อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 9/2 วันที่ 19 ม.ค. 56

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 9/2 วันที่ 19 ม.ค. 56

ตะวันฉายโกรธจัด ตามมาต่อว่ากนิษฐาที่หน้าโรงแรม
“เธอทำบ้าอะไรพูดแบบนี้ฉันเสียหายหมด ฉันไล่เธอออก!”
“ก็เอาสิ! ฉันจะได้แฉให้มากกว่านี้” กนิษฐาไม่หวั่น เถียงกลับ
ตะวันฉายอึ้งๆ
“แล้วเรื่องอะไรถึงมาห้ามฉัน ตรวนนี่ก็ของฉัน เธอมายุ่งอะไรด้วย”
“ฉันบอกแล้วว่าขอเวลาศึกษาก่อน”

“ไม่ต้องศึกษาแล้ว ตรวนนั่นมีผีสิง!” ตะวันฉายบอก
“ปัญญาอ่อน ผีที่ไหน ไม่มีในโลก” กนิษฐาไม่เชื่อ
“ก็เพื่อนฉันหรือใครมาจับแล้วก็เจ็บ ไม่ใช่ผีแล้วจะเป็นอะไร”



“คิดกันไปเองทั้งนั้น มันจะเป็นไปได้ยังไง ฉันจับอยู่ทุกวันไม่เห็นเจ็บเลย ตั้งแต่ฉันทำงานสายนี้มาฉันยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้สักครั้ง ฉันจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าตรวนไม่มีผี” กนิษฐาบอกอย่างเชื่อมั่นในความคิดประสาสาวยุคดิจิตัล
ตะวันฉายมีท่าทีหนักใจ ยื่นเงื่อนไข
“งั้นเอาอย่างนี้ ฉันให้เวลาเธอศึกษาข้อมูลอีกหนึ่งเดือน พอครบกำหนดฉันขายทันที”
“ได้! ตกลงตามนั้น!”
กนิษฐามองหน้าตะวันฉายด้วยสายตาเชือดเฉือน

เช้าวันต่อมาภีร์ภูมิเดินถือช่อลิลลี่เข้ามา พิมพิลาสนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก
“ดอกไม้สวยๆ ครับ ผมเห็นแล้วคิดถึงพิมเลยซื้อมาให้”
ภีร์ภูมิส่งช่อลิลลี่ให้พิมพิลาส และวางโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้บนโต๊ะ
“สวยมากเลยคะภูมิ ขอบคุณนะคะ”
“เดี๋ยวผมเอาไปใส่แจกันให้นะครับ”
“ค่ะ”
ภีร์ภูมิถือช่อลิลลี่เดินออกไป ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของภีร์ภูมิดังขึ้น พิมพิลาสเดินมาดู เห็นเป็นชื่อ บุษบัน พิมพิลาสหน้านิ่ง ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู จ้องมองไปที่ชื่อบุษบันไม่วางตา

บุษบันอยู่ที่บ้านกำลังโทรศัพท์หาภีร์ภูมิ แต่ภีร์ภูมิไม่รับ บุษบันจึงวางสาย บุษบันตัดสินใจโทร.ไปอีกครั้ง และฝากข้อความเสียงไว้
“คุณภีร์ภูมิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ ฉันยอมรับแล้วว่าฉันรู้สึกแบบเดียวกับคุณ ถ้าคุณว่างโทร.กลับหาฉันด้วย”
บุษบันวางสาย

พิมพิลาสเห็นข้อความเสียงจากบุษบันส่งมาที่โทรศัพท์ของภีร์ภูมิจึงเปิดฟัง พอได้ฟังก็มีสีหน้าแววตาโกรธขึ้งด้วยความหึงหวงทันควัน

ภีร์ภูมิกลับออกไปนานแล้ว ป้าทิพย์เดินถือกระดาษจดที่อยู่บ้านบุษบันเข้ามาหาพิมพิลาสที่อีกมุมในบ้าน

“ได้ที่อยู่แล้วหนูพิม ป้าพูดอยู่ตั้งนานกว่าทางนั้นจะยอมบอก หนูพิมจะเอาไปทำไมล่ะ”
พิมพิลาสรับกระดาษจากป้าทิพย์
“ขอบคุณคะป้า พิมอยากไปดูอะไรสักหน่อย”
พิมพิลาสมองดูกระดาษในมือ หน้าตาโกรธขึ้ง โดยที่ป้าทิพย์ไม่ทันเห็น

