะขึ้นไปลากมันลงมาเอง...ไม่เชื่อลองดู!”

อึดใจเดียวก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น มุกรินเปิดรับ ปรารภคุยอย่างร่าเริงถามว่าตนเก่งไหม เข้าซอยมาไม่หลงเลย มุกรินบอกว่าตนไม่ค่อยสบาย เขาจะพาไปหาหมอเธอบอกว่านอนพักเดี๋ยวก็หาย รวบรัดว่าขอโทษจริงๆพรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะ ปรารภบอกให้เธอนอนเยอะๆแล้วกลับไป

พอปรารภขับรถออกไป มุกรินก็ได้รับโทรศัพท์จากคิมหันต์เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่พอใจว่า “อย่างนี้ผมค่อยเชื่อใจคุณได้หน่อย บางทีผมอาจจะโผล่ไปให้คุณเห็นที่เชียงรายก็ได้...ระวังตัวให้ดี” พูดแล้วกดตัดสายเลย

ooooooo

พิธีหมั้นระหว่างคิมหันต์กับพักตราเริ่มขึ้นแล้วอย่างบึ้ม อย่างใหญ่ จัดเต็มตามที่พักตราต้องการ ทั้งยังถ่ายทอดสดทางทีวีเป็นที่ครึกโครมด้วย

มุกรินกับปรารภอยู่ที่เชียงราย ขณะเข้าไปทานอาหาร มุกรินเห็นทีวีถ่ายทอดพิธีหมั้นของคิมหันต์กับพักตรา เธอมองซึมจนปรารภบอกพนักงานขอปิดทีวีแล้วเดินไปกดรีโมตปิดเองเลย

ไม่นานมุกรินก็ได้รับโทรศัพท์จากดวงดาวถามว่าได้ดูทีวีหรือเปล่า มุกรินปดว่าที่นี่สัญญาณไม่ดี รับทีวีไม่ได้ ดวงดาวถามว่าเธอทำใจได้นะ ทนได้นะ มุกรินทำเสียงร่าเริงบอกว่าตนมาทำงานไม่ได้มาอดยา

“โอเค...เผื่อคุณอาถามถึง ฉันจะได้บอกเขาตามนี้”

พอวางสายจากดวงดาว ปรารภเอ่ยขึ้นว่า “พี่ถามได้ไหมว่าใครโทร.มา”

“อ๋อ...ญาติกันน่ะค่ะ ญาติห่างๆ” ปรารภติงว่าไหนเคยบอกว่าไม่มีญาติ? “คนนี้เขาเพิ่งมาเป็นญาติมุกค่ะ เธอเข้ามาทางพี่ธาดา” ปรารภจึงร้องอ๋อ...อย่างเข้าใจ

ooooooo

หลังพิธีหมั้น คิมหันต์กับพักตราขึ้นไปพักที่ห้องคอนโด พักตราพยายามให้เขาค้างที่คอนโด บอกว่าถือเป็นการฮันนีมูนก็แล้วกัน คิมหันต์ขอไปอาบน้ำก่อนเพราะตนมีนัดกับชุมสาย

ระหว่างที่คิมหันต์เข้าห้องน้ำนั่นเอง มือถือของคิมหันต์มีข้อความเข้า พักตราหยิบโทรศัพท์ขึ้นดู

“เพิ่งสอบเสร็จ จบเสียที ว่างๆดีใจกับเราบ้างก็ดีนะ พ่อรูปหล่อ”

พักตราดูหมายเลขโทรศัพท์อย่างครุ่นคิด แล้วโทร.กลับทันที บอกปลายสายว่าตนคือคู่หมั้นของคนที่เธอเพิ่งส่งข้อความเข้ามา พอดวงดาวเอ่ยชื่อพักตรา เธอขู่ทันทีว่า

“อย่ายุ่งกับคู่หมั้นฉันอีก ถ้าไม่อยากหมดอนาคต”

ดวงดาวบอกว่าเธอเข้าใจผิดแล้ว ตนไม่ได้ยุ่งกับคู่หมั้นเธอ แต่ถ้าอยากรู้ว่าคู่หมั้นเธอกำลังยุ่งกับใคร ให้มาหาตน พักตราตอบรับทันที พอดีคิมหันต์ออกมา

เธอถามว่าเขาจะไปหาชุมสายที่ไหน เขาบอกว่าที่ออฟฟิศชุมสาย เธอดักคอว่าไม่ใช่แอบนัดสาวที่ไหนนะ

“โธ่...มีสาวสวยอยู่ตรงนี้ทั้งคน ผมจะนัดใครทำไมอีกล่ะ” คิมหันต์หวาน แต่พักตรายังติดใจสงสัย

ดังนั้น คืนนี้เธอจึงไปที่ร้านอาหารอร่อยที่ธาดาพาดวงดาวไปฉลองเรียนจบ ดวงดาวเห็นพักตราเข้ามา เธอขอตัวกับธาดาเดินไปหา พักตรามองดวงดาวแล้วมองธาดา ถามว่าธาดาเลี้ยงเธอหรือ

ดวงดาวเคลียร์ตัวเองว่าตนมีธาดาอยู่แล้ว ฉะนั้นเลิกคิดว่าตนไปกิ๊กกับคิมหันต์ได้เลย พักตราถามว่าแล้วทำไมเธอต้องส่งข้อความแบบนั้นให้คิมหันต์

