อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 3 วันที่ 2 ก.ย. 58

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 3 วันที่ 2 ก.ย. 58

พักตราไปที่บ้านคิมหันต์ เห็นไสวกับถวิลกำลังช่วยกันขนลังขึ้นรถ ที่ใต้ป้าย “คิมหันต์ แกลลอรี่” มีป้ายแขวนไว้ว่า “ปิดกิจการไม่มีกำหนด”

พักตราถามไสวกับถวิลที่กำลังช่วยกันขนของว่าคิมหันต์ไม่อยู่หรือ แล้วกำลังขนอะไรกัน? ไสวเล่าว่า

“คือว่า คุณคิมแกจะไม่อยู่ที่นี่แล้วครับ แกจะย้ายไปอยู่บ้านคุณมล เรือนหลังเล็กที่คุณมลสร้างไว้ให้น่ะครับ”

พักตราอาสาช่วยขนของอ้างว่าตนกำลังจะไปหาเขาพอดี ถามว่าอันไหนของใช้ส่วนตัวเขา ไสวชี้ให้ดูว่า



“นี่ครับอุปกรณ์กล้องกับหนังสือพิมพ์วันนี้ แกฝากซื้อครับ”

พักตรายกกล่องนั้นไปที่รถของตนวางไว้ที่เบาะข้างตัว กระดาษแผ่นแทรกหน้าโฆษณาในหนังสือพิมพ์แลบออกมาพักตราหันมองแล้วหัวเราะเมื่อเห็นพาดหัวว่า “ประกาศการถอนหมั้น”

เป็นประกาศการถอนหมั้นของคิมหันต์กับมุกริน ข้อความระบุว่าเพราะพฤติกรรมของมุกรินไม่เหมาะสมที่ชายใดจะล่มหัวจมท้ายด้วยได้

ไม่เพียงแผ่นแทรกในหนังสือพิมพ์เท่านั้น ในคอมพิวเตอร์ก็มีประกาศนี้พร้อมกับภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมกับสถานะคู่หมั้นเพราะความเจ้าเล่ห์ไม่ซื่อตรงต่อข้อเท็จจริงของเธอ...ทั้งยังสาปแช่งขออย่าได้เจอะเจอกันอีกไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน แล้วลงชื่อ “นายคิมหันต์ สุริยะศักดิ์ ผู้แจ้งความและผู้เสียหาย”

บรรดาพนักงานในบริษัทต่างได้อ่านข้อความนี้และมองมุกรินอย่างระแวงบ้างถึงกับถอยห่าง

ขณะมุกรินยืนเคว้งคว้างอยู่นั้น พักตราเข้ามาส่งเสียงดังถามว่าเช้านี้เธออ่านข่าวบ้างหรือปล่า แล้วเล่าว่าสื่อทุกฉบับทุกแขนงลงคลิปแฉเธอและแชร์ไปทั่วเมือง มุกรินบอกว่าตนเห็นแล้ว พักตราแสดงความเห็นใจแต่น้ำเสียงเย้ยในทีว่า

“น่าสงสารเธอจังเลยมุก ถ้าเป็นฉันโดนคู่หมั้นทำอย่างนี้ ฉันต้องตายแน่ๆ” แล้วบอกให้เธอทำใจและต้องเข้าใจคิมหันต์ด้วยพี่สาวเขาทั้งคนนะ มุกรินติงว่าก็ไม่เห็นต้องมาประจานกันแบบนี้ “นั่นสิ ฉันถามเขาว่าทำทำไมเขาก็ไม่บอก”

พักตราบอกว่าตนเข้าใจเธอ ความรู้สึกคงไม่ต่างจากวันที่เขาบอกตนว่าจะหมั้นกับเธอ บอกให้มุกรินทำใจเสียเพราะ “ชีวิตมันเอาแน่อะไรไม่ได้อย่างนี้แหละนี่ถ้าหากคิมเขาเลิกกับเธอแล้วมารักกับฉัน เธอจะมาว่าอะไรฉันไม่ได้นะเพราะมันเป็นเรื่องของโชคชะตา” พูดแล้วผละไปเลย

ชุมสายถามคิมหันต์ว่าทำอย่างนั้นทำไม คิมหันต์บอกว่าไม่รู้ ตนรู้ทุกอย่างที่ทำแต่ไม่รู้ว่าตนบ้าหรือเปล่า ชุมสายถามว่าไม่นึกถึงหัวอกของคนที่เขาจะแต่งงานด้วยหรือ คิมหันต์ตอบอย่างเลื่อนลอยว่า “ก็ตอนนี้ไม่คิดจะแต่งแล้ว”

