อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 17 วันที่ 22 พ.ค. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 17 วันที่ 22 พ.ค. 56

“นังทับทิม” อารีย์ตบหน้าทับทิมสุดแรง เสียงดังผลัวะ
นวลตกใจ “ทับทิมฉันขอโทษ” ก่อนจะหันกับสองแม่ลูก “ปล่อยเราสองคนไปนะคะ ฉันขอร้อง”
“นี่ก็โง่อีกคน แกคิดว่าเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว เดรัจฉานสองตัวนี้มันจะปล่อยเราสองคนไปเหรอ” ทับทิมด่า
“แกคิดถูกแล้ว ฉันไม่มีวันปล่อยพวกแกไปหรอก ตรงกันข้าม ฉันจะใช้แกสองคนเป็นเหยื่อล่อไอ้เพชรกลับมา” นักปราชญ์บอก

นวลเอาแต่ร้องไห้โฮๆ ทับทิมมองสองแม่ลูกสลับกันอย่างโกรธแค้น แล้วหันมามองนวลตาขวางทำแผนตนบรรลัยป่นปี้ แถมถูกสองแม่ลูกจับได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น



วันต่อมาที่ทะเล น้ำหนึ่งยืนเหม่ออยู่ชายหาด เพชรเดินมา สวมกอด พร้อมเอาพวงมาลัยดอกปีบสวมบนศีรษะเป็นมงกุฎ พวงมาลัยดอกปีบสวยมาก เพชรบอกอ่อนโยน
“เงินเดือนของพี่อาจจะไม่มากมาย แต่พี่สัญญา พี่จะไม่ปล่อยให้น้ำหนึ่งกับลูกลำบาก”
“น้ำหนึ่งไม่เคยกลัวความลำบากค่ะ สิ่งเดียวที่น้ำหนึ่งกลัวคือ...ถูกหลอก”
ให้เป็นเหยื่อการแก้แค้นของใครอีก?
เพชรเสียใจ “พี่บอกแล้วไง มันจะไม่มีอีก”
“น้ำหนึ่งจะพยายามเชื่อ แต่พี่เพชรเข้าใจใช่มั้ยคะ ความไว้ใจ ถ้าถูกทำลายลงไปมันต้องใช้เวลาที่จะสร้างมันขึ้นมาใหม่”
“พี่พร้อมจะใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อพิสูจน์ให้น้ำหนึ่งเชื่อใจ ว่าพี่รักน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งมองเพชร สายตาเต็มไปด้วยความรัก แต่ในขณะเดียวกันก็เคลือบแคลงสงสัย อยู่เพชรลูบเรือนผมบอกอย่างอ่อนโยน
“น้ำหนึ่งรู้มั้ย พี่จำความรู้สึกที่น้ำหนึ่งมีต่อพี่ได้ทุกอย่าง”
เพชรเล่าให้ฟัง จนเห็นภาพเหตุการณ์ตั้งแต่สมัยน้ำหนึ่งแอบกรี๊ดเพชร ภาพที่น้ำหนึ่งยอมเพชรทุกอย่าง เพชรบอกด้วยเสียงอ่อนโยน
“พี่จำความรักที่น้ำหนึ่งมีต่อพี่ได้ทุกอย่าง น้ำหนึ่งรักพี่ ทำเพื่อพี่ได้ขนาดนี้ ถ้าพี่มองไม่เห็นอีก พี่คงโง่เต็มที พี่รักน้ำหนึ่ง ตั้งแต่วันนี้ไป พี่จะไม่คิดถึงใครอีก แต่พี่จะทำทุกอย่างเพื่อน้ำหนึ่ง เพื่อรักของเรา”
เพชรกอดน้ำหนึ่งแนบแน่น เสียงมือถือดัง เพชรมองเบอร์ไม่คุ้น ก่อนรับสาย
“ครับ”
เป็นนักปราชญ์ซึ่งจับตัวทับทิมและนวลเอาไว้ โทร.มาบอกเสียงเหี้ยม
“หมดเวลาเสวยสุขของแกแล้วไอ้เพชร”
“ไอ้นักปราชญ์” เพชรคำราม น้ำหนึ่งมอง หน้าซีดเผือด
“แม่แกอยู่กับฉัน...ทั้งแม่จริง...แม่ปลอม”
เพชรฉงน “แกหมายความว่ายังไง”
จังหวะนี้ทับทิมกับนวล ตะเบ็งเสียงออกมาในทำนองเดียวกัน
“แกอย่ายุ่งกับลูกฉันนะ”
“อย่าทำอะไรลูกน้า”
เพชรหน้าซีดเผือด จำเสียงทับทิมได้ และในขณะเดียวกันได้ยินเสียงนวลก็งง
นักปราชญ์เดาออกหัวเราะลั่น “อยากรู้ก็ตามไปบ้านเชิงเขา รีบไป ไม่งั้น แกอาจจะต้องเรียกฉันว่าพี่เขย อีกหนึ่งตำแหน่ง เพราะฉันจะไปฉุดนังพลอย!”
“ไอ้นักปราชญ์ ไอ้เลว” เพชรวางสาย
น้ำหนึ่งร้อนใจถามเสียงรัวเร็ว “มีเรื่องอะไรอีกคะพี่เพชร”
“มันจับแม่เป็นตัวประกัน แล้วมัน มันยังจะไปฉุดพี่พลอย”
น้ำหนึ่งหน้าซีดเผือด

