อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 4 วันที่ 2 ก.ย. 58

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 4 วันที่ 2 ก.ย. 58

ทนงศักดิ์ติดต่อเสี่ยหมูเอาไว้ เสี่ยหมูตั้งใจฟันค่านายหน้าและกว้านซื้อที่ดินแถบนี้ไว้หมดเพื่อเก็งกำไร ยกเว้นไร่นวลตะวันที่ดื้อรั้นไม่ยอมขาย

นันทวัฒน์กับมยุริญยืนมองที่ดินกว้างไกล

สุดลูกหูลูกตาอย่างชื่นชอบบรรยากาศ ทนงศักดิ์กับพิชิตยืนคุยอยู่กับเสี่ยหมูโดยมีจอมคอยสอพลอ

“เป็นไงครับน้องยุริญ”

“สวยค่ะ อากาศดีมากเลย โดยเฉพาะทุ่งทานตะวันตรงนั้น ยุริญชอบจังค่ะพี่วัฒน์”



จอมได้ยินรีบเข้ามาเสนอหน้าอธิบาย “ที่ดินของเราสุดตรงก่อนถึงทุ่งทานตะวันเท่านั้นครับ แล้วอีกที่ก็ตรงเลยรั้วด้านนั้นไป”

“เอ๊ะ ที่ดินมันก็แหว่งตรงกลางน่ะสิครับ” ทนงศักดิ์ท้วงทันควัน จอมยอมรับว่าใช่...แต่ก่อนที่จอมจะพูดอะไรไปมากกว่านั้น เสี่ยหมูรีบขัดว่าที่ดินตรงนั้นไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เป็นแอ่งกระทะ ตามหลักฮวงจุ้ยไม่ค่อยจะดี

“แต่ผมเข้าใจว่าที่ของเสี่ยกินบริเวณรอบภูเขานี่ทั้งหมดซะอีก”

“ที่ตรงไหนฮวงจุ้ยไม่ดี ผมก็ไม่เอาหรอกครับ”

“ผมว่าที่ชิ้นใหญ่ที่เมืองกาญจน์ที่เราไปดูเมื่ออาทิตย์ที่แล้วสวยกว่านะครับคุณวัฒน์” พิชิตแทรกขึ้นมา ทนงศักดิ์เห็นด้วย ย้ำว่าผืนนั้นสวยกว่า ไม่แหว่งแบบนี้

เสี่ยหมูหงุดหงิดใจมาก เขาต้องการขายที่ผืนใหญ่นี้ให้ได้เพื่อนำเงินก้อนโตไปลงทุนทำคอนโดกับเพื่อน เลยต้องเชียร์สุดตัวว่าแถบนี้อากาศดีกว่า เย็นตลอดปีเหมือนสวิตเซอร์แลนด์ รับรองว่านันทวัฒน์ต้องติดใจ

“บอกตามตรงนะครับ ผมติดอยู่แค่ที่มันไม่เต็มผืน ถ้าได้ทั้งหมดมาก็ดีนะครับ...น่าเสียดาย”

“ก็ไม่น่าจะยากอะไรถ้าคุณวัฒน์ไม่ถือเรื่องฮวงจุ้ย ผมจัดการให้ได้ครับ”

“ถ้าได้ทั้งผืน 400 ไร่ เราก็พร้อมจะโอนนะครับ เสี่ย...เงินสด...ไม่ต้องรอกู้”

ได้ยินทนงศักดิ์พูดอย่างนั้น เสี่ยหมูตาลุกวาวขึ้นมาทันที รับปากจะรีบจัดการให้ด่วนเลย...

