อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 7 วันที่ 14 ก.ย. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 7 วันที่ 14 ก.ย. 58

ณ ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง คืนนี้คีรินซึ่งผันตัวมาเป็นนักร้องโชคไม่ดีนัก เจอแขกขี้เมาสองคนตีรวน พยายามจะไล่เธอลงจากเวทีแล้วให้นักร้องสาวสวยขึ้นมาร้องแทนที่ เธอไม่สนใจยังคงดีดกีตาร์ร้องเพลงต่อไป หนึ่งในพวกนั้นเกเรขนาดหนักบุกขึ้นเวทีเพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้หญิงจริงหรือเปล่า เอื้อมมือจะจับคอเสื้อ

คีรินคว้ามือเขาบิดแล้วกดลงกับพื้น แขกคนอื่นๆต่างโห่ฮาด้วยความสะใจเพราะหมั่นไส้พวกนี้นานแล้ว แขกขี้เมาอีกคนหนึ่งเห็นเพื่อนเสียทีจะเข้าไปช่วย แต่เจอผู้จัดการร้านกับเด็กเสิร์ฟขวางไว้ คีรินปล่อยมือแขกคนนั้น แล้วกลับไปร้องเพลงต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้จัดการร้านรีบตัดไฟแต่ต้นลม



“ผมขอเช็กบิลเลยนะครับพี่”

แขกขี้เมาทั้งคู่อับอายมาก กระแทกเงินลงบนโต๊ะแล้วพากันออกไป...

เรื่องระหว่างตะวันและธงไทยกับนันทวัฒน์ไม่มีทีท่าจะจบง่ายๆ เพราะฝ่ายหลังไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะได้คุยกับตะวันตามลำพังก่อน เพื่อตัดปัญหาเธอจึงยอมตามที่เขาต้องการ ธงไทยเริ่มงุ่นง่านที่ทั้งคู่หายไปนาน กลัวนันทวัฒน์จะหว่านล้อมจนตะวันคล้อยตามแล้วไปจากที่นี่ นวลต้องเตือนว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าตัว เขาไม่มีสิทธิ์ไปรั้งเธอไว้ และที่สำคัญ เขาต้องไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง ต้องตั้งสติให้ดี

“จำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต อย่าสูญเสียความดีงามของตัวเอง”...

ทางด้านนันทวัฒน์ทั้งอ้อนวอนขอร้องแทบจะก้มกราบให้ตะวันกลับไปเริ่มต้นใหม่กับตัวเองอีกครั้ง สัญญาว่าจากนี้ไปจะไม่ให้ใครมาแตะต้องเธอได้อีก ตะวันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของเขา ทั้งๆที่รัก

ธงไทยสุดหัวใจแต่มีบางอย่างดลใจให้เธอตอบตกลงจะกลับไปกับเขา ทันใดนั้นมีเสียงร้องห้ามของธงไทยดังขึ้น

“ไม่ได้นะตะวัน พี่ไม่ยอมให้ตะวันไปไหนทั้งนั้น บอกเขาไปสิตะวันว่าตะวันจะไม่กลับไปกับเขา”

ตะวันยืนกรานจะกลับไปกับนันทวัฒน์ แต่ธงไทยต้องไปกับเธอด้วย พิชิตที่ยืนฟังอยู่ด้วยถึงกับตะลึง...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน แขกขี้เมาสองคนยังไม่ยอมรามือ มาดักรอคีรินที่มอเตอร์ไซค์ของเธอตอนเลิกงาน เธอไม่อยากมีเรื่องยกมือไหว้หวังจะให้เรื่องจบ แต่สองคนนั่นไม่ยอมจบง่ายๆ เดินเข้าหา เด็กเสิร์ฟออกมาเห็นพอดีตะโกนถามเธอว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า แขกขี้เมาไม่อยากมีเรื่องกับคนทั้งร้าน จึงล่าถอยกลับไป

