อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 10/3 วันที่ 3 พ.ค. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 10/3 วันที่ 3 พ.ค. 56

พลอยที่ตั้งท่าจะเดินไปทางอื่นหันมาทางเสียง พจนีย์แอบอยู่หลังต้นไม้เห็นพลอยก่อน
พจนีย์เอามืออุดปากตัวเองพร้อมกับชักขาคุดคู้เอาไว้อย่างรวดเร็ว ค่อยๆ คลานหลบไปใต้พุ่มไม้
ส่วนพลอยค่อยๆ เดินมาจนถึงบริเวณจุดที่พจนีย์ซ่อนตัวอยู่ พลอยกวาดสาตามองไปรอบๆ ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ จึงเอามือปัดไปตามพุ่มไม้ มือของพลอยอยู่เหนือศีรษะของพจนีย์นิดเดียวเท่านั้น พจนีย์แทบช็อก ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ พลอยกวาดตามอง กิ่งไม้ร่วงลงโดนศีรษะพจนีย์พอดี พจนีย์เจ็บแต่ไม่กล้าร้อง พลอยมอง จนแน่ใจว่าไม่มีใคร จึงเดินหัวเสียไป พจนีย์ถอนหายใจโล่งอก หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด
ขณะเดียวกัน รจนาครุ่นคิดอยู่ในบ้าน จิตใจเต็มไปด้วยความอิจฉา
“เราต้องบอกให้พี่เพชรรู้เรื่องที่พี่พจน์ทำร้ายน้ำหนึ่ง” รจนาหยิบมือถือมากด แต่ไม่ติด รจนานิ่วหน้า “หรือพี่
เพชรยังไม่กลับจากกรุงเทพฯ”
รจนาคิดในใจ


“คนที่จะได้ครอบครองพี่เพชรต้องเป็นเรา ไม่ใช่พี่พจน์”
รจนาลุกขึ้นเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋ารวดเร็วแล้วเดินออกไป ลับร่างของรจนาเพียงครู่เดียว พจนีย์ก็วิ่งหน้าตา
ตื่นเข้ามา หอบแฮ่กๆๆๆ
“รจ...รจ...รจ”
เงียบไม่มีเสียงตอบ พจนีย์วิ่งหาน้องพลางตะโกนเรียก
“รจ...รจอยู่ไหน พี่มีเรื่องจะบอก โธ่เอ๊ย! ไปไหน”
พจนีย์กวาดตามอง แปลกใจที่รจนาไม่อยู่ งงว่าน้องสาวไปไหนเอายามนี้?

ฝ่ายมะพร้าวขับรถมาส่งน้ำหนึ่ง พอถึงหน้าประตูคฤหาสน์ น้ำหนึ่งก็รีบบอก
“จอดหน้าบ้านนี่แหละ”
มะพร้าวจอดรถ ในจังหวะที่ดาราณีซึ่งอยู่ในห้องชั้นบนของบ้าน มองจากหน้าต่างลงมาเห็น รถคันเก่าๆ แล่นมาจอด
“รถใคร?” ดาราณีเพ่งมองอย่างแปลกใจ
จนเมื่อน้ำหนึ่งเดินลงมาจากรถพร้อมกับมะพร้าว ดาราณีถึงกับตะลึง
“น้ำหนึ่ง”
นวลที่ทำงานอยู่แถวนั้นชะงัก หันมามองท่าทีตื่นเต้น “คุณน้ำหนึ่ง”
ดาราณีละตัวจากหน้าต่าง เดินไปด้านล่างอย่างตื่นเต้นดีใจ นวลรีบตาม ตื่นเต้นดีใจไม่แพ้กัน

