อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 11/2 วันที่ 24 ม.ค. 56

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 11/2 วันที่ 24 ม.ค. 56

“เชิญด้านในก่อนค่ะ...เดี๋ยวหนูไปตามคุณยายสร้อยให้นะคะ”
คนใช้เดินเข้าไปตามยายสร้อย
บุษบันถือโอกาสนั้นมองดูรอบๆ บ้าน บุษบันเดินไปดูรูปเก่าๆ ของยายสร้อย และเห็นผ้าสีขาวห่ออะไรไว้บางอย่างใส่ไว้ในพาน ยายสร้อยเดินออกมาพอดี
ยายสร้อยเอ่ยทักทาย “หนู”
บุษบันยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะคุณยาย…หนูบุษบันค่ะ”

“หนูนี่เองที่อยากรู้เรื่องตรวนทองคำ”
บุษบันยิ้มบางๆ “ค่ะ…หนูอยากให้คุณยายเล่าให้ฟังอีกครั้ง”
“ที่จริงเรื่องนี้ฉันไม่อยากเล่าให้ใครฟังหรอกนะ ฉันไม่อยากรื้อฟื้น แล้วเรื่องทั้งหมดฉันก็เล่าให้หนูนิดฟังไปหมดแล้ว หนูสงสัยอะไรน่าจะไปถามหนูนิดเอานะ” หญิงชราออกตัว



“เรื่องนี้มันสำคัญกับหนูมาก หนูอยากฟังจากปากคุณยายอีกครั้ง หนูอยากรู้ละเอียดกว่านี้ นะคะคุณยาย เล่าให้หนูฟังอีกสักครั้งนะคะ”
ยายสร้อยมองบุษบันอย่างแปลกใจ
“หนูรู้สึกว่ามีความผูกพันกับตรวนทองคำนั่น…หนูคิดว่าตรวนทองคำต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนูค่ะ” บุษบันบอกอย่างมั่นใจ
“เป็นไปไม่ได้ ตรวนทองคำอันนั้นมันเป็นของปู่ฉันกับคนรัก อีกอย่างหนูก็ไม่ได้เป็นลูกหลานฉัน หนูจะมาเกี่ยวข้องกับตรวนทองคำนั้นได้ยังไง” ยายสร้อยว่า
บุษบันมองไปเห็นห่อผ้าสีขาวที่ใส่พานเอาไว้
“ห่อผ่าสีขาวที่ใส่พานไว้เป็นห่อกระดูกข้อมือของปู่ฉัตรกับคนรักใช่ไม๊คะ”
“ใช่”
“ขอหนูดูอีกทีได้ไม๊คะ”
ยายสร้อยอนุญาต “ได้สิ”
บุษบันเดินไปแกะห่อผ้าขาวดู เห็นเป็นกระดูก จึงหยิบขึ้นมาดู บุษบันจับกระดูกชิ้นนั้นแล้วรู้สึกผูกพันมากจนบอกไม่ถูก จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา
ยายสร้อยมองบุษบันแล้วอึ้งๆ ไป คิดว่าบุษบันเกี่ยวข้องกับตรวน และกลับชาติมาเกิดจริงๆ
“หรือหนูคิดว่า…” ยายสร้อยพูดไม่ทันจบคำ

บุษบันก็พูดสวนออกมาในสิ่งที่ตนคิด “ค่ะ…หนูกับคนรักของหนู เราเจ็บมือทุกครั้งที่จับตรวนทองคำ คุณยายคิดว่าเป็นไปได้มีคะที่หนูกับคนรักของหนูเป็นเจ้าของกระดูกข้อมือคู่นี้”

ยายสร้อยกับบุษบันกำลังช่วยกันหารูปในหีบในห้องเก็บของ
“รูปปู่ฉัตรน่าจะหลงเหลืออยู่บ้างสิ”
ยายสร้อยหาจนหมดทุกหีบ แต่ไม่เจอหญิงชราผิดหวัง
“โธ่…ไม่มีเหลือสักใบ”
“ที่อื่นไม่มีแล้วเหรอคะ”
“ไม่มีแล้ว...รูปเก่า ๆ ก็จมน้ำไปจนหมด”
บุษบันรู้สึกผิดหวัง จังหวะที่บุษบันเอาหีบขึ้นไปวางเก็บยังที่เดิม ทันใดนั้นหีบก็ไปดันเอาหนังสือภาษารัสเซียเล่มหนึ่งตกลงมา และมีรูปใบหนึ่งสภาพเก่าจะเหลืองคร่ำกระเด็นออกมาด้วย
บุษบันเก็บขึ้นมาดู แล้วต้องตกใจ
“คุณภูมิ”
ยายสร้อยเห็นบุษบันทีมีสีหน้าตกใจ ก็นึกแปลกใจ
“เป็นอะไรหรือหนู…มีอะไรไหนยายดูสิ”
ยายสร้อยหยิบรูปมาดู ที่แท้เป็นรูปฉัตรใส่ชุดทหาร หญิงชราเอ่ยขึ้น
“นี่ไง รูปปู่ฉัตร”
ระหว่างนั้น ภีร์ภูมิเดินเข้ามาพอดี
ภีร์ภูมิทักทายบุษบัน “ขอโทษนะที่ผมเข้ามาช้า” ชายหนุ่มหันไปเห็นยายสร้อยจึงยกมือไหว้ “คุณยายครับ สวัสดีครับ”

