อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 12/2 วันที่ 27 ม.ค. 56

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 12/2 วันที่ 27 ม.ค. 56

ตะวันฉายยังไม่ปล่อยกระเป๋า กนิษฐาคาใจมากยังแย่งไม่หยุด
“คุณฟังเราก่อนสิครับ” ภีร์ภูมิเอ่ยขึ้น
ตะวันฉายฟังภีร์ภูมิ บุษบันเข้ามาจับแขนตะวันฉายด้วย ตะวันฉายเผลอ กนิษฐาแย่งกระเป๋ามา วิ่งเข้าไปในแกลอรี่ทันที
“เฮ้ย! เอามานี่นะ”
ตะวันฉายใจห่าย วิ่งตามกนิษฐาไป ภีร์ภูมิ บุษบันวิ่งตามไป

กนิษฐาเปิดกระเป๋าดู เห็นเงิน ตกใจ ตาโต
“เงิน! เงินอะไร”
ภีร์ภูมิกับบุษบันเห็นเงิน ตกใจ อึ้ง
“เงิน! เธอไปเอาเงินขนาดนี้มาจากไหน”
กนิษฐานึกขึ้นได้
“อย่าบอกนะว่าคุณเอาตรวนไปขายแล้ว”
กนิษฐารีบวิ่งไปชั้นบน ทุกคนรีบตามไป



ครู่ต่อมากนิษฐาเปิดตู้เซฟ มีแต่ความว่างเปล่า ตะวันยืนหน้าเสียอยู่
“คุณขายไปได้ยังไง”
บุษบันต่อว่า “นั่นนะสิ ทำไม ทำยังงี้ได้ยังไง ฉันบอกให้เก็บไว้ให้ฉันไง”
บุษบันเข้าไปตีแขนตะวันฉายเผียะ ตัดพ้ออย่างเสียใจ
“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ เธอไม่เห็นฉันเป็นเพื่อนหรือไง ไอ้เพื่อนบ้า ไอ้เพื่อนงก ฉันอุตส่าห์ไปกู้เงินธนาคารมาจนได้ แล้วทำไมเธอทำแบบนี้”
ตะวันฉายหลบแรงตีของบุษบัน ภีร์ภูมิเข้ามาจับบุษบันไว้ ขณะถาม
“แล้วคุณขายให้ใครไปครับ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เป็นผู้หญิง รวยมาก ผมไม่ได้ถามชื่อแล้วเขาก็ไม่ได้บอก”
กนิษฐาเม้ง “อะไรนะ ไม่รู้ด้วยว่าขายให้ใคร คุณทำอะไรลงไปเนี่ย ไปเอากลับมาเลยนะ”
“ฉันรับเงินเขามาแล้ว จะคืนได้ยังไง”
บุษบันโมโห “ไม่รู้ล่ะ ยังไงเธอก็ต้องตามกลับมาให้ได้”
ทุกคนมองหน้าตะวันฉายคาดโทษเป็นตาเดียวกัน จนตะวันฉายต้องหลบสายตา
“ได้ ๆ”
ตะวันฉายสึกผิด หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดโทร.ไปหาเบอร์ที่พิมพิลาสใช้ติดต่อมา
กลับมีแต่เสียง “ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาตรวจสอบหมายเลขอีกครั้ง”
ตะวันฉายกดวางหน้าม่อย
“ติดต่อไม่ได้”
“ติดต่อไม่ได้ แล้วจะรู้ไหมว่าใครซื้อไป”
ตะวันฉายหน้าจ๋อย สายตาทุกคู่ที่มองมาอย่างเอาเรื่อง

เวลาเดียวกันพิมพิลาสเปิดกระเป๋าดูตรวนทองคำ ยิ้มสะใจ ภาพพิศปรากฏขึ้นที่กระจก
“เอ็งทำถูกแล้ว อะไรที่เคยทำไว้ในอดีต เอ็งต้องเอามาแก้แค้นมัน ก่อนที่มันจะมาทำเอ็งในอนาคต”
พิมพิลาสปิดกระเป๋า เอาใส่ตู้เซฟ
ป้าทิพย์เปิดประตูห้องเข้ามา
“หนูพิม เมื่อกี๊ออกไปไหนมาลูก”
พิมพิลาสนิ่ง
“ป้าคะ ต่อจากนี้ไปห้ามใครเข้ามาในห้องพิมก่อนได้รับอนุญาต”
ป้าทิพย์ฟังแล้วสะอึก อึ้งๆ ไป
“มีอะไรหรือเปล่าหนูพิม”
“พิมต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ”
ป้าทิพย์อึ้งอีกครั้ง แล้วออกจากห้องไป พิมพิลาสหน้านิ่ง คิดอะไรในหัว