ครู่ต่อมาคีรินขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงหน้าบ้าน ยังไม่ทันจะลงจากรถ เฮียฮุย โทร.มาชักชวนให้เธอกลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง เธอปฏิเสธทันที อ้างว่าเรื้อเวทีมากว่าสามปีครึ่งแล้ว เกรงจะทำไม่ไหว เขาขอร้องให้ลองคิดดูก่อน ถ้าเกิดเปลี่ยนใจก็โทร.หาเขาได้ทุกเมื่อแล้ววางสายไปอย่างผิดหวัง คีรินเดินเข้าบ้านเห็นไฟปิดมืดนึกว่านอนกันหมดแล้ว แต่ปรากฏว่าแม่ของเธอยังนั่งเสียบหมูปิ้งอยู่ในครัว เธอร้องทักทำไมไม่เปิดไฟ

“เปิดหรือปิดก็ค่าเท่ากันนั่นแหละ แม่แทบจะมองไม่เห็นอยู่แล้ว”

หญิงสาวมองแม่ผู้กำลังจะสูญเสียการมองเห็นด้วยความสงสาร จัดแจงจะเข้าไปช่วย ท่านรีบบอกว่าไม่ต้อง ทำเสร็จพอดี แล้วไล่เธอไปนอน พรุ่งนี้ต้องลุกขึ้นมาขายของแต่เช้า คีรินยังไม่ทันขยับมีเสียงมอเตอร์ไซค์ดังมาจากหน้าบ้าน อึดใจรันน้องสาวของเธอเปิดประตูเข้ามา เธอต่อว่าน้องว่าทำไมทิ้งแม่ไว้คนเดียว แทนที่จะอยู่ช่วยเสียบหมูปิ้ง แม่กลับออกโรงปกป้องว่าเป็นคนไล่รันไปเอง อยู่ไปก็เกะกะท่านเปล่าๆ

“ไปๆ แยกย้ายกันไปนอนได้แล้ว”

คีรินไม่ค่อยชอบใจนักที่แม่มักจะให้ท้ายน้อง แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

ooooooo

พิมเห็นเปลวถูกซ้อมก็ทนไม่ไหวยุส่งให้หนีไปจากที่นี่ แล้วหยิบเงินที่ยืมไปคืนให้ พอดีแฟนเยอรมันของเธอกลับมาง้อ คราวนี้ดูเขาจริงจังกับเธอมาก ชวนกลับไปอยู่ที่โน่นด้วยกัน เปลวใจหาย เพราะมีเพียงพิมเท่านั้นที่คอยไปมาหาสู่ ถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้เธอคงเคว้งคว้าง พิมอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ชวนให้ไปอยู่เยอรมันด้วยกัน

“ฉันจะหาลู่ทางทำเอกสารให้แกเองนะเปลวนะ เอาปรางค์ไปด้วย เราก็มีกันแค่นี้นี่นา”

จังหวะนั้นทรงพลตะโกนเรียกเปลวดังมาจากในบ้านให้ชวนพิมมากินข้าวด้วยกัน วันนี้เขาทำไก่อบ พิมไม่เคยไปพบปะพูดคุยกับเขาเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้งเนื่องจากเปลวมักจะกันให้เธออยู่ที่โต๊ะสนาม เธอจึงร้องตอบรับคำเชิญชวนของเขา แล้วฉุดเปลวดิ่งเข้าตัวบ้าน...

ตะวันกับธงไทยเพิ่งจะย่างเท้าเข้าบ้านวัฒนา ก็โดนนันทนาด่าต้อนรับว่าหน้าด้านที่สุด กล้าพาผัวใหม่มาอยู่ที่นี่ด้วยหรือ ตะวันกลัวเสียงแผดแปดหลอดของเธอ รีบเบียดตัวเข้าหาธงไทยอย่างต้องการที่พึ่ง นันทวัฒน์ต้องหันไปเอ็ด นันทนาถึงสงบปากสงบคำลงได้ นันทาไม่พอใจลูกชายมาก

“ตาวัฒน์บ้าไปแล้วหรือไง แกทนได้ยังไง คนเขาลือกันไปถึงไหนๆ ว่านังงูเห่ามันเอาผัวใหม่กลับมาด้วย”

“ช่างปะไร ไอ้พวกปากหอยปากปู รู้ดีกันจริงๆ ลือกันไปได้ อย่าให้รู้นะว่าใครเอาไปเที่ยวพูด” นันทวัฒน์ว่าแล้วปรายตามองน้องสาวซึ่งตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้ ธงไทยชักจะทนไม่ไหว ทำท่าจะชวนตะวันกลับ นันทวัฒน์รู้ทันชิงบอกกันเกราเสียก่อนให้ช่วยพาทั้งคู่ไปที่ห้องพักด้วย ทีแรกเธอรีๆรอๆ ไม่กล้าทำตาม แต่พอเขาเสียงแข็งใส่ กันเกรารีบสั่งการให้เด็กรับใช้มาช่วยกันยกกระเป๋าของทั้งคู่ขึ้นข้างบน...

