อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 4 ก.ย. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 4 ก.ย. 58

มุกรินขับรถไปที่บ้านวิมลรัตน์พร้อมกล่องข้าวของของคิมหันต์ที่ยังตกค้างอยู่ที่บ้านตน ที่พิเศษคือแหวนหมั้น คิมหันต์ไม่รับคืน เธอบอกว่าตนไม่อยากเก็บไว้เพราะมันไม่มีค่าอะไรสำหรับตนอีกต่อไปแล้ว

คิมหันต์บอกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ตนต้องการ มุกรินถามว่า “แล้วคุณต้องการอะไร?”

“แก้แค้น!” มุกรินบอกว่าตนรู้ แต่อยากรู้ว่ามันจะต้องแก้กันไปถึงไหน “จนกว่าจะหายแค้น!”

“ด้วยการสร้างความแค้นให้กับคนอื่นต่อไปเรื่อยๆ งั้นเหรอ แล้วเมื่อไหร่มันจะจบสิ้นล่ะคิม” มุกรินน้ำตาคลอ

“ถ้าพี่มลเป็นผีมาหักคอพี่ชายคุณซะเลยก็คงจะดี...” มุกรินมองเขาอย่างผิดหวัง หันหลังจะเดินไป คิมหันต์คว้ามือไว้บีบอย่างแรง “ถ้าพี่คุณตาย คุณต้องตามลงไปในนรก เพื่อไปแก้ต่างให้พี่คุณด้วยไหม”



มุกรินบอกให้ปล่อย ตนเจ็บ คิมหันต์จะบีบคอเธอบอกว่าพี่มลถูกบีบคออย่างนี้ มุกรินบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ

“อุบัติเหตุบ้าอะไร พี่ชายคุณบีบแรงอย่างนี้...อย่างนี้ และมากกว่านี้” คิมหันต์บีบคอมุกรินอย่างแรง แล้วลากไปทั่วห้อง บอกว่าพี่ชายเธอทำกับพี่สาวตนแบบนี้!

คิมหันต์ปฏิบัติต่อมุกรินอย่างคลุ้มคลั่ง มุกรินดิ้นสุดแรง คิมหันต์ทำร้ายเธอปากก็ด่าไม่หยุด

“คุณทรยศต่อความรักของผม คุณมันชั่วช้าสามานย์ เลวเกินมนุษย์ ผมเกลียดคุณ เกลียดคุณ...เกลียด!!!”

ไสวกับถวิลพยายามเข้ามาห้ามคิมหันต์ ถูกเขาตวาดไล่ออกไปให้หมด ตนจะลงโทษมุกรินเอง

พอสงบลง คิมหันต์บอกมุกรินที่นั่งเจ็บอยู่ว่า “ผมไม่เคยคิดว่าระหว่างเรามันจะต้องลงเอยอย่างนี้” มุกรินบอกว่าตนก็เหมือนกัน “หลังจากวันนี้ คุณคงจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกแล้วใช่ไหม” มุกรินพยักหน้าช้าๆ ทั้งแค้นทั้งผิดหวังและเสียใจ

“ก่อนที่คุณจะเดินจากตรงนี้ไป ผมขออะไรอย่างนึงได้ไหม” คิมหันต์น้ำเสียงและท่าทีอ่อนลง มุกรินถามว่าอะไรหรือ ทั้งสองสบตากันนิ่ง คิมหันต์ก้มลงจูบมุกรินอย่างนุ่มนวลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คุณยังรักผมอยู่?”

มุกรินสบตาเขานิ่ง ไม่ปฏิเสธ

“คุณรักผม มุก...และมันจะทำให้คุณเป็นทุกข์” มุกรินยอมรับว่าตนเป็นทุกข์ “งั้นผมขอภาวนาให้คุณรักผมอย่างนี้ตลอดไป คุณจะได้ตกอยู่ในความทุกข์จนโงหัวไม่ขึ้น”

มุกรินชะงักกับน้ำเสียงและสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคิมหันต์ เขายังคงพูดต่ออย่างเลือดเย็นว่า

“เพราะสำหรับผมแล้ว มันมีแต่ความเกลียดเท่านั้นที่มีให้คุณ ผมเกลียดความเห็นแก่ตัวของคุณ คุณสมควรถูกสาปแช่งไม่แพ้พี่ชายเลวๆของคุณ ไอ้คนโกหกปลิ้นปล้อน ไอ้ฆาตกร!”

