อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 6 วันที่ 8 ก.ย. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 6 วันที่ 8 ก.ย. 58

คนโฉดชั่วรู้สึกได้ว่าเธอไม่ขัดขืน ยันตัวขึ้นมองหน้า เธอกลับยิ้มหวานให้ เขาย่ามใจคิดว่าเธอติดใจซุกหน้ากับซอกคออย่างหื่นกระหาย ตะวันนอนยิ้มกับท้องฟ้า แต่มือไขว่คว้าไปตามพื้นดินกระทั่งเจอเศษไม้ยาวหนึ่งศอก หยิบขึ้นมาโดยเอาปลายแหลมชี้ลงกลางหลังจอมพร้อมกับรอยยิ้มสยองผุดขึ้นบนใบหน้า เธอยังไม่ทันจะแทง มีเสียงธงไทยร้องเรียก “ตะวันๆ” แว่วเข้ามาเสียก่อน เธอรีบโยนไม้ทิ้ง

ความหื่นทำให้จอมไม่ได้ยินเสียงใดๆยังคงซุกไซ้ตะวันไปทั่วตัว ธงไทยปรี่เข้าเตะเขาล้มกลิ้ง ตะวันได้สติลุกพรวดขึ้นนั่ง ธงไทยยิ่งโมโหตรงเข้าชกต่อยจอมไม่ยั้ง เขาสู้ไม่ได้นอนร้องโอดโอยขอชีวิต


“แล้วที่แกทำล่ะ ตอนเธอร้องขอ แกหยุดหรือเปล่า”

“เธอไม่ได้ร้องขออะไรนี่ เธอออกจะชอบ”

ธงไทยโกรธเลือดขึ้นหน้าซัดจอมอุตลุด ตะวัน กลัวเขาจะฆ่าอีกฝ่ายตายรีบร้องห้ามเสียงหลง ธงไทยชะงักหันไปมอง ทำให้จอมสบช่องถีบเขากระเด็นแล้วเผ่นแนบ เขาจะไล่ตามแต่เป็นห่วงตะวันมากกว่า ยิ่งเห็นเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ร้องไห้ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว หัวใจเขาแทบแหลกสลายดึงเธอมากอดแนบอก...

การกระทำของจ๊ะจ๋าครั้งนี้สร้างความเสียใจให้กับเจียมเป็นอย่างมาก โทษว่าเป็นเพราะตัวเองชักนำงูเห่าเข้ามาในบ้านทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน แล้วเข้าไปทุบตีจ๊ะจ๋าระบายอารมณ์ ไผ่กับตาท้วมต้องช่วยกันดึงเธอออกมา นวลขอร้องให้หยุดทำร้ายจ๊ะจ๋าได้แล้ว ต่อให้ลงโทษอย่างไรก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น

“นายแม่นวลขา จ๊ะจ๋าขอโทษ จ๊ะจ๋าผิดไปแล้ว” จ๊ะจ๋าก้มกราบแทบเท้านวล

“สิ่งที่เกิดขึ้นแม่จะไม่โทษจ๊ะจ๋า แต่แม่จะโทษตัวเองที่เลี้ยงลูกไม่เป็น ไม่สามารถทำให้ลูกรู้ผิดชอบชั่วดีได้”

จังหวะนั้นธงไทยอุ้มตะวันที่ตัวสั่นขึ้นมาบนบ้าน ทุกคนรีบเข้าไปช่วยกันดูแลเธอ ไม่สนใจไยดีจ๊ะจ๋าอีกต่อไป ยิ่งเห็นสายตาตำหนิจากธงไทย จ๊ะจ๋ายิ่งใจเสียวิ่งหนีออกไปทั้งน้ำตา

ooooooo

พิมแวะไปหาเปลวที่บ้านแม้จะมืดค่ำแล้ว อ้างเดือดร้อนหนักต้องการเงินด่วน อีกสองเดือนจะเอามาใช้คืน ทีแรกเธอไม่ยอมให้เพราะต้องเก็บเอาไว้เป็นเงินสำรอง พิมโวยวายจะเก็บไว้ทำไมในเมื่อผัวแก่ของเธอก็เลี้ยงดูอย่างดี หรือเธอจะทิ้งเขาไป เปลวกลัวเพื่อนจะพูดมาก รีบเข้าบ้านจะไปหยิบเงินมาให้

“เฮอะ ผัวก็รวย แก่ๆแบบนี้เดี๋ยวก็ตาย ยังจะมาทำงกกับเพื่อนกับฝูง” พิมปากเสียไล่หลัง

ทรงพลนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นมาเห็นเปลวก็ร้องถามว่าเพื่อนของเธอยังไม่กลับอีกหรือ ได้ความว่ากำลังจะกลับ เธอแค่มาหยิบของให้ เขาพยักหน้ารับรู้แล้วอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไม่สนใจอะไรอีก เปลวโล่งใจรีบเดินเข้าห้องตรงรี่ไปยังที่ซ่อนเงิน หยิบเงินปึกใหญ่ออกมา เธอลังเลเล็กน้อยเพราะความจริงแล้วเงินก้อนนี้เธอจะเก็บไว้เผื่อวันหนึ่งข้างหน้าหากเธอกับปรางค์ทองต้องไปจากที่นี่ จะได้มีเงินไว้เป็นทุนตั้งตัว เรื่องนี้มีเพียงเธอกับลูกเท่านั้นที่รู้ และเธอยังกำชับลูกห้ามบอกทรงพลเด็ดขาด

มีเสียงคล้ายประตูห้องปิดดังขึ้นทำให้เปลวตื่นจากภวังค์ หันขวับไปมองแต่ไม่เจอใคร เธอรีบเก็บเงินที่เหลือซ่อนไว้แล้วเดินออกมาดู ทรงพลยังคงนั่ง อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่เดิม ถึงกับถอนใจโล่งอก...

