อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 12 วันที่ 8 พ.ค. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 12 วันที่ 8 พ.ค. 56

“ไม่...เพชรไม่ได้เชื่อน้ำหนึ่ง” พลอยพูดรัวเร็วเสียงสั่น “เพชรเชื่อเรา เพชรเชื่อเรา”
พลอยเครียดถึงที่สุด ชักกระตุกแล้วเกร็งร่างกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน
“ไม่ ม่าย.....”
เพชรได้ยินเสียงพลอยก็ตกใจมาก
“พี่พลอย!”
เพชรผละจากน้ำหนึ่งวิ่งเข้าไปด้านใน

น้ำหนึ่งยืนอึ้ง น้อยใจ และเสียใจ คิดไปเองว่าทุกลมหายใจเข้าออกของเพชรมีแต่พลอย ส่วนตัวเองดูเหมือนไม่มีค่าอะไรเลย
เพชรวิ่งตรงไปยังห้องของพลอย เคาะประตูเรียกเสียงดัง


“พี่พลอย พี่พลอยครับพี่พลอย”
พลอยไม่ได้ตอบ นาทีนั้นดูพลอยจะจมอยู่ในห้วงทุกข์ จนแทบไม่ได้ยินเสียงใคร พลอยร้องไห้ออกมาโฮๆ
“เพชรรักเรา เพชรต้องเชื่อเรา ไม่มีวันที่เพชรจะเห็นเราเป็นคนไม่ดี”
เพชรที่อยู่ด้านนอกได้ยินคำพูดนั้น เพชรรู้ถึงความเครียด ความเสียใจของพลอย เพชรนิ่งงันไป ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน

ส่วนน้ำหนึ่งเดินร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
“เธอไม่มีค่าอะไร รู้ตัวบ้างมั้ยน้ำหนึ่ง?” ลูกสาวรัฐมนตรีผู้หนีตามผู้ชายมาด่าตัวเองในใจ
น้ำหนึ่งร้องไห้อย่างอัดอั้น
เวลาเดียวกันนั้นเกรียงศักดิ์อยู่ในห้องเก็บของ นั่งหมดอาลัยตายอยาก ร้องตะโกนจนเหนื่อย พลอยก็ไม่ปล่อย สองพ่อลูกดื่มกินความทุกข์ อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน แต่ไม่มีใครรู้

ที่คฤหาสน์เกรียงศักดิ์ นวลเข็นรถเข็นพาดาราณีเข้ามาด้านใน ดาราณีกวาดมองภาพที่อยู่ตรงหน้า พูดเสียงแผ่วแบบคนปลงตกแต่น้ำตาคลอ
“ไม่ได้อยู่บ้านหลายวัน....ทุกอย่างยังเหมือนเดิม...มีแต่ฉันคนเดียวที่เปลี่ยนไป”
นวลหน้าสลด ดาราณีกวาดตามองรอบๆ บริเวณบ้าน พูดเสียงแผ่วเบา
“ต่อไป...ฉันคงเดินดูต้นไม้ที่ฉันรักไม่ได้...ก็คงได้แต่นั่งรถเข็น...มอง”
นวลทรุดตัวลงนั่งกุมมือดาราณี “ได้สิคะ...คุณหญิงต้องเดินได้”
“ฉันก็หวังอย่างนั้น...แต่แล้วเมื่อไหร่”
น้ำเสียงของดาราณีฟังดูหดหู่ สิ้นหวังในชีวิต นวลเองก็อึ้ง ตอบไม่ได้ ดาราณีพูดต่อ
“ฉันเคยสมเพชเวทนาพลอยที่ต้องนั่งรถเข็น. มาวันนี้ฉันต้องเป็นฝ่ายมานั่งซะเอง”
“นวลไม่เข้าใจ ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ผ่านมา คุณหญิงไม่ได้ทำร้ายใคร คุณหญิงเองซะอีก ถูกท่าน ถูกพลอยทำร้าย”
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ฉันทำผิดอะไร ทำไมฉันถึงต้องรับกรรมอย่างนี้?”
ดาราณีน้ำตาไหลรินออกมา สงสารชะตาชีวิตตัวเอง