น้ำหนึ่งบอกขอบคุณมะพร้าว
“ขอบคุณมากที่อุตส่าห์มาส่ง”
มะพร้าวมองบ้านอย่างตื่นตะลึง เห็นป้ายชื่อ บ้านรมต.เกรียงศักดิ์ “บ้านคุณเหรอ”
“ถ้าไม่ใช่บ้านฉัน แล้วฉันจะให้มะพร้าวมาส่งบ้านใคร”
น้ำหนึ่งพูดยิ้มๆ ไม่ทันเห็นด้านหลังว่าดาราณีกับนวลเดินออกมา มะพร้าวเองก็ไม่ทันเห็น มัวแต่มองน้ำหนึ่ง
“บ้านคุณออกจะรวย คุณเองก็เป็นถึงลูกรมต.ไม่น่าเป็นเมียน้อยใครเลย”
“ฉันไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร”
“จริงไม่จริงฉันไม่รู้...แต่ผู้หญิงที่ถูกด่าว่าเป็นเมียน้อย ยังไงคำว่าเมียน้อยก็ติดอยู่ตรงหน้าผากแล้วคุณเองก็เหมือนกัน”
น้ำหนึ่งอึ้ง มะพร้าวเดินขับรถออกไปท่าทีเสียความรู้สึก น้ำหนึ่งเองก็เสียใจ พอหันกลับมาก็สะดุ้ง หน้าซีด เมื่อเจอ ดาราณี นวล ที่ยืนน้ำตาซึมมองมา
“คุณแม่”
ดาราณีไม่พูดอะไร สะบัดหน้าเดินเข้าบ้านไป น้ำตากลบนัยน์ตา น้ำหนึ่งใจหาย ใจเสีย รู้สึกผิดและสงสารแม่ ที่ตัวเองบ้าผู้ชาย บ้าความรักจนเกิดเรื่องมากมาย
“คุณแม่”
น้ำหนึ่งวิ่งตามดาราณีเข้าบ้านไป นวลมองตามปวดหัวใจไม่ต่างกัน

ดาราณีเดินหนีเข้าไปในบ้านน้ำตาไหลพราก น้ำหนึ่งวิ่งตามท่าทีร้อนใจ
“คุณแม่”
ดาราณีบอกเสียงดัง “ไม่ต้องมาเรียกแม่”
น้ำหนึ่งอึ้ง นวลที่ตามมาด้านหลัง ได้ยินก็อึ้งเช่นกัน ดาราณีหันมาทั้งน้ำตา
“แม่พยายามคิดมาตลอด ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือ แม่ไม่คิดเลย..น้ำหนึ่งจะเป็นเมียน้อยเค้าจริงๆ”
“น้ำหนึ่งไม่เคยเป็นเมียน้อยใคร แต่ทุกอย่าง มันเกิดขึ้นเพราะคุณพ่อ” น้ำหนึ่งว่า
ดาราณีสังหรณ์ใจ ถามเสียงสั่น “คุณพ่อเกี่ยวอะไร”
“คุณพ่อ..เคยหลอกผู้หญิงที่ชื่อพลอยประดับมาเป็นเมียน้อยใช่มั้ยคะ”
ดาราณีอึ้ง ตะลึงกับคำถาม “น้ำหนึ่ง”
สายตาสองแม่ลูกประสานกัน ดาราณีครุ่นคิด น้ำหนึ่งเห็นสายตาของดาราณีก็เข้าใจ ว่ามันคือเรื่องจริง
สองแม่ลูกน้ำตาไหล รวมทั้งนวล

พลอยลากร่างท่วมเลือดของเกรียงศักดิ์ที่ยังหมดสติ มายังห้องร้างเก็บของในบ้านเชิงเขา ห้องนั้นมืดทึบ ผนังเป็นปูนเปลือย แลดูน่ากลัว พลอยมองร่างของเกรียงศักดิ์ ก่อนเดินช้าๆ ไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาทำให้เกรียงศักดิ์แผ่วเบา อ่อนโยน
“พลอยรักท่าน...พลอยไม่ทำให้ท่านตายหรอกค่ะ”
พลอยลูบไล้วงหน้าของเกรียงศักดิ์แววตาแสนสับสน รัก โกรธ เกลียด เสียใจ น้อยใจระคนอยู่ในนั้น ก่อนที่ดวงตาจะแข็งกร้าว
“แต่ท่านต้องอยู่กับพลอย...ทรมานเหมือนพลอย”
พลอยตะเบ็งเสียงหัวเราะร่า น้ำเสียงฟังแล้วแสนหลอกหลอน

