อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 8 วันที่ 16 ก.ย. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 8 วันที่ 16 ก.ย. 58

วันนี้นันทวัฒน์ต้องไปเกียวโตกับทนงศักดิ์ เพื่อเจรจาธุรกิจ แต่ไม่อยากทิ้งตะวันไว้กับธงไทยตามลำพัง จัดแจงชวนเธอนั่งรถไฟความเร็วสูงไปด้วยกัน ทนงศักดิ์ทักท้วงจะชวนเธอไปทำไมให้เหนื่อยเปล่าๆ เราสองคนไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวเล่น แล้วเร่งให้เขารีบไป เดี๋ยวจะไม่ทันนัด

ธงไทยโล่งใจที่ได้อยู่กับตะวันตามลำพัง ชวนกันหาที่เที่ยว แม้จะไม่เคยมาญี่ปุ่น แต่ด้วยความช่วยเหลือจากกูเกิ้ลในมือถือ จึงเท่ากับมีไกด์ส่วนตัวพาทั้งคู่ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างมีความสุข

ทางด้านนันทวัฒน์ไม่เป็นอันเจรจาธุรกิจ เพราะมัวแต่เป็นกังวลที่ทิ้งภรรยาตัวเองไว้กับชายอื่น หยิบมือถือขึ้นมาจะโทร.หาเธอ คู่ค้าชาวญี่ปุ่นเหลือบมองเป็นเชิงตำหนิ ทนงศักดิ์ต้องสะกิดเตือน เขาถึงยอมเก็บมือถือไว้ที่เดิมด้วยสีหน้าไม่สบายใจ นึกอยากจะเขกหัวตัวเองที่ปล่อยให้สองคนนั่นได้อยู่กันตามลำพัง...



ตะวันกับธงไทยเดินชมวิวจนเหนื่อยจึงพากันนั่งพัก เธอบอกอย่างอารมณ์ดีว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง เธอไม่เคยรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจแบบนี้มาก่อน

“งั้นก็กลับไร่นวลตะวันสิครับ กลับไปกับพี่ กลับไปแต่งงานกัน นะครับตะวัน เรารักกันไม่ใช่เหรอ ตะวันมีทุกอย่างที่ไร่ของเรา มีพี่มีแม่นวลมีหนูพุทธ แล้วก็ทุกๆคน ที่สำคัญตะวันมีความสุข” ธงไทยว่าแล้วดึงเธอมากอด ตะวันทอดสายตามองไปรอบบริเวณ เห็นลมพัดใบไม้หลากสีสันไหวราวกับเต้นระบำ มันทำให้เธอนึกถึงอะไรบางอย่าง แสงวูบวาบผ่านเข้ามาในสมองของเธอจนปวดหัวจี๊ดถึงกับทรุดในอ้อมกอดธงไทย

กินยาได้สักพักตะวันกลับมาเป็นปกติ ธงไทยชวนให้เธอกลับไร่นวลตะวันอีกครั้ง เธอสัญญาจะกลับไปกับเขาแต่ต้องหลังจากเธอรู้เสียก่อนว่าใครกันแน่ที่ทำกับเธอแบบนี้...

เจรจาธุรกิจเรียบร้อย นันทวัฒน์ร้อนใจต้องการกลับโอซาก้าทันทีไม่อยากรอรถไฟเที่ยวเย็นให้เสียเวลา สั่งให้ทนงศักดิ์ทิ้งตั๋วใบเดิมแล้วซื้อตั๋วใบใหม่ ทนายความหนุ่มไม่เคยเห็นเขาเป็นอย่างนี้มาก่อน ไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงคนเดียวจะทำให้เขาเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ เตือนว่าเธอไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว เขาเองก็รู้ดี

“เธอเป็นคนใหม่แล้วและก็มีคนรักใหม่แล้ว”

“ผมเสียเธอมาครั้งนึงแล้ว จะไม่ยอมเสียเธอไปอีก” นันทวัฒน์เสียงกร้าวจนทนงศักดิ์ชักจะหวั่นใจ...