ฝ่ายหมอณัฐกลับเข้ามาบ้านพัก แต่แล้วก็ชะงัก เมื่อพบว่าอลิสนั่งรออยู่ พร้อมกระเป๋า
“อ้าว มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ก็มาเมื่อเห็น”
หมอณัฐ ส่ายหน้าระอาเหลือ “ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ อลิสถึงได้มาที่นี่”
“นี่...พี่หมอไม่รู้เรื่องอะไร...ไม่เสียใจอะไรเลยเหรอคะ”
“เสียใจที่อลิสหนีกลับกรุงเทพฯ น่ะเหรอ” หนุ่มหนุ่มยิ้มขำ “ตรรกะอลิส เข้าข้างตัวเองอีกแล้ว” หมอณัฐเปิดประตูจะเดินเข้าห้อง
อลิสเดินตามบอก “อลิสไม่ได้หมายถึงตัวเอง”
“แล้วหมายถึงใคร”
“คุณพลอยไง” หมอณัฐมองงงๆ อลิสบอกต่อ “คุณพลอยเค้าเสียแล้วนี่คะ”
“อะไรนะ”
“โอ๊ย...พูดตรงๆ ก็ได้ ยัยพลอยบ้า ตายแล้วค่ะ!”
“คุณพลอย”
หมอณัฐตกใจแทบสิ้นสติ เป็นไปได้ยังไง

รุ่งเช้าสองคนพุ่งมาที่บ้านเชิงเขา พลอยบอกหมอณัฐและอลิสด้วยรอยยิ้ม
“ฉันสบายดี”
“อ้าว” อลิสหน้าเหวอ
พลอยมองอลิสแล้วยิ้มไม่ถือสา “อ้าวอะไรคะ รู้สึกว่าคุณอลิสจะแช่งฉันทุกสิ่งอย่าง ฉันอาจจะเป็นคนพิการ...แต่ฉันสบายดีค่ะ ไม่เจ็บ ไม่ไข้ ไม่ตาย”
อลิสงง พลอยคว้ามืออลิสมา
“จับตัวฉันได้นะคะ จะได้รู้ว่าฉันมีเลือดมีเนื้อ ที่คุณเห็นไม่ใช่วิญญาณ”
พลอยดึงมืออลิสจะให้จับตัวเอง แต่อลิสสะบัดมือออก
“ไม่เอา”
“รังเกียจ” พลอยเย้า
หมอณัฐ รีบบอก “ไม่มีใครรังเกียจคุณพลอยเลยนะครับ รู้สึกเสียใจ เกรงใจต่างหาก ที่มาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้...หมอต้องขอโทษ ขอโทษจริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พลอยถือว่า คำแช่งเป็นการต่ออายุให้พลอย” พลอยหันไปมองอลิส “จะแช่งอะไรฉันอีกมั้ยคะคุณอลิส?”
อลิสยังไม่ทันตอบ หมอณัฐก็คว้ามือเอาไว้แน่น บอกเสียงดุ
“ขอโทษคุณพลอยเร็วอลิส”
อลิสมองอย่างหมั่นไส้พลอย “ขอโทษทำไมคะ อลิสมาพร้อมเรื่องราวดีๆ”
หมอณัฐ หงุดหงิด “เรื่องราวดีๆ อะไรของน้อง?”
“เอ๊า! ก็คุณพลอยบอกเองนี่คะ คำแช่งคือการต่ออายุ” อลิสมองจ้องหน้าพลอย พูดเน้นทุกคำ “งั้นฉันก็ขอให้ตายวันตายคืนนะคะคุณพลอยประดับ”
พลอยโกรธจนเนื้อตัวสั่น หมอณัฐก็โกรธอลิสเหมือนกัน
“อลิส”
อลิสเหยียดยิ้มยียวนกวนใส่ “อ๋อ!ไม่ใช่พลอยประดับ ต้องเป็นพลอยบ้า ...งั้น..ตายวันตายคืน ตายเร็วๆ นะจ๊ะยัยพลอยบ้า”
พลอยกรี๊ดออกมา โมโหมาก ทำท่าจะขย้ำอลิส แต่แกล้งลุกจากรถเข็นไม่ได้
หมอณัฐ ลากมืออลิสเต็มแรง “กลับเดี๋ยวนี้อลิสกลับ หมอขอโทษนะครับคุณพลอย ขอโทษจริงๆ”
หมอณัฐลากแขนอลิสออกไป แต่อลิสยังหันมาล้อเลียน
“ตายวันตายคืนนะจ้ะยัยพลอยบ้า”
พลอยโกรธสุดขีด ทำท่าจะลุกไปขย้ำ แต่หางตาเห็นเพชรเดินสวนเข้ามาเสียก่อน พลอยนั่งรถอย่างเดิม แต่มือไม้สั่น โกรธสุดขีด เพชรมองอลิส ไม่ไว้ใจ กลัวว่าจะมาทำอะไรน้ำหนึ่ง เพราะรู้ว่าสองคนเป็นอริกัน ก่อนจะเดินมาหาพลอย
“เค้ามาทำไมกันครับ”
“มาดู...ว่าพี่ตายรึยัง” พลอยบอก
เพชรฟีงแล้วตกใจ