ขณะเดียวกันเพชรขับรถมาด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของเกรียงศักดิ์ เสียงของพจนีย์ดังก้อง
“ก็น้องน้ำหนึ่งสุดที่รักของพี่เพชร บีบคอพี่พลอยจริงๆ นี่ คงเหมือนที่พี่พลอยบอกแหละ รำคาญ ที่ต้องอยู่ดูคนพิการ”
เพชรคิดในใจ “พี่ดูเธอผิดไปจริงๆ น้ำหนึ่ง เธอมันเลว เหมือนพ่อแม่เธอ”

สีหน้าเพชรกราดเกรี้ยว ผิดหวังในตัวน้ำหนึ่ง ขณะที่เท้าเหยียบคันเร่งจมมิดไมล์
ด้านดาราณีนิ่งอึ้ง ไม่คาดคิดว่าความลับที่เก็บไว้มานาน จะเปิดเผยในวันนี้ น้ำหนึ่งถามซ้ำ

“คุณพ่อเคยหลอกผู้หญิงที่ชื่อพลอยประดับมาเป็นเมียน้อยใช่มั้ยคะ”
นวลปราม ท่าทียังดูเกรงใจอยู่ “คุณน้ำหนึ่ง ถามอะไรคุณแม่อย่างนั้นคะ”
น้ำหนึ่งมองดาราณี รอฟังคำตอบ “คุณแม่ไม่ตอบ แสดงว่า...มันเป็นเรื่องจริง”
ดาราณีเสียงเครือรู้สึกเจ็บปวด และน้อยใจ “น้ำหนึ่งเห็นใจผู้หญิงคนนั้น แต่น้ำหนึ่งไม่คิดถึงหัวใจแม่”
“คุณแม่ตอบมาก่อนสิคะ..ว่าจริงหรือเปล่า คุณพ่อหลอกผู้หญิงคนนั้นมาเป็นเมียน้อยจริงหรือเปล่า”
“คุณพ่อไม่เคยหลอกใคร ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่เข้าหาคุณพ่อเอง”
น้ำหนึ่งมองมารดาด้วยสายตาผิดหวัง “คุณแม่ก็เหมือนผู้หญิงทั้งโลก เข้าข้างสามีตัวเอง จนมองเห็นแต่ความผิดของคนอื่น”
“น้ำหนึ่ง!” ดาราณีชักโกรธ
“คุณแม่รู้มั้ยคะ ว่าผู้หญิงคนนั้นเค้าต้องทุกข์ทรมานขนาดไหน เค้าพิการ เค้าเป็นโรคประสาท เค้าเป็นบ้า เพราะคุณพ่อ”
ดาราณีสุดทนไหว ตบหน้าน้ำหนึ่งอย่างแรง จนหน้าหัน
“คุณแม่” น้ำหนึ่งเหลียวขวับมามองอย่างเสียใจ ร้องไห้ออกมาด้วยความผิดหวัง
“ลูกหลงผู้ชายอย่างที่คุณพ่อว่าจริงๆ” ดาราณีด่าซ้ำ
“คุณแม่โกหกตัวเองต่างหาก...คุณพ่อหลอกผู้หญิง ทำลายผู้หญิง และคุณแม่ก็เลือกที่จะเข้าข้าง
คุณพ่อปกป้องคุณพ่อ แต่ทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ด้วยการโยนความผิดให้กับเค้าน้ำหนึ่งไม่คิดจริงๆ ว่าคุณแม่จะเป็นคนแบบนี้”
น้ำหนึ่งยังบ้าผู้ชายจนแสดงอาการกร้าวร้าวกับบุพการี แล้ววิ่งหนีออกไปทันที
สองคนตกใจ “น้ำหนึ่ง” / “คุณน้ำหนึ่ง”
ดาราณีและนวลวิ่งตามน้ำหนึ่งไป