ไม่นานหลังจากนั้น นักปราชญ์ฉุดกระชากลากถู ทับทิมกับนวลออกมา
“ไป ฉันจะพาแกสองคนไปตายที่บ้านเชิงเขา”
“ฉันช่วยคุณมาทุกอย่าง ฉันขอร้องล่ะ ปล่อยเราไปเถอะ” นวลอ้อนวอน
“ก็บอกแล้วไง ว่าจะปล่อยไปตายที่บ้านเชิงเขา ไป”
นวลร้องไห้โฮๆ “ปล่อย...ปล่อยฉันเถอะ ฉันขอร้อง”
ทับทิมโมโหแกมหมั่นไส้ “โอ๊ย!จะร้องไห้ทำไม รำคาญ” แล้วหันมาตวาดนักปราชญ์ “จะทำอะไรก็ทำ เพราะถ้าฉันหลุดไปได้ พวกแกไม่รอด”
“ปากดีนัก” ตบหน้าทับทิมเสียงดังผลัวะ ร่างทับทิมล้มลงไป ก่อนบอกลูกชาย “ปล่อยนัง
ทับทิมไว้นี่ แม่จะคิดบัญชีกับมันเอง”
นักปราชญ์เห็นด้วย “ก็ดีครับ..แม่จะได้ทบต้นทบดอก เอามันให้น่วมไปเลย ส่วนแก” กระชากนวล “ไป๊”
นักปราชญ์ลากนวลออกไป อารีย์หันมากระชากผมทับทิมขึ้น
“แกกล้ามาก ทับทิมที่มาล้วงคองูเห่าอย่างฉัน”
ทับทิมหัวเราะ พูดหยามหยัน “งูเห่า ก็ได้แต่เห่า แต่ฉันน่ะมันงูพิษ”
อารีย์ไม่เข้าใจมองงงๆ ทับทิมยิ้มเย้ยอีก
“รอดูแล้วกัน ว่างูเห่ากับงูพิษ อะไร พิษมันจะร้ายกว่ากัน”
อารีย์ไม่โต้ตอบ แต่จิกผมทับทิมกระชากตบอย่างสะใจ
เพชรขับรถมาตามทางด้วยความเร็วสูง โดยมีน้ำหนึ่งนั่งเคียงข้าง สองคนไม่สบายใจ
“พี่เพชรทำใจดีๆ ก่อนนะคะ อาจจะไม่มีอะไรรุนแรงอย่างที่คิดก็ได้”
“พี่ก็ขอให้..อย่ามีอะไรรุนแรงเลย แต่พี่รู้นิสัยแม่ นิสัยพี่พลอยดี มันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆน้ำหนึ่ง”
เพชรพูดได้แค่นั้น รถทั้งคันก็เอียงวูบ เพชรร้องลั่น
“น้ำหนึ่งระวัง ยางแตก”

เพชรประคองรถสุดชีวิต ก่อนที่รถจะหยุดนิ่งข้างทางนั้นเอง
ฝ่ายอารีย์ลากทับทิมมาอย่างแรง ทั้งที่ไม่ค่อยมีแรง