ไม่นานหลังจากนั้นรถพิมพิลาสแล่นมามาจอดที่รั้วหน้าบ้านบุษบัน ครู่ต่อมาพิมพิลาสเดินเข้ามาในบ้านบุษบันแล้ว มองรอบๆ บ้านไม่เห็นมีใคร จึงเดินเข้าไปในส่วนที่เป็นสตูดิโอ

พิมพิลาสเดินเข้ามาในสตูดิโอของบุษบันที่ยังไม่เปิดไฟ บรรยากาศดูทะมึนๆ มองดูผลงานของบุษบัน แต่ละอย่างดูน่ากลัว เป็นงานศิลปะที่พิมพิลาสไม่เคยเห็นเธอมองอย่างกลัวๆ พิมพิลาสค่อยๆ สืบเท้าเดินเข้ามา ด้วยท่าทีหวาดผวา
“มีใครอยู่ไม๊คะ”
ไม่มีเสียงตอบ พิมพิลาสจึงเดินเข้าไปเรื่อยๆ จนเห็นผ้าขาวคลุมบางสิ่งไว้อยู่บนโต๊ะ พิมพิลาสเดินเข้าไปใกล้สิ่งนั้น แล้วค่อยๆ ดึงผ้าออก! เห็นเป็นคิวปิดที่ชี้ศรธนูมายังตน พิมพิลาสตกใจ! ถอยไปสะดุดผ้าคลุมคิวปิด ทำให้ผ้าเกี่ยวตัวคิวปิดค่อยล้มลง!
พิมพิลาสร้อง “ว้าย”
ทันใดนั้นบุษบันก็เข้ามาช่วยจับคิวปิดไว้ทัน พิมพิลาสยังอยู่ในอาการตกใจ บุษบันรู้สึกหงุดหงิดแต่เก็บอารมณ์ไว้ บุษบันเดินไปเปิดสวิทช์ไฟ

พิมพิลาสกับบุษบันเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ทั้งคู่ต่างจ้องหน้ามองตากันด้วยอาการตื่นตะลึงอย่างประหลาด!!
จนในที่สุดบุษบันเป็นฝ่ายตัดสินใจถามทำลายความเงียบขึ้น ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ…คุณบุษบันใช่ไม๊คะ”
“ใช่ค่ะ”
พิมพิลาสรู้ว่าเป็นบุษบัน ก็จ้องบุษบันไม่ละสายตา
“ขอโทษนะ ที่เข้ามาโดยพลการ…ฉันอยากมาดูผลงานของคุณน่ะค่ะ”
บุษบันไม่พอจึงพูดประชด “ค่ะ…ที่จริงคุณน่าจะกดกริ่งหรือรอให้เจ้าของบ้านเขาออกมาก่อนดีกว่านะคะ”
“ฉันเรียกแล้วไม่เห็นมีใครก็เลยเดินเข้ามา…” พิมพิลาสย้อนถามเป็นนัย “ทำไมเหรอหรือว่ามีความลับอะไรที่ยังเปิดเผยไม่ได้”
“ไม่มีความลับหรอกค่ะ…แต่ก็มีของบางอย่างที่มันอาจเป็นอันตรายกับคุณได้ อย่างเมื่อกี้ไงคะถ้าฉันมาไม่ทันคุณก็คงได้รับบาดเจ็บไป แล้ว!...เชิญดูผลงานตามสบายนะคะ”