ป้าทิพย์เดินเข้ามาที่โถงบ้าน ท่าทีกลุ้มใจ “เดี๋ยวนี้หนูพิมเป็นอะไรไป”
นิ่มเดินผ่านมาก็สงสัย “คุณป้าบ่นอะไรอยู่คนเดียวคะ”
“ก็หนูพิมนะสิ เป็นอะไรก็ไม่รู้ เมื่อก่อนไม่เห็นเคยเป็นแบบนี้เลย”
“คุณหนูเป็นอะไรคะคุณป้า”
ป้าทิพย์นิ่ง ครุ่นคิด
“หนูพิมเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปตั้งแต่วันที่ไปดูหมอมาคราวนั้น”
ป้าทิพย์คิดอะไรบางอย่างได้

ป้าทิพย์พาตัวเองมาเดินอยู่ที่ทางเดินในวัด พบหลวงพ่อกสินเดินผ่านมา ป้าทิพย์นั่งลงยกมือไหว้
“เจริญพรเถอะโยม”
“ดิฉันมาหาแม่หมอเดือนค่ะ แต่ไม่อยู่ ที่บ้านก็ปิดเงีย”
“โยมเดือนไม่อยู่แล้ว ตายไปแล้ว” หลวงพ่อกสินบอก
ป้าทิพย์ตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสงสาร “โธ่! แม่หมอ แล้วแม่หมอเป็นอะไรตายหรือคะ”
“มันตายเพราะมันทำเรื่องที่ไม่ควรทำ อาตมาฝากไปเตือนหลานโยมด้วยนะ ว่าอะไรที่มันเป็นบาปก็ให้หยุดทำซะ ไม่เช่นนั้นจะเสียใจภายหลัง”

พูดจบหลวงพ่อกสินก็เดินจากไป ป้าทิพย์ไม่เข้าใจ แต่กลัวในสิ่งที่ได้ยิน
ภีร์ภูมิกับบุษบันเดินเข้ามาพร้อมกันในล็อบบี้โรงแรม ตะวันฉายตามมา

“คุณภูมิให้ฉันมาที่นี่กับคุณทำไมคะ” บุษบันสงสัย
“ผมอยากรู้น่ะสิว่าคนที่มาซื้อตรวนไปเป็นใคร”
“ฉันว่านอกจากเราสองคนแล้ว คนที่ซื้อไปต้องมีอะไรผูกพันกับตรวนเหมือนเราแน่ ๆ” บุษบันตั้งข้อสังเกต
ภีร์ภูมิเห็นด้วย
“ผมก็คิดเหมือนคุณ เขาถึงได้กล้าซื้อไปในราคาสูงขนาดนั้น”
ภีร์ภูมิกับบุษบันเดินมาถึงล็อบบี้ซึ่งตะวันฉายรออยู่ก่อนแล้ว
“มาตรงเวลาเลยนะ” ตะวันฉายหันมาทางบุษบันเอาความชอบ “เธอรู้ไหมยัยบุษกว่าเขาจะยอมให้พวกเราเข้าไปดูกล้องวงจรปิด ฉันต้องเสียเงินไปเท่าไหร่”
“ก็ถือซะว่าชดใช้ตอนที่เธอขายไปโดยไม่บอกฉันก็แล้วกัน”
ภีร์ภูมิบอกอยากรู้เต็มทน
“เรารีบไปกันเถอะครับ”
ทั้งสามคนรีบเดินไป