น้ำหนึ่งวิ่งเตลิดออกมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพชรขับรถมาจอดพอดี น้ำหนึ่งเห็นเพชรก็ดีใจ เพชรลงจากรถ น้ำหนึ่งร้อง
“พี่เพชร”
เพชรเดาเรื่องออกรีบบอก และพาขึ้นรถ “รีบขึ้นรถเร็วน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งวิ่งขึ้นรถ ดาราณีกับนวลวิ่งออกมาพอดี เห็นทุกอย่าง
“อย่าไปน้ำหนึ่ง” / “คุณน้ำหนึ่งอย่าไป”
“พาน้ำหนึ่งลงมาเดี๋ยวนี้” ดาราณีตะโกนก้อง
เพชรยิ้มเย้ยเดินมาหาดาราณีอย่างท้าทาย “คุณหญิงก็พาลงมาอีกสิครับ ถ้าคิดว่าทำได้”
นวลคำราม “ไอ้เพชร!”
“น้ำหนึ่งลงมา”
“ไม่ค่ะ...น้ำหนึ่งไม่ลง”
เพชรยิ้มหยัน “ที่ผ่านมา ผมไม่เคยพาลูกสาวคุณหญิงหนีนะครับ...มีแต่ลูกสาวคุณหญิงหนีตามผมเอง”
“ไอ้เพชร” ดาราณีโกรธจนตัวสั่น ตบหน้าผลัวะ
“ไอ้เลว” นวลด่าซ้ำ
“ถึงผมจะชั่วจะเลวยังไงก็ไม่เท่าสิ่งที่พวกคุณทำกับผม พี่ผม แม่ผม พวกคุณต้องรับผิดชอบ”
เพชรผลุนผลันขึ้นรถ สองคนตะโกน
“อย่าไปน้ำหนึ่ง” / “คุณน้ำหนึ่ง อย่าไป”
เพชรไม่สนพาน้ำหนึ่งขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ดาราณีกรีดร้องจนเป็นลมร่วงอยู่ตรงนั้น นวลประคองอย่างตกใจ
“คุณหญิง” นวลมองตามน้ำหนึ่งอย่างเจ็บปวด “แล้วคุณน้ำหนึ่ง จะเสียใจในสิ่งที่ทำ”

เวลาต่อมา เพชรขับรถมาจอดที่บ้านไร่เพื่อนของเขา บรรยากาศร่มรื่น แต่ก็ดูเงียบสงัดและวังเวง ฟ้าเริ่มมืดแล้ว
“ที่ไหนคะพี่เพชร”
เพชรบอกเสียงแข็ง ท่าทีเปลี่ยนไป “ที่ไหนก็ได้...ไม่ใช่นรกแล้วกัน”
น้ำหนึ่งงง “พี่เพชร”
“ฉันเคยคิดที่จะปราณีเธอ แต่สุดท้าย เธอทำร้ายพี่ฉัน พ่อแม่เธอก็ทำร้ายแม่ฉัน พี่ฉัน ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้อีกแล้วน้ำหนึ่ง”
เพชรฉุดกระชากลากถูน้ำหนึ่งลงจากรถ น้ำหนึ่งตกใจ
“อย่าทำน้ำหนึ่งอย่างนี้พี่เพชร ไหนเราว่าจะดูแลกัน ช่วยกัน เข้าใจกัน”
“วันนั้น มันไม่ใช่วันนี้”
น้ำหนึ่งฟังแล้วผิดหวัง “พี่เพชร”
“มานี่”
เพชรไม่สนลากน้ำหนึ่งไป น้ำหนึ่งได้แต่ร้องกรี๊ดๆ ร่างปลิวตามแรงฉุดของเพชรไป