ธงไทยกับตะวันยังคงท่องราตรีไปตามย่านต่างๆของโอซาก้าอย่างมีความสุข ทั้งคู่มัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับแสงสียามค่ำไม่ทันสังเกตเห็นนันทวัฒน์ยืนดูอยู่ด้วยความปวดร้าว เขารอจนธงไทยอยู่เพียงลำพัง ตัดสินใจจะขอคุยเรื่องภรรยาของตนเอง ธงไทยรู้ทันชิงพูดขึ้นเสียก่อนว่าถึงกรุงเทพฯเมื่อไหร่ เขาจะพาตะวันกลับบ้านไร่

“ไม่ได้ ปรางค์ต้องอยู่กับผม”

“เธอไม่ใช่คนเดิมแล้ว เธอเป็นตะวันไม่ใช่ปรางค์ คุณไม่เข้าใจหรือไง”

“ไม่...ปรางค์ก็คือปรางค์ ผมจะทำทุกอย่าง...ทุกอย่างที่จะไม่ปล่อยเธอไปไหน”...

ด้านทนงศักดิ์ปรี่เข้ามาหาทันทีที่ตะวันออกจากห้องน้ำ อยากรู้ว่าในเมื่อเธอกำลังจะแต่งงานใหม่แล้วจะกลับมาทำไมอีก เธอแค่อยากรู้ที่มาของตัวเอง

“คุณไม่รู้มันเลยจะดีกว่า เชื่อผมเถอะ...มีไม่กี่คน บนโลกหรอกนะที่สามารถหลุดพ้นจากอดีตอันเลวร้าย ของตัวเองได้ คุณโชคดีและชีวิตใหม่ของคุณก็ดูสวยงาม คว้ามันไว้ซะก่อนที่จะไม่เหลืออะไรเลย”

ooooooo

ตะวันมีของติดไม้ติดมือจากญี่ปุ่นมาฝากเด็กรับใช้ทุกคนในบ้านวัฒนาและไม่ลืมของฝากให้กันเกราด้วย แทนที่จะได้รับคำขอบใจ กันเกรากลับหาว่าเธอคิดจะติดสินบนคนของตน ตะวันเดินเซ็งออกมาหน้าบ้านไม่ทันดูทางชนเข้ากับตรีทศล้มก้นจ้ำเบ้า เขาเห็นหน้าตาสะสวยของเธอก็คิดจะแต๊ะอั๋งทำทีเข้าไปประคอง

นันทนามาเห็นเข้าหาว่าเธออ่อยเหยื่อ ตรงเข้าตบตีอุตลุดโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ จากนั้นจับตะวันเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น แล้วตามเข้าไปจะซ้ำ เธอคว้าแขนไว้ พลิกตัวเป็นฝ่ายได้เปรียบ สายตาตื่นกลัวเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ก่อนจะตบตีเอาคืนอย่างสาสม ธงไทยเห็นตะวันทำร้ายนันทนา ร้องห้ามเสียงหลง เธอได้สติพบว่าตัวเองนั่งคร่อมอยู่บนตัวนันทนาก็ตกใจ ลุกพรวดขึ้นยืนตัวสั่น ขณะที่นันทนาชี้หน้าเอาเรื่อง

“แก...นังงูเห่า ฉันจะฟ้องคุณแม่”

ครู่ต่อมา ตะวันถูกนันทาเรียกไปชำระความที่ห้องรับแขก เธอพยายามอธิบายว่าทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ นันทาไม่ฟังเสียงจะเอาเลือดหัวเธอออกให้ได้ นันทวัฒน์กับกันเกราต้องดึงตัวไว้ ตะวันไม่อยากให้เรื่องราวบานปลาย ตัดสินใจทรุดตัวลงกราบขอโทษนันทาและนันทนา ทั้งคู่ตกใจมากเพราะมันผิดวิสัยปรางค์ทอง...