พลอยแกล้งร้องไห้สะอึกสะอื้น เสียใจที่ถูกรังแก ถูกแกล้ง
“พี่ไม่เข้าใจจริงๆ เพชร พี่ก็อยู่ของพี่เฉยๆ ทำไมถึงมีคนแช่งชักหักกระดูกพี่อย่างนี้”
“พวกปากเสีย”
“เค้าไม่ได้ปากเสียหรอก แต่เค้าคงเห็น...คนพิการอย่างพี่ ไม่มีประโยชน์ อยู่ไปก็รกโลก วันๆถึงได้มีคนแช่งให้พี่ตาย ไม่ก็ว่า...พี่แกล้งพิการ”
น้ำหนึ่งเดินออกมาได้ยินพอดี มองพลอยด้วยสายตาสงสาร รู้ว่าพลอยป่วย
เพชรกุมมือพลอยเอาไว้ ขณะที่พลอยร้องไห้พร่ำรำพันต่อ
“คงเป็นเพราะเวรกรรม บาปกรรมที่พี่ทำกับแม่ไว้แน่ๆ เลยเพชร พี่ทำให้แม่ทุกข์ใจ...เสียใจ”
เพชรกอดพลอยปลอบ “สาเหตุไม่ได้มาจากพี่พลอย”
“เป็นเพราะพี่...ที่แม่เข้ากรุงเทพฯ ก็เป็นเพราะพี่...แม่ต้องการไปทวงความยุติธรรมในสิ่งที่ท่านเกรียงศักดิ์ คุณหญิงดาราณีทำกับพี่”
สีหน้าของน้ำหนึ่งสลดลงไปอีกเมื่อได้ยินอย่างนั้น เพชรถอนหายใจหนักหน่วง
“อย่าโทษตัวเองพี่พลอย มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น พี่พลอยต้องเข้มแข็ง เราจะได้ไปตามหาแม่ด้วยกัน”
“จ้ะเพชร...พี่จะเข้มแข็ง...เราจะไปตามหาแม่ด้วยกัน....เราสามคน จะได้อยู่รวมตัวกันเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเดิม”
สองคนกอดกัน น้ำหนึ่งแอบมอง สายตาที่มองพลอยมีทั้งความสงสารและสลดใจ ขณะที่พลอยพึมพำ
“แต่พี่ก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี ป่านนี้แม่จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”

บ้านของชาวบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านไม้ธรรมดา ทับทิมนอนอยู่ด้านในบ้านหลังนั้น ตามเนื้อตามตัวมีร่องรอยเขียวช้ำ ถลอกปอกเปิก ทับทิมค่อยๆ ฟื้นรู้สึกตัว ป้าเจ้าของบ้านเดินเข้ามาหาถามอย่างดีใจ และโล่งอก
“รู้สึกตัวแล้วเหรอคุณ นี่ถ้ายังไม่ฟื้น ฉันคงต้องส่งคุณไปโรงพยาบาล”
“ที่ไหน” ทับทิมถาม ท่าทียังมึนงง
“บ้านฉันเอง”
ทับทิมงงอยู่ “แล้วฉันมาอยู่บ้านป้าได้ยังไง”
“วันนั้นคุณเกือบถูกรถชน” ป้าบอกพร้อมกับเล่าเรื่องให้ฟัง