ชุมสายหงุดหงิดที่พูดกับคิมหันต์ไม่รู้เรื่อง บอกว่าขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว ด่าว่า แกมันบ้าชัดๆ คิมหันต์บอกว่าก็คงงั้น

“ฉันขอบอกให้แกรู้นะ ที่ฉันเป็นทนายความให้แก ช่วยแกทุกอย่าง นอกจากเพราะแกเป็นเพื่อนฉันแล้ว ฉันทำเพื่อพี่มลที่ฉันเคารพ แต่ถ้าแกไม่เลิกพฤติกรรมแบบนี้วันนึงฉันอาจจะถอนตัวและจะไม่ยุ่งกับแกอีกเลย ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม”

คิมหันต์ถามว่ายังไม่ถึงวันนั้นใช่ไหม งั้นช่วยดูนี่ให้หน่อย ส่งเอกสารให้พลางบอกว่า

“พินัยกรรมของพี่มล ฉันเพิ่งเจอในตู้หนังสือ ดูให้ทีว่าฉันยึดอะไรคืนจากมันได้บ้าง” ชุมสายบอกให้ปล่อยวางเสียบ้างเถอะ “ไม่มีวัน! พี่กูทั้งคนนะเว้ย”

พอดีถวิลเข้ามาบอกว่ามุกรินมา เธอให้มาถามว่า คุณคิมจะยอมให้เธอพบไหม คิมหันต์นิ่งอย่างไม่ให้ความสำคัญ พูดกับชุมสายต่อ “เห็นไหมไอ้ชุม ผู้หญิงเขาก็รู้ได้เองว่าระหว่างเรามันมีระยะห่างมากขึ้นมันไม่มีวันเหมือนเดิม” ถวิลถามว่าจะให้บอกมุกรินอย่างไร “พาเขาไปรอผมที่บ้านใหญ่ ห้องพี่มล...”

ooooooo

เมื่อคิมหันต์ไปพบมุกรินที่ห้องวิมลรัตน์ มุกริน บอกว่าตนไม่ได้อยากมาดูห้องของวิมลรัตน์ แต่จะมาถามว่าเขาเป็นคนส่งข่าวหนังสือพิมพ์ เป็นคนทำคลิป เป็นคนแชร์คลิปนั้นเองใช่ไหม

แต่คิมหันต์เหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เขาไม่สนใจคำพูดของมุกรินแต่เดินย่ำตามรอยเหตุการณ์ในคืนนั้นพูดทบทวนเหตุการณ์ในคืนนั้นไม่หยุด จนมุกรินขอร้องว่าอย่าทำอย่างนี้กับตนได้ไหม ถูกย้อนถามว่าแล้วที่เธอทำอย่างนี้กับตนทำไม ทำอย่างนี้กับพี่สาวตนทำไม มุกรินบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ศาลก็บอกว่า...

“ศาลไม่ได้บอกว่าเป็นอุบัติเหตุ!” คิมหันต์ตวาด “เพียงแต่ยังหาหลักฐานได้ไม่เพียงพอ และคุณก็คือหนึ่งในตัวการที่ทำให้ข้อเท็จจริงถูกเบี่ยงเบนไป เพราะการให้การเท็จของคุณ!”

มุกรินถามว่านี่คือการแก้แค้นของเขาใช่ไหม พูดกับตนดีๆก็ได้ ทำไมต้องประจานกันอย่างนี้ คิมหันต์โต้ว่าตนต้องการประกาศให้ทุกคนในโลกนี้รู้ว่า ตนไม่รักเธออีกแล้ว เผื่อใครจะจีบเธอจะได้ไม่กระดากใจ

“ค่ะ เช่นเดียวกันค่ะคิม ถ้าคุณจะมีใครก็ไม่ต้องกระดาก หวังว่าพักตราคงจะดีใจนะคะ” พอมุกรินจะเดินออกไปคิมหันต์บอกว่า “ถอดแหวนออกเสียด้วย ข้าวของต่างๆที่เป็นของคุณผมรวบรวมไว้หมดแล้ว อยู่ในลัง เดี๋ยวน้าไสวจะขนไปให้ที่รถ”

มุกรินค่อยๆถอดแหวนออกจากนิ้วนาง คิมหันต์ยังคงพูดไม่หยุด

“จำไว้ด้วยว่า คุณเป็นคนเลือกเอง มุก...คุณและพี่ชายคุณเลือกวิถีชีวิตนี้ด้วยตัวเอง ส่วนผมเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ...ก็เท่านั้น”

