อ่านละครข้ามากับพระ ตอนที่ 14 วันที่ 6 ก.ย. 58

อ่านละครข้ามากับพระ ตอนที่ 14 วันที่ 6 ก.ย. 58

เหตุการณ์ในคาราวานของเกริกสงบลง สารวัตรพนากลับเข้ามารายงานความสูญเสีย ในมือมีแผนที่ของผู้พันเชที่ทิ้งเอาไว้ เกริกอยู่กับเสี่ยกิจ แพรพรรณ และเพชร

“เราเสียคนไปเยอะเหมือนกันครับ”

“รีบออกเดินทางกันเถอะ อีกไกลไหม”

“ดูตามเส้นทางนี้ น่าจะต้องอีกคืนนึงครับ”

“ผู้พันเชมันต้องไม่ปล่อยเราแน่” เกริกหนักใจ แต่เสือไพรเดินเข้ามาบอกว่า ถ้าเราระวังและตั้งรับดีๆ มันไม่มีทางทำอะไรเราได้ เกริกถามเสือไพรว่าแน่ใจได้ยังไง



“อย่าลืมสิว่าฉันเป็นโจร ฉันก็รบแบบโจร”

“ทำไมแกถึงร่วมมือ อยากได้ทองหรือไง” เสี่ยกิจพูดไม่อ้อมค้อม

เสือไพรแสยะยิ้ม บอกว่าถ้าอยากได้ทองตนหลอมไปขายตั้งแต่ยี่สิบปีก่อนแล้ว เกริกเข้าใจความหมายถามเสือไพรว่า

“แกคิดว่ามันจะมางั้นเหรอ” เกริกหมายถึงรองชาติเสือ แต่คนอื่นๆไม่รู้ ยกเว้นเสือไพรเพียงคนเดียว

ทุกคนสงสัย โดยเฉพาะแพรพรรณที่คอยจับตา เสือไพรตอบคำถามเกริกว่าตนเชื่ออย่างนั้น แล้วชูมือให้ไขกุญแจ สารวัตรพนาจัดการให้เมื่อเกริกพยักหน้าอนุญาต

ฝ่ายหลวงพ่อเสือ ศักดิ์ และแก้วตาที่ถูกเพลิงกับลูกน้องควบคุมตัวไปทางเหมือง ทำไปทำมาเพลิงจำเส้นทางไม่ได้ ลูกน้องเลยบ่นอุบ แต่หลวงพ่อเสือพูดมีเมตตาว่าเวลามันเนิ่นนานมาแล้วมันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

เพลิงสงสัยว่าหลวงพ่อพูดเหมือนเคยมาแถวนี้ ศักดิ์ตอบรับทันทีว่าหลวงพ่อเคยมาธุดงค์ผ่านแถวนี้

“จริงหรือ ไม่น่าเป็นไปได้ หลวงพ่อเสือบอกว่าแถวนี้ไม่มีใครกล้าผ่านมาหรอก มันอันตรายจะตาย มีทั้งไข้ป่า โจร ชนกลุ่มน้อยที่คอยปล้นฆ่า”

แก้วตาฟังแล้วคาดว่าเหตุนี้เองเสือไพรถึงเอาทองมาซ่อนไว้แถวนี้เพื่อความปลอดภัย เพลิงคล้อยตาม แต่ลูกน้องแทรกขึ้นมาให้หยุดวิเคราะห์กันได้แล้ว รีบหาทางไปต่อเดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน หลวงพ่อเสือชี้นำเส้นทางทั้งที่ไม่ค่อยแน่ใจ เพลิงเลยขู่ฟ่อว่าถ้าจำผิดเราก็จะเหลือคนแค่ห้าคน นั่นหมายถึงไม่มีหลวงพ่อเสืออย่างแน่นอน...

