อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 12/3 วันที่ 9 พ.ค. 56


อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 12/3 วันที่ 9 พ.ค. 56

เวลาเดียวกันนั้นที่ห้องโถงในคฤหาสน์เกรียงศักดิ์ เสียงโทรศัพท์บ้านดัง นวลเดินมารับ
“บ้านท่านเกรียงศักดิ์ค่ะ”
“ป้านวล...นี่น้ำหนึ่งนะคะ”
นวลตกใจระคนดีใจ “คุณน้ำหนึ่ง”
ดาราณีที่นั่งรถเข็นอยู่แถวนั้นหันขวับมา น้ำหนึ่งรีบบอก
“อย่าบอกแม่นะป้านวลว่าน้ำหนึ่งโทร.มา น้ำหนึ่งไม่อยากให้คุณแม่ไม่สบายใจคุณพ่อไม่อยู่บ้านเหรอคะ”

นวลอึกอัก มองดาราณี น้ำหนึ่งไม่ได้ยินเสียงตอบถาม
“ว่าไงป้านวล พ่อไม่อยู่บ้านเหรอคะ”
“ค่ะ”
“คุณพ่อไปไหน ป้านวลรู้มั้ย”
“ไม่ทราบค่ะ คุณน้ำหนึ่งขา...กลับมาบ้านเถอะนะคะ คุณแม่…”
ดาราณีสวนออกมา “นวลอย่า! ฉันจะคุยกับลูกเอง” นวลรีบยื่นโทรศัพท์ให้


น้ำหนึ่งได้ยินเสียงลอดเข้ามา “คุณแม่...คุณแม่สบายดีมั้ยคะ”
“สบายดี แล้วลูกล่ะ”
“น้ำหนึ่งก็สบายดีค่ะ...คุณแม่คะ..น้ำหนึ่งรักคุณแม่...น้ำหนึ่งไม่ได้ทอดทิ้งคุณแม่ไปไหนนะคะ น้ำหนึ่งกำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่ มันต้องดีสำหรับเราทุกคนค่ะ”
พูดเท่านั้นน้ำหนึ่งก็วางสาย รู้สึกผิดต่อดาราณีอยู่เหมือนกัน

ดาราณีน้ำตาหยด แต่ไม่มีอาการฟูมฟาย นวลถาม
“ทำไมคุณหญิงไม่บอกคุณน้ำหนึ่งล่ะค่ะ...ว่าคุณหญิง...”
ดาราณีตัดบท “ฉันไม่ได้เป็นไรนวล”
“ทำไมจะไม่เป็น”
“ฉันไม่อยากให้ลูกเป็นห่วง แค่รู้ว่าลูกอยู่ดี มีความสุข ฉันก็สบายใจ เหลือแต่ท่านเท่านั้น ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง”
นวลฟังแล้วทึ่ง เห็นแต่ความเข้มแข็งในร่างกายอันทรุดโทรมของคุณหญิงดาราณี

ขณะเดียวกันเกรียงศักดิ์ร้องคุ้มคลั่ง ออกมาคำเดียวก่อนที่จะหยุดนิ่ง เครียดจัดน้ำหนึ่งสะดุ้งใจเต้นรัว รีบวิ่งไปยังต้นเสียงทันที