ณ ไร่ของเสี่ยหมู ด้วยความช่วยเหลือของเจ้านายทำให้จอมรอดพ้นจากการตรวจค้นของตำรวจไปได้ หลังจากตำรวจยกกำลังกลับไปแล้ว สมุนคนสนิทของเสี่ยหมูค่อยๆย่องออกจากที่ซ่อน เสี่ยหมูต่อว่าว่าไปทำท่าไหนมา นอกจากจะไม่ได้ตัวตะวันแล้วยังให้พวกนั้นแจ้งความเอาเรื่องจนเขาเกือบจะซวยไปด้วย จอมโทษว่าเป็นเพราะโดนจ๊ะจ๋าหักหลัง แล้วประกาศลั่นจะต้องเอาคืนพวกไร่นวลตะวันกับนังคนทรยศนั่นให้ได้

“ไหนๆจะเอาคืนแล้ว เอาคืนให้ฉิบหายไปทั้งไร่เลยสิ ฉันจะให้เงินแกก้อนหนึ่ง จัดการเสร็จแกก็หายตัวไปสักพัก ฉันจะดูน้ำหน้าพวกมัน ถ้าเหลือแต่ซากมันจะยังอยากอยู่กันไหม ไอ้ไร่บ้าๆเนี่ย” เสี่ยหมูยิ้มเหี้ยม...

หลังจากกล่อมตะวันที่ขวัญเสียให้ข่มตาหลับลงได้ ธงไทยตัดสินใจบอกแม่ว่ารักและเป็นห่วงตะวันมากต้องการจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต นวลไม่ขัดข้องเพราะท่านเองก็ถูกใจเธอเหมือนกัน แต่อดเตือนเขาไม่ได้

“ไทยต้องไม่ลืมความจริงที่ว่าตะวันมีอดีต ซึ่งถ้าวันหนึ่ง ตะวันจำอดีตได้”

“ผมอยากให้ตะวันอยู่กับปัจจุบันเท่านั้นครับ” ธงไทยยืนกราน นวลเองก็อยากให้เป็นอย่างนั้นเช่นกัน...

นันทวัฒน์นอนไม่หลับยังคาใจเรื่องผู้หญิงที่มากับธงไทยจนต้องเรียกพิชิตมาสอบถามว่า ผู้หญิงที่เขาบอกว่าเหมือนปรางค์ทองมากคือคนที่เราเจอวันนี้หรือเปล่า บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำไม่เต็มปากว่าใช่ นันทวัฒน์โวยลั่น พูดมาได้อย่างไรว่าเหมือน ตนไม่เห็นจะเหมือนตรงไหน หรือว่าเขามีอะไรปิดบังตนอยู่

“ผมไม่กล้าปิดบังคุณวัฒน์หรอกครับ” พิชิตได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาด้วย

“ฉันเชื่อนาย ถ้าฉันเชื่อนายไม่ได้ แล้วฉันจะเชื่อใครได้อีก...ดื่มกันหน่อยไหม” นันทวัฒน์ตัดบทหน้าตาเฉย พิชิตขอผ่านพรุ่งนี้มีงานแต่เช้า นันทวัฒน์ไม่คิดจะซักถามอะไรเขาอีก บอกให้ไปพักผ่อนได้ แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า พิชิตลอบถอนใจก่อนจะเดินจากมา ยังครุ่นคิดถึงแต่ใบหน้าของตะวันสาวชาวไร่คนนั้นซึ่งเหมือนปรางค์ทองมาก เพียงแต่นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว

“ต้องไม่ใช่แน่ๆคุณวัฒน์ ลืมเธอเสียเถอะครับ เธอไม่คู่ควรกับคนดีๆอย่างคุณ”

ทันใดนั้นภาพในอดีตเมื่อ 7 ปีที่แล้วผุดขึ้นมาในความทรงจำของพิชิต ตอนนั้นเขาเพิ่งเข้าเมืองกรุงเป็นครั้งแรก ย่าซึ่งเป็นเพียงญาติคนเดียวของเขาตาย เขาจึงมาที่นี่เพื่อตามหาพ่อที่ไม่เคยเจอกันตั้งแต่เขาอายุได้ 6 ขวบ พิชิตมีเงินติดตัวมาแค่ 150 บาทแถมยังทำหล่นหายอีกต่างหาก ถ้าไม่ได้นันทวัฒน์ผู้มีเมตตาซื้อข้าวกล่องให้กินและยังใจดีให้เงินเขาติดตัวไว้ใช้อีกต่างหาก เขาคงต้องกินเศษอาหารจากถังขยะ

ด้วยความหิวโหย พิชิตตั้งหน้าตั้งตากินอาหารกล่องจนลืมขอบคุณ พอนึกขึ้นได้ก็รีบวิ่งตามนันทวัฒน์ไปยังที่จอดรถ เห็นเขากับทนงศักดิ์ถูกชายฉกรรจ์สามคนรุมทำร้าย พิชิตเข้าไปช่วยเตะต่อยจนพวกนั้นถอยกรูด