ในบริเวณป่าทึบ ผู้พันเชแค้นใจพวกเสือทองเป็นที่สุด เขาโดนเสือทองทำร้ายถึงเลือดตกยางออกต้องให้ลูกน้องช่วยทำแผล แล้ววางแผนล้างแค้นเสือทอง แต่อองซอทักท้วงเรื่องล้างแค้นให้เอาไว้ก่อน เรามีภารกิจที่สำคัญกว่า

“ฉันรู้ ตราบใดที่ยังปราบเสี้ยนหนามไม่ได้ เราก็คงเข้าถึงทองยาก”

“งั้นคงต้องหาคนที่สูสีกันมาปราบมัน”

ผู้พันเชนึกถึงภูขึ้นมาทันที...เวลาเดียวกันนั้น ภูอยู่ในกลุ่มของเซงตูที่มีจอมิน มะนาว มะขวิด มะขิ่น และลูกทีมของเซงตูอีกนับสิบคน ภูควบคุมตัวไอ้ไม้ลูกน้องของเพลิงให้นำทางไปเหมือง ทั้งกลุ่มกำลังเตรียมหาที่พักแรมเพราะเย็นมากแล้ว ฝ่ายอาจอที่แยกออกไปรวบรวมคนเพิ่มป่านนี้ยังไม่มีวี่แววจะกลับมา ภูกลัวไม่ทันการณ์จึงพาคณะของตนล่วงหน้าไปก่อนโดยให้ไม้นำทาง ส่วนพวกเซงตูให้รออาจออยู่ที่นี่แล้วค่อยตามไป

อีกด้าน กองคาราวานของเกริกหยุดพักเช่นกัน เสือไพรคาดว่าพรุ่งนี้เช้าก่อนเที่ยงน่าจะถึงทางเข้าเหมือง แพรพรรณบ่นเหนียวตัวอยากอาบน้ำถ้ามีลำธารแถวนี้ เพชรหูผึ่ง ขันอาสาไปดูให้ทันที

ไม่นานนักแพรพรรณก็ได้อาบน้ำสมใจ เพชรลอบตามเธอมาแล้วลงกอดรัดนัวเนียกันในน้ำ พูดคุยกันเรื่องกำจัดเกริกและเสี่ยกิจ โดยไม่รู้ว่าเสือทองคอยเฝ้ามองอย่างรู้ทัน

แม้จะลำบากลำบนสักแค่ไหนในการเดินป่า แต่ศักดิ์ก็มีความสุขเพราะได้อยู่ใกล้แก้วตาหญิงอันเป็นที่รัก แต่แล้วมีเหตุให้ทั้งคู่ต้องแยกกันอีก ศักดิ์ถูกงูกัดแล้วโดนเพลิงทิ้งไว้อย่างไม่ไยดี ส่วนแก้วตากับหลวงพ่อเสือถูกมันบังคับให้เดินทางต่อ

โชคดีที่กลุ่มของภูผ่านมาเจอศักดิ์แล้วช่วยกัน

หาสมุนไพรมาถอนพิษ ศักดิ์จึงรอดปลอดภัยแต่ยังเป็นห่วงหลวงพ่อเสือกับแก้วตาที่อยู่ในเงื้อมมือของเพลิง

กลางดึกคืนนี้หลังจากทุกคนเข้านอนกันหมด แพรพรรณลอบมาพบกับเพชรเพื่อชี้เต็นท์นอนของเกริกให้ไปสังหาร เพชรหลงใหลเธอมากยอมทำตามอย่างว่าง่าย แต่เสือทองกลับทำให้แผนของทั้งคู่ล้มเหลว เขาเข้ามานอนในเต็นท์นั้นแทนเกริกแล้วเชือดคอเพชรจนขาดใจตาย ก่อนที่เสี่ยกิจกับเกริกจะปรากฏตัว

เสี่ยกิจโกรธมากตบหน้าแพรพรรณฉาดใหญ่ หญิงสาวพยายามแก้ตัวแต่ไม่เป็นผล เกริกรีบสั่งให้สารวัตรพนาควบคุมตัวเธอไว้ราวกับนักโทษ แล้วทำการสอบสวนว่าใครใช้ให้เธอทำแบบนี้