“แค่บังเอิญเราคุยถูกคอกัน และฉันรู้ว่าเขามีใจให้ใคร” พักตราคาดคั้นว่ามันคือใคร! “คนที่คุณไปแย่ง เขามาจากเธอ” พักตรารู้ทันทีว่าคือมุกริน ดวงดาวยืนยันว่า คิมหันต์มีมุกรินคนเดียวเท่านั้นในดวงใจ บอกแล้วผละไปทันที พักตราตะโกนลั่นเรียกให้กลับมาก่อน ด่าดวงดาวว่าเป็นแม่สื่อแม่ชักให้คิมหันต์กลับไปคืนดีกับมุกริน

ดวงดาวหันบอกว่า “เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่มีใจ ใครก็ชักนำ ไม่ได้หรอกค่ะ”

พักตราโมโหเดือดตะโกนด่าทั้งดวงดาวและธาดาว่าแกล้งคิมหันต์กับตน ขึ้นมึงขึ้นกูจนดวงดาวถามว่า “ไอ้นิสัยแบบนี้ คิดว่าคิมหันต์เขาจะรักเจ๊เหรอ” เลยถูกพักตราพุ่งเข้าตบ ธาดาเข้าไปขวาง เลยกลายเป็นสามคนชุลมุนกัน จนพนักงานต้องเข้ามาแยกออก

ระหว่างที่คิมหันต์กับชุมสายกำลังคุยกับน้องๆ นักศึกษาที่ไปถ่ายหนังสั้นที่ซอยบ้านวิมลรัตน์ในคืนวันเกิดเหตุนั่นเอง พักตราก็โทร.หาคิมหัตน์ เขารับสายฟังเสียงเธอแล้วบอกว่า

“ว่าไงพักตร์...พักตร์ค่อยๆพูด อย่าเพิ่งร้องไห้สิ...มีเรื่องอะไรหรือพักตร์...”

“คิมกลับมาหาพักตร์เดี๋ยวนี้เลย...พักตร์รออยู่ที่คอนโดนะคิม!” พูดแล้วตัดสายทันที

พอคิมหันต์กลับถึงคอนโด ถูกพักตราระบายอารมณ์ใส่อย่างหนัก นับแต่ก้าวเข้าห้องก็ถูกเธอปาแจกันเฉียดไปกระแทกผนังแตกกระจาย แล้วระดมด่าทอต่อว่าอย่างรุนแรงเรื่องมุกริน อ้างว่ารู้จากดวงดาว คิมหันต์ตัดบทว่าถ้าเธอเป็นแบบนี้ตนไม่พูดด้วยดีกว่า เมื่อพักตรายังไม่หยุด เขาตะโกนใส่หน้าว่า

“หยุดเสียทีเถอะน่า ถ้าเป็นอย่างนี้ผมไม่อยู่ด้วยแล้วนะ” คิมหันต์ผลุนผลันเข้าห้องนอนปิดประตูปล่อยให้พักตราตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้อง ประกาศว่าถ้าเขากลับไปคบกับมุกรินตนจะตามอาละวาดไปทุกที่และอย่าหวังว่าตนจะถอนหมั้น ไม่มีวัน!

พักตราอาละวาดจนคิมหันต์เปิดประตูออกมาบอกให้หยุด เมื่อเธอไม่หยุดเขาจึงออกจากห้องไปเอง

ooooooo

คิมหันต์ไปร้านอาหารที่ดวงดาวร้องเพลง รอจนเธอร้องเพลงเสร็จลงมานั่งคุยกัน ดวงดาวบอกว่าวันนี้คุยได้เพราะคุณอาไม่อยู่ไปสั่งรถกับหุ้นส่วน คิมหันต์จึงแสดงความยินดีที่เธอเรียนจบแล้ว

หลังจากรินเหล้าดื่มรวดเดียวหมดแก้วแล้วถามว่า เธอบอกพักตราว่าตนยังรักมุกรินอยู่หรือ เธอตอบไม่ลังเลว่าใช่ เพราะว่าเขาเองก็ยังรักมุกรินอยู่เหมือนกัน หรือไม่ใช่! ตนก็แค่อยากให้คนรักกัน ได้รักกัน คิมหันต์เตือนว่า รู้ไหมว่าถ้าเธอยังทำตามความอยากของตัวเองอย่างนี้เรื่อยๆ เธอจะทำให้เกิดปัญหากับคนอื่นอีกมาก

“ปัญหาของคนอื่น ก็ของคนอื่น ฉันไม่สน ไม่เกี่ยวกับฉัน” คิมหันต์ประชดว่าง่ายดี “ฉันเป็นคนง่ายๆ อยู่แล้ว ใจเป็นใหญ่ที่สุด ฉันไม่ทำอะไรที่ขัดกับใจตัวเองหรอก”

“งั้นคุณก็โชคดีกว่าผมเยอะ” เขายอมรับกับดวงดาวว่า คืนนั้นแม้ตนจะเมาแต่ตนไม่ได้มีอะไรกับ พักตรา แต่เมื่อท่านนายพลต้องการให้ตนรับผิดชอบ ตนเลยหมั้นกันไปเลย พูดอย่างสะใจว่ามันดี เพราะตนอยาก แกล้งมุกริน สุดท้ายกลายเป็นแกล้งตัวเอง

ฝ่ายพักตราร้องไห้ฟูมฟายจนอรรถถามว่าเป็นอะไร เธอเล่าเรื่องคิมหันต์กับมุกรินให้ฟัง บอกว่าคิมหันต์หมั้นกับตนไปอย่างนั้นเอง เขาไม่ได้รักตน บอกอรรถว่า