มุกรินเดินออกจากห้องของวิมลรัตน์ไป พอพ้นจากห้อง เธอเดินน้ำตาอาบหน้าอุ้มกล่องที่คิมหันต์รวบรวมของเธอคืนให้ไปวางไว้ในรถข้างที่นั่งคนขับ...รูปในกรอบที่ทั้งเธอและคิมหันต์เคยวางไว้ที่หัวเตียง เป็นรูปที่ถ่ายเมื่อสามปีก่อน ขณะที่ความรักยังหวานชื่นต่างพูดถึงจุดอ่อนของอีกฝ่ายและพร้อมจะให้อภัยกัน จนเมื่อคิมหันต์บอกว่าตนเป็นคนขี้โมโหมุกรินบอกเขาว่า

“อันนี้ขอได้ไหม...มุกกลัว...”

“ไม่ได้ เมื่อไหร่ที่มุกทำให้คิมผิดหวัง คิมจะอาฆาตแค้น จองเวรไปจนวันตายเลย!”

“งั้นมุกไม่เอาด้วยแล้ว” มุกรินทำเป็นวิ่งหนี คิมหันต์ไล่ตามหัวเราะกันอย่างร่าเริง พอไล่ทันคิมหันต์จับเธอไว้เลยล้มกลิ้งไปด้วยกัน...คิมหันต์กดชัตเตอร์ถ่ายรูปตัวเองอย่างต่อเนื่อง...และรูปก็ถูกอัดใส่กรอบเหมือนบันทึกเรื่องราวเวลานั้น...

เห็นรูปในอดีตที่บันทึกความรักหวานชื่นในอดีตแล้ว มุกรินน้ำตาอาบหน้าอย่างไม่อาจหยุดได้...

ooooooo

ธาดาไปที่บริษัท MOLLY เรียกแผนกการเงินให้เอาสมุดเช็คมา กบเป็นคนเอามาให้ ถามว่าเขาจะเซ็นเช็คให้ใครหรือ ถูกตวาดว่าอย่ายุ่ง ตนจะเซ็นให้ใครมันเรื่องของตน

กบชะเง้อดูตัวเลข อุทานตาโตว่าเยอะขนาดนี้ จ่ายค่าทนายแน่เลย ธาดาถามว่าใครบอก

“เดาเอา...ก็ขนาดหนูอยู่เฉยๆ หนูยังได้เป็นแสนเลย” ธาดามองหน้าถามว่าทำอะไร...อยู่เฉยๆหรือ “อยู่เฉยๆ ก็คือไม่ให้พูด ไม่ให้ทำอะไรไงคะ แล้วหลายล้านอย่างนั้นจะให้ลงบัญชีว่าค่าอะไรคะ”

“ฉันยืมบริษัทก่อน จะค่าอะไรก็ลงไปเหอะ ไม่เห็นแปลก” ธาดาตัดบทดุๆแล้วออกไปเลย

คืนนี้ธาดาโทรศัพท์มาคุยกับมุกริน แล้วชวนออกมาฉลองกันไหม มุกรินปฏิเสธ ธาดาเล่าว่า พรรคพวกที่เคยช่วยเหลือตนคราวก่อนส่งข่าวมาว่า มีคนเห็นคิมหันต์เดินควงอยู่กับสาวไฮโซ ตนจะสืบดูว่าเป็นใครแล้วจะบอก จะได้เอาชื่อไปประจานบ้าง

พอมุกรินวางสายจากธาดา ปรารภก็เข้ามาชวนคุยและชวนสั่งอาหารแบบที่เรากินกันวันนั้นมากินกัน

มุกรินยิ้มให้เป็นการตอบรับ...

แต่วันนี้มุกรินกินอาหารกร่อยๆ ไม่อร่อยเหมือนวันนั้น ปรารภบอกว่าตนเข้าใจเธอ และหากเธอไม่สบายใจไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่บอกตนได้ ตนยินดีช่วยเสมอ แล้วลงมือเก็บจานอย่างคล่องแคล่ว

ooooooo

ฝ่ายคิมหันต์เอาพินัยกรรมของวิมลรัตน์ให้ชุมสายดู ปรากฏว่าสมบัติทั้งหมด ทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ วิมลรัตนยกให้คิมหันต์ทั้งหมด ชุมสายดูแล้วบอกว่า “แกรวยอื้อเลยว่ะ”

“พี่มลรู้ว่าใครจริงใจ พึ่งพาได้และใครมาเพื่อปอกลอก” ชุมสายถามว่าแล้วจะเอายังไงต่อไป “เมื่อผ่านขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว ฉันจะฟ้องเอาของของฉันคืน ทั้งเงินสด รถ และบ้าน ไอ้ฆาตกรมันต้องไม่ได้อะไรที่เป็นของพี่มลเลยแม้แต่ชิ้นเดียว”