“ปากดีนักนังทับทิม แกมานี่”
ทับทิมไม่สะทกสะท้าน แถมหัวเราะหยันพูดเป็นนัย “เดินแทบไม่ไหว ยังจะแค่นมาฉุดกระชากลากถูฉัน ไปกินอะไร บำรุงก่อนไป นังงูเห่า”
อารีย์มองอย่างเข่นเขี้ยว แต่ก็ไม่ไหวจริงๆ ได้แต่เรียกคนใช้ “ป้าใจ...หาอะไรมาให้ฉันกินหน่อย”
“ค่ะๆ” เสียงใจตะฌกนออกมา
ทับทิมเหยียดยิ้ม “อยากกินอะไร กินไป กินให้เยอะๆ ฉันไม่หนีไปไหนหรอก จะนั่งอยู่ตรงนี้ รอให้แกทรมานนี่ล่ะ”
“อย่ามาทำปากดี”
“ปากดีที่ไหน ปากเสียจะตายฉันน่ะ!” ทับทิมพูดพลางมองอารีย์ “เพราะฉันดูโหวงเฮ้ง หน้าตาท่าทางอย่างแกนี่...ไม่น่ารอด อีกเดี๋ยวก็ตาย”
“นังทับทิม” อารีย์โกรธจัด จะเงื้อมือตบ
ใจเดินเอาสำรับอาหาร และเครื่องดื่มมาให้ แล้วรีบเดินออกไป อารีย์ดูเหนื่อยล้าอ่อนแรงมากๆ ยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด ทับทิมมองอยู่หัวเราะชอบอกชอบใจขณะบอก
“อย่าเพิ่งมีเรื่องกับฉัน กินซะ...กินให้เยอะๆ จะได้เหมือนนักโทษประหาร กินมื้อสุดท้ายก่อนตาย”
อารีย์ฉงน “แกพูดอะไรของแก”
“ที่แกต้องเข้าโรงพยาบาล แกไม่เคยสงสัยอะไรเลยเหรอ”
อารีย์มอง ยิ่งงงไปใหญ่ ทับทิมว่าช้าๆ ชัดๆ ดวงตาแข็งกร้าว
“อาหารทุกอย่าง เครื่องดื่มทุกอย่าง ในบ้านนี้ ฉันผสมยาวิเศษของฉันไว้หมดแล้ว”
“ยาวิเศษอะไรของแก”
“ยาวิเศษ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่มันจะค่อยๆทำลายระบบประสาททุกอย่างในร่างกาย จนตายไปช้าๆอย่างทรมาน”
มือของอารีย์ยังถือแก้วค้างอยู่อย่างนั้น ทับทิมหัวเราะ
“และวันนี้ ฉันก็ผสมมันอย่างเข้มข้นซะด้วย”
หน้าของอารีย์ถอดสี รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ทับทิมหัวเราะ เย้ยอีก
“แต่จะโทษฉันฝ่ายเดียวไม่ได้นะ แกกับลูกแก ตะกละตระกรามเอง เป็นเศรษฐีซะเปล่า เจอของอร่อยเข้าหน่อย ทำยังกับไม่เคยกิน วันนี้ แกไม่รอดแน่นังอารีย์
อารีย์ล้มลงกับพื้น อาเจียน เนื้อตัวสั่น โลกหมุนติ้วๆๆ ตาพร่ามัว ได้รับสารพิษเข้มข้น อย่างแรง อารีย์ได้แต่เงื้อมือสั่นระริก พูดแทบไม่มีเสียง “จะ....ใจ...ช่วยฉันด้วย...ชะ..ช่วยด้วย”
ทับทิมพูดนิ่งๆ “ป้าใจไม่อยู่ เวลานี้...เป็นเวลาที่แกออกไปซื้อของเข้าบ้านทุกวัน แกเห็นแล้วใช่มั้ย ฉันไม่ได้ทำอะไร แกทำตัวของแกเอง...” ทับทิมนั่งลงมองจ้องหน้าอารีย์ “ตอนนี้แกคงรู้แล้วใช่มั้ย งูพิษอย่างฉัน ร้ายกาจแค่ไหน รายต่อไปที่ฉันจะฉกกัด คือลูกแก”
พูดจบทับทิมเอามือผลักหัวอารีย์อย่างแรงจนหน้าคะมำแล้วไป
ใจแอบมองอยู่เนื้อตัวสั่น พอลับร่างทับทิม ถึงได้วิ่งเข้ามาประคองอารีย์
“คุณคะคุณ คุณ?”
ส่วนทับทิมเดินออกมานอกบ้าน ด้วยมาดทระนง
“แม่กำลังจะไปช่วยแกแล้วพลอย!”