พิมพิลาสมองไปรอบๆ บ้าน สักครู่หนึ่งบุษบันเอาน้ำมาเสิร์ฟให้ พลางถาม
“สนใจชิ้นไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”
“ก็มีนะคะแต่ก็ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่…เท่าที่ดูผลงานของคุณส่วนมากจะทำเอาใจผู้ชายนะคะ” พิมพิลาสเน้นเสียงตรงท้ายประโยค
บุษบันตอยเสียงเรียบ “มันเป็นสไตล์ของฉันมากกว่า…ไม่ได้เจาะจงว่าทำเอาใจลูกค้าเพศไหน แต่ก็ส่วนมากก็มีแต่ผู้ชายที่ชอบผลงานของฉัน”
พิมพิลาสโพล่งออกมา “รวมถึงแฟนฉันด้วย”
บุษบันหันขวับไปมองพิมพิลาส ทั้งคู่จ้องตากันอย่างเชือดเฉือน
“เหรอคะ! แฟนคุณชื่ออะไรคะ”
“ภีร์ภูมิค่ะ…รู้จักไม๊คะ”
บุษบันนิ่งๆ มีเซ้นส์ว่าพิมพิลาสต้องมาจับผิดตนเรื่องภีร์ภูมิ
บุษบันไม่อยากมีปัญหาจึงปฏิเสธ “ไม่ค่ะ”
พิมพิลาสมองจับกิริยา คิดว่าบุษบันต้องโกหก
“แปลกนะคะที่คุณไม่รู้จักแฟนของฉัน ทั้งๆ ที่เขาก็เคยมาที่นี่”
“วันๆ มีลูกค้าเข้ามาตั้งมากมาย ฉันไม่มัวมานั่งจำอยู่หรอกค่ะว่าใครเป็นใคร”
จังหวะนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือบุษบันที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น หน้าจอเห็นเบอร์-ชื่อ ภีร์ภูมิ โทร.เข้ามา พิมพิลาสปรายตามองไปเห็นเป็นชื่อภีร์ภูมิก็โมโห! แต่เก็บอาการไว้)
บุษบันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู แต่ไม่มีทีท่าว่าจะรับ
พิมพิลาสถาม “ไม่รับเหรอคะ”
“ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอกค่ะ” บุษบันบอกเลี่ยง
พิมพิลาสถามย้ำ “แน่ใจนะคะ”
“ค่ะ”
บุษบันกดปิดโทรศัพท์มือถือ
พิมพิลาสมองบุษบัน เข้าใจทุกอย่างว่าบุษบันโกหก
“ตกลงต้องการงานชิ้นไหนคะ” บุษบุนถาม
“ไม่แล้วค่ะ ฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการแล้ว”
บุษบันสะดุดหูในน้ำคำ ฉุกคิด
“ถ้างั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
พิมพิลาสลุกเดินหันหลังให้บุษบัน สีหน้าและแววตาโกรธมาก!!

ภีร์ภูมิอยู่ที่ไซต์งาน กำลังโทรศัพท์หาบุษบันแต่โทร.ไม่ติดแล้ว ภีร์ภูมิกดโทรอีกครั้ง
“ไหนบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุย แต่ทำไมปิดเครื่องซะงั้น” วิศวกรหนุ่มหงุดหงิด
ระหว่างนั้นไก่เดินเข้ามาหา เห็นท่าทีหงุดหงิดของเจ้านายก็เลยแซว
“โทร.หาสาวที่ไหนครับลูกพี่ ผมเห็นโทร.ตั้งนานแล้ว”
ภีร์ภูมิหมั่นไส้ “แกไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม”
“ให้ผมช่วยโทร.ไหมครับ เผื่อบางทีเขาอาจจะรับของผมก็ได้” ไก่แซวไม่เลิก
“อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน แกมีงานอะไรก็ไปทำเลย”
“หวงเหรอ มีของดีละก็ชอบเก็บไว้คนเดียวตลอดเลย”
ภีร์ภูมิทำท่าจะเตะ ไก่รีบวิ่งจู๊ดออกไปก่อน ภีร์ภูมิยังโทร.หาบุษบันไม่หยุด

คืนนั้นพอกลับมาบ้าน พิมพิลาสเดินวนไปวนมาคิดถึงแต่เรื่องบุษบัน ภาพเหตุการณ์ตอนคุยกับบุษบันผุดขึ้นมาในหัว
“เหรอคะ! แฟนคุณชื่ออะไรคะ”
“ภีร์ภูมิค่ะ…รู้จักไม๊คะ”
“ไม่ค่ะ”
พิมพิลาสดึงตัวเองกลับมา แต่กลับครุ่นคิดหนักมากขึ้น
“โกหกฉันไม่ได้หรอก!!”
พิมพิลาสพึมพำ ขณะมองออกไปนอกบ้าน และเห็นรถภีร์ภูมิแล่นเข้ามา พิมพิลาสคิดอะไรบางอย่างได้