ธงไทยตัดสินใจจะพาตะวันกลับ เพราะถึงขนาดลงไม้ลงมือกันแบบนี้ คงจะอยู่ด้วยกันลำบาก นันทวัฒน์รับปากจะดูแลไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ตะวันอยากไปหาเปลว ขอร้องให้นันทวัฒน์ช่วยพาไป ทนงศักดิ์ร้องห้าม วันนี้เขาจะไปไหนไม่ได้เพราะต้องเข้าประชุมบอร์ดร่วมกับนันทา ธงไทยรีบเสนอตัวทันที

“ผมพาเธอไปเองครับ ไม่ต้องห่วง แค่บอกว่า ที่ไหน”...

การกระทำของตะวันครั้งนี้ ทำให้กันเกราเริ่มเอนเอียงว่าเธอจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นันทามั่นใจว่าไม่มีทางเป็นไปได้คนอย่างมันไม่มีทางเปลี่ยนตัวเองได้ ขอร้องกันเกราอย่าหลงกลนังงูเห่านั่นเด็ดขาด...

ทางฝ่ายทรงพลเห็นลูกกลับมาบ้านก็ดีใจมาก กอดแขนเธอไว้แน่นคร่ำครวญว่าอย่าทิ้งเขาไปไหนอีก ตะวันต้องปลอบให้เขาคลายเศร้า แล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง เขาถึงกับน้ำตาร่วงที่ลูกจำเขาไม่ได้ ก่อนจะเข่นเขี้ยวด้วยความแค้นใครกันที่ทำกับเธอแบบนี้ ให้ช่วยพาเขาไปเอาเรื่องพวกมันที

“วันนี้ไม่มีใครอยู่หรอกค่ะ ออกไปข้างนอกกันหมด”

“โถ ท่านเจ้าสัวคงจะนอนป่วยเฝ้าบ้านคนเดียวสินะ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ต่างคนต่างพิการแบบนี้ โอกาสจะไปเจอกันในชาตินี้ เห็นจะไม่มี” ทรงพลตีหน้าเศร้า ตะวันเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้

ooooooo

ขณะที่พยาบาลพิเศษกำลังสาธิตวิธีผสมอาหารเหลวตัวใหม่ของวัฒนาให้กันเกราดูอยู่ในครัว อึ่งถืออุปกรณ์ทำความสะอาดมาที่ห้องของวัฒนาเห็นธงไทยกับตะวันยืนอยู่หน้าห้องก็ร้องทักว่ามาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ระวังจะโดนเล่นงานเอาได้ ทั้งคู่ไม่ได้จะเข้าไปรบกวนอะไรท่านเจ้าสัว แค่พาเพื่อนเก่าของท่านมาเยี่ยม

“เพื่อนเก่าไม่ได้เจอกันนาน ตะวันเคาะห้องแต่คุณพยาบาลไม่อยู่”

“ไปเตรียมอาหารค่ะ จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะคะ ท่านจะได้ดีใจมีคนมาเยี่ยมบ้าง งั้นเดี๋ยวอึ่งค่อยมาทำความสะอาดนะคะ” พูดจบอึ่งหิ้วอุปกรณ์ต่างๆกลับไป

ภายในห้องของวัฒนา ทรงพลนั่งอยู่บนรถเข็นใกล้ๆกับเตียงนอน มองไปยังเจ้าของห้องที่หลับสนิท เขาเริ่มขยับตัว ก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ พอเห็นชัดๆว่าใครนั่งอยู่ข้างเตียง ตกใจตาเหลือกราวกับเห็นผี...

