อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 9 วันที่ 22 ก.ย. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 9 วันที่ 22 ก.ย. 58

“อะไรทำให้ไทยเป็นไปได้ขนาดนี้นะ เธอทิ้งไทยไว้ที่นี่ ไทยยังไม่เข้าใจอะไรอีกเหรอ”

“ใช่ ไทยไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจว่าทำไมวิวถึงเป็นแบบนี้ ไทยมีคนที่ดีที่ไทยรัก เรามีความสุขกันดีอยู่แล้ว ทำไมวิวต้องมากวนน้ำให้ขุ่น วิวต้องการอะไร ไทยรักตะวันไม่มีทางมองคนอื่นอีก ไม่ว่าวิวจะทำยังไงก็ตาม”

“ไทยบ้าไปแล้ว” วิวน้อยใจมากที่เขาคิดแบบนี้เดินจากไปทั้งน้ำตา ธงไทยได้แต่มองตามหน้าเครียด...



ในเวลาไล่เลี่ยกัน นันทากับกันเกรามาถึงห้องพักฟื้นของวัฒนาเห็นมยุริญกำลังบีบนวดเนื้อตัวแขนขาให้เขาอยู่ แต่ไม่เห็นนันทวัฒน์อยู่ด้วยก็ถามหา ปรากฏว่าลูกชายตัวดีพานังงูเห่าไปเดินห้างฯ ปล่อยให้มยุริญอยู่เฝ้าไข้พ่อตัวเองเพียงลำพัง นันทาโกรธมาก เจอตัวเมื่อไหร่จะเล่นงานให้สาสม...

ฝ่ายอึ่งถือเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ค่อนข้างโชว์เนื้อหนังของตะวันที่เพิ่งซักรีดเสร็จ จะเอาขึ้นไปเก็บข้างบนตึกผ่านหน้าพิชิตซึ่งนั่งนิ่งเป็นปูนปั้น อดลอยหน้าลอยตาพูดล้อเลียนเจ้าของเสื้อไม่ได้

“ตะวันไม่ค่อยกล้าใส่ชุดที่มันหวือหวา...โธ่เอ๊ย แรงกว่าคุณนาอีก นี่คุณพิชิต เดี๋ยวนี้ทำไมไม่ตามคุณวัฒน์ไปไหนเลย รู้จักไปดูแลเจ้านายบ้างนะ ฉันล่ะเป็นห่วงคุณวัฒน์จริงๆ”

พิชิตเอาแต่นั่งก้มหน้า ไม่ใช่เขาไม่ห่วงเจ้านาย แต่เป็นเพราะเขาอยากหนีหน้าผู้หญิงคนนั้นต่างหาก...

บังเอิญเหลือเกินที่คีรินไปเดินห้างฯเดียวกับที่ตะวันไป แถมเดินชนเธอที่กำลังเดินออกจากร้านอาหารพร้อมกับนันทวัฒน์ คีรินดีใจมากคว้ามือเธอมากุมไว้ อีกฝ่ายดึงมือกลับ ไม่มีทีท่ายินดียินร้ายด้วย

“ตะวัน หายไปเลยนะ แม่แกบ่นถึงตะวันตลอดเลย ว่างๆก็แวะไปบ้างนะ”

“อืม...ถ้ามีเวลาจะไปนะ ไปเถอะค่ะพี่วัฒน์”

คีรินมองตามตะวันที่เดินกอดแขนนันทวัฒน์ออกไปด้วยสายตาปวดร้าว ตะวันน้องสาวที่น่ารักคนนั้นหายไปไหน ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้เย็นชาและไม่น่ารักเอาเสียเลย...

ระหว่างเดินไปยังลานจอดรถ ตะวันเอาแต่เงียบขรึมเพราะการเจอคีรินครั้งนี้ทำให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีตีกันยุ่งเหยิงภายในจิตใจของเธอ นันทวัฒน์เห็นสีหน้าเธอไม่สู้ดีนัก มั่นใจว่าคงต้องเกี่ยวพันกับผู้หญิงคนเมื่อครู่นี้ รีบออกตัวว่าเสียดายแทนเธอที่เขาต้องรีบไป ไม่อย่างนั้นเธอคงได้อยู่คุยกับเพื่อนต่อไปได้

“ไม่เป็นไรค่ะพี่วัฒน์ วันหลังคงได้เจอกันอีก” ตะวันเห็นนันทวัฒน์มองหน้าเธอแล้วยิ้มแย้มมีความสุข ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เขาเฉลยว่าที่ยิ้มไม่หุบเพราะวันนี้เธอเรียกเขาว่าพี่วัฒน์ซึ่งเขาชอบมาก

“คงจะดีกว่านี้ถ้าปรางค์จะเรียกตัวเองว่าปรางค์”

“ขอเวลาตะวันหน่อยนะคะ ตะวันเชื่อว่าวันหนึ่ง ตะวันจะจำทุกอย่างได้ค่ะ”

“ครับ พี่จะรอ นานแค่ไหนพี่ก็จะรอ” นันทวัฒน์มองสบตาเธอลึกซึ้งจนอีกฝ่ายต้องหลบสายตา...

