อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 6 วันที่ 14 ก.ย. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 6 วันที่ 14 ก.ย. 58

ปรารภรีบเข้ามาหามุกริน ตำหนิตัวเองว่าไม่น่าปล่อยให้เธอมาเลย ถ้าห้ามเสียแต่แรกก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้

“พี่ห้ามพวกเราไม่ได้หรอกค่ะ ทั้งพักตรา ทั้ง คิมหันต์” ปรารภถามว่าแล้วเธอจะยอมให้เขาทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆหรือ “ทนไม่ไหวมุกก็ลาออก แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ มุกยังต้องการงาน ต้องการเงินเดือนเลี้ยงตัว และก็ยังไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้พวกเขาเห็น”

“อย่าลืมแล้วกัน ว่ามุกยังมีพี่รภอีกคนนึงที่พร้อมจะปกป้องดูแลมุกเสมอ แล้วมุกจะกลับรถบริษัทกับพี่ไหม”



สิ้นเสียงปรารภ ธาดาก็แทรกขึ้นมาว่ามุกจะกลับกับตน ปรารภจึงขอตัวแต่บอกมุกรินว่าแล้วพบกันที่บริษัท บอกธาดาว่าขับรถดีๆนะ

“ผมขอลาป่วยแทนน้องสาวเลยแล้วกัน น่าจะสักสองอาทิตย์” ปรารภบอกว่าหายดีเมื่อไหร่ค่อยมาทำงานก็แล้วกัน

พอปรารภแยกไป ธาดาถามมุกรินว่า คิมหันต์ทำอะไรเธอบ้าง เธอบอกว่าทำเหมือนที่เคยทำ แต่ไม่ขอพูดดีกว่า

“ตามใจ แต่อย่ายอมให้มันทำกับเราอย่างนี้อีกเป็นอันขาดนะ คนอย่างไอ้คิมต้องไม่ตายดี คอยดูเหอะ แค่กลับไปเจอยายพักตรากับพลโทอรรถก็รากเลือดแล้วล่ะ พี่รับรอง”

“เขาบอกว่าจะถอนหมั้นพักตรา”

“มุกเชื่อมันเหรอ?” ธาดาจ้องหน้าถาม มุกรินเพียงแต่ส่ายหน้าช้าๆแทนคำพูด

ooooooo

คิมหันต์ถูกนำตัวไปที่โกดังร้าง เขาไม่ยอมเข้าไป ถูกชายฉกรรจ์ทั้งสามบังคับจับตัวเข้าไปจนได้

อรรถรออยู่ในโกดังร้างแล้ว คิมหันต์ถามว่าทำไมถึงต้องมาคุยกันในนี้ อรรถบอกว่าตนต้องการความเป็นส่วนตัว คิมหันต์เรียกเขาว่าท่าน ก็ถูกขอร้องแกมบังคับว่าให้เรียก “พ่อ” เพราะอีกไม่นานตนก็จะเป็นพ่อตาเขาแล้ว

อรรถเอาถุงอาหารวางไว้ให้ บอกให้กินอาหารเสียก่อนเพราะท่าทางจะหิว แล้วนั่งตรงหน้าไม่ห่างจากคิมหันต์นัก พลางพูดเรียบๆแต่ทรงอำนาจ...

“เธอเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อไหม คงไม่ เพราะเธอยังไม่เคยมีลูก งั้นเธอลองนึกถึงความรักของพ่อได้ไหม” คิมหันต์บอกว่านึกไม่ออกเพราะพ่อตายตั้งแต่ตนยังเล็กๆ “งั้นฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน พ่อทุกคนต้องการเห็นลูกมีความสุข เมื่อไหร่ที่ลูกมีปัญหา เจ็บปวด ทุกข์ใจ พ่อจะเจ็บกว่าหลายเท่านัก ยิ่งพ่อที่มีลูกสาวคนเดียว ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่”

คิมหันต์นั่งฟังอรรถพูดอย่างสงบนิ่ง อรรถลุกเดิน พูดต่อ

“ทีนี้ไอ้ปัญหาความทุกข์ใจของผู้หญิง มันมีสาเหตุอยู่ไม่กี่เรื่อง หลักๆก็มาจากผู้ชาย ในกรณียายพักตรา ผู้ชายคนนั้นก็คือเธอ...เธอคือต้นตอของปัญหาของลูกสาวฉัน รู้ใช่ไหม...ดังนั้น การแก้ปัญหาให้ลูกสาวฉัน ก็คือการแก้ที่ตัวเธอ”