ฝ่ายกันเกราดูพยาบาลปรุงอาหารเหลวเสร็จก็เดินออกจากครัว สวนกับอึ่งพอดี อดทักไม่ได้ทำไมทำความสะอาดห้องของวัฒนาเสร็จเร็วนัก เธอยังเข้าไปทำให้ไม่ได้เนื่องจากท่านมีแขกมาเยี่ยม กันเกรางง แขกที่ไหน ทำไมตนถึงไม่รู้ แล้วใครเป็นคนพามา ในเมื่อไม่มีใครอยู่บ้าน

“คุณตะวันค่ะ คุณตะวันพามา”

“อะไรนะ! แม่นั่นพามา...ตายแล้ว” กันเกราวิ่งปรู๊ดออกไปโดยมีพยาบาลพิเศษวิ่งตาม อึ่งได้แต่ยืนงง...

ในระหว่างที่วัฒนาตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน นันทาเห็นลูกชายนั่งกระสับกระส่ายอยู่ในรถ อยากกลับไปเห็นหน้านังงูเห่านั่นเร็วๆ ก็หมั่นไส้ แกล้งสั่งให้คนขับรถแวะร้านขนมเจ้าประจำเพื่อถ่วงเวลา นันทวัฒน์รู้ว่าแม่แกล้งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทิ้งตัวพิงเบาะรถด้วยสีหน้าหงุดหงิด...

ทางฝ่ายเปลวกลับจากซื้อของ ไม่เห็นทรงพลอยู่ที่ห้องรับแขก สอบถามเด็กรับใช้ได้ความว่าไม่อยู่ไปบ้านเพื่อน เธองงมากไปได้อย่างไรในเมื่อเธอเอารถไป พอรู้ว่าปรางค์ทองเป็นคนมารับตัวไป เธอถึงกับนั่งไม่ติด...

ทรงพลเห็นวัฒนาหน้าตาตื่นพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถทำได้ ก็หัวเราะสะใจ

“ไอ้ที่จมูกนั่นน่ะ ท่าทางจะเกะกะนะ ไม่เป็นไรเพื่อน เดี๋ยวฉันจะเอาออกให้” ทรงพลว่าแล้วเอื้อมมือไปหยิบสายออกซิเจนออก

ที่หน้าห้องของวัฒนา ตะวันเอาแต่ชะเง้อเข้าไปในห้องจนธงไทยต้องปลอบว่าอย่าเป็นกังวลไปเลย ทรงพลคงกำลังพูดให้ท่านเจ้าสัวเข้าใจในตัวเธอได้ เธอพยักหน้ารับรู้ ยังไม่ทันจะว่าอะไร กันเกราจ้ำพรวดๆเข้ามาโดยมีพยาบาลพิเศษวิ่งตามมาด้านหลัง มองตะวันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ฉันเกือบจะหลงกลหล่อน นังงูเห่า” ไม่พูดเปล่า กันเกราผลักตะวันพ้นทางแล้วพรวดพราดเข้าไปในห้อง เห็นทรงพลถือสายออกซิเจนอยู่ในมือ ขณะที่วัฒนาหายใจพะงาบๆสีหน้าตื่นกลัวสุดขีด เธอโวยวายใส่ทรงพลว่าคิดจะทำอะไร เขาไม่ได้ผิดหวังที่ถูกขัดจังหวะ เพราะถึงอย่างไรเขาไม่ได้อยากให้วัฒนาตาย แค่อยากจะทรมานเล่นเพื่อความบันเทิง กันเกราเห็นวัฒนาช็อกหมดสติ รีบสั่งการให้พยาบาลพิเศษโทร.ตามรถพยาบาล

ooooooo

ทันทีที่พาทรงพลกลับถึงบ้าน ตะวันต่อว่ายกใหญ่ที่หลอกใช้เธอ วัฒนาเกือบต้องตายเพราะความโง่ของเธอ เขายิ้มสะใจ คนอย่างมันตายได้ยิ่งดี เพราะเป็นคนทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพเยี่ยงนี้