ระหว่างที่ธงไทยเริ่มเห็นเค้าลางความวุ่นวายตั้งแต่วันแรกที่มาร่วมชายคากับครอบครัวของนันทวัฒน์ ทรงพลพยายามทำดีกับเปลวเพื่อลบล้างความผิดที่ซ้อมเธออย่างหนักเมื่อวานด้วยการญาติดีกับพิมเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา แถมบอกให้เธอชวนพิมมากินข้าวด้วยกันอีก เขาจะได้หายเหงา

“วันไหนอบไก่ โทร.ตามได้เลยค่ะท่าน เออ เปลว วันหลังแกก็ตามไอ้ปรางค์มันมา ฉันเห็นข่าวว่ามันกลับมาแล้ว ที่งานเดินแบบอะไรนี่แหละ” ว่าแล้วพิมมองสบตาเปลวอย่างรู้กัน ฝ่ายหลังแอบโล่งใจที่เพื่อนไม่หลุดปากว่าวันก่อนไปหาลูกของเธอมา

“เขาคงไม่อยากมาหาฉันหรอก ถ้าอยากมาคงมานานแล้ว ฉันอิ่มแล้ว เชิญตามสบายนะ ฉันขอตัวก่อน” ทรงพลพูดจบเข็นรถเข็นที่ตัวเองนั่งออกไปด้วยสีหน้าเศร้าหมอง พิมมองตามด้วยความสงสาร...

ธงไทยถึงกับร้องเอะอะเมื่อกันเกราจะให้นอนห้องเดียวกับตะวัน เขากับเธอยังไม่ได้แต่งงานกัน ขืนทำแบบนั้นเท่ากับไม่ให้เกียรติเธอ กันเกราอดรู้สึกดีๆ กับเขาไม่ได้ หันไปสั่งให้อึ่งยกกระเป๋าของธงไทยไปไว้ที่เรือนพักคนงาน แม้จะไม่ค่อยชอบใจนัก แต่เขาทนได้ ขอแค่มีตะวันอยู่ใกล้ๆเป็นพอ...

หลังจากอิ่มหนำสำราญ เปลวเดินมาส่งพิมที่ประตูรั้ว ก่อนไปเธอไม่วายเตือนเปลวว่าว่างๆก็เตรียมเอกสารสำคัญไว้บ้าง เผื่อจะเอาไปยื่นเรื่องเดินทางไปเยอรมัน...

ดึกแล้วธงไทยนอนไม่หลับออกยืนหน้าเรือนพักมองขึ้นไปบนห้องพักของตะวัน พิชิตเข้ามายืนข้างๆ

“ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เธอจะทำให้ใครสักคนหลงหัวปักหัวปําแบบนี้ แล้วก็ไม่ยากที่เธอจะถีบหัวส่งอย่างเลือดเย็น” พูดจบพิชิตกลับเข้าห้อง ปล่อยให้ธงไทยยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

ooooooo

ตะวันหรือปรางค์ทองสร้างความประทับใจให้อึ่งตั้งแต่เช้าวันแรกของการเข้ามาอยู่ในบ้านวัฒนาด้วยการเข้าครัวลงมือทำข้าวต้มกุ้งเสร็จตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ แล้วชวนให้เธอมาช่วยชิมทีว่าจะถูกปากคนบ้านนี้หรือเปล่า อึ่งตักชิมแล้วถึงกับตาโตตื่นเต้น เพราะอร่อยถูกปากมาก

ทั้งกันเกราและนันทวัฒน์เองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าข้าวต้มกุ้งเป็นฝีมือของปรางค์ทอง แต่ก็ยอมรับว่าอร่อยมาก นันทาเดินหน้าเครียดเข้ามานั่งร่วมโต๊ะ แล้วลงมือตักข้าวต้มเข้าปาก ถึงกับชะงัก

“ไม่ใช่ฝีมือแม่อึ่ง ไม่ใช่เธอด้วยกันเกรา...ใครทำ” นันทาจ้องหน้าเด็กรับใช้ซึ่งพากันกลัวหัวหด...