คิมหันต์ตะโกนราวกับคลุ้มคลั่ง มุกรินตบหน้าเขาอย่างแรง ตะโกนใส่หน้า

“ฉันเกลียดคุณ ฉันไม่รักคุณอีกแล้วคิมหันต์ คุณทำร้ายฉันทั้งกายทั้งใจ คุณทำได้แม้กระทั่งกับคนที่คุณเคยรัก คุณไม่ใช่คน ฉันเกลียดคุณ!” มุกรินตบเขาอย่างแรงอีกทีแล้ววิ่งหนีไป

ooooooo

มุกรินกลับไปนั่งร้องไห้อย่างหนัก คิดถึงอดีตในยามที่รักกันกับคิมหันต์...เป็นเวลาที่มีความสุขมาก แต่เวลานี้มีแต่ความทุกข์ มีแต่น้ำตาแทนเสียงหัวเราะ...

ฝ่ายคิมหันต์นั่งดูของที่มุกรินเอามาคืนรวมทั้งแหวนหมั้น เขาเศร้าใจ เสียใจ ผิดหวังไม่น้อย เขามอง แหวนวงนั้นครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วหยิบมือถือโทร.ออก

“ฮัลโหล...ผมอยากออกไปข้างนอก คุณไปเป็นเพื่อนผมได้ไหม...พักตรา”

“เป็นมากกว่าเพื่อนก็ได้ค่ะ ถ้าคิมต้องการ...เดี๋ยวเจอกันนะ” พักตรายิ้มสมใจ

ทั้งสองไปพบกันที่ร้านเหล้าหรู พักตราแต่งตัวสวย ล่อแหลม ในขณะที่คิมหันต์ดื่มจนเริ่มเมาแล้ว เธอทักเขาว่า

“เมาหรือยังจ๊ะ คนขี้เหงา” คิมหันต์บอกว่าตนไม่ได้เหงา “แล้วอาการแบบนี้คืออะไรล่ะ”

“ผมแค่อยากมีใครสักคนที่รู้ใจผมจริงๆ และพร้อมจะนั่งคุยกับผมถึงเช้า”

พักตราเบียดกระแซะเข้าไปทันที สมัครช่วยแก้เหงา คิมหันต์ถามว่าคุณพ่อเธอไม่ว่าเอาหรือที่มานัวเนียกับตนอย่างนี้

“โอ๊ย...พ่อยังมีสาวๆมานัวเนียไม่ขาดเลย พ่อบอกว่าพระเอกต้องมีอย่างนี้ทุกคน ไม่แปลก”

“แต่ผมไม่ใช่ผู้ชายในแบบพ่อคุณ ผมไม่ใช่พระเอก ผมไม่แมน ผมใจร้าย ผมรังแกผู้หญิง” พักตรากระซิบว่าตนชอบแบบนี้แหละ แล้วส่งเหล้าให้เขาอีก คิมหันต์รับไปดื่มรวดเดียวหมด เธอถามว่าเมาหรือยัง เขาบอกว่าไม่เมาแต่ขับรถกลับไม่ไหว พักตราจึงอาสาขับรถให้

“ไปไหนล่ะ” คิมหันต์ถาม

“ไปไหนก็ได้ที่คิมต้องการ” พักตรากระซิบแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบปากคิมหันต์อย่างร้อนแรง

ooooooo

ธาดากลับไปถึงบ้านเช่าในสภาพที่ดวงดาวเห็นแล้วถามว่าไปตีกับใครมาถึงได้เละอย่างนี้

“ก็ไอ้เอี้ยคิมน่ะสิ แม่งเล่นทีเผลอ” ดวงดาวบอกให้ทำงานและเลิกยุ่งกับเขาดีกว่าเจ็บตัวเปล่าๆ ไม่คุ้มหรอก “งานไม่มีแล้ว แม่งยึดบริษัทไปหมด เดี๋ยวอาจะหาธุรกิจใหม่ทำ”

ดวงดาวบอกว่าดี เขาจะได้ไม่ถูกมองว่าเกาะเมียกิน ธาดาทั้งสบถทั้งด่าว่าเมียแบบนั้นเกาะแทบตายไม่เหลืออะไรให้กินสักนิด สู้เมียแบบนี้ก็ไม่ได้แล้วเข้าโอบกอดดวงดาว เธอเบี่ยงตัวหนีทำหน้ารังเกียจว่าเหม็นเหล้า ไล่ให้ไปอาบน้ำเสีย