ทนงศักดิ์เห็นท่าไม่ดีรีบพานันทวัฒน์ไปขึ้นรถ จังหวะนั้นคนร้ายคนหนึ่งย้อนกลับมาพร้อมกับลั่นกระสุนใส่นันทวัฒน์ พิชิตตัดสินใจโดดขวาง โดนกระสุนเข้าเต็มๆ คนร้ายจะยิงเป้าสังหารซ้ำ แต่เสียงนกหวีดของรปภ.ห้างฯดังรัวขึ้นเสียก่อน คนร้ายตกใจเผ่นหนี ครู่ต่อมาพิชิตถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

เพื่อเป็นการตอบแทนที่พิชิตช่วยชีวิตเอาไว้ นันทวัฒน์เสนอให้ที่พักพิงและรับปากจะส่งเสียให้เขาเรียนหนังสือ เพราะเชื่อว่าการเรียนจะทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น พิชิตจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ดีราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

“ไม่ใช่การเรียนหรอกครับที่ทำให้ชีวิตผมดีขึ้น คุณวัฒน์ต่างหาก แล้วทำไมผมถึงได้...” พูดได้แค่นั้น พิชิตอดเจ็บใจตัวเองไม่ได้...

ทุกคนในไร่นวลตะวันหลับกันหมดแล้ว ยกเว้นจ๊ะจ๋าที่ยังนอนไม่หลับแอบมาร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน แม้ไผ่จะเห็นว่าสิ่งที่เธอทำเป็นความผิดมหันต์ แต่เขาก็ยังรักและเป็นห่วง แอบมาเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง

ooooooo

ธงไทยเห็นตะวันยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์เมื่อคืน จึงเข้าไปนั่งข้างๆดึงเธอมากอดแนบอก ปลอบ ว่าไม่ต้องกลัว เขาจะอยู่ตรงนี้คอยปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีก แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าขอเธอแต่งงาน หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา พยักหน้าด้วยความเต็มใจ

“พี่ไทย ขอบคุณนะคะ สำหรับลมหายใจและชีวิตใหม่ที่พี่มอบให้ตะวัน”...

การเตรียมงานหมั้นจัดขึ้นอย่างเร่งด่วนในเย็นวันนี้เลย ธงไทยต้องการประกาศให้รู้กันทั่วว่าตะวันมีคนจองแล้ว ทุกคนในไร่นวลตะวันรู้เรื่องนี้ยกเว้นจ๊ะจ๋า ด้วยเกรงว่าเธอจะหาเรื่องให้เดือดเนื้อร้อนใจกันอีก จ๊ะจ๋าจะเข้ามาช่วยงานในครัวทั้งที่ไม่รู้ว่าจัดงานเนื่องจากอะไร เจียมยังไม่ให้อภัยกับสิ่งที่เธอทำ ก็เลยไม่ยอมให้ช่วย จ๊ะจ๋าจำต้องออกจากครัวเพราะไม่อยากอยู่ให้เกะกะขวางหูขวางตาใคร ไผ่ได้แต่มองตามด้วยความสงสาร...

อีกมุมหนึ่งบนเรือนใหญ่ นวลมอบแหวนเพชรของตัวเองให้ธงไทยสวมให้ตะวัน แล้วดึงเธอมากอด

“แม่ขอรับตะวันมาเป็นลูกสะใภ้นะจ๊ะ แม่ดีใจที่สุดเลยจ้ะ พิธีหมั้นของเรามันก็ง่ายๆแบบนี้ล่ะนะ คืนนี้ก็ประกาศให้พวกพี่น้องชาวไร่นวลตะวันได้รับรู้ ส่วนเรื่องแต่งงานควรจัดงานสักหน่อย เชิญญาติๆเพื่อนพ้องมารับรู้ จะได้ไม่น่าเกลียด”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับแม่นวล วิวคงจะช่วยได้เยอะ”

พูดถึงวิวขึ้นมา นวลอดเป็นกังวลไม่ได้ เร่งให้ธงไทยรีบบอกเรื่องนี้ให้เธอรับรู้...

จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครยอมบอกจ๊ะจ๋าว่าคืนนี้ไร่นวลตะวันจัดงานรื่นเริงด้วยเหตุผลใด จนกระทั่งไผ่ซึ่งรับหน้าที่พิธีกรในงานเชิญนวล ธงไทยและตะวันขึ้นไปบนเวที จ๊ะจ๋าถึงบางอ้อทันที ลุกพรวดตะโกนลั่นว่าไม่จริง ทุกคนหันมองเธอเป็นตาเดียวกัน เธออายมากวิ่งหนีออกไป ตะวันกับธงไทยมองตามไม่สบายใจ

นวลเรียกความสนใจของทุกคนกลับมา “ฉันขอประกาศว่า ธงไทยกับตะวันจะแต่งงานกันในเร็วๆนี้”

สิ้นเสียงประกาศ เสียงไชโยโห่ร้องแสดงความยินดีก็ดังตามมา...

ไม่ได้มีแต่ธงไทยเท่านั้นที่จะแต่งงาน นันทวัฒน์เองก็ตัดสินใจบอกกับแม่ว่าจะแต่งงานกับมยุริญ นันทาดีใจมากดึงลูกชายมากอดชมเปาะว่าเขาเลือกถูกแล้ว

มยุริญจะทำให้เขามีความสุข นันทวัฒน์ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงตัดสินใจอย่างนั้นทั้งที่ยังลืมปรางค์ทองไม่ลง หรืออาจเป็นเพราะเขาพ่ายแพ้ความดีของมยุริญ...