อีกมุมหนึ่งในครัว ตะวันนั่งหั่นผักเตรียมไว้สำหรับมื้อต่อไป ส่วนอึ่งกำลังจะยกถาดใส่อาหารเหลวไปให้วัฒนาตอนที่เด็กรับใช้คนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่าคุณนันให้มาตามตัวอึ่งไปพบแล้ววิ่งปรู๊ดกลับไป เธอวางถาดใส่อาหารในมือด้วยความลังเลไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตะวันอาสาจะเอาไปท่านเอง อึ่งจึงบอกทางไปที่นั่นให้

“คุณเคาะห้อง เดี๋ยวคุณพยาบาลก็ออกมารับถาดค่ะ” อึ่งว่าแล้วรีบร้อนออกไป...

ครู่ต่อมาตะวันยกถาดใส่อาหารมาถึงหน้าห้องของวัฒนา เคาะประตูอยู่สองสามครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบ เนื่องจากพยาบาลพิเศษเอาอ่างใส่น้ำที่เช็ดตัวให้วัฒนาเสร็จแล้วออกไปทำความสะอาด ตะวันเห็นเสียงเงียบ ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปข้างใน ค่อยๆวางถาดอาหารไว้

แล้วหันไปมองเจ้าของห้องที่นอนหลับอยู่

“นี่เหรอ ท่านเจ้าสัววัฒนา”

ตะวันเหมือนถูกดึงดูดให้เข้าไปหาเขาโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร จากนั้นดึงสายออกซิเจนที่เสียบจมูกเขาออก วัฒนาเริ่มหายใจติดขัด พยายามอ้าปากพะงาบๆหายใจ พยาบาลพิเศษเข้ามาพอดี โวยวายว่าเข้ามาทำอะไร ตะวันได้สติหันมามอง เธอยิ่งตกใจเมื่อเห็นแขกไม่ได้รับเชิญถือสายออกซิเจนอยู่ในมือ...

ขณะนันทากำลังเล่นงานอึ่งที่ปล่อยให้ตะวันเข้าไปยุ่มย่ามในครัว พลันมีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่น ทั้งนันทวัฒน์ กันเกรากับนันทาต่างตกใจรีบวิ่งมายังห้องนอนของวัฒนา...

อีกมุมหนึ่งที่ลานจอดรถ ธงไทยกำลังเปิดรถเพื่อหยิบของ เห็นนันทนาเดินตัวสั่นๆมาที่รถของเธอไม่ทันสังเกตเห็นเขาเพราะมัวแต่ควานหากุญแจรถในกระเป๋าถือ พอหาได้ก็ดันทำหล่นเพราะมือสั่น ธงไทยคิดว่าเธอไม่สบายรีบเข้าไปช่วยเก็บกุญแจให้ แทนที่จะขอบใจ เธอกลับกระชากมันกลับ ตวาดใส่ไม่ต้องมายุ่ง แล้วพยายามกดสัญญาณรีโมตอยู่หลายทีกว่าจะเปิดรถได้ จังหวะนั้นพิชิตวิ่งพรวดเข้ามาเห็นนันทนาจะขึ้นรถ

“คุณนา รีบขึ้นไปดูท่านเจ้าสัวเร็ว”

นันทนาอยากยาเกินกว่าจะต้านไหว ไม่สนใจพ่อตัวเอง ขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว

ooooooo

นันทาปรี่เข้าหาตะวันด้วยความเดือดดาลหมายจะตบสักฉาดให้หายแค้น นันทวัฒน์กับกันเกราต้องช่วยกันห้ามไว้ ตะวันได้แต่ยืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก ธงไทยเข้ามาเห็นหญิงคนรักถูกด่าว่าปรี่เข้ากอดปกป้อง นันทาถึงกับปรี๊ดแตกเพราะขัดหูขัดตา ตะวันละล่ำละลักขอโทษเป็นการใหญ่ ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป

“ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ ฉันรู้นะว่าแกตั้งใจจะทำอะไร นี่ถ้าเจ้าสัวตื่นมาเห็นหน้าแกคงได้หัวใจวายตายไปแล้ว”

“ตะวันไม่รู้จริงๆค่ะ”