ส่วนพจนีย์ย่องไปนั่งลงที่เตียงข้างๆ เพชร เพชรรับรู้แต่คิดว่าน้ำหนึ่ง จึงรีบหลับตาลงทำทีเป็นไม่สนใจ พจนีย์ยิ้มย่ามใจค่อยๆ ทรุดตัวลงนอนข้างๆ กอดร่างเพชรเอาไว้แน่น เพชรลืมตาโพลง ด้วยน้ำหนึ่งไม่เคยทำกิริยาอย่างนี้ แต่ไม่ได้นึกว่าเป็นใครอื่น แค่รู้สึกแปลกๆ
พจนีย์เห็นเพชรนิ่งก็ยิ่งได้ใจใหญ่ กอดเพชรอย่างรักใคร่ เพชรทำหน้างง ขณะที่พจนีย์เริ่มกอดจูบลูบไล้ซุกไซ้ มือเป็นปลาหมึกล้วงควักอย่างเมามันส์อารมณ์เตลิด
เพียงเท่านั้นเพชรก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่น้ำหนึ่งแน่ เพชรหันขวับพอเห็นชัดๆ ว่าเป็นพจนีย์ ก็ตกใจมาก
“พจน์ ปล่อยพี่” ไม่พูดเปล่าเพชรผลัก ดันร่างพจนีย์ออกสุดแรง
พจนีย์กอดไว้แน่น “ไม่ปล่อย...พจน์ไม่ปล่อย”
เพชรฉุน พยายามดันออกอีก “พี่บอกให้ปล่อย”
“ไม่ปล่อย แถมยังจะจูบ” พจนีย์ทำหน้าทะเล้นใส่ “จูบๆๆๆๆจูบพี่เพชรให้ตายไปเลย” ว่าแล้วก็ทำปากจูบๆๆ เพชรพัลวัน
เพชรร้องลั่น “พจน์” ผลักออก พจนีย์ไม่ยอม เพชรตะโกนสุดเสียง “ปล่อย”

ขณะที่น้ำหนึ่งวิ่งไปตามต้นเสียง หัวใจเต้นรัวเร็ว แต่แล้วต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเพชร
“พี่เพชร” น้ำหนึ่งเหลียวขวับ แต่กลับได้ยินอีกเสียงใกล้ๆ ตัว
“เอ็งจะร้องทำไมวะไอ้ใส”
น้ำหนึ่งเพ่งสายตามอง เห็นชายแก่คนหนึ่ง เดินจูงคนหนุ่มท่าทางไม่สมประกอบผมเผ้ารุงรังเดินมานอกบริเวณบ้านเชิงเขา ชายแก่เห็นน้ำหนึ่ง ก็รีบบอก
“ขอโทษ...หลานลุงมันเป็นบ้า”
น้ำหนึ่งหน้าแหย “เป็นบ้า”
“มันชอบร้องโหยหวนอยู่บ่อยๆ นี่ก็หนีออกมา ขอโทษที่ทำให้ตกใจ”
ชายชราจูงหลานออกไป น้ำหนึ่งมองตามพร้อมกับพึมพำ
“ต้นเสียงคือคนนี้เหรอ” น้ำหนึ่งลังเล
ฝ่ายพจนีย์กอดรัดเพชรแน่น พร้อมกับระดมจูบชุดใหญ่ เพชรผลักออก บอกอย่างกราดเกรี้ยว
“ออกไปเดี๋ยวนี้พจน์ ออกไป”
พจนีย์ยิ้มยั่ว “ก็บอกแล้วไงคะ ไม่ออก คืนนี้แหละ พี่เพชรจะต้องตกเป็นของพจน์ซะที”
“เฮ้ย! พูดออกมาได้ยังไง ไม่มียางอาย”
“พจน์ถือคติ ด้านได้ อายอด มะค่ะพี่เพชร” พจนีย์โถมทั้งตัวเข้าหาอีก
เพชรแหกปากร้องลั่น “เฮ้ย”
ร่างของเพชรล้มตัวลงบนเตียง พจนีย์ขึ้นทาบทับทันที

น้ำหนึ่งตาโต ได้ยินเสียงเพชรอีก รู้สึกตกใจ รีบวิ่งย้อนกลับเข้ามาในบ้าน
พจนีย์หน้ามืดกระเหี้ยนกระหือรือ จะปล้ำเพชรทำผัวให้ได้ เพชรอายแทนบอกอีก

