อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 13/2 วันที่ 11 พ.ค. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 13/2 วันที่ 11 พ.ค. 56

น้ำหนึ่งวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เพชรได้แต่ถอนใจยืนว้าวุ่น เสียงมือถือดัง เพชรคว้าขึ้นมา
เห็นเป็นเบอร์รจนา เพชรไม่รับ ตามน้ำหนึ่งไป
“น้ำหนึ่งๆๆ” เพชรวิ่งไปขวางหน้า
“น้ำหนึ่งหน้ามืดตามัวมานานแล้ว วันนี้เราสองคนสิ้นสุดกันซะที” น้ำหนึ่งวิ่งหนีไปไม่แยแส
“น้ำหนึ่ง พี่รักน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งได้ยินใจอ่อนยวบ แต่ตัดใจ วิ่งต่อไป เพชรไม่ตาม กลุ้มใจ

รจนากดโทรศัพท์อยู่ แต่ทำหน้ามุ่ย จนเพื่อนถาม
“ยังโทร.ติดต่อหาแฟนไม่ได้อีกเหรอ”
“ฮื่อ”
“ถ้าผู้ชายทำอย่างนี้ แปลว่าเค้าไม่เอาแกแล้วล่ะ หาแฟนใหม่เถอะ” เพื่อนบอก


“ไม่...ฉันรักเค้ามาก”
“แต่ผู้ชายคนนั้นแฟนพี่แกไม่ใช่เหรอ”
จอมแอ๊บรจนาตกใจ “แกรู้”
“ขอโทษด้วย..ไม่ได้ตั้งใจยุ่งหรอก...แต่มันบังเอิญรู้จริงๆ”
รจนาหน้าซีด เพื่อนด่าต่อ
“แย่งแฟนคนอื่นว่าทุเรศแล้ว แย่งแฟนพี่มันทุเรศยิ่งกว่าว่ะ”

ฟากหมอณัฐคุยกับเพชรอยู่นอกห้อง
“คุณพลอยอาการแย่มากนะครับ ผมอยากให้คุณดูแลจิตใจเธอให้ดี”
เพชรมองฉงน
“คุณพลอย เธอเป็นโรคซึมเศร้า...ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ เธอมีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตาย”
เพชรกลุ้มใจ

พลอยนอนร้องไห้อยู่บนเตียงผู้ป่วย เพชรตามเข้าไปจับมือพลอยไว้
“การที่พี่รักใครซักคน มันผิดมากใช่มั้ยเพชร”
“ไม่ครับพี่พลอย”
“ใช่...พี่แอบรักท่าน พี่แอบปลื้ม ชื่นชม แต่มันถูกเหรอ ที่พอท่านรู้ว่าพี่ปลื้ม ชื่นชม ท่านจะทำกับพี่อย่างนั้น” พลอยโผเข้ากอดเพชร “มันไม่ใช่นะเพชรมันไม่ใช่ ไม่ว่าจะยังไง ผู้ชายไม่มีสิทธิ์ทำร้ายผู้หญิง”
เพชรกอดพลอยแน่นนึกสงสาร ขณะบอก
“งั้นพี่พลอย...ก็..เลิกล้มความตั้งใจที่จะให้ผมทำร้ายน้ำหนึ่งแล้วใช่มั้ยครับ”
พลอยมองมาอย่างผิดหวัง เหมือนถูกตอกหน้าจังๆ “เพชร”
“ผมรักน้ำหนึ่ง”
เพชรสบตาพลอยแน่วนิ่ง

พลอยมองทะลุเข้าไปในดวงตาคู่นั้น พบว่าความเป็นน้องชายตัวน้อยของเพชร ค่อยๆ เลือนหายออกไปจากชีวิตเธอทุกที
น้ำหนึ่งนั่งนิ่งอยู่ในรถโดยสารประจำทาง มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ น้ำตาไหลรินด้วยความเสียใจ และสะเทือนใจกับการกระทำของตัวเอง เสียงเยาะเย้ยถากถางของอลิสดังก้องในหู