ยายสร้อยเห็นหน้าภีร์ภูมิก็ก้มลงมองดูรูปอีก และเงยหน้ามามองภีร์ภูมิอีกครั้งหนึ่ง ยายสร้อยมองตาค้างในอาการตกใจ
ยายสร้อยจ้องหน้าภีร์ภูมิแล้วเอารูปปู่ฉัตร ขึ้นมาเทียบกับใบหน้าภีร์ภูมิอีก

“ทำไมคล้ายปู่ฉัตรขนาดนี้”
ภีร์ภูมิดูรูปแล้วก็อึ้งไปเหมือนกัน
“เป็นไปได้ยังไง คนเราทำไมหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้”
ยายสร้อยนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“หรือเธอจะเป็นปู่ฉัตรของฉันกลับชาติมาเกิด”
ภีร์ภูมิ และบุษบัน อึ้งเหลียวมามองหน้ากัน เพราะคิดเช่นเดียวกับยายสร้อย!

บุษบันเล่าให้ยายสร้อยฟังต่ออีก “นอกจากเจ็บข้อมือแล้วหนูยังเคยฝันเห็นบ้านในสมัยรัชกาลที่ ๕ ในบ้านมีผู้ชายคนหนึ่งแต่งชุดทหารเรียกหนูว่า ‘แม่บัว’ ทุกครั้งที่เปิดกล่องดนตรี”
ยายสร้อยงวยงง “กล่องดนตรีอะไร”
“กล่องดนตรีที่ทำให้เราสองคนพบกันครั้งแรก” ภีร์ภูมิเป็นคนบอก
บุษบันหยิบกล่องดนตรีจากกระเป๋ามาให้ยายสร้อยดู ยายสร้อยอึ้ง จ้องมองกล่องดนตรีนิ่ง
“กล่องดนตรีอันนี้เองน่ะเหรอ”
“กล่องดนตรีอันนี้ทำไมเหรอครับ” ภีร์ภูมิถามต่อ
“ปู่ฉายของฉันเคยพูดถึงกล่องดนตรีอันนี้ ท่านบอกว่าปู่ฉัตรได้มาจากรัสเซีย เป็นกล่องดนตรีที่ท่านรักมาก และมอบให้กับคนรักของท่าน” ยายสร้อยมองหน้าภีร์ภูมิกับบุษบัน “กล่องดนตรีอันนี้ก็น่าจะเป็นของเธอทั้งสองคนเมื่อชาติที่แล้วเช่นกัน”

เวลาต่อมาภีร์ภูมิเดินมาส่งบุษบันหน้าบ้าน
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าผมจะเป็นปู่ฉัตรในชาติที่แล้ว”
“ถ้าคุณเป็นปู่ฉัตรฉันก็ต้องเป็นคนรักที่เป็นบ่าวที่ถูกถ่วงน้ำไปกับคุณ”
ทั้งสองมองหน้ากัน
“ใครนะที่ใจคอโหดเหี้ยมทำเราได้ถึงขนาดนี้ อยากรู้จัง”
“อย่าไปรู้เลยค่ะ มันเป็นเรื่องของชาติที่แล้ว ตรวนทองคำอันนี้ทำให้เรากลับมาพบกันอีกในชาตินี้ และเราก็ได้พบกันแล้ว เราจะรักกันตลอดไป”
ภีร์ภูมิกับบุษบัน ส่งตาหวานซึ้ง และยิ้มให้กัน
“ผมคงเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดที่ได้รักคุณ ต้องขอขอบคุณตรวนทองทองคำ และโชคชะตาที่ทำให้เราได้มาพบกัน ผมรักคุณครับ คุณบุษ” ภีร์ภูมิพูดออกมาจากใจ
บุษบันยิ้มเขินๆ
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
บุษบันเปิดประตูเข้าบ้านไป
“แล้วเจอกันนะครับ”
บุษบันหันมายิ้มให้อีกครั้ง ภีร์ภูมิส่งยิ้มให้บุษบัน และมองตามจนบุษบันเข้าบ้าน

ขณะที่บุษบันเดินเข้ามาในบ้าน เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น บุษบันชะงักแล้วยิ้ม เดินออกมาหน้าบ้าน มาเปิดประตู บุษบันคิดว่าภีร์ภูมิย้อนกลับมา
“ลืมอะไรเหรอคะ”
บุษบันเงยหน้าขึ้นมา เห็นเป็นพิมพิลาสยืนอยู่ พิมพิลาสหน้านิ่งไม่เป็นมิตรเสียเลย
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