“ท่านหมายความว่ายังไง”

“ปรางค์ หนูจำอะไรไม่ได้เลยหรือลูก จำไม่ได้หรือว่าหนูเข้าไปบ้านหลังนั้นเพื่ออะไร”

ตะวันไม่เข้าใจว่าทรงพลหมายถึงอะไร เปลวไม่อยากให้เธอรู้ถึงความเลวร้ายของตัวเอง ชิงพูดขึ้นเสียก่อนว่าเธอเข้าไปในบ้านวัฒนาก็เพื่อแต่งงานกับคนที่เธอรัก แล้วรีบดึงตัวธงไทยกับตะวันออกมาหน้าบ้าน บอกให้เขาพาตะวันกลับไร่นวลตะวันอย่ากลับมาที่นี่อีก ตนไม่อยากเห็นเธอตกเป็นเครื่องมือของใครอีกต่อไป

“แต่ท่านเป็นพ่อ เป็นผู้มีพระคุณของเรานะคะ ถ้าไม่มีท่าน เราสองคนคงจะ...”

“ปรางค์ แยกให้ออก ระหว่างการตอบแทนบุญคุณกับการก่อกรรม”...

นันทากับนันทวัฒน์รีบไปที่ห้องไอซียูทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากกันเกรา เห็นวัฒนานอนหลับไม่ได้สติมีเครื่องช่วยชีวิตระโยงระยางเต็มไปหมดก็ใจเสีย หมอเจ้าของไข้รายงานว่าครั้งนี้เขาอาการหนักมาก เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด นันทาขอร้องให้หมอดูแลเขาอย่างดีที่สุดอย่าให้เขาจากไป หมอรับคำแล้วเดินออกจากห้อง เธอไม่รอช้าหันมาเล่นงานลูกชาย เห็นหรือยังว่านังงูเห่านั่นทำอะไรกับพ่อของเขา

“แต่ปรางค์ไม่รู้เรื่องนะครับคุณแม่ เธอจำอะไรไม่ได้”

“แกเชื่อมันเหรอ”

พยาบาลหันมาส่งสัญญาณให้เบาเสียงลงหน่อย ทนงศักดิ์ซึ่งตามมาสมทบรีบพาทั้งคู่ออกไปคุยกันข้างนอก แล้วรายงานว่าวันนี้หมอไม่อนุญาตให้เฝ้าไข้ ดังนั้น นันทาควรจะกลับไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เขาจองห้องพิเศษไว้ให้แล้ว ท่านเจ้าสัวอยู่ในมือหมอแล้วไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง นันทาพยักหน้ารับรู้ ยังไม่ทันจะขยับ

ไปไหน ธงไทยกับตะวันเดินเข้ามาเสียก่อน เธอถึงกับเลือดขึ้นหน้า ตวาดใส่ว่ายังหน้าด้านมาที่นี่อีกหรือ

“ตะวันอยากมาเยี่ยม...”

“อยากมาเยี่ยมหรือมาทำให้ท่านเจ้าสัวตายเร็วขึ้น นังงูเห่า” นันทาปรี่เข้าไปตบหน้าตะวันทันที นันทวัฒน์กับทนงศักดิ์ต้องช่วยกันตัวออกมา ธงไทยรีบเข้าไปดูแลตะวันพลางต่อว่าทำไมต้องทำรุนแรงขนาดนี้ด้วย

“แล้วที่มันทำล่ะ คนอย่างมันสามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น นายยังไม่รู้จักมันดีนายชาวไร่ รู้ตัวอีกทีชีวิตนายจะไม่มีอะไรเหลือเลย จำคำของฉันไว้”

“ผมไม่สนใจว่าอดีตของเธอจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เธอเป็นคนใหม่แล้ว เธอไม่หลงเหลือความเป็นคนเดิมแล้ว ทำไมพวกคุณไม่ให้โอกาสเธอบ้าง”