เวลาต่อมาภายในห้องเก็บภาพวงจรปิดของโรงแรม ที่จอภาพ 3-4 จอ กำลังแสดงภาพบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมวันก่อน
เจ้าหน้าที่ถามตะวันฉาย “คุณพอจะจำได้ไหมครับว่าคุณเข้ามาที่โรงแรมเวลาประมาณกี่โมง”
ตะวันฉายคิดๆ
“น่าจะเป็นช่วงประมาณสองทุ่มครับ”
เจ้าหน้าที่เปลี่ยนภาพที่จอไปยังเวลาประมาณสองทุ่มของวันดังกล่าว
ภีร์ภูมิกับบุษบันดูภาพอยากใจจดใจจ่อ อยากรู้ว่าเป็นใคร
ภาพที่จอแสดงเป็นภาพตอนที่พิมพิลาสกำลังเดินเข้ามาที่ล็อบบี้และนั่งรอที่โซฟา
ตะวันฉายจำได้ชี้ใหญ่ “นี่ไง ๆ ผู้หญิงคนนี้แหละ”
ภีร์ภูมิขยับเข้ามาดูใกล้ๆ แต่ยังดูไม่ออกว่าเธอคนนั้นเป็นใคร
ภาพในจอแสดงต่อไปเป็นตอนที่ตะวันฉายเดินเข้ามานั่งที่โซฟากับพิมพิลาส
“เห็นไม่ชัดเลย ขอดูอีกมุมได้ไหมครับ” ภีร์ภูมิบอก
เจ้าหน้าที่เปลี่ยนภาพเป็นอีกมุมหนึ่ง แต่เป็นภาพแสดงมุมด้านข้างของพิมพิลาส
บุษบันเพ่งมองดู
“ปิดหน้าปิดตาขนาดนั้น จะดูรู้ไหมว่าหน้าตาเป็นยังไง” บุษบันบอกกับเจ้าหน้าที่ “มีมุมที่ชัดกว่านี้ไหมคะ”
เจ้าหน้าที่เปลี่ยนมุมภาพไปอีกครั้ง
คราวนี้ภาพในใจค่อยๆ เปลี่ยนไปหลายๆ มุม และมาหยุดตรงด้านหน้าของพิมพิลาสที่กำลังจะถอดแว่นตาดำออก
ภีร์ภูมิกับบุษบันดูแล้วลุ้นระทึก ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ภาพในจอพิมพิลาสถอดแว่นตาดำออกแล้ว แต่โชคร้ายที่มุมนั้นมีศีรษะด้านหลังของตะวันฉายบังไว้
ตะวันฉายเซ็ง “โธ่เอ๊ย! เลยไม่รู้กันว่าเป็นใคร”
ภีร์ภูมินิ่งมองดูคนในภาพ บุษบันเห็นท่าทีภีร์ภูมิเลยนึกสงสัย
“มีอะไรเหรอคะคุณภูมิ”
ภีร์ภูมิยังจดสายตาจ้องมองดูภาพนั้นอยู่
“ผมรู้สึกคุ้นๆ กับผู้หญิงคนนี้มาก แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน”
ภีร์ภูมิมองภาพนิ่งๆ พยายามคิดอย่างหนัก

ในเวลาเดียวกันนั้น นิ่มออกมาจากห้องนอนพิมพิลาส ในมือถือถาดอาหารออกมาด้วย ป้าทิพย์เดินมาดู เห็นอาหารในถาดยังเหลืออยู่เหมือนเดิม จึงถาม
“ไม่ทานข้าวอีกแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
ป้าทิพย์บ่นอย่างเป็นห่วง “เดี๋ยวนี้เป็นอะไรข้าวปลาก็ไม่ยอมทาน”
นิ่มเดินออกไปแล้ว ป้าทิพย์ทำท่าอ่อนอกอ่อนใจ เป็นห่วงพิมพิลาส
ครู่ต่อมาป้าทิพย์จะเคาะประตูห้องพิมพิลาส แต่ได้ยินเสียงพิมพิลาสดังออกมาข้างนอก
“ฉันไม่ทำ! ฉันทำไม่ได้!”
ป้าทิพย์สงสัยว่าพิมพิลาสคุยอยู่กับใคร จึงเอาหูแนบประตูแอบฟังอย่างสนใจ