“วันนี้มีคนมาหาอาที่นี่ ชื่อไอ้ขุม แต่เขาไม่ได้สั่งอะไรไว้นะ” ดวงดาวนึกได้

ธาดาหน้าเครียดเดินออกไปโทร.ถามปลายสายอย่างหงุดหงิด “ใครใช้ให้แกมาหาที่นี่ มีอะไรทำไมไม่โทร.มา” มันบอกว่าโทร.ไปเฮียก็ไม่ค่อยจะรับ ถามว่ากะจะเบี้ยวหรือ “เดี๋ยวจัดการให้ แล้วอย่าเอือกโผล่มาอีกนะ ไอ้ขุม...มึงหายหัวไปให้ไกลเลย”

ธาดาตัดสายแล้วเดินเข้าห้องไป ดวงดาวเอะใจ เอามือถือตัวเองมากดฟังเสียงที่อัดไว้ ได้ยินเสียงธาดาอู้อี้แต่ฟังได้ว่า

“มึงรออยู่ที่นี่ กดโทรศัพท์แล้วไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น...เสร็จแล้วมึงก็หายหัวไปให้ไกลๆเลยนะ ไกลสุดขอบโลกไปเลย เข้าใจไหม ไอ้ขุม” ฟังแล้วดวงดาวก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้

ooooooo

คืนนี้พักตราพาคิมหันต์ไปที่ร้านเหล้าหรู เขาดื่มจนร้านจะปิด เธอจึงประคองออกมา คิมหันต์บอกว่าตนอยากกินต่อ พร่ำอ้อนวอนพักตราอย่าทิ้งตนไป...อยู่กับตนก่อน

พักตราฝากรถของตัวเองไว้ที่ร้านเหล้า ขับรถของคิมหันต์พาเขากลับไปที่บ้านตัวเอง ประคองเข้าห้องนอนแล้วถอดเสื้อผ้าทั้งของเขาและตัวเอง ยิ้มอย่างสมใจ...

คืนเดียวกัน ระหว่างที่ปรารภขับรถกลับบ้าน เขาโทร.หามุกริน พอเธอรับสายก็ถามว่าเป็นอย่างไรบ้างตนเป็นห่วง...อยู่คนเดียวได้นะ...ตนไปนั่งคุยเป็นเพื่อนเอาไหม มุกรินขอบคุณ แต่อย่าดีกว่าเพราะดึกแล้ว

“ถ้ามีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก มุกบอกพี่ได้นะ...พี่ยินดีทำทุกอย่างเพื่อมุก”

มุกรินขอบคุณอีกครั้งแล้ววางสาย ปรารภนั่งยิ้มอย่างเป็นสุขกับความฝันของตัวเอง

ooooooo

รุ่งขึ้น อรรถลงมาที่โต๊ะอาหาร ถามคนใช้ว่าพักตรายังไม่ลงมาหรือ เขารู้ไหมว่าต้องไปงานกับตนบ่ายนี้ คนใช้บอกว่าไม่ทราบแต่ไม่เห็นคุณพักตร์สั่งอะไร อรรถจึงให้ไปตามลงมา

คนใช้ตกใจแทบช็อกเมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นพักตรากับคิมหันต์นอนเปลือยอยู่บนเตียง!

เมื่อทั้งสองลงมาที่โต๊ะอาหาร อรรถถามพักตราเสียงเข้มว่าตกลงจะไปงานพร้อมตนหรือจะตามไปตอนบ่าย พักตราถามพ่อว่าตนไม่ไปได้ไหม? อรรถเสียงเข้มกว่าเก่าว่า

“ไม่ได้ รับปากเขาไว้แล้ว” พักตราต่อรองว่างั้นตนเอาคิมไปด้วย อรรถจ้องหน้าคิมหันต์นิ่งอยู่อึดใจ แล้วบอกพักตราว่า “พ่อขอคุยกับเขาตามลำพังก่อน”

พักตราจับมือคิมหันต์อย่างให้กำลังใจแล้วเดินออกไป อรรถถามคิมหันต์หน้านิ่งขรึมว่า

“หลังจากวันนี้ ฉันยังจะเห็นหน้านายอีกไหม” คิมหันต์มองหน้าอย่างไม่เข้าใจ “หลังจากมานอนกับลูกสาวฉันแล้ว นายคิดจะทำยังไง...หายหัวไปเลย หรือยังจะนัดเจอกัน นัดไปนอนกันเรื่อยๆ จนกว่าจะเบื่อ?”

“ผมยังไม่ได้...”