ขณะที่พวกนันทวัฒน์กำลังจะขึ้นรถกลับ ธงไทยขับรถผ่านมาเห็น สงสัยว่าพวกเขาทำอะไรกัน ชายหนุ่มจอดรถแล้วกดกระจกลงทักเสี่ยหมู นึกว่ารถเสียจะได้ช่วยเหลือ เสี่ยหมูร้อนตัวเรื่องที่ดินจึงบอกไม่มีอะไร หมายจะให้ธงไทยรีบไป

พิชิตตาไวมองเข้าไปในรถเห็นเสี้ยวหน้าของหญิงสาวที่เอนหลับอยู่กับเบาะข้างคนขับ เขาแทบหายใจไม่ออกงึมงำในลำคอว่าไม่จริง เป็นไปไม่ได้...เช่นเดียวกับนันทวัฒน์ที่พอเห็นก็เรียกชื่อปรางค์ออกมา แต่รถของธงไทยเคลื่อนออกไปแล้ว มยุริญพอรู้ก็จะให้นันทวัฒน์ตามไป เสี่ยหมูกับจอมสงสัยเห็นท่าทีพวกเขาก็สงสัยถามว่ามีอะไร

“ผู้หญิงที่อยู่ในรถคันนั้น คนรู้จักน่ะค่ะ”

“นังบ้านั่นน่ะเหรอครับ ไม่ใช่หรอกครับ ผู้หญิงคนนั้นเสียสตินะครับ”

คำตอบของจอมทำให้ทนงศักดิ์ส่ายหัว เข้าใจว่านันทวัฒน์ยังไม่เลิกเพ้อถึงปรางค์ทอง ท้วงว่าไม่ใช่ แต่มยุริญอยากให้ตามไปดูให้แน่ใจ นันทวัฒน์แพ้ใจหญิงสาวแสนดี ตัดบทว่า

“ช่างเถอะไม่เป็นไรดีกว่า เขาไม่มาอยู่ในที่แบบนี้หรอก” ชายหนุ่มจับมือเธอแน่น มองตาลึกซึ้ง...วันนี้เขายิ่งประทับใจในตัวเธอขึ้นไปอีก

ถ้าเมื่อกี้นี้พี่วัฒน์ตามไปดูให้รู้แน่ชัด ก็จะได้หายข้องใจ...เสียดายนะคะ

“แล้วถ้าใช่ล่ะครับ”

“ก็ดีสิคะ พี่วัฒน์ตามหาเขามาตั้งนาน ถ้าใช่...ก็ดีไงคะ”

“แล้วน้องยุริญล่ะครับ”

“ยุริญก็จะดีใจกับพี่วัฒน์ด้วย...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่วัฒน์กับยุริญ เราจะยังคงมิตรภาพที่ดีแบบนี้ตลอดไป”

“ไม่ใช่เขาหรอก...พี่รู้ดี” จบคำเขาจับมือมยุริญบีบเบาๆ

ทนงศักดิ์ถอนใจยาวด้วยความโล่งใจ เฝ้ามองหนุ่มสาวด้วยความยินดี ขณะที่พิชิตนั่งหน้าคู่คนขับมองออกไปนอกรถอย่างสับสน เขาไม่มั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นคือปรางค์ทองหรือไม่ แต่นั่นก็ทำให้เขาแทบหยุดหายใจไปเลยทีเดียว

ooooooo

ตะวันเหมือนจะนึกความหลังเกี่ยวกับตัวเองได้ เธอมีอาการปวดหัวตั้งแต่ออกจากงานเกษตรสัมพันธ์ พอกลับถึงบ้านแม่นวลจึงให้นอนพักผ่อน ฝ่ายจ๊ะจ๋าที่ไปงานกับไผ่ แรกๆก็เซ็ง แต่ทำมาทำไปก็สนุกเพราะไผ่พาเที่ยวพากินจนลืมธงไทยกับตะวันไปชั่วขณะ

ทางด้านนันทวัฒน์ที่กลับถึงบ้านก็หาโอกาสคุยกับพิชิตตามลำพังเรื่องที่เห็นปรางค์ทอง พิชิตพูดไม่เต็มเสียงว่าไม่ใช่ แต่อีกฝ่ายเสียงดังอย่างคาดคั้น

“นายมั่นใจได้ไงว่าไม่ใช่”

“คุณวัฒน์คิดว่าเขาจะไปอยู่ในที่แบบนั้นเหรอครับ คุณวัฒน์ก็รู้จักเขาดี”

“แต่ว่า...”

“ไม่ใช่หรอกครับ ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์”

“นั่นสินะ คนอย่างเขาจะไปอยู่ในที่แบบนั้นได้ยังไง” นันทวัฒน์รำพึงแล้วเดินหมดแรงขึ้นบ้านไปด้วยความผิดหวัง ส่วนพิชิตที่ยืนยันไปแล้วรู้สึกไม่สบายใจ...