คืนนี้คิมหันต์ควงพักตราไปทานอาหารกันในร้านหรู เป็นเป้าสายตาของคนในร้านเพราะคิมหันต์กำลังเป็นข่าวดังในสังคม

มุกรินยังไม่ทันแยกกับปรารภ ก็ได้รับโทรศัพท์จากธาดาบอกว่าคิมหันต์ควงพักตราไปกินข้าว เธอบอกว่าเป็นสิทธิ์ของเขาเพราะเราไม่มีอะไรกันแล้ว ปรารภเตือนสติว่าอย่าตัดสินใจทำอะไรเพื่อเป็นการประชด

“ไม่หรอกค่ะ มุกโตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ ไม่มีความคิด วันไหนที่รภอยากจะชวนมุกไปกินข้าวก็ชวนได้เลย ไม่ต้องเกรงใจใคร”

“อืม...อันนี้...เข้าท่า” ปรารภยิ้มรับ

หลังจากทานอาหารกันแล้ว พักตราถามคิมหันต์ว่าจะไปไหน เขาบอกว่าขับรถเล่นประสาชายโสด พักตราขอตามไปด้วย เขาบอกว่าอย่าเพิ่งเลยคนจะยิ่งนินทาเราเยอะขึ้นและเกรงใจคุณพ่อเธอด้วย

“ถ้าคุณพ่อสนับสนุนล่ะคะ” พักตราทิ้งสายตาให้ คิมหันต์บอกให้ถามท่านให้แน่ก่อนดีกว่า พักตรากระซิบตอบ

“ได้...แต่ถึงพ่อจะว่ายังไง พักตร์ก็จะไม่ปล่อยให้คิมหลุดมือพักตร์ไปอีกเป็นอันขาด” เห็นเขาทำหน้าแปลกใจ เธอรีบบอก “พักตร์ล้อเล่นค่ะ พักตร์ไม่ฝืนใจคิมหรอกค่ะ” แล้วหอมแก้มเขาเบาๆ ทีเล่นทีจริงแต่คิมหันเริ่มคิดขึ้นมาจริงๆแล้ว

ooooooo

ธาดาไปที่ร้าน MOLLY เขาโมโหเมื่อเห็นมีป้ายประกาศว่า

“บริษัทปิดกิจการชั่วคราว ขออภัยลูกค้าทุกท่านในความไม่สะดวกครั้งนี้” เขาถามยามว่าใครเอาป้ายนี้มาติดและใครสั่งให้ล็อกประตู ยามบอกว่าไม่ทราบเพราะตนเพิ่งมารับเวร

ธาดาสั่งให้เอาป้ายออกและเอากุญแจมา ยามไม่มี ก็สั่งให้ทุบประตูเข้าไปเลย

“ยามกะก่อนผม เขาฝากนี่ไว้ครับ...เขาบอกว่าอยากรู้อะไรให้ไปที่นี่ครับ”

มันเป็นนามบัตรของชุมสาย สำนักกฎหมายบูรพา ธาดาลิ่วไปทันที ไปถึงก็โวยวายใส่ชุมสายว่าทำอย่างนี้ได้ยังไง มีสิทธิ์อะไร? ขู่ว่าแบบนี้ฟ้องได้นะ

“ครับ ฟ้องได้แต่ไม่ใช่ฟ้องผมเพราะคนที่สั่งปิดป้ายนั่นไม่ใช่ผม”

“ผมเอง!” คิมหันต์ก้าวเข้ามา ธาดาบอกว่าตนต้องฟ้องเขาแน่ “ด้วยความยินดี ฟ้องเลย เพราะฉันก็จะฟ้องไล่แกออกไปเหมือนกัน ไล่ไปให้พันจากทรัพย์สมบัติของพี่มลไง”

คิมหันต์โยนพินัยกรรมของวิมลรัตน์ให้อ่าน ชุมสายบอกว่า นี่คือรายการทรัพย์สินที่เป็นของคิมหันต์ทั้งหมดที่คุณต้องส่งมอบคืน ธาดาถามว่าถ้าตนไม่คืนล่ะ คิมหันต์บอกว่าก็ขึ้นศาลกัน แล้วชุมสายก็ยื่นกระดาษอีกแผ่นหนึ่งให้ดู