“พักตร์จะจัดการกับมันขั้นเด็ดขาด พ่อต้องช่วยพักตร์นะคะ” อรรถฟังแล้วหนักใจ

ooooooo

ดวงดาวโทร.บอกมุกรินว่าคิมหันต์เมาไม่ได้สติอยู่ที่ร้านตน มุกรินบอกว่าเขาเป็นคนคอไม่แข็ง ดวงดาวถามว่าแล้วจะให้ทำอย่างไร

“ตามใจเธอสิ แล้วก็อย่าให้พี่ธาดารู้ล่ะ นั่นก็ขี้โมโหเจ้าอารมณ์ไม่แพ้กัน”

ดวงดาวรับรองไม่ให้ธาดารู้แน่ แล้วเธอก็วานเพื่อนนักดนตรีชายสองคนช่วยกันหิ้วปีกคิมหันต์ไปที่รถเขา แต่เขาก็เมาจนบอกเส้นทางกลับบ้านไม่ถูก ดวงดาวโทร.ถามมุกรินแล้วพาไปส่งที่บ้าน พอถวิลกับไสวมารับเข้าบ้านแล้วดวงดาวจึงกลับ

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ไสวขึ้นไปปลุก คิมหันต์บอกว่ายังไม่อยากตื่น แต่พอไสวบอกว่ามีคนมาหาชื่อพลโทอรรถเท่านั้น คิมหันต์ลุกพรวดทันที เขาลงไปพบอรรถทั้งที่ยังโทรมๆอย่างนั้น บอกว่าถ้าท่านไม่รีบจะขอไปอาบน้ำก่อน

“ไม่ต้องหรอก” อรรถเดินวนรอบคิมหันต์พูดสบายๆ “ฉันเข้าใจหัวอกลูกผู้ชายดี เวลาคับข้องใจก็มักหันหน้าเข้าหาเหล้า ดื่มมากๆเข้าก็เมาเสียคน แต่ฉันไม่ได้มาเพื่ออบรมเธอเรื่องนี้ ฉันตั้งใจมาบอกเธอว่าพักตรารักเธอมากนะ...รู้ไหม”

คิมหันต์พยักหน้าเบาๆจนแทบดูไม่ออก

“เป็นธรรมดา ที่เวลาเรารักใครมาก เราก็คาดหวังมากด้วย เมื่อผิดหวังก็ย่อมเสียใจมาก สะเทือนใจมาก แต่พักตราต่างจากคนอื่นตรงที่... เมื่อเธอผิดหวัง เธอจะควบคุมตัวเองไม่ได้ อารมณ์เธอจะรุนแรงมากขึ้น...มากขึ้นและมากขึ้น...เธอก็เคยเห็นแล้วใช่ไหม”

“ครับ”

“ฉันไม่ได้ให้ท้ายลูกสาวหรอกนะ ฉันไม่สบายใจเลยที่เห็นเธอเป็นแบบนี้ ดังนั้น! ฉันจึงตั้งใจจะหารือกับเธอว่าทำอย่างไรลูกสาวฉันจะไม่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์อย่างนี้อีก”

คิมหันต์ได้แต่เงยหน้ามองอรรถอย่างรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรอีก

“คำตอบที่ฉันคิดได้ตอนนี้ข้อเดียวคือ เธอต้องไม่ทำให้พักตราผิดหวังอีกเป็นอันขาด” คิมหันต์เอ่ยขึ้นว่า ผม...ไม่ได้...พูดได้แค่นั้น ก็ถูกอรรถขัดว่า

“ฉันไม่อยากรู้รายละเอียดที่เธอสองคนผิดใจกัน ฉันขอแค่คำสัญญาว่า จะไม่ทำให้ลูกสาวฉันผิดหวังอีก...ได้ไหม!”

“ครับ”

“นายทหารอย่างฉัน การรักษาสัญญาเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าผิดสัญญากับฉัน อาจทำให้ฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ได้เหมือนกัน...เข้าใจนะ”

“ครับ”

“เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ขอโทษคู่หมั้นของเธอเสียหน่อย” พลางอรรถหยิบมือถือมากดหมายเลข “การขอโทษเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี ใครจะผิดใครจะถูก ไม่ใช่เรื่องสำคัญ...ทำได้ไหม”

เมื่อคิมหันต์รับคำ “ครับ” อรรถส่งมือถือให้พักตรารับสายถามเสียงใสว่า ว่าไงคะคิม? คิมเอ่ยขอโทษเรื่องเมื่อคืนนี้ เธอบอกว่าตนไม่โกรธเขาก็ได้ ขอแค่เขาอย่าทิ้งตนไปอย่างนี้อีก คิมหันต์ทำได้แค่ตอบ “ครับ” ตามเคย แล้วส่งมือถือคืนอรรถ

“ขอบใจมาก... อ้อ...หลังจากนี้อีกหกเดือน ฉันจะจัดงานแต่งงานให้เธอกับยายพักตร์นะ เตรียมตัวไว้เนิ่นๆ ได้เลย”

“ครับ”

ตลอดเวลาที่คุยกัน...คิมหันต์ตอบรับอรรถคำเดียวคือครับ...ครับ...และครับ...แม้กับพักตรา เมื่อเขาเอ่ยขอโทษเธอแล้ว พักตราพูดอะไรเขาก็มีสิทธิ์ตอบรับ คำเดียวเช่นกันคือ...ครับ...ครับ

ooooooo

กลับจากเชียงรายมาถึงบริษัท สุดาวิ่งมาบอกปรารภกับมุกรินทันทีว่าพักตราฝากบอกว่ากลับมาถึงให้ไปที่ห้องซีอีโอด่วน