ฝ่ายจ๊ะจ๋าหลบมานั่งร้องไห้อยู่ที่มุมเปลี่ยวของไร่ เสียงเพลงและเสียงเฮฮาของชาวไร่นวลตะวันกลับเป็นเสียงบาดหูบาดใจ จนต้องปิดหูไม่อยากได้ยิน จอมซึ่งซ่อนตัวอยู่ในความมืดค่อยๆย่องเข้ามาด้านหลัง แต่ยังไม่ทันถึงตัวต้องวิ่งไปหลบเพราะมีเสียงของไผ่ดังขึ้นเสียก่อน

“มานั่งทำไมตรงนี้มืดๆ เดี๋ยวก็โดนงูกัดตายหรอก ไป...เขาขึ้นนอนกันหมดแล้ว เหลือแค่คนงานไม่กี่คน”

“ไม่ไป” จ๊ะจ๋างอนไม่เลิก ไผ่จับเธอแบกขึ้นบ่า พากลับไปเรือนใหญ่ จอมรอจนทั้งคู่ลับสายตาจึงออกจากที่ซ่อน มองตามเจ็บใจที่นังตัวแสบรอดเงื้อมมือไปได้ แล้วจุดไฟแช็กในมือโยนลงแปลงเกษตรสาธิตที่ตัวเองราดน้ำมันเอาไว้จนชุ่ม ยืนดูไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม...

ทันทีที่ไผ่แบกจ๊ะจ๋าเข้ามาในงาน เจียมชวนหนูพุทธขึ้นนอน ขณะที่ตาท้วมขอตัวไปนอนเช่นกัน เหลือเพียงคนงานในไร่ที่ยังเฮฮากันอยู่ จ๊ะจ๋าน้อยใจมากที่ทั้งคู่ทำเหมือนเธอเป็นส่วนเกิน ทั้งที่เธอมาก่อนตะวันแท้ๆ

“ใครทำยังไงก็ได้อย่างนั้น ทำตัวไม่น่ารักคนเขาก็ไม่รัก จ๊ะจ๋าทำตัวของจ๊ะจ๋าเองนี่นา” ไผ่สั่งสอนตรงๆก็เพราะรัก แต่เธอกลับหาว่าเขาหลอกด่า เดินกระฟัดกระเฟียดขึ้นเรือนใหญ่ ไผ่เห็นสมควรแก่เวลาจึงสั่งให้คนงานแยกย้ายกันไปนอนได้แล้วนายแม่จะได้พักผ่อน ทุกคนเซ็งในอารมณ์แต่ก็ยอมแยกย้ายโดยดี...
นับว่ายังเป็นโชคดีของชาวไร่นวลตะวัน ไผ่

เดินหามือถือที่ทำตกหายถึงได้มาเห็นว่าไฟไหม้แปลงเกษตรสาธิต ครู่ต่อมาทุกคนในไร่ไม่เว้นแม้แต่หนูพุทธ ต่างวิ่งมายังจุดเกิดเหตุ เห็นไฟโหมอย่างหนักจนกลายเป็นทะเลเพลิง ตาท้วมสั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันเข้าไปดับไฟ พลันมีเสียงธงไทยดังสวนขึ้น

“หยุดก่อนไม่ต้องเข้าไป ข้าวของพืชพันธุ์พวกนั้นน่ะ มันไหม้แล้วก็ปลูกใหม่ได้ แต่ถ้าต้องมีใครสักคนหนึ่งบาดเจ็บหรือเป็นอะไรไป ฉันทนไม่ได้แน่ๆ ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไปในนั้นเด็ดขาด”

นวลดึงลูกชายมากอดด้วยความตื้นตันใจในความเป็นผู้นำที่มีเมตตาของเขา ตาท้วมสั่งการให้ทุกคนแยกย้ายกันไปฉีดน้ำเลี้ยงไว้ อย่าให้ลามไปถึงเรือนใหญ่กับเรือนพักคนงาน ขณะที่ทุกคนต่างไปทำหน้าที่ของตัว ตะวันยืนมองเปลวไฟที่ลุกโชนด้วยสายตากร้าว...

ระหว่างที่นวล เจียมและหนูพุทธมานั่งพักที่มุมหนึ่งไม่ห่างจากจุดที่คนงานทำแนวกันไฟ นวลขอร้องเจียมยกโทษให้จ๊ะจ๋า ลืมเรื่องเก่าให้หมดแล้วตั้งต้นกันใหม่ เธอไม่รับปากแต่จะพยายามทำตามที่นวลต้องการ...

ทุกคนขะมักเขม้นในการช่วยกันสกัดไฟ แต่จ๊ะจ๋ากลับขี้เกียจทำ เอาแต่บ่นง่วงนอน ไผ่รำคาญไล่ให้เธอไปนั่งพักก่อน เธอหลบมานั่งที่มุมเปลี่ยวเพื่อจะได้ไม่มีใครตามกลับไปช่วยทำงาน โดยไม่ล่วงรู้ว่า จอมแอบดูเธออยู่ในมุมมืดนานแล้ว ค่อยๆย่องมาจากด้านหลังปิดปากเธอไว้ไม่ให้ร้อง แล้วต่อยท้องน้อยอย่างแรงจนหมดสติ จากนั้นก็ลงมือลวนลาม มัวแต่วุ่นวายอยู่กับจ๊ะจ๋า จอมไม่ได้ยินเสียงตะวันเดินเข้ามาทางด้านหลัง เธอใช้ไม้ท่อนใหญ่ฟาดหัวเขาสลบ ก่อนจะลากหายไปในความมืด ทิ้งจ๊ะจ๋าให้นอนหมดสติอยู่ตรงนั้น...

งานสกัดเพลิงเรียบร้อยแล้ว แต่ธงไทยไม่เห็นตะวันอยู่ที่เรือนใหญ่รีบชวนตาท้วมกับไผ่ออกตามหา...