“นี่แหละผลของการบ้าผู้ชาย แม่นอนพะงาบๆ ก็ไม่สนใจ”
น้ำหนึ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนถามเพชรเรื่องแม่ “พี่เพชรรู้เรื่องแม่ใช่มั้ย” แต่เพชรไม่ตอบ และบอกรัก น้ำหนึ่งคิดในใจ
“สุดท้ายมันก็เป็นแค่แผนของพี่เพชรจริงๆ แผนของพี่เพชรเท่านั้น”
น้ำหนึ่งร้องไห้สะอื้นฮักๆ ยินเสียงของผู้โดยสารหญิง 2 คนที่นั่งอยู่ข้างๆ คุยกัน
“นั่นใช่ลูกสาวท่านเกรียงศักดิ์ที่มีข่าวว่าเป็นเมียน้อยเค้ารึเปล่า” น้ำหนึ่งได้ยินเต็มสองหู
“ใช่! ผู้ชายคงทิ้งกลับไปหาเมียหลวง ไม่ก็ถูกเมียหลวงไล่ตบมาแหงๆ ถึงได้มาร้องไห้อย่างนี้” หญิงอีกคนว่า
“ผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยเค้าน่าสมเพชที่สุด ไม่รักตัวเองไม่พอ ไม่นึกถึงหน้าพ่อแม่บ้างเลย ทุเรศ”
น้ำหนึ่งนั่งนิ่ง ตัวแข็งทื่อ น้ำตาแทบหยุดไหล มีแต่ความสมเพชหดหู่ และละอายใจเป็นที่สุด ได้แต่ครวญคร่ำอยู่ในใจ
“คุณพ่อ คุณแม่ น้ำหนึ่งขอโทษ”
น้ำหนึ่งร้องไห้อย่างน่าเวทนา แต่คนอื่นๆ มองมาด้วยสายตาสมเพช

ตกตอนกลางคืนที่บ้านเชิงเขา ภายในห้องเก็บของ เกรียงศักดิ์นั่งน้ำตาคลอท่ามกลางความมืด ภาพน้ำหนึ่งที่ถูกพลอยรังแกผุดขึ้นในมโนนึก เสียงของพลอย “กราบเท้าฉันสิ กราบ” เสียดแทงเข้าไปในหัวอกพ่อ
เกรียงศักดิ์ในใจ “น้ำหนึ่ง พ่อขอโทษ...เธอเจ็บปวดเพราะฉันมากขนาดนี้เลยหรือพลอย”
เกรียงศักดิ์หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ไม่คาดคิด การกระทำที่คิดว่าเล็กน้อยสำหรับเขา จะ
ส่งผลยาวนานและสร้างความเจ็บปวดให้ใครต่อใครมากถึงเพียงนี้

เวลาเดียวกันหมอณัฐกับอลิส เดินเข้ามาในบ้าน เพิ่งกลับจากโรงพยาบาล สีหน้าของหมอณัฐเคร่งขรึม
อลิสพูดเป็นจังหวะเพลง “มีความสุข โอ๊ยมีความสุข”
หมอณัฐ หันมามองตาขวาง “มากมั้ย”
อลิสไม่สำนึกลากเสียงยาว “มาก.....”
“ทำไมอลิสเป็นคนแบบนี้? เห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องสนุก”
“ความทุกข์ของคนไม่ดี น่าสนุกเสมอค่ะ” อลิสย้อน
หมอณัฐ หมั่นไส้น้องแสบ “พูดเหมือนอลิสเป็นคนดีทุกอย่าง”
“ถึงจะไม่ขนาดนั้น แต่อลิสก็ไม่เคยโกหกตัวเอง ไม่เคยหลอกลวงคนอื่น อลิสชัดเจนต่อความรู้สึกของตัวเองเสมอ ไม่ได้เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ปากอย่างใจอย่าง ไม่เคยตีสองหน้า ไม่เคยปั้นน้ำเป็นตัว ไม่เคย…”
อลิสจ้อไม่ทันจบหมอณัฐโมโหสวนขึ้นทันที “จะพูดอะไรนักหนาอลิส”
“นี่แค่เบาๆ เพราะถ้าจะพูดภาษาชาวบ้าน อลิสไม่เคยตอแหล และไม่เคยเป็นเมียน้อยใคร!”
“อลิส” แววตาหมอณัฐเวลานี้มีแต่ความเจ็บปวด ยิ่งสงสารและเห็นใจพลอย
“ความจริงน่าเจ็บปวดเสมออย่างนี้แหละค่ะพี่หมอ โดยเฉพาะ..ความจริงที่ไม่กล้ายอมรับมัน ยัยพลอยบ้าที่แสนดี ซื่อ บริสุทธิ์ แสนจะน่าสงสารของพี่หมอ เป็นเมียน้อยท่านเกรียงศักดิ์ ถ้าพี่หมอคิดจะยกย่องผู้หญิงแบบนี้ออกนอกออกตา พี่หมอก็บ้าไม่แพ้ยัยพลอยบ้านั่นล่ะค่ะ”
อลิสสะบัดหน้าพรืดเข้าบ้านไป หมอณัฐได้แต่ยืนอึ้ง เจ็บหนึบในใจ