พลอยยืนอยู่ใต้ต้นปีบ มองเหม่อดูดอกสีขาวพราวกระจ่างเกลื่อนพื้น ก่อนเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมา
“เพชรชอบดอกปีบ พี่จะเก็บดอกปีบไว้ให้เพชร”
พลอยค่อยๆ เอื้อมมือ เด็ดดอกปีบทีละกลีบ ทีละกลีบ โดยไม่รู้เลยว่าภัยกำลังจะมาเยือน

ด้านนักปราชญ์ขับรถมีนวลที่ถูกมัดมือนั่งอยู่ข้างๆ นวลร้องไห้
“คุณนักปราชญ์คะ...คุณจะทำอะไรฉันก็ได้ แต่ฉันขอร้อง อย่าทำอะไรเพชรเลยนะ”
“มาอ้อนวอนทำไม ในเมื่อ แกเป็นคนบอกให้ฉันมาจัดการไอ้เพชร นังพลอยมันเอง”
“ก็ตอนนั้นฉันไม่รู้ ว่าเพชรเป็นลูก นะคุณนะ...อย่าทำอะไรเพชรเลย แค่นี้ฉันก็รู้สึกผิดจนไม่กล้าไปสู้หน้าลูกแล้ว”
“เรื่องของแก เพราะเรื่องของฉัน คือจัดการไอ้เพชร”
“ไอ้เลว”
นักปราชญ์เบนรถจอดข้างทาง สะบัดหลังมือตบอย่างเหี้ยมโหด กระชากผม “อย่ามาทำฤทธิ์ใส่ฉัน ไม่งั้นแกจะไม่ได้เห็นหน้าไอ้เพชร ก่อนตาย” เหวี่ยงนวลออก จนผงะหงาย
“ฉันไม่น่ามายุ่งกับคนอย่างคุณเลย” นวลได้แต่มองอย่างโกรธขึ้ง และเสียใจ

ที่สถานีตำรวจเวลาเดียวกัน ตำรวจถามอลิสอย่างงุนงง
“ว่าไงนะครับ คุณจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับคนร้าย”
“ค่ะ นังพลอยบ้า มันฆ่าพี่ฉัน แล้วมันก็ยังฆ่าคน มันเก็บศพไว้ที่บ้านเชิงเขาอีก”
“คนบ้า?”
“ก็นังพลอยบ้าไงคะ? นังพลอยบ้าที่เคยเป็นเมียน้อยท่านเกรียงศักดิ์”
ตำรวจเงียบกริบ อลิสตาขวาง
“ทำไม?ไม่กล้าไปจับเหรอ”
“ไม่ใช่ไม่กล้า แต่เรื่องแบบนี้มันต้องมีหลักฐาน จู่ๆ จะไปกล่าวหาเค้าได้ยังไง”
“ฉันไมได้กล่าวหา มันสารภาพออกมาเอง ได้ยินมั้ยคะ มันสารภาพออกมาเอง”
“ยังไง ก็ต้องมีหมายค้น เจ้หน้าที่ทะเล่อทะล่าเข้าไปค้นเดี๋ยวนี้ไมได้หรอกครับ”
อลิสฉุน “โอ๊ย นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้...ตั้งด่านเป็นอย่างเดียวรึไง”
“คุณกำลังดูหมิ่นเจ้าพนักงานนะครับ...ทางเจ้าหน้าที่ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน” ตำรวจบอกอีก
อลิสกรีดร้อง “หลักฐาน”
“ครับจะเป็นหลักฐานหรือพยานบุคคลก็ได้ ถ้าคุณมีเมื่อไหร่ ตำรวจพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ครับ”
อลิสกระฟัดกระเฟียดเดินออกมาจากสถานีตำรวจ
“หลักฐาน จะไปหาหลักฐานที่ไหน” อลิสชะงัก คิดได้ “พยานบุคคล”
อลิสตาโต รีบออกจากสถานีตำรวจทันที