ตะวันต้องการกำจัดศัตรูของไร่นวลตะวันให้สิ้นซากจึงตามไปจัดการเสี่ยหมูที่ขับรถมาดูผลงานของสมุนมือขวาอยู่หน้าทางเข้าไร่สลบเหมือด จับมัดเหมือนหมูที่จะเอาเข้าโรงเชือดแล้วลากไปไว้กับจอม ราดน้ำมันจนชุ่มก่อนจะจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม...

ในเวลาต่อมา ตาท้วมตามหาจ๊ะจ๋ากับตะวันมาถึงมุมเปลี่ยวของไร่ เห็นตะวันยืนถือไม้ท่อนใหญ่ที่มีไฟลุกโชนอยู่ที่ปลายจ้องจ๊ะจ๋าที่นอนหมดสติด้วยสายตาน่ากลัว ก่อนจะหันมาทางเขา ตาท้วมตกใจร้องเอะอะ

“คุณไทย ไอ้ไผ่ ทางนี้ อยู่ทางนี้”

เสียงตะโกนโหวกเหวกทำให้ตะวันรู้สึกตัว มองไปรอบๆอย่างงุนงงมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ยิ่งเห็นคบไฟในมือก็ยิ่งตกใจ รีบเหวี่ยงทิ้ง ไผ่วิ่งหน้าตื่นมาเห็นจ๊ะจ๋านอนหมดสติอยู่รีบเข้าไปประคอง ธงไทยตามมาสมทบเห็นตะวันปลอดภัยโผกอดด้วยความเป็นห่วง ตาท้วมได้แต่ยืนมองเธออย่างเคลือบแคลงสงสัย

ooooooo

จากนั้นไม่นานไผ่อุ้มจ๊ะจ๋าที่หมดสติมาที่เรือนใหญ่ เจียมเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเนื้อตัวหน้าตาจนเธอค่อยๆฟื้นคืนสติ พอลืมตาขึ้นเท่านั้น จ๊ะจ๋าก็ส่งเสียงร้องลั่นว่า อย่าพี่จอมอย่าทำฉัน

“นายจอม! จ๊ะจ๋า...นายจอมทำไม” ธงไทยว่าแล้วปรี่เข้าไปหาจ๊ะจ๋าซึ่งโผกอดเขาร้องไห้โฮ...

เมื่อเห็นจ๊ะจ๋าปลอดภัย ไผ่ชวนพ่อกลับเรือนพักคนงาน โดยชื่นชมตะวันไม่หยุดปาก หากไม่ได้เธอช่วยไว้โดยไม่รู้ตัว จ๊ะจ๋าคงจะแย่ไปแล้ว

“ไม่รู้ตัวเหรอ...ไอ้ไผ่ เอ็งเคยคิดเล่นๆไหมว่าอดีต หนูตะวันเคยเป็นอะไรมาก่อน”

ไผ่ไม่สนใจ ให้รู้แค่ว่าอนาคตข้างหน้าตะวันจะมาเป็นคนที่เคียงคู่และดูแลคุณไทยตลอดไปก็พอแล้ว...

อีกมุมหนึ่งบนระเบียงเรือนใหญ่ ตะวันสารภาพกับธงไทยว่าจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำ ตัวเองช่วยจ๊ะจ๋าเอาไว้ เขาปลอบว่าอย่ากังวลไปเลย แค่ทุกคนปลอดภัยก็พอ อาการประหลาดที่เกิดขึ้นทำให้ตะวันไม่มั่นใจเรื่องการแต่งงาน กลัวว่าวันหนึ่งเกิดจำได้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ตะวันจะเป็นใครก็ช่าง พี่ไม่สนใจ ขอแค่ให้ตะวันรู้เอาไว้อย่างหนึ่งนะครับ พี่จะไม่มีวันเลิกรักตะวันเด็ดขาด” ธงไทยว่าแล้วดึงตะวันมากอด เธอซบหน้ากับอกเขารู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้นตาท้วมพาคนงานในไร่เอาน้ำไปไล่ฉีดพวกเถ้าถ่านที่ยังคุกรุ่น ด้วยเกรงไฟจะลุกขึ้นมาอีกแต่ต้องตะลึงเมื่อพบศพดำเป็นตอตะโกของเสี่ยหมูกับจอม

หลังจากตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุเรียบร้อย สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเกิดจากการหักหลังกันเอง จอมคงฆ่าเสี่ยหมูแล้วเผาศพทำลายหลักฐาน แต่ดันเซ่อซ่าสาดน้ำมันโดนตัวเองก็เลยติดไฟตายในกองเพลิงไปด้วย ไผ่บ่นอย่างสังเวชใจ หากต่างคนต่างอยู่คงไม่ต้องมาตายน่าอนาถแบบนี้

“แต่อย่างน้อยไร่นวลตะวันก็จะได้อยู่อย่างสงบสุขเสียทีนะครับ”

“ได้ข่าวว่าคุณธงไทยกำลังจะแต่งงาน ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ไม่ทราบเมื่อไหร่ครับเนี่ย”

“ภายในเดือนนี้ครับ” ธงไทยเร่งวันเร่งคืนเพราะกลัวตะวันจะหลุดลอยไป...