ทางด้านวิวเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่กลับจากไร่นวล ทั้งเสียใจและน้อยใจกับคำพูดของธงไทย เจ๊แน๊ตต้องปลอบและเตือนสติ อะไรที่มันหนัก มันเหนื่อยก็ให้เลิกทำ

“เมื่อก่อน วิวสามารถยุ่งเรื่องของไทยได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว ไทยต้องขอปรึกษาวิวทุกเรื่อง แต่เดี๋ยวนี้ไทยเปลี่ยนไป วิวหวังดีกับไทยนะเจ๊”

“คุณไทยเขาเลือกของเขาแล้ว ต่อไปนี้หมดหน้าที่ผู้หวังดีอย่างหล่อนแล้วจ้ะ” เจ๊แน๊ตว่าแล้วดึงวิวที่ร้องไห้เป็นเผาเต่ามากอดปลอบใจ

ooooooo

ภายในห้องพักฟื้นของวัฒนา ทันทีที่นันทวัฒน์ก้าวเข้ามา นันทาปรี่เข้าไปตบตีอุตลุด สั่งสอนที่เขาเห็นแก่ตัวไม่รับผิดชอบ แถมยังโง่เง่าให้นังงูเห่านั่นหลอกเอาอีก กันเกราสงสารหลานชาย ปรี่เข้าไปกอดปกป้อง พร้อมกับเตือนนันทาว่าที่นี่โรงพยาบาล อายคนอื่นบ้าง

“จะต้องไปอายทำไม ทุกวันนี้มีลูกโง่ๆผัวง่อยๆยังไม่น่าอายอีกหรือ”

วัฒนาสะเทือนใจมาก อยากจะกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทำไม่ได้จึงต้องหลับตาเพื่อซ่อนความเจ็บปวด กันเกราพยายามห้ามนันทาไม่ให้พูดอะไรที่จะทำร้ายจิตใจทั้งพี่เขยและหลานชาย แต่เธอไม่ยอมหยุด

“ไม่รู้มันเอาอะไรคิดให้หนูมยุริญมาดูแลพ่อขณะที่ตัวเองพานังแพศยานั่นไปเดินเที่ยวผลาญเงิน เวรกรรม

ของฉันจริงๆมีผู้หญิงดีๆใส่พานมาถวายถึงที่ ดันไปปลุกผีขึ้นมาป่วนครอบครัว อยากให้แม่ตายเร็วหรือไง”

จังหวะนั้นมยุริญกลับเข้ามาพร้อมกับถุงใส่ยาของวัฒนา แปลกใจที่เห็นทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ถามว่ามีอะไรกันหรือเปล่า ต่างคนต่างนิ่งเงียบไม่มีใครให้ความกระจ่าง...

นันทากลับถึงบ้านอย่างเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ เจอตรีทศกับนันทนากำลังทะเลาะกันเรื่องที่เขาแอบเหล่ตะวันตอนเดินผ่าน นันทาคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ออกปากชวนตรีทศอย่าเพิ่งรีบกลับ ให้นอนค้างคืนที่นี่ด้วยกัน บ้านนี้มีตั้งหลายห้อง เขาจะเลือกนอนห้องไหนก็ได้เธออนุญาต อยู่ด้วยกันหลายๆคนจะได้ไม่วังเวง คืนนี้นันทวัฒน์ไม่อยู่ต้องไปเฝ้าเจ้าสัวที่โรงพยาบาล ตรีทศยิ้มให้ว่าที่แม่ยายอย่างรู้กัน

“งั้นสบายใจได้ครับ ตรีทศอยู่ด้วยทั้งคน ครื้นเครงแน่ๆ”...