เวลาเดียวกันนั้น เสี่ยหมูนั่งไม่ติด บ่นแล้วบ่นอีกกับจอมเรื่องที่ดินแปลงสวยของไร่นวลตะวัน

“เจ็บใจนัก ติดมันอยู่แค่แปลงเดียวนี่แหละ ไม่งั้นก็ขายได้เงินไปนานแล้ว ไม่ต้องมาติดแหง็กเป็นเสี่ยภูธรอยู่ที่นี่หรอก”

“เอาไงดีครับเสี่ย ทางกรุงเทพก็ทวงเงินลงทุนทำคอนโดมาแล้วนะครับ”

“ฉันจะไปเอาเงินที่ไหนมาล่ะ กว้านซื้อที่ไปหมดแล้วเนี่ย”

“เสียดายนะเสี่ย โครงการยักษ์ใหญ่ขนาดนั้นถ้าได้ร่วมลงทุนกำไรอื้อเลย”

“จะจัดการมันยังไงดีนะ”

จอมเสนอให้หาทางไล่พวกนั้นออกไปจากที่นี่ โดยอาสาจะจัดการให้เองในคืนนี้เลย ค่อยๆทำทีละนิดจนมันอยู่ไม่ได้เอง

ตกกลางคืนจอมทำตามที่พูด เกณฑ์คนงานไปตั้งวงเหล้าเคล้าเสียงเพลงดังกระหึ่มใกล้ไร่นวลตะวัน ทำเอาคนในบ้านนอนไม่หลับ ตาท้วมออกมาเจรจาดีๆ พวกเขาก็ไม่ฟัง แต่พอเจียมมาพร้อมปืนยิงเปรี้ยงเดียว ทุกคนถึงกับลุกพรวดวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง

แม่นวลไม่ชอบความรุนแรงจึงตำหนิเจียมก่อนจะไล่ทุกคนไปนอน พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวรอรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทุกคนลุกออกไปเงียบเชียบ มีแต่จ๊ะจ๋าที่หันมาค้อนใส่ตะวันด้วยความหมั่นไส้ก่อนตามคนอื่นๆออกไป

“ความจริงเขาก็ผิดนะครับแม่นวล ที่มาทำเสียงเอะอะเวลาดึกดื่นป่านนี้ แม่นวลน่าจะให้ผมลงไปเคลียร์ตั้งแต่แรก”

“เคลียร์กับคนเมาเราก็พูดกับเขาไม่รู้เรื่องหรอก จำไว้นะไทย...มีสติ คิดอะไรให้รอบคอบ ไทยเป็นคนคิดดี ทำดี แต่ไม่ใช่ทุกคนบนโลกนี้จะคิดแบบไทย แม่ไม่อยากสูญเสียอีกแล้ว”

ธงไทยเข้าใจ ผละจากตะวันมานั่งลงซบหน้ากับตักแม่นวลเชิงปลอบใจ

“ไทยเหมือนพ่อทุกกระเบียดนิ้ว...แม่กลัว”

“ผมจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดจะได้อยู่กับแม่นวลนานๆ แม่นวลก็ต้องดูแลตัวเองนะครับ จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”

แม่นวลหน้าเครียด เลื่อนมือมาที่หน้าอกตัวเองด้วยความกังวล นึกถึงคำว่าตลอดไปด้วยความขมขื่น...ตะวันลอบดูแม่นวลด้วยความสงสัย

พากันกลับไปถึงที่พักแทนที่จะรีบนอน พวกเจียมยังจับกลุ่มคุยกัน เจียมขอโทษตาท้วมที่ทำให้โดนดุไปด้วย จ๊ะจ๋าเสริมทันทีว่าแถมทำให้ตนพลอยอดนอนด้วย พรุ่งนี้ถ้าตนทำข้อสอบไม่ได้ก็เพราะป้าเจียมคนเดียว เจียมไม่พอใจทุ่มเถียงกันใหญ่ จ๊ะจ๋าสู้ไม่ได้ลุกขึ้นเดินปึงปังหนีไป