นอกจากจ๊ะจ๋าจะไม่สำนึกบุญคุณที่ตะวันช่วยให้รอดจากเงื้อมมือจอม ยังประกาศต่อหน้าเจียมกับตาท้วมว่าจะไม่ยอมให้ธงไทยแต่งงานกับนังนั่นเด็ดขาด เจียมไม่พอใจ หันซ้ายหันขวาจะหาอะไรปาหัว แต่ไม่ทัน จ๊ะจ๋าออกไปจากครัวเสียก่อน เธอเล่นงานใครไม่ได้ หันไปเล่นงานตาท้วมแทนที่ ต่อว่าว่าทำไมไม่ช่วยกันพูดกรอกหูจ๊ะจ๋าบ้างว่าตะวันมีบุญคุณกับมันแค่ไหน ในเมื่อเขาเป็นคนเห็นกับตาตัวเอง

“ใช่...เห็นกับตาเลย” ตาท้วมหมายถึงภาพเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นกับตะวัน ไม่ว่าจะเป็นคราบโคลนที่เปื้อนเท้าของเธอหรือภาพที่เขาเห็นเธอถือคบไฟอยู่ข้างๆร่างไร้สติของจ๊ะจ๋า...

ที่ร้านจำหน่ายและให้เช่าชุดวิวาห์ เจ๊แน๊ตเข้ามาเห็นวิวแต่งตัวสวยเช้งมาทำงาน ถึงกับร้องเอะอะว่าผีเข้าสิงหรืออย่างไรถึงได้แต่งสวยขนาดนี้ หรือมีโอกาสพิเศษอะไร เธอปฏิเสธทันทีว่าไม่มีแค่ทำตามที่เจ๊แน๊ตแนะนำ เท่านั้น เจ๊แน๊ตเห็นเธอหน้าแดง รู้ทันทีว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น คาดคั้นให้บอกความจริง

“ก็...ไทยโทร.มานัด บอกมีเรื่องสำคัญจะคุย”

เจ๊แน๊ตคิดไปไกลว่าธงไทยจะขอวิวแต่งงาน รีบแสดงความยินดีล่วงหน้า เธอได้แต่ยิ้มเขินเพราะอยากให้เป็นอย่างนั้นเช่นกัน...

อีกมุมหนึ่งหน้าร้านของวิว ธงไทยพาตะวันเข้ามาในร้านโดยมีดอกไม้ช่อสวยติดมือเป็นของฝากมาให้เจ้าของร้านด้วย ตะวันตื่นเต้นที่จะมาเลือกชุดแต่งงาน จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วเดินแยกไปทางหลังร้านตามที่ธงไทยบอกทิศทางให้ ส่วนเขาเดินไปทางห้องรับรองลูกค้าที่วิวมักจะสถิตอยู่ตรงนั้น

ตะวันหาห้องน้ำไม่เจอ เห็นชีสเค้กกำลังก้มๆเงยๆ จัดชุดใส่หุ่น ร้องถามทางไปห้องน้ำ เขาชี้บอกทางพร้อมกับตวัดสายตาขึ้นมองคู่สนทนาถึงกับอึ้ง ขณะที่ตะวันเดินต่อไปไม่สนใจอะไร

“อุ๊ย ยัยจอมเยอะ...ไม่ใช่มั้ง ยัยนั่นแต่งตัวจัด ไม่หน่อมแน้มแบบนี้หรอก ว้าย อยากให้อีเจ๊มาเห็นจริงๆ คงหลอนน่าดู” ชีสเค้กก้มหน้าทำงานต่อ ไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก ทางฝ่ายวิวเห็นช่อดอกไม้ในมือธงไทย ยิ่งคิดไปกันใหญ่ว่าเขาจะมาขอตัวเองแต่งงาน แทบจะเก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่

ooooooo

ตะวันเข้าห้องน้ำเสร็จ เดินผ่านราวแขวนชุดเจ้าสาว อดแวะดูไม่ได้ เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เธอเห็นภาพที่ชีสเค้กเอามาตั้งโชว์ เป็นภาพของนันทวัฒน์กับหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาเหมือนเธอไม่มีผิดเพี้ยน พลันเกิดแสงวูบวาบในสมองจนตะวันปวดหัวจี๊ด

วิวยังคงเฝ้ารอเมื่อไหร่ธงไทยจะคุกเข่าขอแต่งงาน แต่เธอต้องฝันสลายเมื่อเขาบอกว่า เขาจะแต่งงานกับตะวันและอยากให้เธอเป็นคนจัดงานให้ วิวเหมือนถูกฟ้าผ่าทั้งที่ฝนไม่ตั้งเค้า ยังไม่ทันจะพูดอะไร มีเสียงตะวันกรีดร้องดังขึ้นเสียก่อน ธงไทยผละจากเธอไปยังต้นเสียงทันที เห็นหญิงคนรักนั่งกุมหัวอยู่หน้ารูปถ่าย เขารีบประคองเอาไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะหมดสติ ธงไทยเงยหน้ามองภาพ เห็นรูปของนันทวัฒน์กับปรางค์ทองในชุดวิวาห์ก็ตกใจมาก วิวตามเข้ามาเห็นหน้าตะวันถึงกับร้องเรียกว่า “คุณปรางค์”

ธงไทยอุ้มตะวันไปนอนบนโซฟาใกล้ๆ แล้วหันมองภาพนั้นอีกครั้งด้วยความสับสน ทั้งที่เห็นเต็มสองตาว่าผู้หญิงในภาพเหมือนตะวันราวกับเป็นคนเดียวกันแต่เขาก็ยังไม่เชื่อ ปลอบตัวเองว่าแค่หน้าตาเหมือนเท่านั้น

“แต่วิวคิดว่าน่าจะใช่นะไทย”