ไม่นานต่อมาอลิสเขย่าตัวพจนีย์ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
“พจนีย์ เธอฟื้นขึ้นมาสิพจนีย์ เธอฟื้นขึ้นมาเอาผิดกับยัยพลอยบ้าเร็วๆ ลุกขึ้นมาพจนีย์” อลิสจับพจนีย์ที่นอนเป็นผักเขย่าๆ อย่างแรง
เจ้าหน้าที่วิ่งเข้ามาห้าม “อย่าคุณอย่า”
“อย่ามาห้ามฉัน” อลิสดื้อดึงดัน ปราดเข้าไปเขย่าอีก “พจนีย์เธอต้องลุกขึ้นมา”
เจ้าหน้าที่ดึงมืออลิสออก “กรุณาออกไปก่อนค่ะ ออกไปก่อน” แล้วพาตัวอลิสออกไป
อลิสยังตะโกน “ลุกขึ้นมาพจนีย์ เธอต้องลุกขึ้นมาช่วยฉัน เอาผิดกับนังพลอยบ้า”
ทันทีที่อลิสถูกลากตัวออกไป ประตูปิดลง ดวงตาของพจนีย์ก็ค่อยๆ กระพริบช้าๆ พจนีย์พึมพำเหมือนจิตโดนสั่ง
“นังพลอย”

ท่ามกลางความมืดทะมึนของหุบเขา พลอยยืนอ้างว้างอยู่อย่างเดียวดาย
“ไม่...ฉันไม่ชอบการอยู่คนเดียว...ฉันกลัวการอยู่คนเดียว”
พลอยกอดตัวเอง เนื้อตัวสั่น อ้างว้างเหลือแสน นักปราชญ์กระชากนวลเข้ามา
“ต่อไป เธอไม่ได้อยู่คนเดียวหรอกพลอย”
พลอยเหลียวขวับมามอง เห็นเป็นนักปราชญ์กระชากนวลที่ถูกมัดมือเข้ามา นักปราชญ์ผลักนวลจนล้มลงตรงหน้าพลอย นวลร้องลั่น พลอยตกใจ และไม่เข้าใจ
“รีบหนีไปพลอย หนีไป”
นักปราชญ์ตบนวล “หุบปาก”
“มายุ่งวุ่นวายบ้านฉันทำไม”
“น้องชายเธอ มันบุกไปฉุดเจ้าสาวฉัน”
“นังน้ำหนึ่ง” พลอยตาวาวเป็นประกาย โกรธจัด
“และนังนวลหน้าโง่นี่ มันก็ไปสาระแนบอกฉัน ว่าเธอเป็นพี่สาวของไอ้เพชร ทั้งที่ไอ้เพชรเป็นลูกมัน”
พลอยเพ่งมองที่นวล แปลกใจ ประหลาดใจ เห็นนวลร้องไห้ ส่วนนักปราชญ์หัวเราะหยัน
“เธอว่าโลกเล่นตลกเกินไปมั้ย”
“น้าขอโทษพลอย น้าไม่รู้”
“ไอ้เพชรมันทำลายหัวใจฉัน ฉันก็จะทำลายหัวใจของมันเหมือนกัน มานี่”
นักปราชญ์กระชากมือพลอยหมับ พลอยมองนิ่ง ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้าน แต่แสร้งทำเป็น ร้องกรี๊ด สะบัดมืออย่างมีจริต “ปล่อยฉัน ปล่อย”
“ไม่ต้องมาดัดจริต มานี่”
“ม่าย...” พลอยร้องพร้อมกับผลักนักปราชญ์อย่างแรง
“นังพลอย” นักปราชญ์จะตามไป
“อย่า” นวลเอาขาตัวเองขัดขานักปราชญ์จนหัวคะมำล้มลง นักปราชญ์โมโหมาก
“แกนี่มันแส่ทุกเรื่องจริงๆ นังนวล”
นักปราชญ์คว้าไม้แถวนั้น ฟาดใส่นวลอย่างแรงจนหมดสติต่อหน้า ก่อนจะตามพลอยไปทันที ตะโกนก้องหุบเขา

“แกหนีฉันไม่รอดหรอก นังพลอย!”
นัยน์ตาของพลอยยามนี้วาววับแลดูเหี้ยมโหด ริมฝีปากเหยียดยิ้ม แกล้งวิ่งหนี มาตามทางเปลี่ยว อย่างมีจริต ทิ้งช่วงจังหวะ