“ผมตั้งใจจะคุยกับท่านเรื่องนี้” คิมหันต์เพิ่งสบโอกาสได้พูด ถูกอรรถปรามให้เรียกพ่อ เขาจึงเรียกตามนั้น “ผมตั้งใจจะคุยกับคุณพ่อเรื่องนี้เหมือนกัน”

“ดี...ว่ามา... แต่หวังว่าจะเป็นคำพูดที่รื่นหูฉันนะ เพราะถ้าฟังแล้วไม่สบายใจ มันอาจจะต้องแปลงไฟล์กันนิดหน่อย” ฟังแล้วคิมหันต์อึ้งพูดไม่ออก

“เอ้า...ว่ามาสิ เธอจะบอกอะไรฉัน”

“คือผมคิดว่า...ผมกับพักตร์ เราคงจะ...”

“แต่งงานกันเร็วๆนี้” อรรถแทรกขึ้นทันทีแล้วพูดต่อเลย “ฉันไม่ได้ลากตัวเธอมาที่นี่เพื่อฟังคำปฏิเสธนะ ไอ้ลูกชาย แต่ฉันก็ไม่เร่งร้อนอะไร นอกจากจะขอร้องว่า ในระหว่างรอคอยความพร้อมของการแต่งงาน ฉันไม่ต้องการเห็นลูกสาวของฉันมีความทุกข์ เพราะมันจะทำให้พ่ออย่างฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ และเมื่อฉันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ฉันมักจะจัดการกับต้นเหตุแห่งทุกข์ด้วยวิธีการรุนแรง...ที่สุด!”

“แล้วคุณพ่อจะทราบได้อย่างไรว่าอะไรคือต้นเหตุแห่งทุกข์ที่แท้จริง”

“ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ... ต้นเหตุแห่งทุกข์ พิจารณาได้จากใจ...ใจของฉันเท่านั้น...และที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครกล้าขัดใจฉัน” คิมหันต์ก้มหน้า อรรถจ้องหน้าถาม “เข้าใจไหม”

“ครับ”

“แต่ถ้าเธอทำให้ลูกสาวฉันมีความสุข เธอก็จะได้รับความสุขกลับไปไม่แพ้กัน...เข้าใจชัดเจนทั้งหมดที่ฉันพูดใช่ไหม” คิมหันต์ตอบครับอีก “เธอกลับไปอาบน้ำอาบท่าที่โรงแรม นอนหลับให้เต็มอิ่ม แล้วค่อยขับรถกลับบ้านดีๆ พักตรารอเธออยู่ อย่าทำให้ฉันผิดหวังอีกนะ ไอ้ลูกชาย!”

อรรถตบบ่าคิมหันต์คล้ายหยอกแต่แรงเกินหยอก คิมหันต์ได้แต่ก้มหน้านิ่ง อยู่ในสภาพพูดไม่ออก...

ooooooo

ระหว่างธาดาขับรถพามุกรินกลับนั้น เขาโทรศัพท์คุยกับดวงดาว ถามอ้อนว่า

“ดาว...ยังโกรธอาอยู่เหรอ... อาขอโทษนะ หายโกรธแล้วโทร.กลับอาด้วย...หรือถ้าอยากให้อาไปรับกลับบ้านก็โทร.บอกได้นะ ดาว...”
มุกรินนั่งฟังอยู่ ถามว่าเขาทำอะไรดวงดาว ธาดาบอกว่าตนดุที่ปล่อยให้มุกนั่งเรือไปกับได้คิม และตบหน้าด้วย

“ผู้ชายเห็นแก่ตัวทุกคน คิดจะทำยังไงกับผู้หญิงก็ทำ” ธาดาบอกว่าไม่ทุกคนหรอก มุกรินเอ่ยปากขอว่า “ลบรูปนั้นทิ้งด้วยนะ พี่ใหญ่”

คิมหันต์ไปนั่งฟังการซ้อมเพลงของดวงดาวที่ร้านอาหารทั้งที่ร้านยังไม่เปิด ดวงดาวซ้อมเพลงเสร็จบอกเขาว่าอยากกินอะไรสั่งไว้ก่อนเลยดีไหม เขาบอกว่าอะไรก็ได้ที่เมา ดวงดาวบอกว่าคราวที่แล้วก็เมาจนตนต้องไปส่งที่บ้าน คราวนี้จะต้องไปส่งอีกหรือเปล่า คิมหันต์บอกว่าตนขับเองดีกว่า ถ้าเมาก็กลับเช้าเลย