“ยังไม่ได้คิด?! นี่คือพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ใช่ไหม ที่ไม่คิดจะแยแสกับอะไร ทำตามใจตัวเองไปวันๆ ไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น”

“ผมเป็นคนมีความรับผิดชอบครับ”

“งั้นก็ดี...ฉันไม่บังคับให้เธอแต่งงานกับลูกสาวฉันด้วยเรื่องแค่นี้หรอก แต่การให้เกียรติสุภาพสตรี เป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายควรจะทำ โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่พ่อเป็นนายทหารอย่างฉัน! ฉันให้เวลาสิบสองชั่วโมง นายต้องตอบฉันว่านายจะเอายังไง”

ooooooo

มุกรินโทร.บอกธาดาในเช้าวันรุ่งขึ้นว่าตนเอารถที่เขาฝากไว้ไปคืนคิมหันต์แล้วเพราะทางนั้นจะมายกรถไป

ธาดาโมโหมากเพราะคิดจะเอารถไปขายเอาเงินมาใช้ มุกรินบอกว่าเงินเขาก็มีเยอะอยู่แล้วคืนเขาไปเสียดีกว่าให้เขามาฟ้องต้องขึ้นศาลอีก ธาดาย้ำว่ายังไงบ้านนี้ตนก็ไม่ยอมให้ถูกยึด ตนจะซื้อคืน ฟ้องก็ฟ้องกัน ย้ำกับมุกรินว่าอย่ายอมยกให้มัน

“มุกไม่ติดยึดกับอะไรอีกแล้วค่ะ มันเป็นสิ่งสมมติ นอกกายเราทั้งนั้นนะพี่ใหญ่” มุกรินพูดอย่างปลงตกแล้ว

พอวางสายจากมุกริน ธาดาก็โทร.หาเสธ.บอกว่าตนอยากใช้งานกองกำลังของเสธ.สักสองสามคนได้ไหม เอาชุดที่เสธ.เคยส่งมาคุ้มกันตนก็ได้

ไม่นาน ธาดาก็ไปพบกับการ์ดร่างใหญ่สามคนนั้น เขาบอกการ์ดทั้งสามว่างานนี้เป็นเรื่องส่วนตัวแต่ตนมีค่าจ้างให้ ถามว่าจำคนที่มาหาเรื่องตนที่บาร์แล้วถูกพวกเขายำได้ไหม แต่คราวนี้ขอหนักกว่าเดิมหน่อย เอาแบบให้ไปตายที่โรงพยาบาลได้ยิ่งดี

คิมหันต์ยังไม่รู้ตัวว่าถูกปองร้าย เมื่ออรรถให้เวลาสิบสองชั่วโมงสำหรับการตัดสินใจเรื่องพักตรา เขาถามพักตราว่าเมื่อคืนเรามีอะไรกันหรือเปล่า พักตราไม่ตอบคำถามแต่ย้อนถามว่าเขาเมาจนไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆหรือ ชมว่าเวลาเมาเขาเซ็กซี่มากเลย

“ผมอาจจะมีอะไรกับคุณเพราะความเมา หรืออาจจะไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะความเมาอีกเหมือนกัน”

คิมหันต์ไม่รับและไม่ปฏิเสธ แต่เร่งให้เธอแต่งตัวและพาตนไปหาพ่อเธอบ่ายนี้ พักตราถามยั่วยวนว่าแล้วตอนนี้ล่ะ?

“ผมจะมีอะไรกับผู้หญิงที่ผมรักเท่านั้น และต้องเป็นวันที่เหมาะสม แต่ผมมีความรับผิดชอบพอที่จะไม่ทำให้ผู้หญิงเสียหาย โดยเฉพาะคนดีๆที่น่ารักอย่างคุณ”

พักตราโทร.ไปหามุกริน เธอกำลังจะทานอาหารกับปรารภที่ซื้อมาทานด้วยกันที่บ้าน มุกรินมองมือถือลังเล ปรารภบอกให้รับเลยถ้าเขาแขวะมาก็แขวะกลับไปไม่ต้องกลัว พอมุกรินรับสายก็ถูกพักตราแขวะเรื่องปรารภและเล่าความสัมพันธ์ของตนกับคิมหันต์เสียดแทงใจจนมุกรินทนฟังไม่ได้กดตัดสายเลย

ปรารภบ่นตัวเองว่าไม่น่ายุให้เธอรับสายเลย ถามว่า เธอยังรักคิมอยู่ใช่ไหม มุกรินยิ้มเยาะตัวเองย้อนถามว่า

“มุกกำลังจะแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว พี่รภคิดว่ามุกจะรู้สึกเป็นอย่างอื่นได้เหรอคะ”