พอปรารภไปถึง พักตราทักประชดว่าที่เชียงรายสนุกมากสินะหน้าตาแช่มชื่นทั้งคู่เลย ปรารภตัดบทว่ามีอะไรให้พูดมาเลยดีกว่า พักตราตีหน้าขรึม พูดจริงจังว่า

“ข้อแรก ฉันตรวจดูงานแล้วพบว่า ที่คุณปรารภอ้างว่าส่งมุกรินไปหาข้อมูลที่เมืองจันท์ ฉันยังไม่เห็นมีรายงานผลสรุปอะไรกลับมาเลย ไม่ทราบว่าไปหาข้อมูลหรือทำอะไรแน่”

มุกรินสบตากับปรารภ ขอโทษและบอกพักตราว่าจะรีบสรุปงานส่งให้เร็วที่สุด พักตราบอกไม่ต้อง ตนยกประโยชน์ให้ดีกว่า เข้าใจว่าช่วงนี้กำลังว้าวุ่นใจ ปรามว่า “คราวหลังอย่าโกหกบริษัทอย่างนี้อีก”

“เป็นความผิดของผมเอง ไม่เกี่ยวกับมุก” ปรารภออกรับแทน พักตราไม่สนใจ “เรื่องที่สอง...เชิญคุณปรารภออกไปนอกห้องก่อนค่ะ” พอปรารภออกไป เธอเดินไปหยุดจ้องหน้ามุกรินสั่ง “ตอบฉันมาตรงๆเดี๋ยวนี้ เธอไม่มีอะไรกับคิมแล้วใช่ไหม”

มุกรินเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ถูกพักตราคาดคั้นจนเธอต้องบอกว่า ไม่มีอะไร เราไม่มีอะไรกันแล้ว พักตราถามว่าแล้วยังรักเขาอยู่ไหม มุกรินแย้งว่าเธอไม่มีสิทธิ์มาล่วงเกินความรู้สึกของตน พักตราคาดคั้นว่ายังรักเขาอยู่ใช่ไหม!

มุกรินบอกว่าตนไม่ได้ตอบอย่างนั้น พักตราหาว่าเล่นสำบัดสำนวนกับตน มุกรินท้าว่าจะไล่ตนออกไหมล่ะ

“ไม่...ฉันจะยอมเชื่อว่าเธอไม่มีอะไรกับคิม ก็ต่อเมื่อมีการพิสูจน์ให้เห็นก่อน ฉันจะใส่ชื่อเธอไปเตรียมงานที่ประจวบพรุ่งนี้ เราจะไปเก็บภาพโรงแรมใหม่ก่อนจัดงานเปิดตัวเดือนหน้า ฉันจะให้เธอรับผิดชอบประสานงาน ถ่ายรูป โดยมีฉันเป็นโปรดิวเซอร์เอง ส่วนช่างภาพเป็นมืออาชีพที่เธอรู้จัก...คิมหันต์ คู่หมั้นของฉัน”

พักตราจ้องหน้ามุกรินอย่างจับพิรุธ เห็นเธออึ้ง พักตราเยาะเย้ยในทีว่า

“ไม่ต้องกลัวว่าถ่านไฟเก่าจะคุหรอกนะ เพราะฉันจะทำให้มันมอดสนิทในงานนี้แหละ ใครๆจะได้เห็นว่าเธอกับเขาขาดกันแล้วจริงๆ” พูดแล้วถามมุกรินว่ามีอะไรอีกไหม มุกรินถามว่าทำอย่างนี้เพื่ออะไร “สะใจ! ฉันต้องการความสะใจ ยิ่งเห็นกับตาว่าคิมหันต์ไม่ไยดีกับเธอมากเท่าไหร่ ฉันยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น”

“งั้นก็ขอให้ได้สุขสุดยอดสมใจก็แล้วกันนะคะ คุณซีอีโอ” มุกรินเดินออกไปทันที พักตรายิ้มอย่างสะใจ

ooooooo

บ่ายวันนี้ คิมหันต์ไปที่หอพักศรีสุข บอกแม่บ้านว่ามาหามุกริน แม่บ้านบอกว่าเธอย้ายออกไปวันนี้ เดี๋ยวนี้เอง

คิมหันต์ถามว่าย้ายไปไหน ธาดาที่สั่งคนขนลังใส่ของของมุกรินไปที่รถ ตอบโพล่งไปว่าย้ายไปให้พ้นคนอย่างเขาไง!

ทั้งสองโต้เถียงจนกลายเป็นทะเลาะกัน ธาดาเดินเข้าไปพูดใส่หน้าคิมหันต์ว่าแล้วไม่ต้องตามไป เพราะน้องสาวตนไม่ยุ่งกับคนอย่างเขาอีกแล้ว อย่าหวังว่าจะได้แอ้ม!