ขณะที่เฮียฮุยกำลังสั่งงานให้เลขาฯไปเช็กประวัติผู้หญิงที่ตรีทศไปติดพันว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีข้อความจากบุคคลปริศนาที่ชื่อ A.แจ้งว่าไม่ต้องจัดการเป้าหมายแล้ว ส่วนเงินค่าจ้างก้อนนั้น A.ยกให้ เฮียฮุยหัวเราะชอบใจให้กับความโชคดีของตัวเอง ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย แถมได้เงินใช้ฟรีๆอีกต่างหาก...

ในระหว่างที่อึ่งถือแก้วใส่น้ำนมถั่วเหลืองที่นันทากำชับนักกำชับหนาว่าต้องเอาไปให้ตะวันถึงห้องพัก ไม่วายบ่นพึมพำตามนิสัยผีเจาะปากให้พูด

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมวันนี้ใจดีผิดปกติยอมให้ลูกเขยค้างที่บ้านแถมยังให้เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟลูกสะใภ้อีกต่างหาก” ว่าแล้วอึ่งมองซ้ายมองขวาเห็นปลอดคนแอบชิมน้ำนมถั่วเหลืองในมือไปหนึ่งอึก “เบๆไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย” เธอยังไม่ทันจะเคาะประตูห้อง ตะวันเดินออกมาเสียก่อน

“นมถั่วเหลืองค่ะ คุณนันให้เอามาให้ค่ะ แต่ไม่ค่อยอร่อยนะคะ...เอ่อ หมายถึงดูน่าอร่อยน่ะค่ะ”

“ขอบคุณนะคะพี่อึ่ง” ตะวันรับแก้วเครื่องดื่มกลับเข้าไปในห้อง...

ฝ่ายคีรินทนเห็นแม่มีปัญหาเรื่องการมองเห็นต่อไปอีกไม่ไหว ตัดสินใจซื้อมือถือเครื่องใหม่แล้วต่อสายหาเฮียฮุยบอกว่าพร้อมจะทำงานให้ แต่ต้องผิดหวังเมื่อเขาบอกว่าลูกค้ายกเลิกปฏิบัติการนี้แล้ว คีรินวางสายสีหน้าครุ่นคิดหนัก ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมารักษาดวงตาให้แม่

ooooooo

ตะวันสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงตรีทศเปิดประตูห้องเข้ามา เธอมองเลยไปด้านหลังของเขาเห็นนันทายืนจ้องมาที่ตัวเองเขม็ง จากนั้นประตูก็ปิดตามหลัง ตรีทศมองเธอที่นอนตัวแข็งทื่อด้วยสายตาหื่นกระหายแล้วเดินมานั่งบนเตียง ตะวันได้แต่มองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน เป็นทำนองว่าอย่าทำอะไรเธอเลย

“สวัสดีคนสวย ส่งสายตาหวานให้พี่ทศอีกแล้ว” ไม่พูดเปล่าเขาลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของเธอด้วย

“อย่...อย่า”

“อะไรนะจ๊ะ ไม่ค่อยได้ยินเลย...แหมๆๆ ถ้าอ้อนวอนกันขนาดนี้ พี่ทศคงต้องจัดให้ซะแล้ว”

อีกมุมหนึ่งหน้าห้องพักของตะวัน สำนึกดีในตัวนันทาทำให้เธอลังเล เงื้อมือจะเคาะประตูเพื่อหยุดสิ่งเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เกิดเปลี่ยนใจ หันหลังจะกลับห้องตัวเอง ต้องชะงักเมื่อเจอกันเกรายืนมองอยู่

“คุณพี่คิดจะทำอะไรคะ จะปลุกแม่นั่นขึ้นมาด่าเรื่องชวนตาวัฒน์ไปเที่ยวหรือคะ มันดึกแล้วนะคะคุณพี่ รอพรุ่งนี้เถอะ บอกตรงๆน้องขี้เกียจมานั่งตามเก็บหงอกคุณพี่ น้องเตือนแล้วนะคะ”พูดจบกันเกราเดินลงบันได

“ฉันไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาถอนหงอกฉันเล่นหรอก มันต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้กับฉัน” นันทาพึมพำเสียงเครียด ครู่ต่อมากันเกรามาถึงห้องครัวจะหยิบน้ำในตู้เย็นมาดื่ม ต้องตกใจเมื่อเห็นอึ่งนอนหลับอยู่เข้าไปสะกิดเรียกให้ตื่น เธองัวเงียลุกขึ้น แต่หนังตาหนักแทบลืมไม่ได้ ทันใดนั้นมีเสียงกรีดร้องของตะวันดังขึ้น