“ฉันทำเอง”

“ทำไม”

“เรื่องนั้นต้องถามตัวท่านดู”

เกริกตบหน้าแพรพรรณอย่างแรงแล้วด่าซ้ำว่านังแพศยา เสียงเอะอะของพวกเขาทำให้เสือไพร พงษ์และจ่าโชคออกมาดูด้วยความสนใจ แต่ไม่เข้าใจว่าแพรพรรณทำอย่างนั้นเพื่ออะไร

“บอกมาว่าใครใช้เธอ” เกริกคาดคั้น

“ไม่มีใครใช้ แต่เรื่องอื่นที่มีคนใช้ฉัน ฉันทำมันเสร็จแล้ว และของสิ่งนั้นก็อยู่ในที่ปลอดภัย เพราะถ้าฉันเป็นอะไรไป ของพวกนั้นจะถูกเผยแพร่ทันที และมีฉันกับใครอีกคนหนึ่งเท่านั้นที่รู้”

“เธอพูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย” เสี่ยกิจตวาด

เกริกหน้าซีด รีบตัดบทเพราะกลัวแพรพรรณจะโยงมาถึงเขาด้วย “เอาเถอะ ดึกแล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้”

อย่างไม่คาดคิด เพลิงพาแก้วตาเข้ามากลางวง เสี่ยกิจดีใจที่ได้พบลูกสาว ขณะที่เกริกยิ้มตาเป็นประกาย มองผู้หญิงที่หมายปองอย่างยินดี ฝ่ายเสือไพรมองเพลิงแววตาเข้มดุ
แก้วตาเห็นแพรพรรณถูกจับใส่กุญแจมือ ถามเสี่ยกิจว่าเกิดอะไรขึ้น

“คนมันไม่รักดี อย่าไปสนใจเลยลูก”

เกริกหันไปที่เพลิง ถามว่าเจอแก้วตาที่ไหน เพลิงบอกตนชิงตัวคืนมาจากศักดิ์ แล้วตอบคำถามผู้กองพงษ์ที่อยากรู้ว่าศักดิ์อยู่ที่ไหนว่า

“ตายไปแล้ว...คิดว่าตายไปแล้วนะ เพราะถูกงูกัดขนาดนั้นคงรอดยาก”

ผู้กองพงษ์กับจ่าโชคมองไปที่แก้วตาเห็นเธอ พยักหน้าแววตาหม่นก็ใจหายวาบ

“อ้อ...ฉันยังมีของมาฝากพี่ทองด้วย” เพลิงทำทีเอาใจเสือทอง เรียกลูกน้องให้พาหลวงพ่อเสือเข้ามา คนอื่นเห็นท่านแล้วเฉยๆ ยกเว้นเสือไพรกับเกริกที่ตกใจอุทานออกมาพร้อมกันว่า

“ชาติเสือ!”

ooooooo

อีกด้านในที่พักของพวกภู...ศักดิ์ปลอดภัยแล้ว เขาบ่นกลุ้มใจเพราะเป็นห่วงแก้วตากับหลวงพ่อเสือ ภูปลอบเขาว่า

“คุณแก้วตากับหลวงพ่อคงไม่เป็นไรหรอก เพลิงมันต้องพึ่งทั้งสองคน”

“แต่เสือทองไม่ปล่อยหลวงพ่อเสือไว้หรอก เพราะมันคิดว่าหลวงพ่อมีอาคมเก่งกว่า ทั้งๆที่...”

“มีแต่ธรรมะ...ฉันรู้ เพราะหลวงพ่อเคยเทศนาให้ฉันฟัง เสือทองมันกำลังลำพองเพราะถือว่ามีตำราเคล็ดวิชาของอาจารย์อยู่ ใครก็กินมันไม่ลง”

“มันก็ไม่แน่หรอก” พูดแล้วศักดิ์หยิบกระดาษที่ซ่อนไว้ในเสื้อออกมาส่งให้ภู

“นี่มัน...”