ดวงดาวถามว่ามีที่นอนแล้วหรือ

“ผู้ชาย...หาที่นอนไม่ยากหรอก”

ฝ่ายอรรถกลับถึงบ้านเจอพักตรานั่งอยู่มืดๆ เธอบอกพ่อว่าคิมยังไม่กลับเลย พออรรถบอกว่าไม่เกินพรุ่งนี้เช้า เธอก็เสียงดังทันทีว่าไหนพ่อบอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้วไง แล้วทำไมยังไม่กลับ โทร.ไปก็ปิดเครื่อง

อรรถบอกว่าตนให้ไปพักผ่อนปรับสภาพจิตใจก่อน อธิบายอย่างใจเย็นว่า

“พักตร์ พ่อเป็นผู้ชาย พ่อรู้ดีว่า ผู้ชายทุกคนมีศักดิ์ศรี มีความต้องการที่จะเป็นผู้นำ เราต้องไม่บีบเขาจนเกินไป ให้เวลาเขานิดนึง ให้เขาไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ แล้วเขาจะกลับมาเป็นของเราตลอดไป เหมือนที่แม่ของลูกทำกับพ่อ”

“แต่พ่อก็ยังมีเด็กๆของพ่อไม่ซ้ำหน้า” อรรถโต้ว่าเพราะแม่เขาชิงตายไปก่อนนี่ พักตราอารมณ์เย็นลง ถามว่า

“แล้วคิมอยู่ไหน แอบไปอยู่กับยายมุกอีกรึเปล่า” อรรถบอกว่าไม่ใช่แน่นอน เธอถามทันทีว่าพ่อรู้ได้ไง

“เพราะถ้าเป็นพ่อ พ่อจะไม่ทำอย่างนั้น...เอาล่ะ วันนี้นอนพัก ทำตัวให้สวย สดใสไว้ดีกว่านะลูก พรุ่งนี้เจอหน้ากันจะได้มีแต่ความสดชื่น ไม่ขุ่นมัว...เชื่อพ่อนะ”

“พ่อคะ...หนูจะไล่ยายมุกออกจากงาน” อรรถติงว่าไม่ดีแน่ๆ คนจะนินทาว่าเรารังแกเขา ไม่ควรทำ “แล้วทีมันรังแกหนูล่ะคะพ่อ มีใครนินทามันบ้างไหม” พักตราโต้อย่างเจ็บใจ

ooooooo

ธาดาพามุกรินกลับถึงบ้านเช่า เธอถามเขาว่าดวงดาวไม่กลับมาแล้วใช่ไหม เขาบอกว่ายังตามหาตัวไม่เจอ

“เขาไม่ใช่คนที่พี่ใหญ่จะบังคับได้” ธาดาบอกว่าถ้าจะบังคับใครได้ตนขอบังคับเธอไม่ให้ยุ่งกับไอ้คิม “มุกบังคับตัวเองได้ พี่ใหญ่ไม่ต้องมาบังคับมุกหรอก”

มุกรินมองแหวนเอ็นเบ็ดที่นิ้ว เธอรูดมันลงไปถึงปลายนิ้วแต่แล้วก็เลื่อนกลับขึ้นไปที่เดิม

คิมหันต์อยู่กับดวงดาวในร้านอาหารที่หัวหิน ร้องเพลงเสร็จเธอลงมานั่งกับเขา คิมหันต์สั่งเครื่องดื่มแต่เธอดื่มน้ำเปล่า เธอถามว่าทำไมเขาไม่กลับกรุงเทพฯไปหาคนที่เขาควรไปหา คิมหันต์บอกว่าตนไม่รู้ว่าคนนั้นคือใคร ถูกดวงดาวด่าว่ากะล่อน แล้วเปลี่ยนเรื่องถามว่า เขาส่งรูปอะไรให้ธาดา

“รูปน้องสาวเขา รูปที่ทำให้เขาเครียด แค้น เสียสติ” เธอถามว่าแล้วไม่คิดว่าเขาจะเอาให้มุกรินดูหรือ “ไม่ทันคิด แต่มุกเห็นแล้ว เธอตบหน้าผมเลย”