กันเกราหน้าตาตื่นวิ่งไปยังห้องต้นเสียง เห็นเจ้าของห้องนอนร้องไห้ตัวสั่นอยู่บนเตียง โดยมีตรีทศนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นใกล้ๆ เธอร้องเอะอะลั่นบ้าน เรียกให้คนมาช่วยไม่นานนัก ตะวันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเดือดร้อนถึงมยุริญต้องมาอยู่เป็นเพื่อน เธอเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด คร่ำครวญว่าทำไมตัวเองถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ตลอดเวลา มยุริญจับมือเธอไว้พลางปลอบใจ

“มันจบแล้วค่ะคุณตะวัน คุณโชคดีมากนะคะที่คุณตรีทศเมาหัวฟาดหัวเตียงสลบไปซะก่อน คุณปลอดภัยแล้ว พักผ่อนนะคะ อย่าคิดมาก” มยุริญลูบหน้าลูบหลังตะวันที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น นันทวัฒน์เปิดประตูห้องเข้ามาอย่างร้อนใจ ทันทีที่ตะวันเห็นเขา สะบัดมยุริญทิ้งแล้วโผกอดเขาแน่น
“พี่วัฒน์ ตะวันกลัว ช่วยตะวันด้วย”

มยุริญรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน รีบถอยออกมายืนดูห่างๆ นันทวัฒน์ประคองตะวันมานอนที่เตียงคนป่วย กุมมือเธอไว้จนเธอผล็อยหลับ มยุริญดูนาฬิกาที่ผนังห้อง เห็นบอกเวลาตีสี่ก็ขอตัวกลับก่อน เนื่องจากพรุ่งนี้มีนัดลูกค้าแต่เช้า นันทวัฒน์จะเดินไปส่ง แต่ตะวันละเมอเรียกเขา แถมจับมือไว้แน่น

“คนขับรถของยุริญรออยู่ข้างล่างค่ะ ไม่เป็นไรนะคะ พี่วัฒน์อยู่เป็นเพื่อนคุณตะวันดีกว่า เธอกำลังเสียขวัญ เดี๋ยวตื่นมาไม่พบใครจะตกใจ” มยุริญว่าแล้วเดินออกจากห้อง เขาอยากจะไปส่งเธอใจแทบขาด แต่ตะวันไม่ยอมปล่อยมือ จึงได้แต่ส่งด้วยสายตา...

ดึกมากแล้ว ธงไทยนอนไม่หลับเป็นห่วงความปลอดภัย ของตะวัน ตาท้วมเห็นใจเขามากเข้ามาช่วยพูดปลอบใจแต่ก็ไม่ทำให้เขาคลายความกังวลลงได้

ooooooo

นันทวัฒน์กลับจากโรงพยาบาลที่ตะวันนอนรักษาตัวอยู่เพื่อมาเอาข้าวของให้เธอ นันทาไม่วายแดกดันว่าพ่อตัวเองนอนพะงาบๆอยู่โรงพยาบาลไม่เห็นเขาเคยเหลียวแล ทีกับนังงูเห่านั่นดันไปอยู่เฝ้าเช้าเฝ้าเย็น เขาอ้างว่าที่เธอต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะแฟนของนันทนา ท่านเตือนให้เขาระวังตัวไว้บ้าง ตรีทศเกือบตายเพราะมัน

“หมอบอกว่าปรางค์โดนวางยา จะมีปัญญาทำอะไรใครได้ ไอ้หมอนั่นมันเมา ร่วงลงไปชนหัวเตียงเองต่างหากล่ะครับ” คำพูดแก้ตัวให้นังงูเห่าของลูกชายทำให้นันทาโกรธมาก กอปรกับครุ่นคิดหนักถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เธอเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น นันทวัฒน์รีบอุ้มแม่ไปนอนพักที่โซฟา

กันเกราดึงหลานชายออกมาคุยกันอีกมุมหนึ่ง เล่าว่าที่ตะวันเป็นแบบนั้นคงเป็นเพราะยาที่นันทาผสมในนมถั่วเหลืองให้เธอดื่ม อึ่งสารภาพให้ตนฟังว่าแอบชิมไปอึกหนึ่งแล้วก็หลับคาห้องครัว นันทวัฒน์เสียใจมากที่แม่ทำแบบนั้น ยังไม่ทันจะว่าอะไร นันทารู้สึกตัวตื่นขึ้นเสียก่อน พอเห็นหน้าเขาเท่านั้นจัดแจงจะลุกหนี อ้างเหม็นขี้หน้าลูกหน้าโง่ นันทวัฒน์เดินหนีด้วยความน้อยใจ กันเกราตำหนิพี่สาวทำไมถึงพูดกับลูกแบบนั้น