“ตำราอาจารย์พี่นั่นแหละ ฉันแอบฉีกมาแผ่นนึง”

ภูหยิบกระดาษนั้นมาส่องใกล้กองไฟเพ่งดูอย่างถี่ถ้วน “นี่มันบอกถึงวิธีล้างอาคมทั้งหมดเลยนี่”

ศักดิ์พยักหน้ารับ ภูยิ้มบางๆอย่างพอใจ...

เวลาเดียวกัน ที่กองคาราวานของเกริก...หลวงพ่อเสือยืนสงบนิ่ง เสือทองพอใจ เอ่ยปากขอบใจเพลิงที่พาคนสำคัญมา แล้ววานสารวัตรพนาควบคุมตัวเพลิงไว้ด้วย

“จับฉันทำไม ฉันอุตส่าห์พาคนพวกนี้มาให้นะ” เพลิงโวย

สารวัตรพนายิ้มเย็นบอกว่า “มันคนละเรื่องกัน แกมันเป็นโจรมีคดีปล้นฆ่า ฉันเป็นตำรวจฉันก็ต้องจับกุมดำเนินคดี”

“พวกแกหักหลังฉัน พวกแกหลอกฉัน ให้ฉันทรยศพ่อ”

“เพิ่งจะรู้เหรอ” เสือทองหัวเราะชอบใจ มองสารวัตรพนาควบคุมตัวเพลิงกับลูกน้องแยกไป แล้วหันกลับมาพูดกับหลวงพ่อเสือว่า “เราคงต้องสนทนาธรรมกันยาวนะหลวงพ่อ”

“เดี๋ยว! เสือทอง ฉันต่างหากที่ต้องขอสนทนาธรรมก่อน ใช่ไหมรองชาติเสือ” เกริกพูดเต็มปากเต็มคำ ทุกคนได้ยินพากันแปลกใจ

ผู้กองพงษ์กับจ่าโชคมองหน้าเสือไพรเหมือนจะให้ยืนยันคำพูดของเกริก เสือไพรยอมรับว่าพระรูปนี้คือรองชาติเสือ แล้วท้วงเกริกว่าพูดจาควรให้เกียรติพระบ้าง

“คนหนีความจริงไปบวช มันน่าเกรงใจนักหรือ”

“เรื่องในอดีต อาตมาไม่ติดใจแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้อาตมาอยากจะมาขอร้องให้เกริกหยุดการกระทำแบบนี้เสียที”

“คนที่หยุดต้องเป็นมันไม่ใช่ฉัน แก...เอ๊ย...ท่านอย่าลืมสิ มันนี่แหละแย่งชบาไปจากทุกคน”

“ฉันไม่ได้แย่ง...แต่ฉันก็ผิด”

เสือไพรสีหน้าสะเทือนใจ เล่าย้อนอดีตให้ฟัง...เขารู้ว่าชาติเสือกับชบารักกัน ซึ่งเขายินดีกับทั้งสองคน เลยทำตัวไม่ต่างจากพ่อสื่อจนได้ใกล้ชิดชบา และก่อเกิดความรักโดยไม่รู้ตัว กระทั่งชาติเสือสอบติดนายร้อยตำรวจต้องจากไปเรียน พอเรียนจบได้ทำงานก็ต้องไปราชการด่วนที่ภาคเหนือ ฝากฝังเขาดูแลชบา ปราบโจรเสร็จเมื่อไหร่จะรีบกลับมาขอเธอแต่งงาน แล้วชาติเสือก็หายเงียบไปเลย แต่คนที่คิดคดคือเกริก เขาลอบให้ผู้ใหญ่ใช้อำนาจมาสู่ขอชบา