“คอยดูต่อไปก็แล้วกัน!” คิมหันต์ตอบอย่างท้าทาย ธาดาเดินเบียดไหล่เขาออกไปอย่างท้าทายเช่นกัน

ธาดาให้มุกรินย้ายไปอยู่ที่บ้านเช่าของตน อยู่ร่วมกับดวงดาว โดยปรารภเป็นคนขับรถพาเธอมาส่งที่บ้าน มุกรินขอบคุณที่มาช่วยขนย้าย ปรารภขอเปลี่ยนเป็นอนุญาตให้ตนมาหาเธอเรื่อยๆได้ไหม ปรารภดีใจเมื่อเธอไม่ปฏิเสธ แต่พอมุกรินพูดต่อไปว่าถ้าเขาไม่ทำอะไรเกินกว่าความเป็นเจ้านาย ปรารภแกล้งทำหน้าจ๋อยบ่นว่า “ดีใจแป๊บเดียว ดักคอพี่ซะแล้ว”

พอมุกรินจะลงจากรถ ปรารภถามว่า เรื่องงานที่ ประจวบเธออยากให้ตนช่วยอะไรไหม ตนจะส่งคนอื่นไปทำแทนเอาไหม ตนจะรับผิดชอบเอง

“เขาก็ไม่เลิกหาเรื่องแกล้งมุกอยู่ดี มุกไปให้มัน จบๆเลยดีกว่า” ปรารภบอกว่ามีอะไรปรึกษาตนได้เสมอ และว่างๆจะพาลูกชายมาให้รู้จัก มุกรินขอบคุณและยินดีแล้วลงจากรถเดินเข้าบ้าน ปรารภมองตามอย่างมีความหวัง...

ooooooo

ธาดาจัดฉลองเล็กๆ ที่มุกรินย้ายมาอยู่ด้วยกัน ขณะเขาลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ดวงดาวทักว่าหน้าตาเธอยังดูเหนื่อยๆ

“อือ...พรุ่งนี้ต้องไปทำงานที่ประจวบ” ดวงดาว บอกว่าโชคดีจังกลับจากเชียงรายก็ไปประจวบ “มียายพักตราไปคุมงานใกล้ๆ โชคดีไหมล่ะ” มุกรินถามเซ็งๆ ดวงดาวถามว่าตนจะไปเป็นเพื่อนเอาไหม มุกรินคิดว่าธาดาคงไม่ยอม

“ไม่ยอมก็หนีไปสิ ไม่เห็นจะยาก” ดวงดาวพูด ทีเล่นทีจริง

พักตราบอกคิมหันต์ขณะพักด้วยกันที่คอนโดคืนนี้ เรื่องงานที่จะไปประจวบพรุ่งนี้ แล้วพยายามยั่วยวนที่จะให้ เขามีอะไรกับตน แต่คิมหันต์หนักแน่น บอกว่าอีกแค่หกเดือน อดทนอีกหน่อยนะ

พอคิมหันต์รู้แผนงานของเธอพรุ่งนี้ที่จะให้เขาและมุกรินไปทำงานด้วยกัน เขาถามว่าจะดีหรือ

“ดีสิ...ยายมุกจะได้เห็นว่าเรารักกันแค่ไหน และพักตร์ก็จะได้มั่นใจว่าคิมไม่ไยดีกับมันอีกต่อไปแล้ว”

คิมหันต์ฟังแล้วหนักใจ

รุ่งขึ้นทีมงานไปรถตู้คันหนึ่ง ส่วนพักตราไปรถ อีกคันหนึ่ง เธอเร่งคิมหันต์ถามว่าจะให้ไปรับที่บ้านไหม เขาบอกให้เธอไปก่อนตนมีธุระเรื่องคดีกับชุมสาย เสร็จแล้วจะตามไป

ooooooo

ธุระที่คิมหันต์ไปทำกับชุมสายคือไปที่บ่อนเสี่ยอ๋าที่ธาดาไปเล่นประจำ เสี่ยอ๋าต้อนรับอย่างดี พอเข้าไปคิมหันต์เห็นธาดากำลังเล่นไพ่อย่างเมามัน เขาสบถกับชุมสายทันที

“แม่งเลวจริงๆ ปอกลอกเงินพี่มลมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว”

เมื่อเจอกับเสี่ยอ๋า ชุมสายแนะนำตัวเองว่าทนายที่ติดต่อเสี่ยมา และนี่คือคิมหันต์น้องชายของคุณวิมลรัตน์

เสี่ยกระตือรือร้นบอกว่ามีอะไรให้ช่วยได้บอกมาเลย ยิ่งเป็นเรื่องของเจ๊มล ตนทุ่มสุดหัวใจ ชุมสายชี้ไปที่ธาดา เสี่ยยิ้มหยันบอกว่า

“ครับ...สามีเจ๊มล ไม่งั้นผมไม่ให้สิทธิ์มาเล่นที่นี่หรอก แกนิสัยไม่ค่อยดี ชอบเบี้ยว”

“เสี่ยเชื่อไหมว่าเขาเป็นฆาตกรฆ่าพี่มล” คิมหันต์ถามทันที

“จะมีใคร! โทษนะครับ เด็กอมมือยังรู้เลยครับ”

คิมหันต์บอกเสี่ยให้ธาดาเล่นที่นี่ไปเรื่อยๆ และเสียไปเรื่อยๆได้ไหม เมื่อเสี่ยรับปาก คิมหันต์บอกว่าที่เหลือจากนั้นตนจัดการเอง

“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะได้ทดแทนบุญคุณเจ๊มล ผมเต็มที่ ไม่ต้องห่วง”

“ขอบคุณเสี่ยมากๆครับ” คิมหันต์เอ่ย มองไปที่ธาดาอีกครั้งอย่างหมายมาด

ooooooo

มุกรินและทีมงานมาถึงแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะพักตรายังมาไม่ถึง