“นี่คือรายการทรัพย์สินของคุณที่อยู่ที่บ้านพี่มล นายคิมหันต์รวบรวมแพ็กใส่กล่องไว้ให้เรียบร้อยแล้ว คุณแวะไปรับได้ที่บ้านเลย เราจะให้เวลาคุณสองอาทิตย์เพื่อเคลียร์ทรัพย์สินส่วนที่ต้องส่งคืน”

ธาดาโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตวาดถามว่า “คิดว่าขู่อย่างนี้แล้วกูจะกลัวเหรอ”

ชุมสายก้าวเข้าประชิดธาดา พูดเบาๆอย่างเหนือกว่าว่า

“ผมว่านายคิมหันต์ขู่คุณได้มากกว่านี้อีกเยอะ...คุณอย่าเสี่ยงดีกว่า”

ooooooo

ที่สำนักงานบรรเจิด ขณะเขานั่งเล่นเกมออนไลน์อยู่นั้น ก็ได้รับโทรศัพท์จากธาดา บรรเจิดพูดอย่างเย็นชา ว่าไม่คิดว่าเขาจะต้องโทร.หาตนอีก
ธาดาอยู่ในผับ เขาหันมองดวงดาวที่กำลังเล่นกีตาร์อยู่บนเวที เธอกำลังออดิชั่นอยู่ เขาบอกบรรเจิดเสียงเครียดว่าพวกคิมหันต์กำลังรุมเล่นงานตนหนัก พวกนั้นจะตั้งผู้จัดการมรดกและฟ้องร้องเอาสมบัติไปหมดไม่ให้อะไรตนเลย

บรรเจิดถามว่าวิมลรัตน์ทำพินัยกรรมไว้หรือเปล่า เนื้อหาในพินัยกรรมว่ายังไงบ้าง

“ก็อย่างที่มันว่านั่นแหละครับ ไม่ให้อะไรผมเลย แต่ผมเชื่อว่า เรายื่นศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดกของเราเอง สู้กับมันได้นะ ใช่ไหมครับ ผมว่าคุณบรรเจิดน่าจะมีทางออกให้ผมได้นะ”

“ทางออกที่ดีที่สุดของคุณก็คือ หลีกเลี่ยงการขึ้นศาลซะ มันไม่สนุกหรอกครับ เรื่องพวกนี้ยอมๆมันไปเถอะ คดีเก่าเรายังต้องสู้กับมันในชั้นอุทธรณ์อีกนะครับ อย่าหางานเพิ่มกว่านี้เลยคุณธาดา ที่สำคัญ คุณใช้หนี้เสธ.หมดแล้ว เพราะฉะนั้นผมก็ไม่มีภาระที่ต้องปกป้องอะไรคุณอีกแล้ว รักษาตัวให้ดีนะครับคุณธาดา”

“เวรเอ๊ย!” ธาดาสบถอย่างหัวเสีย พอดีดวงดาว ร้องเพลงเสร็จลงมาบอกธาดาว่าเขาให้ตนเล่นให้ดูสองเพลงเท่านั้นยังไม่บอกว่าจะรับหรือไม่รับ” ธาดาบอกว่าอย่าเล่นเลย เรียนหนังสือให้จบก่อน เดี๋ยวตนจะหางานดีๆให้เอง ดวงดาวถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าอะไรดีสำหรับตน “รู้สิ...รู้ดีกว่าหนูด้วยซ้ำ”

ธาดาขับรถพาดวงดาวออกไป เธอชวนแวะกินอะไรก่อนเข้าบ้านไหม ธาดาขอโทร.หาน้องสาวก่อนแล้วเดินห่างไป

ธาดาโทร.หามุกรินกลางลานจอดรถของผับ พูดอย่างร้อนรนว่าคิมหันต์จะฟ้องยึดทรัพย์สินของเราทั้งหมด ทั้งเงินสด เครื่องเพชร บริษัท บ้าน รถ สบถ ว่ามันจะบ้าใหญ่แล้ว มันจะให้ตนตายให้ได้ มุกรินบอกว่าคิมไม่น่าทำถึงขนาดนี้ ธาดาขอให้เธอลองไปคุยกับคิมหันต์ดู แล้วดึกๆค่อยคุยกันที่บ้านต่อ

พอธาดาเดินกลับมาที่รถ ดวงดาวบอกว่าตนอยากดูหนัง ธาดาถามว่าตกลงจะกินข้าวหรือดูหนัง ดวงดาวบอกว่าทั้งสองอย่างแต่ถ้าเขาไม่ว่างตนไปกับเพื่อนๆก็ได้