ฝ่ายคิมหันต์พอรู้ว่าพักตราโทร.หามุกรินก็ยุอย่างสาแก่ใจว่าโทร.เลย ยิ่งโทรบ่อยๆยิ่งดี ตนชอบ

ooooooo

ตกบ่าย เมื่อพักตราพาคิมหันต์ไปถึงที่จัดงาน คิมหันต์ให้คำตอบแก่อรรถทั้งที่ยังไม่ถึงสิบสองชั่วโมงที่เขากำหนดว่า

“ผมจะขอหมั้นลูกสาวท่านครับ สถานะคู่หมั้นน่าจะทำให้เราสองคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างครอบครัวที่ดีในอนาคต และเป็นการให้เกียรติลูกสาวท่านครับ”

“เป็นคำตอบที่เยี่ยมมาก...ไอ้ลูกชาย” อรรถตบบ่าคิมหันต์หัวเราะร่าอย่างพอใจ

ต่อมาขณะธาดาอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่ดวงดาวเรียนอยู่ ได้รับโทรศัพท์จากการ์ดที่เขาส่งไปจัดการคิมหันต์ว่า

“เป้าหมายของคุณน่ะ กำลังจะเป็นคู่หมั้นของลูกสาวพลโทอรรถ” ธาดาตวาดถามว่าใครบอก! “พลโทอรรถประกาศบนเวทีกลางงานเมื่อกี๊นี้เอง เพราะฉะนั้นงานของคุณ ผมไม่อาจรับได้ครับ เสียใจด้วยจริงๆ ทำไม่ได้แน่ๆ ไม่มีใครกล้ารับหรอกครับงานแบบนี้” พูดจบก็กดตัดสายทันที

ธาดาโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ยิ่งเมื่อเห็นดวงดาวเดินกอดคอเล่นมากับเพื่อนผู้ชาย เขาก็ยิ่งบ้าสั่งดวงดาวให้กลับบ้าน ดวงดาวถามว่าไหนบอกว่ามีงานมารับไม่ได้ไง?

“งานเยอะแค่ไหนฉันก็ต้องมารับเธอ เพราะฉันชักไม่ไว้ใจนักศึกษาแถวนี้แล้ว ไป...ขึ้นรถ” แล้วหันไปปรามพวกนักศึกษาหนุ่มๆ “อย่ายุ่งกับหลานสาวกูอีกนะ”

ธาดาบอกดวงดาวว่าตนไม่ชอบให้เธอทำแบบนี้ ดวงดาวสวนไปว่าตนก็ไม่ชอบให้เขาทำแบบนี้เหมือนกัน ตนมีเพื่อนอยู่ไม่กี่คน ทำแบบนี้เพื่อนหนีหมด ธาดาบอกไม่ต้องมีเพื่อนก็ได้

“ต่อไปนี้หนูคุยกับใครไม่ได้เลยสักคนใช่ไหม” ธาดาบอกว่าทำอย่างนี้ได้จะดีมาก “งั้นเอาไปส่งเสียเด็กคนอื่นเถอะ อย่ามายุ่งกับหนูเลย”

ดวงดาวอ้างข้อตกลงก่อนที่จะมาอยู่ด้วยกันว่าเราต่างมีพื้นที่ของตัวเองจะไม่ล้ำเส้นกัน ให้เกียรติกันและกันไม่ใช่อยู่แบบถูกข่มขู่บังคับเป็นทาสแบบนี้ ธาดาขอโทษเพราะตนกำลังหงุดหงิด

“หงุดหงิดก็ไปลงที่อื่น อย่ามาลงกับหนู หนูพอใจจะอยู่ในที่ที่มีความสุขเท่านั้น ที่ไหนมีปัญหา อยู่แล้วอึดอัดไม่สบายใจ หนูไม่อยู่ ไม่เอาด้วย เข้าใจไหมอา!”

ooooooo

ปรารภอยู่กับมุกรินจนค่ำ ก่อนกลับเขาถามว่าตนจะมาหาเธอทุกวันหยุดจะว่าอะไรไหม มุกรินติงว่าคงไม่เหมาะ คนอื่นเขาจะนินทาเอา ปรารภขอเธออย่าคิดว่าตนเป็นเจ้านายได้ไหม ขอให้คิดว่าตนคือผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกชะตาด้วย...