ตามทางเดิน บริเวณบ้านไร่ เพชรลากน้ำหนึ่งมา น้ำหนึ่งยื้อตัวพูดอ้อนวอน
“พี่เพชร...อย่า อย่า!”
“ฤทธิ์เยอะนักใช่มั้ย”
เพชรลากน้ำหนึ่งลงไปในคลอง น้ำหนึ่งยื้อมือเอาไว้
“อย่า! อย่า พี่เพชร..น้ำหนึ่งว่ายน้ำไม่เป็น อย่า”
เพชรไม่ฟังเสียงเหวี่ยงน้ำหนึ่งลงไป น้ำหนึ่งยื้อมือเพชรไว้แน่น ทำให้ทั้งสองคนตกลงไปด้วยกัน
“ว้าย”
เพชรโมโหที่ตกลงไปด้วย “น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งคว้าตัวเพชรกอดเอาไว้แน่น เพราะจะจมน้ำ เพชรดันตัวออก
“ปล่อย”
“ไม่! น้ำหนึ่งกลัว อย่าทิ้งน้ำหนึ่ง”
“บอกให้ปล่อย”
เพชรเหวี่ยงน้ำหนึ่งออกไปเต็มแรง ร่างบอบบางของน้ำหนึ่งลอยละลิ่วไปกระทบผิวน้ำ
“ว้าย!”
น้ำหนึ่งแสร้งทำทีเป็นหมดแรงจะจมน้ำ ร้องลั่น
“พี่เพชร...ช่วยน้ำหนึ่งด้วย พี่เพชร” แล้วทิ้งร่างจมน้ำไป
เพชรทำใจแข็งไม่สนใจ น้ำหนึ่งก็วัดใจ ปล่อยตัวเองจมลงน้ำไป เพชรก้าวจะขึ้นมาบนฝั่ง เสียงของน้ำหนึ่ง
เงียบ เพชรหันไปมอง เห็นน้ำหนึ่งจมน้ำ เพชรใจหายวับร้องเรียก
“น้ำหนึ่ง”
เพชรกระโจนพรวดทีเดียวถึงตัวน้ำหนึ่ง กอดประคองขึ้นมา น้ำหนึ่งแกล้งหมดสติ เพชรอุ้มน้ำหนึ่งขึ้นมาวางไว้บนพื้นดิน พร่ำบอก
“อย่าเป็นอะไรนะน้ำหนึ่ง”
เพชรตบหน้าน้ำหนึ่งเบาๆ น้ำหนึ่งนอนนิ่ง เพชรก้มลงจะผายปอดให้ จู่ๆ น้ำหนึ่งร้องไห้โฮออกมา อย่างตื้นตัน
เพชรงง เพ่งมอง อย่างแปลกใจ

“น้ำหนึ่ง”

สองคนสบตากัน เพชรเห็นดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์เต็มไปด้วยความรักและภักดี

“ยังไงพี่เพชรก็ห่วงน้ำหนึ่ง แล้วทำไมพี่เพชรไม่ฟังน้ำหนึ่งบ้างคะ” น้ำหนึ่งอ้อนวอนทั้งน้ำตา “ทำไมพี่เพชร
ไม่ฟังน้ำหนึ่งบ้าง”
เพชรสงสาร แต่ทำใจแข็ง “เพราะครอบครัวของเธอใจร้าย พี่ไว้ใจเธอไม่ได้น้ำหนึ่ง”
เพชรเดินหนีไป น้ำหนึ่งร้องไห้โฮ ท้องฟ้ามืดทะมึน และจู่ๆ สายฝนก็เทกระหน่ำลงมา น้ำหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่กลางสายฝน มองเพชรที่เดินห่างออกไปทุกทีๆ