ชบาไม่เต็มใจ เธอถูกพ่อกักตัวไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน จึงให้น้องชายไปบอกเสือไพร แน่นอนว่าเสือไพรรักษาคำพูดที่เคยสัญญากับชาติเสือไว้จึงบุกมาช่วยชบาพาไปอยู่หมู่บ้านของเซงตู

ฟังมาถึงตรงนี้ เกริกไม่ยอมรับ ถามว่าตนผิดด้วยหรือที่รักชบา ความจริงต้องโทษชาติเสือที่ทิ้งชบาไป

“ท่านไม่เข้าใจหรอกว่าการรอคอยคนที่รักมันเจ็บปวดแค่ไหน ฉันเข้าใจชบา เพราะฉันเองก็รอชบามาชั่วชีวิต แต่เอ็ง ไอ้ไพร เอ็งมันชั่ว กล้าทำลายชบาได้”

“ใช่ นี่แหละมันเป็นตราบาปของข้ามาจนทุกวันนี้”

เสือไพรมองไปที่หลวงพ่อเสือด้วยสีหน้าและแววตาสำนึกผิด หวนนึกถึงความหลังตอนอยู่กับชบาแล้วตำรวจตามไล่ล่าเขาทั่วเมือง ข้อหาปล้นฆ่าหลายคดี ทั้งที่เขารู้ว่ามีพวกฉวยโอกาสอ้างชื่อเขาไปปล้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

วันนั้นชบาร้อนใจมากถามเสือไพรว่า “แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ”

“ไม่ต้องทำอะไร ทุกอย่างมันจะจบลงที่พี่เอง ชบาไม่ต้องห่วง”

“พี่ไพรทำแบบนี้ทำไม ฉันรู้นะพี่ไพรปกป้องฉันเพราะพี่ไพรรักฉันใช่ไหม แต่ติดที่พี่ชาติ”

“อย่าพูดแบบนั้นเลยชบา”

“พี่พูดสักคำได้ไหมว่าพี่รักฉัน”

“พี่ผิดคำพูดกับไอ้ชาติไม่ได้หรอก”

“แต่หนังสือพิมพ์เขาลงว่าพี่ชาติเป็นหัวหน้าทีมไล่ล่าพี่นะ”

“นั่นมันคนละเรื่องกัน”

“แต่สำหรับฉันมันเป็นเรื่องเดียวกัน และเรื่องที่สำคัญที่สุดของฉันก็คือฉันอยากใช้ชีวิตกับคนที่ฉันรัก แม้เขาจะไม่ยอมเอ่ยปากว่าเขารักฉัน แต่ฉันก็รู้ดี”

ทั้งคู่สบตากันด้วยความรัก เสือไพรหักห้ามใจไม่ไหว ที่สุดเขาและเธอก็เป็นของกันและกันด้วยความเต็มใจ แต่ห้วงเวลาแห่งความสุขนั้นผ่านพ้นไป

เสือไพรก็สำนึกผิดต่อเพื่อนรัก...

หลวงพ่อเสือหรืออดีตตำรวจมือปราบรับรู้ความจริงด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ไม่คิดเอาความเสือไพร

“อาตมาขอโทษ และไม่เคยโทษไพรเลย อาตมาต่างหากที่หลงทางเห็นแก่ชื่อเสียง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานจนลืมสัญญาที่ให้ไว้กับโยมชบา แต่ก็นั่นแหละนะ เมื่ออาตมานั่งทบทวนดู อาตมาจึงรู้สึกผิดมากกว่าไพรมากนัก”

“ทำไมล่ะท่าน” เสือไพรถาม

“ก็เพราะไพรรักอยู่กับชบาก่อนแล้วไง”

“ท่านรู้?”