คืนนั้นลุงขับสิบล้อมา ป้าที่นั่งข้างๆ เห็นทับทิมวิ่งเข้ามาหาสิบล้อ โดยมีกลุ่มนักปราชญ์ไล่ล่า ป้าร้องกรี๊ด
“ระวัง คน!”
ลุงรีบเบรกรถอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับร่างของทับทิมที่นอนแน่นิ่งสลบไป สองคนรีบลงไปดู เห็นทับทิมนอนคว่ำหน้าอยู่ ลุงถอนหายใจโล่งอก
“ตกใจ..นึกว่าเหยียบซะแล้ว เป็นไงบ้างล่ะ”
สองคนรีบตรวจดูตามเนื้อตามตัวของทับทิม ป้าถอนหายใจ
“ไม่ได้เป็นอะไร แต่สงสัย จะตกใจจนเป็นลม...รีบพากลับบ้านเร็ว”
สองสามีภรรยารีบประคองทับทิมขึ้นรถไป

ป้าเล่าจบมองดูทับทิม พูดเสียงอ่อย ลุงเดินมาสมทบ
“ขอโทษนะที่ไม่ได้พาส่งโรงพยาบาล ฉันกลัวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่..อีกอย่าง ฉันเห็นว่าคุณแค่เป็นลม”
“แต่เห็นคุณไม่ฟื้นมาหลายวัน ก็ใจคอไม่ดี ยังคิดอยู่ถ้าวันนี้คุณไม่ฟื้น คงต้อพาส่งโรงพยาบาล” ลุงทำท่าหนักใจ “ถึงตอนนั้น...ถ้าเป็นคดี ก็ค่อยว่ากันล่ะ”
“ลุงกับป้าไม่ผิดหรอก...”
ป้าทำท่าโล่งอก “ขอบใจมากคุณ...ที่เข้าใจ”
ทับทิมดวงตากร้าว พูดเสียงแข็งกระด้าง “ทีแรกฉันก็เข้าใจ ว่าฉันตายไปแล้ว แต่ไม่ยักกะตาย ขอบคุณมากที่ช่วย”
“ไม่เป็นไร แล้วเรื่องอะไร ถึงได้วิ่งทะเล่อทะล่ามากลางถนนขนาดนั้นล่ะ” ลุงถาม
“พวกเดนทรชนมันจะฆ่าฉัน” ทับทิมบอก
ป้าด่า “คนเลว”
“ลุงกับป้าไม่ต้องห่วง ยังไง ฉันเอาคืนมันแน่นอน”

ดวงตาของทับทิมมีแต่ความอาฆาตแค้น
ขณะเดียวกันภายในห้องโถงของคฤหาสน์อารีย์ สมบัติอ่านหนังสือพิมพ์ ด้วยสีหน้าเศร้าสลด

“เวรกรรมอะไร คุณหญิงดาราณีถึงได้เป็นขนาดนั้น”
“ฉันไม่ยักกะคิดว่าคนอย่างคุณ จะคิดถึงเรื่องเวรกรรม” อารีย์ว่า
“ถึงผมจะไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซ็น แต่ผมก็ไม่เคยทำร้ายใครเหมือนคุณ ทับทิมเป็นยังไงบ้าง”
อารีย์บอกหน้าตาเฉย “มันตายไปแล้ว”
“คุณอารีย์”
“ทำไม คุณจะทำไมฉัน? ที่พ่อแม่ฉันเอาคุณมาชุบเลี้ยง จนได้ดิบได้ดีเป็นถึงเจ้าพ่อ ยังไม่สำนึกบุญคุณอีกเหรอ”
“บุญคุณทุกอย่าง ถ้ามีการลำเลิก ถือว่าเป็นอันจบสิ้น”
“คุณสมบัติ!”
“ผมทนมามากพอแล้ว นับตั้งแต่วันนี้ไป ผมจะไม่ทนอีก” สมบัติลุกเดินออกไป
“คุณสมบัติ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ คุณสมบัติ”
สมบัติไม่สนอารีย์ นักปราชญ์เดินสวนเข้ามา
“มีเรื่องอะไรครับคุณแม่”
“คุณพ่อเห็นนังทับทิมมันดีกว่าแม่”
“เดี๋ยวผมจัดการเอง”
นักปราชญ์เดินตามพ่อออกไป