“ดู๊ดู...ดูมัน นังจ๊ะจ๋านี่มันไม่ได้นายแม่นวลมาเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ”

“จะได้อะไรล่ะน้าเจียม ตอนมาอยู่กับนายแม่นวลก็โตมากแล้ว”

เจียมค้อนไผ่แล้วยกตัวอย่าง “ดูหนูตะวันสิ เขาก็มาตอนโตแต่เขาได้ไปเต็มๆ”

“เหมือนกันซะที่ไหนเล่า นั่นเขาเหมือนมาเกิดใหม่ที่นี่”

เจียมชะงัก คิดตามคำพูดตาท้วมแล้วเห็นจริง “ก็จริงนะ เอ๊ะ! รึว่าฉันจะลงทุนตีหัวนังจ๊ะจ๋าให้มันความจำเสื่อมจะได้เป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง”

ไผ่อาสาตีให้เอง เจียมชอบใจบอกเอาให้หนักๆ ไปเลย ตาท้วมรำคาญทั้งคู่ตวาดให้เลิกเล่น เอาเวลาไปคิดเรื่องที่เจียมก่อไว้ดีกว่า

“นั่นสิ ทำไงดีล่ะตาท้วม ฉันไม่สบายใจเลย”

“ปืนผาหน้าไม้น่ะซี้ซั้วเอามาเล่นได้ที่ไหน มันจะพาความเดือดร้อนมาให้ ยิ่งอยู่ในมือผู้หญิงแล้วล่ะก็”

“ฉันจะไปรู้เหรอ เห็นแกเคยเอามาขู่มันนี่”

“ขู่มันก็ต้องมีชั้นเชิง ไม่ใช่ไปยิงใส่เขาตูมๆๆแบบนี้ มันผิดกฎหมายรู้มั้ย”

“อย่างงี้ก็เข้าทางไอ้เสี่ยหมูมันเลยทีเดียว” ไผ่บ่นอย่างเจ็บใจ...ตาท้วมรับรองว่างานนี้มันไม่ยอมแน่!

ooooooo

จอมประหลาดใจมาก นอกจากเสี่ยหมูจะไม่ด่าตนเองกับพวกที่เสียรังวัด ถูกเจียมไล่ยิงกระเจิดกระเจิงกลับมาแทบไม่ทัน ยังชมว่าทำดีแล้ว จนต้องถามย้ำว่าไม่ได้พูดประชดใช่ไหม

“เปล่า...เอ้า เอาเงินไปแบ่งกับไอ้พวกนั้นไว้กินขนม ส่วนแก จบงานนี้เมื่อไหร่ ฉันจะตกรางวัลอย่างงามเลยทีเดียว” เสี่ยหมูหัวเราะชอบใจพร้อมกับควักเงินปึกใหญ่ยื่นให้จอม...

มยุริญเรียกคะแนนให้ตัวเองได้มากโขเมื่อจัดแจงส่งอึ่งลูกสาวแม่นมอ่างของตัวเองมาช่วยงานที่บ้านของวัฒนา เนื่องได้ยินนันทาบ่นว่าคนงานไม่พอใช้ ทั้งนันทา กันเกราและนันทวัฒน์ต่างชมเป็นเสียงเดียวกันในความมีน้ำใจของเธอ นันทนามาเห็นเข้าก็ไม่ค่อยจะชอบใจนัก แต่ต้องทำเป็นยิ้มแย้มชื่นชมไปด้วย ก่อนจะทวงถามเรื่องบัตรเชิญที่ให้มยุริญช่วยหาให้ เธอรีบเปิดกระเป๋าหยิบบัตรสองใบยื่นให้ นันทนาโผกอดเธอแน่น

“รักพี่ยุริญที่สุดเลย”

“อะไรกันน่ะยัยนา ไปรบกวนอะไรพี่ยุริญเขา” นันทวัฒน์ต่อว่าน้องสาวตัวเอง

“ไม่ได้รบกวนอะไรเลยค่ะพี่วัฒน์ เพื่อนยุริญเขาเชิญดีไซเนอร์ระดับโลกมาแสดงงาน ยุริญได้บัตรมาค่ะ เลยเอามาให้เผื่อน้องนาอยากจะไปดู”