“อาตมารู้ว่าไพรรักเพื่อน ไพรเลยเสียสละให้อาตมา ทั้งๆที่ในใจกล้ำกลืน นี่แหละคือเพื่อนเหนือเพื่อน คือเพื่อนที่ยอมได้ทุกอย่างเพื่อความสุขของเพื่อน อาตมารู้สึกผิดและละอายใจจริงๆ อาตมาหลงละเลิงกับหน้าที่การงานที่กำลังเจริญก้าวหน้า หลังจากนั้นอาตมาก็ได้รับรู้เรื่องราวการปล้นของไพรมากมายหลายคดี อาตมาไม่ได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ไม่ได้คิดถึงความเป็นเพื่อนและนิสัยที่แท้จริงของไพร อีกทั้งได้รับข้อมูลจากเกริกเลยยิ่งทำให้หน้ามืดตามัว บังเกิดทั้งโทสะโมหะ จึงบุกไปจับไพรหลังจากได้เบาะแสที่ซ่อนตัว”

วันนั้นชาติเสือกับเสือไพรดวลปืนกันแล้วชบาถูกกระสุนปริศนาซึ่งทุกคนคิดว่ามาจากชาติเสือ แม้แต่ตัวชาติเสือเอง

“มันเป็นความผิดพลาดที่ยากจะให้อภัยตัวเองได้”

“ไม่หรอกท่าน ท่านไม่ได้ยิงชบา และท่านก็ไม่ได้ตั้งใจยิงผม”

หลวงพ่อเสือมองหน้าเสือไพรอย่างแปลกใจ ทันใดตาชูเดินเข้ามาพร้อมพรานนำทางอย่างไม่มีใครคาดคิด

“และเสือไพรก็ไม่ได้คิดจะฆ่าชาติเสือ” ตาชูยืนยันหนักแน่น

“ตาชูยังไม่ตายหรือนี่” ผู้กองพงษ์โพล่งขึ้นอย่างประหลาดใจ

“ฉันยังตายไม่ได้หรอก จนกว่าเรื่องทั้งหมดจะถูกเปิดเผย”

“เกริก...แกก็น่าจะรู้ว่าใครยิงชบา และใครคิดจะปล้นทองกันแน่...วันนั้นกระสุนวิ่งเข้าที่ไหล่ฉันนัดหนึ่ง ซึ่งฉันเชื่อว่าชาติเสือเป็นคนยิงฉันและไม่ได้ตั้งใจเอาชีวิต แต่กระสุนที่ยิงเข้าชบามันมาจากหลังต้นไม้ใหญ่”

เกริกชะงัก ไม่พอใจเสือไพรกับตาชูที่บอกเล่าความจริงออกมา

“อาตมาไม่ได้ยิงงั้นหรือ โยมแน่ใจนะ”

“แน่ใจครับ มันเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะยิงปืนครั้งเดียวถูกคนสองคน”

ได้ยินเสือไพรยืนยันอย่างนั้น เกริกรีบตัดบททันที

“ใครจะยิงชบาก็ช่าง เรื่องมันจบไปแล้ว แต่เรื่องที่มันยังคาราคาซังอยู่นี่สิ”

“ทองใช่มั้ย”

“ใช่...มันเป็นแผนของข้าที่วางไว้อย่างแยบยล แต่ไอ้ไพร เอ็งมาทำพังหมด”

“ข้าไม่ได้ทำพัง ไอ้เกริก...เอ็งต่างหากที่ทำพัง เอ็งคิดจะปล้นทองแล้วโยนความผิดให้ข้า ข้าจำเป็นต้องรักษาของของแผ่นดินเก็บเอาไว้ บางส่วนที่ข้าเอาไป มันคือค่าเสี่ยงของลูกน้องข้า”

“ชูบอกกับอาตมาหมดแล้ว อาตมาถึงตัดสินใจเดินทางมาพบพวกโยมเพื่อยุติเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมด”

“ยังมีอีกเรื่องครับท่าน” เสือไพรหวังคลายข้อข้องใจเรื่องชบา แต่เกริกไม่อยากได้ยิน ยิงปืนขึ้นฟ้าสองสามนัดแล้วตวาดลั่น

“พอแล้ว! จะไม่มีการพูดถึงคนที่ชื่อชบาอีก...สารวัตร แยกกันมัดไว้ พรุ่งนี้เราจะไปเอาทองแต่เช้า”

ทุกคนรับรู้ หลวงพ่อเสือถูกจับแยกไปขังในเต็นท์ ตาชูไปรวมกับเสือไพร ผู้กองพงษ์ จ่าโชค ส่วนแพรพรรณยังคงถูกมัดราวนักโทษ...