“ปล่อยพี่นะพจน์ ทำอย่างนี้ไม่อายรึไง”
“ไม่อาย..เพราะพจน์รู้ พี่เพชรไม่ได้อยากให้พจน์ปล่อยจริงๆ”
เพชรมองเซ็งๆ ไม่อยากเชื่อว่าพจนีย์จะดื้อด้านเพียงนี้ น้ำหนึ่งวิ่งมาถึงหน้าห้องพอดี ได้ยินพจนีย์ย้อนเพชรเสียงออดอ้อนๆ
“ก็มันจริงมั้ยล่ะคะ ร้องอยู่ได้ ว่าปล่อยๆๆ แต่ไม่เห็นจะทำอะไร”
“อยากให้พี่ทำใช่มั้ย”
พจนีย์หัวเราะคิกคัก “ค่ะ...อยากให้พี่เพชรทำ จะแบบพระเอกนางเอก ตบ จูบก็ได้...พจน์ตบ พี่เพชรจูบ”
น้ำหนึ่งตัวแข็งทื่อ หัวใจแทบสลาย ยิ่งได้ยินเสียงเพชรถามพจนีย์
“ตบจูบ…”
“ค่ะ..ตบจูบๆๆ”
เพชรพูดเร็วๆ “ตบจูบไม่มี...มีแต่...”
พูดจบเพชรก็ผลักพจนีย์อย่างแรงจนร่างพจนีย์ร่วงตกเตียงร้องสุดเสียง
“โอ๊ย”
น้ำหนึ่งยิ้มโล่งใจ และดีใจ ขณะที่เพชรลุกมาจากเตียง เปิดไฟแล้วด่าว่าพจนีย์อย่างไม่แยแส
“ตอนแรกพี่ก็ไม่อยากทำอะไรที่มันรุนแรง เพราะเดี๋ยวจะหาว่าทำร้ายผู้หญิง ไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่พอพจน์ทำขนาดนี้ พี่ทนไม่ไหวจริงๆ ทำไมไม่รักศักดิ์ศรีตัวเองบ้างซะเลยพจน์”
พจนีย์ที่นั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้นสุดจะอาย แถหน้าด้านๆ
“ก็พจน์เป็นเมียพี่เพชร”
เพชรถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“จะให้พี่ย้ำกี่ครั้งว่ามันไม่จริง แล้วก็เลิกเร่เข้าหาผู้ชายได้แล้ว มันทุเรศ”
พจนีย์ครวญเสียงเครือ ทั้งเจ็บตัวทั้งอับอาย “พี่เพชร” เสียใจจนน้ำตาจะไหล
เพชรมองมาอย่างอ่อนใจ “ที่พี่ด่าเพราะเห็นพจน์เป็นน้องเป็นนุ่ง คุณค่าของผู้หญิง อยู่ที่การวางตัว อย่าทำอย่างนี้ให้ใครเค้าดูถูกอีก”
“งั้น...น้ำหนึ่งก็ไม่ต่างจากพจน์”
เพชรอึ้ง น้ำหนึ่งเองได้ยินก็อึ้ง สะท้อนใจ พจนีย์พูดต่อ
“เพราะน้ำหนึ่งก็หนีตามผู้ชาย พักค้างอ้างแรมกับพี่เพชร แต่ที่พี่เพชรไม่เคยว่า..เพราะพี่เพชรรักน้ำหนึ่ง พี่เพชรยินดีที่มีน้ำหนึ่ง ฮึ! เหมือนอย่างที่เค้าบอก ความรักมันบังตา พี่เพชรก็ไม่หนีไม่พ้น ที่รักผู้หญิงใจง่าย ให้ท่าผู้ชาย”
พจนีย์ลุกเดินออกไป ด้วยดวงตามุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ในการที่จะจับเพชรเป็นผัว
ส่วนด้านนอก จังหวะที่พจนีย์เปิดประตูเดินออกมา น้ำหนึ่งรีบหลบ ยางอายทำงานขึ้นมาทันที

พจนีย์เดินออกมานอกบ้านแล้ว หยุดเหลียวมองไปทางตัวบ้านเชิงเขา เห็นบ้านหลังใหญ่
ตั้งตระหง่าน พจนีย์มองตาวาวคิดในใจ
“ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล พจน์จะเอาความดีเข้าสู้ ให้พี่เพชรเป็นของพจน์ให้ได้”
พจนีย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะปรับสีหน้าเป็นเด็กสาวใส่ซื่อ และยิ้มร้ายให้กับตัวเองอีกที