“ก็ดูความโง่ของมันสิ หน้ามืดตามัวหลงมันจนโงหัวไม่ขึ้น หาว่าฉันไปทำอะไรนังนั่น”

“แล้วมันจริงไหมล่ะคะ...ขอเถอะค่ะ อย่าให้อะไรก็แล้วแต่มันมาดึงด้านมืดของเราออกมาได้ เราดีงามของเราอยู่แล้ว ใครจะเป็นอย่างไรก็ชั่งเขา” กันเกราเตือนด้วยความหวังดี...

บ่ายวันเดียวกัน ขณะนันทากับกันเกรานั่งจิบน้ำชา นันทวัฒน์ประคองตะวันที่ยังอยู่ในอาการอ่อนเพลียเข้ามาในบ้านโดยมีมยุริญถือกระเป๋าใส่ของของตะวันเดินตามมาอีกทอดหนึ่ง นันทาถึงกับปรี๊ดแตกด่าลูกชายว่าช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆให้ผู้หญิงถือของหนักๆเอง มยุริญรีบแก้ตัวแทนเขาว่าเธอเป็นคนอาสาถือเอง

นันทาหมั่นไส้ที่ลูกชายเอาแต่ประคองตะวัน สั่งให้ปล่อยมือได้แล้ว พอเขาคลายมือออกตะวันเซทันทีเขาต้องประคองเธอไว้อย่างเดิม นันทาโมโหมากที่เธอสำออยทำท่าจะเอาเรื่อง กันเกราเห็นท่าไม่ดีรีบตัดบท

“ตาวัฒน์ พาเธอขึ้นไปพักเถอะ”...

ทางฝ่ายเฮียฮุยเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนถูกเล่นงานสะบักสะบอมก็แค้นใจมาก พอนันทนามาขอเยี่ยม เขาออกมาไล่ด้วยตัวเองว่าตอนนี้อาตี๋ของเขาเจ็บหนัก ไม่พร้อมให้ใครเยี่ยม แล้วต่อว่าว่าดูแลกันอย่างไรถึงปล่อยให้ตรีทศเป็นอย่างนี้ในบ้านของเธอ นันทนาเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้เธออยากยามาก ขอซื้อยาจากเขาแล้วรีบควักเงินให้ เฮียฮุยว่าเงินแค่นี้ไม่พอจ่าย เพราะเขามีแต่ยาเสพติดห่อใหญ่

“โทร.มาแล้วกันถ้ามีเงินห้าหมื่น แล้วจะให้คนเอาไปให้” พูดจบเฮียฮุยเดินขึ้นห้อง นันทนาได้แต่ยืนเซ็ง

ooooooo

ตะวันรอจนคนบนตึกใหญ่หลับกันหมด แอบเข้าไปหาพิชิตถึงในห้องพัก เขาตื่นขึ้นมาเห็นเธอนั่งมองเขาอยู่บนเตียง ทะลึ่งพรวดลุกขึ้น พร้อมกับขยับตัวออกห่าง เธอไม่ได้จะเข้ามาทำอะไร แค่จะมา ขอบใจที่เขาช่วยเธอไว้ รู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังลำบาก พิชิตไม่ตอบเบือนหน้าหนี

พลันภาพเหตุการณ์เมื่อวันก่อนผุดขึ้นมาในความคิดของพิชิต คืนนั้นเขาเข้าไปในครัวถึงได้รู้ว่านันทาสั่งให้อึ่งเอานมถั่วเหลืองไปให้ตะวันที่ห้องนอน เขาเอะใจว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลจึงแอบปีนขึ้นไปที่ห้องของตะวัน รอดูเหตุการณ์อยู่ เห็นตรีทศเข้ามาในห้องทำท่าจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ เขาย่องเข้าไปกระชากผมตรีทศจนหน้าหงาย จับหัวฟาดกับขอบเตียงด้วยความหึงหวงจนสลบเหมือด แล้วรีบปีนออกทางระเบียงห้อง

เสียงเรียกของตะวันปลุกพิชิตให้ตื่นจากภวังค์ เขาบอกเธอว่าไม่ต้องมาขอบใจ เขาแค่ไม่อยากให้เกิดเรื่องอุบาทว์ขึ้นในบ้านเท่านั้น แล้วลากตัวเธอออกไปเหวี่ยงไว้ หน้าห้องปิดประตูใส่ เธอยืนพิงประตูห้องยิ้มสะใจ