พอปรารภไปแล้ว ชุมสายที่มาจอดรถรออยู่ก็เข้าไปหามุกริน ถามว่าธาดาอยู่ไหม ตนมีสองเรื่องจะคุยด้วย เมื่อมุกรินบอกว่าธาดาไม่ได้อยู่ที่นี่ ชุมสายบอกเธอว่าคิมหันต์ให้ตนมาคุยสองเรื่อง

“หนึ่งคือ นายคิมหันต์ให้ผมดำเนินการฟ้องร้องเอาทรัพย์สินคืนทั้งหมด” ชุมสายพูดให้คิดว่าตนเกรงว่าการเป็นคดีความจะยิ่งทำให้ยุ่งยากลำบากใจด้วยกันทั้งคู่ แนะว่า “ทางที่ดีคุณพูดกับคุณธาดา ทำแบบที่คุณเอารถไปคืนน่ะครับ ดูดีมาก” ส่วนข้อสอง ชุมสายบอกว่า “นายคิมหันต์อยากพบคุณ เขาบอกว่าเรื่องสำคัญมาก...ให้ผมมารับคุณไปให้ได้”

ชุมสายขับรถพามุกรินไปที่บ้านคิมหันต์ที่เคยเตรียมไว้เป็นเรือนหอกับเธอ มุกรินเข้าไปเห็นทุกอย่างถูกคลุมไว้ด้วยผ้าขาว คิมหันต์พาเธอเดินดูไปทีละส่วน บรรยายถึงอดีตที่เคยช่วยกันตบแต่งบ้านนี้เตรียมไว้เป็นเรือนหอ มุกรินถามว่าเขาพูดเรื่องเหล่านี้อีกทำไม คิมหันต์จึงบอกเรื่องที่ตนจะหมั้นกับพักตราในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

คิมหันต์ชี้ให้ดูข้าวของในห้อง บอกว่าตนจะขายทิ้งเอาเงินไปบริจาคให้การกุศลทั้งหมด แต่มีสิ่งสำคัญที่สุดที่อยากทำเป็นครั้งสุดท้าย แล้วคิมหันต์ก็จู่โจมจูบมุกรินอย่างเร่าร้อนรุนแรง แต่แล้วจู่ๆเขาก็ผละออกบอกว่าตนหมดเรื่องสำคัญกับเธอแล้ว เดี๋ยวจะให้ชุมสายไปส่งเธอที่บ้าน อวยพรประชดว่า “ขอให้มีความสุขกับนายปรารภนะ”

เมื่อออกมาเจอชุมสาย มุกรินขอที่อยู่ของธาดาบอกว่าตนจะไปหาพี่ชาย บอกชุมสายว่าอีกเจ็ดวันให้มายึดบ้านไปเลย!

ปล่อยมุกรินกลับไปแล้ว คิมหันต์รู้สึกเสียใจและสับสนกับการกระทำของตัวเองไม่น้อย

มุกรินนั่งแท็กซี่จะไปหาธาดาที่บ้านเช่าตามที่อยู่ที่ชุมสายเขียนให้ ระหว่างทาง เธอโทร.หาธาดา แต่เขานอนหลับสนิทอยู่กับดวงดาว เสียงโทรศัพท์บอกให้ฝากข้อความ มุกรินฝากข้อความน้ำตาไหล...

“พี่ใหญ่ มุกกำลังจะไปหานะ มุกไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว...ไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นแล้วด้วย...”

มุกรินนั่งพิงหน้าต่างรถแท็กซี่น้ำตาไหลเป็นทาง เหมือนสายฝนที่สาดกระจกรถและไหลลงเป็นสายอยู่นอกรถ...

ooooooo

คิมหันต์ยังนั่งมองเหม่อไปนอกหน้าต่างเรือนหอหลังนั้น รำพึงกับตัวเอง...

“ความแค้น เป็นอารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผล เหนือการควบคุม และไม่มีขีดจำกัด หลายคนเชื่อว่าความแค้นดับลงได้ด้วยความรัก...แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป หลายครั้งที่ความรักเป็นฝ่ายดับมอดไปเพราะไฟแค้น...ขึ้นอยู่กับว่า เรายอมจำนนต่อความรู้สึกฝั่งไหนมากกว่ากัน”

คิมหันต์รำพึงเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์กับพักตราที่เลิกกันไปสี่ปีและกำลังกลับมาเริ่มต้นใหม่ว่า...

“บางครั้ง...ความเคียดแค้นกลับเป็นต้นกำเนิดของความรัก ความสมหวังอย่างคาดไม่ถึง...แต่ทุกครั้งที่ความแค้นถูกระบาย มันมักจะส่งผลเป็นความเสียใจ ที่ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีกเลย...”