“ไม่...อาไปด้วย จะได้ถือโอกาสหลับในโรงหนัง สักงีบนึง” แล้วธาดาก็ขึ้นรถขับออกไป

ooooooo

ปรารภเห็นมุกรินนั่งซึมเศร้า เขาบอกว่าไม่ชอบเธอในลุคนี้เลย อยากได้มุกคนเดิมคืนมา เธอบอกว่าตนไม่เหมือนเดิมแล้ว

“แค่เลิกกับแฟน แค่แฟนขอถอนหมั้น ไม่ใช่โลกจะถล่มทลายนะมุก พี่รู้ว่ามันเป็นเรื่องเศร้า เรื่องผิดหวัง ปวดร้าวใจ แต่ชีวิตเราก็ต้องดำเนินต่อไป

โธ่...พี่หย่าร้าง มาตั้งสามครั้ง ลูกสอง แม่สาม พี่ยังยิ้มร่าเริงทำงานทำการ ต่อได้เลย” มุกรินบอกว่าตนอยากรู้ว่าทำไมคิมถึงทำกับตนอย่างนี้ เขาทำอย่างนี้ทำไม “อยากรู้ใช่ไหม อยากรู้ก็ไปถามเลยสิ กลัวอะไร พี่ไปด้วยจะได้จบๆ ทำงานทำการได้ เอาไหม”

ปรารภขับรถไปจอดที่หน้าบ้านคิมหันต์ ครู่หนึ่งคิมหันต์กลับมากับพักตรา มุกรินบอกว่าเป็นรถพักตราเขาคงมาด้วยกัน ครู่หนึ่งพักตรามาเรียกมุกรินลงจากรถบอกว่าคิมหันต์อยู่ในรถตน พอดีไปกินข้าวด้วยกันมา ช่วงนี้เขายังต้องทำใจหลายเรื่องน่าสงสาร ตนจึงต้องคอยดูแลหัวใจเขา เธอคงไม่ว่าอะไร แล้วตีกันมุกรินว่า

“แต่ที่จริง เธอก็ไม่มีสิทธิ์จะว่าอะไรอยู่แล้ว เอาเถอะเธอไปคุยกับคิมหน่อยดีกว่า คนเพิ่งเลิกกัน เพิ่งถอนหมั้นอาจจะยังเคลียร์กันไม่จบ เอาเลยฉันรอได้ ไปคุยกันให้จบเสียจะได้สบายใจกันทุกฝ่าย” พักตราหันไปพูดกับปรารภว่า “พ่อหม้ายอย่างคุณก็จะได้อานิสงส์ด้วยไงคะ คุณปรารภ”

ooooooo

คิมหันต์ถามมุกรินว่ามาที่นี่ทำไม มุกรินบอกว่า ตนรู้ว่าเขาจะฟ้องยึดทรัพย์สินจากธาดามากมาย

คิมหันต์อ้างสิทธิ์ในฐานะน้องชายคนเดียวของวิมลรัตน์จึงต้องเป็นผู้ดูแลรักษาสมบัติเหล่านั้น

มุกรินบอกว่าเขาอยากได้อะไรที่เป็นของวิมลรัตน์ ก็เอาไป แต่บ้านที่ตนอยู่เป็นบ้านที่พ่อแม่เก็บออมสร้างมา และตนก็อยู่มาตั้งแต่เด็กเขามีสิทธิ์อะไรจะมายึด

แล้วมุกรินก็แทบช็อกเมื่อรู้ความจริงว่า ธาดาเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองกับวิมลรัตน์ตั้งแต่รู้จักกันใหม่ๆ และปล่อยให้หลุดตั้งแต่ก่อนแต่งงานกัน ฉะนั้นบ้านหลังนี้จึงเป็นของวิมลรัตน์โดยชอบด้วยกฎหมาย พูดแล้วถาม

มุกรินที่ช็อกอยู่ว่ามีอะไรสงสัยอีกไหม มุกรินหันจะเดินกลับ คิมหันต์ย้ำว่า

“ฝากบอกพี่ชายคุณด้วยว่า กำหนดคืนของสองอาทิตย์นะ อย่าลืมล่ะ...ทนายของผมจะคอยติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนบ้านน่ะ ผมยอมให้ช้าหน่อยได้ เผื่อให้คุณขนย้ายข้าวของ แต่ก็ไม่น่าลำบากมั้ง พ่อหม้ายคนนั้นคงช่วยเหลือกุลีกุจอเต็มที่”

มุกรินหันมองหน้าคิมหันต์น้ำตาอาบหน้า เขาถามว่าจะอ้อนวอนอะไรอีกไหม เธอตอบอย่างทะนงว่า