ครู่หนึ่ง ภีร์ภูมิเดินเข้ามา เห็นพิมพิลาสนอนอยู่ที่พื้น ก็ตกใจมาก
“พิม”
ภีร์ภูมิเข้ามาอุ้มพิมพิลาส ป้าทิพย์ นิ่ม และหวาน ได้ยินเสียง ตามเข้ามาดู พอเห็นก็ตกใจกันใหญ่! ภีร์ภูมิยังอุ้มพิมพิลาสอยู่ด้วยท่าทีตกใจ
จังหวะนั้นพิมพิลาสลืมตาขึ้น ที่แท้เธอไม่ได้เป็นอะไร แกล้งเรียกร้องให้ภีร์ภูมิสนใจเท่านั้น

เวลาผ่านไป พิมพิลาสนอนอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก มีป้าทิพย์เอายาดมให้ดม สักครู่หนึ่งพิมพิลาสค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เห็นเป็นหน้าภีร์ภูมิเบลอ ๆ
“ฟื้นแล้ว โล่งอกไปที” ป้าทิพย์ว่า
ภีร์ภูมิถามอย่างเป็นห่วง “พิม...เป็นอะไรไปครับ”
“พิมหายใจไม่ออกเลยเวียนศีรษะแล้วหน้ามืดเป็นลมไปน่ะค่ะ”
“หนูพิมนะหนูพิม ถ้าคุณภูมิมาไม่ทันป้าจะทำยังไง เดี๋ยวป้าไปบอกให้คนเอารถออกไปโรงพยาบาลดีกว่า” ป้าทิพย์บอก พิมพิลาสห้ามไว้
“พิมไม่เป็นอะไรแล้วค่ะป้า พิมขออยู่กับภูมิก็พอ”
ป้าทิพย์พยักหน้ารับ ยังเป็นห่วงพิมพิลาสอยู่แต่ก็ยอมออกไป ภีร์ภูมิค่อยๆ ประคองพิมพิลาสนั่งขึ้น
พิมพิลาสจับมือภีร์ภูมิไว้ “ขอบคุณมากนะคะภูมิ ถ้าพิมไม่มีภูมิพิมจะอยู่ยังไง”
“ผมก็อยู่นี้แล้วไงครับ”
“ภูมิต้องอยู่กับพิมตลอดไปนะคะ สัญญากับพิมนะคะ”
“ครับผมสัญญา”
พิมพิลาสจับแขนภีร์ภูมิอย่างดีใจ
“ภูมิสัญญาแล้วนะคะ เราสองคนจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เราจะไม่มีคนอื่น เราจะไม่แยกจากกัน”
ภีร์ภูมิอึ้ง แต่ก็รับปากพิมพิลาสเสียงหนักแน่น
“ครับ”
พิมพิลาสกอดภีร์ภูมิแน่น ภีร์ภูมิกอดตอบ และไม่ได้เห็นว่ายามนั้นพิมพิลาสยิ้มอย่างมีเลศนัย

คืนนั้นบุษบันนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
ภีร์ภูมินอนหลับสนิทอยู่บนเตียงที่บ้าน ภีร์ภูมิหลับฝันเห็นภาพฉัตรกำลังจมน้ำ ดิ้นทุรนทุราย แต่มีตรวนทองคำล่ามอยู่ที่มือ!ฉัตรพยายามเอามือออกจากตรวนแต่ก็โดนตรวนบาดเลือดไหลออกมา น้ำบริเวณค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน!

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 9/2 วันที่ 19 ม.ค. 56

ละคร บ่วงวันวาร บทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บ่วงวันวาร กำกับการแสดง : จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์
บ่วงวันวาร แนวละคร : ดราม่า
บ่วงวันวาร ผลิต : บ.เอ็กแซ็กท์ - บ. ซีเนริโอ
บ่วงวันวารอำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร และ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
บ่วงวันวารออกอากาศ : พุธ - พฤหัส เวลา 20.15 - 21.45 น. (เพิ่มเวลาออกอากาศ เป็น 90 นาที)
ติดตามชม ละครเรื่อง บ่วงวันวารได้ทาง ททบ.5 เริ่มออกอากาศวันแรกเดือนมกราคม 2556
ที่มา manager