ด้านพลอยนอนลืมตาโพลงอยู่ในห้อง ดวงตามีแต่ความเจ็บปวดรวดร้าว กลัวความสูญเสีย ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ไม่ยอมขึ้นมา
ส่วนเพชรยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางความมืดในสวนด้านนอกโรงพยาบาล ดวงหน้ากลัดกลุ้มหนัก สั้นๆ พี่เพชรรู้เรื่องแม่แต่ไม่บอกถูกน้ำหนึ่งตัดพ้อว่าใจร้าย
เพชรคิดในใจ
“พี่ขอโทษ..พี่ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายน้ำหนึ่ง...แม้แต่นิดเดียว”

น้ำหนึ่งมาถึงหน้าบ้านตอนรุ่งเช้าน้ำ พอลงจากแท็กซี่วิ่งหน้าตั้งเข้าไปในคฤหาสน์ ร้องตะโกนเสียงดังลั่น เสียงนั้นสั่นสะท้าน
“คุณแม่คะ...คุณแม่ น้ำหนึ่งกลับมาแล้วค่ะ”
นวลเดินออกมาเห็นพอดี ทั้งตื่นเต้นและดีใจ “คุณน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งละล่ำละลัก ถามรัวเร็วด้วยความเป็นห่วง
“คุณแม่เป็นยังไง คุณแม่อยู่ที่ไหน ป้านวล”
“คุณหญิง” นวลอึกอักไม่รู้จะบอกยังไง ลำดับเรื่องไม่ถูก ไม่ทันตั้งตัว เงอะๆ งะๆ
น้ำหนึ่งใจเสีย ยิ่งกลัวเป็นเรื่องไม่ดี “คุณแม่” แล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันที นวลวิ่งตาม