นันทาไม่เชื่อหาว่าโกหก ธงไทยยืนยันว่าเป็นความจริง ตะวันสูญเสียความทรงจำ ไม่สามารถจำเรื่องราวในอดีตได้ นันทาคิดว่าธงไทยก็เป็นเหยื่อเหมือนผู้ชายคนอื่น โดนนังงูเห่าหลอกว่าจำอะไรไม่ได้ แล้วเตือนเขาว่ายังไม่รู้จักนังนี่ดีพอ รู้ตัวอีกทีชีวิตของเขาจะต้องเจอแต่หายนะ นันทวัฒน์ต้องขอร้องให้แม่หยุดได้แล้ว

“อีกสองวันวัฒน์ต้องไปหาลูกค้าที่ญี่ปุ่น ถ้าเกิดอะไรขึ้น แม่ไม่รับผิดชอบนะ”

ธงไทยไม่อยากให้ตะวันอยู่ที่นี่จะพากลับบ้านไร่ นันทวัฒน์ไม่ยอมให้กลับ จะพาเธอไปญี่ปุ่นด้วย ธงไทยไม่เข้าใจในเมื่อเขาต้องไปติดต่อลูกค้า จะเอาเธอไปเกะกะทำไม เขายืนกรานว่าเธอจะต้องไปญี่ปุ่นกับเขา

“ทำไมคะ”

“เราเจอกันและรักกันที่นั่น”

พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำของนันทวัฒน์ ตอนนั้นเขากำลังเดินชมวิวไปพลางจิบกาแฟไปด้วยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มัวแต่ชมวิวเพลินไม่ทันดูทางชนเข้ากับปรางค์ทองจนล้ม แถมทำกาแฟหกรดเธออีกต่างหาก ทีแรกเขาคิดว่าเธอเป็นฝรั่ง แต่พอรู้ว่าเป็นคนไทยเช่นกัน เสนอจะเลี้ยงอาหารเป็นการไถ่โทษ แล้วจะเอาเสื้อโค้ตที่ตัวเองทำเปื้อนไปซักให้ เธอยอมให้เลี้ยงข้าว แต่ขอจัดการเสื้อที่เลอะเองไม่อยากรบกวนเขา

ทั้งสองคนคุยกันถูกคอ ด้วยความสวยน่ารักและอัธยาศัยดีของเธอ ทำให้นันทวัฒน์ถูกใจเธอมาก เขารู้เพียงคร่าวๆว่าปรางค์ทองมาเรียนภาษาที่นี่และทำงานหารายได้พิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร

ปรางค์ทองขออนุญาตโปรโมตร้านที่ตัวเองทำงานอยู่ หยิบนามบัตรร้านอาหารที่ว่ายื่นให้นันทวัฒน์ “ร้านเล็กๆค่ะพี่ แต่อร่อยนะคะ”

หลังจากกินอาหารเสร็จ ทั้งคู่ก็ล่ำลากัน นันทวัฒน์ รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก อยากมีเธออยู่ใกล้ๆตลอดเวลา และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เขามีเธอเป็นเงาตามตัวพากันเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสนุกสนาน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาจากคนรู้จักกลายเป็นคู่รัก โดยที่นันทวัฒน์ไม่ล่วงรู้เลยว่าทั้งหมดนี่เป็นแผนการของปรางค์ทองกับทรงพลที่ขุดบ่อล่อให้เขามาติดกับ

ooooooo

เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่น สถานที่แรกที่นันทวัฒน์พาตะวันหรือปรางค์ทองคนใหม่กับธงไทยไปก็คือจุดที่เขากับปรางค์ทองพบกันครั้งแรก จงใจจะรื้อฟื้นความหลังเผื่อเธอจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง แต่เปล่าประโยชน์ เธอจำได้แต่เพียงว่านี่เป็นสถานที่ที่ใช้ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งเพราะเคยเห็นรูปในร้านของวิว

“สวยนะคะ ตะวันชอบที่นี่ค่ะ”

นันทวัฒน์พอใจกับท่าทีผ่อนคลายของตะวันแม้จะจำที่นี่ไม่ได้ก็ตาม ส่วนธงไทยกังวลใจมาก หากวันหนึ่ง ความทรงจำของเธอกลับคืนมา เธอยังจะจำเขาได้หรือเปล่า ลมพัดกระโชกเข้ามา ตะวันรู้สึกหนาวกอดอกตัวเองเพื่อให้อบอุ่น ธงไทยจะถอดเสื้อโค้ตคลุมให้ แต่นันทวัฒน์ไวกว่า เอาผ้าพันคอตัวเองห่มให้เธอได้ก่อน...