ดวงดาวถามว่าคนรักกันเขาทำกันอย่างนี้หรือ คิมหันต์ถามว่าเธอมีคำแนะนำดีๆให้ตนไหม เธอบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีเขาพูดอย่างเจ็บแค้นว่า

“งั้นผมบอกให้ก็ได้ มันมีสองวิธีเท่านั้น อภัย หรือไม่ก็เอาคืนให้สุดๆไปเลย” ดวงดาวเดาว่าเขาเลือกวิธีหลัง คิมหันต์ยิ้มหยัน “ผมจะทำลายทุกอย่างที่เป็นของรักของนายธาดา...และคุณคือหนึ่งในนั้น” แต่ตอนนี้ตนยังไม่รู้ว่าจะทำลายเธออย่างไร ต้องรอให้เมาจนไม่ได้สติก่อน ดวงดาวถามว่าจะสั่งเหล้าเพิ่มอีกไหม เขายิ้ม กรอกเหล้าเข้าปาก แต่ไม่ตอบ

คืนนี้คิมหันต์เมาจนดวงดาวต้องให้เพื่อนนักดนตรีช่วยกันหิ้วปีกขึ้นไปที่ห้องพักของตน เพื่อนนักดนตรีบ่นว่าเป็นแบบนี้สองหนแล้ว ตัวเบาเสียที่ไหน ถามว่าเธอแน่ใจหรือว่าให้นอนห้องนี้และเขาจะไม่ทำอะไรเธอ

“ก็ดูมันสิ มันจะมีแรงไหมเนี่ย อย่างมากก็เมาอ้วก” ดวงดาวมองคิมหันต์ที่ถูกโยนนอนแผ่อยู่บนเตียง

“พี่ก็ว่า...แต่ถ้าเอ็งไม่ใช่ทอม พี่ไม่ปล่อยให้มันอยู่นี่หรอก ไปแล้ว ไปแรดหน่อย เจอกันตอนเช้า”

ดวงดาวเตือนว่าอย่าให้เมียจับได้ก็แล้วกัน แล้วหันจับตัวคิมหันต์ให้นอนในท่าสบาย เขายังเพ้อขอเหล้าอีกขวดแต่พอพูดจบก็หลับเป็นตาย ดวงดาวมองคิมหันต์ที่นอนไม่รู้เรื่อง เธอกอดและจูบเขาแนบแน่น...อยู่อย่างนั้น...

ooooooo

อรรถโทร.คุยกับลูกน้องที่โต๊ะอาหารเช้า ขณะรอเลขาสาวสวยที่กำลังจัดอาหารมาให้

“เขากำลังกลับกรุงเทพฯเหรอ...เมื่อคืนเขานอนที่ไหน...เหรอ...ผู้หญิงที่ชื่อมุกรินล่ะ...ขอบใจนะ” พอดีเลขาเอาอาหารมาให้ อรรถบอกให้เธอกินเลยไม่ต้องรอตนแล้วลุกจากโต๊ะ พลางโทร.หาพักตรา

“คิมมาถึงแล้วเหรอพ่อ” พักตรางัวเงียรับสาย อรรถบอกว่ายัง แต่สบายใจได้ว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้อยู่กับมุกริน คนของพ่อบอกว่าเขาเมานอนโรงแรมเล็กๆที่หัวหิน พักตราถามว่านอนกับใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย พออรรถบอกว่าเป็นทอม เธอถามทันทีว่าชื่อดวงดาวหรือเปล่า

พักตราโทร.หาธาดาทันที บอกเขาว่าเมียเด็กของเขาเอาคิมหันต์ไปนอนด้วยเมื่อคืนนี้ที่หัวหิน ธาดาหาว่าเธอพูดมั่ว

พักตราด่าว่า ตนไม่ได้มั่ว เขานั่นแหละโง่ คิดจะมีเมียเด็ก แต่ไม่รู้จักระวังปล่อยให้เด็กสวมเขายังไม่รู้ตัวอีก ธาดาไม่เชื่อ เธอท้า

“ไม่เชื่อก็ถามจากมันเองแล้วกัน แล้วก็คอยจับตาดูด้วยว่าใครมาส่งเมียแกที่บ้าน”