ดาราณีได้ยินเสียงของน้ำหนึ่ง รีบเข็นรถเข็นออกมา น้ำหนึ่งวิ่งเข้าไปด้านใน แลเห็นดาราณีนั่งอยู่บนรถเข็น สภาพไม่ผิดเพี้ยนกับพลอย
น้ำหนึ่งตะลึง อึ้ง ช็อก ร้องไห้โฮ “คุณแม่”
สองคนมองหน้ากัน น้ำหนึ่งรู้สึกผิด ยิ่งเห็นกับตายิ่ง อึ้ง ดาราณีดีใจจนพูดไม่ออก แต่ในแววตาคู่นั้นก็รู้สึกเสียใจ
“แม่อยากเดินเข้าไปกอด เข้าไปหอมน้ำหนึ่ง แทบขาดใจ แต่แม่ทำไม่ได้”
เด็กสาวผู้หนีตามผู้ชายไปกรีดร้องดังโหยหวน ยิ่งรู้สึกผิด
“คุณแม่…”
น้ำหนึ่งโผเข้าไปนั่งคุกเข่ากอดดาราณีแน่น ร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ ได้แต่ร้องคร่ำครวญ
“น้ำหนึ่งขอโทษ น้ำหนึ่งเป็นคนไม่ดี น้ำหนึ่งมันเลว น้ำหนึ่งขอโทษ”
น้ำหนึ่งทรุดตัวลงจะกราบแทบเท้า ดาราณีไม่ยอม ดึงตัวลูกสาวขึ้นมากอดอย่างรักสุดหัวใจ
“ไม่..น้ำหนึ่ง ไม่ น้ำหนึ่งของแม่เป็นคนดีเสมอ ลูกแค่หลงผิดไป”
คุณหญิงกอดไว้แน่นอย่างเต็มตื้น ดีใจเหลือแสนที่ลูกกลับมาหาและสำนึกผิด
“ยิ่งคุณแม่พูดอย่างนี้ น้ำหนึ่งก็ยิ่งรู้สึกผิด น้ำหนึ่งเลวจริงๆ สมควรตาย” น้ำหนึ่งจะไป
ดาราณี ใจจะขาด คว้าลูกสาวมากอดไว้แน่น บอกละล่ำละลัก “ไม่น้ำหนึ่ง...ไม่...เราลืมเรื่องทุกอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่นะลูก เรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาอีก”
น้ำหนึ่งยิ่งเสียใจไปใหญ่ “คุณแม่” พูดออกมาได้คำเดียวก็กอดดาราณีแน่น
นวลมอง สลดใจกับภาพที่เห็นเหลือเกิน

เวลาเดียวกันอารีย์เดินถือกระเป๋าเดินทางออกมาหน้าบ้าน นักปราชญ์เดินเข้ามาพอดีอารีย์ถามอย่างไว้เชิง ทำทีเหมือนจะไม่สนใจ
“พ่อติดต่อมาหรือเปล่า”
“เปล่าครับ”
อารีย์คอแข็ง แต่ไม่แสดงความเสียใจ “แม่จะไปพักผ่อนซักระยะหนึ่ง”
“แม่คิดถึงพ่อ”
“ก็...ตามประสาคนอยู่ด้วยกัน”
นักปราชญ์โพล่งออกมาตามประสา “แต่พ่อคงไม่คิดอย่างแม่...ไม่งั้น...พ่อคงไม่พูดอย่างนั้น”
สีหน้าอารีย์เจ็บปวด นักปราชญ์รู้สึกตัว
“ยิ่งเห็นแม่เจ็บปวด ผมก็ยิ่งโกรธเกลียดพวกมัน มันเป็นศัตรูเราทั้งแม่ทั้งลูก”
“ใช่...มันเป็นศัตรูเราทั้งแม่ทั้งลูก แม่เกลียดมัน โดยเฉพาะนังทับทิม!”
สีหน้าแววตาของอารีย์มีแต่ความเคียดแค้น ชิงชัง

ขณะที่อารีย์ขับรถออกนอกบ้านไป เห็นทับทิมในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง ปราศจากการตกแต่ง เสื้อผ้าแบบชาวบ้าน หน้าตามีรอยแผลเป็นจากการที่หน้าครูดล้มไปกับถนน ทับทิมอยู่กับป้า ไม่ได้แต่งตัวดูดีเหมือนก่อน มองเผินๆ เหมือนคนมาเก็บขยะทั่วไป
ทับทิมมองรถของอารีย์ที่แล่นออกไป แล้วรอยยิ้มน่ากลัวก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ตั้งใจมาเอาคืนชัดๆ ทับทิมตะโกนก้องในใจ
“แกสองคนแม่ลูก ถูกฉันเอาคืนแน่นอน นังอารีย์”
ทับทิมมองตรงไปยังหน้าบ้านของอารีย์ เห็นติดประกาศ “รับสมัครแม่บ้าน” เด่นหรา