นันทวัฒน์รู้จักนิสัยน้องสาวดีว่าต้องไปรบกวนมยุริญจัดการเรื่องนี้ให้ แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากต่อว่า ยัยน้องตัวแสบรีบตัดบทขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัว จะได้ออกไปซื้อชุดใหม่ใส่ไปงาน แล้วเดินขึ้นบ้าน แต่ไม่วายหันมาขยิบตายั่วโมโหพี่ชายซึ่งพยายามฟ้องให้แม่จัดการเธอให้ แต่ท่านกลับทำหูทวนลม เสพูดเรื่องอื่นแทนที่

“มาเถอะแม่อึ่ง เดี๋ยวฉันกับคุณกันเกราจะพาไปแนะนำงานให้นะจ๊ะว่าเธอต้องทำอะไรบ้าง จะได้พาไปดูห้องหับด้วย” นันทาว่าแล้วเดินนำอึ่งที่ยังคงชวนคุยโน่นพูดนี่ไม่หยุดปากออกไปกับกันเกรา นันทวัฒน์พูดทีเล่นทีจริงกับมยุริญว่าบ้านนี้อลเวงดีไหม อีกหน่อยเธอมาอยู่จริงๆจะยิ่งปวดหัวกว่านี้

“เอ่อ ยุริญว่ายุริญตามไปดูพี่อึ่งดีกว่านะคะ” มยุริญเขินหน้าแดงรีบตามทั้งสามคนออกไปทันที

นันทวัฒน์มองตามอย่างเอ็นดู ก่อนจะพึมพำหน้าเครียด “ปรางค์ เธอไม่กลับมาแล้วจริงๆใช่ไหม”...

ฝ่ายนันทนาเปลี่ยนท่าทีเป็นคนละคนเมื่อเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง เหวี่ยงบัตรเชิญลงพื้นอย่างหัวเสีย ด่ามยุริญที่เธอเพิ่งหวานใส่ว่าหน้าด้านสุดๆ ยังไม่ทันไรก็ส่งขี้ข้าของตัวเองมาแตะขาไว้ก่อนแล้ว ตรีทศซึ่งนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวย่องมากอดเธอทางด้านหลัง หญิงสาวตกใจอ้าปากจะร้อง แต่เขามือไวปิดปากไว้ทัน

“เดี๋ยวแม่เธอก็โผล่มาหรอก จะร้องทำไม”

“เล่นอะไรไม่รู้ตกใจหมด รีบแต่งตัวเถอะ ออกไปหาอะไรกินข้างนอกดีกว่า ที่นี่น่าเบื่อจะตาย กว่านังคนเก่าจะออกไปจากที่นี่ได้ ไม่ทันไร นังคนใหม่จะมาอีกแล้ว”

“หมายถึงว่าที่พี่สะใภ้คุณน่ะเหรอ ทำไมล่ะออกจะสวย” ตรีทศเห็นสายตาเอาเรื่องของนันทนารีบดึงตัวมากอดเอาใจ “แต่ว่าสวยสู้คุณหนูนันทนาของทศไม่ได้หรอกนะครับ”

ooooooo

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ธงไทยเห็นตะวันยืนใจลอยมองทุ่งดอกทานตะวันที่บานสะพรั่งสุดลูกหูลูกตาพลางถอนใจเฮือกๆ เข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า เธออยากรู้ว่าถ้าวันหนึ่งเขารู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน จะรู้สึกอย่างไร ธงไทยยังให้ตอบไม่ได้ คงต้องขึ้นอยู่กับว่าเธอเป็นใคร

“แล้วถ้าตะวันเป็นผู้หญิงไม่ดีล่ะคะ”

“จะเป็นแบบนั้นได้ไง ตะวันออกจะเป็นเด็กดี อย่าคิดมากเลยนะไปเถอะไปขี่รถเล่นกันจะได้สบายใจขึ้น”

แม้ตะวันจะยังคาใจเรื่องที่มาที่ไปของตัวเอง แต่ก็ยอมขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปกับธงไทยอย่างว่าง่าย เขาจับแขนเธอมากอดเอวตัวเอง มีความสุขที่ได้ดูแลเธอแบบนี้

ระหว่างที่ธงไทยขี่มอเตอร์ไซค์พาตะวันชมวิว สวนกับรถของเสี่ยหมูซึ่งกระบะท้ายมีคนงานนั่งมาเต็มบ่ายหน้าไปทางไร่นวลตะวัน เขารู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี รีบวกรถกลับทันที...