สมบัติจะออกจากบ้านแล้ว นักปราชญ์ตามมา
“ถึงพ่อจะเห็นนังทับทิมมันดีกว่าแม่ แต่ผมหวังว่าคุณพ่อคงไม่เห็นไอ้เพชรมันดีกว่าผมนะครับ”
“แม่แกไม่ไม่เห็นหัวพ่อ พ่อไม่ว่า...แต่ถ้าแกไม่เห็นหัวพ่อ...” สมบัติยิ้มเยาะ “พ่อว่า...แกควรพิจารณาตัวเอง ไม่ต้องห่วง..ถึงแกจะไม่นับถือพ่อ...พ่อก็มีหัวใจของพ่อ พ่อไม่ทำร้ายแกหรอก”
สมบัติเดินออกไป สายตานักปราชญ์มองพ่ออย่างไม่ไว้ใจ ไม่สำนึกอยู่ดี

ส่วนที่บ้านพักของหมอณัฐ หมอหนุ่มกำลังต่อว่าอลิสอีก
“ทำไมถึงได้สร้างเรื่องสร้างราวไม่มีหยุด อลิส...ทั้งว่าคุณพลอยบ้า ทั้งแช่งให้คุณพลอยตาย”
“ก็อลิสได้ยินมากับหู อลิสได้ยินกับหูเลยนะ ว่าเค้าตาย”
“อคติ ปิดหูปิดตาคนจริงๆ”
“พี่หมอ!”
“พี่จะไม่ตำหนิอะไรน้องอีกแล้วนะ แต่ขอให้รู้ ยิ่งอลิสให้ร้ายคุณพลอยมากแค่ไหน พี่ยิ่งสงสารคุณพลอยแค่นั้น”
หมอณัฐเดินออกไปที่รถ ขับออกไปทำงาน อลิสแสนจะหงุดหงิดใจ
“ทำไงดีเนี่ยพี่หมอถึงจะลืมหูลืมตาจากยัยพลอยบ้าซักที”

อลิสจัดข้าวของอยู่พร้อมโทรศัพท์ เสียงมินโฮเพื่อนสาวจากปลายสายดังก้องออกมา
“ไม่เห็นจะยาก แกก็รวมหัวกับนังน้ำหนึ่ง แฉยัยพลอยบ้าสิ”
“ยัยน้ำหนึ่ง มันจะร่วมมือกับฉันเหรอ?”
“ก็ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าจริงๆ ยัยน้ำหนึ่งคงไม่อยากมีพี่สะใภ้เป็นคนบ้าหรอก”
อลิสนิ่งคิด

รุ่งเช้าฝ่ายอลิสค่อยๆ ย่องลอบเข้ามาในบ้านเชิงเขา เสียงมินโฮเพื่อนสาวดังก้องในหู
“อีกอย่าง แกก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอ ว่ายัยพลอยบ้าเกี่ยวอะไรกับท่านเกรียงศักดิ์ เพราะฉะนั้นอยากรู้แกต้องจัดไป บุกไปที่บ้านเชิงเขาเลย”
อลิสกวาดสายตามองหาน้ำหนึ่ง
“แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน นังน้ำหนึ่ง”
อลิสกวาดสายตามองหาน้ำหนึ่ง พอไม่เห็นใคร ก็ย่องเข้าไปอีก