ฟากเพชรประคองพาพลอยลงมาจากรถ แต่ท่าทางของเพชรดูห่างเหิน พลอยมองด้วยความเสียใจ
พลอยเรียกร้องความสนใจ จะเซล้ม เพชรเฉย พลอยต้องพูดเอง “พี่รู้สึกยังไม่ดีเลย”
“แต่หมอณัฐเป็นคนให้พี่พลอยออกมาจากโรงพยาบาลได้แล้วนี่ครับ”
“ตอนนั้น..พี่ดีขึ้นแล้ว แต่ตอนนี้” พลอยเอามือแตะหน้าผาก ท่าทางเวียนหัว
“งั้นพี่พลอยก็รีบเข้าไปพักผ่อนนะครับ” เพชรจะเดินออกนอกบ้านอีก
พลอยเหวอไปเลย “แล้วเพชรจะไปไหน”
“ไป...ข้างนอก”
“เพชรไปทำไม”
“บางเวลา...ผม..ก็อยากอยู่คนเดียวครับพี่พลอย” เพชรเดินลิ่วออกไป
พลอยเหวอ เหมือนถูกขัดใจ “เพชร..เพชร”

เพชรขับรถออกไปต่อหน้า พลอยได้แต่ร้องกรี๊ดอย่างขัดใจ
บังเอิญเหลือแสน เพชรกับอารีย์ขับรถมาเติมน้ำมันพร้อมๆ กันตรงปั๊มน้ำมันละแวกบ้านเชิงเขา อารีย์มองมาเห็นเพชรก่อน จึงร้องทัก

“อ้าว! เธอ”
“คุณ!”
สองคนมองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร เพชรยิ้มบางๆ ในใจยังมีความกังวล และไม่สบายใจเรื่องน้ำหนึ่งและพลอย สีหน้าอมทุกข์ตลอดเวลา

สองคนเดินเข้ามานั่งในร้านกาแฟเล็กๆ ในปั๊ม ด้วยกัน อารีย์ยิ้ม
“หมู่นี้ชีวิตฉันพัวพันกับคนชื่อเพชรจังเลย”
“ทำไมเหรอครับ”
“ก็ฉันเจอคนชื่อเพชรบ่อยน่ะสิ แต่เพชรสองคนที่ฉันรู้จักต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งคือมิตร คนหนึ่งคือศัตรู”
เพชรยิ้ม ไม่ได้สนใจจะซักถามเพราะเห็นเป็นเรื่องส่วนตัว และก็ไม่ได้ฉุกคิดเพราะไม่รู้จัก
แม่นักปราชญ์ เพชรได้แต่พูดปลอบ
“คนใจดีอย่างคุณอารีย์มีศัตรูด้วยเหรอครับ”
อารีย์หัวเราะร่วน “เยอะเลยล่ะ” สองคนทรุดตัวลงนั่งพลางสั่งเครื่องดื่ม “ว่าแต่
...เธอมาเที่ยว หรือเป็นคนที่นี่”
“คนที่นี่...แล้วคุณอารีย์ล่ะครับ...มาเที่ยว”
“ก็..ไม่เชิง” อารีย์ยิ้มแต่ใบหน้าดูหมองๆ ขณะบอก “บ้านเก่าสามีฉันอยู่ที่นี่”
“ใครครับ...ผมอาจรู้จัก”
“เธอไม่รู้จักหรอก” น้ำเสียงอารีย์ฟังดูขมขื่น “เพราะตอนนั้นเค้าก็ไม่ได้เด่นดังอะไร ไม่เหมือนตอนนี้”
เพชรมองรู้ว่าอารีย์มีเรื่องในใจ อารีย์ยิ้มตัดบท
“อย่าสนใจคำพูดของฉันเลย บ้านเธออยู่แถวนี้เหรอ”
“ครับ ถ้าคุณอารีย์ไม่รังเกียจ เชิญไปพักที่บ้านผมได้นะครับ”
“เธอพูดจริง?”
“ด้วยความยินดีและเต็มใจ คุณอารีย์มีบุญคุณกับผม”
“พูดอย่างนี้อีกแล้ว เราสองคน ต่างเป็นหนี้บุญคุณกันต่างหาก ฉันจะไปพักรีสอร์ตของเพื่อน แต่ไหนๆ มีโอกาสเจอกันแล้ว ขอไปเที่ยวบ้านเธอหน่อยแล้วกัน จะได้รู้จักเอาไว้”
“ครับ...คุณอารีย์”
เพชรยิ้มยินดี