ตะวันขอร้องนันทาให้โอกาสเธอได้ขอโทษวัฒนาด้วย นันทากลับไล่ตะเพิดเธอไปให้พ้นหน้า ธงไทยรีบพาตะวันออกมาให้พ้นจากอารมณ์เกรี้ยวกราดของนันทา

ooooooo

กันเกรารำคาญที่อึ่งเอาแต่ร้องไห้ สั่งให้หยุด ร้องได้แล้ว ตนไม่โทษเธอเรื่องนี้เพราะเธอไม่รู้จัก

นังงูเห่านั่นดีพอ ตนเองก็เกือบหลงเชื่อว่ามันจะกลับเนื้อ กลับตัวได้ เด็กรับใช้ซึ่งอยู่ทันปรางค์ทองและเคยเห็นฤทธิ์เดชมาแล้ว กลับเชื่อว่าเธอความจำเสื่อมจริงๆ เพราะเธอเปลี่ยนไปมากราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ

“คนเราเกิดมาเหมือนผ้าขาว อยู่ที่คนเลี้ยงดูจะแต้มแต่งสีอะไรลงไป แม่นั่นน่ะถูกเลี้ยงมาด้วยความแค้น ความอาฆาต ก็กลายเป็นคนร้ายกาจ พอความจำเสื่อมไปเจอคนดีๆเลี้ยงดูมาก็กลายเป็นคนดีขึ้นมา แต่อดีตก็คืออดีต ทำเลวร้ายมามากใครลบล้างไม่ได้หรอก” กันเกราอธิบาย...

ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ตะวันเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด เสียใจที่เกือบทำให้วัฒนาตาย ธงไทยได้แต่ปลอบว่าไม่ใช่ความผิดของเธอ อย่าเสียใจไปเลย เธอไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้

“ตะวันอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด ตะวันอยากแก้ไข”

“บางทีถ้าเราไม่รู้มันเสียเลยอาจดีกว่าก็ได้นะตะวัน”...

ทางด้านทรงพลไม่พอใจที่เปลวปล่อยลูกกลับไป แทนที่จะให้สานงานแก้แค้นพวกบ้านวัฒนาต่อให้เสร็จ เธอไม่เห็นด้วย ลูกของเธอทำเพื่อเขามามากแล้ว และคนบ้านนั้นก็ได้รับผลกรรมไปแล้ว ขอร้องอย่าให้ลูกไปก่อกรรมทำเข็ญอีกเลย ทรงพลโกรธมากถึงกับด่าหยาบๆคายๆ

“อีเปลว อีเนรคุณ ฉันขุดแกมาจากซ่อง แกไม่รู้บุญรู้คุณเลยหรือ”

“ยี่สิบปีที่ผ่านมา ฉันถือว่าฉันชดใช้ให้ท่านไปหมดแล้วค่ะ” พูดจบเปลวเดินจากไป ทรงพลฉุนขาดตะโกนด่าไล่หลัง แต่เธอไม่สนใจทิ้งให้เขาสติแตกอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง...

ณ ริมทางเท้าไม่ห่างจากโรงพยาบาลที่วัฒนารักษาตัวนัก รันหงุดหงิดที่ต้องมาช่วยแม่ขายหมูปิ้ง พอต๋องขี่มอเตอร์ไซค์มารับ เธอแกล้งขอแม่ไปเข้าห้องน้ำแล้วโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ของเขาหนีเที่ยวทันที แม่พยายามร้องเรียกให้กลับมาก่อนแต่เธอไม่สนใจ จังหวะนั้นมีลูกค้ารายหนึ่งเข้ามาซื้อหมูปิ้ง สังเกตเห็นแม่ค้าท่าทางเงอะงะมองไม่ค่อยเห็นคิดจะโกงอย่างหน้าไม่อาย แทนที่จะจ่ายค่าหมูปิ้งที่ตัวเองซื้อในราคา 40 บาท เขากลับจ่ายธนบัตรใบละ 20 บาทให้ แต่บอกว่าเป็นใบละ 50 บาท