ส่วนภายในห้อง พิมพิลาสกำลังรู้สึกสับสน ว้าวุ่นหนัก

“ไม่มีใครทำอะไรฉันได้แล้ว ตรวนอยู่กับฉันแล้ว”
ระหว่างนั้นร่างของพิศปรากฏขึ้นที่กระจกในห้อง
“ถึงเอ็งจะมีตรวน แต่เอ็งก็อย่าคิดว่าเอ็งจะรอด ถึงยังไงมันก็ต้องหาทางฆ่าเอ็งจนได้”
พิมพิลาสระแวง เปิดกล่องตรวนทองคำที่วางอยู่ข้างๆ ดูเพื่อความแน่ใจ
“เห็นไหม ตรวนอยู่กับฉัน ฉันจะเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้ เท่านี้ฉันก็ไม่ตายแล้ว” พิมพิลาสว่า
พิศปรากฏตัวขึ้นอีกมุมหนึ่งของห้อง พูดจาข่มขู่
“ยังไงเอ็งไม่มีทางรอด! เอ็งต้องตาย”
พิมพิลาสกลัว เริ่มน้ำตาคลอๆ
“ไม่จริง! เขาจะมาฆ่าฉันทำไม”
พิศตะเบ็งเสียงใส่ “ก็เอ็งเคยฆ่ามันไงล่ะ ชาติที่แล้วเอ็งทำมันไว้ ชาตินี้มันจะมาเอาคืน”
พิมพิลาสร้องไห้สะอึกสะอื้น
พิศพูดต่อ “มีทางเดียวที่เอ็งจะรอด เอ็งต้องฆ่ามันก่อน”
“ไม่! ฉันทำไม่ได้! ฉันฆ่าใครไม่ได้” พิมพิลาสยืนกราน
“งั้นเอ็งก็รอความตายได้เลย ตายอยากคนแพ้ ตายอย่างไม่มีใครเหลียวแล ตายอย่างทุกข์ทรมาน” พิศพูดในอาการเหยียดหยาม เย้ยหยัน
พิมพิลาสตื่นตระหนก รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกปองร้าย
“ฉันไม่ทำ ฉันฆ่าคนไม่ได้! ฉันทำไม่ได้”
พิมพิลาสหวาดระแวง สับสน มองไปรอบตัวๆ เดินไปรอบๆ ห้อง แล้วเห็นปืนวางอยู่บนโต๊ะ
เสียงพิศสั่ง “หยิบมันขึ้นมาสิ”
พิมพิลาสมือสั่นๆ ค่อยๆ หยิบปืนขึ้นมา
“ฉันต้องทำจริงๆ เหรอ”
พิมพิลาสมองปืนในมือ
พิศบอกต่อ “เอ็งทำได้! เอ็งเคยชนะมาแล้ว และครั้งนี้เอ็งก็ต้องเป็นผู้ชนะ”
ท่าทีพิมพิลาสดูกล้าๆ กลัวๆ น้ำตาคลอมองปืนในมือเขม็ง
จังหวะนั้นเสียงประตูเปิดเข้ามาดังขึ้น พิมพิลาสหันไปมองเห็นว่าป้าทิพย์กำลังจะเข้ามา

พิมพิลาสวางปืนลงรีบวิ่งไปห้ามป้าทิพย์
กลายเป็นว่า ป้าทิพย์กับพิมพิลาสยื้อยุดประตูกัน โดยป้าทิพย์จะเปิดเข้ามา แต่พิมพิลาสจะปิดไม่ให้เข้า

ป้าทิพย์ตะโกนเข้ามา “หนูพิม! เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ให้ป้าเข้าไปดูหน่อย”
พิมพิลาสไม่ยอมปล่อยมือจากประตู
“พิมไม่เป็นอะไรค่ะป้า”
“แต่ป้าได้ยินเสียงหนูพูดกับใคร ให้ป้าเข้าไปเถอะ”
ป้าทิพย์ตัดสินใจผลักประตูอย่างแรง จนพิมพิลาสสู้แรงไม่ไหว ปล่อยประตูให้เปิดออก