คิมหันต์คิดถึงคำถามของชุมสายที่ว่า “แกรู้ตัวรึเปล่าว่าแกทำอะไรลงไป ไอ้คิม”

“ฉันไม่เคยทำอะไรโดยไม่รู้ตัว” เป็นคำตอบที่มั่นใจตัวเองอย่างที่สุด!

ooooooo

มุกรินนั่งแท็กซี่ไปถึงซอยเปลี่ยว ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ของธาดาตามที่ชุมสายบอก แต่มองหาป้ายซอยแยกไม่เจอ เห็นขี้เมาสามคนนั่งอยู่ที่เพิงริมถนนของมอเตอร์ไซค์วินจึงเข้าไปถาม ถูกพวกมันพูดลวนลามเธอจึงเดินหนีไป

เมื่อเห็นป้ายบอกซอยที่ถูกกิ่งไม้บัง มุกรินเดินเข้าไปหาจนเจอบ้านเลขที่ที่ต้องการ ร้องเรียกพี่ใหญ่ก็ไม่มีเสียงตอบจึงเปิดประตูเข้าไป เธอผงะเมื่อเจอธาดานอนอยู่กับดวงดาว

มุกรินผิดหวังพี่ชายอย่างที่สุด ความเคลือบแคลงไม่เชื่อมั่นกระหน่ำซ้ำความรู้สึกของเธอ มุกรินต่อว่าธาดาอย่างรุนแรงว่า

“พี่ใหญ่มีชู้...มีเมียน้อย...อย่างนี้ไง พี่มลถึงได้ทะเลาะกับพี่ใหญ่เพราะเรื่องนี้ พี่ใหญ่เลว...ทำอย่างนี้ได้ยังไง!” ธาดาพยายามที่จะชี้แจง แต่ความไม่พอใจของมุกรินพลุ่งพล่านบอกว่าอย่างนี้นี่เองพี่ใหญ่ถึง

ไม่ยอมอยู่บ้าน “พี่ใหญ่โกหกมานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้คิมเขาทำถูกแล้ว ที่เขาเกลียดพี่ใหญ่มาก เพราะพี่ใหญ่เป็นคนอย่างนี้นี่เอง มุกไม่เชื่อพี่ใหญ่อีกต่อไปแล้ว...พี่ใหญ่อาจจะฆ่าพี่มลจริงๆ แล้วมาโกหกมุกด้วยก็ได้”

ธาดาตบหน้ามุกรินอย่างแรง น้ำตาแห่งความผิดหวังของมุกรินทะลักออกมา ประกาศว่า

“มุกเกลียดผู้ชายแบบนี้... ต่อไปนี้ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีกแล้ว” มุกรินวิ่งออกไปจากบ้าน วิ่งเตลิดไปอย่างไม่รู้ทิศทาง โชคร้ายไปเจอขี้เมาสามคนเข้าอีก พวกมันจะรุมข่มขืน โชคดีที่คิมหันต์ออกตามหาเธอเจอเข้า เขาต่อสู้และเอาปืนในรถขู่ จนมันพากันหนีไป เขาจึงอุ้มเธอขึ้นรถพาไปพักที่โรงแรมม่านรูด
ประคองมุกรินไปที่เตียงแล้ว คิมหันต์โทร.บอกชุมสายว่าเจอมุกรินแล้วและให้เขาโทร.บอกธาดาให้มาหาน้องสาวเขาด้วย เดี๋ยวจะส่งชื่อและพิกัดไปให้
ไม่นานธาดาและดวงดาวก็มาถึง ดวงดาวขอนั่งรอในรถ ให้ธาดาเข้าไปหามุกรินที่ห้องคนเดียว

เมื่อเจอมุกรินในห้อง แทนที่ธาดาจะเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับโมโหมุกรินหาว่าเข้าโรงแรมกับคิมหันต์ ถามว่าเสียอะไรไปบ้างแล้ว มุกรินไม่ตอบแต่ย้อนถามพี่ชายที่มั่วกับดวงดาว เธอบอกว่าเมื่อก่อนตนเคยเชื่อเขา แต่เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อแล้ว เขาเลวอย่างที่วิมลรัตน์กล่าวหาจริงๆ

ธาดาจะไปส่งมุกริน ขณะขับรถออกมา ดวงดาวเห็นคิมหันต์ที่จอดรถดูอยู่ เธอยกมือถือถ่ายรูปเขาไว้

ooooooo

ไปถึงบ้านมุกริน ธาดาเห็นลังกองอยู่ถามว่าเก็บของทำไม จะย้ายไปไหน มุกรินบอกว่าตนจะย้ายแล้วเพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านของเรา ธาดาชวนมุกรินไปอยู่บ้านตน แต่เธอปฏิเสธ