ไม่นานต่อมาเพชรพาอารีย์เข้าไปในบ้านเชิงเขา อารีย์กวาดตามอง ยิ้มพอใจ
“บ้านเธอสวยจัง...”
“แม่..เป็นคนทำไว้นะครับ”
“เก่งจัง”
“แม่เป็นผู้หญิงเก่ง เก่งทุกอย่าง”
“ฉันชอบผู้หญิงเก่ง แม่เธออยู่ไหนล่ะ? พาฉันไปรู้จักหน่อยสิ”
“แม่ไม่อยู่ครับ”
“ไปไหน”
เพชรเงียบ สีหน้าอึดอัดไม่รู้จะบอกยังไง อารีย์สังเกตเห็น
“ขอโทษฉันก็ถามไปเรื่อยเปื่อยอย่างนั้นล่ะ”
“เชิญข้างในดีกว่าครับ”
เพชรนำอารีย์เข้าไป

เพชรนำอารีย์เข้าไปด้านในตัวบ้านพลางบอก
“รอซักครู่นะครับ ผมจะเอาน้ำมาให้”
“จ้ะ”
เพชรเดินเข้าไปในบ้าน อารีย์เดินสำรวจดูภายในบ้าน อารีย์จะเดินมาถึงบริเวณที่ตั้งกรอบรูปครอบครัวแล้ว แต่พลอยเข็นรถเข็นเข้ามาพอดี
พลอยมองอารีย์แปลกใจ “คุณเป็นใคร? เข้ามาได้ยังไง? เสียมารยาท”
อารีย์เลิกสนใจที่จะเดินไปดูรูป หันมามองพลอย ชะงัก เพราะคุ้นหน้า เพชรเดินเข้ามาพอดี
“แขกผมเองพี่พลอย ขอโทษนะครับ”
“ฉันต่างหากต้องขอโทษ ที่ถือวิสาสะไปหน่อย...ขอโทษจริงๆ ฉันรอข้างนอกดีกว่า”
อารีย์เดินออกไป ยินเสียงพลอยถามเพชรอย่างไม่พอใจ
“ไหนเพชรบอกว่าอยากอยู่คนเดียว แล้วมันเรื่องอะไร ถึงได้พาคนมาบ้าน”
“คุณอารีย์มีบุญคุณกับผม”
พลอยงง สงสัย “บุญคุณอะไร?เค้าทำอะไร”
“เค้าช่วยชีวิตผม เค้ากำลังหาที่พักอยู่ ผมเลยเชิญมาพักบ้านของเรา มันไม่ผิด
ไม่ใช่เหรอครับพี่พลอย”
พลอยกังวลเรื่องเกรียงศักดิ์
“แต่พี่อยากอยู่คนเดียว” พลอยตวาดแบบคนเอาแต่ใจ “ได้ยินมั้ย พี่อยากอยู่คนเดียว”
เพชรทำสีหน้าหน่าย ที่ต้องมารองรับอารมณ์พลอยอยู่บ่อยๆ

อารีย์เดินออกมาด้านนอก เป็นมุมที่เชื่อมต่อใกล้กับบริเวณห้องเก็บของที่พลอยขังเกรียงศักดิ์ไว้
ในห้องเก็บของ เกรียงศักดิ์สภาพทรุดโทรมลงไปทุกวัน อาการหงุดหงิดแทบบ้าอยู่แล้ว
“ปล่อยฉันพลอย ปล่อย”
อารีย์ชะงัก รู้สึกเหมือนตัวเองหูแว่ว ยืนฟัง เสียงเกรียงศักดิ์แว่วออกมาอีก
“ปล่อย...”
“หูเราไม่ได้แว่ว เสียงคนจริงๆ ด้วย” อารีย์จะเดินไปดู
เพชรเดินเข้ามาพอดี “คุณอารีย์”
“อ้อ...เพชร”
“ผมขอโทษนะครับ พอดีพี่พลอยไม่ค่อยสบาย”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันเข้าใจ พลอยเป็นพี่สาวเธอเหรอ”
“ครับ”

อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 13/2 วันที่ 11 พ.ค. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manage