ตกกลางคืน ที่ด้านนอกบ้านฝนตกหนัก เพชรอยู่ในบ้านหน้าตาว้าวุ่น โกรธ ห่วง สงสารตีกันนุงนัง บางจังหวะทำท่าจะเดินออกไป แต่เปลี่ยนใจเดินกลับเข้ามาเหมือนเดิม บอกตัวเอง
“จะเป็นจะตายก็ช่าง ไม่ต้องไปสนใจ เพชร”
เพชรล้มตัวลงนอน เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมเสียงเรียกผะแผ่ว เพชรสะดุ้งหันไปมองที่ประตู
“พี่เพชร”
แววตาของเพชรอ่อนลงนึกห่วงขึ้นมาแว่บหนึ่ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นโกรธ พยายามทำใจแข็ง ส่วนด้านนอก น้ำหนึ่งเนื้อตัวเปียกปอน เริ่มหนาวสั่น พูดอ้อนวอน
“พี่เพชร น้ำหนึ่งกลัว น้ำหนึ่งหนาว เปิดประตูให้น้ำหนึ่งหน่อย”
เพชรเงียบทำหน้าตาหงุดหงิดแต่ใจอ่อนยวบ น้ำหนึ่งอ้อนวอนอีก พร้อมกับเคาะประตู
“พี่เพชร...เปิดประตูให้น้ำหนึ่งหน่อยนะ”
“ไม่!”
“พี่เพชร”
เพชรเปิดประตูออกไป น้ำหนึ่งแอบยิ้มดีใจ แต่เพชรกลับบอก
“ฉันให้โอกาสเธอหนี...เพราะถ้าเธออยู่ที่นี่...เธอจะต้องถูกทรมานน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งส่ายหน้า “น้ำหนึ่งไม่ไปไหน น้ำหนึ่งรักพี่เพชร และน้ำหนึ่งก็รู้ว่าพี่เพชรรักน้ำหนึ่ง”
เพชรโกรธที่ถูกจี้ใจดำ “ฉันไม่ได้รักเธอ...”
“ถึงพี่เพชรจะบอกว่าไม่รัก แต่สายตาพี่เพชรรักน้ำหนึ่ง...น้ำหนึ่งขอย้ำคำเดิม น้ำหนึ่งจะอยู่กับพี่เพชร ทำให้พี่เพชรกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้” น้ำหนึ่งเพ้อฝัน
“ไม่มีทาง น้ำหนึ่ง ไม่มีทาง”
เพชรปิดประตู น้ำหนึ่งนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีน้ำตา มีตาสายตาที่เด็ดเดี่ยวพร้อมเผชิญอุปสรรคทุกอย่าง

เช้าวันต่อมาดาราณีนั่งร้องไห้อยู่ในห้อง นวลเอาอาหารมาให้
“ทานอะไรบ้างค่ะคุณหญิง”
“ฉันกินไม่ลง เหมือนที่เค้าว่าจริงๆ นวล ผู้หญิงเวลามีความรัก โง่ทุกคน”
“คุณน้ำหนึ่งไม่ผิด คนที่ผิด คือพลอย” นวลว่า
ดาราณีเสียงเครือสั่น “เหมือนที่น้ำหนึ่งพูดนั่นแหละ ฉันเข้าข้างท่าน ฉันปกป้องท่าน พลอยไม่ผิด”
“ผิดค่ะ เพราะพลอยเข้าหาท่าน ไม่ใช่ท่านเข้าหาพลอย”
นวลย้ำเด็ดเดี่ยวเข้าข้างดาราณีเต็มที่