ธาดาย้ำว่าถ้าคิมหันต์มาอย่าให้เข้าบ้านนะ พอมุกรินบอกว่าเขาไม่มาหรอก เพราะเขาต้องไปอยู่กับคู่หมั้น

ธาดาโมโหเป็นฟืนเป็นไฟด่าคิมหันต์อย่างหยาบคายว่าทิ้งมุกรินไปไม่ทันไรก็มีคู่หมั้นใหม่แล้ว

“พี่ใหญ่อย่าว่าคนอื่น ตัวพี่ใหญ่เองก็ทำไม่ต่างจากคนอื่น” ธาดาฟังแล้วอึ้ง ตัดบทกำชับก่อนกลับไปว่า

“มุกนอนพักให้สบายก่อนเถอะ แต่อย่าเพิ่งไปไหนเป็นอันขาด พี่จะหาทางออกเรื่องนี้ให้เอง...เชื่อพี่นะ”

มุกรินตัดบทว่าเลิกบอกให้ตนเชื่อเสียทีเถิด มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ธาดาขอโทษที่ตบหน้าเธอแล้วชวนดวงดาวกลับ ดวงดาวขยับเข้าไปพูดกับมุกรินว่า

“ฉันรู้ว่าคุณรังเกียจฉัน เพราะถ้าฉันเป็นคุณ ฉันก็คงจะทำไม่ต่างจากคุณนี่แหละ แต่ขอบอกให้รู้ว่า ฉันไม่ได้เข้ามาเพื่อปอกลอกอะไรพี่ชายคุณ มันแค่จังหวะชีวิตช่วงหนึ่งที่บังเอิญคลิกกันพอดี...แต่ไม่มีอะไรยืนยันว่ามันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน...ก็เท่านั้น...คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ”

“เธอจะพูดยังไงก็ได้ เพราะเธอเป็นฝ่ายได้”

“ก็แล้วแต่จะคิด ขอก้าวก่ายอีกนิดนะ ฉันรู้ว่าตอนนี้เธออยากแยกไปอยู่คนเดียวใช่ไหม ถ้าเป็นฉัน ฉันก็จะทำอย่างนั้นเหมือนกัน” แล้วดวงดาวก็แนะนำหอพักที่ถูกและปลอดภัยบริการดีให้ บอกว่าตนชื่อดวงดาวแล้วแยกไป

พอดวงดาวแยกไป มือถือมุกรินก็ดังขึ้น เธอดูหน้าจอแล้วตัดสินใจกดปุ่มรับ เสียงคิมหันต์พูดมาทันทีว่า

“ผมเดาว่าคุณคงถึงบ้านแล้ว นอนหลับให้สบายนะพรุ่งนี้อาจมีโนติสไปถึงคุณเพื่อให้ย้ายออกจากบ้านนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติตามกฎหมาย คุณไม่ต้องตกใจ ผมยืดเวลาให้คุณอ้อยอิ่งได้อีกสักวันสองวันก็แล้วกัน”

มุกรินขว้างมือถือลงพื้นทันที!

ooooooo

วันนี้พักตราไปที่บริษัท Fast Track แต่เช้าจนพนักงานพากันแปลกใจ เธอสั่งพนักงานให้ไปตามเจ้านายพวกเธอและฝ่ายโปรดักชั่นทุกคนไปที่ห้องประชุม ตนมีงานให้ทำ ย้ำกับพนักงานว่า ให้บอกมุกรินด้วย

พนักงานบอกว่าวันนี้มุกรินลา พักตราบ่นน่าเสียดายจัง แล้วเดินไปที่ห้องประชุม

เมื่อมากันครบแล้ว ปรารภยืนที่หัวโต๊ะถามว่า “คุณพักตร์มีงานอะไรไม่ทราบครับ”

“งานหมั้น...ฉันต้องการให้งานออกมาหรู ดูดี มีรสนิยม และแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เพราะแขกในงานล้วนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีหน้ามีตาในแวดวงธุรกิจและนายทหาร” พนักงานถามว่างบประมาณเท่าไร “ไม่อั้น แต่ฉันขอให้มุกรินเป็นครีเอทีฟงานนี้นะ เพราะเธอรู้จักว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้เป็นอย่างดี”

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 4 ก.ย. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