เป็นอย่างที่ธงไทยคาดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน เสี่ยหมูยกพวกมาหาเรื่องนวลถึงไร่ หาว่าคนของเธอทำตัวเป็นนักเลงลากปืนมาไล่ยิงคนของเขา นวลไม่อยากมีปัญหา จึงขอโทษเขาสำหรับเรื่องเมื่อคืนนี้

“ไปขอโทษมันทำไมจ๊ะนายแม่นวล พวกมันทำตัวเกเรหาเรื่องพวกเราก่อนแท้ๆ”

“น้องจ๊ะจ๋าไม่ได้เห็นกับตา พูดจาแบบนี้เดี๋ยวพี่จอมจับตีก้นซะเลยนี่” ไม่พูดเปล่า จอมใช่สายตาแทะโลมจ๊ะจ๋าไปด้วย ไผ่ไม่พอใจจะเข้าไปเอาเรื่อง แต่ตาท้วมดึงแขนไว้

จังหวะนั้นธงไทยบึ่งมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอด ถามว่ามีเรื่องอะไรกัน เสี่ยหมูกล่าวหาว่าเจียมเอาปืนไล่ยิงคนของตน จำเลยพยายามแก้ตัวแต่นวลสั่งไม่ให้ต่อปากต่อคำ จอมไม่ได้สนใจคำสนทนา มัวแต่ตะลึงในความงามของตะวันถึงกับเพ้อว่าสวยเหมือนนางฟ้าจนเสี่ยหมูต้องเอ็ดเขาถึงเรียกสติคืนมาได้ ธงไทยพยายามพูดดีด้วยให้เลิกแล้วต่อกันในเมื่อไม่มีใครเป็นอะไร แต่เสี่ยชั่วยืนกรานจะเอาเรื่องให้ได้ นวลเห็นท่าไม่ดีสั่งเจียมพาจ๊ะจ๋ากับหนูพุทธเข้าบ้าน ยิ่งสถานการณ์เริ่มตึงเครียด นวลก็เริ่มเจ็บแปลบที่หัวใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้

“ยังไงเราก็เพื่อนบ้านกันนะครับเสี่ย ผมว่าเราอยู่กันอย่างสงบดีกว่า” ธงไทยขอร้องอย่างใจเย็น

“ถึงขั้นมีการไล่ยิงกันแบบนี้ อย่าคิดว่าจะอยู่กันอย่างสงบเลย ทางที่ดีที่สุด รีบขายที่นี่ให้ผมซะหรือไม่ก็อยู่กันไปแบบลุกเป็นไฟอย่างนี้แหละ” ในที่สุดเสี่ยหมูก็เผยไต๋ ไผ่โกรธมากที่เขาตามมาหาเรื่องถึงนี่ก็ด้วยเหตุนี้นี่เอง ปรี่เข้าไปจะเล่นงาน เสี่ยหมูชักปืนจะยิงธงไทยโดดแย่งปืน นวลตกใจสุดขีดถึงกับทรุดฮวบ ตะวันรีบเข้าไปรับไว้ทัน ธงไทยบิดข้อมือเสี่ยชั่วจนปืนหล่นแล้วถีบซ้ำหงายหลังก้นจ้ำเบ้า เสี่ยหมูสู้ไม่ได้ สั่งให้คนของตนลุย สองฝ่ายตะลุมบอนกันอุตลุด จ๊ะจ๋าซึ่งอยู่บนบ้านเห็นสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจรีบวิ่งออกไปทางด้านหลัง

ooooooo

ธงไทยกับพวกเสียเปรียบพวกเสี่ยหมูเนื่องจากคนน้อยกว่า ถูกรุมเตะต่อยล้มกลิ้งล้มหงาย นวลพยายามจะห้ามปรามแต่ทำไม่ได้ เนื่องจากอาการโรคหัวใจกำเริบ เอามือกุมหน้าอกสีหน้าไม่สู้ดีนัก