ขณะที่นันทวัฒน์ตั้งใจพาตะวันมาญี่ปุ่นด้วยเพื่อหวังจะดึงปรางค์ทองในตัวเธอกลับคืนมา มยุราเอาถ้วยใส่กาแฟเอามาวางให้ลูกสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ริมสระว่ายน้ำของบ้านตัวเอง ก่อนจะถามว่ารู้ข่าวนันทวัฒน์ไปญี่ปุ่น หรือเปล่า เธอพยักหน้าแทนคำตอบ มยุราเจ็บใจแทนลูกสาวเพราะคิดว่าที่เขาพาตะวันไปด้วยก็เพื่อรำลึกความหลังเพราะทั้งคู่พบรักกันที่นั่น มยุริญแก้ตัวแทนเขาว่าคงไม่ใช่อย่างแม่คิดเพราะธงไทยไปด้วย

“ต๊าย พิลึก ไปรำลึกความหลังกับสามีเก่า โดยมีว่าที่สามีใหม่ไปด้วย โชคชะตานี่มันเล่นตลกเสียจริงๆ ถ้าเธอคนนั้นโผล่มาช้ากว่านี้สักหน่อยก็คง...”

“ถ้าเป็นแบบนั้นทุกคนอาจจะบอบช้ำไปยิ่งกว่านี้ก็ได้นะคะ” พูดจบมยุริญหน้าหม่นหมองลงไปอีก...

ฝ่ายทนงศักดิ์นั่งหน้าเครียดอยู่อีกมุมหนึ่งไม่ห่างจากกลุ่มของนันทวัฒน์ นึกถึงเรื่องที่คุยกับนันทา

“ฉันหวังว่าคุณคงรับผิดชอบในสิ่งที่คุณผิดพลาดนะคุณทนงศักดิ์”

“ความผิดพลาด?”

“ก็ไม่ใช่เพราะคุณเหรอที่ยืนยันว่านังนั่นมันดีนักดีหนา” คำพูดของนันทาทำให้ทนายความหนุ่มหวนคิดถึงอดีต ตอนนั้นนันทาติดต่อนันทวัฒน์ไม่ได้ โทร.ทางไกลมาสั่งให้เขาตามตัวลูกชายให้เพราะทางเมืองจีน กำลังจะส่งคนมาทำสัญญา ทนงศักดิ์โทร.หานันทวัฒน์อยู่หลายครั้งจนในที่สุดก็ติดต่อได้ แต่กลับได้ยินเสียงผู้หญิงอยู่กับเขา ยังไม่ทันจะคุยกันให้รู้เรื่องนันทวัฒน์ตัดสายทิ้ง แถมปิดมือถือไปเลย ทนงศักดิ์อดหวั่นใจไม่ได้ หากนันทารู้ว่าเขาติดสาวต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง

ทนงศักดิ์ตัดสินใจสะกดรอยตามนันทวัฒน์ ถึงได้รู้ว่าเขาแอบมาพบกับผู้หญิงไทยคนหนึ่งเป็นประจำ ดูท่าแล้วจะหลงเธอเอามากเสียด้วย ทนายความหนุ่มต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงที่มาเกี่ยวพันกับเจ้านายของเขาเป็นคน อย่างไร จึงแอบสอดแนมพฤติกรรมของเธอ และพบว่าเธอเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้เขาประทับใจมากโดยไม่ล่วงรู้เลยว่านั่นเป็นแค่การแสดงละครตบตา

ooooooo

วันนี้นันทวัฒน์ต้องไปเกียวโตกับทนงศักดิ์ เพื่อเจรจาธุรกิจ แต่ไม่อยากทิ้งตะวันไว้กับธงไทยตามลำพัง จัดแจงชวนเธอนั่งรถไฟความเร็วสูงไปด้วยกัน ทนงศักดิ์ทักท้วงจะชวนเธอไปทำไมให้เหนื่อยเปล่าๆ เราสองคนไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวเล่น แล้วเร่งให้เขารีบไป เดี๋ยวจะไม่ทันนัด

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 7 วันที่ 14 ก.ย. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