“อ๋อจ้ะ ตาไม่ค่อยดี เดี๋ยวนะจ๊ะ” แม่ของคีริน เชื่อใจ หยิบเหรียญสิบบาททอนให้ลูกค้ากำลังจะไป แต่ตะวันกับธงไทยผ่านมาเห็นพอดี ทนไม่ได้เข้าไปโวยวายว่าเห็นเขาให้ธนบัตรแค่ 20 บาทเท่านั้น ลูกค้าเห็นท่าทางเอาเรื่องของเธอกับธงไทยแล้วไม่กล้าหือ ควักธนบัตร 20 บาทอีกใบหนึ่งโยนให้แม่ค้า ธงไทยทวงเหรียญสิบบาทที่แม่ค้าทอนให้เมื่อครู่นี้คืนด้วย เขาโยนเหรียญลงพื้นแล้วอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนี ตะวันเก็บเหรียญสิบบาทคืนให้แม่ของคีรินซึ่งขอบใจทั้งคู่ยกใหญ่ เท่านั้นยังไม่พอ ตะวันเห็นฝนกำลังจะตก ชวนธงไทยช่วยแม่ค้าหมูปิ้งเก็บร้าน แถมอาสาพาไปส่งถึงบ้านอีกต่างหาก

ooooooo

เปลวหยิบเอกสารกับพาสปอร์ตที่แอบไปทำมาได้พักหนึ่งขึ้นมาดู พลางคุยโทรศัพท์กับพิม

“เอกสารพร้อมหมดแล้ว บัญชีก็มีเงินหมุนค่าใช้จ่ายในบ้านอยู่ ตัวเลขไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ ส่วนเงินสดที่จะติดตัวไปก็มีเท่าที่แกเห็นนั่นแหละ...ขอบใจมากนะพิมสำหรับทุกอย่าง วีซ่าจะผ่านหรือไม่ก็แล้วแต่บุญกรรม”

เปลววางสายแล้วเดินไปดูเงินที่ซ่อนเอาไว้ ใจหายวาบที่เงินหายไปหมด มั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือเด็กรับใช้ ตามไปคาดคั้นให้เอาเงินมาคืน เธอปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป ไม่ได้มีแต่เธอเท่านั้นที่เข้าห้องเปลวได้ ยังมีคุณท่านอีกคนหนึ่ง เปลวโกรธมาก

“ท่านเป็นแบบนั้น จะเข้าไปที่ห้องฉันได้ยังไง”

เด็กรับใช้ยืนกรานไม่ได้เป็นคนเอาเงินไปแล้วร้องไห้โฮ ทรงพลได้ยินเสียงเอะอะ เข็นรถเข็นเข้ามา

ถามว่ามีอะไรกัน เปลวโกหกว่าไม่มีอะไร แล้วไล่เด็กรับใช้ไปทำงานที่ค้างไว้ต่อไป ส่วนเธอเองก็ขยับจะไปเหมือนกัน ทรงพลไม่พอใจถามซ้ำว่ามีเรื่องอะไรกัน เปลวเดินหนีไม่ยอมตอบคำถาม

“อย่าทำแบบนี้กับฉันนะ เปลว” ทรงพลตะโกนไล่หลังอย่างหงุดหงิด...

ที่ไร่นวลตะวัน วันนี้อากาศร้อนจัด นวลทำงานในไร่ตั้งแต่เช้ายันบ่ายเริ่มไม่ไหว เป็นลมล้มฟุบไปตรงนั้น จ๊ะจ๋ารีบเข้าไปประคอง ขณะที่เจียมตะโกนเรียกให้ไผ่มาช่วยกันพาเธอกลับเรือนใหญ่...

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 8 วันที่ 16 ก.ย. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