“คุณจะได้ของของคุณคืนโดยเร็วที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้คุณคิมหันต์!” มุกรินเดินตรงไปที่รถ ปรารภรีบออกมารับเปิดประตูรถให้เข้าไปนั่ง พักตราจงใจยิ้มให้มุกรินพูดเหน็บไปถึงปรารภว่า

“ร้องไห้แบบนี้ แปลว่าจบขาดกันแล้วนะ...ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคุณนะคุณปรารภ” พูดแล้วเดินกลับไปหาคิมหันต์

คิมหันต์บอกพักตราให้เธอกลับบ้านเสีย ตนอยากอยู่คนเดียวสักพัก พักตราหอมแก้มเขาบอกว่าอย่าอยู่คนเดียวนานนัก ไม่สนุกหรอก แล้วเข้าไปนั่งในรถ คิมหันต์มองไปที่มุกรินเป็นจังหวะที่เธอมองมาพอดี ทั้งคู่ประสานสายตากันนิ่ง...

ooooooo

ธาดากลับถึงบ้านก็ดึกแล้ว มุกรินยังไม่นอน เขาบอกว่าจะเอารถจอดไว้ที่นี่ เอากุญแจวางไว้ให้ แล้วเริ่มพูดเรื่องคิมหันต์อีก มุกรินทนฟังไม่ได้ ถามสวนไปเรื่องบ้านของพ่อแม่ว่าทำไมเขาทำอย่างนั้น

ทีแรกธาดาก็ยังกล่าวโทษว่าคิมหันต์ร้ายกาจขนาดจะมายึดบ้านหลังนี้ พอมุกรินโต้ว่าเพราะเขาเอาไปจำนองและปล่อยให้ขาด ธาดาก็อึ้ง มุกรินร้องไห้ ต่อว่าเขาที่เอาบ้านที่พ่อแม่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงไปจำนำก็ไม่บอกตนสักคำ ธาดาแก้ตัวน้ำขุ่นๆว่าตอนนั้นตนขาดเงินเพราะธุรกิจที่ทำมีปัญหา

“แล้วทำไมพี่ไม่ไถ่คืนมา พี่ใหญ่ปล่อยให้บ้านหลุดจำนองเป็นของเขาไปได้ยังไง แล้วมุกจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ”

“ก็พี่แต่งงานกับเขา พี่ก็นึกว่าผัวเมียกันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มุกฟังนะ...มุกไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น พี่เตรียมส่งเรื่องให้ทนายของเราสู้กับมันแล้ว ทนายเราเก่ง เก่งกว่ามันเยอะ เราชนะมันแน่”

“เหมือนที่พี่พ้นผิดจากคดีฆาตกรรมใช่ไหม... พี่ใช้ทนายเก่งๆ ถึงเอาชนะเขาได้...แต่จริงๆแล้วพี่ใหญ่...”

“พี่ไม่ผิด! พี่ไม่ใช่ฆาตกรจำไว้นะ มุก...พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง มุกไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น” พูดจบก็เดิน ออกไปทันที

ooooooo

ธาดานั่งแท็กซี่ไปที่บ้านวิมลรัตน์บอกแท็กซี่ให้รอ ตนเข้าไปเอาของแป๊บเดียวแล้วจะไปต่อ

พอธาดาเข้าบ้าน ถวิลกับไสวออกมาบอกว่าคิมหันต์ จัดของของเขาใส่กล่องไว้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวจะยกมาให้ ธาดาจะเข้าไปเอง ไสวอึกอัก ธาดาถามว่าจะไม่ให้เข้าหรือ ไสวบอกว่าคิมหันต์สั่งห้ามไว้

“ฉันก็มาตอนที่มันไม่อยู่แล้วนี่ไง แกจะได้ไม่ต้องลำบากใจ หลีกไป” ธาดาผลักไสวออกไปอย่างแรงแล้วเข้าบ้าน ถวิลรีบมาบอกว่าของเขาอยู่ที่นี่ ธาดาปรายตามองถามว่าของตนตั้งเยอะแยะทำไมเหลือแค่สามลังแค่นี้ แล้วจะลุยเข้าไป ถูกถวิลขวางบอกว่าคิมหันต์ห้ามใครขึ้นไปเป็นอันขาด

แต่พอธาดาขึ้นไปก็เข้าห้องไม่ได้เพราะประตูล็อก ถวิลกับไสวถือโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าถ้าเขาเข้าไปตนจะโทร.แจ้งตำรวจและคิมหันต์เดี๋ยวนี้ ถูกธาดาจิกหัวถวิลถามว่าตนเป็นเจ้านายคนหนึ่งของที่นี่ลืมไปแล้วหรือ ตนจะเข้าไปเอาของที่ลืมไว้ทำไมเข้าไม่ได้ ขู่ว่า