“ช่วยด้วยๆๆ” แต่พออีกจังหวะหนึ่งก็แกล้งล้มลง “โอ๊ย”
นักปราชญ์หัวเราะตามมาทัน “เป๋...แล้วยังจะวิ่งอีก”
พลอยทำเป็นหวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่น “อย่า..อย่าทำอะไรฉันเลยนะ...ฉันขอล่ะ” พร้อมกับจะยกมือไหว้
นักปราชญ์จับมือพลอยไว้ “ความจริง..ฉันก็ไม่อยากกินของเหลือเดนไอ้เกรียงศักดิ์หรอกนะ แต่ในเมื่อไอ้เพชรมันรักแก สิ่งเดียวที่ฉันจะทำลายไอ้เพชรได้ คือทำลายแก!”
พลอยอ้อนวอนขอร้อง “ฉันขอร้องล่ะ อย่า”
“เก็บปากไว้บอกไอ้เพชรดีกว่า ว่าฉันทำอะไรกับแก นังพลอย”
นักปราชญ์กระชากพลอยเข้ามา ทำท่าจะปล้ำจูบ พลอยร้องเอามือป้อง ประสานสายตาวาบหวามยั่วยวน
“งั้น ช่วยสาธิตอย่างละเอียดให้ฉันจำได้ทุกขั้นทุกตอนด้วยนะ”
นักปราชญ์งวยงง มองอย่างไม่เข้าใจ พลอยเอามือไล้เบาๆ รอบดวงหน้านักปราชญ์ ตาเป็นประกายเชิญชวน
“ความจริง ฉันก็ไม่ได้รังเกียจคุณนะ แต่คุณเป็นผู้ชาย อย่าทำเลย ปลุกปล้ำขืนใจผู้หญิงน่ะ มันไม่แมน” นักปราชญ์ยิ่งงง “เอาเป็นว่า...ฉันเต็มใจให้คุณเองแล้วกัน”
พลอยหัวเราะระริกมีจริต แต่หากนักปราชญ์จะรู้ เสียงหัวเราะของพลอยมันช่างดังน่ากลัว

ด้านเพชรขับรถมาตามทาง หน้านิ่ว น้ำหนึ่งเป็นห่วง รู้ว่าเพชรกังวล
“นี่ถ้ารถไม่เสีย เราคงถึงบ้านเชิงเขานานแล้ว งั้นเราแจ้งตำรวจดีมั้ยคะพี่เพชร”
“แค่คำขู่ เจ้าหน้าที่คงไม่รับแจ้ง”
“แต่เราโทร.ไปบอกได้นี่คะ...ว่ากลัวจะมีเรื่องไม่ดี อยากให้เค้าช่วยมาดูหน่อย” พูดจบน้ำหนึ่งก็กดสายโทร.ออกทันที “191 นะคะ”

พลอยแกล้งทำท่าเชิญชวน และยั่วยวนพานักปราชญ์มายังลานกว้างด้านหลังบ้านเชิงเขา ในมือของพลอยถือขวดเครื่องดื่มมาด้วย
“ฉันชอบดื่ม...เราดื่มกันซักหน่อยนะคะ” พลอยเอามือคล้องแขนนักปราชญ์ ทำท่าจะดื่ม แต่เปลี่ยนใจ “คุณดื่มก่อนดีกว่า”
นักปราชญ์ดื่มเครื่องดื่มจากขวด พลอยยิ้มพอใจบอก
“อร่อยมั้ยคะ? ไวน์ผลไม้ ฉันทำเอง”
“ก็ดี”
“ดื่มเยอะๆนะคะ ดื่มเยอะๆ” พลอยจะให้ดื่มอีก
นักปราชญ์ปัดมือออก “อย่าลีลา ยังไง เธอก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี”
“เหรอ” พลอยย้อน ดวงตามองมาเหี้ยมเกรียมแกมเย้ยหยัน “คิดว่าอย่างนั้นเหรอ”
นักปราชญ์หัวเราะ เหี้ยมโหดพอกัน “งั้นเธอก็คิดถูกแล้ว ว่ามันไม่ใช่”
คราวนี้พลอยเป็นฝ่ายงงเอง นักปราชญ์เอามือบีบปากพลอยอย่างแรง
“เธอคิดเหรอ ว่าคนที่เพียบพร้อมทุกอย่างอย่างฉัน จะพิศวาสผู้หญิงที่ทั้งแก่ ขาเป๋
แถมยังเป็นเมียน้อยคนอื่นอย่างเธอ...” นักปราชญ์กระแทกเสียงเย้ย “มันไม่มีทาง”

อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 17 วันที่ 22 พ.ค. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manage