“จริงค่ะ คุณไทย เพราะผู้หญิงคนนั้นหายไปจากสังคมเมื่อเกือบสามปีก่อน ก็ช่วงเดียวกับที่คุณไทยเจอคุณตะวันนี่แหละค่ะ” เจ๊แน๊ตเสริม ธงไทยเจ็บปวดใจมาก ถ้าเป็นความจริงก็หมายความว่าผู้หญิงที่เขารักมีเจ้าของแล้ว ถามด้วยเสียงแทบจะกระซิบว่าผู้หญิงในภาพเป็นใคร

“ชื่อคุณปรางค์ทอง ภรรยาคุณนันทวัฒน์ เบอร์ต้นๆ ของวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยเลยล่ะไทย”

“ร้านเราเป็นคนจัดงานแต่งให้ค่ะ คุณไทย พวกเรารู้จักคุณปรางค์ทองดีเลยค่ะ”

จากนั้นเรื่องราวในอดีตเมื่อสามปีที่แล้วพรั่งพรูออกจากปากวิว เจ๊แน๊ตและชีสเค้ก ตอนนั้นนันทวัฒน์และปรางค์ทองมาที่ร้านแห่งนี้เพื่อให้วิวช่วยจัดงานแต่งงานให้ นิสัยของทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับดิน นันทวัฒน์ใจเย็น นิสัยดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี ผิดกับปรางค์ทองที่ชอบวีนแตก หยิ่งยโสไม่ไว้หน้าใคร ดูเหมือนฝ่ายชายจะรักฝ่ายหญิงมาก ทำตามที่เธอต้องการทุกอย่างชนิดชี้นกเป็นไม้เลยทีเดียว เจ๊แน๊ตจำได้ดีเพราะเป็นคนส่งแผนงานวิวาห์ให้เธอดู แต่เธอแกล้งทำหล่นและไม่แยแส

วิวเห็นเจ๊แน๊ตเดือดปุดๆต้องส่งสายตาให้ข่มอารมณ์ไว้

“จัดมาเถอะค่ะ ฉันคิดว่าพวกคุณคงจะรักษาหน้านักจัดงานแต่งมือหนึ่งได้นะคะ”

“รับรองค่ะ นุ่นแนะนำมาทั้งที วิวไม่ทำให้เพื่อนเสียหน้าแน่ๆ”

“ดี ส่วนเรื่องการ์ดกับของชำร่วย ทุกขั้นตอนต้องผ่านฉันนะคะ ฉันอาจจะพิถีพิถันกับเรื่องการ์ดนิดหน่อย เพราะมันอยู่นาน แล้วเรื่องไปถ่ายพรีเวดดิ้งล่ะคะ”

“เราประสานทุกฝ่ายไว้แล้วค่ะ แล้วก็จองห้องพักที่ดีที่สุดในโอซากาไว้ให้แล้ว”

“โอเค...งั้นเราไปกันเถอะค่ะพี่วัฒน์ เดี๋ยวต้องไปลองแหวนอีก” ปรางค์ทองลุกออกไปทันทีโดยไม่ล่ำลาตามมารยาทสักคำ นันทวัฒน์ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณวิวกับเจ๊แน๊ตแทนปรางค์ทอง ก่อนจะรีบตามออกไป เจ๊แน๊ตหมั่นไส้เธอมาก ถึงขนาดร่ำๆจะเอาผงคันโรยใส่ชุดเจ้าสาวให้รู้แล้วรู้รอด ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ทีไรเจ๊ก็ยิ่งเจ็บใจ

“กว่าจะผ่านงานเจ้าหล่อนมาได้ เจ๊งี้แทบเอาหัวโขกกำแพงตาย”

“พี่วิวเองก็โดนฤทธิ์แม่นี่สารพัดเลยนะคะ” ชีสเค้กเล่าเสริม ทันใดนั้นมีเสียงตะวันดังขึ้น

“ฉันแย่ขนาดนั้นเลยหรือคะ”

ทุกคนหันมองตามเสียง เห็นตะวันนอนน้ำตาไหลพราก เสียใจกับอดีตของตัวเอง

ooooooo

นวลกำลังเตรียมมื้อเย็นไว้รอต้อนรับธงไทยกับตะวันกลับจากไปคุยกับวิวเรื่องงานแต่งงานที่มีขึ้น เจียมอดเป็นห่วงแทนไม่ได้ว่าหากวิวรู้เรื่องนี้จะรู้สึกอย่างไร จ๊ะจ๋าถือชามข้าวจะเข้ามาเก็บในครัวถึงกับหูผึ่งรีบหลบมุมแอบฟัง นวลเชื่อว่าวิวกับธงไทยไม่ใช่เนื้อคู่กัน ไม่อย่างนั้นคงตกลงปลงใจกันไปนานแล้ว

“ฉันว่าหนูวิวจะทำใจยอมรับได้ แล้วก็จะจัดงานให้ไทยอย่างดีที่สุด”

จ๊ะจ๋าเข่นเขี้ยวด้วยความเจ็บใจ จะยอมให้ธงไทยแต่งกับตะวันไม่ได้...