“แล้วถ้าแกโทร.บอกตำรวจหรือบอกไอ้คิมหันต์ละก็...แกสองคนจะโดนมากกว่าจิกหัว อยากลองไหม” ทั้งสองส่ายหน้ากลัวๆ ธาดาจึงไขกุญแจเข้าห้องไป แต่พอเข้าไปทั้งตู้ลิ้นชักล้วนถูกใส่กุญแจหมด จึงเรียกถวิล ให้เอากุญแจมา

“กุญแจมีดอกเดียวอยู่ที่กู อยากได้ก็เข้ามาเอา” คิมหันต์ยืนประจันหน้า พอธาดาขยับตัวเขาก็ใช้วัตถุใกล้มือฟาดไปที่ร่างธาดาจนทรุดแล้วตามเตะซ้ำ ชี้ไปที่พื้นบอกว่า ตรงนี้เขาบีบคอวิมลรัตน์ แล้วลากไปที่ห้องน้ำ แล้วจับหัววิมลรัตน์กระแทก คิมหันต์ทำอย่างที่ธาดาทำกับพี่สาวตน จนธาดาน่วมหมดแรงที่จะต่อสู้

ชุมสายเข้ามาบอกให้หยุด ถ้าเขาฆ่าธาดาตัวเองก็ต้องติดคุก

“ก็ทีมันฆ่าพี่มลล่ะ ทำไมมันรอดได้ ทำไมมันกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ได้ มันเป็นเทวดาหรือ!”

ถวิลร้องบอกว่าธาดานิ่งไปแล้ว ชุมสายเข้าไปดูได้ยินเสียงธาดาครางเบาๆ บอกว่ายังไม่ตาย คิมหันต์สั่งให้เรียกรถพยาบาลและให้โทร.บอกมุกรินด้วย

มุกรินไปหาธาดาที่โรงพยาบาล เขาทำแผลเสร็จแล้วแต่เมื่อเธอจะไปจ่ายเงิน ปรากฏว่าคิมหันต์จ่ายแล้ว ธาดาเอาเงินให้มุกรินบอกให้เอาไปคืนคิมหันต์ ตนไม่อยากให้เป็นหนี้บุญคุณกัน

ooooooo

ธาดาไปเช่าบ้านอยู่กับดวงดาว ขณะดวงดาวกำลังซ้อมกีตาร์ร้องเพลงตามปกติอยู่คนเดียว ก็มีชายฉกรรจ์มายืนจ้องอยู่ที่หน้าประตู ดวงดาวถามว่ามาหาใคร

ชายคนนั้นบอกว่ามาหาธาดา ดวงดาวถามว่ารู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่ที่นี่ มันบอกว่ารู้แต่ไม่รู้ว่าเธอก็อยู่ที่นี่ด้วย ดวงดาวบอกว่าคุณอายังไม่กลับ มันจึงฝากบอกว่า ไอ้ขุมมาหา ดวงดาวทวน “คุณขุมหรือ”

“เรียกไอ้ขุมดีกว่า เรียกคุณเดี๋ยวเขาจะนึกหน้าฉันไม่ออก” พูดแล้วเดินกลับไป

ดวงดาวมองตามครุ่นคิดอะไรบางอย่าง...

ฝ่ายมุกรินอยู่บ้าน ก็ถูกคนจะมายกรถบอกว่าเป็นคำสั่งของคิมหันต์เจ้าของรถ มุกรินบอกว่าไม่ต้องยกเดี๋ยวตนจะขับไปให้เอง

มุกรินขับรถไปที่บ้านวิมลรัตน์พร้อมกล่องข้าวของของคิมหันต์ที่ยังตกค้างอยู่ที่บ้านตน ที่พิเศษคือแหวนหมั้น คิมหันต์ไม่รับคืน เธอบอกว่าตนไม่อยากเก็บไว้เพราะมันไม่มีค่าอะไรสำหรับตนอีกต่อไปแล้ว

อ่านเรื่องรอยรักแรงแค้น ตอนที่ 3 วันที่ 2 ก.ย. 58

ละครรอยรักแรงแค้น บทประพันธ์โดย ชลาลัย
ละครรอยรักแรงแค้น บทโทรทัศน์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น กำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ละครรอยรักแรงแค้น ผลิตโดย บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ละครรอยรักแรงแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.
ติดตามชม ละครรอยรักแรงแค้น ได้ทางทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