เพชรนั่งในห้อง คิดถึงคำพูดของพจนีย์เมื่อครู่นี้
“น้ำหนึ่งก็ไม่ต่างจากพจน์ เพราะน้ำหนึ่งก็หนีตามผู้ชาย พักค้างอ้างแรมกับพี่เพชร แต่ที่พี่เพชรไม่เคยว่า...เพราะพี่เพชรรักน้ำหนึ่ง”
เพชรว้าวุ่นใจ สำนึกถูกผิด ตีกันให้วุ่น จังหวะนี้ประตูถูกเปิดเข้ามา เพชรมองก็เห็นน้ำหนึ่ง
“น้ำหนึ่งได้ยินที่คุณพจน์คุยกับพี่เพชร อย่างที่คุณพจน์พูดก็ถูกค่ะ น้ำหนึ่งไร้ศักดิ์ศรี น้ำหนึ่งหน้าไม่อาย แต่ที่น้ำหนึ่งอยู่ที่นี่ เพราะน้ำหนึ่งรัก น้ำหนึ่งห่วงพี่เพชรห่วงคุณพ่อ ห่วงคุณแม่ น้ำหนึ่งอยากทำให้เรื่องทุกอย่างดีขึ้น”
น้ำหนึ่งคุกเข่าลงนั่งที่พื้น จับเข่าเพชรไว้เหมือนเด็ก อ้อนวอนผู้ใหญ่
“น้ำหนึ่งจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าพี่เพชร จะยอมพิสูจน์ความจริง เรื่องพี่พลอย”
จากนั้นน้ำหนึ่งจึงลุกเดินออกไป เพชรนั่งนิ่ง คิดหนัก ก่อนเดินตามออกไป

เพชรเดินออกมา มองไปเห็นเป็นน้ำหนึ่งนอนขดตัวอยู่ที่โซฟาด้านนอก น้ำหนึ่งหลับสนิท แต่ท่าทางเหมือนจะฝันร้าย ร่างของน้ำหนึ่งกระตุกเบาๆ วงหน้าส่ายไปมา พึมพำ
“คุณพ่อ..คุณแม่..พี่พลอย...น้ำหนึ่งขอโทษ”
เพชรมองน้ำหนึ่งอย่างเวทนา จะเอื้อมมือแตะที่เรือนผมแต่เปลี่ยนใจ ชักมือกลับ เดินหนีเข้าห้องไป
ที่แท้น้ำหนึ่งรู้สึกตัวอยู่ ลืมตาขึ้นมาเห็นเพชรเดินไป น้ำหนึ่งมอง แล้วลุกเดินตามไป

ฝ่ายเพชรเดินมาที่ห้องของพลอยหลบมุมลอบมอง ประตูห้องพลอยถูกเปิดออกมา พร้อม
กับร่างของพลอย เพชรตะลึงที่พลอยเดินเหินได้ ถึงจะไม่เหมือนคนปกติเต็มร้อย แต่พลอยไม่จำเป็นต้องใช้ไม้เท้า ร่างของพลอยเดินไปช้าๆ ท่ามกลางความมืดและสายตาของเพชรที่จับจ้องมองไม่วางตา
เพชรจะเดินไป มือของน้ำหนึ่งแตะมือเพชรจับเอาไว้ เพชรสะดุ้งนิดๆ หันมามอง น้ำหนึ่งพูดเบาๆ
“พี่เพชรเห็นแล้วใช่มั้ยคะ น้ำหนึ่งว่ายังมีอะไรอีกมากเกี่ยวกับพี่พลอยที่เราไม่รู้เราสองคนต้องช่วยกันค้นหาความจริงค่ะ”
เพชรมองน้ำหนึ่งนิ่ง น้ำหนึ่งมองเพชรด้วยสายตาอ้อนวอน ที่สุดเพชรก็พยักหน้าให้
สองคนจูงมือกันเดินตามพลอยไป

เพชรจูงมือน้ำหนึ่งย่องออกมา ทว่ากลับไม่เห็นร่างของพลอยแต่อย่างใด
“พี่พลอยหายไปแล้ว”
เพชรกวาดตามองอย่างสงสัย “หายไปไหน”
สองคนมองหน้ากัน ก่อนที่เพชรจะจับมือน้ำหนึ่งเดินตามหาพลอยต่อไป