ขณะที่จ๊ะจ๋าวางแผนขัดขวางงานแต่งงานระหว่างธงไทยกับตะวัน ธงไทยประคองตะวันไปขึ้นรถแล้วย้อนกลับมาเอาของที่เหลือในร้านของวิว โดยไม่ลืมบอกเจ้าของร้านว่างานแต่งงานของเขายังจัดอยู่ และขอให้เธอกำชับทุกคนในร้านที่รู้เรื่องตะวัน ห้ามบอกใครเด็ดขาด

“ตะวันเป็นคนใหม่แล้ว เธอไม่ใช่คุณปรางค์อะไรนั่น แล้วเธอก็ไม่เหลือความทรงจำอะไรอีกแล้ว ไทยขอร้อง ไทยจะแต่งงานกับตะวันให้เร็วที่สุด ไทยขาดเธอไม่ได้ ไทยไปนะ”

ทันทีที่ธงไทยเดินจากไป น้ำตาของวิวที่กลั้นเอาไว้ก็ทะลักล้นราวกับทำนบแตก เจ๊แน๊ตเห็นแล้วอดสงสารเธอไม่ได้ แต่ไม่ต้องการให้เธอเผยความอ่อนแอออกมา สั่งให้หยุดร้องไห้ และให้เตือนตัวเองว่าเธอเป็นคนเข้มแข็ง แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ คราวนี้วิวปล่อยโฮ เจ๊แน๊ตไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ดึงเธอมากอดปลอบใจ...

ฝ่ายจ๊ะจ๋าไม่รอช้าปริ๊นต์รูปตะวันพร้อมเบอร์ติดต่อเอาไปแปะไว้ตามที่ต่างๆทั่วไร่นวลตะวัน ไม่เว้นแม้แต่หน้าห้องน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมทุ่งทานตะวัน หนูพุทธมาเห็นเข้า ร้องทักว่าทำอะไร จ๊ะจ๋ารีบเอาใบประกาศคนหายซ่อนไว้ด้านหลัง เด็กน้อยไม่ง้อเดินไปอ่านใบประกาศที่เธอปิดไว้หน้าห้องน้ำ

“ทำไมพี่จ๊ะจ๋าต้องประกาศตามหาญาติให้พี่ตะวันด้วยล่ะคะ”

“เอ่อ...คืองี้นะ พี่ตะวันจะแต่งงานกับพี่ไทยต้องมีญาติฝ่ายเจ้าสาวมาร่วมงาน ไม่งั้นแต่งไม่ได้เข้าใจไหม”

“จริงหรือคะ งั้นหนูพุทธช่วยเองค่ะ” หนูพุทธกุลีกุจอเอาใบประกาศไปปิดตามที่ต่างๆ...

ทั้งเจ๊แน๊ตและชีสเค้กรอจนวิวคลายความเศร้าลงแล้ว ถึงได้ถามว่าจะเอาอย่างไรต่อไป จะปล่อยให้ธงไทยแต่งงานไปอย่างนี้หรือ เธอพยักหน้าแทนคำตอบ ในเมื่อเขาเลือกแล้ว สิ่งที่เธอจะทำให้สมกับที่เป็นเพื่อนคนเดียวที่เขารักและไว้ใจคือจัดงานแต่งงานที่ดีที่สุดให้...

ตะวันเสียใจกับเรื่องราวในอดีตของตัวเอง เอาแต่นั่งร้องไห้ตั้งแต่ออกจากร้านของวิว น้อยใจในโชคชะตา ทำไมชีวิตของตัวเองถึงมีความสุขเหมือนกับใครๆเขาไม่ได้ ธงไทยสงสารเธอมากรีบเบนรถจอดข้างทางให้สัญญากับเธอว่าจะทำให้เธอมีความสุขไปตลอดชีวิต ตะวันซาบซึ้งใจมากโผกอดเขาร้องไห้โฮ

“สัญญานะตะวัน เราจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าบอกใครแล้วเราจะลืมมัน สัญญานะ” ธงไทยเห็นเธอพยักหน้ารับคำก็เบาใจไปเปลาะหนึ่ง...

แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เพื่อนของพิมเกิดอยากแวะเที่ยวชมทุ่งทานตะวันของไร่นวลตะวัน พิมเซ็งจัด บอกให้เพื่อนไปถ่ายรูปกันตามสบาย ส่วนเธอขอเข้าห้องน้ำก่อน แล้วเดินไปถามหนูพุทธที่กำลังปิดใบประกาศคนหายอยู่แถวนั้นว่าห้องน้ำอยู่ไหน ด้วยความที่ปวดปัสสาวะมาก พิมไม่ทันสังเกตใบประกาศที่หนูพุทธกำลังปิดอยู่อย่างขยันขันแข็ง

ไผ่เองก็ไม่ทันสังเกตใบประกาศเหล่านั้นเช่นกัน เดินเลยเข้าไปทักเด็กน้อยว่าทำอะไรอยู่ พอเขารู้ว่าจ๊ะจ๋าให้ช่วยติดใบประกาศคนหายรีบดึงไปดูก่อนจะโวยวายลั่นว่าเอามาติดทำไม หนูพุทธตาแดงจะร้องไห้

“ก็...หนูพุทธช่วยพี่ตะวันตามหาญาติ ถ้าไม่มีญาติเจ้าสาว พี่ตะวันจะไม่ได้แต่งงาน”

“ตายล่ะ ช่วยกันเก็บให้หมดเร็ว ก่อนที่พี่ไทยจะกลับมา”

ooooooo

พิมกำลังจะหยอดเหรียญเพื่อซื้อกระดาษชำระอยู่หน้าห้องน้ำ เห็นใบประกาศคนหายของปรางค์ทองในคราบตะวันเต็มสองตา รีบควานหามือถือในกระเป๋า นึกขึ้นได้ว่าทิ้งไว้ในรถจะกลับไปเอาก็ปวดปัสสาวะเกินจะทนไหว ตัดสินใจวิ่งเข้าห้องน้ำไปปลดทุกข์ ไผ่กับหนูพุทธเก็บใบประกาศมาถึงตรงนั้นพอดี ก็รีบดึงมันออก

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 6 วันที่ 8 ก.ย. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