เมื่อพักตรามาถึง พนักงานโรงแรมมาต้อนรับถามว่าตกลงงานนี้เป็นงานอะไร พักตราบอกว่าเป็นงานทำโบรชัวร์แต่ไม่ต้องห่วงตนเตรียมทุกอย่างมาพร้อมแล้ว ทำสองวันก็เสร็จแล้วจะเสนอโปรเจกต์ แกรนด์โอเพนนิ่งอีกที แล้วเธอก็เรียกเด็กๆมารับกุญแจห้องบอกว่าเปิดให้คนละห้องเลย ส่วนมุกรินไปพักบังกะโลกับตน เผื่อตนเกิดไอเดียอะไรขึ้นมากลางดึกจะได้เรียกได้ง่าย

มุกรินถามว่าบังกะโลเดินไปทางไหน พักตราบอกไม่ต้องเดินนั่งรถไปกับตนดีกว่า ระหว่างนั้นพนักงานที่ขับรถกอล์ฟให้ พนักงานถามว่าคิมหันต์ไม่มาหรือ พักตราตอบหน้าตาสดชื่นว่าเขาติดธุระคดีฆาตกรรมพี่สาวเขา

พักตราโทรศัพท์ถามคิมหันต์ว่าตนมาถึงแล้ว เขาถามว่าทุกอย่างเรียบร้อยไหม

“เรียบร้อย ลงตัว เพอร์เฟกต์ค่ะ ขาดอยู่อย่างเดียว ขาดคิม...ถ้าคิมอยู่ที่นี่ตอนนี้ พักตร์จะกระโดดกอดให้แน่นแล้วกลิ้งไปทั่วห้องเลยล่ะ”

พักตราคุยกับคิมหันต์ยั่วและเย้ยมุกริน แต่เธอพยายามทำเป็นไม่สนใจ จนมาถึงบังกะโล พักตราบอกมุกรินทั้งที่โทรศัพท์ยังติดต่อกับคิมหันต์อยู่ว่า

“มุก...เธออยู่ห้องนั้นนะ...ฉันอยู่ห้องนี้กับคิม ห้องติดกันจะได้เรียกกันง่ายๆ” แล้วพูดโทรศัพท์ “ดีไหมคะคิม...”

คิมหันต์เออออกับเธอแล้วบอกว่าเท่านี้นะ ตนต้องรีบทำธุระให้เสร็จ นี่ก็นั่งอยู่กับชุมสาย แต่ที่แท้เขาขับรถอยู่คนเดียว ซ้ำยังโทร.ย้ำกับชุมสายว่า

“อย่าลืมที่ตกลงกันนะ โทร.ไปหาเขาสักสามทุ่ม บอกว่างานยังไม่เสร็จ เท่านั้นแหละ ขอบใจมากเพื่อน”

ooooooo

มุกรินยังไม่เข้าที่พัก เธอเลี่ยงไปนั่งทอดอาลัยที่โขดหิน

คิมหันต์โผล่มาทักทาย ชวนก่อกองไฟ ถามว่าหรืออยากอยู่มืดๆ มุกรินชี้ให้ดูว่าบังกะโลอยู่ทางโน้น

“ผมจะเดินอ้อมมานี่ทำไม ถ้าผมต้องการพบเขามากกว่าคุณ” แล้วนั่งข้างๆบอกว่า คิดถึงเธอมากเลย

มุกรินขอร้องให้เขาหยุดเถิด อย่าให้ตนต้องทรมานมากไปกว่านี้เลย ทั้งคู่ต่างรับรู้ถึงความเจ็บปวดของกันและกัน คิมหันต์ถามว่าเรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม มุกรินถามว่าเริ่มอย่างไร จะให้เราอยู่ด้วยกันแบบสามคน ผัวเมียหรือ

“บางทีการเริ่มต้นใหม่ที่ดีที่สุดก็คือการลืมเรื่องเก่าๆที่ผ่านมาทั้งหมด”

“มุกริน...” เสียงพักตราร้องเรียก อึดใจเดียวเธอก็โผล่มาถามว่าคิดจะนอนชายหาดหรือไง แล้วเหน็บให้เจ็บตามเคยว่า “หรือว่าทนไม่ได้ที่เห็นตนมีความสุขกับคิมหันต์”

คิมหันต์หลบอยู่หลังโขดหินเก็บตัวเงียบกริบ ได้ยินพักตราพูดเสียดแทงมุกรินตลอดเวลา จนสามทุ่มเศษ มีโทรศัพท์เข้ามือถือเธอ พักตราบอกมุกรินว่าคิมหันต์โทร.มาแล้ว แต่ปรากฏว่าเป็นชุมสายโทร.มาบอกว่าเพิ่งเสร็จงาน เธอถามว่าแล้วคิมหันต์ขับรถมาไหวหรือบอกให้เขามาตอนเช้าเลยก็ได้ นอนพักให้เต็มอิ่มจะได้ไม่อันตราย

“เฮ้อ...เขายังไม่เสร็จธุระ ก็เรื่องคดีพี่ชายเธอนั่นแหละ ดูเหมือนจะมีหลักฐานใหม่ เอาผิดนายธาดาในขั้นอุทธรณ์ได้ แย่หน่อยนะ แต่ก็เท่ากับว่าเธอมีเวลาทำใจอีกหนึ่งคืน ก่อนที่จะต้องร่วมงานกับอดีตคู่หมั้นของเธอ ซึ่งปัจจุบันเป็นของฉัน” พูดแล้วลุกไป ไม่วายหันมาเยาะว่า “อย่าเพิ่งคิดฆ่าตัวตายเสียก่อนล่ะเพื่อน”

พอพักตราไปแล้ว คิมหันต์ออกจากหลังโขดหินมาหามุกริน เธอขอร้องเขาให้ไปเถิด อย่าให้ตนทำบาปมากกว่านี้เลย

“ให้เวลาผมอีกนิดได้ไหม ผมยังทำใจสูญเสียคุณไปไม่ได้” คิมหันต์อ้อน

“ฉันก็ทำใจเป็นชู้ไม่ได้เหมือนกัน”

“งั้นขอแค่อยู่กับผมคืนนี้ได้ไหม อยู่กับผมเฉยๆ จนถึงเช้า เราไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้ ให้ผมได้นอนกอดคุณนิ่งๆก็พอ...นะมุก...”