“ถ้าทั้งหมดที่คุณพูดมาไม่เป็นความจริง ผมเล่นงานคุณแน่ พักตรา!” ถูกพักตราสวนทันควันว่าตนต่างหากที่จะบุกไปเล่นงานเมียเด็กของเขา เตรียมรับมือให้ดีก็แล้วกัน มุกรินที่นอนฟังอยู่บอกธาดาว่าถ้าพวกเขามา ไม่ต้องเรียกตนนะ แล้วเดินเข้าห้องนอนไป

ooooooo

แต่พอคิมหันต์พาดวงดาวมาส่งที่บ้านเช่าของธาดา ดวงดาวชวนเข้าบ้าน คิมหันต์ไม่อยากมีปัญหา

“ฉันนึกว่าคุณต้องการให้ที่นี่มีปัญหาเสียอีก ที่จริงคุณทำร้ายจิตใจอาธาดาได้สบายๆ ด้วยการเดินเข้าไปในบ้านพร้อมฉัน” คิมหันต์บอกว่ายังไม่ใช่เวลานี้ เพราะตนอยากรู้ทุกอย่างที่เป็นความลับของเขา “เสียใจค่ะ ไม่มีอะไรลึกลับมากไปกว่าที่คุณเห็นหรอก นอกจากไอ้ขุม ไว้ฉันรู้อะไรมากกว่านี้ก่อนแล้วจะบอก”

คิมหันต์ไม่ทันไป ธาดาก็ตะโกนด่าออกมาอย่างโกรธแค้น ถามว่าพาดวงดาวไปไหนมา ถามดวงดาวว่าเมื่อคืนเธออยู่กับมันตลอดคืนหรือ ดวงดาวบอกว่าตนนอนห้องของตน คิมหันต์กวนประสาทว่าอย่าคิดมากเดี๋ยวเส้นโลหิตแตกก่อนได้ขึ้นศาล ธาดาตวาดว่าขึ้นอีกตนก็ชนะอีก

“ชนะเพราะน้องสาวให้การเท็จ มันน่าภูมิใจมากเลยนะ” คิมหันต์ประชด ธาดาบอกว่าภูมิใจที่มุกรินเลือกพี่ชาย ไม่เลือกคนชั่วๆอย่างเขา คิมหันต์โมโหจะเข้าไปเรียกมุกรินมาถาม มุกรินออกมาบอกให้เขากลับไปเสียตนไม่มีอะไรจะอธิบายอีกแล้ว

ขณะทุกคนกำลังโต้เถียงกันและรํ่าๆจะใช้กำลังกันอยู่นั่นเอง พักตราก็มาถึง พักตราด่าดวงดาวว่าคิดจะมาแย่งคู่หมั้นตนแล้วจะเข้าไปตบ คิมหันต์บอกให้พอแล้ว อย่าทำเรื่องบ้าๆอย่างนี้ได้ไหม คิมหันต์ลากพักตราไปที่รถ

ระหว่างพาพักตรากลับ เธอตัดพ้อคิมหันต์ว่าใจร้ายกับตนมาก ทำไมต้องทำกับตนอย่างนี้ด้วย

“ถ้าพักตร์มีสติ สงบนิ่ง ผมก็คงไม่ทำอย่างนี้หรอก คุณโวยวาย ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แล้วก็ทิ้งงานหนีกลับกรุงเทพฯ”

พักตราสับสนเอาแต่โมโหโวยวายหาว่าคิมหันต์หาเหตุจะถอนหมั้นตน จนเขาบอกว่ามีเรื่องอะไรไปคุยกันที่คอนโด

พอมาถึงคอนโด คิมหันต์เอ่ยเรียบๆว่า

“ผมอาจจะทำบางอย่างที่ไม่ถูกต้องนักกับคุณ ผมขอโทษก็แล้วกัน”

“พักตร์ไม่ต้องการคำขอโทษ พักตร์ต้องการคำยืนยันว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกได้ไหม!” คร่ำครวญว่าตนทำผิดอะไรทำไมถึงไม่ได้รับความรักทะนุถนอมจากเขาบ้าง คิมหันต์ขอให้เราพูดกันด้วยความเข้าใจดีไหม ชี้แจงว่าตนเพิ่งถอนหมั้นจากมุกริน ยังมีบางอย่างที่ต้องเคลียร์กัน เรื่องที่มุกรินให้การเท็จ ขอร้องพักตราให้เวลาตนหน่อยได้ไหม