“ไทย...ช่วยไทยด้วย...ไทย”

ตะวันกลัวสุดขีดที่เห็นธงไทยพลาดท่าถูกเสี่ยหมูเหยียบยอดอกกดไว้กับพื้น พลันมีแสงวูบวาบขึ้นมาในสมองของเธอจนสมองของเธอจนต้องกุมหัวไว้ เสี่ยหมูได้ทีขู่บังคับให้นวลขายไร่แห่งนี้ให้หากไม่อยากเห็น

ลูกชายมีอันเป็นไป เธอยอมทำทุกอย่างตามที่เสี่ยชั่วต้องการ แต่แน่นหน้าอกจะพูดก็พูดไม่ออก เขาคิดว่าเธอแข็งขืนก็ยิ่งโกรธ

“จะหวงที่มากกว่าลูกชายก็ให้มันรู้ไป จอม...ไปหยิบปืนมา”

จอมยังไปไม่ถึงปืน ตะวันพุ่งคว้าตัดหน้าเสียก่อน แล้วยิงสมุนของเสี่ยหมูที่ล็อกคอไผ่กับตาท้วมได้รับบาดเจ็บรวมทั้งจอมด้วย เสี่ยหมูเห็นท่าไม่ดีรีบถอยห่างจากธงไทย ฉากบู๊ของหญิงสาวทำให้ทุกคนตกใจต่างมองเธอเป็นตาเดียวกัน ตะวันได้สติ เห็นตัวเองถือปืนอยู่รีบโยนทิ้ง ทรุดลงกับพื้นหมดสิ้นเรี่ยวแรง

จังหวะนั้น ชลธร เกษตรจังหวัดเดินเข้ามาพร้อมกับจ๊ะจ๋า “นี่มันอะไรกันครับ”

นวลทนเจ็บปวดต่อไปไม่ไหว ล้มลงหมดสติ ธงไทยปราดเข้าไปอุ้มแม่ขึ้นบ้านโดยมีคนของไร่นวลตะวันและชลธรตามไปเป็นขบวน หลังจากได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาการของนวลกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ธงไทยขอบคุณชลธรมากที่มาช่วยได้ทันเวลา เขาบังเอิญมาดูแปลงทดลองพอดี ตอนที่จ๊ะจ๋าวิ่งไปตาม

“แต่ความจริงผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะครับ แม่หนูคนนั้นต่างหาก” ชลธรปรายตามองไปยังตะวันที่นั่งตัวสั่นไม่กล้าสบตาใคร เธอถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อถูกทัก “หนูนี่เก่งจริงๆอย่างกับนางเอกหนังบู๊แน่ะ”

“นั่นสินะ เก่งขนาดนี้ชักสงสัยแล้วสิ” จ๊ะจ๋าจ้องตะวันอย่างจับผิด คนถูกมองยิ่งใจคอไม่ดี

“เอ่อ...ตะวันคงตกใจน่ะค่ะ เลยทำไปไม่รู้ตัว” ออกตัวเสร็จ ตะวันขอตัวลุกออกไปทันที ธงไทยเป็นห่วงจะเดินตามแต่นวลห้ามไว้ บอกให้ปล่อยเธอไปสักพัก เธอคงกำลังขวัญเสีย ชลธรเห็นไม่มีอะไรแล้ว ก็ขอตัวกลับ รับปากจะตามเรื่องเสี่ยหมูมาอาละวาดที่นี่ให้ธงไทยเกรงจะเป็นการรบกวนเขา

อ่านละครเพลิงตะวัน ตอนที่ 4 วันที่ 2 ก.ย. 58

ละครเพลิงตะวัน แนว โรแมนติก-ดราม่า
ละครเพลิงตะวัน บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือน 8
ละครเพลิงตะวัน บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม
ละครเพลิงตะวัน กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละครเพลิงตะวัน ผลิตโดย บริษัท ดูมันดี จำกัด
ละครเพลิงตะวันออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเพลิงตะวันได้ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