ทั้งสองโผกอดกันแนบแน่นท่ามกลางแสงดาวและเสียงคลื่น

จนดึกมุกรินบอกคิมหันต์ว่าน้ำขึ้นมาถึงเท้าแล้ว เขาอยากนอนตายด้วยกันกับเธอที่นี่จะได้ไม่ต้องไปเจอพักตราอีก เขาบอกรักเธอ แต่พอเธอบอกให้ถอนหมั้น เขาบอกว่าคงยังไม่ใช่ตอนนี้ มุกรินบอกให้เขากลับบังกะโลเสียเพราะดึกมากแล้ว

พักตราดีใจมากที่เขามาหาคืนนี้ บอกเขาว่ามุกรินอยู่ห้องติดกันนี่ คิมหันต์ทำเป็นไม่รู้เรื่องมาก่อนทำเป็นไม่สนใจบอกว่าตนไม่มีอะไรกับมุกรินแล้ว และขอตัวไปอาบน้ำก่อน พรุ่งนี้จะได้ทำงานแต่เช้า

ooooooo

ระหว่างทำงาน พักตราจิกใช้มุกรินจนหัวหมุน ดวงดาวตามไปอ้างว่ามาทำงาน มุกรินถามว่าธาดาไม่ว่าเอาหรือ

“เปล่า...ช่วงนี้คุณอาไม่ค่อยกลับบ้าน มันเป็นช่วงต่างคนต่างอยู่”

ความจริงคือธาดามัวเมาอยู่ในบ่อน เล่นเสียก็ด่าหาว่าถูกโกง เสี่ยอ๋าดูและเปิดโอกาสให้ธาดาเต็มที่ตามคำขอของคิมหันต์ นอกจากให้เครดิตเป็นพิเศษแล้ว ยังสั่งเด็กบริการเครื่องดื่มไม่อั้น

พักตราสั่งทีมงานทุกคนว่าคืนนี้ให้แต่งตัวแบบชายหาดมาฉลองกันให้เต็มที่ คนอื่นไม่กระไร แต่ตัวเธอเองดื่มจนเมาออกไปดิ้นหัวทิ่มหัวตำ จนทีมงานแอบนินทากันว่า

“พี่...คุณพักตรานี่เป็นซีอีโอที่โคตรมันเลยนะ งานไม่เอาเมาลูกเดียว”

พักตราไปลากคิมหันต์จะให้ออกไปเต้นด้วยกัน เขาบอกว่าเธอเมามากแล้ว กล่อมจนพาเธอกลับห้องได้สำเร็จ พอเธอนอนหลับเป็นตายแล้วเขาก็แว่บออกไป

มุกรินหลบไปนั่งที่โขดหินเดิม เธอได้รับโทรศัพท์จากธาดาถามว่าอยู่ที่ไหน พอรู้ว่ามาทำงานที่ประจวบก็ต่อว่าว่าทำไมไม่บอกตน มุกรินบอกว่าตนบอกแล้ว แต่เขาจำไม่ได้เอง เธอถามพี่ชายว่าเครียดเรื่องอะไรหรือเปล่า

“ก็เรื่องงานนิดหน่อย หุ้นส่วนที่จะสั่งรถมาขายมันเบี้ยวเงินพี่ไป” มุกรินถามว่าแล้วดวงดาวล่ะ เขาบอกว่าไม่รู้หายไปไหนแล้ว เธอบอกพี่ชายว่าคบเด็กก็ต้องเอาใจกันบ้าง “ดาวเขาไม่ใช่คนที่ต้องการการเอาใจพี่รู้ ช่างเหอะ เดี๋ยวก็โทร.มาหาพี่เอง”

“แล้วถ้าเขาหายไปเลยล่ะ ถ้าเขาเลิกกับพี่ล่ะ”

“มันก็ตายน่ะสิ และถ้ามันมีใครใหม่ พี่ก็จะฆ่ามันพร้อมกันทั้งคู่เลย” ธาดากดตัดสายอย่างฉุนเฉียวทันที

ooooooo

คิมหันต์พาพักตราที่เมาหนักไปนอนแล้ว เขาย่องออกไปหามุกรินที่โขดหินเดิม อ้อนขอนั่งด้วยคน มุกรินถามอย่างเจ็บปวดว่า

“รู้ไหม มุกใจจะขาดแค่ไหนที่เห็นคุณอยู่ใกล้ชิดกับพักตราทั้งวัน มันจะเป็นอย่างนี้อีกนานไหม?”