ที่แท้พลอยเดินมาหยุดยืนยังห้องเก็บของหลังบ้านที่ขังเกรียงศักดิ์ มือของพลอยค่อยๆ ลูบไล้ที่ประตู ยิ้มน้อยๆ พูดเสียงแผ่ว
“ท่านต้องอยู่กับพลอย...ต้องอยู่กับพลอย”
ส่วนด้านใน เกรียงศักดิ์นอนหลับสนิทเพราะหมดแรง ขณะที่ร่างของพลอยเคลื่อนตัว
ออกไปอย่างเชื่องช้า ดวงตามีความสุขเหลือล้น

ขณะที่พลอยเดินออกมา มองไปเห็นเพชรจูงมือกับน้ำหนึ่ง สายตาเหมือนกวาดมองหาอะไรซักอย่าง พลอยตกใจ รีบหลบซ่อนตัว ในขณะที่ดวงตาเพ่งมองจับจ้องไปที่เพชร เห็นเพชรจับมือน้ำหนึ่งกุมแน่น พลอยอึ้งไปทันที ดวงตาวาวขึ้นมา ยังไงเพชรก็ห่วงน้ำหนึ่ง แต่จะออกไปก็ไม่ได้ ได้แต่มองน้ำหนึ่งด้วยความเกลียดชัง เห็นเหมือนน้ำหนึ่งพึมพำเบาๆ
“พี่พลอยเดินได้..เร็วด้วย พี่เพชรเห็นหรือยังคะ เราตามไม่ทันเลย”
เพชรอึ้ง พลอยเงี่ยหูฟังแต่ได้ยินไม่ถนัด
“คุยอะไรกัน?” พลอยพึมพำมองด้วยแววตาอยากรู้มาก
เพชรแก้แทน “พี่พลอยอาจจะกลับเข้าห้องแล้วก็ได้
น้ำหนึ่งหน้าเสีย “ขนาดนี้พี่เพชรยังไม่เชื่อน้ำหนึ่งอีกเหรอคะ”
“พี่ไม่ได้ไม่เชื่อ แต่พี่พลอย อาจจะเดินได้คล่องขึ้น” เพชรแก้ต่างแทนอีก
น้ำหนึ่งอ่อนใจ “พี่เพชร”
เพชรโมโหเสียงดังใส่ “น้ำหนึ่งอาจจะคิดว่าพี่โง่ พี่บ้า แต่ในความเป็นน้อง พี่คิดร้ายต่อพี่พลอยไม่ได้จริงๆ”
เพชรผละตัวไปจากตรงนั้นอย่างฉุนเฉียว น้ำหนึ่งมองตามตาละห้อย พลอยมอง รู้ทันที สองคนคุยเรื่องอะไรกัน พลอยจ้องมองน้ำหนึ่ง แสยะปากคิดแค้นอยู่ในใจ
“แกมันรนหาที่ เหมือนพ่อแก แม่แกจริงๆ นังน้ำหนึ่ง”

เวลาเดียวกันที่คฤหาสน์ของเกรียงศักดิ์ ในขณะที่นวลจะเดินผ่านห้องพระ สายตาของแม่บ้านผู้ภักดีเหลียวมองเข้าไป เห็นดาราณีนั่งอยู่บนรถเข็น สายตามองพระพุทธรูปองค์ประธานในห้องนิ่งๆ นวลมองด้วยความเห็นใจ ค่อยๆ เอ่ยปากถาม
“คุณหญิงยังไม่นอนอีกหรือคะ”
“ฉันนอนไม่หลับเลยลุกมาไหว้พระ อย่างน้อยก็ได้ทำอะไรเพื่อคนที่ฉันรักบ้างไม่ว่าน้ำหนึ่ง ท่าน จะอยู่ที่ไหน ฉันก็ขอให้ปลอดภัย”
“นวลจะไปตามคุณน้ำหนึ่งกลับมา คนที่ไม่ผิดอย่างคุณหญิง คุณท่าน คุณน้ำหนึ่ง ไม่ควรจะได้รับกรรมอีกต่อไปค่ะ”
นวลบอกอย่างจริงจังขันแข็ง คุณหญิงนิ่ง คิดไม่ตก จะทำยังไงดี