“ที่แท้นายก็หลงฉันหัวปักหัวปําสินะพิชิต กลัวฉันจะพลาดท่าไอ้กุ๊ยนั่นสินะ ไม่มีวัน”

ความจริงแล้วคืนนั้นตะวันมีสติดีตอนที่ตรีทศย่องเข้าหาเพราะยังไม่ได้ดื่มนมถั่วเหลืองแก้วนั้น เธอปล่อยให้พิชิตจัดการกับตรีทศ แล้วรอจนเขาปีนออกจากห้อง ถึงลุกขึ้นคว้านมถั่วเหลืองมาดื่มก่อนจะร้องกรี๊ดๆ...

ตะวันมองไปที่ประตูห้องพักของพิชิตอีกครั้ง แล้วเดินสะบัดออกไป อึ่งค่อยๆโผล่ออกจากที่ซ่อน

“ตายแล้ว บัดสี...บัดสีที่สุด” อึ่งพึมพำไล่หลัง...

เฮียฮุยเพิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่ทำให้ลูกชายของตัวเองตกอยู่ในสภาพบอบช้ำเป็นคนคนเดียวกับที่ลูกค้าเพิ่งยกเลิกการเป็นเป้าสังหาร คิดหาทางกำจัดให้สิ้นซาก

ooooooo

อึ่งฟ้องมยุริญถึงเรื่องที่เห็นตะวันออกจากห้องของพิชิตดึกๆดื่นๆ เธอขอร้องอึ่งต่อไปอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาพูดอีก และห้ามเอาไปพูดที่ไหนอีกด้วย เพราะสิ่งที่อึ่งเห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้

“ก็อึ่งสงสารคุณวัฒน์นี่คะ คนหนึ่งก็เมีย คนหนึ่งก็คนสนิท ดูสิมาช่วยกันสวมเขาซะงั้น”

นันทวัฒน์ประคองตะวันเข้ามา อึ่งถึงสงบปากสงบคำลงได้ เขารีบออกตัวว่าวันนี้ต้องพาตะวันไปหาหมอเนื่องจากยังมีอาการมึนหัวอยู่ แต่ติดที่ว่าต้องไปดูแลพ่อ มยุริญอาสาจะจัดการเรื่องวัฒนาแทนเขาเอง อึ่งสงสารมยุริญที่ถูกหลอกใช้เสนอแนะให้เขาพาตะวันไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกันที่วัฒนารักษาตัว ตะวันทำตาโหดใส่อึ่งแล้วหันไปอ้อนนันทวัฒน์ ถ้าให้คุณหมอคนเดิมติดตามอาการน่าจะดีกว่าไม่ใช่หรือ

“ไปเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ทางนี้ยุริญจัดการเองค่ะ”...

ทันทีที่ตะวันขึ้นรถของนันทวัฒน์อาการมึนหัวหายเป็นปลิดทิ้ง ชวนเขาไปหาอะไรอร่อยๆกิน อ้างว่ายังขวัญเสียไม่หาย อยากหาอะไรทำเพื่อผ่อนคลาย เขาอยากเอาใจเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงไม่ปฏิเสธคำชวน...

เฮียฮุยตัดสินใจโทร.หาคีริน โกหกว่าลูกค้าเปลี่ยนใจ ต้องการจัดการเป้าหมายที่เคยคุยกันไว้ให้เร็วที่สุดและจะให้ราคาอย่างงามหากเธอสนใจรับทำงานนี้

“รับสิเฮีย อะไรก็ทำทั้งนั้นแหละตอนนี้ ฉันยังไม่ได้ดูข้อมูลที่เฮียส่งมาเลย ข้อมูลก็ไม่มีแล้ว โทรศัพท์ใหม่ของฉันก็รับข้อมูลจากเฮียไม่ได้แล้วด้วย งานด่วนที่ว่าน่ะด่วนแค่ไหน”

“เดี๋ยวนี้เลย ลูกน้องเฮียตามมันอยู่ เดี๋ยวให้มันประสานแล้วชี้เป้ากันเลย จะได้ไม่ผิดตัว” เฮียฮุยวางสายด้วยอารมณ์เคืองแค้น “ใครบังอาจมาแตะต้องลูกชายอั๊ว มันต้องตาย”...

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 9 วันที่ 22 ก.ย. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