พักตราถามว่าตนจะได้อะไรจากการให้เวลา คิมหันต์บอกว่า “ทุกอย่างที่คุณต้องการ” พักตราขอทันทีสองข้อคือ หนึ่ง ขอให้สัญญาว่าจะไม่พามุกรินไปอยู่กันตามลำพังสองต่อสองอีก สอง! “พักตร์ขอตอนก่อนนอน คืนนี้...”

ooooooo

ที่สำนักกฎหมายบูรพา...ผู้ช่วยทนายค้นพบอะไรบางอย่างที่สำคัญในแฟลชไดรฟ์และเมมโมรี่การ์ด เขารีบไปเรียกชุมสายให้มาดู

หลังจากชุมสายดูแล้วเขาโทร.บอกคิมหันต์ว่าพรุ่งนี้เขาจะได้เห็นอะไรบางอย่างในกล้องของพวกทำหนังสั้น รับรองว่าเจ๋ง

เมื่อคิมหันต์มาถึงสำนักกฎหมายบูรพาในเช้าวันรุ่งขึ้น ชุมสายให้เขาดูภาพที่กลุ่มนักศึกษาตั้งกล้องถ่ายในคืนนั้นอย่างละเอียด หยุดให้ดูที่ทางเข้าบ้านวิมลรัตน์ ในเวลาที่ฝนตกหนักซึ่งไม่มีคนผ่านไปมาในบริเวณนั้นเลยแม้แต่คนเดียว แต่กลับมีรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าไปในทางเข้าบ้าน

“แล้วอีกชั่วโมงต่อมา รถนายธาดาจึงวิ่งออกไปโดยไม่มีมอเตอร์ไซค์ตามมาด้วย เป็นไง เด็ดไหม” ชุมสายถาม คิมหันต์ถามว่าแล้วมอเตอร์ไซค์หายไปไหน

“กล้องตัดเสียก่อน แต่มันมาโผล่ที่นี่ ที่กล้องวงจรปิดตรงนี้ นี่ไง คันเดียวกัน”

คิมหันต์เห็นว่ารถมอเตอร์ไซค์ออกมาทีหลังตอนเช้ามืด ชุมสายย้ำว่านี่เป็นหลักฐานใหม่ที่ศาลอาจจะรับฟังก็ได้ ถามว่าเมื่อหลักฐานชัดเจนอย่างนี้เขายังจะเล่นงานธาดาตามแผนหรือเปล่า

“แน่นอน คนอย่างไอ้ธาดา มันต้องโดนให้ครบ ทุกรูปแบบ” คิมหันต์ยืนยัน ชุมสายติงว่าให้นึกถึงมุกรินให้มากๆ

“ฉันรู้... เราควรจะสืบให้รู้ด้วยว่า ไอ้มอเตอร์ไซค์คันนั้น มันคือใคร?” คิมหันต์ครุ่นคิด

เช้านี้ธาดาทั้งตกใจทั้งโมโหเมื่อเห็นขุมมาหาถึงหน้าบ้าน มันบอกว่าเงินหมด ธาดาถามว่าใช้ยังไงเงินตั้งล้าน? พอถูกมันย้อนถามว่าแล้วทีเฮียล่ะ เงินเป็นสิบๆล้านยังหมดในวันเดียว ธาดาตัดบทถามว่าเอาอีกเท่าไหร่

“ห้าล้านเฮีย” ธาดาตวาดว่ากูไม่มี “ถึงเฮียจะไม่มี แต่เฮียก็มีแหล่งเงินพอจะให้หยิบฉวยได้นี่นา” เห็นธาดาจ้องหน้านิ่ง มันถาม “หรือเฮียอยากให้ผมแฉ...ว่าไง”

“ออกไปรอฉันปากซอยใหญ่ ยืนหลบๆ อย่าให้ใครเห็นหน้ามึงมาก”

ooooooo

เช้าวันเดียวกัน มีคำสั่งด่วนของซีอีโอ พักตรา สั่งพักงานมุกรินวางที่โต๊ะปรารภ ปรารภตรงไปถามเหตุผลพักตราทันที เธอบอกว่าไร้ประสิทธิภาพในการทำงาน ปรารภถามว่าเอาอะไรมาวัด

“เอาความจริงน่ะสิ มีอย่างที่ไหน ทิ้งงานหนีไปเที่ยวเกาะ ไม่ใส่ใจในหน้าที่ ไม่รับผิดชอบต่อแผนงาน อย่างนี้เรียกว่ามีประสิทธิภาพเหรอ”

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 6 วันที่ 14 ก.ย. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