พอกลับเข้ามาในห้องเพชรเอาแต่ครุ่นคิด บอกตัวเองในใจ
“หรือถึงเวลาที่เราจะต้องพิสูจน์ความจริงซักที”
สายตาของเพชรเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นมาดหมาย แตกต่างไปจากทุกครั้งโดยสิ้นเชิง

รุ่งเช้าเพชรสะพายเป้เดินออกมา พลอยซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นเห็นจึงถาม
“อ้าว! เพชร จะไปไหน”
“บริษัทมีประชุมด่วนครับ เลยจะรีบไป แล้วผมอาจจะอยู่กรุงเทพฯนานหน่อย เผื่อจะได้เจอแม่ด้วย” เพชรบอก
“เจอแม่ตอนไหน บอกพี่ด้วยนะ บางที พี่จะไปหาแม่ด้วย พี่คิดถึง”
“ครับพี่พลอย”
เพชรเดินออกไป เห็นน้ำหนึ่งเดินเข้ามาพอดี เพชรบอก
“พี่จะกลับกรุงเทพฯ น้ำหนึ่งจะทำอะไร ก็ตามใจ แต่พี่..ไม่ขอเห็นอะไรด้วย”
เพชรเดินออกไปท่าทางปั้นปึ่งเย็นชาไม่ใส่ใจ น้ำหนึ่งหน้าซีด แต่พลอยยิ้มบางๆ มองน้ำหนึ่งนิ่งๆ

เหมือนเสือร้ายเตรียมขย้ำเหยื่อ
ฟากอลิสเดินงุ่นง่านไปมา นึกเรื่องที่ตัวเองแกล้งพูดว่า "ทำไมฉันจะไม่รู้ ว่ายัยพลอยบ้า
มันเป็นเมียน้อยพ่อเธอ" แล้วอาการน้ำหนึ่งชะงัก อลิสพึมพำกับตัวเอง

“เราแกล้งพูดเฉยๆ แต่ยัยน้ำหนึ่งมีพิรุธ แสดงว่าต้องเป็นเรื่องจริง”
หมอณัฐเดินออกมาพอดีและได้ยิน
“เรื่องจริงอะไร”
อลิสสะดุ้ง “เปล่าค่ะ”
หมอณัฐ จ้องหน้า “จะทำอะไรอีกอลิส”
“ตามล่าหาความจริงค่ะ”
หมอณัฐฉุน “อลิส”
อลิสแกล้งแหย่เล่นๆ “พี่หมอรู้ใช่มั้ยคะว่ายัยพลอยบ้า เป็นเมียน้อยเมียเก็บท่านเกรียงศักดิ์”
หมอณัฐ หน้าซีดเผือด “เอาอะไรมาพูด”
“เรื่องจริงค่ะ พี่หมอรู้ใช่มั้ยคะว่า” อลิสจงใจเน้นคำ “ยัยพลอยบ้า เป็นเมียน้อยท่านเกรียงศักดิ์”
“ไม่! พี่ไม่รู้ และพี่ก็ไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น” หมอณัฐเดินออกไปเร็วรี่
อลิสตะโกนตาม “อลิสก็ไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่นหรอกค่ะ ถ้าคนๆ นั้นไม่ใช่พี่หมอ”
หมอณัฐหยุดชะงักไป อลิสพูดต่อ
“อลิสทนไม่ได้หรอกนะคะถ้าจะมีพี่สะใภ้ที่เป็นเมียน้อยคนอื่น แถมยังบ้าด้วยและคิดว่าคุณลุงคุณป้าก็ไม่ยอมเหมือนกัน”
หมอณัฐได้แต่ดุ่มเดินออกไปหน้าตาเคร่งเครียด อลิสมองตามจับสังเกต
“พี่หมอมีพิรุธอีกคน แสดงว่ายัยพลอยบ้า เป็นเมียน้อยท่านเกรียงศักดิ์แน่ๆ” สาวแสบตาวาวเป็นประกาย “ฉันต้องตามล่าหาความจริง” อลิสรีบเดินออกไป
ขณะที่น้ำหนึ่งเดินมา แต่ต้องชะงักเมื่อพลอยเลื่อนรถเข็นมาขวางหน้า
“พี่พลอย”
“เท่าที่เธอเห็น ยังไม่สาแก่ใจใช่มั้ย ถึงได้คะยั้นคะยอให้เพชรให้มาหาความจริงจากฉันน่ะ”
“น้ำหนึ่งหวังดีกับพี่พลอยจริงๆนะคะ”
พลอยหยิบมือถือมาแอบถ่ายคลิป “หวังดี..ให้คนอื่นมองว่าฉันบ้า เหมือนที่เธอว่าฉันน่ะ
เหรอ” พลอยค่อยๆ ลุกเดินเข้ามาหาอย่งเอาเรื่อง
น้ำหนึ่งผวาถอยหลังกรูด “พี่พลอยจะทำอะไรน้ำหนึ่งคะ”
พลอยยิ้ม “ทำอะไรก็ได้ เพราะคนบ้า ทำอะไรก็ไม่ผิด” พลอยกระชากผมน้ำหนึ่งอย่างแรง
น้ำหนึ่งกรี๊ด “อย่าค่ะพี่พลอย น้ำหนึ่งเจ็บ”
“แต่ที่พ่อแม่แกทำฉัน มันเจ็บกว่า”
พลอยลากน้ำหนึ่งสุดแรง มือถือพลอย บันทึกภาพน้ำหนึ่งถูกรังแกอยู่