ด้านเพชรเดินออกมาเผชิญหน้ากับน้ำหนึ่ง สองคนมองหน้ากัน เพชรจะเดินหนี
“พี่เพชรไม่กล้าอยู่เผชิญหน้ากับน้ำหนึ่ง กลัวอะไรคะ”
“อย่าหาเรื่อง”
“เวลาพี่เพชร ให้คำตอบไม่ได้ พี่เพชรต้องทำท่าอย่างนี้”
“อย่าทำเป็นรู้ดี”
“พี่เพชรเองก็รู้ดีทุกอย่าง...แต่ทำตัวไม่รู้” น้ำหนึ่งพูดแทงใจดำ
“น้ำหนึ่ง” เพชรฉุนกึก
“พี่เพชรคะ น้ำหนึ่งพยายามใจเย็น จนดูเป็นเหมือนผู้หญิงหน้าโง่ เพื่อพี่เพชร พี่เพชรจะใจเย็น ฟังน้ำหนึ่งบ้างไม่ได้เหรอคะ”
เพชรนิ่ง ดวงตาสับสน น้ำหนึ่งอ้อนอีก
“กรุณาฟังน้ำหนึ่งบ้างเถอะค่ะ...ถึงน้ำหนึ่งจะพูดจาซ้ำซาก น่าเบื่อ แต่ที่น้ำหนึ่งทำ เพราะพี่พลอย”
เพชรหันมามอง สายตาบอกว่าจะฟัง น้ำหนึ่งพูดต่อ
“พี่พลอย..ต้องรักษา...พี่พลอย ต้องเยียวยาจริงๆ ค่ะ”
“น้ำหนึ่งจะให้พี่เชื่อว่า พี่พลอยแกล้ง พี่พลอยบ้า”
พลอยที่มองอยู่ ดวงตาเบิกโพลงขึ้นมา มองน้ำหนึ่งตาขวาง ไม่พอใจมาก น้ำหนึ่งพูดต่อ
“หมอเท่านั้น จะให้คำตอบได้”
“หมอณัฐไง”
“น้ำหนึ่งไม่ได้ว่าหมอณัฐไม่ดี ไม่เก่ง...แต่หมอณัฐ”
เพชรสวนคำออกมาทันที “น้ำหนึ่งกำลังว่าหมอ...”
“อย่าหาเรื่องให้น้ำหนึ่ง แต่พี่เพชรคงเคยได้ยิน ความรักบังตาคนทุกคน หมอณัฐก็ไม่เว้นเหมือนกัน”
เพชรนิ่ง น้ำหนึ่งอ้อนวอน
“นะคะพี่เพชร ให้โอกาสน้ำหนึ่ง ให้โอกาสตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใครค่ะ เราสองคนจะทำเพื่อพี่พลอย พี่เพชร ต้องพิสูจน์ทุกอย่างด้วยตัวเอง”
ด้านเกรียงศักดิ์ มองรอบๆ ตัว เห็นทุกอย่างเหมือนเดิม บรรยากาศห้องทึมๆ เหมือนอยู่ในห้องขัง เกรียงศักดิ์เอามือกุมหัวตะโกนอย่างคนบ้าคลั่ง
“อ๊าก”
เพชร น้ำหนึ่ง และพลอยหันขวับตามเสียงที่ได้ยินแว่วๆ มาตามสายลม ไกลๆ พลอยหน้าซีด น้ำหนึ่งถามเพชร
“พี่เพชรได้ยินมั้ยคะ”
“เสียงใคร” เพชรฉงน
เสียงของเกรียงศักดิ์ร้องขึ้นมาอีก ฟังดูโหยหวน พลอยสะดุ้ง
“ดังแว่วๆ ไปดูกันค่ะพี่เพชร”
น้ำหนึ่งคว้ามือเพชร พากันตามเสียงไป พลอยหน้าซีดเผือด กลัวความลับแตก