เวลาต่อมาพิมพิลาสยืนมองผลงานของบุษบันอยู่ในห้องทำงาน สายตาเธอมาหยุดอยู่ที่รูปสลักคิวปิด ในจังหวะที่บุษบันเดินถือแก้วน้ำมาให้

“น้ำค่ะคุณพิม”
บุษบันวางแก้วน้ำไว้ที่โต๊ะตัวข้างๆ พิมพิลาส ก่อนจะถามออกไป
“คุณมีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ”
“ฉันจะมาคุยกับคุณเรื่องภีร์ภูมิ”
ฟังธุระของพิมพิลาสแล้วบุษบันใจหาย
“ทำไมเหรอคะ”
พิมพิลาสหันมาเผชิญหน้ากับบุษบัน
“ฉันขอให้คุณเลิกยุ่งกับภูมิซะ”
บุษบันเข้าใจความรู้สึกพิมพิลาสดี แต่ให้เลิกรักภีร์ภูมินั้นเธอทำไม่ได้
“คุณภูมิบอกกับฉันว่าเขากับคุณเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
พิมพิลาสค่อยๆ เดินเข้ามาหาบุษบัน
“คุณเองก็สวย รวย และเก่งขนาดนี้ฉันว่าคงหาคนดีๆ ได้ไม่ยากเหรอ ตัดใจจากภูมิซะเถอะ ถือว่าเห็นแก่ฉัน เพราะฉันคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน”
บุษบันอึ้ง เห็นใจพิมพิลาส
“ฉันเข้าใจนะ และฉันก็ขอโทษ ฉันไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ แต่ฉันกับเขารักกันมานานแล้วค่ะ”
พิมพิลาสไม่พอใจมาก ถามเสียงแข็งทันควัน
“นานแค่ไหน?”
“นานกว่าที่คุณคิด” บุษบันพูดแล้วหันมามองพิมพิลาสด้วยความสงสาร แล้วย้อนถาม “คุณเชื่อเรื่องชาติภพไหมคะ?”
พิมพิลาสอึ้งกับคำว่า “ชาติภพ” คิดว่าบุษบันรู้เหมือนที่ตนรู้ พิมพิลาสจึงลองถามหยั่งเชิง
“คุณหมายความว่ายังไง”
“ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นอะไร แต่ฉันกับคุณภูมิรู้สึกเหมือนเรารักกันมานานแล้ว เราเคยรักกันมาก และเราก็เคยพรากจากกัน แต่พอชาตินี้เราได้กลับมาเจอกันอีก มันอัศจรรย์อย่างไม่น่าเชื่อ” บุษบันพูดวิงวอน “ขอให้เห็นใจเราเถอะนะคะ อย่าพรากเราจากกันอีกเลย”
พิมพิลาสยืนฟังนิ่ง
“ทำไมคุณถึงคิดยังงั้น”
“ฉันกับคุณภูมิเรามีอะไรที่เหมือนๆ กัน เจ็บข้อมือเหมือนกัน เราเคยผูกพันกันมาเมื่อชาติที่แล้ว เราไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายคุณนะคะ ฉันคิดว่ามันเป็นโชคชะตา คุณเข้าใจฉันนะคะ”
พิมพิลาสยิ่งโกรธจัด เมินหน้าหนีมองไปทางแผ่นโลหะสีเงิน เห็นเป็นเงาของพิศในชาติภพก่อนสะท้อนขึ้นมา
“ยอมไม่ได้! เอ็งอย่าไปยอมมัน ของๆ เอ็งยังไงก็ต้องเป็นของเอ็ง”

พิศเสี้ยมพิมพิลาส อย่างเกรี้ยวกราด
ขณะที่หลวงพ่อกสินกำลังเดินออกมาจากในโบสถ์ เดือนก็ถือดอกไม้ธูปเทียนจะเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ พอดี เดือนเห็นหลวงพ่อกสิน จึงหยุดแล้วนั่งลงพนมมือไหว้

“นมัสการเจ้าค่ะหลวงพ่อ”
“เจริญพรเถอะโยม หมั่นไหว้พระถือศีลน่ะดีแล้ว แต่อย่าทำอะไรที่มันเป็นภัยแก่ตัวเลย”
เดือนได้ฟังแล้วงวยงง
“ทำไมเหรอคะ? อะไรที่เป็นภัยแก่ตัวดิฉันเหรอเจ้าคะ”

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 11/2 วันที่ 24 ม.ค. 56

ละคร บ่วงวันวาร บทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บ่วงวันวาร กำกับการแสดง : จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์
บ่วงวันวาร แนวละคร : ดราม่า
บ่วงวันวาร ผลิต : บ.เอ็กแซ็กท์ - บ. ซีเนริโอ
บ่วงวันวารอำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร และ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
บ่วงวันวารออกอากาศ : พุธ - พฤหัส เวลา 20.15 - 21.45 น. (เพิ่มเวลาออกอากาศ เป็น 90 นาที)
ติดตามชม ละครเรื่อง บ่วงวันวารได้ทาง ททบ.5 เริ่มออกอากาศวันแรกเดือนมกราคม 2556
ที่มา manager