เกรียงศักดิ์ฟื้นตื่นขึ้นมา ยังงงๆ นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“พลอยทำแผลให้ท่านแล้ว เดี๋ยวท่านก็หาย”
เกรียงศักดิ์สะดุ้งหันมามอง พอเห็นเป็นพลอย เกรียงศักดิ์ก็ขยับถดตัวออกห่าง ทั้งกลัวและรังเกียจ พลอยมองอย่างเจ็บปวด
“ท่านกลัวพลอยหรือคะ หรือท่านรังเกียจ”
เกรียงศักดิ์มองด้วยความสงสัย “พลอยต้องการอะไร”
พลอยเค้นคำพูดนิ่งๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “อยากให้ท่านได้รู้รสความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน เหมือนอย่างพลอยบ้าง” จังหวะนี้มองเกรียงศักดิ์ แววตาหลอนๆ “ผู้ชายเจ้าชู้ เห็นแก่ได้ มันไม่ควรจะอยู่อย่างสุขสบาย...แต่พลอยไม่ใจดำขนาดนั้นหรอก” พลางคว้าจานขึ้นขึ้นมา “ทานข้าวค่ะ”
เกรียงศักดิ์ตวัดเสียง “ฉันไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องทานค่ะ จะได้ทานยา”
พลอยยัดข้าวใส่ปากเกรียงศักดิ์ ถูกเกรียงศักดิ์ปัดมือออก บอกเสียงแข็ง
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่กิน”
พลอยมองจ้องเขม็งสู้สายตา “พลอยก็บอกท่านเหมือนกัน...ท่านต้องกิน” พร้อมกับตักข้าวยัดใส่ปากเกรียงศักดิ์อีก
เกรียงศักดิ์ด่าด้วยความโกรธ “พลอยเป็นบ้า!”
พลอยหัวเราะร่วน “พลอยไม่บ้าคนเดียวหรอกค่ะ ต่อไปคนที่บ้าก็คือครอบครัวของท่าน นังดาราณี นังน้ำ
หนึ่ง มันต้องบ้าเหมือนพลอย” ท้ายประโยคพลอยบอกเสียงเข้ม
เกรียงศักดิ์มองจ้อง นึกได้ว่าบัดนี้พลอยบ้าไปแล้วจริงๆ น้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งเวทนา สงสาร และหวาดกลัว
“พลอย”
พลอยมองจ้องหน้าเกรียงศักดิ์ หัวเราะเบาๆ “ท่านจำไว้นะคะ...ลูกเมียท่าน จะต้องเป็นเหมือนพลอย”
พูดจบพลอยก็เหวี่ยงจานข้าวลอยหวือมาเกือบถูกหัวเกรียงศักดิ์ ก่อนที่พลอยจะลุกเดินไป เกรียงศักดิ์ลุก
ตามแต่ขาเจ็บ พอไปถึงประตู พลอยก็ปิดประตูโครมใส่หน้า ล็อกด้านนอกเรียบร้อย เกรียงศักดิ์ทุบประตู ร้องบอก
“เปิดประตูให้ฉัน พลอย!”
พลอยหัวเราะ ค่อยๆ เดินออกไป เกรียงศักดิ์รู้ในทันที ว่าหยุดพลอยไม่ได้แล้ว

ด้านเพชรเปิดประตูบ้านออกมา แต่แล้วต้องชะงัก เมื่อเห็นน้ำหนึ่งนั่งอยู่ตรงระเบียงบ้านไม่ยอมไปไหน เพชรถามห้วน
“ตกลงเธอไม่ไปจริงๆ”
“น้ำหนึ่งบอกแล้วไงคะ...จะอยู่กับพี่เพชร จนกว่าพี่เพชรจะกลับมาเป็นคนเดิม คนเดิมที่รักน้ำหนึ่ง”
เพชรใจแป้ว เสียใจเหมือนกัน “พี่รักเธอไม่ได้อีกแล้วน้ำหนึ่ง ครอบครัวพี่ต้องพังเพราะพวกเธอ”
เพชรจะเดินเข้าบ้าน น้ำหนึ่งบอกอีก

อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 10/3 วันที่ 3 พ.ค. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manage