เสียงปืนของเกริกทำให้กลุ่มขอภูที่อยู่ไม่ไกลตกใจ เกรงจะเกิดอันตรายกับหลวงพ่อเสือ

“หรือว่าพวกมันยิงหลวงพ่อ”

“มันจะใจบาปขนาดนั้นเลยหรือ”

“พวกมันเคยทำมาแล้ว”

“สงสัยต้องลุยมันคืนนี้แล้ว” ภูตัดสินใจเฉียบขาด คนอื่นๆเห็นด้วย

ที่กองคาราวาน เสือไพร ตาชู จ่าโชค ผู้กองพงษ์และพรานนำทางถูกจองจำอยู่ด้วยกัน ผู้กองพงษ์บอกตาชูว่ามะนาวกับมะขวิดคงดีใจที่เขายังไม่ตาย

“เรื่องยังไม่จบอย่าเพิ่งสรุป คนตาบอดอย่างข้าจะไปทำอะไรได้”

จู่ๆ จ่าโชคถามขึ้นมาว่า “หลังจากชบาถูกยิง เกิดอะไรขึ้น” คำถามนี้เสือไพรก็อยากรู้เต็มแก่เหมือนกัน

เวลาเดียวกันนั้น เกริกดื่มเหล้าอยู่กับเสี่ยกิจและสารวัตรพนา เกริกพูดอย่างฉุนเฉียวว่า

“ดี! มาพร้อมหน้าพร้อมตาจะได้จัดการซะทีเดียว”

“รวมพระด้วยหรือ มันจะไม่ดีนะ พระสงฆ์องค์เจ้า”

“นั่นสิครับ”

“จะไปกลัวอะไร ก็สึกเสียก่อนสิ แล้วค่อยฆ่า คนอย่างชาติเสือมันไม่ธรรมดา เก็บเอาไว้เราลำบากภายหลังแน่”

เสี่ยกิจกับสารวัตรพนาแทบไม่เชื่อหูว่าเกริกจะเหี้ยมเกรียมถึงขนาดนี้ สารวัตรพนาอยากรู้จะทำยังไงกับแพรพรรณ เกริกมองหน้าเสี่ยกิจอย่างขอความเห็น

“ผมก็คงไม่เก็บหอกข้างแคร่ไว้เหมือนกัน”

“ดี พรุ่งนี้ออกเดินทางแล้วเก็บแพรพรรณซะ ฝังไว้ที่นี่แหละ” เกริกสรุปชัดเจน แก้วตาแอบได้ยินสีหน้าตระหนกตกใจ

อ่านละครข้ามากับพระ ตอนที่ 14 วันที่ 6 ก.ย. 58

ละครข้ามากับพระ แนวแอคชั่น - ดราม่า
ละครข้ามากับพระ บทประพันธ์โดย พนา ภานุมาศ
ละครข้ามากับพระ บทโทรทัศน์โดย ภูมิ พญาไฟ
ละครข้ามากับพระ กำกับการแสดงโดย ทองก้อน ศรีทับทิม
ละครข้ามากับพระ ผลิตโดย บริษัท โคลิเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด
ละครข้ามากับพระ ออกอากาศ: ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.20 น.
ติดตามชมละครข้ามากับพระได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ละครข้ามากับพระ นักแสดงนำ ลิขิต บุตรพรม,ฮาน่า ลีวิส,
ที่มา ไทยรัฐ