เพชรขับรถมา แต่ต้องเบรกจนตัวโก่ง เพราะพจนีย์ขี่มอเตอร์ไซค์มาขวางทางเอาไว้
พจนีย์จอดรถแล้วรีบลงมา “โชคดีจัง พจน์กำลังจะไปหาพี่เพชรพอดี”
เพชรหงุดหงิด “มีอะไร”
พจนีย์แกล้งยั่ว “เก๊าะ ผัวไปไหน เมียก็ต้องไปด้วยสิคะ”
“อยากโดนด่าอีกใช่มั้ย”
“ก็...ถ้าจำเป็นต้องพูดเรื่องที่พจน์เป็นเมียพี่เพชร พจน์คงต้องยอม”
เพชรยิ่งหงุดหงิดใจมาก “อะไรของพจน์อีก”
พจนีย์พูดด้วยท่าทีจริงจัง “พจน์รักแล้วก็หวังดีต่อพี่เพชรนะคะที่เรื่องทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้เพราะพี่พลอย พี่พลอยคนเดียวค่ะ”
ดวงตาของเพชรเป็นประกายวาบขึ้นมาทันที

เวลาเดียวกันนั้นอลิสลอบเข้ามาภายในบริเวณบ้านเชิงเขา พลอยกำลังผลักน้ำหนึ่งลงกับพื้นอย่างแรง อีกมือก็ถ่ายคลิปเอาไว้ อลิสเห็นตาโตมองพลอยกับน้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งกรีดร้องน่าสงสาร
“อย่าทำอะไรน้ำหนึ่งเลยนะคะ น้ำหนึ่งรัก แล้วหวังดีกับพี่พลอยจริงๆ” พลอยหัวเราะเยาะ มองสาแก่ใจ “อะไรที่เธอหวังดีกับฉัน การทำตัวแอ๊บแบ๊วเป็นนางเอก แสร้งทำเป็นคนดี ใสซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา แต่ความจริง จองล้างจองผลาญฉันทุกอย่างก็นะเหรอ”
พูดจบผลักหัวน้ำหนึ่ง

อ่านละคร มารกามเทพ ตอนที่ 12/3 วันที่ 9 พ.ค. 56

ละคร มารกามเทพบทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพบทโทรทัศน์ : อัจฉรียา
ละคร มารกามเทพกำกับการแสดง : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
ละคร มารกามเทพแนวละคร : เมโลดราม่า
ละคร มารกามเทพอำนวยการผลิต : สุรางค์ เปรมปรีดิ์, ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
ละคร มารกามเทพออกอากาศ ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.10 - 21.40 น. ทางช่อง 5
ที่มา manage