“ผมก็ไม่ได้สบายใจกว่ามุกหรอก...ผมก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกัน รู้แต่เพียงว่าตอนนี้เราจะไม่พูดถึงคนอื่น”

คิมหันต์โอบกอดมุกรินนอนลงไปบนหาดทรายด้วยกัน

มุกรินหลับไปอย่างอ่อนเพลียเพราะกรำงานหนักมาทั้งวัน ตกดึกคิมหันต์ตื่นขึ้นมา เขาเลิกผ้าที่คลุมร่างมุกริน แอบถ่ายรูปเธอไว้ แล้วดึงผ้าคลุมไว้ตามเดิม ปลุกเธอให้กลับที่พักกัน คิมหันต์บอกให้เธอกลับไปก่อนตนจะเก็บเครื่องนอนพวกนี้เอง

พอมุกรินเดินไป คิมหันต์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดปุ่มเลือกทำรายการ เขาสร้างโฟลเดอร์ใหม่เพื่อเก็บรูปมุกรินรูปนั้นไว้...

มุกรินกลับไปถึงบังกะโล เจอพักตรายืนหน้าถมึงทึงถามว่าไปไหนมา มุกรินบอกว่าไปเดินเล่น พักตราถามว่าเดินเล่นตอนตีสามหรือแล้วตบหน้ามุกรินเต็มแรงด่าว่าตอแหล ตะโกนถามว่าเอาคู่หมั้นตนไปซ่อนไว้ที่ไหน เอาคิมไปเก็บไว้ที่ไหน!!

ครู่เดียว คิมหันต์หอบผ้าปูที่นอนก้าวยาวๆเข้ามา พักตราบ้าดีเดือด ชี้หน้าว่าสองคนไปนอนด้วยกันมา แล้วขว้างปาข้าวของใส่ทั้งคิมหันต์และมุกรินอย่างบ้าเลือด

คิมหันต์บอกให้หยุด แต่เธอยิ่งบ้าเลือด ด่าทั้งคู่อย่างสาดเสียเทเสีย ท้าคิมหันต์ว่าตนไม่หยุดจะทำอะไร ไอ้สันดานชั่ว

ถูกคิมหันต์ตบอย่างแรง พักตรากุมแก้มที่ถูกตบ ถามเสียงสั่น

“แกตบฉันเหรอ...อีคิม...แกกล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน”

คิมหันต์เองก็ตกใจกับการกระทำของตัวเอง เขายืนอึ้ง พักตราตะโกนใส่หน้าว่า

“ฉันจะฟ้องพ่อฉัน แล้วคอยดูนะว่าพ่อฉันจะจัดการยังไงกับแก คอยดู!” แล้วพักตราก็วิ่งออกไป ขับรถกลับกรุงเทพฯเลย ทีมงานวันนี้เลยเคว้งคว้างไม่รู้จะทำอย่างไร มุกรินก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

พอดีดวงดาวเข้ามาถามว่ามีอะไรหรือเห็นเครียดๆกัน มุกรินพยักหน้าว่ามี ดวงดาวจึงให้เล่าให้ฟัง...

ooooooo

พักตรากลับถึงบ้าน ร้องไห้ตีโพยตีพายบอกพ่อต้องจัดการกับหญิงชั่วชายโฉดสองคนนั้นให้ตน อรรถถามว่าจะให้จัดการอย่างไร

“ไม่รู้ล่ะ ทำยังไงก็ได้ให้มันหายไปจากชีวิตพักตร์โดยเร็ว” อรรถถามว่าทั้งสองคนหรือ “นังมุกคนเดียวสิคะ ส่วนคิมพักตร์ให้อภัยได้ค่ะ ถ้าคิมจะมีผิดพลาดไปบ้าง แต่นังนั่นมันตัวแสบ มันร้ายมาก ฉวยโอกาสลอบกัดพักตร์ตลอดเวลา”

อรรถถามว่าก็เธอเองไม่ใช่หรือที่เป็นคนจัดให้ทั้งสองคนไปทำงานด้วยกันที่ประจวบ พักตราบอกว่าตนแค่อยากลองใจเท่านั้น

“เห็นผลแล้วใช่ไหมล่ะ ปล่อยวางบ้างเถอะลูก สองคนนั่นเขาเคยรักกัน เคยเป็นคู่หมั้นกัน เขาจะพูดคุยกันบ้างก็ไม่ได้ผิดอะไร”

พักตราถามว่าหอบผ้าหอบผ่อนไปนอนกันที่ชายหาดขนาดนี้ยังไม่ผิดหรือ อรรถถามว่าเธอเห็นกับตา หรือเปล่าว่าเขาไปนอนทำอะไรกัน เธอตะแบงว่าไม่ต้องเห็นก็เดาได้

“ก็แปลว่าลูกคิดไปเอง ให้โอกาสผู้ชายเขามีพื้นที่ของตัวเองบ้าง แล้วชีวิตคู่ก็จะราบรื่น เชื่อพ่อสิ ตอนนี้ลูกนอนพักให้สบายใจก่อน แล้วเย็นๆค่อยกลับไปหาเขาอย่างสดชื่นแจ่มใส” พักตราบอกว่าตนจะไม่ไปเห็นหน้านังนั่นอีกแล้ว “งั้นก็อยู่บ้านรอเขากลับมาอย่างสดชื่น แจ่มใสเช่นกัน เชื่อพ่อนะลูก”

พักตรากอดพ่อไว้ไม่พูดอะไร อรรถจิกตาไปข้างหน้า บอกว่า

“ถ้าไอ้หมอนั่นมันทำร้าย ทำลายจิตใจหนูเมื่อไหร่ ถึงวันนั้นพ่อจะจัดการเอง...โดยไม่ยั้งมือ!”

ooooooo

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 5 วันที่ 10 ก.ย. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