พลอยหน้าตาเลิ่กลั่ก กลัวความลับเรื่องเกรียงศักดิ์จะแตก เพชรกับน้ำหนึ่งวิ่งมา พลอยรีบบีบน้ำตา เดินไปเผชิญหน้า
“น้ำหนึ่งมองพี่ในแง่ร้ายไม่พอ ยังพูดให้เพชรเข้าใจผิดพี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” พลอยจงใจบีบคั้นอารมณ์ให้ตัวเองแลดูน่าสงสาร “ใช่...พี่เป็นคนบ้า เป็นคนบ้า พอใจมั้ยจ้ะน้ำหนึ่ง โอ๊ะ”
พูดจบพลอยก็แกล้งชักในทันที ไม่ใช่ชักธรรมดา แต่ชักแบบล้มลงไปชักกับพื้นเหมือนอาการป่วยกำเริบ
เพชรตกใจ “พี่พลอย” รีบถลาเข้าไปประคองช่วยพลอย
“พี่พลอย”
เพชรกับน้ำหนึ่งหันไปสนใจพลอยมากกว่าเสียงแว่วๆ ที่ได้ยิน
ด้านพลอยชักใหญ่ เพื่อเรียกร้องความสนใจ น้ำหนึ่งกวาดสายตามองหา สิ่งที่จะเอามาให้พลอยกัด ก่อนจะคว้ากิ่งไม้ที่ตกอยู่แถวนั้นขึ้นมา ยัดใส่ปากให้พลอยกัด เห็นยางสีขาวๆ ไหลออกมาจากริมฝีปากของพลอย พลอยชะงัก รับรู้รสสัมผัสได้ อาเจียนออกมาทันที
เพชรตกใจมาก “พี่พลอย..พี่พลอยเป็นอะไร”
พลอยไม่ตอบ ได้แต่โก่งคออาเจียนออกมา ท่าทางผะอืดผะอม เพชรรีบคว้ากิ่งไม้นั้นขึ้นมาดู จึงพบว่า กิ่งไม้นั้นมียางสีขาวไหลซึมออกมาตามรอยฟันของพลอย เพชรเงยหน้าขึ้นมอง เห็นต้นลีลาวดีอยู่ด้านบน เพชรตกใจ
“ลีลาวดี”
พลอยตะลึง เหมือนคิดอะไรออก

ครั้งนั้นในอดีต พลอยกำลังยืนรออยู่ในสวน นวลเดินออกมาพร้อมแก้วนม
“อ้าว! ตะกี้ คุณหญิงนั่งอยู่นี่ ไปไหนล่ะ”
พลอยพูดจาตอบเรียบร้อย “ไม่ทราบค่ะ ตอนพลอยมาก็ไม่เห็นคุณหญิงแล้ว”
“งั้นเธอรออยู่นี่ล่ะ ฉันจะไปเรียนคุณหญิง”
นวลวางแก้วนมลงกับโต๊ะ ก่อนเดินเข้าไปด้านใน พลอยกวาดสายตามอง รอบๆ ไม่เห็นใคร พลอยยิ้มมีแผนในใจ ขณะเอื้อมมือไปดึงกิ่งลีลาวดีลงมา
พลอยคิดในใจ “พลอยไม่ใจร้าย ขนาดเอาชีวิตคุณหญิงหรอก...ขอแค่คุณหญิงเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ท่านจะได้อยู่กับพลอยคนเดียว”
แลเห็นเป็นยางสีขาวค่อยๆ หยด ลงมา พลอยทำท่าจะเปิดฝาแก้วนมออก นวลก็ส่งเสียงเข้ามา
“คุณหญิงต้องดื่มนมเยอะๆ นะคะ จะได้แข็งแรง”
พลอยหน้าเสีย รีบเหวี่ยงกิ่งลีลาวดีทิ้งทันที

พลอยนึกเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วเนื้อตัวสั่น ปากคอสั่น ท่าทางหวาดกลัวอย่างหนัก
“อัมพาตๆ” พลอยส่ายหน้า ผะอืดผะอม แหวะยางออกมา)
เพชรกะน้ำหนึ่งตกใจเรียก “พี่พลอย!” พร้อมกัน น้ำหนึ่งจะโผเข้ามาหาพลอย เพชรตวาดผลักร่างน้ำหนึ่งออก
“หลีกไป”
ร่างของน้ำหนึ่งล้มลง ขณะที่พลอยอาเจียนจนหมดแรง ทำท่าจะแน่นิ่งไปเพชรอุ้มพลอยขึ้นพาเดินเข้าไปข้างใน น้ำหนึ่งลุกขึ้นจะตาม เพชรดุอีก

อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 12 วันที่ 8 พ.ค. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manage