ป้าทิพย์เดินเข้ามาในห้อง มองไปรอบๆ ห้อง แต่ไม่เห็นใคร แน่ใจว่าตัวเองหูไม่ฝาด
“หนูพิมพูดอยู่กับใคร”
ป้าทิพย์สอดส่ายสายตาไปรอบๆ เห็นปืนวางอยู่ ก็ตกใจ
“ปืน! นั่นปืนอะไร ปืนของใคร”
หญิงชราจะเข้าไปดูปืนใกล้ๆ แต่พิมพิลาสวิ่งมาหยิบ และเก็บใส่ลิ้นชักได้ก่อน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะป้า”
ป้าทิพย์ ไม่วางใจ “แล้วหนูพิมไปเอาปืนมาจากไหน เอามาไว้ทำไมมันอันตราย”
“พิมเอาไว้ป้องกันตัวน่ะค่ะ”
“ใครจะทำอะไรหนูพิม บอกป้ามาซิ”
พิมพิลาสเงียบไม่ตอบ แต่สายตามองไปเห็นกล่องตรวนทองคำวางอยู่แต่ยังไม่ได้ปิด
พิมพิลาสรีบวิ่งไปที่กล่องตรวนทองคำ และปิดทันที
“นั่นกล่องอะไรน่ะหนูพิม”
ป้าทิพย์มองที่กล่องตรวนทองคำ
พิมพิลาสเอากล่องตรวนทองคำไปเก็บไว้ในตู้เซฟ และหมุดรหัสปิดตู้เซฟ ในขณะที่ป้าทิพย์มองไม่คลาดสายตา
“หนูพิมมีอะไรก็บอกป้าได้นะ”
พิมพิลาสรวบรวมสติของตัวเอง
“ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ”
ป้าทิพย์ไม่วางใจ “แต่ป้าเห็นปืน แล้วก็ยังจะกล่องอะไรนั่นอีก”
พิมพิลาสยืนกราน และตัดบท “ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ป้าออกไปเถอะ”
ป้าทิพย์อิดออด “แล้ว”
พิมพิลาสเสียงแข็ง “ออกไปค่ะ!”
ป้าทิพย์มองหน้าหลานสาว พิมพิลาสสีหน้านิ่ง ป้าทิพย์เดินออกจากห้องไป)
พิมพิลาสเดินไปปิดประตู และล็อคห้อง

ป้าทิพย์ออกมาหน้าห้อง ยืนคิดสงสัยอยู่
“กล่องอะไร? แล้วหนูพิมมีปืนได้ยังไง”
ป้าทิพย์คิดไม่ตก

ตกกลางคืนบุษบันนอนอยู่บนเตียงในห้องนอน เหมือนฝันร้ายท่าทีกระสับกระส่าย
ภาพฝันของบุษบัน เห็นตอนที่บัวกับฉัตรถูกจองจำด้วยตรวนและมีใครคนหหนึ่งจับสองคนถ่วงน้ำ ทั้งคู่ดิ้นทุรนทุราย แต่ตรวนก็ไม่หลุดจากข้อมือ แถมมีเลือดไหลออกมาจนน้ำเป็นสีแดงฉาน
บัวมองผ่านแผ่นน้ำขึ้นไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็คือพิศแต่เป็นภาพใบหน้าอันเลือนลางไม่ชัด ยืนอยู่มองลงมาใต้น้ำ

บุษบันสะดุ้งตื่นจากความฝัน ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยเหงื่อ หายใจเหนื่อยหอบท่าทีตื่นตระหนก
“ผู้หญิงคนนั้น! ใครกัน”

บุษบันมาหาภีร์ภูมิที่บ้านแต่เช้า เล่าความฝันให้ฟังจนจบ
ภีร์ภูมิปลอบคนรัก “มันเป็นแค่ความฝันน่ะคุณบุษ”
“ฉันว่าความฝันมันต้องเกี่ยวข้องกับคนที่ฆ่าเราแน่ๆ” บุษบันมั่นใจ
“คุณคิดมากไปหรือเปล่า ผมว่าคุณอยากรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าเราเลยเก็บเอาไปฝันมากกว่า”
“แต่ครั้งนี้ฉันเห็นผู้หญิงอีกคน ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนฆ่าเรา”
ภีร์ภูมิเริ่มสนใจมากขึ้น
“ผู้หญิงที่ไหน”

อ่านละคร บ่วงวันวาร ตอนที่ 12/2 วันที่ 27 ม.ค. 56

ละคร บ่วงวันวาร บทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บ่วงวันวาร กำกับการแสดง : จาริวัฒน์ อุปการไชยพัฒน์
บ่วงวันวาร แนวละคร : ดราม่า
บ่วงวันวาร ผลิต : บ.เอ็กแซ็กท์ - บ. ซีเนริโอ
บ่วงวันวารอำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร และ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
บ่วงวันวารออกอากาศ : พุธ - พฤหัส เวลา 20.15 - 21.45 น. (เพิ่มเวลาออกอากาศ เป็น 90 นาที)
ติดตามชม ละครเรื่อง บ่วงวันวารได้ทาง ททบ.5 เริ่มออกอากาศวันแรกเดือนมกราคม 2556
ที่มา manager